ในการที่จะเลี้ยงแมวหนึ่งตัว เราควรที่จะต้องเตรียมความพร้อมรวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายให้กับน้องแมว ไม่ว่าจะเป็น ทรายแมว, กระบะทรายแมว, ของเล่นแมว, กระเป๋าใส่แมว, แชมพูอาบน้ำแมว, น้ำยาเช็ดหูสัตว์เลี้ยง, ยาหยอดเห็บหมัด, ปลอกคอกำจัดเห็บหมัด, ปลอกคอแมว, น้ำพุแมว, เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ และที่สำคัญที่สุดเลยคือ อาหารแมว จากแบรนด์คุณภาพไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Whiskas, Hills หรือ Royal Canin
ซึ่งอาหารแมวก็จะมีอยู่หลายประเภท อย่างเช่น นมสำหรับแมว, อาหารลูกแมว หรือ อาหารเปียกแมว หรืออีกหนึ่งสิ่งที่เป็นตัวเสริมหรือช่วยแก้ไขปัญหาในแมวที่เกิดอาการป่วยจนไม่รับประทานอาหาร รวมไปถึงสารอาหารสำคัญบางอย่างที่จะต้องใช้ในการบำรุงอวัยวะสำคัญที่เกิดปัญหา ซึ่งอาหารที่ว่านี้คือ ‘อาหารเสริมแมว’ ครับ
ประเภทของอาหารเสริมแมว
1. อาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุ
อาหารเสริมประเภทนี้จะมีสารอาหารหลักเป็นวิตามิน ซึ่งวิตามินถือว่าเป็นสารอาหารสำคัญที่แมวทุกตัวควรจะได้รับครับ เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุจะเข้าไปบำรุงร่างกายของแมว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกระดูก ที่วิตามินจะเข้าไปเสริมทำให้กระดูกให้แข็งแรงไม่เปราะบาง รวมไปถึงฟันของน้องแมว ซึ่งทำให้แมวสามารถที่จะสามารถเคี้ยวอาหารได้ดีและช่วยทำให้แมวไม่เกิดปัญหาฟันในอนาคต (1)
2. อาหารเสริมกรดไขมัน
โอเมก้า 3 ไม่ได้เป็นเพียงสารอาหารที่ดีต่อมนุษย์เพียงเท่านั้น แต่มันยังมีประโยชน์ต่อน้องแมวของเราอีกด้วย ซึ่งโอเมก้า 3 ที่ว่านี้ จะช่วยทำให้ขนของแมวมีความเงางามและยังช่วยป้องกันการเกิดขนร่วง รวมไปถึงการช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย, ตับ, สมอง, ตา, ข้อ และหัวใจ ดังนั้นโอเมก้า 3 จำเป็นสำหรับแมวมาก ๆ ครับ (1)
3. โพรไบโอติกส์
โพรไปโอติกส์เป็นแบคทีเรียชนิดดีที่เข้าไปช่วยระบบย่อยอาหาร โดยในโพรไบโอติกส์จะมีจุลินทรีย์ อย่างแลคโตบาซิลัส ซึ่งจุลินทรีย์ตัวนี้จะอยู่ในโยเกิร์ต ทั้งนี้จุลินทรีย์จะทำหน้าที่ในการควบคุมไม่ให้แบคทีเรียตัวร้ายเจริญเติบโตขึ้นในลำไส้
อาหารเสริม สำคัญสำหรับแมว หรือไม่ ?
ผู้ผลิตอาหารแมวส่วนใหญ่จะมีการแนะนำให้คนเลี้ยงสัตว์เพิ่มอาหารเสริมให้แก่แมวของเรา เมื่อทำให้แมวนั้นมีสุขภาพที่ดีและอยู่กับเจ้าของได้นานขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการให้สารอาหารที่มากจนเกินไปหรือเกินความต้องการของน้องแมว ก็อาจทำให้มันมีผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นการให้อาหารเสริมควรที่จะปรึกษาสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน

ทั้งนี้สัตวแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำว่าอาหารเสริมนั้นควรให้เมื่อน้องแมวป่วยหรือมีปัญหาทางด้านสุขภาพ อย่างเช่นแมวที่มีอาการเบื่ออาหารหรือมีปัญหาทางด้านโรคต่าง ๆ ที่จะมีการบำรุงเฉพาะจุด ทั้งยังรวมไปถึงแม่แมวที่ต้องการสารอาหารสำคัญในการบำรุงครรภ์ครับ
วิธีการเลือกอาหารเสริมสำหรับแมว
1. เลือกให้ตรงกับปัญหาของแมว
การที่จะทำให้อาหารเสริมของแมวเห็นผลและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด เราควรที่จะต้องทราบปัญหาที่เกิดขึ้น รวมไปถึงสารอาหารที่แมวของเราต้องการ เนื่องจากหากเราเลือกอาหารเสริมที่ไม่ตรงกับความต้องการ แน่นอนว่าอาหารเสริมที่ซื้อมาก็จะไม่ได้ผล นอกจากนี้ยังอาจเป็นผลเสียให้น้องแมวของเราได้อีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์และขอคำปรึกษาจากคุณหมอว่าควรเลือกอาหารเสริมประเภทไหนครับ
2. เลือกอาหารเสริมที่ผ่านมาตรฐาน
สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ เนื่องจากน้องแมวได้รับประทานอาหารเสริมที่ไม่ถูกต้องตามโภชนาการหรือไม่ได้มาตรฐาน อาหารเหล่านั้นอาจเข้าไปทำให้น้องแมวเกิดอาการเจ็บป่วยหรือเกิดโรคร้ายแรงได้เมื่อรับประทานเข้าไปต่อเนื่อง ดังนั้นเราควรเช็คให้ดี ๆ ว่าอาหารเสริมที่เราจะซื้อนั้นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับหรือผ่านมาตรฐานหรือไม่ครับ
3. วันหมดอายุของผลิตภัณฑ์
หากคุณซื้ออาหารเสริมแมวจากร้านค้าในออนไลน์ ผมแนะนำว่าคุณควรสอบถามทางเจ้าของร้านให้แน่ใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณจะซื้อนั้นหมดอายุในปีไหน เพราะหากเราซื้อมาแล้วพบว่าผลิตภัณฑ์หมดอายุแน่นอนว่ามันจะทำให้เราเสียเงินโดยใช่เหตุ ทั้งนี้หากให้อาหารเสริมตัวนั้นกับน้องแมว ผลกระทบที่ตามมาอาจจะทำให้แมวเสียสุขภาพได้ครับ
อาหารเสริมแมวตัวไหนที่ควรหลีกเลี่ยง
- วิตามินดี : หากแมวได้รับวิตามินดีเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวได้โดยตรงครับ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่มีวิตตามินดี (2)
- กระเทียม : กระเทียมเป็นผักที่แมวไม่สามารถกินได้ครับ เพราะมันจะไปกระทบต่อเม็ดเลือดแดง ซึ่งอาจทำให้เป็นโรคเลือดจางได้ครับ (3)
- หัวหอม : หัวหอมจะส่งผลกระทบต่อตัวของน้องแมวคล้าย ๆ กับกระเทียม หากทานมาก ๆ อาจทำให้น้องแมวเกิดโรคเลือดจางได้ในอนาคต (3)
- แคลเซียม : จริง ๆ แล้วแคลเซียมนั้นมีประโยชน์นะครับ แต่ถ้าให้ในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้น้องแมวเกิดโรคได้ หากได้รับแคลเซียมเกินความต้องการอย่างต่อเนื่อง
References: