แฟชั่นเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่เว็บไซต์ของเราได้นำเสนอหรือรีวิวในบ่อยครั้ง เนื่องจากเรามองว่า เสื้อผ้า, รองเท้า หรือกระเป๋าคือไอเทมเครื่องแต่งกายซึ่งช่วยให้เรามีบุคลิกและความมั่นใจเพิ่มขึ้นในทุกครั้งที่ก้าวเท้าออกจากบ้าน โดยหนึ่งในบทความที่ได้รับกระแสค่อนข้างจะดีมากนั่นคือ บทความเกี่ยวกับกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าแบรนด์เนมใบแรก ยี่ห้อไหนดี, กระเป๋า Louis Vuitton ผู้ชาย หรือ กระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชายในปี 2021
แต่อย่างไรก็ดีแฟชั่นถือเป็นอย่างหนึ่งซึ่งมีการพัฒนาและเกิดการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ปี โดยคนที่ตามอุตสาหกรรมเหล่านี้จะทราบดีว่าแบรนด์ลัคซูรีหรือแบรนด์ชั้นนำได้มีการปล่อยคอลเลชันออกมาใหม่ในทุกซีซั่นและทุกปี ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนสามารถตามเทรนด์และอัพเดทแฟชั่นใหม่ ๆ ดังนั้นวันนี้ผมจึงถือโอกาสมาแนะนำ ‘กระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชาย’ ให้คุณได้อ่านกันครับ
1. กระเป๋า Gucci สำหรับผู้ชาย : Gucci Tiger GG medium tote bag

แบรนด์จากประเทศ : อิตาลี
รุ่นที่แนะนำ : Gucci Tiger GG medium tote bag (ราคาประมาณ 76,000 บาท)
ด้วยการต้อนรับปี 2665 ซึ่งเป็นปีเสือ ดังนั้นทาง Gucci จึงได้มีการออก Collection ‘Gucci Tiger’ ออกมา ดังนั้นรุ่นที่ผมอยากจะแนะนำในวันนี้จะเป็น ‘Gucci Tiger GG medium tote bag’ ซึ่งความโดดเด่นของกระเป๋าใบนี้จะเป็นการใช้วัสดุอย่างไม้ Ebony สีเบจและเพิ่มดีเทลเล็กน้อยด้วยหนังสีน้ำตาล รวมไปถึงการลายปริ้นท์สีแดงสุดยูนีคที่เขียนว่า “Gucci Tiger”

โดยสีของกระเป๋าจะมีความเป็น Unisex คือคุณผู้หญิงสะพายก็ดูสมาร์ท ในขณะที่ผู้ชายถือก็ดูโก้เหมือนคนแต่งตัวเป็น อีกทั้งทรงกระเป๋าอย่าง Tote Bag ก็ค่อนข้างเหมาะกับ Lifte Style ของผู้ชาย คือเปิดปิดได้ง่ายและใส่ของได้เยอะสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีหูหิ้วและสายสะพายที่คุณจะสะพายหรือถือก็ได้แล้วแต่สะดวก
2. กระเป๋า Dior สำหรับผู้ชาย : Mini DIOR AND SACAI Saddle Bag

แบรนด์จากประเทศ : ฝรั่งเศส
รุ่นที่แนะนำ : MINI DIOR AND SACAI SADDLE BAG (ราคาประมาณ 105,000 บาท)
จริง ๆ แล้ว Dior เป็นอีกแบรนด์หนึ่งซึ่งดีไซน์กระเป๋าผู้ชายออกมาได้สวยเรียบหรูไม่แพ้ใคร แต่รุ่นที่ทำเอาแตะตาผมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘DIOR AND SACAI SADDLE BAG’ เพราะด้วยการออกแบบกระเป๋าในลักษณะของ Saddle Bag หรือถ้าพูดให้เห็นภาพคือ “กระเป๋าอานม้า” ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ฮิตของผู้หญิงหลาย ๆ คน แต่เมื่อมีการปรับและคุมโทนให้มีความ Musculine บอกได้เลยครับว่า “โครตเท่ห์”

