เมื่อพูดถึง “กระเป๋าแบรนด์เนม” จากแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Hermès, Louis Vuitton, Dior หรือ Chanel หลายคนก็คงจะทราบเป็นอย่างดีว่ากระเป๋าแต่ละใบนั้นมีราคาสูงมาก ซึ่งบางรุ่นอาจมีราคาพุ่งถึง 6-7 หลักเลยทีเดียว แต่ภายใต้ราคาที่สูงลิ่วขนาดนี้ก็ย่อมเป็นการได้มาซึ่งคุณภาพระดับพรีเมียมที่สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี แถมกระเป๋าแบรนด์เนมส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกระเป๋าอมตะที่ซื้อมาใช้แค่ใบเดียว แต่สามารถใช้งานได้นานและยังใช้ได้ทุกโอกาสอีกด้วย
นอกจากนี้การซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมก็ยังถือเป็นการลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่ทำกำไรได้ดีมาก ๆ หากรุ่นไหนเป็นรุ่นที่ต้องการ หาซื้อยาก หรือทางแบรนด์เลิกผลิตไปแล้ว กระเป๋ารุ่นนั้นก็ยิ่งมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเท่าตัว ดังนั้นไม่ว่าคุณจะซื้อมาใช้เองหรือซื้อมาขายต่อก็มีแต่กำไรค่ะ
แต่ก็ใช่ว่ากระเป๋าแบรนด์เนมทุก ๆ แบรนด์จะสามารถสร้างมูลค่าเหนือกาลเวลาได้หมด หากคุณยังเป็นมือใหม่เพิ่งหัดลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนม เราขอแนะนำ “กระเป๋าจากแบรนด์ Chanel” แบรนด์ที่ครองตำแหน่งกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูน่าลงทุนมากที่สุด เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพ, มีความหรูหราในตัว, เป็นที่ต้องการ, มีการผลิตออกมาจำกัด และมีการปรับขึ้นราคาจากทางแบรนด์เองเกือบทุก ๆ ปี
กระเป๋า chanel รุ่นไหนดีเหมาะกับคุณที่สุด?
- กระเป๋าระดับตำนานที่มีลมหายใจ มีความวินเทจสูงให้ลุคที่ดูเนี๊ยบ แลดูสุขุมและเป็นทางการ : Chanel 2.55
- กระเป๋าสุดคลาสสิค เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกลุคและไม่เคยเอาท์จากเทรนด์แฟชั่น แถมยังทำกำไรได้ดี : Chanel Classic Flap Bag
- กระเป๋าสุดเท่ ดีไซน์อันโดดเด่น ให้ลุคที่ทะมัดทะแมงไม่ซ้ำใคร : BOY CHANEL
- กระเป๋าสตางค์ที่มาพร้อมสาย พกพาง่ายและสะดวก เป็นทั้งกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าสะพายในใบเดียว : Classic Wallet On Chain
- กระเป๋าช้อปปิ้งใบใหญ่พร้อมช่องใส่ของที่กว้าง สวยงามใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง : Maxi Shopping Bag
- กระเป๋าที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก สวยงาม เลอค่าโดยเกิดจากการรวมซิกเนเจอร์จากรุ่นดังมาไว้ในหนึ่งเดียว : กระเป๋า Chanel 19
ทำไมต้องเป็นกระเป๋าแบรนด์ Chanel
สำหรับ Chanel แล้วถือว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของน้ำหอม Chanel, เครื่องสำอาง Chanel, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ หรือแอคเซสเซอรี่ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทาง Chanel ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แต่ที่ดูจะโดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นสินค้าจำพวกกระเป๋า ที่หลาย ๆ คนต่างยกให้เป็นแบรนด์ที่น่าลงทุนลำดับต้น ๆ แต่ถ้าตัดเรื่องทำกำไรออกไป ยังไงกระเป๋า Chanel ก็ยังถือเป็นกระเป๋าที่ควรค่าแก่การครอบครองอยู่ดีค่ะ เพราะด้วยดีไซน์การออกแบบที่หรูหรา คลาสสิกที่พ่วงมากับคุณภาพที่ดีเยี่ยม ก็ถือเป็นอะไรที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
ดังนั้นวันนี้ไม่ว่าคุณสาว ๆ จะซื้อเพื่อเป็นการลงทุนหรือซื้อใช้งานจริง 10 รุ่นที่เราเลือกมานำเสนอในวันนี้ถือว่าเป็นที่สุดของกระเป๋าชาเนลแล้วค่ะ และโปรดพึงระลึกไว้เสมอว่าไม่ว่ากระเป๋าที่คุณสนใจจะอยู่ 1 ใน 10 ลิสต์นี้หรือไม่ ขอแค่มาจากแบรนด์ชาเนล นั่นก็เท่ากับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ
1. กระเป๋าสะพาย Chanel 2.55

สำหรับกระเป๋าใบแรกของชาเนลนั่นก็คือ Chanel 2.55 กระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นดังระดับตำนานที่ครองใจสาว ๆ ทุกยุคทุกสมัยและถือเป็นรุ่นที่เป็นหนึ่งในไอคอนิคของแบรนด์ชาเนลเลยก็ได้ค่ะ Chanel 2.55 เป็นกระเป๋าสะพายไหล่ที่ถูกเปิดตัวในปี 1955 ซึ่งตัวเลขของปีที่ถือกำเนิดก็ได้กลายมาเป็นชื่อรุ่นในเวลาต่อมาค่ะ
ความพิเศษของ Chanel 2.55 มีด้วยกันหลายจุด เริ่มจากวัสดุก่อนเลยแล้วกันนะคะ สำหรับวัสุดนั้นจะเป็นหนังลูกวัวย่นคุณภาพเยี่ยม แบบที่หาข้อติไม่ได้เลยทีเดียว โดยทางแบรนด์ได้นำมาตัดเย็บด้วยลายเพชรทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ประกอบด้วยตัวล็อกรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีชื่อ มาดมัวแซลล์ ซึ่งก็เป็นตัวล็อกแบบดั้งเดิมของชาเนล และที่พิเศษอีกอย่างที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือสายโซ่โลหะที่จะเป็นสายโลหะล้วนแบบแบนที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซิกเนอจอร์ของรุ่นนี้ค่ะ อะไหล่ทั้งหมดจะมาในสีทองตัดสลับกับสีดำสวยงามจับใจ โดยรวมถือว่า Chanel 2.55 นั้นเป็นกระเป๋าที่สะพายแล้วให้ความรู้สึกที่ดูวินเทจ คลาสสิกและดูทรงเสน่ห์ด้วยตัววัสดุและด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานสมกับเป็นรุ่นท็อปของแบรนด์จริง ๆ ค่ะ
2. กระเป๋าสะพายคลาสสิก Chanel Classic

Chanel คลาสสิคเป็นกระเป๋าจากชาเนลอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่ควรค่าแก่การที่ไว้ในครอบครอง แค่ชื่อรุ่นก็คงจะเดาค่ะได้ว่ากระเป๋าใบนี้นั้นมีความสวยงามและดูคลาสสิกขนาดไหน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะมองจากซ้าย ขวา หน้า หลัง ก็ดูโดดเด่นไม่ใช่น้อย แถมยังเป็นกระเป๋าสุด Practical ที่สามารถใช้งานได้จริง มีหลากหลายขนาดให้เลือก แต่ขนาดที่ได้รับความนิยมจะเป็น Chanel คลาสสิค 10 นิ้ว ที่ดูจะเหมาะกับการใช้งานสำหรับสาว ๆ มาก ๆ เพราะจุของจุกจิกได้เยอะ และที่สำคัญเลยคือแมทช์เข้ากับทุกลุคทุกชุด เพิ่มความปังปุริเย่แบบฉุดไม่อยู่เลยละค่ะ
สำหรับด้านหน้าก็จะพร้อมกับล็อกรูปตัว CC ไขว้ที่ออกแบบโดย Karl Lagerfeld และสายสะพายจะเป็นสายโซ่ที่ร้อยด้วยหนังทำมือทุกเส้น ด้านในมีกระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อยรวมถึงด้านหลังก็มีช่องสำรับใส่ของด้วยค่ะ ถือว่าชาเนลคลาสสสิคเกิดมาเพื่อเป็นคู่สร้างคู่สมกับสาว ๆ แบบเรา ๆ จริง ๆ เลยละค่ะ
หมายเหตุ : สำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ก็จะทำมาจากหนังที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หนังแกะหรือหนังคาเวียร์ แต่ถ้าจะให้แนะนำจริง ๆ สำหรับคนที่ต้องการซื้อมาใช้งาน หนังคาเวียร์ดูจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าค่ะ เพราะถึงแม้ว่าหนังแกะจะมีเมนื้อสัมผัสนิ่มแต่การดูแลรักษาค่อนข้างยากกว่าค่ะ
3. กระเป๋าสะพาย BOY CHANEL

BOY CHANEL คือหนึ่งในกระเป๋าชาเนลที่เป็นที่หมายปองของสาว ๆ หลายคนค่ะเพราะมีหน้าตาที่ดูหล่อเหลา เท่ ทันสมัย และดูคลาสสิกในตัว ถือเป็นการผสมผสานที่เข้ากันได้อย่างลงตัวจนไม่สามารถสรรหาคำใด ๆ มานิยามความเพอร์เฟกต์ของรุ่นนี้ได้เลยทีเดียว
