อาการท้องเสียสามารถเกิดขึ้นได้กับแมวทุกตัว เพราะในบางครั้งการปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน ไม่ว่าจะเป็น อาหารแมวสูตรโซเดียมต่ำ, อาหารแมวเกรด Holistic หรืออาหารแมวปราศจากธัญพืช อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้บ้าง เนื่องจากลำไส้หรือระบบย่อยอาหารปรับตัวไม่ทัน แต่ในบางครั้งอาการท้องเสียอาจไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ เพราะสาเหตุของการท้องเสียยังอาจเกี่ยวข้องไปถึงเรื่องของการติดเชื้อแบคทีเรียด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้การปล่อยเอาไว้จึงอาจเป็นอันตรายต่อแมวได้ โดยถ้าหากเป็นการท้องเสียทั่วไป คุณอาจให้เขารับประทานพรีไบโอติกหรือไฟเบอร์เพื่อปรับการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น ช่วยให้ขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ แต่ในกรณีของการติดเชื้อแบคทีเรียอาจจำเป็นต้องใช้ยาที่มีส่วนประกอบในการฆ่าเชื้อ ซึ่งในวันนี้ผมจึงอยากจะมาแชร์ความรู้และแนะนำยาสำหรับการแก้ท้องเสียแมวมาฝากกัน
เช็กอย่างไรว่าแมวของคุณกำลังท้องเสีย ? (1)
หากแมวที่บ้านของใครได้รับการฝึกเข้าห้องน้ำอย่างถูกต้องจะค่อนข้างสังเกตได้ง่าย เพราะถ้าหากน้องเริ่มอึไม่เป็นที่เป็นทางและอึที่ออกมามีลักษณะเป็นน้ำอย่างชัดเจน รวมไปถึงในกระบะมีลักษณะของอึซึ่งไม่เป็นก้อนนั่นก็แสดงว่าน้องแมวภายในบ้านกำลังเจอกับปัญหาท้องเสีย ส่วนที่เลี้ยงแมวระบบเปิดหรือปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตนอกบ้าน ตรงนี้อาจสังเกตยากเล็กน้อยเพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าลักษณะของอุจจาระเป็นอย่างไร แต่ถ้าหากแมวเป็นสายพันธุ์ขนยาวผมแนะนำให้สังเกตขนบริเวณหางหรือก้นของเขา โดยถ้าหากมีคราบอุจจาระติดอยู่มันอาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าน้องเหมียวกำลังมีปัญหาเรื่องอุจจาระ

อาการท้องเสียในแมวอันตรายหรือไม่ ?
ความน่ากังวลของอาการท้องเสียขึ้นอยู่กับว่าระยะเวลาและอาการร่วม อย่างเช่น ในบางเคสอาจมีเลือดหรือแสดงอาการป่วยบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ไข้, อาเจียน, ปวดท้อง, เบื่ออาหาร หรืออ่อนแรง โดยอาการเหล่านี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง หากน้องแมวของใครมีอาการเหล่านี้แนะนำให้รีบพาน้องไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน เพราะมันอาจจะไม่ใช้อาการท้องเสียทั่ว ๆ ไป
|
อาการท้องเสียของแมวเกิดจากอะไร ?อาการท้องเสียเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
|
อาการท้องเสียในแมวสามารถใช้อะไรรักษาได้บ้าง ?
การรักษาอาการท้องเสียแมวมีอยู่หลากหลายวิธี มีทั้งแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือแบบใช้ยา โดยวิธีการรักษาในเบื้องต้นจะมีทั้งหมด 5 วิธี
1. เปลี่ยนอาหาร
การปรับเปลี่ยนอาหารอาจมีผลต่อการขับถ่ายของแมวได้ ซึ่งวิธีการที่ถูกต้องคือให้พยายามลดปริมาณอาหารใหม่ลง แล้วให้ใส่อาหารเดิมลงไปเพื่อดูอาการว่าแมวของเรายังมีอาการท้องเสียอยู่หรือเปล่า ? ถ้าหากสังเกตเห็นว่าอาการท้องเสียหายไปเมื่อให้น้องแมวกลับมารับประทานอาหารตัวเดิม นั่นอาจหมายความว่าส่วนผสมในอาหารใหม่อาจมีส่วนผสมบางอย่างที่มีผลต่อลำไส้แมว