ถึงแม้กระเป๋ารุ่น DIOR AND SACAI SADDLE BAG จะมีความสตรีท แต่ด้วยความเป็น Dior แน่นอนว่ากลิ่นอายลัคซูรี่ก็ยังคงไม่ได้หนีหายไปไหน เนื่องจากเทคนิคการตัดเย็บและการใช้หนังลูกวัวลายเกรน ซึ่งทำให้กระเป๋ามีความโฉบเฉี่ยวดูแพง ในขณะที่ฟังก์ชันของกระเป๋าก็ทำออกมาได้ไม่ผิดหวัง เพราะฝากระเป๋าจะเป็นแม่เหล็กและซิปที่เป็นได้อย่างแน่นหนา ส่วนสายสะพายจะเป็นไนลอนจากัวร์และเสริมด้วยแผ่นรอง ช่วยให้การสะพายมีความสบาย เหมาะมาก ๆ สำหรับการเพิ่มความเท่ห์ในวันหยุด
3. กระเป๋า Louis Vuitton สำหรับผู้ชาย : New Flap

แบรนด์จากประเทศ : ฝรั่งเศส
รุ่นที่แนะนำ : NEW FLAP (ราคาประมาณ 74,500 บาท)
หากพูดถึงแบรนด์เนมแน่นอนว่า ‘Louis Vuitton’ คงจะต้องเป็นลิสต์ลำดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน ซึ่งรุ่นน่าสนใจในช่วงนี้ผมยกให้เป็น ‘New Flap’ เพราะอย่างแรกเลยคือกระเป๋าจะมาในทรง Messenger ดังนั้นแน่นอนว่ามันจะมาพร้อมกับสายสะพายและขนาดของกระเป๋าที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถตอบโจทย์ในหลากหลายมิติ คือใช้ได้ทั้งในวันทำงานหรือการเดินห้างสรรพสินค้าในวันสบาย ๆ ถือเป็นกระเป๋าที่ค่อนข้างน่าลงทุนครับ

โดยถึงแม้ว่าการดีไซน์จะออกมาดูเรียบไม่หวือหวาอะไรมากมาย แต่หากมองลึกลงไปในดีเทลแล้วก็ต้องบอกว่าดีมาก ไม่ว่าจะเป็น การใช้หนังคาวไฮด์ Taiga ซึ่งเป็นหนังวัวอย่างดี ไม่ผ่านการฟอกแต่อย่างใด ดังนั้นลายที่ออกมาจะดูธรรมชาติและสวยเป็นพิเศษ ในขณะเดียวกันทางแบรนด์ยังได้ใส่ลูกเล่น ด้วยการแต่งขอบและใส่สัญลักษณ์ ‘LV’ ลงไป แน่นอนว่าความเรียบหรูของกระเป๋ารุ่นนี้โดดเด่นไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน
4. กระเป๋า Prada สำหรับผู้ชาย : Re-Nylon and leather backpack

แบรนด์จากประเทศ : อิตาลี
รุ่นที่แนะนำ : Re-Nylon and leather backpack (ราคาประมาณ 56,000 บาท)
ในวงการแฟชั่นยุคนี้กำลังพูดถึง ‘Fast Fashion’ กันค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และเทรนด์ในช่วงนี้ ผมจึงอยากแนะนำกระเป๋ารุ่น ‘Re-Nylon and leather backpack’ ของทาง Prada เนื่องจากผ้าไนลอนจะเป็น ‘Re-Nylon’ คือการนำเอาขยะจากในมหาสมุทรมาผ่านนวัฒกรรมชั้นดี เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกให้เป็นผ้าชั้นดีมาทำเป็นกระเป๋าหรู

