ชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนก็เป็นคนชอบดื่มชาและชอบซื้อชามาทดลองดื่มไปเรื่อยค่ะเพราะรู้สึกว่าสนุกดี เมื่อก่อนผู้เขียนชอบดื่มชาเขียวและชาเอิร์ลเกรย์มากค่ะ แต่หลัง ๆ เลือกจะดื่มชาแบบไม่มีคาเฟอีนมากกว่าเพราะมองว่าชาแบบมีคาเฟอีนไม่เหมาะกับผู้เขียนเท่าไหร่ โดยชาที่ผู้เขียนชอบมากคือชาไหมข้าวโพด ชาสมุนไพรและชาดอกไม้ค่ะ ตอนนี้เทรนด์การดื่มชาไร้คาเฟอีนแทนน้ำเปล่ากำลังมาแรงค่ะ ผู้เขียนเลยถือโอกาสมาแนะนำ “ชาข้าวบาร์เลย์” ให้ทุกคนได้รู้จัก
ชาข้าวบาร์เลย์เป็นเครื่องดื่มที่อุดมด้วยแร่ธาตุ เหมาะมากสำหรับดื่มเพื่อความสดชื่นในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ปัจจุบันชาข้าวบาร์เลย์กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีนทำให้สามารถดื่มได้ง่ายแม้แต่เด็กก็สามารถดื่มได้ค่ะ หากวันนี้คุณกำลังหาซื้อชาข้าวบาร์เลย์อยู่ก็ห้ามพลาดเลยเพราะเราจะแนะนำชาข้าวบาร์เลย์กัน ถ้าพร้อมแล้ว
ชาข้าวบาร์เลย์จากแบรนด์ไหน รสชาติดีและเหมาะสำหรับคุณมากที่สุด ?
- ชาข้าวบาร์เลย์จากญี่ปุ่นรสชาติดี ราคาย่อมเยา: Itoen Barley Tea Mugicha ชาข้าวบาร์เลย์
- ชาข้าวบาร์เลย์แบบชงเย็น ดื่มได้ง่ายเหมาะสำหรับทั้งครอบครัว: Hakubaku Barley Mugicha Tea ชาข้าวบาร์เลย์
- ชาข้าวบาร์เลย์พร้อมดื่ม รสชาติสดชื่น ช่วยดับกระหาย: Woongjin Hanil Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์
- ชาข้าวบาร์เลย์จากเกาหลี กลิ่นหอม รสเข้มข้น ชงได้ทั้งร้อนและเย็น: Dongsuh Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์
- ชาข้าวบาร์เลย์แบบเมล็ด เข้มข้นถึงใจ: Hitachiya Roasted Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์
ชาข้าวบาร์เลย์เป็นชาแบบไหน ทำไมถึงได้รับความนิยม ? (1-4)
ชาข้าวบาร์เลย์ไม่ใช่ชาแท้เหมือนชาขาว ชาเขียวหรือชาดำค่ะ เพราะถึงแม้จะถูกเรียกว่าชาแต่ก็ “ไม่ได้มีส่วนผสมของใบชา” นอกจากนี้ยังไม่ใช่ชาสมุนไพร แต่เป็น “ชาที่ทำจากธัญพืชคั่ว” ชาข้าวบาร์เลย์เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดคั่วของต้นข้าวบาร์เลย์ หลายคนอาจจะรู้มาบ้างว่าข้าวบาร์เลย์เป็นธัญพืชโฮลเกรนหลักที่ใช้ในอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดรวมถึงเบียร์ด้วย ตามหลักโภชนาการแล้วข้าวบาร์เลย์มีปริมาณไฟเบอร์สูงและดื่มได้ง่าย จึงนิยมดื่มเป็นเครื่องดื่มเย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่น แต่ตัวชาก็สามารถชงแบบร้อนได้เหมือนกันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคนค่ะ

ชาข้าวบาร์เลย์มีการผลิตกันมากที่สุดในญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว ชาข้าวบาร์เลย์จะเก็บเกี่ยวในช่วงต้นฤดูร้อนและโดยทั่วไปในการผลิตชาจะใช้เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่คั่วแล้ว ชาข้าวบาร์เลย์ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นในช่วงต้นทศวรรษ 1980 และในปัจจุบันก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่ใช้ดื่มแทนน้ำเปล่า สำหรับเรื่องประโยชน์ชาข้าวบาร์เลย์เป็น ชาที่ไม่มีคาเฟอีนจึงสามารถดื่มก่อนเข้านอนได้และยังดีต่อสุขภาพด้วย ข้อดีคือชาข้าวบาร์เลย์ไม่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะสามารถใช้เป็นเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นในช่วงหน้าร้อนและหลังออกกำลังกายได้อย่างสบาย ๆ และยังเป็นเครื่องดื่มที่จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สามารถดื่มได้ตลอดทั้งปีด้วยค่ะ
คำเตือน : สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้/แพ้กลูเตนในธัญพืชควรใช้ความระมัดระวังเมื่อดื่มชาข้าวบาร์เลย์เนื่องจากมีโอกาสเกิดอาการแพ้ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องร่วงและผื่นคันได้
เคล็ดลับในการเลือกซื้อชาข้าวบาร์เลย์
1. ทำความรู้จักกับพันธุ์ข้าวบาร์เลย์ (1-4)
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วค่ะว่าส่วนผสมในชาข้าวบาร์เลย์คือข้าวบาร์เลย์เลย แต่ข้าวบาร์เลย์ไม่ได้มีสายพันธุ์เดียวซึ่งแน่นอนว่าสายพันธุ์ของข้าวบาร์เลย์ส่งผลต่อรสชาติที่เราได้รับ ดังนั้นวันนี้ทางเราจะมาให้ความรู้ในเรื่องนี้กันค่ะเพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อชาข้าวบาร์เลย์ได้ง่ายขึ้น แต่น่าเสียดายที่บางแบรนด์ไม่ได้บอกรายละเอียดเอาไว้ว่าเขาใช้ข้าวบาร์เลย์แบบไหน แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะเพราะข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่สำคัญและช่วยให้เราเข้าใจในรสชาติของชาข้าวบาร์เลย์มากขึ้น
- ข้าวบาร์เลย์แกนยอด 6 แถว (Six row barley) ข้าวบาร์เลย์แกนยอด 6 แถว เป็นข้าวบาร์เลย์ชนิดหนึ่งที่มีแกนทั้งหมด 3 แถวค่ะแต่เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นเป็น 6 แถว ตัวเมล็ดข้าวจะเรียงตัวกันเป็นรูปดาวมีลักษณะเป็นเมล็ดขนาดเล็ก หากคุณต้องการเพลิดเพลินกับชาข้าวบาร์เลย์รสชาติเข้มข้นแนะนำให้เลือกชาที่ทำจากข้าวบาร์เลย์แกนยอด 6 แถว นอกจากนี้ข้าวบาร์เลย์แบบ 6 แถวยังมีโปรตีนสูง กระบวนการคั่วจะทำให้เมล็ดข้าวมีรสชาติดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติให้กับชาได้ดี
- ข้าวบาร์เลย์แกนยอด 2 แถว (Two row barley) เดิมทีข้าวบาร์เลย์ทั้งหมดจะมีแกนยอดทั้งได้ 6 แถวค่ะ แต่ข้าวบาร์เลย์แบบแกนยอด 2 แถวนั้นเป็นชนิดพิเศษที่มีแกนยอดเพียงแถวเดียว แต่หากมองจากด้านบนจะเห็นเป็นแกนยอด 2 แถว ข้าวบาร์เลย์แกนยอด 2 แถวจะมีขนาดเมล็ดข้าวที่ใหญ่จึงมักถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเบียร์ ชาข้าวบาร์เลย์ทำจากข้าวบาร์เลย์แกนยอด 2 แถมจะมีความหวานเข้มข้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติดั้งเดิมของข้าวบาร์เลย์ ชาข้าวบาร์เลย์แบบนี้จะโดดเด่นด้วยรสชาติที่เข้มข้น ขมน้อยและดื่มได้ง่ายมาก