กระเป๋ารุ่นนี้จะมีดีไซน์ที่เก๋ไก๋และทันสมัยมากกว่ากระเป๋ารุ่น Classic Flap และมีหน้าตาที่ดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยจะเป็นทรงที่ดูออกเป็นสี่เหลี่ยมที่ค่อนข้างชัดเจน คล้ายกับทรงกล่องโดยมุมจะไม่ได้โค้งมาก ขนาดของกระเป๋าจุของได้ค่อนข้างเยอะใช้งานจริงได้ ใส่ออกงานก็เลิศ ตัวกระเป๋าทำจากหนังที่ค่อนข้างจะหลากหลายผสมกับฮาร์ดแวร์ที่มีทั้งทองและสีรูทีเนียมให้เลือก ซึ่งขนาดที่นิยมสำหรับทรงชาเนลบอยก็คือขนาด 10 นิ้วนั่นเองค่ะ
สายของรุ่นนี้จะมีความพิเศษและแตกต่างกับ 2 รุ่นที่ผ่านมาคือจะเป็นสายที่มีการผสมระหว่างโลหะกับหนัง โดยสายส่วนที่ติดกับตัวกระเป๋านั้นจะเป็นสีรูทีเนียม แต่ส่วนที่สะพายบ่านั้นจะทำมาจากหนัง ช่วยลดอาการปวดบ่าจากการที่โซ่กดทับได้ดีทำให้สะพายได้นานขึ้นค่ะ อีกทั้งน้ำหนักก็กำลังดี ไม่หนักไม่เบาเกินไปอีกด้วย สรุปภาพรวมคือรุ่นนี้นั้นมีความคลาสสิกสูง ไม่โอนเอียงไปทางโมเดิร์นหรือวินเทจข้างใดข้างหนึ่ง แถมยังมีกลิ่นอายของสาวร็อคแอนด์โรลเบา ๆ ด้วยค่ะ
4. กระเป๋าโฮโบ Chanel Gabrielle Small Hobo Bag

Chanel Gabrielle เป็นกระเป๋าที่เปิดตัวในปี 2017 แต่ความนิยมกระเป๋ารุ่นนี้ก็มาแรงแบบไม่ขาดสายทำให้ Chanel Gabrielle เลยกลายมาเป็นอีกหนึ่งรุ่นถูกจัดให้อยู่ใน top 10 ในวันนี้ค่ะ สำหรับรุ่นนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งผลงานการดีไซน์โดย Karl Lagerfeld อีกเช่นเคย โดยดีไซเนอร์มากฝีมือท่านนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Gabrielle Chanel จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมชื่อรุ่นถึงเป็นชื่อของเจ้าของแบรนด์นะคะ กระเป๋าชาเนลรุ่นนี้ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างร่วมสมัย มีกลิ่นอายของสาวเท่และความวินเทจคลาสสิกเหนือกาลเวลา ซึ่งก็เป็นการเบรนทั้งหมดให้เข้ากันอย่างลงตัวมาก ๆ
ดีไซน์ของ Chanel Gabrielle ไซส์ small รุ่นนี้ก็จะมีดสีที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมนั่นก็คือสีดำและสีขาว-ดำ (สำหรับสีทูโทนวขาวดำเป็นสีที่ยัยเกี๊ยวหรือสาวเจนนี่จากวง Blackpink เลือกใช้ค่ะ) ตัวกระเป๋าจะเป็นหนังย่นที่ให้ความรู้สึกวินเทจ ส่วนสายสะพายจะเป็นการผสมระหว่างสายโซ่ร้อยหนังและหนังล้วนและมีสีโซ่มากถึง 3 สีทำให้ง่ายต่อการสวมใส่ร่วมกับเครื่องประดับทั้งเงินและทองค่ะ และที่ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของสาว ๆ ก็คงจะเป็นรูปแบบการสะพายที่สาว ๆ สามารถครีเอทได้ตามต้องการ ซึ่งต้องบอกเลยค่ะว่าวิธีการสะพายนั้นไม่ตายตัว จะสะพายข้างแบบธรรมดา สะพายไหล่ จะสะพายแบบ crossbody รูปตัววี หรือแบบไหน ๆ ก็ดูดีได้แบบไร้ที่ติ
5. กระเป๋าถือ Chanel 19

ก็ต้องขอบคุณทางชาเนลมาก ๆ เลยค่ะที่ใช้ชื่อที่จำง่ายและแต่ละรุ่นต่างก็มีภาพจำที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ และ Chanel 19 เองก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน โดยชื่อรุ่นนั้นสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชื่อนั้นสุดแสนจะลึกซึ้งและมีความหมายต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก สำหรับตัวเลข 19 นั้นสื่อถึงปี ค.ศ. ที่เป็นปีเปิดตัวเลกชันนี้นี่เองค่ะ อีกทั้งตัวเลข 19 ก็ยังเป็นวันเกิดของ Coco Chanel อีกด้วย แต่ที่ดูจะพิเศษที่สุดแต่ในขณะเดียวกันก็แอบรู้สึกหน่วงเล็กน้อยนั่นก็คือ Chanel 19 เป็นผลงานทิ้งทวนของ Karl Lagerfeld ก่อนที่เจ้าตัวจะเสียชีวิต แต่ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะจากไปตลอดกาลแต่ผลงานของเขานั้นก็ได้กลายเป็นตำนานที่ยากที่จะลืมเลือนไปแล้วละค่ะ