ไฮไลท์น่าสนใจของกระเป๋ารุ่นคือการดีไซน์แบบไฮบริดหรือการผสมผสานระหว่างกระเป๋าเป้และสะพายข้างเข้าด้วยกัน ซึ่งการออกแบบในลักษณะนี้จะเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น คือสายของกระเป๋าจะมีเพียงแค่สายเดียวเหมือนกับกระเป๋าสะพายข้าง แต่ช่องใส่ของจะมีความคล้ายคลึงกับ Backpack ที่มีหลายช่องและใส่ของได้เยอะมาก ๆ ส่วนการใช้สีโทนดำก็จะมีข้อดีในเรื่องการแมตช์กับเสื้อผ้าง่าย ไม่ว่าภายในตู้เสื้อผ้าของคุณจะเป็นสีอะไร บอกได้เลยว่า ‘Re-Nylon and leather backpack’ แทบจะกลมกลืนไปได้ทั้งหมด
5. กระเป๋า Versace สำหรับผู้ชาย : La Greca Signature Tall Tote Bag

แบรนด์จากประเทศ : อิตาลี
รุ่นที่แนะนำ : LA GRECA SIGNATURE TALL TOTE BAG (ราคาประมาณ 51,000 บาท)
หากใครรู้สึกว่า Tote Bag รุ่น ‘Gucci Tiger’ ของทาง Gucci มีความคัลเลอร์ฟูลมากจนเกินไป ผมอยากแนะนำ Versace รุ่น ‘LA GRECA SIGNATURE TALL TOTE BAG’ เลยครับ เพราะโทนสีของกระเป๋าจะเป็นสีดำ ดังนั้นมันจะมีความเป็น Formal มากขึ้น สามารถแมตช์กับเสื้อสูทหรือเชิ้ตทำงานได้อย่างไม่น่าเกลียด

แต่ด้วยความเป็น Versace แน่นอนว่าการจะดีไซน์มาให้ดูเรียบไปทั้งกระเป๋าก็คงจะไม่ใช่ซิกเนเจอร์ของทางแบรนด์ ดังนั้นหากสังเกตจะเห็นว่าแพทเทิร์นหรือลายปริ้น ‘Greca-pattern’ รวมไปถึงโลโก้ซิลเวอร์โทน ซึ่งเป็นลูกเล่นที่เพิ่มความแพงไปอีกเท่าตัว นอกจากนี้ฟังก์ชันการใช้งานของกระเป๋าก็ดีมาก คือจะเน้นการใช้ง่ายและสะดวก เพราะมีการใส่หูหิ้ว 2 เส้น หรือถ้ารู้สึกขี้เกียจถือก็สามารถใส่สายสะพายเข้าไปได้ ในขณะเดียวกันช่องใส่ของก็ใหญ่ ใส่อุปกรณ์ทำงานหรือเครื่องเขียนได้ทั้งหมด
6. กระเป๋า Hermes สำหรับผู้ชาย : Hermes Ultrapla 24 bag