- มุกข้าวบาร์เลย์ (Pearl barley) มุกข้าวบาร์เลย์เป็นพืชเขตร้อนที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลายคนอาจจะงงว่ามุกข้าวบาร์เลย์คืออะไรจริง ๆ แล้วมุกข้าวบาร์เลย์เป็นเมล็ดข้าวหลังจากการเก็บเกี่ยวค่ะโดยจะมีการขัดสีก่อนทำให้เป็นเมล็ดสีขาวเหมือนไข่มึกจึงถูกเรียกว่ามุกข้าวบาร์เลย์หรือบางคนก็เรียกว่า “ข้าวบาร์เลย์มุก” ตัวมุกข้าวบาร์เลย์จะเป็นเมล็ดที่มีกลิ่นเฉพาะอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น Coixenolide และ Germanium ซึ่งเชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนั้นมุกข้าวบาร์เลย์ไม่เพียงแต่ใช้ในการผลิตชาและอาหารเท่านั้นแต่ยังใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางอีกด้วย
- ข้าวบาร์เลย์ผสม (Mixed Barley) หากคุณต้องการเพิ่มรสชาติใหม่ ๆ ให้กับชาข้าวบาร์เลย์ การเลือกซื้อชาข้าวบาร์เลย์แบบผสมเป็นที่ดีที่สุดค่ะ ตัวชาผสมจะมีส่วนผสมของข้าวบาร์เลย์และส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ถั่วดำ ผักกาดหอม ข้าวสีนิล ฯลฯ จุดที่น่าสนใจของชาแบบนี้คือเราสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ ขอบอกเลยนะคะว่าส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาไม่เพียงแต่ทำให้รสชาติของชาสดชื่นเท่านั้นแต่ความหลากหลายของรสชาติยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย แน่นอนว่าข้าวบาร์เลย์แบบผสมมักจะมีส่วนผสมหลายอย่าง ดังนั้นคนที่เป็นโรคภูมิแพ้จะต้องระวังค่ะเพราะอาจจะมีส่วนผสมที่เราแพ้ผสมอยู่ด้วยควรอ่านฉลากทุกครั้งก่อนซื้อ
2. เลือกชาตามชนิดการชงของชา
|
ชาคั่วสำเร็จชาข้าวบาร์เลย์แบบคั่วสำเร็จเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ต้องการเพลิดเพลินกับรสชาติของชาข้าวบาร์เลย์อย่างเต็มที่ค่ะ ชาแบบนี้จะไม่มีถุงชามาให้มีแค่เมล็ดข้าวบาร์เลย์เท่านั้น ในการชงชาเราต้องต้มน้ำและต้มชาเอง แน่นอนว่าชาที่ได้จะมีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอม หากคุณต้องการสัมผัสถึงรสชาติแบบเต็ม ๆ ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ แต่หากใครที่ไม่มีอุปกรณ์และไม่ชอบความยุ่งยากชาคั่วสำเร็จอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก |
|
ชาแบบชงร้อนชาข้าวบาร์เลย์แบบนี้จะมาในถุงชาค่ะ วิธีการชงนั้นง่ายมากเพียงแค่แช่ชาในน้ำร้อนก็ได้แล้ว ชาแบบถุงชาชงร้อนจะมีรสชาติที่เบาและดื่มง่ายกว่าชาคั่วสำเร็จ นอกจากนี้เรายังสามารถปรับความเข้มของชาได้ตามใจชอบโดยปรับเวลาในการแช่ชาให้เหมาะสมค่ะ จุดที่ทำให้ชาแบบชงร้อนแตกต่างจากชาแบบชงเย็นได้คือมันไม่เหมาะที่จะนำไปแช่แบบ Cold Brew ค่ะเพราะมันอาจจะทำให้ชาเสียรสชาติได้ แต่เดี๋ยวนี้หลาย ๆ แบรนด์เริ่มปรับรสชาติให้ชาสามารถชงได้ทั้งร้อนและเย็นแล้วเพื่อให้ผู้ซื้อได้รับความหลากหลายมากขึ้น |
|
ชาชงแบบเย็น /ชาสกัดเย็นชาประเภทนี้เรียกว่าชา Cold Brew ค่ะ ข้อดีของชาคือชงง่ายและใช้เวลาชงไม่นาน รูปแบบของชาจะเป็นถุงชาวิธีชงก็เพียงแค่ใส่ชาข้าวบาร์เลย์ลงในน้ำเปล่าแล้วแช่เอาไว้ก็พอค่ะ ชาแบบนี้ต้องชงกับน้ำธรรมดาที่ไม่ใช่น้ำร้อนค่ะเพราะการโดนน้ำร้อนทำให้ชามีรสชาติอร่อยน้อยลง แต่บางแบรนด์ก็สามารถชงได้ทั้งร้อนและเย็นโดยไม่เสียรสชาติ ชาแบบนี้สามารถดื่มได้ง่ายและสดชื่น อีกทั้งยังสามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 2 – 3 วันด้วย |