Chanel 19 เป็นกระเป๋าที่รวบรวมเอาความโดดเด่นของกระเป๋าชาเนลแต่ละรุ่นมารวมไว้ในใบนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโลโก CC ไขว้ที่ดึงมาจากรุ่นคลาสสิก สายโซ่สำหรับถือมีลักษณะที่เหมือนกันกับชาเนลบอย และมีการออกแบบโซ่สะพายถักหนังแบบเดียวกับรุ่น Gabrielle เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวและทำออกมาได้สวยงามมาก ๆ เลยทีเดียว สำหรับหนังก็จะมีค่อนข้างที่จะหลากหลายแต่สำหรับที่เราเลือกมาในวันนี้ก็จะเป็นหนังแกะที่ให้ความนุ่มฟู ตัดเย็บด้วยลายเย็บด้วยแพทเทิร์นรูปเพชรขนาดใหญ่สุดเก๋ พร้อมกับมีกระเป๋าใส่มือถือและของจุกจิกด้านหลังด้วยค่ะ สำหรับ Chanel 19 ก็จัดว่าเป็นกระเป๋าที่ใช้งานได้จริง จุของได้เยอะ ทั้งสะพายแล้วก็ดูทันสมัยและดูอินเทรนด์สุด ๆ เลยค่ะ ดังนั้น Chanel 19 ก็เป็นอีกหนึ่งใบที่จัดอยู่ในลิสต์ must have ไอเทมนะคะสาว ๆ
6. กระเป๋า Chanel Vanity Case พร้อมสายโซ่

ต่อมาก็ก็จะเป็นกระเป๋าสะพายที่เรียกได้ว่ามาในรูปทรงที่ดูแปลกตาและมีความยูนิคไม่ซ้ำใครจริง ๆ สำหรับรุ่นนี้ก็จะเป็นกระเป๋า Chanel Vanity Case ที่มาในรูปทรงลูกบาศก์ โดยจะค่อนข้างอยู่ทรง สาว ๆ ไม่ต้องกังวลว่าเรื่องทรงจะเสียเลยค่ะเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับรุ่นนี้ แต่อาจจะติดปัญหาในเรื่องของการใช้งานที่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นแล้วสาว ๆ จะใส่ของจุกจิกได้ไม่เยอะเหมือนกระเป๋าทั่วไป ดังนั้นการนำมาใช้งานในเป็น everyday bag อาจจะยังไม่ใช่คำตอบที่ใช่ที่สุด แต่ถ้าหากต้องการซื้อใช้งานสำหรับออกงานหรือแต่งตัวเก๋ ๆ กระเป๋ารุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่สาว ๆ ควรรับไว้พิจารณาค่ะ
สำหรับ Chanel Vanity Case นั้นจะใช้ซิปเป็นตัวเปิดปิดการใช้งานค่ะ โดยซิปนั้นจะอยู่ด้วยบนและเปิดได้รอบทำให้การเปิดหยิบของนั้นทำได้สะดวกและง่ายดายมาก ๆ ตัวกระเป๋านั้นสามารถหิ้วก็ได้หรือสาว ๆ จะสะพายก็ได้เช่นกันค่ะ โดยสายสะพายนั้นก็จะเป็นโลหะถักสลับกับหนัง ด้านหน้าก็จะมีโลโก้ CC ไขว้ ดีไซน์ต่าง ๆ ดูสวยงาม ไม่ซับซ้อน เพียงแต่ใช้รูปทรงที่โดดเด่นอย่างเดียวก็ทำให้กระเป๋าใบนี้เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ได้แล้ว ดังนั้นในเรื่องดีเทลอื่น ๆ ก็ไม่ได้ประโคมใส่ให้มันดูเยอะเกินไปจึงเป็นกระเป๋าอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่เหมาะสำหรับสาว ๆ ในทุก ๆ สไตล์ จะสังเกตได้ว่าเดี๋ยวนี้กระเป๋าทรงนี้มาแรงมากเพราะมีออกมาให้เห็นกันหลากหลายแบรนด์ แต่สำหรับ Chanel Vanity Case นั้นก็ถือเป็นหนึ่งใน Vanity Bag ที่ฮอตฮิตที่สุดค่ะ
7. กระเป๋าสตางค์พร้อมสายโซ่คลาสสิค Classic Wallet On Chain หรือรุ่น WOC

มาต่อกันที่อีกหนึ่งรุ่นที่ถือเป็นรุ่นที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันหรืออาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ่อย ๆเพราะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมและมีการรีวิวกันบ่อยมากๆ กับรุ่น Classic Wallet On Chain หรือที่เรียกสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า WOC เป็นกระเป๋าที่น่าสนใจมาก ๆ ค่ะว่าว่าน้องเหมาะกับการใช้งานที่เน้นความหรูหราที่ต้องใส่ชุดราตรีกรุยกราย สาว ๆ ก็สามารถที่จะสะพายน้องไปได้ก็ทำให้คุณสาว ๆ ดูดีไม่น้อย หรือหากว่าจะเป็นลุคธรรมดา เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ไม่ติดนะคะเพราะน้องสามารถแมทช์ได้กับทุกลุคได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก ๆ
Classic Wallet On Chain มาในสไตล์กระเป๋าสตางค์ที่มีโซ่สะพายทำให้สามารถพกพาไปไหนมาได้สะดวกมากขึ้นด้วยขนาดที่กะทัดกำลังดีและน้ำหนักที่เบา เหมาะสำหรับการพกพาของใช้ที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับหนังที่นิยมก็จะมีทั้งหนังคาเวียร์และหนังแกะ อย่างที่เห็นจากดีเทลของใบนี้นะคะ การตัดเย็บก็ยังคงไว้ซึ่งซิกเนเจอร์ของชาเนลนั่นก็คือลายข้าวหลามตัดที่เป็นงานละเอียด ประณีต และเนี๊ยบสุด ๆ ภายในนั้นมาพร้อมช่องใส่ของมากมายไม่ว่าจะเป็นของใช้หรือของจำพวกบัตรต่าง ๆ ก็ทำหยิบใช้งานได้สะดวกมากขึ้น นอกจากจะสวยงามแล้วยังอเนกประสงค์จุของได้หลากหลายและจุดได้เยอะเลยด้วย สายนั้นจะเป็นสายโซ่ถักหนังขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่รับกับขนาดของกระเป๋าได้พอดีเลยค่ะ สำหรับใบนี้สามารถใช้คำว่าเรียบหรูดูแพงได้เลยค่ะสาว ๆ
8. กระเป๋าคาดเอว Chanel Belt Bag

หลังจากที่เราได้หยิบกระเป๋าชาเนลรุ่นคลาสสิคที่ดูหรูหรามีระดับมานำเสนอกันไปบ้างแล้ว คราวนี้ก็จะขอเปลี่ยนมาดูกระเป๋าชาเนลในมุมเท่ ๆ กันบ้างดีกว่านะคะ สำหรับกระเป๋าคาดเอวรุ่นนี้ก็จะมาจากคอลเลกชันครูซ 2021/2022 ซึ่งเป็นคอลล่าสุดของทางชาเนลนั่นเอง โดยกระเป๋าคาดเอวใบนี้ก็ได้ไปปรากฎตัวอยู่ในลุคที่ 10 ในลุคเท่ ๆ ดูทะมัดทะแมงเหมาะสำหรับสาว ๆ ยุคสมัยใหม่ ๆ มาก ๆ เลยละค่ะ
สำหรับกระเป๋าใบนี้มีสีดำสนิทผลิตมาจากหนังแพะที่แข็งแรง ทนทาน และมีเนื้อที่เรียบเนียน มาพร้อมกับอะไหล่ 3 สี อันได้แก่ โลหะสีทอง, โลหะสีเงิน และโลหะเคลือบรูทีเนียมสีดำ นอกจากนี้ก็ยังมีสายโซ่ที่ถักด้วยเส้นหนังสองเส้น โดยจะมีทั้งสีเงินและสีทองห้อยท้ายถือเป็นการเพิ่มดีเทลให้กระเป๋ารุ่นนี้ดูสง่ามากยิ่งขึ้น กระเป๋าค่อนข้างเล็กกะทัดรัดและมีการตกแต่งด้วยโลโก้สีทอง และด้วยการใช้งานสำหรับคาดเอวรุ่นนี้ก็ถือว่าไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ค่ะเพราะมาพร้อมกับรูที่เจาะมาให้ตลอดเส้นและแต่งด้วยอะไหล่สลับสี ซึ่งนอกจากจะเพื่อเป็นการตกแต่งให้ดูงดงามแล้วก็ยังสามารถใช้งานในการปรับความกระชับได้ด้วยเช่นกัน
9. กระเป๋าคลัทช์พร้อมสายโซ่คลาสสิค Classic Clutch With Chain

ต่อมาก็จะเป็นกระเป๋าใบจิ๋วสุดน่ารักที่ราคาก็เบา ๆ ไม่ถึงหกหลัก แต่หน้าตานั้นก็ดูดีสมกับเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมจากตระกูลชาเนลจริง ๆ เลยทีเดียว สำหรับน้องใบนี้นั้นเป็นกระเป๋าครัทช์ขนาดเล็กแต่ก็ไม่เล็กจิ๋วจนถึงขนาดใส่อะไรไม่ได้เลยนะคะ ซึ่งก็ต้องบอกเลยค่ะว่าเดี๋ยวนี้กระเป๋าครัทช์ได้กลายเป็นหนึ่งไอเท็มติดตัวที่สาว ๆ จะขาดไปไม่ได้แล้วค่ะ สำหรับในรุ่นนี้ก็เป็นครัทช์ที่จับคู่มากับสายเชนถักสลับด้วยหนังสีดำตัดด้วยอะไหล่สีทองสวยงาม พอรวมกันแล้วก็ดูเก๋ไก๋จริง ๆ เลยค่ะ
สำหรับหนังที่ทางชาเนลเลือกนำมาใช้งานนั้นเป็นหนังคาเวียร์ที่เป็นที่นิยมสำหรับสาวกชาเนล เนื้อคาเวียร์เป็นลายเกรนที่มีความละเอียดกลาง ๆ เม็ดไม่ได้ใหญ่มาก แถมยังมีความไชนี่เป็นประกายนิด ๆ เต็มสิบไปหักเเรื่องของความปัง และแน่นอนค่ะว่าเมื่อเป็นหนังคาเวียร์แล้วนั้นทำให้กระเป๋ารุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องของการดูแลรักษาที่ง่ายดาย ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ดังนั้นสำหรับน้องใบนี้สาว ๆ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมาก เพราะน้องเค้าค่อนข้างที่จะแข็งแรง ไม่ต้องทะนุถนอมแบบในหินก็ยังได้ แถมค่าตัวก็รับไหว ไม่โหดมาก เห็นอย่างนี้แล้วสาว ๆ ไม่สนใจรับน้องไปดูแลหน่อยเหรอค่ะ?
10. กระเป๋าช้อปปิ้ง Maxi Shopping Bag

ก่อนหน้านี้สาว ๆ ก็ได้ยลโฉมกระเป๋ารุ่นต่าง ๆ จากชาเนลกันไปเยอะแล้ว ทั้งกระเป๋ารุ่นยอดนิยม กระเป๋าประจำซีซั่นในแบบต่าง ๆ คราวนี้เราก็มาดูกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถใส่สัมภาระได้จุใจกันบ้างดีกว่า ซึ่งกระเป๋าใบนี้จะเป็นกระเป๋าช้อปปิ้งใบใหญ่ที่สาว ๆ จะซื้อใช้งานก็สวย หรือจะซื้อให้คุณแฟนก็ดูดีไม่น้อยเพราะด้วยดีไซน์ที่ดูค่อนข้างเรียบหรู นำเสนอความทันสมัยที่มาพร้อมกับการใช้งานฟังก์ชันในการใช้งานที่จัดเต็ม โดยมีช่องใส่ของขนาดใหญ่พร้อมกับช่องซิปขนาดเล็ก ซึ่งคราวนี้สาว ๆ หนุ่ม ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องหอบของพะรุงพะรังอีกต่อไปแล้วค่ะ
โดยกระเป๋ารุ่นนี้นั้นมาจากพรีคอลเลกชัน spring-summer 2022 ผลิตมาจากหนังลูกวัวเนื้อเรียบสวย และดูแลค่อนข้างง่าย ดังนั้นจึงเหมาะเจาะกับรูปแบบการใช้งานทั่วไปมาก ๆ เลยค่ะ อีกทั้งหนังยังไม่ได้ถูกขึ้นรูปมาด้วย ดังนั้นแล้วการใช้งานจึงค่อนข้างที่จะอิสระเพราะไม่ได้ถูกจำกัดความจุ แถมยังไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าสุดที่รักจะเสียทรงอีกด้วย ซึ่งในรุ่นนี้ก็จะมาพร้อมกับอะไหล่สีทอง หูจับทำมาจากหนังส่วนสายสะพายเป็นการผนวกกันระหว่างโซ่ล้วนและหนังสำหรับไว้รองบ่าทำให้สะพายได้นาน แม้ของจะหนักเพียงไหนคุณสาว ๆ ก็ไม่มีบ่น และแน่นอนค่ะสิ่งที่ขาดไม่ได้ในกระเป๋าทุกใบนั่นก็คือโลโก้นั่นเอง โดยจะมาในรูปแบบของล็อกโลโก้ ‘CC’ ไขว้ ซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ชาเนล ใครได้ไปใบนี้รับรองว่าคุ้มใช้งานได้จริงแน่นอนค่ะคุณสาว ๆ
ประวัติของกระเป๋า Chanel
สำหรับแบรนด์ระดับโลกแบรนด์นี้เกิดจากผู้หญิงที่มีชื่อว่า Coco Chanel หรือ Gabrielle Bonheur Chanel เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.1883 แต่ก่อนที่เธอจะประสบความสำเร็จและไต่เต้ามายืนอยู่ในตำแหน่งผู้นำทางด้านแฟชั่นได้นั้น ต้องบอกเลยว่าเส้นทางชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ใคร ๆ คิดหรอกนะคะ

โดยเธอนั้นเกิดมาท่ามกลางความลำบากแล้วก็ยังเป็นเด็กกำพร้าแม่อีกด้วย ทำให้ชีวิตของเธอนั้นต้องไปอาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ในช่วงนี้เองก็เป็นช่วงที่เธอได้เรียนรู้เรื่องของการตัดเย็บเสื้อผ้าทำให้เธอค่อนข้างที่จะช่ำชองในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี และถึงแม้เธอจะมีต้นทุนชีวิตในวัยเด็กไม่ได้สูงมาก แต่เมื่อเธอโตขึ้นก็เหมือนโอกาสจะก้าวเข้ามาหาเธอเองด้วยซ้ำ ซึ่งเธอก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือโดยเธอได้รับความช่วยเหลือจากชายอันเป็นที่รักและได้เริ่มต้นเส้นทางสายแฟชั่นด้วยการเปิดร้านขายหมวกในปี 1910 และก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และเธอก็ได้เริ่มต้นผลิตเสื้อผ้าเป็นสินค้ารายต่อมาค่ะ
ต่อมาในปี 1921 ก็ได้มีการเปิดตัว ‘CHANEL N°5’ น้ำหอมอันโด่งดังทั่วโลก และจากนั้นก็มีไลน์สินค้าอื่น ๆ ตามมาอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเมคอัพ, น้ำหอม, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และอื่น ๆ จนกระทั่งผ่านมาในปี 1955 กาเบรียล ชาเนลก็ได้สร้างสรรค์กระเป๋าสะพายลายควิลท์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ต้องการมาจนถึงทุกวันนี้ โดยใช้ชื่อว่า “2.55”

Chanel 2.55 เป็นการตั้งชื่อตามวันและปีที่ถือกำเนิดกระเป๋ารุ่นนี้ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลกแฟชั่นในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ เนื่องจากในสมัยนั้นผู้หญิงชนชั้นสูงมักจะนิยมกระเป๋าถือซึ่งทำให้ดูเทอะทะ ใช้งานได้ลำบาก และด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชอบคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ และชอบคิดนอกกรอบอยู่ตลอดเวลา เธอจึงได้ออกแบบและเปิดตัวรุ่นสะพายไหล่ซึ่งก็เป็นไปตามคาด กระเป๋าของเธอได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลาม ซึ่งไม่ใช่แค่ในยุคนั้นแต่ยังคงเป็นอย่างนั้นเรื่อยมาจนมาถึงปัจจุบันค่ะ และถึงแม้ว่ากระเป๋ารุ่นนี้จะมีดีไซน์ที่มีอายุที่นานนม แต่ด้วยความคลาสสิกเหนือกาลเวลาที่เป็นเหมือนดีเอ็นเอที่เด่นชัดของ Chanel 2.55 ก็ยิ่งทำให้เป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมดูเหมือนว่าราคาก็จะสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เช่นกัน
