การดื่มน้ำผักและน้ำผลไม้เป็นเรื่องที่ดีค่ะเพราะส่วนผสมเหล่านี้ดีต่อสุขภาพร่างกาย ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าน้ำผักและน้ำผลไม้มีวิตามินมากมายเหมาะกับคนที่ขาดวิตามินและต้องการเพิ่มวิตามินให้กับร่างกายค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบดื่มน้ำผลไม้มาก ๆ โดยน้ำผลไม้ที่ดื่มบ่อยที่สุดเลยคือน้ำเสาวรส น้ำส้มและน้ำทับทิมเพราะเป็นผลไม้ที่ผู้เขียนชอบค่ะ แต่นอกจากน้ำผลไม้และน้ำผักตามฤดูกาลแล้ว “น้ำว่านหางจระเข้” เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองค่ะเพราะมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย

ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าว่านหางจระเข้เป็นพืชชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ แต่นอกจากประโยชน์ในเรื่องเครื่องสำอางแล้วว่านหางจระเข้ก็ยังสามารถทานได้ด้วยและเป็นเครื่องดื่มที่กำลังมาแรงเลยค่ะ หากใครที่อยากลองดื่มน้ำว่านหางจระเข้ต้องห้ามพลาดเลยค่ะเพราะในบทความนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำน้ำว่านหางจระเข้กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันได้เลย
น้ำว่านหางจระเข้คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ? (1-4)
น้ำว่านหางจระเข้เป็นเครื่องดื่มที่มีจำหน่ายทั่วโลกค่ะ โดยปกติจะขายในขวดพลาสติกหรือขวดแก้ว น้ำว่านหางจระเข้อาจอยู่ในรูปแบบของน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์หรืออาจจะเป็นน้ำว่านหางจระเข้ผสมที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ น้ำตาลหรือสารให้ความหวาน แน่นอนว่าในการเลือกดื่มสามารถเลือกได้ตามความชอบเลยค่ะแต่ในท้องตลาดนิยมขายน้ำว่านหางจระเข้ผสมมากกว่าเพราะดื่มได้ง่ายกว่าค่ะ

หลายคนคงรู้ดีว่าว่านหางจระเข้ถูกนำมาใช้เป็นยาทางเลือกมาตั้งแต่สมัยโบราณ ภายในว่านหางจระเข้จะมีเจลซึ่งตัวเจลเนี่ยแหละค่ะที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและตัวเจลที่ได้ออกจากว่านหางจระเข้ก็เป็นส่วนผสมที่นำมาทำเป็นน้ำว่านหางจระเข้เหมือนกัน แน่นอนว่าเราสามารถทำน้ำว่านหางจระเข้ทานเองได้ค่ะแต่ต้องศึกษาพอสมควรเพราะยางจากว่านหางจระเข้มีอันตรายหากไม่กำจัดให้หมดจะส่งผลเสียได้ หากอยากดื่มน้ำว่านหางจระเข้จริง ๆ แนะนำให้ซื้อดีกว่าเพราะถึงอย่างไรน้ำว่านหางจระเข้ที่วางขายก็มีใบรับรองมาแล้วว่าปลอดภัยต่อสุขภาพ
ในเรื่องของประโยชน์ว่านหางจระเข้จะมีน้ำประมาณ 98.5% แต่นอกจากน้ำแล้วยังมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอีกมากมายด้วยแม้ว่าปริมาณของสารแต่ละชนิดจะมีปริมาณน้อยมาก แต่เมื่อนำมารวมกันก็ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม แร่ธาตุและวิตามินบางชนิดที่มีอยู่ในว่านหางจระเข้มีดังนี้
- แร่ธาตุ : โพแทสเซียม, เหล็ก, แคลเซียม, แมกนีเซียม, โซเดียม, แมงกานีส, ฟอสฟอรัส, ทองแดง, สังกะสี, โมลิบดีนัม, โครเมียม, โคบอลต์, คลอรีน, ไอโอดีน, ซัลเฟอร์ ฯลฯ