3. ซื้อชาบรรจุขวดเพื่อความสะดวก
สำหรับคนที่ไม่ต้องการดื่มชาข้าวบาร์เลย์เป็นประจำ ชาบรรจุขวดจะเป็นทางเลือกที่สะดวกและง่ายค่ะ ชาข้าวบาร์เลย์แบบบรรจุขวดส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากญี่ปุ่นและเกาหลีโดยมีหลายแบบให้เลือกสามารถเลือกได้ตามต้องการ ข้อดีของชาแบบบรรจุขวดคือเตรียมได้ง่ายดื่มได้ทันทีที่เปิดฝาและสามารถเติมน้ำให้ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าชาบรรจุขวดจะสะดวกแต่ก็ยังมีราคาแพงกว่าชาแบบอื่น ดังนั้นคิดดี ๆ ก่อนซื้อนะคะ หากต้องการดื่มชาข้าวบาร์เลย์เป็นประจำชาบรรจุขวดไม่เหมาะจริง ๆ ควรซื้อแบบอื่นดีกว่าค่ะ
Itoen Barley Tea Mugicha ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 197 บาท*
Itoen Barley Tea Mugicha เป็นชาบาร์เลย์ยอดนิยมที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาดค่ะ บอกเลยว่าแบรนด์นี้ยืนหนึ่งจริง ๆ เรื่องชาบาร์เลย์ ยอดขายของเขาก็ดีมากด้วย แพ็กเกจของชาเป็นถุงขนาดใหญ่และมีถุงชาแยกด้านในอีก 54 ซอง ราคาของชาบาร์เลย์ไม่แพงเลยและให้ความคุ้มค่าได้ดีมากด้วยค่ะ จุดเด่นคือชาจากทางแบรนด์ผ่านการผลิตแบบพิเศษเพราะใช้ข้าวบาร์เลย์แกนยอด 2 แถว ผสมกับข้าวบาร์เลย์แกนยอด 6 แถว โดยมีแหล่งกำเนิดมาจากแคนาดา ออสเตรเลียและญี่ปุ่น
รสชาติของ Itoen Barley Tea Mugicha ดื่มง่ายและเหมาะสำหรับทุกคน ความพิเศษคือชาไม่มีคาเฟอีน น้ำตาล แคลอรีและไขมันเราจึงสามารถดื่มได้ทุกวันโดยไม่กระทบต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก ชาจากทางแบรนด์เหมาะสำหรับชงแบบร้อนนะคะ หากอยากทานชาทานแบบเย็นได้แนะนำชาข้าวบาร์เลย์พร้อมดื่ม Itoen Mugicha Barley Tea Ready to drink เลยค่ะเป็นแบรนด์เดียวกันและอร่อยเหมือนกันเลย
ประเภทของชา | ชาชงร้อน |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุงชา |
ปริมาณ | 54 ซอง |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ ( 2 แถวและ 6 แถว) |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | แคนาดา ออสเตรเลียและญี่ปุ่น |
Hakubaku Barley Mugicha Tea ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 175 บาท*
Hakubaku Barley Mugicha Tea เป็นชาจากญี่ปุ่นเช่นเดียวกับ Itoen Barley Tea Mugicha ค่ะแต่ชาข้าวบาร์เลย์จากทางแบรนด์เป็นชาที่เหมาะกับการชงเย็นมากกว่าการชงร้อน ชาของทางแบรนด์ผ่านการคั่วมาอย่างดี ข้าวบาร์เลย์ไม่ได้สุกเกินไปทำให้ไม่ขม มีกลิ่นหอม และเด็กก็สามารถดื่มได้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาชาข้าวบาร์เลย์ที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวค่ะ
ชาจากทางแบรนด์ได้ใช้ข้าวบาร์เลย์ที่ผลิตในญี่ปุ่นมาเป็นส่วนผสมค่ะ จากข้อมูลที่ผู้เขียนพบมา Hakubaku Barley Mugicha Tea เป็นชาที่เหมาะสำหรับใช้ชงในหน้าร้อนมากที่สุดเพราะคลายร้อนได้ดีดื่มแล้วสดชื่น ใครที่ไม่ชอบชาร้อนต้องห้ามพลาดเลยค่ะเพราะกลิ่นหอมของข้าวบาร์เลย์ที่คั่วแล้วจากทางแบรนด์จะช่วยเพิ่มรสชาติของชาทำให้ชาน่าดื่มมากยิ่งขึ้น
ประเภทของชา | ชาชงเย็น |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุงชา |
ปริมาณ | 18 ซอง |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | ญี่ปุ่น |
Woongjin Hanil Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 55 บาท*
Woongjin Hanil Barley Tea เป็นชาข้าวบาร์เลย์พร้อมดื่มที่เหมาะสำหรับคนไม่ชอบชงชา ใครที่เบื่อการใช้ถุงชาต้องห้ามพลาดเลย ทางแบรนด์เคลมมาว่าชาของเขามีคุณค่าทางโภชนาการสูงเพราะใช้ส่วนผสมของเมล็ดข้าวบาร์เลย์และข้าวกล้องคั่วที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นพิเศษ ตัวชามีความหวานอ่อน ๆ สามารถเติมความสดชื่นในหน้าร้อนได้เป็นอย่างดีค่ะ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Woongjin Hanil Barley Tea และ Itoen Mugicha Barley Tea Ready to drink แบบไหนอร่อยกว่า บอกเลยว่าผู้เขียนการันตีไม่ได้ค่ะเพราะแหล่งผลิตชาแตกต่างกัน ส่วนผสมก็ต่างกันด้วยมันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่าค่ะ จุดที่ผู้เขียนชอบในชาจาก Woongjin คือหาซื้อได้ง่ายและสามารถคงความอร่อยไว้ได้นานหลายชั่วโมงหลังจากเปิดทานแล้ว หากอยากให้ชารสชาติดีขึ้นแนะนำให้แช่เย็นก่อนดื่มค่ะ
ประเภทของชา | ชาพร้อมดื่ม |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณ | 500 มล. |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ ข้าวกล้องคั่วและสารสกัดจากชิกโครี |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | เกาหลี |
Dongsuh Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์

Dongsuh Barley Tea เป็นผลิตภัณฑ์ชาคุณภาพที่มีส่วนผสมของข้าวบาร์เลย์เกาหลี ข้อดีของผลิตภัณฑ์คือถุงชามีปริมาณมากพอที่จะชงกับน้ำ 2 ลิตรได้อย่างสบาย ๆ เมื่อชงชามาแล้วเราสามารถดื่มชาได้ตลอดทั้งวันด้วยถุงชาเพียง 1 ถุงและชงเพียงครั้งเดียวค่ะ รับรองเลยว่าหากซื้อชาจากทางแบรนด์ไปแล้วจะช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมชาได้อย่างแน่นอน
Dongsuh Barley Tea เป็นชาที่สามารถชงได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็นค่ะ ให้ความคุ้มค่าได้ดีเลยทีเดียว ผู้เขียนชอบชาแบรนด์นี้พอ ๆ กับ Itoen Barley Tea Mugicha เลยเพราะรสชาติดีทานแทนน้ำเปล่าได้ ในถุงชาจะเป็นข้าวบาร์เลย์คั่วที่มีสีน้ำตาลธรรมชาติ ถึงแม้จะผสมกับน้ำปริมาณมากได้แต่ชาก็ยังให้สีน้ำชาที่สวยงามและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของข้าวค่ะ หากถามว่า Dongsuh Barley Tea ตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่ดื่มชาข้าวบาร์เลย์เป็นประจำและต้องการดื่มชาแทนน้ำในแต่ละวัน
ประเภทของชา | ชาชงร้อนและเย็น |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุงชา |
ปริมาณ | 30 ซอง |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | เกาหลี |
Fukutama Mugicha Barley Tea Bags ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 239 บาท*
Fukutama Mugicha Barley Tea Bags เป็นชาที่สามารถชงได้ทั้งร้อนและเย็นเช่นเดียวกับ Dongsuh Barley Tea แต่ชาหนึ่งสองสามารถชงเย็นกับน้ำได้แค่ 1 ลิตรเท่านั้นค่ะ ส่วนผสมหลักของชาคือข้าวบาร์เลย์ 100% จากญี่ปุ่นที่ผ่านการคั่วมาอย่างดีสามารถเพิ่มกลิ่นหอมของเครื่องดื่มได้ดีมากเลยทีเดียว หลายคนที่เคยลองทานต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชามีกลิ่นหอมเหมือนกับกาแฟ แต่ไม่ต้องห่วงไปนะคะเพราะชาไม่ได้มีคาเฟอีนค่ะ
ตัวชามาในถุงขนาดใหญ่โดยด้านในจะบรรจุถุงชาเอาไว้ 56 ซองสามารถทานได้นานและคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน สำหรับใครที่อยากชงชาแบบเย็นแนะนำให้แช่ชาไว้ 2 ชั่วโมงนะคะเพราะหากน้อยกว่านั้นชาจะไม่เข้มข้นและไม่อร่อยเท่าที่ควร ใครที่อยากซื้อชาราคาประหยัดแต่ปริมาณเยอะทานได้นานแนะนำ Fukutama Mugicha Barley Tea Bags เลยค่ะ
ประเภทของชา | ชาชงร้อนและเย็น |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุงชา |
ปริมาณ | 56 ซอง |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | ญี่ปุ่น |
Danongwon Black Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 290 บาท*
Danongwon Black Barley Tea เป็นชาเกาหลีเหมือนกับ Dongsuh Barley Tea ค่ะสามารถชงได้ทั้งร้อนและเย็นเหมือนกันด้วย แต่ความแตกต่างมันอยู่ที่ว่า Danongwon Black Barley Tea เป็นชาที่มีการผสมผสานของข้าวบาร์เลย์และข้าวสีนิล ในขณะที่ Dongsuh ใช้ส่วนผสมของข้าวบาร์เลย์เพียงอย่างเดียวค่ะ บอกเลยว่าชาจากแบรนด์นี้ขายดีมากเพราะไม่มีคาเฟอีน ไม่มีน้ำตาลและสามารถใช้ดื่มแทนน้ำเปล่าได้เลย ใครที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักก็ต้องห้ามพลาดนะคะเพราะของเขาดีจริง ๆ
จุดที่หลายคนชอบเกี่ยวกับชาของทางแบรนด์คือสีและความเข้มข้นของชาค่ะ ตัวชาหอมมากสามารถชงด้วยวิธีใดก็ได้แล้วแค่รสนิยมของคนทานเลย ซึ่งวิธีการชงแต่ละวิธีสามารถสร้างรสชาติชาที่แตกต่างกันได้ ในการชงชาแบบเย็น 1 ซองชาสามารถชงชาได้ 1 ลิตรค่ะ หากต้องการความเข้มข้นก็สามารถใส่ถุงชาเพิ่มเข้าไปได้เลยรับรองอร่อยกว่าเดิมค่ะ
ประเภทของชา | ชาชงร้อนและเย็น |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุงชา |
ปริมาณ | 40 ซอง |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์และข้าวสีนิล |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | เกาหลี |
Matsusaka Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 150 บาท*
Matsusaka Barley Tea เป็นชาจากญี่ปุ่นที่ใช้ข้าวบาร์เลย์เป็นส่วนผสมหลัก แต่จุดที่ทำให้ชาแตกต่างจากแบรนด์อื่นคือชาของเขาผลิตในเมืองมัตสึซากะ จังหวัดมิเอะค่ะ ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในการส่งออกข้าวบาร์เลย์ ตัวชามีกลิ่นหอมโดดเด่นและมีสีน้ำตาลทองเหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติชาที่ดื่มได้ง่าย ไม่ฝาดและมีรสหวานอ่อน ๆ ค่ะ
จุดที่ผู้เขียนชอบคือชาจากทางแบรนด์มีการชงที่ยืดหยุ่น สามารถชงถุงชาได้สองแบบคือแบบร้อนและแบบเย็น เหมาะสำหรับดื่มทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวค่ะ ชามาในถุงขนาดใหญ่นะคะโดยจะมีถุงชาแยกด้านใน 52 ซอง ถือว่าเป็นปริมาณที่เยอะมากเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่เราจ่ายไป ตัวชาไม่มีคาเฟอีนค่ะดื่มง่าย ใครที่อยากให้ชาหวานเพิ่มสามารถเติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลลงไปได้เลย
ประเภทของชา | ชาชงร้อนและเย็น |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุงชา |
ปริมาณ | 52 ซอง |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | ญี่ปุ่น |
Itoen Mugicha Barley Tea Ready to drink ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 600 บาท*
Itoen Mugicha Barley Tea Ready to drink เป็นชาพร้อมดื่มเหมือนกับ Woongjin Hanil Barley Tea ค่ะแต่คนละสัญญาติ เพราะแบรนด์ Itoen เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นค่ะ โดยเราได้แนะนำชาจากทางแบรนด์ไปแล้วแบบหนึ่งคือ Itoen Barley Tea Mugicha ความโดดเด่นคือชาสามารถดื่มได้ง่ายมาก ไม่ต้องชงไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ซื้อมาแช่เย็นก็สามารถดื่มได้เลยค่ะรับรองว่าอร่อยและถูกใจแน่
ส่วนผสมหลักของชาคือข้าวบาร์เลย์จากญี่ปุ่นค่ะ สูตรนี้ไม่ได้เติมน้ำตาลดังนั้นรสชาติที่ได้จะเป็นรสชาติของ ข้าวบาร์เลย์จริง ๆ อีกทั้งยังเป็นสูตรที่ไม่มีคาเฟอีนด้วยสามารถดื่มได้ทุกวันเลยค่ะ ปริมาณของชาอยู่ที่ 500 มล. ต่อขวดถือว่าเยอะมากและให้ความคุ้มค่าได้ด้วย ขอบอกเลยค่ะว่าต้องรีบตุนเพราะชาข้าวบาร์เลย์พร้อมดื่มจากทางแบรนด์หาซื้อไม่ง่ายเลย
ประเภทของชา | ชาพร้อมดื่ม |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ขวด |
ปริมาณ | 500 มล. |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | ญี่ปุ่น |
Hitachiya Roasted Barley Tea ชาข้าวบาร์เลย์

ราคา 120 บาท*
Hitachiya Roasted Barley Tea เป็นชาที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่เราแนะนำมาค่ะเพราะไม่ได้เป็นถุงชาแบบ Matsusaka Barley Tea และไม่ได้เป็นชาพร้อมดื่มเหมือน Itoen Mugicha Barley Tea Ready to drink แต่ชาจากทางแบรนด์เป็นชาคั่วสดค่ะ เมื่อซื้อมาแล้วสิ่งที่เราจะได้คือข้าวบาร์เลย์แบบเมล็ดเลย ในการชงชาเราจำเป็นต้องต้มชาก่อนเพื่อดึงรสชาติของข้าวบาร์เลย์ออกมาค่ะ
หลายคนอาจจะมองว่าการชงชายุ่งยาก แต่จริง ๆ แล้วชาแบบนี้จะได้รสชาติและกลิ่นหอมที่เข้มข้นกว่าชาข้าวบาร์เลย์แบบอื่น ๆ ชาสามารถทานได้ทั้งแบบร้อนและเย็นนะคะ แต่หากต้องการทานเย็นต้องชงร้อนก่อนแล้วค่อยนำชาไปแช่เย็นค่ะ ตัวชาเป็นชาข้าวบาร์เลย์แบบ 100% ไม่ผสมอย่างอื่น ไม่มีคาเฟอีนและสามารถดื่มได้ทุกวันเลยค่ะ ใครที่อยากสัมผัสกับกลิ่นและรสชาติของข้าวบาร์เลย์แบบเต็ม ๆ ต้องห้ามพลาด