การเลือกกระเป๋า Chanel
1. สไตล์
สำหรับสไตล์ของชาเนลก็จะมีอยู่ด้วยกันสองสามแบบ แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหากระเป๋าเพื่อที่จะลงทุนระยะยาว คุณควรเลือกกระเป๋าคลาสสิกแบบมีฝาปิด แต่แน่นอนว่านอกจากรุ่นคลาสสิคแล้วก็มีตัวเลือกอื่น ๆ ให้คุณได้เลือกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตามฤดูกาล, บอยชาเนล, WOC หรือ Gabrielle
1.1 Classic Bags
กระเป๋าชาเนลคลาสสิคมีหลายขนาดตั้งแต่ไซส์เล็กพิเศษ, ไซส์มินิ, ไซส์เล็ก, ไซส์กลาง, ไซส์จัมโบ้ และไซส์แม็กซี่ แต่ขนาดกลางจะเป็นขนาดที่นิยมมากที่สุดในรุ่นนี้ค่ะ โดนกระเป๋ารุ่นใหม่จะมีฝาปิด 2 ชั้น (Double Flap) ซึ่งก็หมายความว่ามีฝาปิดแผ่นเล็ก ๆ อยู่ภายในกระเป๋านั่นเองค่ะ สาว ๆ บางคนอาจจะชอบกระเป๋าแบบ Single Flap เพราะมันจะเบากว่าเล็กน้อย แต่บางคนกลับชอบแบบใหม่มากกว่า ทั้งนี้ก็เพราะว่ามันช่วยรักษารูปทรงของกระเป๋าได้ดีกว่า ซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่มีถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะคะ
1.2 Chanel 2.55
Chanel 2.55 เป็นกระเป๋าถือใบแรกและเป็นใบที่มีความหมายต่อแบรนด์และสุภาพสตรีมาก ๆ มี “ล็อกมาดมัวแซล” ดั้งเดิมซึ่งถือเป็นตัวล็อคที่มีความพิเศษ อีกทั้งยังว่ากันว่าในกระเป๋ารุ่น 2.55 นี้ยังมีกระเป๋าด้านในซ่อนไว้ ซึ่ง Coco Chanel ได้ออกแบบไว้เพื่อเก็บจดหมายรักจากคนรักของเธอค่ะ 2.55 เป็นที่นิยมกันทั่วโลกและแน่นอนว่าสำหรับที่ไทยแล้วก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะว่ากระเป๋ารุ่นนี้เป็นกระเป๋าที่ไร้กาลเวลา ใช้งานตลอดกาลโดยให้ลุคที่ดูสุขุมและเก๋ไก๋แบบที่แบรนด์อื่น ๆ หรือรุ่นอื่น ๆ ไม่สามารถให้ได้นั่นเอง
1.3 Seasonal Bags
กระเป๋าที่ออกมาในซีซั่นต่าง ๆ นั้นให้ลุคที่ดูสนุกสนานและดูเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร แต่ข้อเสียเปรียบคือส่วนใหญ่แล้วการขายต่อก็จะได้ราคาที่อาจไม่มากเท่าแบบคลาสสิกรุ่นอื่น ๆ ส่วนข้อดีคือคุณสาว ๆ สามารถมีกระเป๋าที่หาได้ยาก ดีไม่ดีคุณอาจจะเป็นคนเดียวในงานปาร์ตี้ที่มีกระเป๋าที่เป็น Seasonal ก็ได้นะคะ
1.4 Chanel Boy Bag
สำหรับกระเป๋าชาเนลบอยหรือบอยชาเนลนั้นเป็นกระเป๋าที่มีสไตล์สตรีทที่ทันสมัยกว่าในกระเป๋าสะพายแบบคลาสสิกทั่วไป มีความเท่ ดูทะมัดทะแมง และเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่มีความต้องการค่อนข้างสูงเช่นกันค่ะ
1.5 Chanel Gabrielle
Chanel Gabrielle เป็นกระเป๋าที่มีเส่นห์ค่อนข้างที่จะเฉพาะตัว มีความคล่องตัวสูง กระเป๋ารุ่นนี้เป็นการผสมผสานระหว่างหนังทั่วไปที่เราเห็น ๆ กันในรุ่นก่อน ๆ และฐานหนังที่มั่นคงแข็งแรงเข้าด้วยกัน ไม่ใช่แค่เพื่อเป็นการสร้างภาพจำให้กับรุ่น Gabrielle เท่านั้นนะคะแต่เป็นออกแบบให้ใช้งานได้จริง จุของได้เยอะ แถมรุ้นนี้ก็มีหลากหลายขนาดและผลิตมาจากวัสดุที่หลากหลายอีกเช่นกันค่ะ
1.6 Chanel Wallet On Chain (WOC)
และสำหรับกระเป๋าสไตล์สุดท้ายก็คือ WOC ในทางเทคนิคถือว่าเป็น ” small leather good ” (บางครั้งเรียกว่า SLG) แต่มักใช้เป็นกระเป๋าถือเสียมากกว่า สำหรับสไตล์นี้ก็มีความต้องการที่สูงเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีราคาถูกกว่าฝาปิดแบบคลาสสิกนั่นเองค่ะ
2. วัสดุ
การเลือกประเภทหนังที่เหมาะกับคุณและไลฟ์สไตล์ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ค่ะ ซึ่งหนังหรือวัสดุที่นำมาผลิตเป็นกระเป๋าชาเนลก็มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท แต่ในวันนี้เราขออนุญาตหยิบมาพูดถึงกันแค่ประเภทของหนังที่เป็นนิยมมากที่สุดก็แล้วกันนะคะ
2.1 หนังคาเวียร์ (Caviar)