- วิตามิน : วิตามินเอ, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12,วิตามินซี, วิตามินอี ฯลฯ
โดยสารอาหารเหล่านั้นก็เป็นสารอาหารที่ดีต่อร่างกายทั้งนั้นเลยค่ะ ผู้เขียนมองว่าการดื่มว่านหางจระเข้เป็นทางเลือกที่ดีแทนน้ำผลไม้ทั่วไป เนื่องจากว่านหางจระเข้มีความหวานอยู่ในตัวอยู่แล้วและมีวุ้นด้วยสามารถเคี้ยวไปพร้อม ๆ กับการดื่มได้เลย
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำว่านหางจระเข้
1. เลือกระหว่างน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์หรือน้ำว่านหางจระเข้ผสม
|
|
ในตลาดปัจจุบันมีเครื่องดื่มว่านหางจระเข้อยู่ 2 ประเภท ได้แก่ น้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์และน้ำว่านหางจระเข้ผสม ในการเลือกซื้อให้เลือกประเภทใดประเภทหนึ่งที่เหมาะกับความต้องการของตัวเองค่ะ ปกติแล้วน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์จะเป็นน้ำว่านหางจระเข้ที่ผลิตจากว่านหางจระเข้แบบ 100% หลายคนชอบน้ำว่านหางจระเข้ประเภทนี้เพราะรสชาติสดชื่นได้ประโยชน์ของว่านหางจระเข้แบบเต็ม ๆ คำ
ส่วนน้ำว่านหางจระเข้ผสมเป็นน้ำว่านหางจระเข้ที่มีส่วนผสมอื่นนอกเหนือจากว่านหางจระเข้ โดยอาจจะผสมกับรังนกหรือน้ำผลไม้อื่น ๆ เช่น น้ำสับปะรด, มะพร้าว, องุ่น, มะม่วง, น้ำใบเตย ฯลฯ ก็ได้ ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มรสชาติของน้ำว่านหางจระเข้และทำให้ดื่มได้ง่ายมากขึ้นด้วย
2. ตรวจสอบส่วนผสมของน้ำว่านหางจระเข้
จำไว้นะคะว่าเมื่อซื้อน้ำว่านหางจระเข้แล้วต้องตรวจสอบส่วนผสมข้างในด้วย สารสกัดจากว่านหางจระเข้มักจะมีรสขมค่ะ ดังนั้นผลิตภัณฑ์บางแบรนด์จึงเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานเข้าไปเพื่อให้ดื่มได้ง่ายขึ้น หากคุณกำลังควบคุมอาหารให้เลือกน้ำว่านหางจระเข้ที่มีน้ำตาลต่ำและมีแคลอรีต่ำค่ะ ขอบอกก่อนนะคะว่าเครื่องดื่มที่มีสารสังเคราะห์หลายชนิดไม่ดีต่อสุขภาพของคุณ ดังนั้นควรตรวจสอบส่วนผสมอย่างรอบคอบและเลือกเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะกับรสนิยมของตัวเองเสมอ
3. เลือกปริมาณเครื่องดื่มที่เหมาะสม
น้ำว่านหางจระเข้ทำมาจากพืชธรรมชาติ ดังนั้นหากคุณไม่ดื่มหมดหลังจากเปิดแล้วก็ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและดื่มให้หมดภายใน 3 วันแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความถี่ในการดื่มและจำนวนคนที่ดื่มในบ้านด้วยค่ะ นอกจากนี้เพื่อความสะดวกควรตรวจสอบด้วยว่าควรจะเลือกบรรจุภัณฑ์แบบไหนดี ปกติแล้วน้ำว่านหางจระเข้จะมีขายทั้งแบบกล่อง แบบขวดหรือกระป๋อง ตัวขวดและกล่องขนาด 1 – 1.5 ลิตรเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ในขณะที่น้ำว่านหางจระเข้แบบขวดหรือกระป๋องเล็กเหมาะสำหรับดื่มคนเดียวและเก็บในตู้เย็นได้อย่างสะดวก
น้ำว่านหางจระเข้ ยี่ห้อไหนอร่อย ?
- น้ำว่านหางจระเข้ผสมน้ำองุ่น รสชาติกลมกล่อมไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม: Tipco Aloe vera & Grape Juice น้ำว่านหางจระเข้
- น้ำว่านหางจระเข้ผสมน้ำผึ้งมะนาว ดื่มง่ายชุ่มคอ: DoiKham Aloe vera in Honey & Lime Drink น้ำว่านหางจระเข้
- น้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ออร์แกนิก 100% ดีต่อสุขภาพ: Khaokhoherbary Organic Aloe Vera Juice น้ำว่านหางจระเข้
- น้ำว่านหางจระเข้ผสมเนื้อว่าน ดื่มง่ายเคี้ยวหนึบ: Sappe Aloe Vera & Apple น้ำว่านหางจระเข้
- น้ำว่านหางจระเข้กระป๋อง รสชาติสดชื่น ดื่มได้ทุกวัน: Chabaa Aloe vera & Grape Juice น้ำว่านหางจระเข้
![]() Tipco Aloe vera & Grape Juice น้ำว่านหางจระเข้ | ![]() DoiKham Aloe vera in Honey & Lime Drink น้ำว่านหางจระเข้ | ![]() Khaokhoherbary Organic Aloe Vera Juice น้ำว่านหางจระเข้ | ![]() Sappe Aloe Vera & Apple น้ำว่านหางจระเข้ |
Tipco Aloe vera & Grape Juice น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 74 บาท*
เปิดตัวกันด้วย Tipco Aloe vera & Grape Juice เป็นน้ำว่านหางจระเข้สุดฮิตจากแบรนด์ทิปโก้ค่ะ น้ำว่านหางจระเข้ของทางแบรนด์เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างน้ำว่านหางจระเข้ธรรมชาติ 100% และน้ำองุ่น ทางแบรนด์เคลมมาว่าส่วนผสมทุกอย่างที่เพิ่มเข้ามาไม่ได้เติมสารกันบูด ไม่ใส่สีและแต่งรสชาติสังเคราะห์สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัยเลย นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเคลมมาเพิ่มอีกว่าในน้ำผลไม้มีวิตามินมากมาย เช่น วิตามิน C, A, B1 และ E
โดยวิตามินเหล่านี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในขณะที่แคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน น้ำผลไม้ของทางแบรนด์ไม่มีน้ำตาลนะคะดังนั้นความหวานที่มีอยู่จึงเป็นความหวานจากธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์ของน้ำว่านหางจระเข้เป็นแบบกล่อง การออกแบบเป็นกล่องกระดาษมีฝาเกลียวที่สะดวกช่วยรักษารสชาติของผลิตภัณฑ์หลังจากเปิดได้ดี
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 70% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำองุ่นขาว |
ปริมาณ | 1,000 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | กล่อง |
ปริมาณน้ำตาล | 95 กรัม/1,000 มล. |
DoiKham Aloe vera in Honey & Lime Drink น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 35 บาท*
DoiKham Aloe vera in Honey & Lime Drink เป็นน้ำว่านหางจระเข้ที่ขายดีมากเหมือนกันค่ะและเป็นน้ำว่านหางจระเข้แบบผสมเหมือนกับ Tipco Aloe vera & Grape Juice แต่ส่วนผสมนั้นมีความแตกต่างเพราะน้ำว่านหางจระเข้จากดอยคำได้ผสมกับน้ำผึ้ง ฟรุกโตสไซรัปและน้ำมะนาวทำให้รสชาติที่ได้มีความเปรี้ยวหวานลงตัวดื่มแล้วชุ่มคอ นอกจากจะมีน้ำว่านหางจระเข้แล้วข้างในก็ยังมีเนื้อว่านหางจระเข้ด้วย
ในการดื่มน้ำว่านหางจระเข้แนะนำให้แช่เย็นก่อนเพื่อให้ได้รสชาติที่สดชื่นและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่แช่เย็นก็สามารถดื่มได้เหมือนกันแล้วค่ะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย ใครที่ต้องการดื่มน้ำว่านหางจระเข้ที่ดื่มได้ง่าย ให้ความสดชื่นและมอบความชุ่มคอไปพร้อม ๆ กันแนะนำเลยค่ะ รับรองว่าดื่มแล้วจะไม่ผิดหวังกับรสชาติแน่นอน แต่ปริมาณน้ำตาลค่อนข้างเยอะนะคะห้ามดื่มบ่อยเกินไปนะคะ
