การที่ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมวัยไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย, ด้านอารมณ์, ด้านสมอง และด้านอื่น ๆ เองก็ถือเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลาย ๆ คนต้องการใช่ไหมละค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมนะคะว่าจริง ๆ แล้วนอกจากตัวของเจ้าหนูเองแล้วเนี่ย ตัวของคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวก็ถือว่ามีบทบาทที่สำคัญมาก ๆ ที่จะช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของลูกน้อย

จริงอยู่ค่ะที่ว่าเรื่องของการเลือกลูกอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนรวมถึงคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เองก็เช่นกัน แต่พอเอาเข้าจริงเชื่อเถอะค่ะว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรเลย เพราะในปัจจุบันข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งเองก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการสร้างเสริมพัฒนาการของลูกน้อยไว้อย่างละเอียดซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Best Review Asia ของเรานี่เองค่ะ

โดยสิ่งที่จะช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กที่เราเคยได้รีวิวไปก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกันค่ะ อาทิเช่น การใช้ของเล่นเสริมพัฒนาการ, โต๊ะกิจกรรม, เพลย์ยิม, แฟลชการ์ด, หนังสือภาพ, เพลงภาษาอังกฤษสําหรับเด็กเล็ก รวมไปถึง “หนังสือเสริมพัฒนาการ” ที่เราจะมาแนะนำวันนี้เองก็เช่นกันค่ะ สำหรับหนังสือในวันนี้จะเป็นหนังสือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถซื้อแล้วนำมาใช้งานกันได้เลยค่ะ สำหรับในบทความนี้หนังสือที่เราเลือกมาก็จะเหมากับการใช้งานตั้งแต่กับทารกวัย 0+ไปจนถึงวันอนุบาลกันเลยทีเดียว แต่ก่อนที่เราจะไปเริ่มรีวิวกันนั้นก็อยากจะชวนทุกคนมาดูความสำคัญของหนังสือเสริมพัฒนาการตลอดจนวิธีการเลือกซื้อกันก่อนเลยค่ะ
หนังสือเสริมพัฒนาการ สำหรับทารก – เด็กวัยอนุบาล แบบไหนดี?
- หนังสือเสริมพัฒนาการสำหรับใช้งานกับเด็กเล็ก ราคาถูก ทำความสะอาดง่าย: หนังสือผ้าเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก
- ชุดหนังสือแบบฝึกหัด ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งฉีกซ้ายและขวา: หนังสือชุด IQ UP พัฒนาสมองซีกซ้ายและขวา
- ชุดหนังสือเสริมพัฒนาการด้านสมองรอบด้าน เหมาะสำหรับเด็กวัยเตรียมอนุบาล: หนังสือชุดพัฒนาสมองระดับเตรียมอนุบาล
- หนังสือเสริมพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษ สำหรับการเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษกับลูก: หนังสือภาพคำศัพท์ First 100 Words เสริมพัฒนาการเด็ก
- เซตหนังสือลอยเสริมพัฒนาการสำหรับวัย 0+ ใช้งานได้ในขณะอาบน้ำ และมีเนื้อหาที่ครอบคลุม: ชุดหนังสือลอยน้ำสำหรับเด็ก
- ชุดหนังสือเสริมพัฒนาการทางทักษะสมอง EF ครบทั้ง 9 ด้าน: Boxset หนังสือนิทานพัฒนาทักษะสมอง EF
- หนังสือเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์ ช่วยให้เด็ก ๆ นิ่งและมีสมาธิมากขึ้น: หนังสือ Quiet Book เสริมพัฒนาการ
เคล็ดลับในการเลือกหนังสือเสริมพัฒนาการ (1,2)
เด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัยจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกันค่ะ ดังนั้นแล้วหนังสือที่จะเข้ามาเสริมพัฒนาการแต่ละด้านในแต่ละช่วงวัยนั้นจะต้องถูกดีไซน์มาให้ไม่เหมือนกันค่ะ โดยด้านล่างนี้ก็จะเป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกซื้อหนังสือเสริมพัฒนาการได้ง่ายขึ้นและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1. หนังสือสำหรับเด็กวัย 0+ ถึง 12 เดือน
หนังสือสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่เจ้าหนูยังแบเบาะค่ะ โดยสำหรับเด็กในวัยนี้หนังสือจะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการกระตุ้นจินตนาการและช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้โลกรอบ ๆ ตัวเค้าค่ะ โดยหนังสือสำหรับเด็กเล็กเราขอแนะนำว่าไม่ต้องเน้นไปที่เนื้อหามากจนเกินไป แต่อาจจะต้องเลือกดูหนังสือที่เรียบง่ายและใช้งานที่สะดวกเป็นหลัก โดยหนังสือที่แนะนำนั้นก็ควรจะมาพร้อมกับสีสันที่ดูสดใส ภาพที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเบา และมีคอนทราสต์สูง ๆ อย่างที่สีขาวและสีดำ เป็นต้น เพราะมันจะทำให้เด็ก ๆ โฟกัสได้ง่าย หนังสือควรจะมีหลากหลายพื้นผิวเพื่อที่จะช่วยให้เจ้าหนูได้ฝึกเรื่องการสัมผัส อาจจะมาพร้อมกับเสียงเพลงหรือจังหวะก็ถือว่าโอเคเช่นกันค่ะ รวมไปถึงหากว่ามีกระจกของเล่นด้วยก็จะดีมาก ๆ เลยค่ะเพราะว่าทารกส่วนใหญ่มักจะชอบส่องกระจกด้วยละค่ะ