แบรนด์จากประเทศ : ฝรั่งเศส
รุ่นที่แนะนำ : Hermes Ultrapla 24 bag (ราคาประมาณ 136,000 บาท)
เพียงแค่ชื่อแบรนด์ก็สามารถการันตีได้ถึงคุณภาพและการดีไซน์อันเรียบหรูแล้วครับ ทั้งนี้ผมเชื่อว่าหลายคนอาจรู้จัก ‘Hermes’ จากรุ่น Kelly, Constance หรือ Birkin ซึ่งเป็นกระเป๋าทางฝากของผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกัน Hermes เองก็ออกแบบกระเป๋าผู้ชายออกมาได้น่าสนใจไม่แพ้กัน
โดยรุ่นที่อยากจะมาแนะนำคือ ‘Hermes Ultrapla 24 bag’ เพราะการดีไซน์ของกระเป๋าจะมีความเป็น ‘ultra flat’ หรือกระเป๋าทรงแบน เมื่อนำมาสะพายแล้วกระเป๋าจะแนบชิดติดกับตัว ทำให้รู้สึกไม่เทอะทะจนเกินไป ซึ่งถือเป็นฟังก์ชันที่ค่อนข้างจะเหมาะกับผู้ชาย Urban หรือหนุ่มชาวเมือง ซึ่งพกพาของติดตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างสมาร์ทโฟนหรือบัตรเครดิต สามารถเปิดช่องซิปด้านบนง่าย เน้นในเรื่องของความสะดวกสบายมาเป็นอันดับ 1 นอกจากนี้ผิวของกระเป๋าก็สวย, นุ่ม และทนทานมาก !!! เพราะวัสดุที่ใช้จะเป็นหนังลูกวัวสุดพรีเมียม ถึงแม้ว่าจะแต่งตัวง่าย ๆ ด้วยการใส่เสื้อขาวและกางเกงยีนส์ธรรมดาทั่วไป แต่เพียงแค่สะพายกระเป๋า Hermes Ultrapla 24 bag ลุคของคุณก็จะคอมพลีทแล้วครับ
7. กระเป๋า Coach สำหรับผู้ชาย : Hitch Backpack In Signature Canvas

แบรนด์จากประเทศ : สหรัฐอเมริกา
รุ่นที่แนะนำ : HITCH BACKPACK IN SIGNATURE CANVAS (ราคาประมาณ 29,900 บาท)
Coach รุ่น ‘HITCH BACKPACK IN SIGNATURE CANVAS’ มีฟังก์ชันที่ครบถ้วนและยังแมตช์กับเสื้อผ้าได้ไม่ยาก เพราะโทนสีของมันจะเป็นสีดำ มีการเพิ่มลูกเล่นตามแบบฉบับของแบรนด์ นั่นคือบนกระเป๋าจะมีลายปริ้นท์ซิกเนเจอร์ของ Coach เอาไว้ ฉะนั้นภาพรวมของกระเป๋าจะไม่ฉูดฉาด มีความเป็นทางการค่อนข้างมาก สามารถสะพายเข้าออฟฟิศไปได้อย่างถูกกาลเทศะ

ไม่เพียงเท่านั้นขนาดของช่องกระเป๋าก็ใหญ่มาก สามารถใส่แล็ปท็อปเข้าไปได้สบาย ๆ ทั้งยังมีช่องข้างไว้ใส่ของชิ้นเล็กอย่างเช่น สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เครื่องเขียนสำคัญ ดังนั้นกระเป๋ารุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหนุ่มออฟฟิศหรือจะเป็นหนุ่มนักศึกษาทั่วไปก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้น้ำหนักของมันก็จะเบา เมื่อสะพายแล้วจะรู้สึกสบายมาก ๆ ส่วนความทนทานของมันก็ไม่เป็นสองรองใคร เพราะเนื้อผ้าของมันมีการซับด้วย Microfiber และผ้าตาข่ายอย่างดี
8. กระเป๋า Burberry สำหรับผู้ชาย : Small Tri-tone Leather Olympia Bum Bag

แบรนด์จากประเทศ : อังกฤษ
รุ่นที่แนะนำ : Small Tri-tone Leather Olympia Bum Bag (ราคาประมาณ 50,000 บาท)
หลายคนอาจมอง Belt Bag หรือ Bum Bag เป็นแฟชั่นยุคเก่าตั้งแต่ 80’s/90’s หรือคิดว่าเป็นกระเป๋าที่แมตช์ให้ดูแพงได้ค่อนข้างจะยาก แต่ผมอยากให้คุณลองเปิดใจสักครั้งด้วย กระเป๋า Burberry รุ่น ‘Small Tri-tone Leather Olympia Bum Bag’ โดยจุดเด่นของมันจะอยู่ที่การใช้หนังกลับและเงาโค้ง ซี่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากศูนย์นิทรรศการ Olympia London