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 15% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำผึ้ง ฟรุกโตสไซรัปและน้ำมะนาว |
ปริมาณ | 250 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | 31 กรัม/250 มล. |
Chabaa Aloe vera & Grape Juice น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 328 บาท*
Chabaa Aloe vera & Grape Juice เป็นน้ำว่านหางจระเข้ผสมน้ำองุ่นเหมือนกับ Tipco Aloe vera & Grape Juice ค่ะแต่เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้จะน้อยกว่าค่ะ ผู้เขียนค่อนข้างชอบแพ็กเกจนะคะเพราะเป็นแบบกระป๋องเมื่อนำไปแช่เย็นแล้วจะทำความเย็นได้เร็วมากเลยทีเดียว ทางแบรนด์เคลมมาว่าน้ำว่านหางจระเข้ของเขาผสมเนื้อว่านหางจระเข้เข้ามาด้วย ทำให้เมื่อเราดื่มแล้วสามารถเคี้ยวเนื้อว่านหางจระเข้ลงไปได้
น้ำว่านหางจระเข้หนึ่งกระป๋องแคลอรีไม่ได้สูงมากนะคะแต่น้ำตาลอยู่ที่ 21% ถือว่าค่อนข้างเยอะเลยแต่ดื่มวันละกระป๋องได้ไม่เป็นไรค่ะ รสชาติของน้ำว่านหางจระเข้ค่อนข้างอร่อยเลยค่ะ ปกติแล้วหากน้ำว่านหางจระเข้ได้ผสมกับน้ำองุ่นจะอร่อยอยู่แล้ว เมื่อต้องการดื่มอย่าลืมแช่เย็นนะคะเพราะจะช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดีเลย
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 22% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำองุ่นขาว |
ปริมาณ | 230 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | กระป๋อง |
ปริมาณน้ำตาล | 21 กรัม/230 มล. |
Khaokhoherbary Organic Aloe Vera Juice น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 130 บาท*
แนะนำน้ำว่านหางจระเข้ผสมกันไปเยอะแล้วทั้ง Chabaa Aloe vera & Grape Juice และ Tipco Aloe vera & Grape Juice ตอนนี้ก็ถึงคิว Khaokhoherbary Organic Aloe Vera Juice กันบ้าง ขอบอกเลยว่าน้ำว่านหางจระเข้จากทางแบรนด์เป็นน้ำว่านหางจระเข้ออร์แกนิกที่เราอยากแนะนำเลยค่ะ เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าน้ำว่านหางจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากว่านหางจระเข้ออร์แกนิก 100% ที่ผ่านการปลูกและคัดสรรมาเป็นอย่างดี ในการผลิตน้ำว่านหางจระเข้จะถูกสกัดที่อุณหภูมิต่ำเพื่อให้แน่ใจว่าสารอาหารในว่านหางจระเข้ยังคงอยู่ครบถ้วน
จุดเด่นของน้ำว่านหางจระเข้คือไม่ได้เติมน้ำตาล เวลาดื่มจึงมีรสชาติธรรมชาติของว่านหางจระเข้ หลายคนอาจจะคิดว่าดื่มยากแต่บอกเลยว่าดื่มไม่ยากค่ะและดีต่อสุขภาพด้วย แพ็กเกจมาในรูปแบบขวด 180 มล. นะคะ ง่ายต่อการพกพา ก่อนทานอยากแนะนำให้แช่เย็นเพราะจะทำให้รสชาติเข้มข้นและอร่อยกว่าเดิม ใครที่อยากซื้อน้ำว่านหางจระเข้แบบเพียว ๆ 100% แนะนำเลยค่ะ
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 100% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 180 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | ไม่มีน้ำตาล |
Sappe Aloe Vera & Apple น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 20 บาท*