หนังคาเวียร์จริง ๆ แล้วก็คือหนังวัวแต่จะมีกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันเล็กน้อยเพื่อทำให้เกิดลาย (Grained) เป็นหนังที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง มีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ (จึงเป็นชื่อคาเวียร์) เป็นหนังที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานกว่าหนังลูกแกะเพราะรับการสึกหรอได้มากกว่า มีอายุการใช้งานที่นาน ไม่เกิดรอยขีดข่วนง่ายและไม่เซนซิทีฟต่อน้ำมากนักจึงตอบโจทย์ได้ดีหากว่าคุณสาว ๆ ต้องการกระเป๋าที่ใช้งานจริงในทุก ๆ วัน
2.2 หนังแกะ (Lamb skin)
หนังแกะเป็นหนังที่ให้สัมผัสนุ่ม มีความเงาเล็กน้อย ผิวเรียบเนียนสวยงามหรูหรา แต่ภายใต้ความสวยงามที่ว่านี้ก็แฝงไปด้วยข้อด้อยหลาย ๆ อย่างที่คุณควรทราบ นั่นคือหนังประเภทนี้ไวต่อความชื้นและเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเล็บหรือสายของกระเป๋าเองก็ต้องเก็บไว้อย่างระมัดระวัง และหากใช้งานไปนาน ๆ ก็อาจจะแบนหรือมีความย้วยบ้างเล็กน้อย แต่อย่างที่บอกไปค่ะหนังประเภทนี้นั้นสวยงามมาก ๆ ดังนั้นหากใครมองหากระเป๋าที่ต้องการใช้ออกงานหรือไม่เน้นการใช้งานที่หนักมากหนังแกะก็ถือว่าน่าสนใจค่ะ
2.3 หนังวัว (Calf skin)
เป็นวัสดุหลักที่ใช้ในคอลเลกชัน Boy Bag Collection ใหม่ หนังลูกวัวแบบนี้เป็นหนังที่มีคุณภาพสูงและยังเป็นที่ต้องการสูงด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่ามีความนุ่มและเรียบเนียนอย่างประณีต ด้วยเกรนที่ละเอียดอย่างน่าเหลือเชื่อ พื้นผิวค่อนข้างที่จะเรียบลื่น และไม่เกิดรอยง่ายด้วยค่ะ
2.4 หนังวัว (Aged Calfskin)
Aged Calfskin เป็นหนังวัวที่นำมาผ่านกระบวนการที่ให้เกิดรอยยับ ซึ่งใน Chanel 2.55 Reissue Flap Bag เองก็เลือกใช้หนังประเภทนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนว่ากระเป๋านั้นถูกใช้แล้ว ทำให้กระเป๋าแลดูวินเทจอย่างที่ควรจะเป็น ข้อดีอีกอย่างของหนังประเภทนี้คือเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยอื่น ๆ ได้ยากและทำความสะอาดได้ค่อนข้างง่าย ทั้งยังมีพื้นผิวที่ค่อนข้างนุ่มแต่ทนทานซึ่งสามารถคงรูปไว้ได้นานหลายปีเลยทีเดียว
3. ความยาวของโซ่
ความยาวโซ่จะแตกต่างกันไปตามขนาดและสไตล์ของกระเป๋า Chanel หากการมีกระเป๋าที่สามารถสะพายข้างได้ สิ่งสำคัญคือเราขอแนะนำให้คุณไปที่ช็อปแล้วต้องลองสะพายดูว่ากระเป๋าแบบไหนที่เหมาะกับรูปร่างกายและความสูงของคุณสาว ๆ นะคะ
4. สี
สำหรับสีกระเป๋าก็ปฎิเสธไม่ได้ค่ะว่าสีดำเป็นสียอดนิยมสำหรับกระเป๋าชาเนล หากคุณอยากจะมีกระเป๋าใบเดียวที่สามารถใช้งานจริง สะพายได้ทุกวันและเข้ากับทุกการแต่งตัว หรือต้องการขายกระเป๋าใบนี้ต่อได้ง่ายในอนาคต เราขอแนะนำให้เลือกสีดำก็จะดีที่สุดค่ะ แต่อย่างไรก็นี่ก็เป็นเพียงคำแนะนำจากเราเท่านั้นนะคะ จริง ๆ แล้วกระเป๋าชาเนลมีหลายสีที่สวยงามให้เลือก ดังนั้นควรเลือกสีที่คุณชอบก็จะดีที่สุดค่ะ แต่หากว่าคุณสาว ๆ เลือกสีอ่อนก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานกันสักเล็กน้อยนะคะ
5. ซื้อใหม่หรือซื้อมือสอง
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกระเป๋า Chanel ใหม่หรือมือสองก็สามารถทำได้ทั้งสองอย่างค่ะเพราะว่ากระเป๋า Chanel มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกๆ 6 -12 เดือน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำอะไรกับกระเป๋าที่คุณซื้อในวันนี้ มันก็จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนอย่างที่กล่าวไปข้างต้น แต่การซื้อขายมือสองนั้นค่อนข้างที่จะได้เปรียบมากกว่าค่ะ เพราะคุณสาว ๆ สามารถตามหากระเป๋ารุ่นที่หายากหรือรุ่นที่ในช็อปไม่มีวางขายแล้วได้
ในทำนองเดียวกันก็ยังสามารถหาซื้อรุ่นทั่วไปในราคาที่ถูกกว่าในช็อปได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับรุ่นรวมไปถึงสภาพของกระเป๋าด้วยนะคะ แต่การซื้อมือสองนั้นเราขอแนะนำให้เลือกจากร้านที่ไว้ใจได้ มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีกระเป๋าปลอมจำนวนมากที่ทำออกมาได้เหมือนกับของจริงไม่มีผิด ดังนั้นโปรดจงใช้ความระมัดระวังเพื่อที่จะไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพนะคะ