แน่นอนว่าคนที่มีไอโฟน (iPhone) ทุกคนย่อมเกิดปัญหาแบตเตอรี่หมดในระหว่างการใช้งาน เพราะด้วยฟังก์ชันและสื่อต่าง ๆ ที่น่าสนใจและมีความทันสมัยดึงดูดทำให้เรามีการใช้มือถือเป็นเวลานาน ซึ่งการเปิดแอปพลิเคชันจำนวนมากบนมือถือก็จะเป็นการทำสมาร์ทโฟนของเรานั้นทำงานหนักและกินแบตไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้เมื่อต้องการที่จะทำการชาร์จพลังงานก็อาจจะลำบากเล็กน้อยในการหาปลั๊กชาร์ท แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา จึงทำให้ตอนนี้เราสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ง่าย ๆ ด้วย อุปกรณ์เสริม iPhone อย่าง “แบตสำรอง”
ทีนี้เมื่อเอ่ยถึงแบตสำรองเราคงหนึ่งถึงภาพอุปกรณ์ที่มีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่อย่าง พาวเวอร์แบงค์ Power Bank ที่ต้องพกติดตัวไปในทุกที่ ถึงแม้มันจะช่วยให้เราสามารถชาร์ทมือถือได้ในยามจำเป็น แต่มันก็อาจมีข้อเสียอยู่เล็กน้อย นั่นคือขนาดที่ใหญ่และหนักเกินไป ซึ่งบางทีมันอาจกินเนื้อที่ในกระเป๋าทำงานของเรา โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องพกชุดเครื่องสำอางมากมายทั้ง ลิปสติก, รองพื้น, ครีมทาหน้า, ครีมกันแดด และหูฟังบลูทูธ (Airpods) แค่เท่านี้ก็เกือบจะล้นกระเป๋าแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหานี้ก็สามารถแก้ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่คุณมี “เคสแบตสำรอง” ที่สามารถชาร์ตมือถือของคุณให้เต็มได้เพียงแค่สวมเคสตัวนี้เข้าไปง่าย ๆ เหมือนสวมเคสป้องกันมือถือตกทั่วไป นอกจากจะสะดวกในการชาร์จพลังงานแล้ว มันยังไม่กินพื้นที่ในกระเป๋าของคุณอีกด้วย
เคสแบตสำรองคืออะไร ?
เคสแบตสำรองเป็นอุปกรณ์เก็บพลังงานชนิดหนึ่งที่ไว้ใช้สำรองชาร์จมือถือ การทำงานของมันก็จะคล้าย ๆ กับพาวเวอร์แบงค์ที่เราเห็นทั่วไปตามท้องตลาดหรือที่หลายคนใช้กันอยู่ เพียงแต่มันได้ผลิตออกมาในรูปแบบของเคสมือถือ ที่สามารถพกพาไปในสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่ายติดไปกับตัวเครื่องมือถือของเราครับ
ค่า mAh คืออะไร ?
หลายคนอาจเคยตั้งคำถามทุกครั้งก่อนซื้อเคสแบตสำรองว่าค่า mAh คืออะไร ซึ่งความหมายของ mAh นั้นย่อมาจาก milliamps per hour หรือเวลาการจ่ายประจุไฟฟ้าต่อชั่วโมง
อย่างเช่น ถ้าคุณเจอเคสแบตสำรองหรือพาวเวอร์แบงค์ ที่เขียนว่า 3,046 mAh นั่นก็หมายความว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถให้พลังงานไฟฟ้ากับมือถือของคุณได้ 3,046 แอมแปร์ต่อชั่วโมง ฉะนั้นค่าตัวนี้จะสามารถบอกกับเราได้ว่ามันสามารถชาร์จมือถือของคุณได้เร็วเท่าไหร่นั่นเองครับ
ค่า mAh เท่าไหร่ถึงจะชาร์ตแบตมือถือเต็ม ?
ระดับค่าของ mAh นั้นจะบ่งบอกได้ว่าคุณสามารถใช้เคสแบตสำรองของคุณชาร์จได้จำนวนกี่ครั้ง
- ระดับ 1500-2000 mAh : จะสามารถชาร์จมือถือของคุณได้จนจาก 0% ถึง 100% ประมาณ 1 ครั้ง
- ระดับ 5200 mAh : จะสามารถชาร์จมือถือของคุณได้จนจาก 0% ถึง 100% ประมาณ 2 ครั้ง และสามารถชาร์จแท็ปแล็ตได้ประมาณ 50%
- ระดับ 1000 mAh : จะสามารถชาร์จมือถือของคุณได้จนจาก 0% ถึง 100% ประมาณ 4 ครั้ง และสามารถชาร์จแท็ปแล็ตได้ 100% ประมาณ 1 ครั้ง
วิธีการเลือกเคสแบตสำรองให้เหมาะกับคุณ
1. อ่านรายละเอียดค่า mAh ให้ถี่ถ้วน
