“รถหัดเดิน” เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับเด็กๆ เพราะจะช่วยเสริมพัฒนาการให้กับเด็ก โดยเฉพาะทักษะการเคลื่อนไหวรถหัดเดินจะเหมาะกับเด็กที่มีอายุ 6 เดือนเป็นต้นไป เพราะวัยนี้เป็นวัยที่เด็กๆเริ่มจะทรงตัวและนั่งได้ด้วยตัวเอง รถหัดเดินจึงเป็นสิ่งช่วยทุนแรงคุณพ่อคุณแม่ และทำให้เด็กๆ เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อขาทำให้เคลื่อนตัวไปข้างหน้า หรือข้างหลังได้ วันนี้เราก็มีคำแนะนำดี ๆ สำหรับการเลือกรถหัดเดินมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ ไปดูกันเลย

รถหัดเดินปลอดภัยไหม ?
หลายคนอาจจะลังเลในการซื้อรถหัดเดิน เพราะไม่แน่ใจว่ามันปลอดภัยหรือไม่ หรืออาจจะทำให้ลูก ๆ ได้รับอาการบาดเจ็บระหว่างใช้งานหรือเปล่า อันที่จริงแล้วรถหัดเดินนี้หากใช้อย่างถูกต้องถูกวิธีก็จะสามารถเพิ่มพัฒนาการให้เด็กได้ แต่หากใช้ผิดก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน อย่างนักกายภาพบำบัดหลายคนได้เตือนว่าการใช้รถหัดเดินที่ผิดวิธีอาจจะขัดขวางความสามารถของเด็กในการหัดเดินได้
แม้ว่ารถหัดเดินจะมีขายอยู่เกลื่อนในร้านขายของสำหรับเด็ก ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เกือบทุกแห่งในประเทศ แต่คุณควรจะเลือกสินค้าที่ได้ผ่านการรับรองความปลอดภัย เพราะมาตรฐานนี้ได้รับการปรับปรุงปล้วและได้เพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องเด็กทารกจากการเดินด้วยรถหัดเดิน แต่กระนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องตรวจสอบความปลอดภัยทุกครั้งก่อนใช้งานรถหัดเดินและไม่ควรปล่อยลูกให้อยู่ลำพังโดยเด็ดขาด
1. อย่าปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว
เด็กทารกสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหนึ่งเมตรต่อวินาทีได้โดยใช้เครื่องหัดเดิน ดังนั้นคุณควรจะดูแลเรื่องความปลอดภัยอยู่ทุกเวลาห้ามละสายตาเป็นอันขาด
2. สร้างห้อง หรือพื้นที่ ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
คุณอาจจะสร้างห้องสำหรับการหัดเดินของลูกน้อย แล้วหยิบวัตถุอันตรายทั้งหมดบนพื้นและสถานที่ต่าง ๆ เมื่อทารกเริ่มเดิน อีกทั้งยังควรทำความสะอาดพื้นห้องให้สะอาด และจำไว้ว่าหากลูกน้อยของคุณอยู่ในรถหัดเดินเขาจะมีอิสระในการจับสิ่งของ เช่น จับสายเคเบิลทีวีด้วยมือทั้งสองข้าง เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังให้มาก ๆ
3. อย่าปล่อยพวกเขาไว้ในรถหัดเดินนานเกินไป
การปล่อยเด็ก ๆ ไว้ในรถหัดเดินมากเกินไปอาจจะเป็นวิธีที่ทำให้เด็กสนุกแต่มันจะไม่ช่วยในกระบวนการ หัดเดิน โดยเด็กจะต้องหัดเดินด้วยตัวเองบ้าง อาจจะเดินโดยการจับผนังและไต่ไปเรื่อย ๆ และให้เด็กใช้เวลาในรถหัดเดินเป็นเวลา 20 นาทีต่อครั้ง
วิธีเลือกรถหัดเดินสำหรับเด็ก
1. วัสดุ
วัสดุของรถผลักเดินนั้นหลัก ๆ ก็จะเป็น โครงสร้างของตัวรถหัดเดิน ตัวเบาะนั่งที่ผลิตจากผ้า และพลาสติกที่เป็นตัวรถ ควรเลือกโครงสร้างของตัวรถหัดเดินมีความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี ตัวเบาะนั่ง ควรเป็นผ้าที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก ระบายอากาศได้ดี ตัวพลาสติกต้องเป็นพลาสติกที่มีคุณภาพดี วัสดุปลอดสารพิษ ไม่มีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดอันตรายกับเด็ก
2. ความปลอดภัย
เรื่องความปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเด็กในวัยเริ่มหัดเดิน ดังนั้นควรเลือกรถผลักเดินที่มีระบุมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) โดยจะมีตราสัญลักษณ์อยู่ที่ตัวสินค้าที่ได้รับการรับรองเพื่อแสดงถึงความปลอดภัยในการใช้งานสินค้านั้นว่ามีความปลอดภัยสูง
3. ชุดของเล่น
ชุดของเล่นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจะต้องมีชุดของเล่นในรถหัดเดิน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ การสัมผัส และการได้ยินสร้างความเพลิดเพลินของเด็ก ๆ ได้ดีทีเดียว

