เสียงดนตรี สามารถเข้าถึงอารมณ์ สภาพจิตใจ และส่งผลต่อร่างกายของคนเราได้โดยตรงครับ อย่างเช่นเมื่อคุณฟังเพลงเศร้าไม่ว่าจะภาษาไหนก็ตาม ดนตรีจะนำพาให้คุณเศร้าไปด้วย แม้ว่าคุณจะไม่รู้ความหมายของเพลงนั้น ในทางกลับกันถ้าเป็นเพลงสนุก เสียงดนตรีก็จะพาเราสนุกตามไปด้วย ดังนั้น เสียงเพลง จึงมีอิทธิพลต่อเรามาก ๆ ครับ และยิ่งในสมัยนี้ เราสามารถจะฟังเพลงได้ง่ายและสะดวกขึ้น เราสามารถเปิดเพลงผ่านสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ จึงไม่แปลกหากเราจะมีเพลงที่ชื่นชอบ และอยากที่จะร้อง และบรรเลงเพลงโปรดนั้นด้วยตนเอง
ในปัจจุบันเครื่องดนตรีก็มีให้เลือกเล่นอยู่หลายชนิดหลายประเภทครับ อันที่นิยมก็จะมีอูคูเลเล่, กีต้าร์โปร่ง, กีต้าร์ไฟฟ้า และ กลองไฟฟ้า เป็นต้น แต่ก็นั่นแหละครับ หากคุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการจะเล่นเครื่องดนตรีเหล่านี้ การเล่นมันค่อนข้างเจ็บนิ้วและเหนื่อยมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเครื่องสายครับ แต่หากจะเล่นเครื่องเปาอย่างขลุ่ย มันก็ไม่สามารถเล่นและร้องไปด้วยได้ ดังนั้นเรามีเครื่องดนตรีอยู่ชิ้นหนึ่งที่สามารถเล่นง่าย ไม่เจ็บนิ้ว ไม่เหนื่อย สามารถทั้งเล่นและร้องไปด้วยได้ นอกจากนี้ยังมีเสียงที่สามารถให้ความสุนทรีย์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สิ่งนั้นก็คือ เปียโน ครับ !
เปียโน คืออะไร ?
“เปียโน” นั้น ย่อมาจาก “เปียโนฟอร์เต” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงโดยการใช้นิ้วกดลงไป โดยเสียงของเปียโนสามารถเข้ากับเครื่องดนตรีได้เกือบทุกชนิดครับ สามารถบรรเลงเดี่ยว ๆ ได้หรือบรรเลงรวมกับวงก็ได้ โดยเปียโนจริง ๆ จะมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ทำให้เคลื่อนย้ายได้ยาก และที่สำคัญมีราคาค่อนข้างแพง มันเลยทำให้หลาย ๆ คนมองข้ามเครื่องดนตรีชนิดนี้ไป

ต่อมาได้มีการผลิต เปียโนไฟฟ้า (Digital Piano) ขึ้นมา ซึ่งจะเป็นการเลียนแบบเสียงของเปียโนจริง ๆ โดยที่ไม่ใช้กลไกของเปียโนเลย แต่จะใช้แผงวงจรในการสังเคราะห์เสียงออกมาแทน ซึ่งมันจะมีองค์ประกอบทุก ๆ อย่างเหมือนกับเปียโนทั้ง น้ำหนักคีย์บอร์ด คันเหยียบ และเสียง แต่จะมาในขนาดที่เล็กกว่า มีน้ำหนักเบากว่า ทำให้มันเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่ามาก และที่สำคัญมันยังมีราคาที่ประหยัดกว่ามากด้วย ซึ่งแม้ว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ จะยังไม่สามารถใช้เปียโนไฟฟ้าทดแทนเปียโนจริง ๆ ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็สามารถทำให้เราได้เล่นเปียโนง่ายขึ้นครับ
ประเภทของ เปียโน
สำหรับปัจจุบัน เปียโน มีการออกเป็น 3 แบบ ใหญ่ ๆ ครับ ซึ่งแต่ละแบบก็จะให้เสียงที่เหมือน ๆ กัน อาจมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่สิ่งที่ต่างกันจริง ๆ ก็คือ กลไกที่ทำให้เกิดเสียง ครับ
แกรนด์เปียโน
เป็นอะคูสติกเปียโน หรือเปียโนขนาดใหญ่ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ในละครหรือภาพยนตร์ โดยภายในจะมีการวางสายตามแนวนอน มีเสียงที่ค่อนข้างดัง และไพเราะมาก ๆ แต่ข้อเสียของมันก็คือ ด้วยขนาดที่ใหญ่และมีน้ำหนักทำให้มันเคลื่อนย้ายได้ยากมาก ๆ และที่สำคัญราคาสูงที่สุดด้วย ทั้งยังจำเป็นต้องปรับตั้งสายเป็นประจำทุก ๆ ปีด้วย
อัพไรท์เปียโน
เป็นอะคูสติกเปียโนที่มีการวางสายตามแนวตั้ง ทำให้ได้ขนาดที่เล็กลงมาจาก แกรนด์เปียโน แต่มันก็ยังถือว่ามีขนาดใหญ่ และเคลื่อนย้ายได้ยากอยู่ ส่วนราคาก็ลดน้อยลงมาครับ ซึ่งก็ยังถือว่าแพงอยู่พอสมควร นอกจากนี้ก็ยังต้องมีการปรับตั้งสายเป็นประจำทุก ๆ ปีเช่นกัน
เปียโนไฟฟ้า หรือ ดิจิตอลเปียโน
เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เปียโนแบบอื่น ๆ โดยทำการปรับเปลี่ยนกลไกในการเกิดเสียงใหม่ ซึ่งจะไม่มีการใช้สายเหมือนกับเปียโนในแบบก่อนหน้านี้ แต่จะใช้เป็นเสียงสังเคราะห์แทน ทำให้มันมีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบาลงมาก และที่สำคัญยังมีราคาประหยัดอีกด้วย ส่วนเสียงเปียโนไฟฟ้าจะใช้ลำโพงเข้ามาแทน ทำให้มันมีเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติมากนักหากเทียบกับเปียโนที่ใช้สาย แต่มันสามารถลดความยุ่งยากลงได้มากเช่นกัน มันไม่จำเป็นต้องตั้งสาย แถมยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายมาก นอกจากนี้ยังมีระบบที่เข้ามาช่วยสอนด้วยทำให้เปียโนไฟฟ้าคือแบบที่เหมาะกับมือใหม่มากที่สุดครับ
คีย์บอร์ด กับ เปียโนไฟฟ้า แตกต่างกันอย่างไร ?
เครื่องดนตรีตระกูลลิ่มนิ้วหรือใช้นิ้วกด ถือเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมาก สำหรับมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ แต่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจกำลังรู้สึกสับสนกับเครื่องดนตรีทั้งสองชนิดนี้ เพราะหน้าตามันก็คล้าย ๆ กัน แถมการเล่นก็ยังคล้าย ๆ กันอีกทำให้บางคนก็อาจจะคิดว่ามันเหมือนกัน วันนี้เราขอพาทุกคนมาดูความแตกต่างของทั้งสองอย่างนี้กันครับ ซึ่งน่าจะช่วยให้มือใหม่สามารถเลือกเครื่องดนตรีที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น
1. น้ำหนักของลิ่มคีย์
แม้ว่าคีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้า จะมีหน้าตาและการเล่นที่เหมือน ๆ กัน แต่สิ่งแรกที่จะแตกต่างกันเลยก็คือ ลิ่มคีย์ ครับ ซึ่งอย่างที่บอกไปในตอนต้นครับว่า เปียโนไฟฟ้าได้จำลองเปียโนจริง ๆ มา ทำให้มันมีน้ำหนักตอนกดที่ต่างกันมาก สิ่งนี้ช่วยทำให้ผู้บรรเลงสามารถกะน้ำหนักนิ้วที่กดลงไปให้เข้ากับอารมณ์ของเพลงได้ แต่คีย์บอร์ดส่วนใหญ่จะไม่มีในส่วนนี้ ทำให้มันเล่นได้ง่ายกว่า เพราะมันกดได้ง่ายกว่านั่นเองครับ แต่ในปัจจุบันก็มีคีย์บอร์ดบางรุ่นที่ใส่น้ำหนักลิ่มคีย์มาให้ด้วย
2. จำนวนคีย์
ความแตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดเลย คือ จำนวนคีย์ ครับ ในปัจจุบันคีย์บอร์ดได้รับการพัฒนาให้มีแป้นคีย์เยอะขึ้น จากเดิมมี 61 คีย์ ปัจจุบันก็มีถึง 76 คีย์ หรือมากกว่านี้ แต่เปียโนไฟฟ้าส่วนใหญ่ จะเป็นแบบฟูลไซส์ 88 คีย์ เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกับเล่นเปียโนจริง ๆ อยู่ ส่วนเหตุผลที่คีย์บอร์ดมีคีย์น้อยนั่นก็เป็นเพราะว่า มันเป็นจำนวนคีย์ที่เล่นได้ง่าย บวกกับมีลูกเล่นต่าง ๆ มากมาย ทำให้คีย์บอร์ดไม่จำเป็นต้องมีแป้นคีย์ที่มากเท่ากับเปียโนครับ ถือเป็นการลดขนาดและน้ำหนักไปในตัวด้วย ส่วนเปียโนไฟฟ้าที่มาแบบฟูลไซส์ก็เพราะมันต้องการให้ผู้เล่นมีความรู้สึกเหมือนกับเล่นเปียโนจริงอยู่นั่นเอง
3. ฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ
ต่อเนื่องจากข้อ 2 ครับ ซึ่งแน่นอนในข้อนี้คีย์บอร์ดโดดเด่นกว่ามาก เพราะมันเป็นของใหม่ ทำให้มันมีฟังก์ชันเสริมและลูกเล่นต่างๆ เพิ่มเข้ามามากมาย ช่วยให้คุณสามารถบรรเลงเพลงที่ต้องการด้วยเสียงของเครื่องดนตรีอื่น ๆ ได้ด้วย ซึ่งจะต่างจากเปียโนไฟฟ้า โดยที่เปียโนไฟฟ้าจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบและหลงไหลในเสียงของเปียโน แต่ปัจจุบันก็มีเปียโนไฟฟ้าบางรุ่นเท่านั้นที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่มากกว่าคีย์บอร์ด ซึ่งแน่นอนครับ ราคาย่อมสูงตามไปด้วย
4. แพดเดิ้ล หรือแป้นเหยียบ
แพดเดิ้ล คือส่วนที่ได้จำลองมาจากเปียโนจริง ๆ ทำให้เปียโนไฟฟ้ามีคุณสมบัติที่โดดเด่นขึ้นมา โดยมันจะมีแป้นเหยียบทั้งหมด 3 แป้น ประกอบด้วย Damper Pedal, Soft Pedal และ Sostenuto Pedal ครับ โดยแป้นเหยียบเหล่านี้ เป็นลูกเล่นที่โดดเด่นในการปรับเสียงของเปียโน คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะให้โน๊ตที่คุณบรรเลงอยู่มีความสั้น หรือยาว ต้องการให้มีหางเสียงหรือเปล่า ซึ่งจะแตกต่างจากคีย์บอร์ดครับ โดยคีย์บอร์ดจะใช้โปรแกรมในตัวเครื่องเพื่อปรับเสียง ดังนั้นหาก คุณหลงไหลในความคลาสสิก คุณจะเหมาะกับเปียโนไฟฟ้ามากกว่าคีย์บอร์ดแน่นอนครับ
5. เสียงที่ได้
อย่างที่บอกครับ เปียโนไฟฟ้า เป็นเครื่องดนตรีที่ทำออกมา เพื่อเลียนแบบเสียงของเปียโนจริง ๆ ดังนั้นหากคุณต้องการเสียงที่ไพเราะของเปียโน เสียงที่สามารถพาคุณเข้าถึงอารมณ์ของเพลงได้ง่าย ๆ คุณต้องเลือกเปียโนไฟฟ้า ในส่วนของคีย์บอร์ดมันโดดเด่นในเรื่องของความหลากหลายครับ สามารถที่จะทำหลาย ๆ อย่างได้ในเครื่องเดียว ซึ่งเสียงของมันจะออกเป็นเสียงอิเล็คโทรนิกเสียมากกว่า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กันความต้องการของคุณครับ
ทักษะการเล่นเปียโน ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานของดนตรีทั้งหมดครับ นักดนตรี นักแต่งเพลงหลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จ ต่างก็สามารถที่จะเล่นเปียโนทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการเล่นเปียโนได้จะทำให้คุณเข้าใจทฤษฎีดนตรีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่คุณสามารถนำไปต่อยอดได้ สำหรับมือใหม่ก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะยากครับ เพราะในปัจจุบันนี้เราสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มีครูหลายท่านทำคลิปสอนผ่านทาง YouTube บอกถึงเทคนิคต่าง ๆ ที่เราควรรู้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถหาคอร์สเรียนเพิ่มเติมกันได้ แต่สิ่งแรกที่คุณต้องมีก็คือ เปียโนไฟฟ้า หรือ ดิจิตอลเปียโน ก่อน เพราะการเล่นดนตรี ถ้าเราอยากเก่ง เราจำเป็นต้องฝึกซ้อมทุก ๆ วัน เพื่อให้เกิดความชำนาญครับ
สำหรับในวันนี้เราได้ทำการรวบข้อมูลของ เปียโนไฟฟ้า หลาย ๆ รุ่น จากแบรนด์ต่าง ๆ มารีวิวให้ได้อ่านกัน เพื่อให้คุณได้เห็นข้อแตกต่างว่ามีอะไรบ้าง ? เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของคุณครับ
Coleman F107 Digital Piano เปียโนไฟฟ้า ราคาประหยัด

ราคา 11,800 บาท*
Coleman F107 เป็นเปียโนไฟฟ้าราคาย่อมเยา เหมาะมาก ๆ สำหรับที่กำลังผู้เริ่มต้น ด้วยฟังก์ชันการใช้งานในเบื้องต้นให้มาอย่างครบครัน เป็นเปียโนไฟฟ้า 88 คีย์ มีทัชชิ่งธรรมชาติ สามารถปรับความหนักเบาตามน้ำหนักที่คุณกดได้ Double Voices ได้ มาพร้อมแป้นเหยียบ 3 แป้น ช่วยให้ผู้เล่นสามารถบรรเลงได้ตามอารมณ์ ภายในตัวมี 8 โทนเสียง มีจังหวะให้เลือกมากถึง 128 จังหวะ พร้อมทั้งเพลงเดโมอีก 41 เพลง คุณสามารถใช้ฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ สามารถเปลี่ยนคีย์ได้ มี Automatic chord มีเมโทรนอม มีเอฟเฟครีเวิร์บ และสามารถเสียบหูฟังได้พร้อม ๆ กันถึง 2 อัน ส่วนในด้านการเชื่อมต่อก็สามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ สามารถบันทึกเสียงและเปิดเพลงผ่าน USB ได้ด้วย สำหรับใครที่มองหาเปียโนไฟฟ้า ราคาเบา ๆ แต่มีฟังก์ชั่นใช้งานครบเครื่อง ดีไซน์สวย ๆ เรียบหรู ดูแพง Coleman F107 ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวครับ
จำนวนแป้นคีย์ | 88 คีย์ |
---|---|
แป้นเหยียบ | 3 Pedals |
ลำโพง | N/a |
ขนาดลำโพง | N/a |
ขนาด | N/a |
น้ำหนัก | N/a |
Artesia DP-3 PLUS เปียโนไฟฟ้า ดิจิตอลเปียโน

ราคา 18,900 บาท*
Artesia DP-3 PLUS เป็นเปียโนไฟฟ้า ราคาประหยัด มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่จัดเต็ม ดีไซน์เรียบหรู ดูแพง เป็นเปียโยแป้นคีย์ 88 คีย์ ซึ่งให้น้ำหนักนิ้วมือตามธรรมชาติ ลิ่มค้อนสัมผัสได้ 3 ระดับ ช่วยให้ผู้เล่นสามารถบรรเลงตามอารมณ์ ด้วยการลงน้ำหนักของนิ้วได้ แป้นเหยียบ 3 แป้น สามารถทำเสียงเครื่องดนตรีอื่น ๆ ได้ถึง 8 เสียง พร้อมเพลงและแบบฝึกหัดในตัวกว่า 50 แบบ ให้คุณได้ฝึกซ้อม สำหรับผู้ที่ต้องการแบ็คกิ้งแทร็คระหว่างซ้อม สามารถทำการบันทึกเพลงได้ 2 แทร็ค เสียงในตัว 8 แบบ มีเอฟเฟค Reverb และ Chorus ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้งานได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นบทเรียน และ Duet ให้อีกด้วย เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นครับ ส่วนในด้านการเชื่อมต่อก็ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านทาง USB ได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับ Artesia DP-3 Plus ถือเป็นเปียโนไฟฟ้าอีกรุ่นที่เราขอแนะนำเลย สามารถใช้เล่นได้ใช้ซ้อมได้ ในราคาเท่านี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
จำนวนแป้นคีย์ | 88 คีย์ |
---|---|
แป้นเหยียบ | 3 Pedals |
กำลังขับต่อข้าง | 25 วัตต์ |
ขนาดลำโพง | N/a |
ขนาด | 1,371 x 431 x 1,003 มม. |
น้ำหนัก | 54.8 กก. |
Korg B2-SP Digital Piano เปียโนไฟฟ้า แป้นเหยียบ 3 ทาง

ราคา 20,250 บาท*
KORG B2-SP เป็นเปียโนดิจิตอลรุ่นใหม่ เน้นการความหรูหรา และการใช้งานที่ง่าย เหมาะจะเป็นเปียโนตัวแรกสำหรับผู้เล่นใหม่ มาพร้อมเสียงที่คัดสรรมาเป้นอย่างดี ซอฟต์แวร์ และการเชื่อมต่อที่หลากหลาย มาในรูปแบบคีย์บอร์ดวางบนขาตั้งไม้ ซึ่งสามารถแยกออกจากโต๊ะได้ ประกอบได้ง่าย มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา ทำให้มันเคลื่อนย้ายได้ง่าย และประหยัดพื้นที่ มีลิ่มค้อนแบบ Natural Weighted Hammer ซึ่งจะให้น้ำหนักที่สมจริง เสียงที่ออกมาใส กังวาล แป้นคีย์ไวต่อการกดถึง 3 ระดับ พร้อมกับเอฟเฟค Reverb และ Chorus แถมยังมีฟังก์ชัน Metronome อีกด้วย มีเสียงโพลีโฟนีถึง 120 เสียง และมีเสียงเครื่องดนตรีต่าง ๆ อีก 12 เสียง มีการใช้เทคโนโลยี Motional Feedback ช่วยเพิ่มการสั่นสะเทือนของเสียง ทำให้ได้เสียงที่ออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น ระบบเสียงใช้เป็น Stereo PCM ซึ่งคมชัด โทนเสียงสดใส สำหรับ KORG B2-SP ถือเป็นเปียโนที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปรเลยครับ ด้วยฟังก์ชันที่ให้มา จะทำให้คุณทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น หากคุณกำลังมองหาสิ่งที่สะดวกสบายในการฝึกฝนเปียโนอยู่ รุ่นนี้ตอบโจทย์มาก
จำนวนแป้นคีย์ | 88 คีย์ |
---|---|
แป้นเหยียบ | 3 Pedals |
กำลังขับต่อข้าง | 15 วัตต์ |
ขนาดลำโพง | N/a |
ขนาด | 1,312 x 336 x 750 มม. |
น้ำหนัก | 21 กก. |
NUX WK-310 เปียโนไฟฟ้า แพดเดิ้ล 3 ตัว

ราคา 20,700 บาท*
Nux WK-310 เปียโนไฟฟ้าสไตล์เรียบหรู ตัวบอดี้ใช้สีเคลือบด้านดีไซน์สวยงาม มีการออกแบบฝาปิดสไตน์โมเดลมีความโค้งเว้าดูสวยงาม ขนาดก็กะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ ทัชชิ่ง Hammer Action จากอิตาลี ให้เสียงดีมาก และยังสามารถปรับระดับทัชชิ่งของเสียงได้ถึง 4 ระดับ ช่วยให้คุณสามารถปรับดังเบาได้ตามน้ำหนัก และมีเสียงโพลีโฟนีอีกทั้งหมด 189 เสียง มีเสียงเครื่องดนตรีอื่น ๆ อีกกว่า 128 โทน พร้อมกับเพลงคลาสสิกเดโมอีก 52 เพลง และมีฟังก์ชัน Split Voice ช่วยให้คุณเล่นเป็นคู่ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านทางบลูทูธได้ โดยใช้ผ่าน Nux Application สำหรับ Nux WK-310 ถือเป็นเปียโนไฟฟ้าที่มีทั้งคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม ฟังก์ชันครบ และภาพลักษณ์อันหรูหรา และด้วยสัมผัสของลิ่มรุ่นนี้ทำให้รู้สึกว่าเหมือนได้เล่นอัพไรท์เปียโนจริง ๆ เลย ในราคานี้ถือว่าคุ้มค่าและเหมาะสำหรับมือใหม่มาก ๆ ครับ
จำนวนแป้นคีย์ | 88 คีย์ |
---|---|
แป้นเหยียบ | 3 Pedals |
กำลังขับต่อข้าง | 10 วัตต์ |
ขนาดลำโพง | 12 ซม. 2 ตัว |
ขนาด | 1,354 x 332 x 772 มม. |
น้ำหนัก | 40 กก. |
Casio Privia PX-S1000 เปียโนไฟฟ้า

ราคา 30,900 บาท*
Casio Privia PX-S1000 เป็นเปียโนไฟฟ้าคุณภาพสูงของ Casio มาพร้อมกับเทคโนโลยีโครงสร้างที่มีการปรับให้มันกะทัดรัดมากขึ้น เพื่อให้มีรูปลักษณ์ที่เพียวบาง และมีน้ำหนักเบา ช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดวาง แผงควบคุมแบบ LED ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ดูหรูหรา พรีเมียมมาก ๆ ไม่มีปุ่มยื่นออกมาให้เกะกะ โดยปุ่มเป็นเซ็นเซอร์ ซึ่งใช้การสัมผัสแทนการกด หากปิดไฟ LED คุณก็จะไม่เห็นปุ่มใด ๆ เลย สิ่งนี้ช่วยทำให้คุณ มีสมาธิกับการเล่นเพลงมากขึ้น ในส่วนของเอ็นจิ้นเสียงรุ่นนี้ใช้ Multi-dimensional Morphing (AiR) ซึ่งสามารถให้เสียงจำลองแกรนด์เปียโนที่ไพเราะนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติมาก ๆ คีย์บอร์ดเซ็นเซอร์ 5 ระดับ สามารถเปลี่ยนระดับเสียงและโทนตามแรงกด ช่วยให้คุณสื่อสารอารมณ์เพลงออกมาได้ดีขึ้น มีโพลีโฟนีสูงถึง 192 เสียง มีเอฟเฟค Chorus มากถึง 4 แบบ และ DSP กับ Brilliance และยังสามารถบันทึกเพลงได้ 2 แทร็ค มีการตอบสนองการปล่อยคีย์ ช่วยให้คุณเล่นโน้ตซ้ำได้เร็วมากขึ้น การปรับสเกล 88 คีย์ ซึ่งคล้ายคลึงกับการเล่นแกรนด์เปียโน แป้นคีย์มีการสัมผัสเหมือนแกรนด์เปียโนเลย แต่ทว่าจะแตกต่างกันที่ขนาดและน้ำหนัก ซึ่งรุ่นนี้ออกแบบขนาดมาให้มีความพอดีกับปลายนิ้ว มันจึงช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้น ในด้านการเชื่อมต่อการรองรับทุก ๆ อย่างได้หมดครับ สามารถใช้ USB, MIDI และรวมถึง Bluetooth ได้ มีช่องต่อหูฟัง และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับซอฟแวร์ Chordana Play ได้อีกด้วย หากคุณต้องการหาซื้อเปียโนไฟฟ้าคุณภาพดี ๆ ในราคาย่อมเยา บอกเลยว่า Casio Privia PX-S1000 ตอบโจทย์คุณมาก ๆ ครับ ด้วยฟังก์ชันที่ให้มาครบถ้วน คุณภาพเสียงดีเยี่ยม และดีไซน์ที่สวยงาม
จำนวนแป้นคีย์ | 88 คีย์ |
---|---|
แป้นเหยียบ | 3 Pedals |
กำลังขับต่อข้าง | 8 วัตต์ |
ขนาดลำโพง | 16 ซม. / 8 ซม. 2 ตัว |
ขนาด | 1,322 x 232 x 102 มม. (ไม่รวมโต๊ะ) |
น้ำหนัก | 11.2 กก. (ไม่รวมโต๊ะ) |
Roland RP102 Digital Piano เปียโนดิจิตอล เปียโนไฟฟ้า

ราคา 32,000 บาท*
Roland RP102 เป็นเปียโนไฟฟ้า ดีไซน์สุดพรีเมี่ยม เรียบหรู ขนาดกะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ เปียโนดิจิตอล 88 คีย์ มาพร้อมเทคโนโลยี Super NATURAL Piano ที่สามารถมอบเสียงเปียโนอะคูสติกที่เป็นธรรมชาติ เหมือนจริง และยังมีการตอบสนองที่เสมือนจริงอีกด้วย ในขณะที่แ้นคีย์บอร์ดเป็น PHA-4 Standard พร้อม Progressive Hammer Action ช่วยให้คุณเล่นด้วยสัมผัสที่สมจริง ปรับระดับคีย์ได้ 5 ระดับ ช่วยให้คุณเล่นตามอารมณ์หนักเบาได้ดียิ่งขึ้น Preset ได้ 4 แบบ พร้อมกับเพลงในเครื่องอีกกว่า 200 เพลง ให้คุณได้่ฝึกซ้อม ตอบโจทย์ทุกแนวเพลง ทั้งยังมาพร้อมเอฟเฟค Ambience และ Brilliance ในตัว สามารถทำ Polyphony ได้ถึง 128 เสียง สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ตั้งค่าเสียงเครื่องดนตรีอื่น ๆ ได้อีก 11 เสียง นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย เพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี และคุณยังสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรม Piano Partner 2 ได้ด้วย จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการซ้อมส่วนตัว ถือเป็นเปียโนไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบสำหรับบ้านของคุณ รูปลักษณ์ที่เรียบหรู ฟังก์ชั่นที่ครบถ้วน และคุณภาพที่คุ้มค่ากับราคา
จำนวนแป้นคีย์ | 88 คีย์ |
---|---|
แป้นเหยียบ | 3 Pedals |
กำลังขับต่อข้าง | 6 วัตต์ |
ขนาดลำโพง | 12 ซม. 2 ตัว |
ขนาด | 1,379 x 413 x 817 มม. |
น้ำหนัก | 37.6 กก. |
Yamaha P125 Digital Piano เปียโนไฟฟ้ายามาฮ่า

ราคา 33,500 บาท*
Yamaha P-125 เป็นเปียโนไฟฟ้าจากแบรนด์คุณภาพครับ สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นเปียโนไฟฟ้าที่จำลองระบบเสียงจากเปียโนได้ดีที่สุดแล้ว มีจุดเด่นที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นก่อนหลายอย่างครับ ทั้งการตั้งค่าพรีเซ็ตได้ถึง 24 เสียง สามารถเล่นจังหวะได้ 20 จังหวะ อีกทั้งยังมีเพลงตัวอย่าง 21 เพลง และเพลงเปียโน 50 เพลง ลำโพงยังปรับเป็นรูปแบบใหม่ 2 ทิศทาง แป้นคีย์แบบระบบค้อน Graded Hammer Standard (GHS) ซึ่งให้ลิ่มสัมผัสที่คล้ายคลึงกับยามาฮ่าแกรนด์เปียโน และให้น้ำหนักถึง 4 ระดับ ช่วยให้คุณบรรเลงได้หนักเบาได้ง่ายขึ้น ทำโพลีโฟนีได้ 192 ตัวโน๊ต มีเอฟเฟคในตัวให้เลือกเล่นมากมาย สามารถบันทึกเพลงได้ 2 แทรค 1 เพลง ทั้งหมด 11,000 ตัวโน๊ต และมีการเชื่อมต่ออีกมากมาย ส่วนเสียงที่ออกมาจะเป็นระบบ Pure CF Sound Engine ซึ่งมันสามารถให้ซาวด์ที่สมจริง เป็นธรรมชาติ ด้วยลำโพง Woofer ขนาด 4.7 นิ้ว 2 ตัว และลำโพง Tweeter ขนาด 1.5 นิ้ว อีก 2 ตัวครับ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยหน้าจอแสดงผลที่คมชัด และสามารถใช้ร่วมกับแอป Smart Pianist APP ได้ ซึ่งเหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปรเลย ไม่ว่าคุณจะใช้ในการแต่งเพลงหรือแกะเพลง มันก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที ส่วนในด้านของดีไซน์ก็สวยงาม เรียบหรู ช่วยให้ห้องของคุณดูหรูขึ้น ขนาดก็เล็ก กะทัดรัดมากครับ ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่บ้านของคุณอย่างแน่นอน สำหรับ Yamaha P-125 แบรนด์นี้ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพครับ คุ้มค่าอย่างแน่นอน
จำนวนแป้นคีย์ | 88 คีย์ |
---|---|
แป้นเหยียบ | 1 Pedals |
กำลังขับต่อข้าง | 7 วัตต์ |
ลำโพงขนาด | Woofer 12 ซม. 2 ตัว / Tweeter 4 ซม. 2 ตัว |
ขนาด | 1,326 x 295 x 166 มม. (ไม่รวมโต๊ะ) |
น้ำหนัก | 11.8 กก. (ไม่รวมโต๊ะ) |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เปียโนไฟฟ้า สําหรับมือใหม่ รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
คำแนะนำในการเลือกซื้อ เปียโนไฟฟ้า !
1. เรื่องของเสียง
เปียโนไฟฟ้า เป็นการเลียนแบบเสียงของเปียโนอคูสติก โดยจะใช้ลำโพงในการเปล่งเสียงออกมาแทนสาย ดันนั้นในการสร้างเสียงของเปียโนแต่ละแบรนด์ก็จะแตกต่างกันออกไป เนื่องจากใช้ลำโพงต่างกัน ก็อยู่ที่คุณแล้วครับว่าชื่นชอบเสียงของแบรนด์ไหนมากกว่ากัน
2. แป้นคีย์บอร์ด
อย่างที่บอกไปในตอนต้นครับ เปียโนอคูสติกจะมีมีทัชชิ่งที่ค่อนข้างหนัก เนื่องจากมันต้องการให้คุณปรับความหนัก เบา ตามน้ำหนักที่คุณกดได้ ในบางรุ่นมีถึง 5 ระดับ บางรุ่นก็มี 3 ระดับ ซึ่งทัชชิ่งที่หนัก ๆ มันอาจจะทำให้มือใหม่เล่นยากในช่วงแรก ๆ ครับ แต่หลังจากที่คุณชินกับ มันแล้วมันจะมีประโยชน์มาก ๆ ครับ มันจะทำให้คุณสามารถบรรเลงเพลงไปตามอารมณ์ของเพลงได้ดีมากยิ่งขึ้น คุณจะกำหนดได้ว่าท่อนไหนที่ควรหนัก หรือท่อนไหนที่ควรเบา สิ่งนี้จะทำให้เพลงของคุณไพเราะมากขึ้นครับ
3. พื้นที่การจัดวาง
สำหรับเปียโนไฟฟ้านั้น บางรุ่นก็มีขนาดใหญ่ และบางรุ่นก็เน้นมาให้มีขนาดเล็กและบางมาก ๆ อย่าง Casio Privia PX-S1000 ครับ ดังนั้นคุณควรพิจารณาพื้นที่ที่คุณต้องการนำมาวางก่อน เพื่อดูว่าเพียงพอหรือไม่ และก็ควรจะหามุมสำหรับติดตั้งให้เหมาะสมด้วย ไม่ควรถูกวางไว้ใกล้ ๆ ที่ชื้น และไม่ตั้งอยู่บริเวณทางเดิน
4. งบประมาณ
แน่นอนว่ารุ่นที่มีราคาสูง ๆ คือรุ่นที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า เนื่องจากการใช้วัสดุในการผลิต ความพิถีพิถัน และเทคโนโลยีที่ดีกว่า ซึ่งถ้าหากคุณเป็นมือใหม่ที่มีงบประมาณจำกัด คุณสามารถเริ่มจากรุ่นที่มีราคาไม่สูงมากก่อนได้ครับ มันก็สามารถนำมาฝึกฝนได้เช่นกัน แม้เสียงที่ได้จะไม่ดีเท่ารุ่นที่มีราคาแพง แต่ก็ช่วยให้คุณฝึกฝนได้เป็นอย่างดี
ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่าง ๆ พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เรื่องของเครื่องดนตรีก็เช่นกันครับ ดังนั้น ณ ตอนนี้ก็อาจมี คีย์บอร์ด บางรุ่นที่ทำทุก ๆ อย่างได้เหมือนกับ เปียโนไฟฟ้า และอาจมี เปียโนไฟฟ้า บางรุ่นที่ทำทุก ๆ อย่างได้เหมือน คีย์บอร์ด แล้วก็ได้ครับ ซึ่งก็แน่นอนครับ ราคามันก็ต้องย่อมสูงเป็นธรรมดา แต่สำหรับมือใหม่เราขอแนะนำให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่าครับ ถ้าหากชอบเสียบแบบอะคูสติกก็ให้เลือก เปียโนไฟฟ้า แต่ถ้าหากชอบเสียงที่มันหลากหลาย ออกแนวเสียงอิเล็คโทรนิก ให้เลือก คีย์บอร์ด ครับ
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เพื่อน ๆ เล็งรุ่นไหนกันไว้บ้าง ? สำหรับ เปียโนไฟฟ้า ถือว่าตอบโจทย์มือใหม่ที่กำลังหาเครื่องดนตรีสักชิ้นมาเล่นมาก ๆ ครับ เพราะมันทั้งเล่นง่าย ไม่เจ็บนิ้วเหมือนกีต้าร์ ไม่เหนื่อยเหมือนกลอง สามารถทั้งเล่นและร้องได้ และก็ยังให้เสียงที่ไพเราะด้วย อีกทั้งทักษะการเล่นเปียโน ยังถือเป็นพื้นฐานทางด้านดนตรีที่ดีอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถใช้ความรู้ที่ได้จากการ เล่นเปียโนไปประยุกต์เพื่อเล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นครับ สำหรับเปียโนไฟฟ้าปัจจุบันก็มีการพัฒนาไปไกลมากครับ มีฟังก์ชันต่าง ๆ เสริมเข้ามา มีการรองรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ มากมาย ทำให้คุณสามารถใช้ หูฟังธรรมดา, หูฟังครอบหู หรือหูฟังบลูทูธ ดี ๆ สักตัวนึง มาเชื่อมต่อกับเปียโนไฟฟ้าของคุณ เพื่อใช้ฝึกซ้อม โดยไม่รบกวนคนอื่นได้ หรือจะเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊คได้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันทำให้เราสะดวกในการฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้นครับ
นอกจากนี้เปียโนไฟฟ้า ถือเป็นฟอนิเจอร์อย่างดี สำหรับตกแต่งห้องของคุณได้ด้วยครับ ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูของมัน สามารถยกระดับความหรูหราภายในห้องได้เป็นอย่างดี และถ้าหากคุณกลัวว่ามันจะใหญ่เกินไปสำหรับห้องของคุณก็ไม่ต้องกลัวครับ เพราะขนาดของเปียโนไฟฟ้ามันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น โดยเล็กกว่าเปียโนอคูสติกมาก ทำให้คุณสามารถจัดวางได้อย่างง่ายดาย และไม่เปลืองพื้นที่ ซึ่งเรารับรองได้เลยว่า บ้านของคุณจะดูดีมีระดับขึ้นมาทันที แม้ว่าคุณจะยังเล่นไม่เป็นครับ