เมื่อพูดถึงกลิ่นหอมหลาย ๆ คนก็คงต้องนึกถึงน้ำหอมเพราะน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี เมื่อฉีดน้ำหอมคุณจะได้รับความสดชื่นในทันทีค่ะ ซึ่งในท้องตลาดก็มีน้ำหอมมากมายให้เราได้เลือกซื้อทั้งน้ำหอมสำหรับผู้หญิงและน้ำหอมสำหรับผู้ชาย แต่นอกจากน้ำหอมที่แบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ แล้ว ยังมีน้ำหอมจากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ อย่างน้ำหอม Chanel, น้ำหอม Versace, น้ำหอม Marc Jacobs, น้ำหอม Armani, น้ำหอม Chloe หรือ น้ำหอม Dior แต่แน่นอนค่ะน้ำหอมของแต่ละแบรนด์มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าคุณอยากสัมผัสกลิ่นน้ำหอมแห่งอิตาลี คุณต้องซื้อ “น้ำหอมจาก Dolce & Gabbana (ดอลเช่แอนด์แกบาน่า)” เท่านั้นค่ะ เอกลักษณ์ของน้ำหอมจากแบรนด์นี้คือมีทั้งน้ำหอมสำหรับผู้ชายและน้ำหอมสำหรับผู้หญิงให้เราได้เลือกซื้อกันค่ะ
Dolce & Gabbana ได้เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นแรกสำหรับผู้หญิงมาเมื่อเกือบ 3 ทศวรรษที่แล้วในปี 1992 ตลอดหลายปีที่ผ่านมาน้ำหอมของทางแบรนด์ได้ผสมผสานความหรูหราแบบเมดิเตอร์เรเนียนไว้ในน้ำหอมตลอด ในขณะเดียวกันก็ได้สร้างกลิ่นน้ำหอมที่เข้ากับทุกฤดูกาล อารมณ์และสไตล์ไปพร้อม ๆ กัน โดยทางแบรนด์จะเน้นกลิ่นของดอกไม้ ผลไม้และกลิ่นไม้เข้าไว้ด้วยกัน จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติอย่างแท้จริง

โดยน้ำหอมกลิ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Light Blue Eau de Toilette ซึ่งน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่โด่งดังที่สุดเพราะกลิ่นของมันจะชวนให้นึกถึงวันฤดูร้อนอันแสนพิเศษค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับเครื่องประดับ แว่นตาและเสื้อผ้าของ Dolce & Gabbana แต่ไม่เคยลองใช้น้ำหอมแบรนด์นี้ ดังนั้นวันนี้เราเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหอม Dolce & Gabbana มาฝากกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
น้ำหอม Dolce & Gabbana กลิ่นหอม โดนใจคุณมากที่สุด ?
- น้ำหอมกลิ่นมะนาว กลิ่นหอมสดชื่นของทุ่งมะนาวในซิซิลี: Dolce & Gabbana Fruit Collection Lemon EDT น้ำหอม
- กลิ่นหอมหวานสดชื่นเหมือนยืนอยู่กลางชายหาด: Dolce & Gabbana Light Blue Sun EDT น้ำหอม
- น้ำหอมพรีเมียมกลิ่นไม้แสนหรูหรา ออกแบบมาเป็น Unisex ใช้ได้ทุกเพศ: Dolce & Gabbana Velvet Oriental Musk EDP น้ำหอม
- น้ำหอมสำหรับผู้ชาย กลิ่นทรงเสน่ห์ ฉีดได้ในทุกโอกาส: Dolce & Gabbana Light Blue Pour Homme EDT น้ำหอม
- ราชาแห่งความหอม กลิ่นหอมเท่มาก ออกแบบมาสำหรับผู้ชาย: Dolce & Gabbana K น้ำหอม EDT
- น้ำหอมกลิ่นดอกโบตั๋น กลิ่นหวานอมเปรี้ยว มอบความสดใสให้กับผู้ใช้: Dolce & Gabbana Dolce Peony EDP น้ำหอม
