เมื่อพูดถึงรถยนต์แน่นอนว่ารายละเอียดของมันค่อนข้างเยอะมากครับ ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์และอะไหล่ต่าง ๆ ซึ่งในรถยนต์แต่ละยี่ห้อหรือแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถ SUV, รถยนต์ไฟฟ้า, อีโค่คาร์, รถ PPV หรือ ครอสโอเวอร์ ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามฟังก์ชันการใช้งาน แต่สิ่งหนึ่งที่ในรถทุกคันและทุกรุ่นต้องมีนั่นคือ กระจกมองหลัง และสำคัญมากเลยคือ ‘ใบปัดน้ำฝน’
โดยใบปัดน้ำฝนทำหน้าที่ในการเคลียร์น้ำหรือฝนที่เกาะอยู่บนกระจกหน้ารถและในบางรุ่นอาจติดตั้งกระจกหลังรถด้วย ซึ่งการเคลียร์น้ำฝนออกไปจะช่วยให้ทัศนวิสัยการขับรถยนต์ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะในช่วงฝนตกน้ำที่หยดลงมาบนหน้ากระจกจะทำให้เรามองทางไม่เห็นจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้น ‘ใบปัดน้ำฝน’ จึงจำเป็นต้องติดตั้งเอาไว้ในรถยนต์ทุกรุ่น
สัญญาณอะไรบ้างที่เตือนให้เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน ?
โดยปกติเสียงใบปัดน้ำฝนที่เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพจะมี ดังนี้
- มีเสียงแหลมหรือเสียงเสียดสีในขณะปัดน้ำฝน
- ปัดแบบติด ๆ ขัด ๆ หรือไม่ไหลลื่นแบบที่ควรเป็น
- ทำให้ทัศนวิสัยหรือการมองเห็นในระหว่างขับรถยนต์ไม่ดี แม้ว่าจะปัดได้ปกติก็ตาม
- เคลียร์น้ำได้ไม่ดี หรือทิ้งรอยเปื้อนเอาไว้บนกระจกรถยนต์
- ใบพัดแตกหรือมีส่วนใดส่วนหนึ่งหัก
ใบปัดน้ำฝนราคาแพง คุ้มค่ากับการลงทุน หรือไม่ ?
หลายคนอาจคิดว่าใบปัดน้ำฝนแต่ละตัวน่าจะมีคุณสมบัติที่ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ และอีกหนึ่งอย่างที่ค่อนข้างแบ่งแยกกันอย่างชัดเจนคือ ส่วนใหญ่แล้วใบปัดน้ำฝนราคาแพงจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือได้รับมาตรฐานดี จะทำงานได้ค่อนข้างดีกว่าใบปัดน้ำฝนราคาถูก ดังนั้นเหตุผลนี้ละครับผมถึงแนะนำให้ลงทุนกับใบพัดน้ำฝนที่ราคาแพงขึ้นมาสักหน่อย เพราะมันจะเคลียร์น้ำฝนบนหน้าจกรถยนต์ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าเป็นความปลอดภัยในการขับขี่ของเราด้วย
ใบปัดน้ำฝน ยี่ห้อไหนดี?
- ใบปัดน้ำฝน 3M มีความอ่อนโยนสูง ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน เคลียร์น้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ: 3M ใบปัดน้ำฝน รุ่นซิลิโคน Frameless
- ใบปัดน้ำฝน blaupunkt ออกแบบตามพลศาสตร์ กวาดน้ำฝนดี มีอายุการใช้งานยาวนาน: BLAUPUNKT ใบปัดน้ำฝน รุ่น Velocity Wiper Blade
- ใบปัดน้ำฝน guide ผ่านมาตรฐานระดับสากล มีการเคลือบ PPC ทนทานต่อรังสี UV: Guide Beyond ใบปัดน้ำฝนรุ่นไร้โครงนำเข้าจากไต้หวัน
- ใบปัดน้ำฝน denso เสียงระหว่างปัดฝนเบา ไม่ทิ้งคราบสกปรก ราคาไม่แพง: DENSO ใบปัดน้ำฝน เกรดแท้ติดรถญี่ปุ่น
- ใบปัดน้ำฝน bosch ผลิตจากซิลิโคน มีความทนทานสูง ออกแบบให้โค้งมนเข้ากับกระจกรถยนต์: ใบปัดน้ำฝน BOSCH รุ่น Clear Advantage
วิธีการเลือกใบปัดน้ำฝน
1. อ่านคู่มือรถยนต์
ใบปัดน้ำฝนผลิตออกมาให้เลือกซื้อหลายขนาดและในขณะเดียวกันรถยนต์ในหลาย ๆ เองก็สามารถรองรับการติดตั้งใบปัดน้ำฝนได้หลายขนาดเช่นเดียวกันครับ ดังนั้นเพื่อความถูกต้องผมอยากให้ทุกคนอ่านคู่มือรถยนต์ของตัวเองก่อนสั่งซื้อใบปัดน้ำฝนมาติดตั้ง เพราะในนั้นจะมีการบอกรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าใบปีดน้ำฝนขนาดไหนสามารถติดตั้งกับรถยนต์ของเราได้บ้าง
2. วัดขนาดของใบพัดอันเก่า
อีกหนึ่งวิธีที่ใช้ได้เช่นเดียวกันคือการวัดใบปัดน้ำฝนตัวเก่าของเราครับ โดยนำตลับเมตรมาทาบเพื่อดูว่ามันมีความยาวเท่าไหร่ จากนั้นก็นำไปเปรียบเทียบกับสินค้าตัวใหม่ที่เราจะซื้อ ซึ่งตรงนี้อาจง่ายกว่าการไปอ่านคู่มือรถยนต์ที่รายละเอียดค่อนข้างเยอะและต้องใช้เวลาในการหาข้อมูล
3. เลือกวัสดุที่มีความแข็งแรง
- ยาง โดยส่วนใหญ่แล้วใบปัดน้ำฝนจะมีเฟรมเป็นเหล็กและตัวปัดผลิตจากยาง ซึ่งข้อดีของวัสดุประเภทนี้คือปัดน้ำฝนได้ดีและมาในราคาที่ค่อนข้างถูก แต่ข้อเสียคือเมื่อยางโดนเข้ากับรังสี UV บ่อย ๆ มันอาจจะพังเร็วและทำให้คุณต้องเสียเงินเปลี่ยนบ่อย
- ซิลิโคน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่แพ้ไปกว่ายางเลยครับ เพราะในแต่ละจังหวะมันสามารถปัดน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เคลียร์น้ำบนกระจกได้ดีสุด ๆ แต่ข้อเสียคือราคาที่แพงกว่าแบบยางกว่า 1 – 2 เท่าตัว
4. ในระหว่างปัดน้ำฝนใบปัดควรจะทำงานได้เงียบ
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากแนะนำให้เลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่ทำงานเงียบ เพราะถ้าหากเลือกใบปัดน้ำฝนที่ทำงานเสียงดัง แน่นอนว่ามันส่งผลต่อการขับรถของเราซึ่งอาจทำให้เสียสมาธิได้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ให้เลือกสินค้าที่เคลมว่ามันทำงานเงียบครับ
3M ใบปัดน้ำฝน รุ่นซิลิโคน Frameless
ราคา 149 บาท*
3M รุ่นนี้เป็นแบบ Frameless ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่มันอ่อนโยนต่อกระจกของรถยนต์ ไม่มีปัญหาเกิดรอยขีดข่วนระหว่างการปัดอย่างแน่นอน อีกทั้งการใช้วัสดุอย่างซิลิโคนและการออกแบบให้เหมาะกับความโค้งมนของกระจกก็ดีมาก ทำให้เคลียร์น้ำฝนได้ดีสุด ๆ แม้ว่าฝนจะตกหนักตัวใบพัดก็เคลียร์จนทำให้ทัศนวิสัยของเราดีขึ้น นอกจากนี้ตัวซิลิโคนยังทนกับความร้อนและรังสี UV ได้อย่างยอดเยี่ยม อายุการใช้งานยาวนานตามมาตรฐานของแบรนด์ระดับโลกอย่าง 3M ครับ
จุดเด่น
- ทนต่อน้ำและความร้อนดีมาก
- ดีไซน์ออกมาให้เกิดความโค้งมนพอดีกับกระจกรถยนต์
- ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ซิลิโคน |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
BLAUPUNKT ใบปัดน้ำฝน รุ่น Velocity Wiper Blade
ราคา 269 บาท*
Blaupunkt ผ่านการเคลือบสารกราไฟท์และออกแบบให้เหมาะสำหรับการใช้ในประเทศเขตร้อน ดังนั้นมันจึงเหมาะมากสำหรับการใช้ในประเทศไทยของเรา โดยสินค้าตัวนี้ผ่านมาตรฐานของเยอรมัน ซึ่งตัวใบพัดมีความโค้งเข้ากับรูปกระจกของรถยนต์ได้เป็นอย่างดี มีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ นั่นหมายความว่ามันสามารถกวาดน้ำฝนได้อย่างทั่วถึง ทำให้การมองเห็นของเราดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก และที่สำคัญคือตัวเนื้อยางก็ดีเลยทีเดียวครับ เพราะทางแบรนด์เคลมเอาไว้เลยว่ามันปัดได้มากกว่า 500,000 ครั้งเลยทีเดียว ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนมาก ๆ
จุดเด่น
- อายุการใช้งานยาวนาน
- ดีไซน์ออกมาให้เคลียร์น้ำฝนได้อย่างหมดจด
- เหมาะกับประเทศเขตร้อน (ใช้ได้ดีในประเทศไทย)
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ยาง |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
Guide Beyond ใบปัดน้ำฝนรุ่นไร้โครงนำเข้าจากไต้หวัน
ราคา 300 บาท*
Guide Beyond อาจมีราคาที่แพงสักหน่อย แต่บอกได้เลยว่าสเปคเป็นแบบพรีเมียมเลยครับ อย่างแรกเลยคือวัสดุทั้งหมดเป็นเกรดมาตรฐานของอุตสาหกรรม โดยตัวยางจะเป็นยางที่ผ่านการเคลือบ PPC ช่วยยืดอายุการใช้งาน เพราะมันทนต่อน้ำและแดดได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้ใบปัดน้ำฝนก็ผลิตมาจากไต้หวันซึ่งมีมาตรฐานสูง ผ่านมาตรฐานสากลอย่าง ISO, ARDL และ ASDQ มาแล้วเรียบร้อย อีกทั้งขนาดของใบพัดก็มีให้เลือกเยอะมาก รองรับการติดตั้งรถยนต์ได้ทุกยี่ห้อ แม้แต่รถสปอร์ตในหลายยี่ห้อก็นำไปใช้ได้เช่นเดียวกัน
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานระดับสากล
- เคลือบ PPC ช่วยยืดอายุการใช้งาน
- วัสดุเป็นพรีเมียม ติดตั้งได้กับรถยนต์ทุกยี่ห้อ
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ยาง |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
NPW ใบปัดน้ำฝน ซิลิโคน Frameless
ราคา 250 บาท*
ใบปัดน้ำฝนของทาง NPW ผลิตมาจากยาง แต่ยางของทางแบรนด์จะพิเศษยางทั่วไป เพราะมันมีเทคโนโลยีใหม่อย่างเนปลอนซึ่งทนความร้อนได้ดีมาก ซึ่งตรงนี้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องความทนทานต่อรังสี UV เนื่องจากยางทั่วไปจะเสื่อมประสิทธิภาพเร็วกว่าปกติหากโดนเข้ากับแสงแดดบ่อยครั้ง ในขณะเดียวกันเองการดีไซน์ให้ขอบยางมีความเรียบคมก็ช่วยทำให้มันเคลียร์น้ำและสิ่งสกปรกดีมากหรือเรียกง่าย ๆ ว่าหมดจดครับ ส่วนการใส่ฟังก์ชันตัวล็อกอย่าง U-HOOK ก็ติดตั้งง่ายและใช้กับรถยนต์ได้เกือบทุกรุ่น
จุดเด่น
- มีตัวล็อกที่เป็น U-HOOK ใช้กับรถยนต์ได้เกือบทุกรุ่น
- มีเทคโนโลยีทำให้ทนต่อความร้อนจาก UV
- ผลิตจากยางพิเศษ ช่วยเพิ่มความทนทานและอายุการใช้งาน
- เคลียร์น้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ซิลิโคน |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
DENSO ใบปัดน้ำฝน เกรดแท้ติดรถญี่ปุ่น
ราคา 182 บาท*
Denso เป็นอีกหนึ่งแบรนด์หนึ่งที่นำใบปัดน้ำฝนมาเคลือบกราไฟต์คล้าย ๆ กับทาง ‘Blaupunkt’ ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานกับใบปัดน้ำฝนให้มีอายุการใช้งานนานขึ้นกว่าเดิม ส่วนข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ คือในระหว่างการปัดจะไม่มีเสียงให้เกิดความรำคาญหรือเสียสมาธิในระหว่างขับรถ และไม่ทิ้งคราบอะไรไว้บนกระจกอีกด้วยครับ ส่วนราคาก็ไม่แพงใช้ได้ยาวนานถึง 1 ปีเลยทีเดียว
จุดเด่น
- มีการเคลือบกราไฟต์ทำให้ทนทานยิ่งขึ้น
- ในระหว่างการปัดไม่มีเสียงทำให้รบกวนการขับรถ
- ไม่ทิ้งคราบและรอยขีดข่วนบนกระจก
- ราคาไม่แพง
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ยาง |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
ใบปัดน้ำฝน BOSCH รุ่น Clear Advantage
ราคา 130 บาท*
Bosch รุ่น Clear Advantage ถือเป็นรุ่นใหม่ที่การดีไซน์และวัสดุที่เลือกใช้จัดว่าดีมาก โดยยางจะเป็นยางสังเคราะห์แบบ 100% ทำให้มันทนทานต่อทุกสภาพอากาศและปัดได้อย่างนุ่มนวล ไม่ส่งผลเสียต่อสภาพของกระจกรถยนต์ รวมไปถึงเทคโนโลยีเด่น ๆ ของทางแบรนด์คือใบพัดจะเป็นแบบไร้โครง และยังมีเทคโนโลยีอีกตัวหนึ่งคือ ‘สปริงอีโวเดียม’ ซึ่งทำให้แรงกดสัมผัสเท่ากันตลอดทั้งใบ ช่วยเคลียร์น้ำฝนได้หมดจด และที่หลายคนน่าจะชอบกันคือติดตั้งง่ายมาก !
จุดเด่น
- ผลิตจากยางสังเคราะห์ ทนได้ทุกสภาพอากาศ
- มีเทคโนโลยีอย่างสปริงอีโวเดียม ทำให้มันสัมผัสกับกระจกได้อย่างแนบชิด เคลียร์น้ำฝนหมดจด
- ติดตั้งง่าย
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ยาง |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
OKM ใบปัดน้ำฝน wiper blade
ราคา 345 บาท*
OKM ใช้ยางที่มีความหนาประมาณ 8 มิลลิเมตร และเกรดของยาเป็นเกรดระดับ A เลยทีเดียว ดังนั้นการรีดน้ำจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าโดนแดดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานก็ไม่ทำให้ตัวใบพัดเกิดการซีดตัวลง ในขณะเดียวกันยังเสริมให้รถยนต์ของเราดูดียิ่งกว่าเดิม มีความแข็งแรงและทนทานไม่หักง่ายจนเกินไป ส่วนอายุการใช้งานก็ยังมีการการันตี เพราะทางแบรนด์มีประกันให้สูงถึง 1 ปีครับ
จุดเด่น
- ยางเป็นเกรด A แม้ว่าจะโดนแดดสีก็ไม่ซีด
- ความทนทานสูงมาก
- มีประกันนานถึง 1 ปี
- ดีไซน์สวย ทำให้รถยนต์ของเราดูดีขึ้น
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ยาง |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
ใบปัดก้านอ่อน CLULA
ราคา 70 บาท*
ถึงแม้ว่า Clula จะมาในราคาที่ไม่แพงมาก แต่ต้องยอมรับว่าวัสดุดีสวนทางกับราคาเลยครับ เพราะผลิตมาจากยางชนิด Soft Wiper หรือชนิดอ่อน ซึ่งปัดน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทำให้เกิดรอยบนกระจก ทั้งนี้มันยังทนแดดได้ดีเช่นกัน เหมาะกับการติดตั้งกับรถยนต์ที่ใช้ในไทยมาก ๆ และการดีไซน์ก็สวยทันสมัยมากครับ ติดตั้งแล้วทำให้รถยนต์ดูเท่ห์ยิ่งกว่าเดิม
จุดเด่น
- เป็นยางแบบ Soft Wiper ปัดน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตั้งกับรถยนต์ได้เกือบทุกรุ่น
- ดีไซน์สวยทันสมัย
- ราคาไม่แพง
| ขนาด | 14 - 26 นิ้ว |
|---|---|
| วัสดุ | ยาง |
| ทนต่อแสงแดด | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน บ่อยแค่ไหน ?
ตามหลักแล้วส่วนใหญ่จะแนะนำให้เปลี่ยนทุก ๆ 1 ปี เพราะด้วยใบปัดค่อนข้างสึกหรอได้ง่ายและถ้าหากใครจอดตากแดดเป็นเวลานาน ก็จะยิ่งทำให้มันเสื่อมประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าให้แนะนำผมอยากให้ทุกคนเช็กเสียงและการทำงานของใบปัดน้ำฝนว่ายังปกติอยู่หรือเปล่า ? ถ้าหากมีเสียงหรือจังหวะการทำงานผิดปกติก็ให้รีบเปลี่ยนโดยทันที นอกจากนี้อาจเช็กตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ได้ เพราะบนแพ็คเกจจะมีรายละเอียดในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานเขียนเอาไว้
วิธีทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการทำความสะอาด
- ผ้าขี้ริ้ว, ฟองน้ำ หรือผ้าเช็ดตัว
- ถังน้ำอุ่น, น้ำยาล้างจาน หรือสบู่เหลว
ขั้นตอนการทำความสะอาด
- ขั้นตอนที่ 1 : ทำความสะอาดรถยนต์และกระจกก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 : ยกแขนใบปัดน้ำฝนขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำความสะอาด
- ขั้นตอนที่ 3 : เติมน้ำอุ่นในลงไปถังและผสมให้เข้ากับสบู่เหลว จากนั้นให้ใช้ผ้าหรือฟองน้ำจุ่มลงไปและนำมาเช็ดใบปัดน้ำฝนให้ครบทุกจุด
- ขั้นตอนที่ 4 : นำผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขี้ริ้วมาเช็ดทำความสะอาดฟองสบู่ให้แห้งและพับเก็บใบปัดน้ำฝนกลับที่เดิม
