นอกจากผิวหน้าที่ต้องดูแลกันให้ดีแล้ว การดูแลผิวกายก็สำคัญไปไม่แพ้กันเลยครับ เพราะถ้าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าคนที่มีผิวดูสว่างใสหรือมีสีผิวที่ดูสม่ำเสมอจะดูสุขภาพดี เหมือนมีออร่าเหมือนติดสปอร์ตไลท์อยู่ที่ตัวตลอดเวลา ยิ่งถ้าหากดูแลหน้าเป็นอย่างดีด้วยแล้วละก็จะดูเป็นหนุ่มหล่อหน้าใสและผิวก็ดูสุขภาพดี แม้ว่าหน้าตาอาจจะเฉย ๆ แต่ก็ทำให้ดูสมาร์ทมีเสน่ห์ได้เลยละครับ (อ่านเพิ่มเติม เหตุผลที่ผู้ชายควรหันมาดูแลผิวกายของตัวเอง) ดังนั้นในวันนี้ผมจึงอยากจะเขียนแนะนำวิธีการดูแลผิวกายและ ‘ไอเทมดูแลผิวกายสำหรับผู้ชาย’ ว่ามีอะไรบ้างที่คุณควรซื้อติดเอาไว้ในบ้าน
ไอเทมสำหรับดูแลผิวกายของผู้ชาย
สบู่สำหรับการทำความสะอาดผิวกาย

ก่อนจะลงบำรุงอะไรก็แล้วแต่เราควรต้องทำความสะอาดร่างกายให้ดีก่อนครับ แน่นอนว่าไอเทมสำคัญคือสบู่ที่มีให้เลือกทั้งแบบก้อนและแบบเหลว ซึ่งต้องบอกว่าทั้งสองอย่างนี้ดีเหมือนกันครับ เพียงแต่ใครที่ผิวแห้งมาก ๆ ผมแนะนำเป็นสบู่เหลวจะดีกว่าเนื่องจากมันช่วยคงความความชื้นเอาไว้ได้ดีกว่า ทั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกสบู่ที่มีส่วนผสมของกลีเซอรีนหรือน้ำมันอย่าง โจโจบา, วิตามินอี หรือน้ำมันมะกอก
![]() Kraam Anti-Bacterial Cooling Body Wash | ![]() TROS Black Code Deo Shower Gel | ![]() BOND Perfume Shower Gel Loveshot | ![]() Jmella In England Tailor Body Wash |
ทามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ

ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยทามอยเจอร์ไรเซอร์เพราะไม่ชอบความเหนอะหนะ (แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็ไม่ชอบครับ) โดยถ้าหากคุณเป็นคนผิวมันหรือผิวกายไม่แห้งการลงมอยเจอร์ไรเซอร์ก็อาจไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แต่สำหรับคนที่ผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแนะนำว่าควรมีติดเอาไว้ในบ้านครับ เพราะหลังจากการอาบน้ำผิวของเราจะแห้งกว่าปกติ แต่ถ้าเรามีการลงมอยเจอร์ไรเซอร์มันจะเพิ่มความชุ่มชื้นป้องกันไม่ให้ผิวเป็นขุย ๆ แนะนำให้ทาช่วงข้อศอก, หัวเข่า, ไหล่ หรือตาตุ่ม
![]() CeraVe Moisturising Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย | ![]() Eucerin UREA REPAIR PLUS | ![]() NIVEA BODY MILK INTENSIVE MOISTURE | ![]() Smooth E White Skin Therapie Body Lotion |
ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน

ความน่ากลัวของแสงแดดไม่ได้มีเพียงแค่ความหมองคล้ำของผิวเท่านั้น แต่มันเกี่ยวข้องไปถึงมะเร็งผิวหนังด้วยครับ เนื่องจากรังสี UV ยิ่งโดยเฉพาะประเทศที่แสงถือว่ารุนแรงมาก หากไม่มีการป้องกันอะไรให้กับผิวเลยผิวจะโดนทำลาย, แก่เร็ว และอาจเกิดโรคร้ายได้เลย ดังนั้นการทาครีมกันแดดสำคัญมาก ทั้งนี้ยังมีทริกในการทาที่ถูกต้องด้วยครับ
- เลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ รวมไปถึงครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป
- ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที
- ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง ถ้าจำเป็นต้องออกแดดจัด ๆ
![]() Banana Boat Ultra Protect Sunscreen Lotion SPF50 PA++++ ครีมกันแดด | ![]() Derma:B Everyday Sun Block SPF50+ PA++++ | ![]() NIVEA Extra Bright Repair and Protect SPF 50 | ![]() Dr.PONG MirrorX Whitening Body Sunscreen ครีมกันแดด |
สครับผิว

การสครับผิวไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกหรือผิดธรรมชาติของผู้ชายเลยครับ หากใครมีทัศนคติหรือรู้สึกทะแม่ง ๆ กับการสครับผิวผมอยากให้ลองเปลี่ยนมุมมอง เพราะการขัดผิวช่วยได้หลายอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอและสว่างใสขึ้นถ้าหากดูแลอย่างสม่ำเสมอ ถ้าให้พูดเข้าใจง่าย ๆ คือเหมือนคนอาบน้ำ 10 ครั้งต่อวันดูแล้วสะอาดตาครับ
![]() PLU BODY SCRUB | ![]() Tree Hut Shea Sugar Scrub Vitamin C | ![]() NUXE REVE DE MIEL DELICIOUSLY NOURISHING BODY SCRUB | ![]() SUGAR GLUTA - Thanaka BHA |
บำรุงเท้าของตัวเองอยู่เสมอ

เท้าอาจจะเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตหรือสนใจสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะละเลยไปครับ หลังจากอาบน้ำแนะนำให้ทาโลชันเพื่อป้องกันเส้นเท้าและนิ้วเท้าแตก หรือถ้าให้ดีอาจใช้อุปกรณ์สำหรับกำจัดผิวหนังที่ตายให้หลุดออกไป
![]() PLU INTENSIVE REPAIR FOOT CREAM | ![]() BOOTS FOOTCARE | ![]() Oriental Princess Intense Hydration Foot Care Foot & Cracked Heel Therapy | ![]() SKIN SOFTENER GIFFARINE |
ใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นกาย

ขั้นตอนนี้อาจไม่ใช่เป็นการบำรุงหรือทำให้ผิวกายดูสว่างใสขึ้น แต่เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการดูแลตัวเอง เพราะโดยปกติแล้วผู้ชายจะมีเหงื่อออกเยอะมากกว่าผู้หญิงในบริเวณรอบวงแขน ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้นโรออนหรือสเปรย์ระงับกลิ่นเป็นอะไรที่ผู้ชายทุกคนควรจะใช้ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
![]() ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย Nike Colors Premium Deo Spray | ![]() ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อและระงับกลิ่นกาย NIVEA MEN Spray Deep Black | ![]() Focus Active Control โรลออนระงับกลิ่นกาย | ![]() DEOKLEAR Mineral Deodorant Classic Pure โรลออนสารส้ม |
เหตุผลที่ผู้ชายควรหันมาดูแลผิวกายของตัวเอง
1. ผิวหนังของทุกคนมีการหลุดลอกในทุกวัน
ผิวหนังของทุกคนมีการหลุดลอกทุกวันเป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะต้องมีการบำรุงเพื่อให้ความชุ่มชื้นและเป็นการช่วยให้ผิวตัวของเราไม่เกิดความหมองคล้ำจากการที่ร่างกายเกิดการผลัดผิว เมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะสังเกตได้ว่าผิวแลดูสว่างใสขึ้นครับ เนื่องจากเซลล์ผิวที่ตายหรือหลุดลอกออกมาได้ถูกกำจัดออกไป

2. ผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
สังเกตไหมครับว่าผู้ชายบางคนแทบจะไม่เคยดูแลหรือทำอะไรกับผิวร่างกายตัวเองเลย แต่ทำไมดูมีออร่าเหมือนได้รับการบำรุงมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ซึ่งเหตุผลคือกรรมพันธุ์ในแต่ละคนครับ การที่เพื่อนของเราไม่ได้ดูแลผิวแต่ผิวดีไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ต้องบำรุงเหมือนกับเพื่อน เพราะผิวของคนเราไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการดูแลผิวของตัวเองอย่างต่อเนื่องเมื่อแก่ตัวไปจะไม่รู้สึกเสียใจครับ
3. ทำให้ผิวของเราดูเด็ก คงความหล่อเอาไว้ได้นาน
หากใครอยากให้ผิวของตัวเองดูดีแม้ว่าจะก้าวเข้าสู่วัย 30 ปี สิ่งที่ควรทำตั้งแต่เนิ่น ๆ คือการบำรุงผิวกายของตัวเองในทุกวันเพื่อคงสุขภาพที่ดีของผิวเอาไว้ ส่วนคนที่ไม่เคยดูแลผิวหรือปล่อยปะละเลยไม่สนใจ แน่นอนว่าในช่วงวัยเด็กอาจไม่มีผลเพราะคอลลาเจนยังดีอยู่ แต่เมื่อเข้าสู่วัย 25 ปี การผลิตคอลลาเจนในร่างกายก็จะน้อยลงและเมื่อเข้าวัย 30 ปี ความเหี่ยวย่นก็ถามหาอย่างแน่นอน
4. ประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคต
อย่างที่บอกไปครับว่าการบำรุงผิวของตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้สุขภาพผิวของเราดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อแก่ตัวไปแล้วไปเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้ดูแลตัวเราอาจจะดูเด็กกว่า ซึ่งถ้าหากเราบำรุงผิวของตัวเองช้าหรือกลับตัวกลับใจในตอนแก่ แน่นอนว่าการบำรุงก็จะต้องเพิ่มมากกว่าเท่าตัว แต่กลับกันคนที่ดูแลอย่างต่อเนื่องสามารถคงสุขภาพผิวดี ๆ ได้ด้วยการบำรุงที่ไม่ต้องเยอะมากจนเกินไป เนื่องจากผิวดีเป็นทุนเดินตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
5. เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง

ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าผิวกระจ่างใสไม่ว่าจะตัวหรือหน้าจะทำให้เราแลดูเด็กลง ซึ่งความเด็กและสุขภาพผิวที่ดีช่วยให้เรามั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อต้องออกจากบ้าน นอกจากจะดูดีแล้วยังส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะดูแลผิวกายด้วยทั้ง 6 ไอเทมที่เราแนะนำกันในวันนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องดูแลตั้งแต่ภายในร่างกายด้วยการทางอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่โดยเน้นโปรตีนและผักผลไม้เป็นหลัก ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ (อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที) ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร และที่สำคัญนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