ดังนั้นผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อนครับ ในขณะเดียวกันเจ้าของอาจเปลี่ยนอาหารเร็วจนเกินไปจนลำไส้อาจปรับตัวไม่ทัน ซึ่งการแก้ไขคือค่อย ๆ เพิ่มอาหารใหม่ลงไปจาก 10% เป็น 30% และเพิ่มเรื่อย ๆ ไปตามลำดับเพื่อให้ร่างกายของน้องเหมียวได้ปรับสภาพ
2. ให้รับประทานน้ำและอิเล็กโทรไลต์
พยายามเติมน้ำเปล่าให้เต็มถ้วยอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อแมวท้องเสียเขาจะสูญเสียน้ำร่างกายไปเยอะมาก ซึ่งแน่นอนว่าการดื่มน้ำในช่วงนี้เป็นอะไรที่สำคัญมาก นอกจากนี้เจ้าของอาจเปลี่ยนอาหารเม็ดเป็นอาหารเปียกเป็นหลักในช่วงนี้ก็ได้ เนื่องจากในมีส่วนผสมของน้ำอยู่ค่อนข้างเยอะ เป็นการเพิ่มน้ำให้กับร่างกายอีกทาง

3. ไฟเบอร์
อาการท้องเสียบางอย่างอาจดีขึ้นได้หากรับประทานไฟเบอร์หรืออาหารที่มีเส้นใยค่อนข้างเยอะ หากใครสังเกตเห็นว่าแมวของตัวเองท้องเสียบ่อย ๆ แนะนำให้ลองเลือกอาหารแมวที่มีไฟเบอร์เยอะ ทั้งนี้คุณสามารถผสมลงไปในอาหารเดิมหรือจะปรับมาใช้เป็นอาหารหลักก็ได้ครับ
4. พรีไบโอติก
พรีไบโอติกเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่ทำช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อแมวได้รับประทานพรีไบโอติกเข้าไป แบคทีเรียก็จะไปปรับการทำงานของลำไส้ให้กลับมาทำงานดีดังเดิม ซึ่งตรงนี้สามารถช่วยให้อาการท้องเสียของเราดีขึ้นตามไปด้วย

5. ยาแก้ท้องเสีย
หากจำเป็นต้องใช้ยาแก้ท้องเสีย แนะนำให้เลือกยาที่มีส่วนประกอบที่ค่อนข้างจะปลอดภัย แต่ถ้าหากเป็นยาแรง ๆ หรือยาชนิดอื่นผมแนะนำให้ปรึกษากับสัตวแพทย์เท่านั้น เพราะยาแก้ท้องเสียถือว่าค่อนข้างอันตรายหากรับประทานในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง
![]() | Petme lyte เพ็ทมีไลท์ เกลือแร่ผสมวิตามินกลิ่นตับ | |
![]() | Gut Booster โพรไบโอติก สุนัขและแมว แก้ท้องเสีย | |
![]() | LactoBif Pet สำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ปรับสมดุลลำไส้ ช่วยเรื่องขับถ่าย |
ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เมื่อไหร่ ?

เมื่อเกิดอาการท้องเสียผมแนะนำให้เจ้าของประเมินอยู่ตลอด เพราะถ้าหากอาการแย่ลงเราจะได้พาน้องแมวไปพบกับสัตวแพทย์ก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งนี้อาการที่ต้องพาแมวไปหาหมอโดยทันทีมี ดังนี้
- แมวเด็ก, แมวอายุเยอะ หรือแมวที่มีปัญหาสุขภาพ เพราะแมวในกลุ่มนี้มีโอกาสเกิดอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ
- เกิดอาการอาเจียน, เซื่องซึม, หดหู่ หรืออาการเจ็บปวดตามร่างกาย
- อุจจาระมีเลือดปนอยู่เป็นสีดำหรือสีน้ำตาล
สิ่งที่จะต้องเตรียมข้อมูลไปบอกสัตวแพทย์เมื่อพาแมวไปรักษาอาการท้องเสีย
ข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร, สภาพแวดล้อม, พฤติกรรม รวมไปถึงวิธีการเลี้ยงว่าเลี้ยงแบบระบบปิดหรือระบบเปิด โดยรายละเอียดในส่วนนี้สามารถช่วยให้สัตวแพทย์วินิจฉัยว่าอาการท้องเสียเกิดมาจากสาเหตุอะไร เพราะถ้าหากเจ้าของไม่ทราบอะไรเลย มันจะทำให้การตรวจยากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นก่อนพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์อย่าลืมเตรียมรายละเอียดในส่วนนี้ด้วยครับ
Reference :