แต่อย่างไรก็ดีค่ะนอกจากสิ่งต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วนั้น ความปลอดภัยเองก็ถือเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองจะต้องให้ความสำคัญเช่นกันค่ะ โดยหนังสือนั้นไม่ควรที่จะมีมุมที่แหลมคมเพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ แล้วอีกอย่างที่จะลืมไม่ได้ก็คือเด็ก ๆ ในวันนี้มักจะชอบนำสิ่งของเข้าปาก ดังนั้นแล้วหนังสือควรที่จะนิ่ม สามารถกันน้ำได้ดี ทนทานไม่ฉีกขาดหรือเปื่อยยุ้ยได้ง่าย และที่สำคัญมาก ๆ คือต้องปลอดภัยด้วยการเลือกใช้สี, วัสดุ ตลอดจนน้ำหมึกที่เหมาะสำหรับการใช้งานกับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ
2. หนังสือสำหรับเด็กตั้งแต่ 12 – 18 เดือน
สำหรับในช่วงอายุตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไปนั้นลูกน้อยจะเริ่มคุ้นเคยกับเสียง คำ และภาษามากขึ้น เด็ก ๆ จะเริ่มฟังและทำความเข้าใจได้ดีขึ้น โฟกัสได้มากขึ้นกับหนังสือที่คุณพ่อคุณแม่นำมาอ่านให้ฟังนั่นเองค่ะ สำหรับหนังสือที่เหมาะสำหรับเด็กวัยนี้ควรที่จะเป็นหนังสือที่จับใช้งานได้ง่าย อย่างหนังสือบอร์ดบุ๊กค่ะ เพราะมันเป็นหนังสือที่ผลิตมาจากวัสดุที่แข็งแรง ไม่ฉีกขาดง่าย และหยิบจับได้สะดวก หากว่ามาพร้อมกับกลไกต่าง ๆ เพิ่มเติมเข้ามา อย่างการที่ดึงหรือหมุนได้หรือการที่ให้เด็ก ๆ ได้ลองตามหาของที่ซ้อนเอาไว้ในหนังสือด้วยแล้ว อันนี้ก็จะทำให้มันดูน่าสนใจมากขึ้นค่ะ

หนังสือเสริมพัฒนาการหากว่ามีเสียงหรือพื้นที่ผิวที่แตกต่างกันก็ช่วยเพิ่มการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น ในส่วนของเนื้อหาก็ควรที่จะเป็นรูปภาพของวัตถุหรือสิ่งของทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น ภาพอาหาร, ภาพยานพาหนะ, ภาพสัตว์ หรืออาจจะเป็นภาพของเด็ก ๆ กำลังทำกริยาต่าง ๆ โดยเนื้อหาก็จะมีรายละเอียดที่มากขึ้นกว่ากลุ่มก่อนหน้านี้เล็กน้อยแต่ก็ยังคงเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถที่จะเข้าถึงได้ง่าย และนอกจากนี้หนังสือไม่ควรที่จะมีแม็กเย็บกระดาษเพราะนั่นอาจจะเป็นอันตรายสำหรับเด็กได้ค่ะ
3. หนังสือสำหรับเด็กตั้งแต่ 18 – 3 ขวบ
พอเริ่มเข้าสู่วัยหัดเดิน เด็ก ๆ ก็มักจะชอบหนังสือที่มีการเคลื่อนไหว มีเสียง ภาพ และเนื้อหาที่มีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น โดยหนังสือสำหรับเด็กในวัยนี้ควรที่จะต้องออกแบบมาให้น่าสนใจเพื่อที่จะช่วยดึงดูดความสนใจของเจ้าหนูได้ดีและระยะเวลาในการอ่านควรจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 นาทีก็จะถือเป็นระยะที่พอเหมาะค่ะ สำหรับหนังสือเสริมพัฒนาการที่แนะนำก็อาจจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับสัตว์และมาพร้อมกับเสียงสัตว์ หนังสือที่มีเนื้อหาที่เค้าชื่นชอบ โดยอาจจะเกี่ยวกับรถ, เจ้าหญิง, ดวงดาวและดาวเคราะห์ หรืออื่น ๆ ก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้หนังสือในกลุ่มนี้ควรจะมาพร้อมกับเรื่องสั้นที่เกี่ยวกับการใช้เหตุและผลหรือการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ตัวละครจะต้องข้ามผ่านให้ได้ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะมีการเชื่อมโยงระหว่างตัวละครในหนังสือกับตัวของเด็ก ๆ บ้างก็ได้ค่ะ หนังสือที่แนะนำก็อาจจะเป็นหนังสือป๊อปอัพหรือหนังสือที่มาพร้อมกับปุ่มกดที่มีเสียงก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ดีเลยค่ะ
4. หนังสือสำหรับเด็กตั้งแต่ 3-5 ขวบ