Sappe Aloe Vera & Apple เป็นน้ำว่านหางจระเข้ที่ทุกคนต้องคุ้นเคยอย่างแน่นอนเพราะทางแบรนด์เซปเป้เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่วางขายน้ำว่านหางจระเข้ในไทยแต่น้ำว่านหางจระเข้ของทางแบรนด์เป็นน้ำว่านหางจระเข้แบบผสมนะคะ โดยได้ผสมน้ำองุ่นขาว น้ำตาลและน้ำเชื่อมฟรุกโตสเข้าไปด้วย แต่จุดที่ทำให้น้ำว่านหางจระเข้จากเซปเป้แตกต่างจาก Chabaa Aloe vera & Grape Juice และน้ำว่านหางจระเข้ผสมแบรนด์อื่น ๆ เพราะถึงแม้ทางแบรนด์จะผสมน้ำองุ่นแต่ก็ไม่ได้กลิ่นองุ่นเพราะทางแบรนด์ได้เพิ่มกลิ่นของแอปเปิลเข้าไป
บอกเลยว่ากลิ่นแอปเปิลผสมกับความหอมหวานของน้ำว่านหางจระเข้ได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะ เหมาะสำหรับคนที่เบื่อน้ำว่านหางจระเข้แบบเดิม ๆ ภายในน้ำว่านหางจระเข้ก็มีเนื้อว่านหางจระเข้อยู่ด้วยสามารถดื่มและเคี้ยวไปพร้อม ๆ กันได้ ใครที่อยากซื้อน้ำว่านหางจระเข้ผสมกลิ่นแอปเปิลแนะนำเลยค่ะ
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 10% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำองุ่นขาว, น้ำตาล, น้ำเชื่อมฟรุกโตส, กลิ่นแอปเปิล ฯลฯ |
ปริมาณ | 365 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | 18 กรัม/365 มล. |
Zummer Aloe Vera Juice Honey & Lime น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 142 บาท*
Zummer Aloe Vera Juice Honey & Lime เป็นน้ำว่านหางจระเข้ผสมน้ำผึ้งมะนาวเหมือนกับ DoiKham Aloe vera in Honey & Lime Drink แต่เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ของซัมเมอร์จะมากกว่าค่ะโดยอยู่ที่ 20% ทางแบรนด์เคลมมาว่าน้ำว่านหางจระเข้ผ่านการคัดสรรว่านหางจระเข้มาเป็นอย่างดีทำให้รสชาติของน้ำว่านหางจระเข้ที่ได้มีความอร่อยและสามารถดื่มได้ง่าย ใครที่เพิ่งเริ่มดื่มน้ำว่านหางจระเข้ก็สามารถดื่มได้ง่ายนะคะไม่ขมไม่เปรี้ยวเพราะทางแบรนด์ได้เติมน้ำตาลเข้าไปด้วย
ปริมาณน้ำผึ้งและน้ำมะนาวที่เติมลงไปมีความสมดุลกับน้ำว่านหางจระเข้ค่ะ ดังนั้นเมื่อดื่มไปแล้วส่วนผสมอื่น ๆ จะไม่กลบกลิ่นและประโยชน์ของน้ำว่านหางจระเข้ ภายในขวดน้ำว่านหางจระเข้ก็ยังมีเนื้อว่านหางจระเข้ด้วย ผู้เขียนมองว่าน้ำว่านหางจระเข้เข้ากับเนื้อว่านหางจระเข้มากยิ่งได้ผสมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวยิ่งอร่อยค่ะ แต่อย่าลืมนะคะก่อนดื่มต้องแช่เย็นก่อนเพื่อความอร่อย
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 20% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำตาล น้ำผึ้งและน้ำมะนาว |
ปริมาณ | 350 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | 38 กรัม/350 มล. |
Veggie Kitchen Aloe Vera Drink น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 49 บาท*
Veggie Kitchen Aloe Vera Drink เป็นน้ำว่านหางจระเข้ที่เราต้องพรีออเดอร์ค่ะ เพราะว่าทางแบรนด์เขาคั้นสดนั่นเองค่ะ ดังนั้นรสชาติของน้ำว่านหางจระเข้ที่ได้มีความสด อร่อยและได้วิตามินแบบเต็ม ๆ แต่น้ำว่านหางจระเข้ของทางแบรนด์ไม่ได้เป็นน้ำว่านหางจระเข้ 100% เหมือนกับ Khaokhoherbary Organic Aloe Vera Juice นะคะเพราะทางแบรนด์ได้ผสมน้ำใบเตยเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มกลิ่นและความอร่อยค่ะ
ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเคยดื่มน้ำว่านหางจระเข้ผสมน้ำใบเตยมาแล้วค่ะและผู้เขียนก็คิดว่ารสชาติมันดีกว่าน้ำว่านหางจระเข้แบบเพียว ๆ เพราะมันจะมีกลิ่นหอมของใบเตยลดกลิ่นเขียว ๆ ของว่านหางจระเข้ได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องความปลอดภัย Veggie Kitchen Aloe Vera Drink ปลอดภัยมากค่ะเพราะไม่ได้เติมน้ำตาลเลย ใครที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักก็สามารถดื่มได้นะคะ
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | ไม่ระบุ |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำใบเตย |
ปริมาณ | 300 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | ไม่เติมน้ำตาล |
Forever Aloe Vera Gel น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 547 บาท*
Forever Aloe Vera Gel เป็นน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์เหมือนกับ Khaokhoherbary Organic Aloe Vera Juice แต่เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้จะอยู่ที่ 99.7% ค่ะ น้ำว่านหางจระเข้แบรนด์นี้เป็นแบรนด์จากมาเลเซียนะคะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าว่านหางจระเข้ที่เขาใช้ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เมื่อได้ว่านหางจระเข้จะนำมาผ่านกระบวนการธรรมชาติทำให้สารอาหารในว่านหางจระเข้ยังคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ หากถามว่าน้ำว่านหางจระเข้จากทางแบรนด์ตอบเลยว่าเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดื่มน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ไม่ผสม
น้ำว่านหางจระเข้ของทางแบรนด์ไม่ได้เติมน้ำตาลนะคะ ดังนั้นรสชาติที่ได้จะเป็นรสชาติของน้ำว่านหางจระเข้แบบจริง ๆ เลย ทางแบรนด์ได้เคลมมาเพิ่มว่าน้ำว่านหางจระเข้ของเขาไม่ได้เป็นเครื่องดื่มเย็นน่าดื่มเท่านั้นแต่ยังให้สารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุมากมายด้วย ในการดื่มสามารถดื่มก่อนอาหารได้แต่เมื่อเปิดขวดแล้วต้องเก็บไว้ในตู้เย็นเสมอนะคะ
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 99.7% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 1,000 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | ไม่มีน้ำตาล |
Vera Gold Aloe Vera น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 38 บาท*
Vera Gold Aloe Vera เป็นน้ำว่านหางจระเข้แบรนด์ไทยที่เราไม่อยากให้พลาดเลยค่ะเพราะขายดีมากและเป็นสินค้าโอทอปด้วย ใครที่อยากสนับสนุนสินค้าไทยก็ห้ามพลาดเลย น้ำว่านหางจระเข้ของทางแบรนด์เป็นน้ำว่านหางจระเข้ผสมนะคะ โดยจะมีส่วนผสมของน้ำว่านหางจระเข้และน้ำลิ้นจี่ทำให้รสชาติมีความหอม หวานและดื่มได้ง่าย ใครที่ไม่เคยดื่มน้ำว่านหางจระเข้มาก่อนก็สามารถดื่มได้สบาย ๆ เลยค่ะ
ผู้เขียนชอบการออกแบบขวดมากเลยเพราะมันดูใสดีสามารถมองเห็นเนื้อว่านหางจระเข้ด้านในได้แบบเต็ม ๆ เนื้อว่านหางจระเข้ชิ้นใหญ่มากนะคะ เนื้อหนึบ เคี้ยวหนับดื่มได้ไม่มีเบื่อเลย ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเคยดื่ม Vera Gold Aloe Vera มาก่อนค่ะรสชาติค่อนข้างดีเลย น้ำลิ้นจี่ที่เขาใช้ก็เป็นน้ำลิ้นจี่แท้รสชาติโดยรวมหวานน้อยดื่มแล้วไม่เลี่ยนแน่นอน
