การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นเรื่องที่ควรทำทุกวันค่ะโดยเฉพาะวันที่เราผ่านการแต่งหน้ามาอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะการใช้รองพื้น, แป้งผสมรองพื้น, อายไลเนอร์, ลิปสติก, มาสคาร่าและอายแชโดว์ เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้มักจะติดแน่นมากและทนทานต่อน้ำ การล้างออกจึงเป็นเรื่องยากมาก แต่ในปัจจุบันมีการออกผลิตภัณฑ์มากมายเพื่อตอบโจทย์การทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น Eye and Lip Remover, แผ่นเช็ดเครื่องสำอาง, โฟมล้างหน้า Cleanser, Cleansing Milk และ Cleansing Water ค่ะแต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางเหล่านี้อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับบางสภาพผิวค่ะ เราก็เลยจะขอแนะนำคลีนซิ่งอีกหนึ่งรูปแบบที่หลายคนอาจจะเคยใช้กันมาแล้วนั่นก็คือ คลีนซิ่ง ออยล์ (Cleansing Oil) ค่ะ
คลีนซิ่ง ออยล์ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดเมคอัพน้ำมันและสิ่งสกปรกอื่น ๆ มันมีส่วนผสมของน้ำมันซึ่งอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าน้ำยาทำความสะอาดชนิดอื่น มันสามารถลดการอุดตันรูขุมขนของคุณ และเช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสิวได้ หากคุณยังใหม่กับการใช้ คลีนซิ่ง ออยล์ การใช้งานอาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าคลีนซิ่ง ออยล์สามารถดูแลรักษาผิวให้สะอาดและทำให้ผิวมีสุขภาพดี อีกทั้งคลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของน้ำมันมีศักยภาพในการปรับปรุงผิวของคุณและให้ประโยชน์มากกว่าน้ำยาทำความสะอาดทั่วไปและคลีนซิ่งแบบทั่วไปและวันนี้ค่ะเราก็จะทำหน้าที่เป็นกูรูแนะนำสินค้าและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกสินค้ากันค่ะ ไปดูกันว่าสินค้ายี่ห้อไหนจะโดยใจคุณกันบ้าง
คลีนซิ่งออยล์ คืออะไร?
คลีนซิ่งออยล์คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับคราบเครื่องสำอางบนใบหน้า กำจัดน้ำมันส่วนเกินและสารปนเปื้อนอื่น ๆ ออกจากผิวของคุณ มันช่วยให้ผิวของคุณสะอาดและปรับปรุงผิวของคุณโดยไม่รบกวนความสมดุลของน้ำมันตามธรรมชาติของร่างกาย แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สำคัญส่วนใหญ่เสนอผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมันอย่างน้อยหนึ่งรายการ เช่น อาร์แกนออยล์, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันโรสฮิป, น้ำมันคาเมลเลียและอื่น ๆ
คลีนซิ่งออยล์เหมาะกับคุณหรือไม่?
การที่คุณจะทราบว่าคุณควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของผิวและพฤติกรรมการแต่งหน้าของคุณ การล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้เครื่องสำอางประเภทติดทนนานและเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำความสะอาดใบหน้าแบบ 2 ครั้งในชีวิตประจำวันในก็คือการใช้ คลีนซิ่งออยล์ร่วมกับการใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ซ้ำอีกหนึ่งครั้ง ตอนนี้เราไปดูปัจจัยอื่นที่จะเป็นข้อสังเกตว่าคุณสามารถเลือกซื้อคลีนซิ่งออยล์ได้หรือไม่กันค่ะ
1. สภาพผิว
โดยทั่วไปผู้ที่มีผิวแห้งจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้คลีนซิ่งออยล์ ในขณะที่ผู้ที่มีผิวมันจะได้รับประโยชน์จากการใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ อีกทั้งคลีนซิ่งออยล์ยังสามารถทำงานเพื่อทำความสะอาดผิวแบบ Double Cleansing อีกด้วย วิธีนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวมันมากเนื่องจากสามารถได้รับประโยชน์จากผลของน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำและความสมดุลของความชื้นของน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน

2. ผิวแพ้ง่าย
หลายคนที่มีผิวแพ้ง่ายจะได้ประโยชน์จากน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมันโรสแมรี่และคาเมลเลีย น้ำมันเหล่านี้มีผลในการปลอบประโลมผิวที่มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาต่าง ๆ คลีนซิ่งออยล์ให้ความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ผู้ที่มีผิวบอบบางและสภาพผิวอักเสบควรหลีกเลี่ยงคลีนซิ่งออยล์ที่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์
วิธีการเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสิ่งสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งออยล์ที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของผิวคุณ สิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับว่าผิวของคุณมันเป็นอย่างไร ปัญหาผิวอื่น ๆ ก็สำคัญมากเช่นกัน ดังนั้นเราจะพาคุณไปพิจารณาว่าคลีนซิ่งออยล์ชนิดใดเหมาะกับสภาพผิวคุณ
![]() |
1. ผิวมันผู้ที่มีผิวมันควรหลีกเลี่ยคลีนซิ่งออยล์ที่จะเข้าไปปกปิดรูขุมขน เช่น อะโวคาโด, มะพร้าวและน้ำมันมะกอก ให้เลือกน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของ Tea Tree Oil หรือน้ำมันสะระแหน่ซึ่งมีคุณสมบัติสมานแผลตามธรรมชาติแทน |
![]() |
2. ผิวแห้งสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมองหาคลีนซิ่งออยล์ที่น้ำมันบำรุงเช่น อาร์แกน, คาเมลเลีย, หรือน้ำมันเชีย ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงน้ำมันเลมอนและทีทรี เพราะมันสามารถทำให้ผิวแห้งเกินไปและเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันมากกว่าผิวแห้ง |
![]() |
3. ผิวผสมผู้ที่มีผิวผสมต้องเผชิญกับความท้าทายในการค้นหาคลีนซิ่งออยล์ที่ช่วยปรับสมดุลของผิวที่แห้งและมัน เราขอแนะนำให้ใช้น้ำมันดอกทานตะวันและวิตามินอีซึ่งช่วยขจัดสิ่งสกปรกในขณะที่ยังคงความชุ่มชื้นไว้ได้ |
![]() |
4. ผิวเป็นสิวได้ง่ายหากคุณมีผิวที่เป็นสิวให้เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมันซึ่งไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำให้เกิดสิว ห้ามใช้คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันแร่เด็ดขาดเพราะจะทำให้อุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิว อีกทั้งควรระวังน้ำหอมซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิวอีกด้วย (อ้างอิงจาก PubMed Central) |
คลีนซิ่งออยล์ KOSE SOFTYMO SPEEDY CLEANSING OIL

ราคา 199 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 200 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | มอยส์เจอไรเซอร์ |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย |
DHC คลีนซิ่งออยล์ Deep Cleansing Oil

ราคา 799 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 200 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | วิตามิน E, Olive Virgin Oil, Licorice Extract และ Rosemary |
เหมาะกับสภาพผิว | ผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายและผิวมัน |
innisfree Green tea Cleansing Oil คลีนซิ่งออยล์สูตรบางเบา

ราคา 800 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 150 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ใบชาและกรดอะมิโน |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
HUXLEY Cleansing Oil Deep Clean, Deep Moist คลีนซิ่งออยล์

ราคา 995 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 200 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ผลของต้นแคคตัส |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
CLINIQUE คลีนซิ่งออยล์ Take The Day Off Cleansing Oil

ราคา 1,320 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 200 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Safflower Seed Oil |
เหมาะกับสภาพผิว | ผิวแห้งและผิวบอบบาง |
คลีนซิ่ง ออยล์ Three Cleansing Oil

ราคา 1,710 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 185 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันเมล็ดองุ่น เปลือกส้มและมะกรูด |
เหมาะกับสภาพผิว | ผิวแห้งและผิวบอบบาง |
คลีนซิ่ง ออยล์ Dermalogica Precleanse

ราคา 1,900 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 150 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Essential Fatty Acids, Kukui Nut และ Apricot Oils |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
AESOP คลีนซิ่ง ออยล์ Parsley Seed Facial Cleansing Oil

ราคา 2,000 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 200 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เบต้าแคโรทีน สารสกัดเมล็ดแมคคาเดเมีย และ โทโคเฟอรอล |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวผสม |
คลีนซิ่งออยล์ KIEHL'S Midnight Recovery Botanical Cleansing Oil

ราคา 2,475 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 30 มล. x 1 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Safflower Seed Oil |
เหมาะกับสภาพผิว | ผิวแห้งและผิวบอบบาง |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว คลีนซิ่งออยล์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
คลีนซิ่งออยล์ KIEHL'S Midnight Recovery Botanical Cleansing Oil |
|
ประโยชน์ของการใช้คลีนซิ่งออยล์
เช่นเดียวกับคลีนซิ่งแบบทั่วไปการทำความสะอาดโดยใช้คลีนซิ่งออยล์เป็นวิธีง่าย ๆ ในการรักษารูขุมขนให้สะอาดและปลอดจากสิ่งสกปรก อย่างไรก็ตามไม่เหมือนโฟมล้างหน้าทั่วไปที่ทำให้ผิวแห้ง คลีนซิ่งออยล์เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการปรับสมดุลระดับน้ำมันสำหรับทุกสภาพผิว ประโยชน์หลัก ๆ ของการใช้คลีนซิ่งออยล์มีดังนี้
- ใช้งานง่าย: คลีนซิ่งออยล์มีกระบวนการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการทำความสะอาด
- รักษาความสะอาดของผิว : คลีนซิ่งออยล์สามารถดักจับน้ำมันและสิ่งสกปรกและป้องกันไม่ให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน
- รักษาน้ำมันตามธรรมชาติ : คลีนซิ่งออยล์ทำความสะอาดผิวโดยไม่ทำลายน้ำมันธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อผิวของคุณ
- ให้ความชุ่มชื้น : คลีนซิ่งออยล์ที่ทำจากพืชจำนวนมากอุดมไปด้วยกรดไขมันซึ่งช่วยให้ผิวอวบอิ่มและชุ่มชื้น
วิธีใช้คลีนซิ่งออยล์
การทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งออยล์ควรเป็นขั้นตอนแรกในการดูแลผิวประจำวันของคุณและสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยวันละ 2 ครั้ง หรืออาจจะใช้ในวันที่มีการแต่งหน้าก็ได้ค่ะเพื่อให้ความสะอาดมากขึ้น
- ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
- หยดคลีนซิ่งออยล์เล็กน้อยลงบนมือของคุณ
- นวดคลีนซิ่งออยล์เบา ๆ ลงบนผิวที่แห้งและมันโดยเฉพาะบริเวณทีโซน
- ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นและนวดคลีนซิ่งออยล์บนใบหน้าต่อไป คลีนซิ่งออยล์จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวครีมในขณะที่ขจัดสิ่งสกปรกไปในตัว
- ล้างคลีนซิ่งออยล์ออกจากใบหน้าด้วยน้ำอุ่น
- เช็ดผิวให้แห้งเราแนะนำเป็นการใช้กระดาษเช็ดหน้า แต่หากต้องการความสะอาดเป็น 2 เท่า คุณอาจตามด้วยคลีนซิ่งวอเตอร์ได้