ก่อนทำการซื้อเคสแบตสำรองคุณควรศึกษารายละเอียดของสินค้าให้ถี่ถ้วน เนื่องจากค่า mAh หรือเวลาในการชาร์จของเคสแบตสำรองนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะรายละเอียดเหล่านี้จะเป็นตัวพิจารณาว่ามันจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่ หากคุณพนักงานออฟฟิศหรือบุคคลที่ไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้บ่อยเท่าไหร่ในช่วงเวลากลางวัน ระดับ mAh ประมาณ 1500 ก็น่าจะเพียงพอต่อการชาร์จ แต่หากคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อยหรือทำงานที่จำเป็นต้องใช้มือถืออย่างต่อเนื่องในการติดต่อหรืออะไรก็ตามแต่ mAh ก็ควรจะเริ่มต้นตั้งแต่ 5000-10000 mAh เพื่อให้โทรศัพท์มีพลังงานเพียงพอต่อการใช้งาน
2. ศึกษา Input และ Output ก่อนสั่งซื้อ
ค่า Input และ Output จริง ๆ แล้วสำคัญมากไม่แพ้กับ mAh เลยครับ แต่หลายคนอาจไม่ทราบและเฉยเมยในส่วนนี้ไป ค่านี้เป็นการบอกถึงค่าแอมแปร์ (ปริมาณประจุไฟฟ้าต่อนาที) ยิ่งมีค่านี้มากเท่าไหร่ การชาร์จมือถือของคุณจะยิ่งรวดเร็วขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแบตสำรองทุกชนิดสำหรับใช้ชาร์จมือถือจะอยู่ที่ประมาณ 1A หรือ 1 Ampere ถึงจะเหมาะและเพียงพอสำหรับการชาร์จมือถือ
3. เลือกเคสแบตสำรองที่มีไฟ LED แจ้งสถานะ
ตรงจุดนี้ค่อนข้างสำคัญมากครับ เนื่องจากสถานะไฟ LED จะสามารถบอกเราได้ว่าเคสแบตสำรองของเรานั้นยังมีไฟฟ้าหลงเหลือยู่ประมาณเท่าไหร่และการชาร์จไฟฟ้าเข้าเคสแบตสำรองนั้นเต็มแล้วหรือยัง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วในเกือบทุกรุ่นจะมีฟังก์ชันตัวนี้อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดีเราก็ควรดูให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เราจะซื้อนั้นมีฟังก์ชันนี้อยู่หรือไม่
4. ตรวจสอบดูว่าเคสแบตสำรองรองรับรุ่นมือถือของคุณหรือไม่
ตรงจุดนี้สำหรับมากที่สุดเลยครับ ถึงแม้ว่าคุณจะได้สเปคสินค้าที่ใช่ มีค่า mAh ที่เยอะสามารถสามารถชาร์จพลังงานได้หลายครั้ง มี Input และ Output ที่ให้ค่าพลังงานแอมแปร์เยอะ ๆ สามารถชาร์จมือถือได้แบบรวดเร็ว หรือมีฟังก์ชันครบครัน แต่ถ้าหากเคสแบตสำรองไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับรุ่นมือถือของคุณ ทุกอย่างที่กล่าวมาก็แทบจะไร้ค่า ดังนั้นก่อนทำการสั่งซื้อลองดูก่อนสักนิดครับว่าเคสแบตสำรองเหล่านั้นสามารถใช้งานกับรุ่นมือถือของเราหรือไม่
5. ซื้อตามงบประมาณที่มี
เคสแบตสำรองที่มีคุณภาพส่วนใหญ่จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วที่เมื่อผลิตภัณฑ์ใช้วัสดุที่มีคุณภาพต้นทุนการผลิตสินค้าย่อมสูงกว่าวัสดุธรรมเกรดธรรมดาทั่วไป แต่อย่างไรก็ดีการตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างก็ต้องดูเงินในกระเป๋าของคุณด้วย หากเลือกซื้อเกินกำลังทรัพย์ที่ตัวเองมี มันก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของคุณ อีกทั้งในบางทีการเลือกซื้อเคสเบตเตอรี่ในราคาแพง ที่มี mAh สูง ๆ ก็อาจมากเกินความจำเป็นที่คุณต้องใช้งาน
อย่างไรก็ดีก่อนที่จะเลือกซื้อคุณควรค้นหารายละเอียดของสินค้าในเว็บไซต์รีวิวของเราก่อนว่ามีสินค้าตัวไหนที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม และเหมาะกับคุณมากที่สุด เพราะวันนี้ผมได้รวบรวมเคสแบตสำรองที่ดีที่สุดมาไว้ให้คุณได้เลือกซื้อกันครับ
เคสแบตสำรอง Lenmar

ราคา 365 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ชาร์จพลังงาน iPhone และเคสแบตสำรองไปพร้อมกันได้
- เคสแบตสำรองทำให้เสียงจากลำโพงชัดและดังขึ้น
- สามารถซิงค์กับ iTunes ได้ในขณะที่ชาร์จ
- เคสมีขอบหนาป้องกันความเสียหายได้ดี
ข้อที่ควรพิจารณา
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชาร์จมือถือหลายรอบ เพราะมือถือชาร์จให้เต็มได้ประมาณ 1 ครั้ง
ความจุ | 3000mAh |
---|---|
พลังงาน | ไม่ระบุ |
อินพุต | ไม่ระบุ |
เอ้าท์พุต | 5V 1A |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | 6 / 6s |
เคสแบตสำรอง NEWDERY

ราคา 499 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ยาง TPU ป้องกันรอยขีดข่วน 360 องศา
- ใช้หูฟังพร้อมกับชาร์จแบตได้
ความจุ | 4000mAh - 5000mAh (แตกต่างที่รุ่นของมือถือ) |
---|---|
พลังงาน | ไม่ระบุ |
อินพุต | ไม่ระบุ |
เอ้าท์พุต | 5V 2A |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | 6-6s / 7 plus / 8 plus / 11-11 pro max xr / x และ xs |
เคสแบตสำรอง ROCK รุ่น P9

ราคา 521 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ซิลิโคนป้องกันรอยขีดข่วน
- ป้องกันแบบครอบคลุม
ข้อที่ควรพิจารณา
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชาร์จมือถือหลายรอบ เพราะมือถือชาร์จให้เต็มได้ประมาณ 1 ครั้ง
ความจุ | 2800mAh |
---|---|
พลังงาน | 10.64Wh |
อินพุต | DC 5V-1A |
เอ้าท์พุต | DC 5V-1A |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | 7 plus |
เคสแบตสำรอง iPhone Powercase JLW

ราคา 678 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ออกแบบแบตเตอรี่ลักษณะ Built-in สวยงาม
- พัสดุ TPU มีความคงทน
- ขอบยาง TPU ป้องกันรอยขีดข่วน
- การใช้งานค่อนข้างปลอดภัย
ข้อที่ควรพิจารณา
- ไม่สามารถชาร์จเคสแบตสำรองและมือถือพร้อมกันได้
- ขอบเคสด้านบนอาจสูงกว่าขอบมือถือเล็กน้อย
- ใช้ได้กับฟิล์มกระจกและกันรอยแบบไม่เต็มจอเท่านั้น
- ไม่ควรใช้กับมือถือที่มีการติดฟิล์มด้านหลัง เพราะจะทำให้แน่นเกินเมื่อทำการชาร์จ
ความจุ | 5000mAh |
---|---|
พลังงาน | 18.5wH |
อินพุต | DC 5V-2A |
เอ้าท์พุต | DC 5V-1A |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | 6 / 7 / 8 / xr / x / xs / XS MAX |
เคสแบตสำรอง iPhone Powercase JLW รุ่น X2

ราคา 880 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ชาร์จเคสแบตสำรองได้เร็ว
- วัสดุหยิบจับได้ถนัดมือ
- มีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จพลังงานมือถือเต็ม
ข้อที่ควรพิจารณา
- เกิดความร้อนเล็กน้อย
- ต้องชาร์จเคสแบตสำรองกับสาย Ipad หรือสายชาร์จอื่น ๆ ที่ให้ไฟระดับ 2A
- ในรุ่น 6s และ 6 อาจมีส่วนที่เกยเลนส์กล้องเล็กน้อย
ความจุ | 5000mAh |
---|---|
พลังงาน | 18.5wH |
อินพุต | DC 5V-2A |
เอ้าท์พุต USB | DC 5V-1A |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | 6 / 7 / 8 / xr / x / xs / XS MAX |
เคสแบตสำรอง iPhone Wopow Power Case

