โลกปัจจุบันไม่ว่าจะทำอะไร ต่างก็ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก หรือโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น อย่างเวลาทำงานก็ต้องนั่งหน้าจอเป็นเวลานานๆ พอมีเวลาว่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจับ มาส่องดูข่าวสารโน้นนี่ไปตามกระแส เมื่อกลับมาบ้านก็หาหนังหรือซีรีส์เรื่องโปรดดูเป็นการรีแลกซ์และคลายเครียดให้ตัวเอง หลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน จากที่เราเกริ่นมานั้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็มีกิจวัตรประจําวันที่คล้าย ๆ กันใช่มั้ยคะ? แล้วคุณสังเกตเห็นอะไรในกิจวัตรประจําที่ทำอยู่บ้างไหม?
ใช่แล้ว!!! กิจวัตรประจําทั้งหมดของคุณนั้นต้องใช้สายตาในการจ้องหน้าจอเกือบทั้งวัน การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ เช่นสมาร์ทโฟน, ทีวี 4K หรือ ทีวี 8K เป็นระยะเวลานาน ๆ จะส่งผลเสียต่อสายตาของคุณ แสงที่จ้าเกินไปและแสงสีน้ำเงินที่ปล่อยออกมาจากหน้าจอเหล่านี้ จะทำให้เกิดความเมื่อยล้าของดวงตา นอกจากนี้ยังอาจทำให้สายตาสั้นจนต้องใส่แว่นสายตา, คอนแทคเลนส์สายตา หรือคอนแทคเลนส์สี และมีผลกระทบต่อการนอนหลับของคุณอีกด้วย
ช่างโชคดีจริงๆ ที่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยการใช้แว่นกรองแสงสีฟ้า หรือแว่นกรองแสงคอมพิวเตอร์ ที่นอกจากจะช่วยกรองแสงแล้ว บางรุ่นก็สามารถกรองรังสี UV และลดแสงสะท้อนได้อีกด้วย
แสงสีฟ้า คืออะไร? (1)
แสงที่เรามองเห็นอยู่ทุกวันนี้จะมีทั้งหมด 7 สี นั่นคือ สีม่วง สีน้ำเงิน สีเขียว สีคราม สีเหลือง สีแสด สีแดง และแสงสีฟ้าหรือน้ำเงิน ซึ่งแสงในแต่ละสีนั้นก็จะมีความยาวคลื่นและความสว่างที่ต่างกัน โดยแสงที่เป็นอันตรายต้องดวงตาเรามากที่สุด ก็คือแสงสีฟ้าหรือแสงสีน้ำเงินนั้นเอง ที่จะอยู่ในช่วงความยาวคลื่นที่ 400-500 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่ส่งผลเสียต่อจอประสาทตาของเรา และคุณรู้หรือไม่ว่าเจ้าแสงสีฟ้าหรือสีน้ำเงินเป็นแสงที่สว่างมากกว่าสีอื่น ๆ จึงทำให้ดวงตาของเราต้องเพ่ง ต้องโฟกัสที่จอโดยไม่รู้ตัว ที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของเราอย่างมาก โดยส่วนใหญ่แล้วแสงสีฟ้าหรือสีน้ำเงินก็มีแหล่งกำเกิดมาจากพวกอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หลอดไฟที่ใช้ตามบ้าน ออฟฟิศ ห้างร้านค้าทั่วไป พวกจอทีวี จอคอมพิวเตอร์ จอโน๊ตบุค จอโทรศัพท์ จอแทบเล็ต หรือแม้แต่จอนาฬิกา Smart Watch ก็ล้วนแต่ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาทั้งนั้น
แสงสีฟ้าส่งผลเสียต่อเราอย่างไรบ้าง? (2)
- มีอาการ ตามัว ตาล้า ตาแห้ง ตาแดงหรือเคืองตา
- เยื่อช้ันในดวงตาเสื่อม
- จอประสาทตาอาจเสื่อมได้
- ทำให้นอนไม่หลับ
- เกิดความเมื่อยล้า
- ปวดศีรษะ
- เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
- อาจเกิดภาวะซึมเศร้า
การป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน (1)
- ติดฟิล์มกรองแสงสีฟ้าบนอุปกรณ์พวก จอคอมพิวเตอร์ จอโน้ตบุ๊ก จอโทรศัพท์ จอแท็บเล็ต หรือแม้แต่จอนาฬิกา Smart Watch เป็นต้น
- ลดความสว่างของหน้าจอแสดงผลต่าง ๆ ให้อยู่ระดับที่เคียงกับแสงรอบตัว
- ลดความสว่างพวกหลอดไฟฟลูโอเรสเซนต์ที่ใช้ในห้อง
- ควรให้จอคอมพิวเตอร์หรือจอโน๊ตบุค อยู่ห่างจากหน้าของคุณประมาณ 20 – 30 นิ้ว
- ควรจะมีเวลาพักสายตาบ้าง ไม่ควรจ้องหน้าจอนานเกินไป
- การใช้น้ำตาเทียมที่บำรุงสายตาและป้องกันแสงสีฟ้าได้
- ใช้แอปที่ลดแสงสีฟ้า บนอุปกรณ์ พวกสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต
- โต๊ะทำงานควรจะมีต้นไม้เล็ก ๆ อย่างต้นกระบองเพชร ที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
- ใช้แว่นเลนส์ที่สามารถกรองแสงสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน
ประเภทของเลนส์แว่นที่ช่วยถนอมสายตา
1. เลนส์มัลติโค้ท ( Multicoat ) คืออะไร
- ลดแสงสะท้อนจากผิวเลนส์ ช่วยให้ภาพคมชัดขึ้น
- สามารถกรองแสงสีฟ้าสีน้ำเงินจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนส์ ได้ดีในระดับหนึ่ง
- มีการเคลือบสารป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ (EMI = Electro Magnetic Infrared Lens) ซึ่งคลื่นนี้จะถูกปล่อยออกมาจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ
- มีการเคลือบผิวเลนส์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
- มีการเคลือบสารที่ป้องกัน UV ต่าง ๆ จากแสงดวงอาทิตย์
2. เลนส์บลูบล็อก (Blue Light Block), บลูคัท (Blue Cut) หรือ บลูคอนโทรล (Blue Control) คืออะไร
- เลนส์ที่ทำหน้าที่กรองหรือตัดแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์จอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์, จอมือถือ, จอแท็บเล็ต แสงจากหลอดไฟ หลอด LED เป็นต้น สามารถกรองแสงสีฟ้าได้ดีว่าเลนส์มลัติโค้ทแบบธรรมดา
- สามารถกรองแสง UV ที่ระดับ 420 นาโนเมตรได้
3. เลนส์มัลติโค้ทปรับแสง (Multicoat Auto) คืออะไร
- เป็นเลนส์ที่สามารถปรับแสงได้ เมื่อออกแดดแล้วจะเปลี่ยนสีไปตามความเข้มของแสง UV ที่ได้รับ แต่เมื่ออยู่ที่ร่ม จะเป็นเลนส์ใส่ปกติ
- สามารถตัดแสงสะท้อนได้, กรองแสง UV, แสงสีฟ้า โดยรวมแล้วคุณสมบัติทุกอย่างเหมือนเลนส์มัลติโค้ท เพียงแค่สามารถปรับแสงได้เมื่อออกไปเจอแสงแดด
- เหมาะสำหรับผู้ที่ดวงตาแพ้แสงมาก ๆ
4. เลนส์บลูบล็อกปรับแสง คืออะไร
เลนส์บลูบล็อก (Blue Light Block), บลูคัท (Blue Cut) หรือ บลูคอนโทรล (Blue Control) แล้วแต่จะเรียก บวกกับความสามารถของเลนส์มัลติโค้ทปรับแสง (Multicoat Auto)
เคล็ดลับในการซื้อแว่นคอมพิวเตอร์ หรือแว่นกรองแสงสีฟ้า
- Style (สไตล์) – หรือการดีไซน์ออกแบบของตัวแว่นนั่นเอง โปรดเลือกสไตล์ที่ใช่สำหรับเรา และเหมาะกับใบหน้า รับกับรูปหน้าพอดี ใส่แล้วไม่รู้สึกหนัก อึดอัดหรือเจ็บจนเกินไป เพราะคุณต้องใส่มันเป็นเวลาหลายชั่วโมง
- วัสดุที่ใช้ – เลือกใช้วัสดุที่ผลิตอย่างมีคุณภาพ และสามารถใช้ได้ทนทาน ในระยะยาว
- ความสามารถของตัวเลนส์ – เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของเรา มีให้เลือกทั้งเลนส์มัลติโค้ท, เลนส์บลูบล็อก, เลนส์มัลติโค้ทปรับแสง และเลนส์บลูบล็อกปรับแสง
- ราคา – มีราคาให้เลือกซื้อหลากหลายตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน โดยราคานั้นก็จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของตัวแว่นและเลนส์ที่ใช้ เช่นวัสดุที่ใช้มีความทนทานมากน้อยเพียงใด การเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนที่ตัวเลนส์ หรือคุณภาพในการกรองแสง การป้องกันรังสี UV หรือความสามารถในการลดการสะท้อนแสง ต่างก็เป็นตัวกำหนดราคาด้วยกันทั้งนั้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เมื่อเรารู้ถึงอันตรายจากแสงสีฟ้า ที่มาจากจอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์มือถืออย่างนี้แล้ว ยังจะมองข้ามภัยร้ายใกล้ตัวกันอีกมั้ย? มันสามารถทำให้เยื่อช้ันในดวงตาและจอประสาทตาของเราเสื่อมได้ เมื่อรู้ถึงข้อเสียอย่างนี้แล้วควรจะป้องกันดวงตาของเราจากที่แนะนำไปแล้วในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นติดฟิลม์กรองแสงสีฟ้า, ลดความสว่างของหน้าจอแสดงผล, ไม่ควรจ้องหน้าจอนานเกินไป, การใช้น้ำตาเทียมที่บำรุงสายตาและป้องกันแสงสีฟ้าได้, ใช้แอปที่ลดแสงสีฟ้า รวมถึงการหาอาหารเสริมบำรุงสายตามาทานควบคู่เพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวดวงตาในอนาคต และไม่ควรละเลยที่จะหาแว่นกรองแสงสีฟ้าดี ๆ สักอัน มาถนอมสายตาของเรานะคะ ดังนั้นคุณควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตบ้าง ต้องรู้จักป้องกันและใช้อุปกรณ์พวกคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถืออย่างถูกวิธี
References :