ประเภทของชา | ชาคั่วสำเร็จ |
---|---|
รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | เมล็ดข้าว (ต้องเตรียมอุปกรณ์ชงเอง) |
ปริมาณ | 380 กรัม |
ส่วนผสมหลักของชา | ข้าวบาร์เลย์ |
แหล่งที่มาของข้าวบาร์เลย์ | ญี่ปุ่น |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีชงชาข้าวบาร์เลย์ให้อร่อย
- นำซองชาออกมาตามเวลาที่ทางแบรนด์กำหนด หลายคนที่ซื้อชามาชงเองอาจจะว่าควรแช่ถุงชาไว้ให้นานที่สุดเพื่อเพิ่มความเข้มข้นและรสชาติของชา แต่อันที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดค่ะเพราะการแช่ชาไว้นานอาจจะทำให้ชาเสียรสชาติได้ค่ะ รสชาติของชาที่ได้อาจจะขมเกินไปหรืออาจจะฝาดจนดื่มไม่ได้ ดังนั้นเมื่อชงชาแล้วควรนำถุงชาออกทันทีเมื่อครบเวลาที่ทางแบรนด์แนะนำค่ะ หากแช่ชาแบบเย็น (Cold Brew) สามารถแช่ชาได้นานกว่าเดิมแต่ก็ไม่ควรจะแช่เกิน 2 ชั่วโมงเพราะชาที่ได้จะไม่อร่อย
- เมื่อแช่ชาแบบเย็น (Cold Brew) ไม่ควรชงในปริมาณที่มากเกินไป ชาที่ผ่านการชงแบบเย็นจะแตกต่างจากชาบรรจุขวดเพราะไม่สามารถเก็บไว้ได้นานค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นชาข้าวบาร์เลย์จะเน่าเสียได้เร็วกว่าชาประเภทอื่น ๆ ในการแช่ชาแบบเย็นพยายามผสมชาและน้ำในปริมาณที่พอเหมาะโดยในการแช่ชา 1 ครั้งควรทานให้หมดภายในวันเดียวค่ะ นอกจากนี้เรื่องความสะอาดก็สำคัญค่ะหลายคนมีขวดสำหรับใช้ชงชาโดยเฉพาะแต่ไม่ได้ทำความสะอาดให้ดีแค่ล้างผ่านน้ำเฉย ๆ วิธีนี้ผิดนะคะเพราะจะทำให้แบคทีเรียเติบโตกลายเป็นเมือกเหนียวและคราบหินปูน ซึ่งคราบเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพควรใช้น้ำยาล้างจานล้างทุกครั้งหลังใช้ค่ะ

- เติมเกลือในชาเพื่อเพิ่มความสดชื่น ชาข้าวบาร์เลย์ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มที่มีประสิทธิภาพสำหรับวันที่อากาศร้อนเพราะเป็นชาที่คุณสมบัติเด่น 2 ประการ ประการแรกชาปราศจากคาเฟอีนช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำได้ ส่วนประการที่สองชาข้าวบาร์เลย์ยังมีฤทธิ์เย็นการดื่มชาแบบเย็นจะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายและเหมาะมากสำหรับเพิ่มความสดชื่นในฤดูร้อน หากคุณต้องการใช้ชาข้าวบาร์เลย์เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายให้เติมเกลือลงในชาข้าวบาร์เลย์ ปริมาณเกลือที่เติมลงไปสามารถเพิ่มได้ตามรสนิยมของตัวเอง สำหรับคนที่เริ่มต้นให้ลองเพิ่มเกลือ 1/4 ช้อนชา (เทียบเท่า 0.6 กรัม) ต่อน้ำ 400 มล. รับรองว่าดื่มแล้วสดชื่นถึงใจแน่นอน
References :
- Association of Lifelong Intake of Barley Diet with Healthy Aging: Changes in Physical and Cognitive Functions and Intestinal Microbiome in Senescence-Accelerated Mouse-Prone 8 (SAMP8)
- Strategies of Functional Foods Promote Sleep in Human Being
- Selenium–vitamin E supplementation in infertile men: effects on semen parameters and pregnancy rate
- Quality attributes for barley malt: “The backbone of beer”