4. ที่บังแดด
ที่บังแดดเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ในการซื้อรถหัดเดิน เพราะหากเราพาลูกออกไปที่สวนสาธารณะแล้วอากาศร้อน อาจจะทำให้ลูกของเราร้อนได้นั่นเองค่ะ ที่สำคัญที่สุด ห้ามปล่อยลูกของคุณไว้คนเดียวโดยเด็ดขาด

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับคำแนะนำในการซื้อรถหัดเดินที่เราได้แนะนำให้ไป เราหวังว่าคุณจะนำคำแนะนำที่เรามอบให้ไปเลือกซื้อรถเข็นสำหรับลูกน้อยได้อย่างถูกใจและถูกต้องนะคะ และอย่าลืมเลือกสินค้าที่มีการรับประกันสินค้านะคะ เพราะหากเกิดการเสียหายระหว่างการขนส่งจะได้ส่งเคลมได้นั่นเองค่ะ ไปกันค่ะทุกคน ไปเลือกรถเข็นกันค่ะ
Fin Babiesplus รถหัดเดินเด็ก รุ่น CAR-514

ราคา 924 บาท*
จุดเด่น
- ปรับระดับได้และพับเก็บได้ง่ายที่รองนั่งถอดซักได้
- มีเสาของเล่น และถาดวางของเล่น
- มีตัว stopper ล็อคล้อเพื่อไม่ให้เคลื่อนไหว
จุดที่ควรพิจารณา
- ไม่มีที่บังแดด
ขนาด | 68 x 68 x 55 เซนติเมตร |
---|---|
สี | มีให้เลือก 2 สี คือ สีแดงและสีน้ำเงิน |
ช่วงอายุที่แนะนำ | 6 เดือน - 1 ขวบ |
การรับประกันสินค้า | ไม่มีการรับประกัน |
รถหัดเดิน GLOWY รุ่น Racing

ราคา 1,250 บาท*
จุดเด่น
- มีผ้ารองเท้า ช่วยรองรับเท้าน้องหากยังไม่ถึงพื้น สามารถถอดออกได้
- ปรับระดับความสูง - ต่ำ ได้ 3 ระดับ เพื่อให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกน้อย
- ที่นั่งปรับขยายได้ ปรับเป็นเก้าอี้โยกได้
- ในถาดของเล่นมีเสียงเพลงและแสงไฟสามารถถอดออกได้
- สามารถพับเก็บได้เพื่อการจัดเก็บหรือการเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก
ขนาด | 73 x 73 x 90 เซนติเมตร |
---|---|
สี | มีให้เลือก 2 สี คือ สีแดงและสีเขียว |
ช่วงอายุที่แนะนำ | 6 เดือน - 1 ขวบ |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
Fin Babiesplus รถหัดเดินหน้าแมว มีเสียงดนตรีและหลังคาบังแดด รุ่น CAR-3480