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | ไม่ระบุ |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำลิ้นจี่ |
ปริมาณ | 300 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | ไม่ระบุ |
Gaya Farm Aloe Vera Drink น้ำว่านหางจระเข้

ราคา 129 บาท*
Gaya Farm Aloe Vera Drink เป็นแบรนด์น้ำว่านหางจระเข้0kdของเกาหลีที่มีความพิเศษเพราะได้ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและใช้ต้นว่านหางจระเข้ที่ปลูกมาอย่างดี หากใครที่ได้ติดตามวิดีโอการปลูกว่านหางจระเข้ของเกาหลีจะรู้เลยว่าเขาพิถีพิถันในการปลูกมาก ๆ และว่านหางจระเข้ก็มีเนื้อเยอะด้วย ภายในน้ำว่านหางจระเข้ประกอบด้วยว่านหางจระเข้มากถึง 50% โดยจะมีน้ำว่านหางจระเข้และเนื้อว่านหางจระเข้อยู่ด้วย เมื่อซื้อมาแล้วเราสามารถดื่มและเคี้ยวว่านหางจระเข้ไปพร้อม ๆ กันได้
บรรจุภัณฑ์ของน้ำว่านหางจระเข้เป็นขวดพลาสติก PET ที่มีความจุ 1.5 ลิตรนะคะสามารถดื่มได้หลายวันเลย แต่น่าเสียดายที่น้ำว่านหางจระเข้ของเขาไม่ได้เป็นน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์เพราะยังคงผสมน้ำตาลอยู่ทำให้ดื่มได้ง่ายกว่าเดิม แต่รับรองเลยว่าความหวานที่ออกมาไม่ได้หวานมากสามารถดื่มได้ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ แต่หากใครไม่ชอบน้ำตาลแนะนำให้เลือก Khaokhoherbary Organic Aloe Vera Juice แทนเพราะเป็นน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ไม่ผสมน้ำตาลค่ะ
ประเภทของน้ำว่านหางจระเข้ | น้ำว่านหางจระเข้ผสม |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ของว่านหางจระเข้ | 50% |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | น้ำตาลทราย |
ปริมาณ | 1,500 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณน้ำตาล | ไม่ระบุ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ระวังอย่าดื่มน้ำว่านหางจระเข้มากเกินไป !!!
ถึงแม้น้ำว่านหางจระเข้จะเป็นอาหารที่มีผลดีต่อสุขภาพแต่หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ค่ะ ปกติแล้วว่านหางจระเข้มีสารอะโลอินอยู่แม้ว่าว่านหางจระเข้จะผ่านกรรมวิธีมาแล้ว แต่บางครั้งสารอะโลอินก็ยังคงอยู่แต่มีปริมาณน้อยซึ่งสารชนิดนี้ไม่ดีต่อมดลูกและไม่เหมาะสำหรับคนที่ประจำเดือน เพราะอาจจะทำให้ประจำเดือนมามากและอาจทำให้สตรีมีครรภ์แท้งได้ ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนโดยเฉพาะหากคุณกำลังตั้งครรภ์ค่ะ (ในกรณีนี้มักจะเกิดจากการดื่มน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์)
นอกจากนี้น้ำว่านหางจระเข้ก็ไม่เหมาะกับคนที่ระบบทางเดินอาหารอ่อนแอ เพราะสารอะโลอินอาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ ดังนั้นควรดื่มในปริมาณเล็กน้อยก่อนและติดตามสภาพร่างกายของตัวเองเสมอ หากคิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะดื่มน้ำว่านหางจระเข้จริง ๆ ก็ไม่ควรดื่มค่ะ ผู้เขียนมองว่าหากอยากดื่มน้ำว่านหางจระเข้ให้ดื่มสัปดาห์ละ 1 ครั้งสักแก้วหรือสักขวดพอก็พอค่ะเพราะเป็นปริมาณที่พอเหมาะและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่หากใครที่มีปัญหาสุขภาพผู้เขียนอยากแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาทีหลังค่ะ
References :