สำหรับเด็กตั้งแต่ช่วง 3-5 ขวบจะมีทักษะความสามารถทางด้านการอ่านที่ค่อนข้างมากค่ะ ดังนั้นแล้วเนื้อหาในหนังสืออาจจะมีความซับซ้อนขึ้นเล็กน้อยได้ค่ะ โดยอาจจะเลือกเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับตัวอักษร, รูปทรงต่าง ๆ หรือตัวเลขเองก็ได้ หนังสือที่มาพร้อมกับภาพและตัวอักษรที่มากขึ้นก็ถือว่าน่าสนใจเช่นกันค่ะ นอกจากนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่เองก็ยังสามารถเลือกหนังสือที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของเด็ก ๆ โดยเฉพาะได้เช่นกัน อย่างเช่น เรื่องที่เกี่ยวกับไดโนเสาร์, สัตว์ หรือมหาสมุทร รวมไปถึงหนังสือที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว, เพื่อน และการไปโรงเรียนเองก็ถือว่าเหมาะกับเด็ก ๆ กลุ่มนี้ด้วยละค่ะ
หนังสือผ้าเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก

ราคา 49 บาท*
สำหรับหนังสือเล่มแรกนี้ก็จะเป็นหนังสือที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานของเด็กเล็กโดยเฉพาะ มาพร้อมกับภาพขนาดใหญ่และสีสันที่ดูสดใสจึงมีส่วนช่วยในการมองเห็นของเด็ก ๆ อาจยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ แล้วตัววัสดุที่มาจากผ้านี้ก็ยังให้สัมผัสที่นุ่ม แข็งแรงไม่ขาดง่าย และยังปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวด้วยค่ะ
สำหรับหนังสือผ้านี้ก็เป็นหนังสือที่จะช่วยเสริมพัฒนาการในด้านการใช้งานกล้ามเนื้อมัดเล็กทำให้ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำมากขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมพัฒนาการด้านการมองเห็นตลอดจนการได้ยินด้วยค่ะเพราะว่าหนังผ้าก็มาพร้อมกับเสียงด้วยเช่นกัน หนังสือผ้าเล่มนี้มาในราคาประหยัด โดยเนื้อหาเองก็มีหลากหลายแบบให้เลือก อีกทั้งยังเป็นหนังสือที่ทำซักทำความสะอาดได้ง่ายมาก ๆ อีกด้วยค่ะ
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- ซักทำความสะอาดได้ง่าย แห้งเร็ว
- เนื้อผ้าทนทานและปลอดภัยสำหรับการใช้งานกับเด็ก
- สีสันสดใสและคมชัด ช่วยดึงดูสายตาของเด็กได้ดี
- การตัดเย็บเก็บรายละเอียดได้ดี
ข้อควรพิจารณา
- มุมบริเวณตีนตุ๊กแกค่อนข้างคมเล็กน้อย ในส่วนนี้อาจต้องใช้ความระมัดระวังกันด้วยนะคะ
จำนวน | 1 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 12 x 11.5 x 2.7 ซม. |
จำนวนหน้า | ไม่ระบุ |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาอังกฤษ |
วัสดุ | ผ้า |
มีเสียง | ✔ |
เหมาะสำหรับ | 8 เดือนขึ้นไป |
หนังสือชุด IQ UP พัฒนาสมองซีกซ้ายและขวา

ราคา 67 บาท*
หนังสือชุด IQ UP จะเป็นหนังสือที่ช่วยสร้างเสริมทักษะและพัฒนาไอคิวของเด็ก ๆ ตั้งแต่อายุ 2-5 ปีค่ะ โดยในเซตนี้ก็จะประกอบไปด้วยหนังสือทั้งหมด 4 เล่มด้วยกัน โดยที่แต่ละเล่มนั้นจะออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับช่วงวัยนั้น ๆ ค่ะ เนื้อหาหลัก ๆ ในหนังสือชุดนี้ก็จะประกอบไปด้วยแบบฝึกหัดตามหัวข้อต่าง ๆ ซึ่งก็ได้แก่หัวข้อรูปทรง, สัญลักษณ์ และความคิด โดยที่แนะนำให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทำวันละ 3 หน้าสลับกันไปเพื่อให้เด็ก ๆ ได้ฝึกและเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งฉีกซ้ายและฉีกขวา ซึ่งเมื่อทำเสร็จแล้วก็สามารถที่จะตรวจสอบความถูกต้องได้จากเฉลยในท้ายเล่มได้เลยค่ะ
หนังสือชุดนี้เป็นหนังสือที่ช่วยพัฒนาสมองทั้งในด้านการคิดวิเคราะห์และการจดจำได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับเนื้อหาที่ครอบคลุมละน่าสนใจ รวมถึงภาพและสีเองก็ดูสนใจไม่มีทางเบื่อง่าย ๆ อย่างแน่นอนค่ะ แล้วที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือตัวกระดาษที่ใช้ผลิตนั้นเป็นกระดาษเนื้อหนา แข็งแรง ไม่บาดมือ แถมยังสามารถลบและเขียนใหม่ได้ง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ
ข้อดี
- ผลิตจากกระดาษหนาไม่บาดมือ
- มีหนังสือสำหรับทุกช่วงอายุตั้งแต่ 2-5 ปี
- สามารถลบและเขียนใหม่ได้ง่าย
- เนื้อหามีความน่าสนใจ
- ใช้หมึกพิมพ์ที่ปลอดภัย
- มีเฉลยท้ายเล่ม
จำนวน | 4 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 21 x 29.2 x 0.7 ซม. |
จำนวนหน้า | 76 หน้า |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาไทย |
วัสดุ | กระดาษหนา |
มีเสียง | ✔ |
เหมาะสำหรับ | เด็กอายุ 2-5 ขวบ |
หนังสือ Quiet Book เสริมพัฒนาการ

ราคา 123 บาท*
สำหรับหนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นหนังสือ Quiet Book นั่นเองค่ะ โดย Quiet Book หรือหนังสือเงียบนั้นเป็นหนังสือที่ทำขึ้นมาเพื่อส่งเสริมทักษะทางด้านอารมณ์เป็นหลัก ทำให้เด็ก ๆ ที่อยู่ในช่วงวัยกำลังซนนั้นนิ่งและมีสมาธิมากขึ้น แล้วก็ยังช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกการใช้งานนิ้วมือรวมถึงกล้ามเนื้อมัดเล็ก ตลอดจนช่วยกระตุ้นการทำงานร่วมกันระหว่างมือกับตาด้วยค่ะ โดยหนังสือของทางร้านก็มีด้วยกัน 4 หมวดค่ะ คือหมวดตัวเลข, รถ, สวนสัตว์ และผัก
ภายในหนังสือก็จะประกอบไปด้วยรูปภาพและสีสันที่ละลานตา สามารถดึงดูดสายตาเจ้าหนูได้ดีเลยค่ะ ส่วนที่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือเค้าจะมีรูปภาพที่มาพร้อมกับตีนตุ๊กแกมาให้ค่ะ โดยเจ้าหนูจะต้องเป็นคนที่แปะตัวละครหรือสิ่งของต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามตำแหน่งที่ระบุมาค่ะ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นกิจกรรมใหม่ ๆ ที่น่าจะมอบความสนุกสนานและสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการได้ในเวลาเดียวกันค่ะ
ข้อดี
- กระดาษแข็งทำให้ไม่ยับหรือขาดง่าย
- ใช้งานง่าย
- ตีนตุ๊กแกเหนียว ยึดเกาะได้ดี
จำนวน | 1 เล่ม |
---|---|
ขนาด | ไม่ระบุ |
จำนวนหน้า | ไม่ระบุ |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาอังกฤษ |
วัสดุ | กระดาษ |
มีเสียง | ✘ |
เหมาะสำหรับ | เด็กอายุ 3-4 ขวบ |
B2S หนังสือลอยน้ำ Baby Dino

ราคา 157 บาท*
B2S Baby Dino เป็นหนังสือลอยน้ำที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับเด็กเล็กโดยเฉพาะเลยค่ะ ซึ่งนอกจากการใช้งานทั่วไปได้แล้ว หนังสือเล่มนี้เองก็ยังสามารถที่จะนำมาให้เจ้าหนูได้เล่นในขณะที่กำลังอาบน้ำได้ด้วย ฉะนั้นแล้วกระบวนการเสริมสร้างพัฒนาการของเจ้าหนูจะไม่หยุดอยู่แค่บนที่นอนหรือในบริเวณบ้าน แต่ยังสามารถที่จะเรียนรู้ได้แม้กระทั่งในตอนที่กำลังอาบน้ำนั่นเองค่ะ
วัสดุที่ใช้ผลิตนั้นเป็นวัสดุอย่างดีค่ะ ออกแบบมาในรูปทรงโค้ง ไร้ซึ่งมุมเหลี่ยมที่เป็นอันตราย รวมถึงในส่วนของสีเองก็เป็นสีแบบ non-toxic ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กด้วยค่ะ โดยเนื้อหาภายในนั้นจะใช้รูปภาพที่มีขนาดใหญ่และมีสีสันที่ดูฉูดฉาดเพื่อช่วยดึงดูดสายตาของเด็ก ๆ ได้ดี และในเนื้อหาในหนังสือก็จะเกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์ตัวน้อย ๆ หลากหลายสายพันธ์ุที่ดูน่ารักมาก ๆ เลยละค่ะ
ข้อดี
- ผลิตจากวัสดุที่กันน้ำได้และออกแบบมาให้ลอยน้ำได้
- มาพร้อมห่วงช่วยให้ใช้งานสะดวก
- สีสันสดใสและไม่เป็นอันตรายกับเด็ก
- ทำความสะอาดง่าย
จำนวน | 1 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 18 x 21 x 3 ซม. |
จำนวนหน้า | 10 หน้า |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาไทย |
วัสดุ | ไม่ระบุ |
มีเสียง | ✘ |
เหมาะสำหรับ | เด็กเล็ก |
หนังสือนิทาน POP UP 3D

ราคา 198 บาท*
หนังสือป๊อบอัพก็เป็นหนังสืออีกหนึ่งประเภทค่ะที่ช่วยเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ ของเด็ก ๆ ได้ดีมาก ๆ เพราะอยากแรกเลยคือมันมีรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างออกไปจากหนังสือแบบเดิม ๆ ตรงที่หนังสือป็อปอัพจะมีรูปต่าง ๆ ขึ้นมาจากหน้าหนังสือ แล้วก็ยังสามารถขยับได้ด้วยนะคะ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเจอแบบนี้เข้าเด็ก ๆ ก็คงจะตื่นเต้นกันยกใหญ่และคงจะตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างใจจดใจจ่อแน่นอนเลยทีเดียว
สำหรับหนังสือป๊อปอัพเองนี้ก็มีให้เลือกกันถึง 11 หมวดหมู่ โดยแต่ละหมวดหมู่จะมาพร้อมพับสีสันของตัวละครและสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่ชัดเจนสมจริงทำให้ดูสนุกสนานและน่าตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ ตัวตัวละครหรือสิ่งของที่ขยับได้เองก็ทำมาจากกระดาษเนื้อหนาอย่างดี ปิดเปิดได้บ่อยตามต้อง ไม่ฉีกขาดง่าย ๆ อย่างแน่นอน หนังสือในลักษณะนี้ถือว่ามีส่วนในการฝึกจินตนาการของเด็ก ๆ ได้ดี เพราะมันจะไม่ใช่แค่ภาพนิ่งแบบเดิม เพราะตัวละครโปรดของเจ้าหนูนั้นสามารถขยับได้และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้แล้วมันก็ยังช่วยในเรื่องของการมองเห็น แล้วก็ช่วยส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวด้วยค่ะ
ข้อดี
- มีให้เลือกหลากหลายหมวดภาพ
- มีรูปแบบการนำเสนอที่โดดเด่นกว่าแบบอื่น ๆ
- ตัวละครในหนังสือสามารถขยับได้
- กระดาษที่ใช้ค่อนข้างหนาทำให้ขาดยากและไม่บาดมือด้วยค่ะ
จำนวน | 1 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 18.8 x 2.5 x 18.8 ซม. |
จำนวนหน้า | 10 หน้า |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาอังกฤษ |
วัสดุ | กระดาษ |
มีเสียง | ✘ |
เหมาะสำหรับ | ไม่ระบุ |
หนังสือชุดพัฒนาสมองระดับเตรียมอนุบาล

ราคา 329 บาท*
สำหรับหนังสือเซตนี้ก็จะเป็นหนังสือเสริมพัฒนาการทางด้านสมองที่เหมาะสำหรับหนูน้อยที่กำลังจะเตรียมตัวเข้าเรียนชั้นอนุบาลนั่นเองค่ะ โดยในเนื้อหาของหนังสือในเซตนี้จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างเสริมเชาวน์ปัญญา เสริมทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ เสริมความพร้อมทางด้านคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหา หารสร้างเสริมสมาธิ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่าเนื้อหาที่อยู่ในหนังสือทั้ง 12 เล่มนั้นถือว่าค่อนข้างที่จะครอบคลุมมาก ๆ เลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้วในหนังสือแต่ละเล่มเองก็ยังจะมีคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้หนังสือให้คุณแม่คุณพ่อได้ลองนำไปใช้กันด้วยค่ะ ซึ่งวิธีการที่ว่านี้ก็จะเป็นไกด์ไลน์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ดี อีกทั้งยังทำให้การเตรียมตัวของเจ้าหนูมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่ะ หนังสือทั้งหมดจะถูกออกแบบให้มาพร้อมกับภาพที่สวยและกิจกรรมที่น่าสนใจนี่จึงทำให้เด็ก ๆ สามารถใช้เวลากับส่วนนี้ได้นานขึ้นโดยไม่มีเบื่อเลยนั่นเองค่ะ
ข้อดี
- มีเนื้อหาที่ครอบคลุมสำหรับเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนชั้นอนุบาล
- มีเฉลยมาให้ท้ายเล่ม
- มีความยากหลายระดับให้เด็ก ๆ ได้ฝึก
- หนังสือมีขนาดเล่มที่ใหญ่ ทำให้ดูง่าย
- กระดาษหนาไม่บาง
จำนวน | 12 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 17 x 24 ซม. |
จำนวนหน้า | มากกว่า 500 หน้า (รวมทั้ง 12 เล่ม) |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ |
วัสดุ | กระดาษ |
มีเสียง | ✘ |
เหมาะสำหรับ | เด็กวัยเตรียมอนุบาล |
หนังสือภาพคำศัพท์ First 100 Words เสริมพัฒนาการเด็ก

ราคา 449 บาท*
สำหรับคุณแม่หรือคุณพ่อท่านไหนที่ได้ติดตามความน่ารักของครอบครัวของพ่อเหว่งและแม่ตุ๊กก็น่าจะรู้จักกับ Little Monster กันเป็นอย่างดี ซึ่งทางแม่ตุ๊กเองก็มีสินค้าที่น่าสนใจออกมามากมายเลยค่ะ แต่ที่พิเศษสุด ๆ เลยก็คือหนังสือภาพคำศัพท์ First 100 Words ซึ่งหนังสือที่ว่านี้ก็จะเป็นหนังสือภาพสีสันสดใสและจะมาพร้อมกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษและความหมายภาษาไทยให้คุณแม่คุณพ่อได้ป้อนคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ๆ ทีละนิด โดยคำศัพท์ที่อยู่ในเล่มนี้ก็จะเป็นคำศัพท์ง่าย ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัว อย่างตัวเลข, เสื้อผ้า, สิ่งของ และอื่น ๆ ค่ะ
แล้วถ้าเกิดว่าคุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่แน่ใจเรื่องของการอ่านออกเสียงก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะว่าในทาง Little Monster เองก็ได้มีการทำใส่ QR Code มาเพื่อให้คุณสามารถสแกนเพื่อฟังเสียงคำศัพท์นั้น ๆ ได้ด้วยค่ะ โดยในหนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นหนังสือที่ผลิตมาจากที่หนา ไม่ยับและไม่ฉีกขาดง่าย รูปภาพใหญ่ สีสันสวยงามถูกใจเด็ก ๆ อย่างแน่นอน อย่างลืมนะคะว่าสำหรับบ้านไหนที่ต้องการจะเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษกับลูก ๆ หนังสือภาพชุดนี้ถือว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ
ข้อดี
- ใช้กระดาษที่หนา ไม่ฉีกขาดง่าย
- พกพาสะดวก
- สามารถสแกนเพื่ออ่านออกเสียงได้
- ภาพสวยและมีขนาดใหญ่
- คำศัพท์จะเป็นคำศัพท์ทั่วไปในชีวิตประจำวัน จึงไม่ยากเกินไปค่ะ
จำนวน | 2 เล่ม |
---|---|
ขนาด | ไม่ระบุ |
จำนวนหน้า | ไม่ระบุ |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ |
วัสดุ | กระดาษหนา 700 แกรม |
มีเสียง | ✔ (สแกนจาก QR Code) |
เหมาะสำหรับ | เด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป |
หนังสือพร้อมปุ่มกดฟังเสียง

ราคา 559 บาท*
สำหรับหนังสือเสริมพัฒนาการเล่มนี้ยังสามารถที่จะช่วยส่งเสริมทักษะด้านการฟังรวมถึงภาษาอังกฤษได้ด้วยเพลงเด็กที่มาในจังหวะที่สนุกสนาน ช่วยให้เด็ก ๆ ได้สามารถร้อง เล่น และเต้นตามได้อย่างเต็มเหนี่ยวไม่มีเบื่อเลยละค่ะ โดยเพลงทั้งหมดก็มีให้เลือกกันถึง 30 เพลงไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว พร้อมกันนี้ก็ยังมีเนื้อเพลงมาให้ด้วยเช่นกัน
หนังสือเล่มนี้จะออกแบบมาพร้อมกับภาพที่มีสีสันสวยงามตลอดทั้งเล่ม รวมถึงตัวละครต่าง ๆ เองก็น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ หนังสือแข็งแรง ไม่ขาดง่าย แล้วทางด้านข้างก็จะมีปุ่มมาให้เลือกค่ะ ซึ่งปุ่มทั้ง 30 ปุ่มก็จะเป็นเพลงที่ไม่ซ้ำกันทั้ง 30 เพลงที่เราบอกไปข้างต้นค่ะ ไม่ว่าจะกดปุ่มไหนก็มีเพลงมัน ๆ ให้เจ้าหนูได้โยกย้ายตลอดเวลา แถมเสียงเพลงเองก็ใสแจ๋ว คมชัด ไม่อู้อี้เลยละค่ะ
ข้อดี
- เสียงคมชัด
- สามารถปรับความดังได้ 2 ระดับ
- มีเพลงให้เลือกหลากหลายถึง 30 เพลง
- ในสมุดมาพร้อมกับเนื้อเพลงให้ร้องตาม
ข้อควรพิจารณา
- เพลงและเนื้อเพลงทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ
จำนวน | 1 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 17.8 x 29.8 ซม. |
จำนวนหน้า | 36 หน้า |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาอังกฤษ |
วัสดุ | กระดาษ |
มีเสียง | ✔ |
เหมาะสำหรับ | ไม่ระบุ |
ชุดหนังสือลอยน้ำสำหรับเด็ก

ราคา 783 บาท*
มาต่อกันที่หนังสือลอยน้ำกันอีกหนึ่งรอบค่ะ แต่คราวนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มมาก ๆ กับหนังสือลอยน้ำในรูปแบบเซตทั้งหมด 6 เล่ม ครอบคลุมทั้งหมวดหมู่ของ ก ไก่, ABC, 123, สัตว์, ยานพาหนะ และคำศัพท์ ซึ่งความพิเศษของหนังสือเล่มนี้คือมันสามารถกันน้ำและลอยน้ำได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นช่วงอาบน้ำหรือเล่นน้ำก็ไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ แถมหนังสือยังผลิตมาจากวัสดุอย่างดีทำให้แข็งแรงและทนทานสามารถใช้งานงานได้ยาว ๆ เลยทีเดียว
หนังสือลอยน้ำสำหรับเด็กเซตนี้ผลิตออกมาด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสที่นิ่ม อ่อนโยน และมาในขนาดที่กำลังทำให้เด็ก ๆ สามารถหัดจับ พลิก หรือเปิดหนังสือเพื่อเป็นการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ค่ะ นอกจากนี้ภาพ สีสันต่าง ๆ รวมไปถึงเสียงเองก็ช่วยให้สร้างเสริมทักษะการมองเห็นและการได้ยินได้ดีอีกด้วยค่ะ เอาเป็นว่าสำหรับผู้ปกครองคนที่อยากจะได้ความคุ้มค่าทั้งการใช้งานที่นาน คุ้มค่า และใช้ได้ทุกสถานการณ์แล้วเนี่ยก็ขอแนะนำเป็นหนังสือชุดนี้เลยค่ะ
ข้อดี
- วัสดุนิ่มและทนทานต่อการใช้งานของเด็ก
- น้ำหนักเบา
- ใช้งานง่าย
- กันน้ำได้ดี
- ไม่มีกลิ่นของพลาสติก
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดค่อนข้างใหญ่สักเล็กน้อยหากว่าใช้งานกับเด็กทารกหรือเด็กเล็ก
จำนวน | 6 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 8 x 8 นิ้ว |
จำนวนหน้า | 12 หน้า/เล่ม |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ |
วัสดุ | ไม่ระบุ |
มีเสียง | ✔ |
เหมาะสำหรับ | เด็กวัย 0+ |
Boxset หนังสือนิทานพัฒนาทักษะสมอง EF

ราคา 1,024 บาท*
และสำหรับเด็ก ๆ ในวัย 3 ขวบขึ้นไปที่ต้องการที่จะพัฒนาทักษะสมอง EF เราก็ขอแนะนำเป็นเซตหนังสือเซตนี้เลยค่ะ โดยภายในเซตก็จะประกอบไปด้วยหนังสือจำนวนทั้ง 13 เล่มที่ได้รับการคัดสรรมาจากทางผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะว่าสามารถที่จะช่วยฝึกทักษะนี้ให้กับเด็ก ๆ ได้จริง อย่างเช่นเรื่องบ้านนี้มีเด็กขี้โมโห ซึ่งก็จะช่วยสร้างเสริมในเรื่องของการยืดหยุ่นทางความคิด การประเมินตัวเอง การควบคุมอารมณ์ เป็นต้น
โดยทั้ง 13 เล่มที่จัดมาให้นี้ก็สามารถช่วยพัฒนาองค์ประกอบได้ครบทั้ง 9 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การจดจำ, ความยืดหยุ่นทางความคิด, การริเริ่มและลงมือทำ และอีกหลาย ๆ ด้าน ซึ่งในแต่ละเรื่องก็จะมีการสอดแทรกเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้เอาไว้ ทำให้เด็ก ๆ สามารถที่จะเรียนรู้ จดจำ และนำไปใช้ได้นั่นเองค่ะ เนื้อหาและภาพมาด้วยสีสันที่ดึงดูดความสนใจได้ดี กระดาษเองก็หนา เรียกได้ว่าราคาและคุณภาพที่ได้มาถือว่าสมเหตุสมผลมาก ๆ เลยละค่ะ และที่สำคัญอีกอย่างก็หนังสือทั้งหมดมีเนื้อที่อ่านง่าย สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ซึ่งนี่ก็ทำให้คุณแม่สามารถนำไปสอนเด็ก ๆ ได้ง่ายขึ้นค่ะ
ข้อดี
- สามารถช่วยพัฒนาทักษะ EF ได้ครบทุกด้าน
- มีกล่องสำหรับใส่ทั้งหนังสือทั้งหมดมาให้
- เนื้อหาเหมาะสำหรับเด็กโดยเฉพาะ
- มีหลากหลายเล่มให้เลือกอ่าน ทำให้ไม่เบื่อ
จำนวน | 13 เล่ม |
---|---|
ขนาด | 23.2 x 21.3 x 8.8 ซม. |
จำนวนหน้า | ไม่ระบุ |
ภาษาที่ใช้ | ภาษาไทย |
วัสดุ | กระดาษ |
มีเสียง | ✘ |
เหมาะสำหรับ | เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว หนังสือเสริมพัฒนาการ สำหรับทารก – เด็กวัยอนุบาล ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
ประโยชน์ของหนังสือเสริมพัฒนาการ (1-3)
ตลอดเวลาในวัยเด็กตั้งแต่เจ้าหนูยังเป็นทารกตัวน้อย ๆ ไปจนถึงวันที่เขาสามารถเดินได้ด้วยตัวเอง เริ่มที่จะสื่อสารได้และค่อย ๆ เติบโตขึ้น ทุกช่วงเวลาถือเป็นช่วงที่เจ้าหนูกำลังฝึกที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ฉะนั้นแล้วหากว่าในช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่พยายามหาวิธีการต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยสร้างและเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ได้ก็จะดีมากเลยละคะ อย่างการอ่านเองก็ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถช่วยเพิ่มพัฒนาการทางด้านสมอง, สร้างเสริมทักษะทางด้านภาษา, สร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่และเด็ก และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งด้านล่างนี้จะเป็นประโยชน์จากการอ่านหนังสือที่เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ในทุก ๆ ช่วยวัยนั่นเองค่ะ
1. สร้างความผูกพันระหว่างกันและกัน
การนั่งอ่านหนังสือกับเจ้าหนูตั้งแต่เค้าอายุยังน้อยถือเป็นการสร้างเสริมความผูกพันระหว่างผู้ปกครองและเด็ก ๆ ได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะในระหว่างที่กำลังอ่านหนังสือคุณและเจ้าหนูก็จะได้ใช้เวลาในส่วนนี้ด้วยกัน ได้พูดคุยกันมากขึ้น แล้วอีกอย่างการอ่านหนังสือก็ถือเป็นการสร้าง ความผูกพันแบบมั่นคง (Secure Attachment) โดยการทำให้เด็ก ๆ รู้สึกปลอดภัย สงบ และรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้นซึ่งในส่วนนี้มันก็จะมีผลต่อการพัฒนาระบบประสาทของเด็กต่อไปค่ะ

2. สร้างเสริมทักษะด้านการฟัง
การฟังหรือทักษะการฟังนั้นเป็นทักษะที่จะถูกพัฒนาต่อยยอดมาเป็นทักษะการพูดและทักษะอื่น ๆ เมื่อเด็ก ๆ โตขึ้น ดังนั้นแล้วการอ่านหนังสือจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีค่ะที่ช่วยสร้างเสริมทักษะการฟังให้ดีขึ้นได้ค่ะ
3. สร้างเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา
การอ่านหนังสือให้เด็ก ๆ ฟังถือเป็นการที่ช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น แล้วก็ยังเป็นการเติมเต็มความรู้พื้นฐานต่าง ๆ ให้มากขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งการอ่านก็จะช่วยพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้, ความจำ, การหาเหตุผล, การสื่อสาร และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
4. สร้างเสริมพัฒนาการด้านภาษา
การอ่านหนังสือเป็นวิธีการที่ช่วยให้เด็ก ๆ เปิดรับภาษา ทำให้เด็ก ๆ ได้รับรู้และเข้าใจความหมายของคำต่าง ๆ ได้มากขึ้น ดังนั้นแล้วการอ่านจึงเป็นเสมือนวิธีที่ช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ให้กับเด็ก ๆ ได้ค่ะ
5. สร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์
หนังสือถือเป็นตัวที่จุดประกายจินตนาการและความคิกสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ๆ แล้วก็ยังช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นให้เพิ่มมากขึ้นซึ่งนี่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะปล่อยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกและจินตนาการแบบไร้ขีดจำกัดนั่นเองค่ะ

6. สร้างเสริมพัฒนาการด้านการมองเห็น
หากจะให้ชัดเจนที่สุดก็คงจะต้องเป็นเรื่องของหนังสือสำหรับเด็กเล็กนั่นเองค่ะ เพราะโดยทั่วไปแล้วเด็กแรกนั้นระบบประสาทการมองเห็นจะไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างเต็มที่ ดังนั้นแล้วหนังสือที่มีคอนทรานส์สูง ๆ จึงสามารถช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณแม่ได้รู้จักโฟกัสไปยังหนังสือได้ดีขึ้น รวมถึงยังเพิ่มสมาธิ พัฒนาความจำ และพัฒนาระบบประสาทได้ด้วยค่ะ
7. ช่วยพัฒนาทักษะด้านกล้ามเนื้อ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่านอกจากทุกด้านที่กล่าวมาแล้ว หนังสือเองก็มีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะด้านกล้ามเนื้อด้วยค่ะ ไม่ว่าจะผ่านทางการเปิดหนังสือ, การชี้, การขยับมือและนิ้ว, ฝึกการทำงานประสานกันระหว่างตาและมือ แล้วก็ยังช่วยฝึกพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสในด้านการสัมผัสด้วยค่ะ
การอ่านหนังสือแบบเดิมกับการอ่านจาก E-Book แบบไหนดีกว่ากัน? (4-5)
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะในปัจจุบันนี้การใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรากันไปแล้ว ซึ่งก็ขอรวมถึงในหมู่เด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะอย่างการอ่านหนังสือเองไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีจำนวนของคนที่หันมาใช้งานหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Book กันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคำถามที่เกิดขึ้นในใจของหลาย ๆ คนก็คือตกลงแล้วหนังสือเสริมพัฒนาการแบบเดิมกับการใช้ E-Book อะไรจะดีกว่ากัน?

ซึ่งก็ต้องบอกเลยค่ะว่าทั้งสองต่างก็มีข้อดีกันคนละแบบ อย่างหนังสือแบบเดิม ๆ ที่มาเป็นเล่มก็จะดีกว่าตรงที่เด็ก ๆ จะได้โฟกัสไปที่หนังสือได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังช่วยด้านประสาทสัมผัสได้ ช่วยให้เด็ก ๆ ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการจับ เรียนรู้สัมผัสจากหน้ากระดาษจริง ๆ แถมการอ่านหนังสือประเภทนี้ก็ยังเปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีการพูดคุยโต้ตอบระหว่างกันได้มากขึ้นด้วยค่ะ แต่ข้อเสียเปรียบมันก็มีอยู่ด้วยกันหลายอย่างค่ะ ทั้งการพกพาที่อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก ทั้งเรื่องของขนาดและน้ำหนัก รวมถึงการเลือกซื้อที่จะต้องพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ
มาถึงทางฝั่งของ E-Book ซึ่งก็มีข้อดีที่เป็นข้อได้เปรียบอยู่หลายข้อเลยทีเดียว หนึ่งเลยคือมันสามารถพกพาได้สะดวก สามารถอ่านซ้ำ ๆ ได้ไม่มีเบื่อ E-Book มักจะมาพร้อมกับภาพประกอบ, แอนิเมชัน และเกมสามารถช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจและจดจำรายละเอียดของเรื่องราวได้ดี และก็แน่นอนค่ะว่าสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือเสียงดนตรีและเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ก็ทำให้เด็ก ๆ สนุกสนานและเพลิดเพลินมากขึ้นค่ะ แต่กระนั้นแล้วนี่ก็ถือเป็นหนึ่งในข้อเสียเปรียบค่ะ เพราะการที่ E-Book ได้รวบรวมมัลติมีเดียเอาไว้ด้วยกันหลาย ๆ อย่างแบบนี้ มันอาจทำให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมน้อยลงตามไปด้วย นอกจากนี้แล้วเกมหรือสิ่งอื่น ๆ ที่อยู่ใน E-Book อาจจะดึงความสนใจของเด็ก ๆ ไปจากเรื่องที่กำลังอ่านอยู่นั่นเองค่ะ แต่อย่างไรก็ดีค่ะไม่ว่าจะใช้หนังสือหรือ E-Book ต่างก็มีประสิทธิภาพในการช่วยพัฒนาเด็ก ๆ ได้ด้วยกันทั้งคู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือการเลือกรูปแบบหนังสือที่เหมาะกับช่วงวัยและการเลือกใช้งานที่เหมาะสม ซึ่งแน่นอนค่ะว่าในเรื่องนี้หนังสือแบบที่มาในรูปเล่มแบบดั้งเดิมนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากเป็นการใช้ E-Book ก็ขอให้คุณแม่คุณแม่ตรวจสอบและเลือกใช้อย่างเหมาะสมกันด้วยนะคะ |
![]() |
References :