ราคา 1,550 บาท*
จุดเด่น
- ประกอบง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก
- ออกแบบให้มีฐานกว้าง เพื่อการพลิกคว่ำเมื่อเจอพื้นต่างระดับ
- ปรับความสูงของรถได้ถึง 3 ระดับ
- เบาะรองนุ่ม และสามารถถอดออกไปซักได้
- สามารถถอดถาดของเล่นหน้ารถเพื่อเป็นถาดทานข้าวได้
ขนาด | 62 x 70 x 55 เซนติเมตร |
---|---|
สี | มีให้เลือก 3 สี คือ สีชมพู สีฟ้าและสีเขียว |
ช่วงอายุที่แนะนำ | 6 เดือน - 1 ขวบ |
การรับประกันสินค้า | ไม่มีการรับประกัน |
FIN รถหัดเดินหน้าผึ้ง รุ่น CAR-628-9BP

ราคา 1,590 บาท*
จุดเด่น
- วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรงทนทาน ดีไซน์สวยหรู
- สามารถปรับความสูงได้ 2 ระดับ สามารถพับลงเก็บได้
- มีเบาะนั่งโปร่งเบาระบายอากาศได้ดี
- มีที่เข็นและร่มกันแดด สามารถถอดออกหรือพับเก็บได้
ขนาด | 66 x 70 x 90 เซนติเมตร |
---|---|
สี | มีให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้าและสีชมพู |
ช่วงอายุที่แนะนำ | 4 เดือนขึ้นไป |
การรับประกันสินค้า | ไม่มีการรับประกัน |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รถหัดเดิน ยี่ห้อไหนเหมาะกับเด็กเล็ก ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
Fin Babiesplus รถหัดเดินหน้าแมว มีเสียงดนตรีและหลังคาบังแดด รุ่น CAR-3480 |
| |||
|
มาตรฐานของรถหักเดินมีอะไรบ้าง ?
มาตรฐานของรถผลักเดินเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ที่ช่วยพยุงหรือรถผลักเดินสำหรับทารกให้น้อยที่สุด รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการตกบันได การตกระหว่างพื้นต่างระดับ หรือการพลิกคว่ำ เป็นต้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปอ่านกันเลยค่ะ
1. การป้องกันการตกบันได
รถผลักเดินควรผลิตมาตามข้อกำหนดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยเดินด้วยเครื่องหัดเดินแล้วจะไม่ล้มลงบันไดเมื่อหันหน้าไปข้างหน้า ถอยหลัง หรือด้านข้าง
2. การต้านทานการพลิกคว่ำ
รถผลักเดินจะต้องออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยที่กำลังใช้รถผลักเดินในการเดิน จะมีความมั่นคงและไม่พลิกคว่ำเมื่ออยู่บนพื้นราบ รวมถึงการทดสอบความต้านทานของปลายด้านหน้าและด้านหลังที่ต้องสมดุลกัน ถึงแม้ว่าลูกน้อยจะเอนไปด้านข้างก็ตาม
3. การรับน้ำหนัก
รถผลักเดินควรมีการทดสอบน้ำหนักแบบไดนามิกและแบบสถิต บนบริเวณที่นั่ง เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ขณะที่พวกเขาอยู่กับที่ หรือกระโดด
4. การรักษาลูกน้อยเมื่ออยู่ในรถผลักเดิน
ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยถูกติดอยู่ข้างในอย่างไม่ปลอดภัย ต้องให้แน่ใจว่าส่วนประกอบต่าง ๆ นั้น ไม่สามารถถอดออกได้ ช่องเปิดขาที่จะใส่ขาของลูกน้อยลงไปนั้น ต้องคงทนและยึดติดอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันการหลุดหรือหล่นลงของทารก อีกทั้งยังมีกลไกการล็อคเพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยจะไม่ล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่ใช้งานอยู่
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับรถหัดเดินที่เราได้แนะนำไปในวันนี้ เราหวังว่าคุณจะสามารถเลือกรถหัดเดินที่ถูกใจคุณได้ค่ะ และสิ่งที่ควรทำคือไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่เพียงลำพัง เพราะเมื่อใช้รถหัดเดิน เด็ก ๆ จะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 1 เมตรต่อวินาทีได้เลยค่ะ ดังนั้นเมื่อใช้รถหัดเดินคุณไม่ควรที่จะปล่อยปละละเลยลูกในขณะที่อยู่ในรถหัดเดิน เพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ และอย่าลืมเสริมสร้างพัฒนาการของลูกด้วยการเล่นกับลูกบ่อย ๆ นะคะ