น้ำหอมเป็นไอเทมที่เราต้องมีค่ะ แต่การเลือกน้ำหอมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก นอกจากเราจะต้องเลือกแบรนด์และเช็กราคาแล้ว เรื่องกลิ่นน้ำหอมก็สำคัญมากค่ะ ซึ่งการเลือกกลิ่นของน้ำหอมเป็นเรื่องที่คนชอบซื้อน้ำหอมต้องรู้ค่ะ เพราะหากเลือกกลิ่นผิดเราก็จะไม่ได้ใช้เลยและอาจทำให้น้ำหอมที่ซื้อมาแพง ๆ หมดอายุไปเฉย ๆ เพื่อน ๆ ชอบน้ำหอมกลิ่นอะไรกันบ้างคะ? สำหรับผู้เขียนนั้นชอบน้ำหอมกลิ่นผลไม้ของVictoria’s Secret และชอบน้ำหอมกลิ่นขนมหวานของBath Body Workมากค่ะ เพราะรู้สึกว่าเหมาะกับตัวเองดีแต่บางโอกาสผู้เขียนก็ใช้น้ำหอมกลิ่นไม้บ้างเพราะติดทนนานและหอมอบอุ่นดีค่ะ นอกจากกลิ่นน้ำหอมที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว “น้ำหอมกลิ่นกาแฟ”

น้ำหอมกลิ่นกาแฟ เมื่อฉีดแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ที่ร้านกาแฟเลย จากการสำรวจของผู้เขียนน้ำหอมกลิ่นกาแฟมีให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ แต่บางแบรนด์ไม่มีขายในไทย วันนี้ผู้เขียนเลยถือโอกาสมาแนะนำน้ำหอมกลิ่นกาแฟกัน หากอยากรู้ว่ากลิ่นแบบไหนเหมาะกับคุณบ้างก็ไปอ่านกันเลยค่ะ
น้ำหอมกลิ่นกาแฟ ยี่ห้อไหนดี?
- น้ำหอมกลิ่นกาแฟ หอมหวานจนคนต้องเหลียวหลัง: YSL Black Opium EDP น้ำหอม
- กลิ่นหอมกาแฟผสมดอกไม้ ให้ลุคที่ดูเป็นผู้ใหญ่: Dolce & Gabbana The Only One น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นกาแฟมอคค่า หอมหวานเข้มข้น: Montale Intense Cafe น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นกาแฟสำหรับผู้ชาย หอมนานกลิ่นไม่ซับซ้อน: Polo Red Extreme Parfum น้ำหอม
- น้ำหอมสำหรับผู้ชายแบดบอย โดดเด่นด้วยกลิ่นเหล้าและกาแฟ: Kilian Black Phantom น้ำหอม
จุดเด่นของน้ำหอมกลิ่นกาแฟ
น้ำหอมกลิ่นกาแฟเป็นน้ำหอมอีกหนึ่งกลิ่นที่ได้รับความนิยมไม่ต่างจากน้ำหอมกลิ่นกุหลาบและน้ำหอมกลิ่นวานิลลา หลายคนชอบใช้น้ำหอมกลิ่นกาแฟเพราะคิดว่ากลิ่นของกาแฟจะทำให้จิตใจสงบและผ่อนคลายได้ แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงค่ะแต่นอกจากจะช่วยในเรื่องผ่อนคลายแล้วกลิ่นกาแฟยังสามารถทำให้มีสมาธิและรู้สึกสดชื่นด้วย เพราะหากเราฉีดน้ำหอมกลิ่นกาแฟกลิ่นน้ำหอมจะไปหลอกสมองของเรา ทำให้เรานึกถึงสารคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟทันทีและให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดื่มกาแฟอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้กลิ่นหอมของกาแฟยังมีลักษณะเฉพาะ เมื่อได้ไปรวมกับกลิ่นหอมอื่น ๆ จะสามารถสร้างเอกลักษณ์ของน้ำหอมได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ในหมวดหมู่ของน้ำหอมกลิ่นกาแฟจัดอยู่ในกลุ่มน้ำหอมกลิ่นเครื่องเทศ (Spices) ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวแบบตะวันออก
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าหากนำน้ำหอมกลิ่นกาแฟไปผสมกับกลิ่นน้ำหอมอื่น ๆ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร วันนี้เราก็มีคำตอบมามอบให้กันค่ะไปดูกันได้เลย
น้ำหอมกลิ่นกาแฟผสมกลิ่นโอเรียนเต็ล
น้ำหอมกลิ่นโอเรียนเต็ลเป็นน้ำหอมสไตล์ตะวันออกที่ได้รับความนิยม กลิ่นน้ำหอมที่นำมาทำเป็นน้ำหอมตระกูลโอเรียนเต็ลส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มน้ำหอมกลิ่นเครื่องเทศ (Spices) ซึ่งก็มีกาแฟอยู่ในหมวดหมู่นี้ด้วย แต่นอกจากกลิ่นกาแฟแล้วกลิ่นวานิลลา, ถั่วทองกา, กานพลู, อบเชยและชะเอมเทศก็อยู่ในหมวดหมู่นี้เหมือนกัน หากนำกลิ่นกาแฟมาผสมกลิ่นโอเรียนเต็ล น้ำหอมที่ได้จะส่งกลิ่นหอมแบบตะวันออกและมีความแปลกใหม่ของเครื่องเทศที่เพิ่มเข้ามา กลิ่นจะอบอุ่นและหอมนาน
น้ำหอมกลิ่นกาแฟผสมกลิ่นไม้
น้ำหอมกลิ่นไม้ (Woody) มักใช้เพื่ออธิบายถึงน้ำหอมของผู้ชายที่ให้ความอบอุ่นและเซ็กซี่ แต่นอกจากความเซ็กซี่แล้วน้ำหอมกลิ่นไม้ก็ยังมีกลิ่นที่แสดงออกถึงความเป็นผู้หญิงอีกตัวอย่างของน้ำหอมที่มีกลิ่นไม้ได้แก่ ไม้มะเกลือ, ซีดาร์, แพทชูลี่, หญ้าแฝกและไม้จันทน์ เมื่อนำน้ำหอมกลิ่นกาแฟผสมกลิ่นไม้กลิ่นที่ได้จะมีความล้ำลึก ผู้เขียนมองว่าน้ำหอมกลิ่นกาแฟเข้ากับน้ำหอมกลิ่นไม้มาก ๆ พอ ๆ กับกลุ่มน้ำหอมโอเรียนเต็ลเลยค่ะ
น้ำหอมกลิ่นกาแฟผสมดอกไม้
น้ำหอมที่ประกอบด้วยกลิ่นดอกไม้มักจะให้ความรู้สึกโรแมนติกและดูเป็นผู้หญิง ดอกไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นน้ำหอมได้แก่ ดอกมะลิ, ฟรีเซีย, ไวโอเล็ต, เฮลิโอโทรปและลาเวนเดอร์ แต่แน่นอนว่ากลิ่นดอกไม้จะมีความแตกต่างกันไปเช่นกัน บางกลิ่นก็หวาน บางกลิ่นก็เย้ายวน หากเลือกน้ำหอมกลิ่นกาแฟผสมกับกลิ่นดอกไม้ผู้เขียนอยากแนะนำให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นมะลิอยู่ด้วยเพราะเข้ากับดีกับกลิ่นกาแฟค่ะ
น้ำหอมกลิ่นกาแฟผสมกลิ่นสดชื่น
น้ำหอมกลิ่นสดชื่นที่เราคุ้นเคยกันดีคือกลิ่นซิตรัสและผลไม้ค่ะ น้ำหอมตระกูลซิตรัสจะมีกลิ่นหอมสดชื่นและช่วยกระตุ้นอารมณ์ได้ดี ปกติแล้วน้ำหอมในตระกูลซิตรัสจะมีหลายกลิ่นเลยค่ะแต่กลิ่นที่ได้รับความนิยมมากคือส้มแมนดารินและมะกรูด ส่วนน้ำหอมกลิ่นผลไม้จะมีกลิ่นลูกแพร์ แอปเปิลและพีชที่ได้รับความนิยม การซื้อน้ำหอมกลิ่นกาแฟผสมกลิ่นสดชื่นจะช่วยกระตุ้นความสดชื่นให้กับผู้ฉีดน้ำหอมได้ดีกว่าเดิม
YSL Black Opium EDP น้ำหอม

ราคา 6,030 บาท*
Yves Saint Laurent Black Opium Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการกลิ่นน้ำหอมที่มีเย้ายวน น้ำหอมมีการผสมผสานกันของกลิ่นกาแฟและเครื่องเทศที่โดดเด่น ขอบอกเลยว่า Black Opium เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ผู้เขียนชอบค่ะ เมื่อใช้แล้วรู้สึกสวยยังไงก็ไม่รู้ กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมเป็นกลิ่นบลูแอ็บซินท์และบอยเซนเบอร์รี หลานคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับกลิ่นเปิดแต่เราขอการันตีเลยว่าเป็นกลิ่นยอดนิยมและเป็นกลิ่นที่เย้ายวนใจสามารถดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างได้อย่างแน่นอน
ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกาแฟดำ ดอกส้มและมะลิที่จะช่วยเพิ่มกลิ่นอายความอบอุ่นให้กับน้ำหอม ปิดท้ายด้วยกลิ่นของวานิลลา ชะเอมเทศและไม้จันทน์ที่ตัดเข้ากับกลิ่นกาแฟได้อย่างพอดีค่ะ Black Opium ถือเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่เหมาะสำหรับฉีดในตอนกลางคืนเพราะกลิ่นหอมเย้ายวนและติดทนนาน ถึงแม้ว่ากลิ่นท็อปโน้ตจะจางหายไปเร็ว แต่กลิ่นกลางและกลิ่นปิดท้ายจะติดทนยาวนานอย่างแน่นอนค่ะ
สำหรับผู้เขียนมองว่า Yves Saint Laurent Black opium เป็นน้ำหอมที่เหมาะกับสาวเซ็กซี่เป็นอย่างมาก เพราะกลิ่นหอมจริง ๆ และติดทนนานด้วย นอกจากกลิ่นแล้วผู้เขียนชอบขวดของน้ำหอมมาก ทางแบรนด์ได้นำเสนอน้ำหอมในขวดสีดำเข้มและประดับด้วยกลิตเตอร์สีเงินที่ให้ความรู้สึกหรูหรา กลิ่นกาแฟในโน้ตกลางของน้ำหอมค่อนข้างชัดเลยค่ะ ยิ่งได้ผสมกับกลิ่นมะลิและวานิลลายิ่งเป็นตัวชูโรงให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น สาว ๆ ต้องห้ามพลาดนะคะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 90 มล. |
Top Notes | Boysenberry, Blue absinthe |
Middle Notes | Black coffee, Orange blossom, Sambac jasmine |
Base Notes | Vanilla, Liquorice, Sandalwood |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Carolina Herrera Good Girl Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 5,490 บาท*
Carolina Herrera Good Girl Eau de Parfum เป็นน้ำหอมอีกหนึ่งกลิ่นที่ได้รับความนิยมค่ะ น้ำหอมมีการผสมผสานระหว่างกลิ่นน้ำหอมที่หอมหวาน และกลิ่นเครื่องเทศที่เข้มข้น กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมจัดเต็มด้วยกลิ่นอัลมอนด์ กาแฟและซิตรัส ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วกลิ่นเปิดของน้ำหอมจะมีความหอมหวานและมีชีวิตชีวา ตามมาด้วยกลิ่นกลางอย่างกลิ่นดอกซ่อนกลิ่น มะลิ ละกุหลาบ ปิดท้ายด้วยกลิ่นถั่วทองกา, โกโก้, วานิลลา, อำพันและพราลีนทำให้น้ำหอมยิ่งมีความหอมหวานมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉีดน้ำหอมนี้แล้วจะให้ความรู้สึกที่เป็นผู้หญิงหวานและเย้ายวนใจค่ะ
Good Girl เป็นน้ำหอมที่ควรใช้ฉีดในตอนเย็น เหมาะสำหรับใช้งานในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว จากรีวิวของหลาย ๆ คนทำให้ผู้เขียนพบว่ากลิ่นหอมของน้ำหอมจะกระจายกลิ่นได้ดีกว่าหากใช้งานในสภาพอากาศที่หนาวเย็น รูปแบบของน้ำหอมเป็น Eau de Parfum สามารถติดทนได้นานประมาณ 5 ชั่วโมงขึ้นไป ส่วนในเรื่องแพ็กเกจ Carolina Herrera ยืนหนึ่งมาตลอดค่ะเพราะเป็นขวดน้ำหอมรองเท้าส้นสูงที่ไม่เหมือนใคร หลังจากใช้งานหมดแล้วก็สามารถสะสมขวดน้ำหอมได้ด้วย
Carolina Herrera Good Girl เป็นน้ำหอมที่คุณต้องมีหากคุณชอบน้ำหอมโน้ตกาแฟที่มีความหอมหวาน ความหอมหวานของน้ำหอมจะคล้าย ๆ กับ Yves Saint Laurent Black opium ค่ะ แต่การใช้น้ำหอม Good Girl เราจะได้กลิ่นกาแฟออกมาก่อนเลยแตกต่างจาก YSL ที่กลิ่นกาแฟจะตามมาทีหลัง แต่แน่นอนว่ากลิ่นกาแฟของ Good Girl จะอยู่ได้ไม่นานนักเพราะเป็นน้ำหอมโน้ตแรก แต่กลิ่นโน้ตแรกก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับตัวคุณได้ค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 80 มล. |
Top Notes | Almond, Coffee, Citrus |
Middle Notes | Tuberose, Jasmine Sambac, Rose |
Base Notes | Tonka Bean, Cocoa, Praline |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
YSL Black Opium EDP Extreme น้ำหอม

ราคา 5,695 บาท*
Yves Saint Laurent Black Opium Eau de Parfum Extreme เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 2021 เป็นกลิ่นน้ำหอมที่มีกลิ่นกาแฟโดดเด่นมากค่ะ เพราะน้ำหอมมีการผสมผสานของกาแฟและโกโก้ ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นหอมที่เย้ายวนและเซ็กซี่มาก หากเปรียบเทียบกับ Yves Saint Laurent Black Opium Eau de Parfum กลิ่นน้ำหอม Black Opium Extreme จะมีกลิ่นกาแฟที่ชัดกว่ามากเลยค่ะ
น้ำหอมเปิดตัวด้วยกลิ่นเชอร์รี ส้มแมนดารินและลูกแพร์ เมื่อกลิ่นแรกจากหายไปก็จะมีกลิ่นดอกส้มและมะลิตามมา ปิดท้ายด้วยกลิ่นของกาแฟดำ เบอร์เบินวานิลลา แพทชูลี่และถั่วทองกาที่สามารถสร้างกลิ่นหอมที่หรูหราให้กับคนที่ฉีดได้ สำหรับผู้เขียนมองว่า Black Opium Extreme เป็นน้ำหอมที่เหมาะกับฉีดในตอนเย็นมากกว่าตอนเช้าค่ะ เพราะกลิ่นน้ำหอมค่อนข้างเย้ายวนชวนหลงใหล อีกทั้งน้ำหอมยังติดทนนานกว่า 7 ชั่วโมง ใครที่เตรียมตัวจะออกงานตอนกลางคืนต้อง Black Opium Extreme
Yves Saint Laurent Black Opium Extreme เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นกาแฟเด่นค่ะ เพราะกลิ่นกาแฟเป็นกลิ่นปิดท้ายของน้ำหอมและกลิ่นปิดท้ายก็เป็นกลิ่นที่ติดทนนานที่สุดด้วย ผู้เขียนมองว่าการออกแบบโน้ตน้ำหอมของทางแบรนด์ออกแบบมาดีเลยเพราะเปิดตัวน้ำหอมด้วยกลิ่นผลไม้สดชื่นก่อน ตามด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ ก่อนที่จะปิดตัวด้วยกลิ่นหอมหวานเข้มข้นของกาแฟและวานิลลา ทุกคนคงรู้ดีว่ากลิ่นกาแฟและวานิลลาเข้ากันดีมากค่ะ ดังนั้นหากใครที่ชอบความหอมหวาน Black Opium Extreme เป็นทางเลือกที่ดีเลย
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 90 มล. |
Top Notes | Pear, Mandarin, Cherry |
Middle Notes | Orange Blossom, Jasmine |
Base Notes | Black Coffee, Vanilla, Patchouli, Tonka Bean |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Dolce & Gabbana The Only One น้ำหอม

ราคา 1,789 บาท*
Dolce & Gabbana The Only One เป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำหอม Yves Saint Laurent Black Opium แต่ไม่ต้องการความหอมหวานที่มากเกินไปค่ะ น้ำหอมเปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นเบอร์กาม็อทและไวโอเล็ต ตามมาด้วยกลิ่นกลางอย่างกลิ่นกาแฟ กุหลาบและดอกไอริส ปิดท้ายด้วยกลิ่นคาราเมล วานิลลาและแพทชูลี่ช่วยเสริมกลิ่นให้ลึกยิ่งขึ้น
น้ำหอม The Only One เป็นน้ำหอมที่สามารถสร้างความซับซ้อนให้กับคนใช้ได้ดี มันเป็นน้ำหอมที่มีความหอมหวานแต่หอมหวานในฉบับที่เป็นผู้ใหญ่ น้ำหอมยังคงมาในรูปแบบของ Eau de Parfum ติดทนนานมากกว่า 5 ชั่วโมง หากถามว่าน้ำหอม The Only One Eau de Parfum เหมาะสำหรับฉีดฤดูกาลไหน ตอบเลยว่าเหมาะสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวค่ะ
The Only One Eau de Parfum จาก Dolce & Gabbana เป็นน้ำหอมที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวของดอกไวโอเล็ต กาแฟ และดอกไอริสทำให้เกิดกลิ่นหอมหวานที่เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการมีลุคดูเป็นผู้ใหญ่ค่ะ กลิ่นกาแฟของน้ำหอมจะอยู่ในโน้ตกลางของน้ำหอมซึ่งเป็นกลิ่นที่เข้ากับกลิ่นวานิลลาในเบสโน้ตของน้ำหอมได้อย่างพอดีเลย หากเปรียบเทียบกับน้ำหอมแบรนด์อื่น ๆ ปริมาณน้ำหอมของ Dolce & Gabbana ให้ความคุ้มค่ากับคนซื้อได้ดีมากเลยเพราะขวดใหญ่ 100 มล. และมีราคาที่ถูกกว่าแบรนด์อื่น ๆ ค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Bergamot, Violet |
Middle Notes | Coffee, Iris |
Base Notes | Vanilla, Patchouli |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Montale Intense Cafe น้ำหอม

ราคา 3,390 บาท*
Montale Intense Café Eau de Parfum เป็นน้ำหอมกลิ่นกาแฟอีกหนึ่งกลิ่นที่คนถามหากันเยอะค่ะ เพราะการฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้จะทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังดื่มกาแฟอุ่น ๆ อยู่เลย กลิ่นเปิดของน้ำหอมเป็นกลิ่นดอกไม้ ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกาแฟเข้มข้นและมีกลิ่นของกุหลาบแทรกเข้ามาเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยกลิ่นวานิลลา ไวท์มัสก์และอำพันทำให้ Intense Café เป็นน้ำหอมกลิ่นมอคค่าหอมหวานเข้มข้นค่ะ
น้ำหอม Intense Café เป็นน้ำหอมที่เข้มข้นมากและมาในรูปแบบของ Eau de Parfum ด้วย หลายคนที่เคยใช้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำหอมจะติดทนนานกว่า 8 ชั่วโมง แน่นอนว่าน้ำหอมจะให้ความมีชีวิตชีวาและมีกลิ่นหอมหวาน ทำให้เหมาะที่จะใช้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว แต่ต้องระวังนิดนึงนะคะเพราะกลิ่นเปิดกลิ่นแรกค่อนข้างแรงเลย แต่พอหมดกลิ่นแรกไปกลิ่นน้ำหอมก็จะคงที่และหอมหวานมากยิ่งขึ้น
Montale Intense Café Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศและเป็นหนึ่งน้ำหอมกลิ่นกาแฟที่หลายคนพูดถึงเลยค่ะ แต่ในไทยหาซื้อได้ยากมาก ๆ กลิ่นของน้ำหอมเป็นกลิ่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของกลิ่นกาแฟและวานิลลา แน่นอนว่ากลิ่นกาแฟชัดมากจนได้ชื่อว่าเป็นน้ำหอมกลิ่นมอคค่าที่หอมที่สุดค่ะ หากถามว่าผู้ชายฉีดได้ไหมผู้เขียนมองว่าฉีดได้นะคะและตอบโจทย์คนที่รักกลิ่นกาแฟได้ดีค่ะ ปริมาณของน้ำหอมเท่ากับ Dolce & Gabbana The Only One เลยค่ะ แต่ราคาจะแพงกว่า
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Floral Notes |
Middle Notes | Rose, Coffee |
Base Notes | Vanilla, White Musk, Amber |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Polo Red Extreme Parfum น้ำหอม

ราคา 3,500 บาท*
Polo Red Extreme Eau de Parfum เป็นน้ำหอมกลิ่นไม้ตะวันออกที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ผ่านการคิดค้นโดยนักปรุงน้ำหอมชื่อดังอย่าง Olivier Gillotin ผู้เขียนค่อนข้างชอบโน้ตน้ำหอมเลยค่ะเพราะเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน แต่ละโน้ตมีเพียงกลิ่นเดียวเท่านั้น Polo Red Extreme เปิดตัวกลิ่นหอมด้วยกลิ่นส้มสีเลือดที่หอมสดชื่นดึงดูดใจ ผสมผสานเข้ากับกลิ่นกลางอย่างกลิ่นกาแฟเข้มข้นได้ดี ปิดท้ายด้วยกลิ่นไม้มะเกลือที่ให้ความมีชีวิตชีวา
Polo Red Extreme เป็นกลิ่นน้ำหอมที่สมบูรณ์แบบหากคุณชอบกลิ่นน้ำหอมที่ไม่มีความซับซ้อนแต่ยังคงความโดดเด่นเอาไว้ น้ำหอมถูกออกแบบมาสำหรับผู้ชายค่ะคุณผู้ชายท่านไหนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกาแฟต้องห้ามพลาดนะคะ น้ำหอมมาในรูปแบบ Eau de Parfum ติดทนนานอย่างแน่นอนค่ะและด้วยปริมาณ 125 มล. ทำให้น้ำหอมใช้งานได้นาน
Polo Red Extreme Eau de Parfum เป็นกลิ่นน้ำหอมที่เน้นให้เห็นถึงบุคลิกของผู้ชายที่กล้าหาญและรักการผจญภัย โดยปกติแล้วน้ำหอมที่มีกลิ่นแนวตะวันออกจะเหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืนเท่านั้น แต่ Polo Red Extreme นั้นแตกต่างค่ะ เพราะด้วยกลิ่นของส้มสีเลือดทำให้น้ำหอมสามารถใช้ระหว่างวันได้ ถือเป็นอีกหนึ่งน้ำหอมกลิ่นกาแฟที่คุณผู้ชายต้องมีค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 125 มล. |
Top Notes | Blood Orange |
Middle Notes | Coffee |
Base Notes | Ebony Wood |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชาย |
Kilian Black Phantom น้ำหอม

ราคา 7,690 บาท*
Kilian Black Phantom Memento Mori Eau de Parfum เป็นกลิ่นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับผู้ชายค่ะ น้ำหอมเป็นการผสมผสานกลิ่นหอมที่เซ็กซี่ กลิ่นหวาน กลิ่นเครื่องเทศและกลิ่นเหล้าเข้าด้วยกัน กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมคือเหล้ารัมและน้ำตาล ถัดมาจะเป็นกลิ่นของดาร์กช็อกโกแลต อัลมอนด์ กาแฟและคาราเมลที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของน้ำหอม ปิดท้ายด้วยกลิ่นเฮลิโอโทรป มัสกี้และแพทชูลี่ที่ทำให้น้ำหอมมีความหอมเย้ายวนมากขึ้น
สำหรับในเรื่องการใช้งานน้ำหอม Black Phantom ค่อนข้างอเนกประสงค์และสามารถฉีดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่จะเหมาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเป็นพิเศษค่ะ น้ำหอมมาในรูปแบบ Eau de Parfum สามารถติดทนได้นานกว่า 8 ชม. จากข้อมูลที่ผู้เขียนได้รับมาว่ากันว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่สาว ๆ ชอบเพราะให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายอบอุ่นแต่ยังดูลุคแบดบอยหน่อย ๆ ค่ะ ดังนั้นคุณผู้ชายต้องซื้อแล้วละค่ะ
Kilian Black Phantom เป็นน้ำหอมที่น่าสนใจมาก ๆ และตอบโจทย์คนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกาแฟค่ะ น้ำหอมมีกลิ่นกาแฟที่เข้มข้นและมีความครีมมี่ ซึ่งเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นกลิ่นที่ไม่มีใครเหมือน ทำให้กลิ่นหอมดูน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น แต่ Kilian Black Phantom เป็นน้ำหอมที่หาซื้อได้ยากมากค่ะ ราคาก็ค่อนข้างแพงด้วยเมื่อเทียบกับปริมาณ แต่เมื่อซื้อมาแล้วสามารถใช้งานได้นานอย่างแน่นอน
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Rum, Sugar Cane |
Middle Notes | Dark Chocolate, Coffee, Caramel, Almond |
Base Notes | Heliotrope, Sandalwood |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชาย |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 7 น้ำหอมกลิ่นกาแฟ ยี่ห้อไหนดี หอมกรุ่น ติดทนนาน ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
เคล็ดลับการเลือกซื้อน้ำหอมกลิ่นกาแฟ
1. เลือกน้ำหอมตามประเภทของน้ำหอม
น้ำหอมกลิ่นกาแฟมีให้เลือกมากมายหลายแบรนด์ค่ะ ในการเลือกสามารถเลือกได้ตามความชอบหรืองบประมาณที่มี แต่หากคุณใส่ใจในเรื่องของความติดทนนานคุณต้องเลือกน้ำหอมตามประเภทของน้ำหอมค่ะ ปกติแล้วน้ำหอมกลิ่นกาแฟมักจะวางขาย 2 ประเภทหลักคือ Eau de Parfum (EDP) และ Eau De Toilette (EDT) เราจะพาคุณไปดูความแตกต่างของน้ำหอมทั้งสองประเภทกันค่ะ
- Eau de Parfum (EDP) เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอม 15–20% กลิ่นหอมมักจะอยู่ได้นาน 5-8 ชั่วโมง แต่หากเมื่อใช้ในห้องปรับอากาศกลิ่นหอมของ Eau de Parfum จะติดทนได้นานถึง 10 ชั่วโมง แต่จุดที่เราต้องพิจารณาเลยก็คือน้ำหอมประเภท Eau de Parfum มีราคาแพงกว่า Eau De Toilette มากเลยทีเดียว
- Eau De Toilette (EDT) เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า Eau de Parfum โดยความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหย Eau De Toilette จะอยู่ที่ 5 – 15% เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ Eau De Toilette จึงติดทนได้ประมาณ 3-5 ชั่วโมง หากเราใช้น้ำหอมชนิดนี้เราจำเป็นต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ เพื่อป้องกันกลิ่นน้ำหอมจางลง
2. เช็กโน้ตน้ำหอมทุกครั้งก่อนซื้อ
ปกติแล้วน้ำหอมหนึ่งขวดจะประกอบด้วยกลิ่นหลายกลิ่นและมีหลายชั้นเพื่อสร้างกลิ่นที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยเราจะเรียกกลิ่นเหล่านี้ว่า “โน้ตน้ำหอม” ค่ะ ซึ่งโน้ตน้ำหอมจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่กลิ่นแรก (Top Notes) กลิ่นกลาง (Middle Notes) และกลิ่นปิด (Base Notes)
- กลิ่นแรก (Top Notes) ท็อปโน้ตเป็นกลิ่นที่เราจะได้กลิ่นเมื่อฉีดน้ำหอม โดยปกติแล้วท็อปโน้ตจะส่งกลิ่นในช่วง 15 นาทีแรกและกลิ่นจะจางหายไปหลังจากนั้น น้ำหอมที่ให้ความสดชื่นโดยเฉพาะกลิ่นซิตรัสมักถูกใช้เป็นท็อปโน้ต
- กลิ่นกลาง (Middle Notes) กลิ่นกลางหรือกลิ่นหัวใจของน้ำหอม เป็นกลิ่นที่เราจะได้กลิ่นหลังจากที่ท็อปโน้ตระเหยไปแล้ว กลิ่นหอมของกลิ่นกลางติดทนนานกว่าท็อปโน้ต เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญของน้ำหอม นอกจากนี้กลิ่นหอมของกลิ่นกลางจะส่งผลต่อกลิ่นปิดของน้ำหอมด้วย กลิ่นที่มักใช้เป็นกลิ่น Middle Notes คือกลิ่นดอกไม้ผลไม้และตระกูลเครื่องเทศ
- กลิ่นปิด (Base Notes) กลิ่นปิดหรือที่เรียกว่ากลิ่นพื้นฐานของน้ำหอมเป็นกลิ่นที่จะกำหนดลักษณะของน้ำหอมร่วมกับกลิ่นกลาง ปกติแล้วกลิ่นปิดจะเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น มัสก์, อำพัน, ไม้จันทน์, วานิลลาและแพทชูลี่ แน่นอนว่า Base Notes จะติดทนนานที่สุดและยังคงติดเสื้อผ้าได้แม้ซักเสื้อผ้าแล้ว
3. เลือกปริมาณของน้ำหอมตามความต้องการของตัวเอง

เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำหอมขวดน้ำหอมมักจะทำจากแก้วและอะคริลิก ขนาดและปริมาณของน้ำหอมที่แต่ละแบรนด์วางขายก็แตกต่างกันไปด้วย โดยจะมีตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เมื่อคุณซื้อน้ำหอมออนไลน์คุณจะไม่ได้ทดลองกลิ่นน้ำหอมก่อนซื้อ ถึงแม้ว่าเราจะอ่านรีวิวจากผู้ซื้อรายอื่นได้ แต่กลิ่นน้ำหอมที่อธิบายไว้อาจไม่เป็นไปตามที่เราคิดไว้ ดังนั้นหากซื้อออนไลน์ให้ซื้อน้ำหอมขนาดเล็กมาทดลองใช้ก่อน หากกลิ่นที่ซื้อมาเป็นกลิ่นที่ชอบค่อยเปลี่ยนไปซื้อขนาดใหญ่ค่ะ นอกจากนี้น้ำหอมที่มีบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กยังมีประโยชน์มากกว่าเนื่องจากพกพาได้ง่าย อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไรให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณที่มี จำไว้นะคะว่าน้ำหอมยิ่งขวดใหญ่มากเท่าไหร่ราคาก็จะยิ่งแพงโดยเฉพาะน้ำหอมแบรนด์ดัง
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อใช้น้ำหอม

- ถูน้ำหอมที่ฉีดแล้ว หลังจากฉีดน้ำหอมลงบนผิวแล้วไม่ควรถูหรือสัมผัสมันค่ะ เพราะการถูน้ำหอมจะทำให้กลิ่นน้ำหอมเปลี่ยนไปและกลิ่นจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
- ฉีดน้ำหอมบนเสื้อผ้า ในน้ำหอมบางชนิดมีส่วนผสมที่สามารถทิ้งคราบไว้บนเสื้อผ้าได้โดยเฉพาะผ้าสีขาว คุณควรตรวจสอบส่วนของน้ำหอมทุกครั้ง หากน้ำหอมมีส่วนผสมที่ไม่เป็นมิตรกับเสื้อผ้า อย่าฉีดน้ำหอมบนเสื้อผ้าโดยเด็ดขาด
- ใช้น้ำหอมหลายกลิ่นในคราวเดียว หลายคนอาจคิดว่าการผสมน้ำหอมหลาย ๆ กลิ่นพร้อมกันจะทำให้ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ผิดเลยค่ะเพราะการผสมน้ำหอมหลายกลิ่นในคราวเดียวอาจทำให้เราสับสนในเรื่องกลิ่นและกลิ่นจะชนกันได้ หากกลิ่นน้ำหอมตีกันจะสามารถสร้างความวิงเวียนให้กับคนที่ฉีดและคนรอบข้างได้ บางคนทนกลิ่นน้ำหอมไม่ได้เป็นลมไปก็มีค่ะ
- ฉีดน้ำหอมลงบนผิวแห้ง เวลาที่เหมาะสมในการใช้น้ำหอมคือหลังอาบน้ำค่ะ เพราะรูขุมขนของผิวหนังจะเปิดและได้รับความชุ่มชื้น ดังนั้นหากฉีดน้ำหอมหลังอาบน้ำน้ำหอมจะซึมซาบอย่างรวดเร็ว อีกวิธีคือใช้โลชั่นหรือมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนเพื่อให้ผิวหมาดก่อนฉีดน้ำหอม จำไว้นะคะว่าการใช้น้ำหอมในขณะที่ผิวแห้งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและน้ำหอมก็ติดทนได้ไม่นานด้วย