ทั้งนี้ด้วยสีโทน Light Acorn หรือ Poplar Green ดังนั้นกระเป๋าจะมีความเป็น Timeless อยู่สูงมาก คือไม่ว่าจะใส่ไปอีกกี่ 10 ปี หรือ 20 ปี มันก็จะไม่ดูเก่าและแก่อย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันฟังก์ชันของกระเป๋าจะเน้นไปที่ความสะดวกสบายเป็นหลัก โดยสายของกระเป๋าจะใส่เป็น Crossbody หรือจะคาดเอวชิค ๆ ก็ได้ ส่วนช่องใส่กระเป๋าก็ถือว่าค่อนข้างกว้าง ใส่ได้ทั้งกระเป๋าสตางค์, สมาร์ทโฟน หรือของสำคัญที่ต้องพกพาติดตัวได้แทบจะทั้งหมด หากได้ลองใช้แล้วจะเห็นถึงความโก้ดูแพงขึ้นได้แบบพริบตาเลยครับ
9. กระเป๋า Saint Laurent สำหรับผู้ชาย : Rive Gauche large tote bag in smooth leather

แบรนด์จากประเทศ : ฝรั่งเศส
รุ่นที่แนะนำ : RIVE GAUCHE LARGE TOTE BAG IN SMOOTH LEATHER (ราคาประมาณ 63,150 บาท)
Saint Laurent รุ่น ‘RIVE GAUCHE LARGE TOTE BAG IN SMOOTH LEATHER’ อาจไม่ได้มีฟังก์ชันที่หลากหลายเมื่อกับรุ่นหรือแบรนด์อื่น ๆ ที่ผมได้แนะนำไป แต่จุดเด่นของมันคือขนาดและช่องใส่ของที่เรียกว่า “ใหญ่เบิ้ม” ก็ยังได้ ชนิดที่คนต่างประเทศตั้งฉายาว่าเป็น “Rommy Interior” กันเลยทีเดียว ดังนั้นคุณสามารถใส่ของลงไปได้ตั้งแต่ปากกาชิ้นเล็กไปจนถึงโน๊ตบุ๊คหรือตุ๊กตาไซส์กลางค่อนไปทางใหญ่ได้เลยครับ

ดังนั้นกระเป๋าใบนี้จะอแดปไปใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ โดยคุณจะนำไปออฟฟิศหรือจะปรับไปใช้เป็นกระเป๋าเดินทางก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ฟังก์ชันปิดกระเป๋าจะเป็นกระดุมสแน็ปที่ปิดและเปิดง่าย ส่วนด้านในก็จะมีช่องซิปขนาดเล็กเพื่อใส่ของสำคัญแยกเอาไว้ให้หยิบง่ายยิ่งขึ้น หากใครที่เน้นใส่ของเยอะ แต่ยังอยากจะคงความเป็นแฟชั่นไว้อยู่ กระเป๋ารุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี
10. กระเป๋า Givenchy สำหรับผู้ชาย : Small Antigona Bag in Box Leather

แบรนด์จากประเทศ : ฝรั่งเศส
รุ่นที่แนะนำ : Small Antigona Bag in Box Leather (ราคาประมาณ 53,000 บาท)
‘Small Antigona’ มาในลักษณะของ Crossbody ที่จะเป็นทรง Box หรือกล่อง ผลิตมาจากหนังลูกวัวอย่างดี ดังนั้นผิวของกระเป๋าจะนิ่มเรียบและเงาเป็นพิเศษ ส่วนความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือการใส่ลูกเล่นหรือตกแต่งเพิ่มเติมเหล็กเงินรูปตัว U ทำให้กระเป๋าดูไม่เรียบจนเกินไป ถึงแม้ว่าทรงของกระเป๋าจะมีความเป็นสตรีท แต่ก็เป็นสตรีทที่เรียบหรูดูแพงมาก ๆ

นอกจากนี้สายของกระเป๋าก็จะเป็น Canvas สามารถจะปรับความยาวได้ตามต้องการ และมีช่องใส่ของซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งมือถือและของสำคัญชื้นเล็กชิ้นน้อย หากคุณผู้ชายคนไหนกำลังมองหากระเป๋าดีไซน์เท่ห์ ๆ แปลกใหม่ มาแมตช์กับเสื้อผ้าของตัวเอง และนำไปใช้ในช่วงวันหยุดหรือวันสบาย เช่น การไปเดินห้างช็อปปิ้ง ผมคิดว่า ‘Small Antigona’ เป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่ค่อนข้างดี
วิธีการดูแลรักษากระเป๋าหนังแบรนด์เนม
1. เก็บให้ห่างจากแสงแดด
รังสี UV หรือความแรงของแดดสามารถทำลายผิวของกระเป๋าได้ โดยถ้าหากคุณตั้งไว้ท่ามกลางแดดแรงเป็นเวลานาน จะทำให้สีเกิดความจางและหนังจะเสื่อมประสิทธิภาพลง ดังนั้นในทุกครั้งที่จะวางกระเป๋าไว้ตรงไหนก็แล้วแต่ อย่าลืมเช็กด้วยว่าจุดนั้นมีแสงสาดหรือส่องโดนกระเป๋าของเราหรือไม่
2. ใช้สเปรย์ป้องกันพ่นกระเป๋า
ในท้องตลาดทุกวันนี้มีการวางขายสเปรย์พ่นกระเป๋าแบรนด์เนม เพื่อป้องกันไม่ให้หนังหรือผ้าดูดซึมกับความชื้น, ฝุ่น หรือคราบสกปรก โดยถ้าหากกระเป๋าของเราโดนเข้ากับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มันก็สามารถจะเช็ดออกได้ง่าย ทั้งยังช่วยให้หนังคงสภาพได้สวยเหมือนเดิม
3. อย่าให้กระเป๋าสัมผัสกับน้ำโดยเด็ดขาด!
ฝนเป็นอะไรที่น่ากลัวและไม่ควรให้กระเป๋าแบรนด์เนมของเราโดนโดยเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เกิดคราบติดแน่น จนยากที่จะทำความสะอาดออกไป ดังนั้นถ้าหากในระหว่างการเดินอยู่บนถนนแล้วฝนเกิดตกขึ้นมา คุณควรจะหาที่ร่มหรือนำกระเป๋าใส่ไว้ในถุงอะไรก็แล้วแต่โดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้หนังของกระเป๋าได้รับความเสียหาย
4. พยายามให้กระเป๋าสะอาดอยู่เสมอ
หากเกิดความโชคร้ายที่กระเป๋าของเราไปโดนเข้ากับสิ่งสกปรกหรือความชื้นอะไรก็แล้วแต่ ผมแนะนำให้คุณรีบเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดโดยทันที แต่ผ้าที่ใช้ก็ควรจะเป็นผ้านิ่ม ไม่สร้างรอยขีดข่วนบนกระเป๋าของเรา และถ้าหากเป็นไปได้ควรจะเข้าร้านสปากระเป๋า เพื่อให้ทางร้านซึ่งมีความเป็นมืออาชีพซ่อมแซมหรือทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
5. หากมีโอกาสควรจะนำออกมาใช้
หลายคนอาจรู้สึกว่ากระเป๋าแบรนด์เนมมีราคาค่อนข้างแพง จนรู้สึกไม่อยากจะนำมาใช้ให้เกิดร่องรอบความเสียหายบนกระเป๋า แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะกระเป๋ามีไว้สำหรับการใช้งาน ดังนั้นความคุ้มค่าของเงินที่เสียไปคือการใช้งานอย่างเต็มที่