ราคา 940 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ตัวเคสมีขอบยางที่ป้องกันรอยขีดข่วน
- น้ำหนักเบา
- สินค้ามีความทนทาน
ข้อที่ควรพิจารณา
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชาร์จมือถือหลายรอบ เพราะมือถือชาร์จให้เต็มได้ประมาณ 1 ครั้ง
ความจุ | 2500mAh |
---|---|
พลังงาน | 9.25wH |
อินพุต | DC 5V-1A |
เอ้าท์พุต USB | DC 5V-1A |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | 6 / 7 / 8 |
เคสแบตสำรอง iPhone Romoss

ราคา 960 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ออกแบบแบตเตอรี่ลักษณะ Built-in สวยงาม
- ขอบซิลิโคนป้องกันความเสีย
- ชาร์จมือถือได้เต็มประมาณ 2 ครั้ง
ข้อที่ควรพิจารณา
- ใช้ได้กับฟิล์มกระจกและกันรอยแบบไม่เต็มจอเท่านั้น
- ไม่ควรใช้กับมือถือที่มีการติดฟิล์มด้านหลัง เพราะจะทำให้แน่นเกินเมื่อทำการชาร์จ
ความจุ | 8,000mAh |
---|---|
พลังงาน | ไม่ระบุ |
อินพุต | 5V 1.8A |
เอ้าท์พุต | 5V 1.3A |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | 6 plus / 6s plus |
เคสแบตสำรอง Baseus Battery Charger Case For iPhone XR

ราคา 1,298 บาท*
คุณสมบัติเด่น
- ใส่หูฟังฟังเพลงได้ในขณะชาร์จ
- ป้องกันรอยนิ้วมือและน้ำ
- การป้องกันที่ครอบคลุม
ข้อที่ควรพิจารณา
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชาร์จมือถือหลายรอบ เพราะมือถือชาร์จให้เต็มได้ประมาณ 1 ครั้ง
ความจุ | 3900mAh |
---|---|
พลังงาน | ไม่ระบุ |
อินพุต | 5V-1.5A |
เอ้าท์พุต | ไม่ระบุ |
รุ่น iPhone ที่ใช้ได้ | XR |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ แนะนำ เคสแบตสำรอง iPhone ที่ดีที่สุด ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีการดูแลเคสแบตสำรองให้คงประสิทธิภาพได้มากที่สุด
1. ดูอากาศและอุณหภูมิในสถานที่ชาร์จ
อ่านแล้วอาจดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าอากาศและอุณหภูมิมีผลต่อประสิทธิภาพในการชาร์จเป็นอย่างมาก ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะที่สุดสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่คืออุณหภูมิห้อง หากคุณใช้งานมันในอุณหภูมิที่มีความเย็นหรือร้อนมากจนเกินไป มันจะส่งผลเสียต่อเคสแบตสำรองของคุณโดยตรง ซึ่งเมื่อทำแบบนี้ไปนานวันเข้าท้ายที่สุดเคสแบตสำรองของคุณจะเสื่อมสภาพจนไม่สามารถชาร์จพลังงานให้โทรศัพท์ของคุณได้อีก
2. ควรถอดเคสแบตสำรองออกเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม
ทุกครั้งที่คุณทำการชาร์จโทรศัพท์ของคุณด้วยเคสสำรอง คุณจำเป็นที่จะต้องมาเช็คจำนวนแบตเตอรี่ของมือถือเป็นระยะ เนื่องจากการปล่อยทิ้งไว้ยาว ๆ โดยไม่ถอดออกเมื่อแบตเตอรี่เต็ม มันจะส่งต่อแบตเตอรี่ภายในไอโฟนของคุณ
3. ควรใช้งานเคสแบตสำรองอย่างสม่ำเสมอ
การใช้งานเคสแบตสำรองนั้นควรใช้งานอย่างน้อย 3 ครั้งต่อเดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของแบตสำรอง หากเราไม่ได้ใช้งานเลยแน่นอนว่าอุปกรณ์ของเราก็จะเริ่มถดถอยและเสื่อมประสิทธิภาพลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันอาจไม่สามารถใช้งานได้อีกเลยครับ
4. ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จเคสแบตสำรองแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
เพื่อทำงานการทำงานที่มีประสิทธิภาพและทำให้เคสแบตสำรองของคุณอยู่ได้อย่างยาวนาน คุณควรที่จะชาร์จเคสแบตสำรองอยู่ที่ประมาณ 80% ทั้งนี้ไม่ควรชาร์จให้เต็ม 100 % เพราะหากตั้งทิ้งไว้มันอาจชาร์จพลังงานเกินความจำเป็น ซึ่งมีผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ครับ