ประวัติความเป็นมาของน้ำหอม Dolce & Gabbana
Dolce & Gabbana เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 โดยมี “โดเมนิโก โดลเช่ (Domenico Dolce)” และ “สเตฟาโน กาบบานา (Stefano Gabbana)” เป็นผู้บุกเบิก แบรนด์นี้ได้เริ่มต้นทำอุตสาหกรรมแฟชั่นมาก่อน โดยบริษัทนั้นตั้งอยู่ในอิตาลี เสื้อผ้าที่ทางแบรนด์ได้ออกแบบเป็นเสื้อผ้าสำหรับสตรี ตามด้วยชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำ ในเวลาเพียงไม่กี่ปีทางแบรนด์ได้วางตลาดผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ไปวางขายยังต่างประเทศ แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ได้วางขายในประเทศไทยเช่นกันค่ะและเราเชื่อเหลือเกินว่าคุณต้องเคยใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์นี้เป็นแน่
ส่วนในเรื่องของน้ำ Dolce & Gabbana ได้เปิดตัวน้ำหอมตัวแรกในปี 1991 โดยน้ำหอมที่ได้เปิดตัวเป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิง เมื่อเปิดตัวไปแล้วก็ได้รับรางวัล Woolmark Award ทันที ต่อมาน้ำหอม Dolce & Gabbana ได้ชนะเลิศรางวัล Perfume’s Academy อีกครั้งในฐานะ “น้ำหอมสำหรับผู้หญิงแห่งปี” แต่เมื่อได้รับรางวัลแล้ว Dolce & Gabbana ก็ยังไม่หยุดพัฒนา ทางแบรนด์ได้สร้างสรรค์น้ำหอมสำหรับผู้ชายขึ้นมาอีกครั้ง โดยคอลเลกชันน้ำหอมของ Dolce & Gabbana ทางแบรนด์ได้นำเสนอค่านิยมเชิงบวกที่เกี่ยวข้องกับผู้ชายสมัยใหม่ นั่นคือเหตุผลที่น้ำหอม Dolce & Gabbana ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบน้ำหอมมาโดยตลอดค่ะ
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอม โดลเช่ แอนด์ กาบบานา
1. คอลเลกชันน้ำหอม
|
K Series : K Series เป็นน้ำจาก Dolce & Gabbana ที่ได้ออกแบบมาสำหรับผู้ชาย นอกจากกลิ่นจะดีเยี่ยมแล้ว แพคเกจก็ดีมากด้วยฝาที่เป็นมงกุฎสามารถช่วยเน้นความหมายของคอลเลกชัน K ที่มาจากคำว่า King ค่ะ นอกจากนี้ที่ขวดยังมีตัวอักษร K ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ดั้งเดิมของราชวงศ์ด้วยค่ะ ชุดน้ำหอมนี้ประกอบด้วยน้ำหอม 2 ประเภทคือ Eau de Toilette และ Eau de Parfum
น้ำหอมทั้งสองมีกลิ่นเฉพาะตัว น้ำหอมคอลเลกชัน K แบบ Eau de Toilette มีกลิ่นซิตรัสและดอกไม้ ในขณะเดียวกันกลิ่นหอมน้ำหอมคอลเลกชัน K แบบ Eau de parfum จะมีกลิ่นที่อบอุ่นและเผ็ดร้อน แม้ว่ากลิ่นทั้งสองจะแตกต่างกันออกไปแต่กลิ่นก็ยังสร้างความประทับใจให้กับบุคลิกของผู้ชายได้ดีมาก กลิ่นของน้ำหอมนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแคว้นทัสคานี (Tuscany) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่สวยงามที่สุดในอิตาลี ดังนั้นกลิ่นหอมที่ดึงดูดใจของน้ำหอมนี้จะแสดงถึงทั้งประเพณีและความทันสมัยในคราวเดียว |
|
The One : น้ำหอมในคอลเลกชัน The One สำหรับผู้หญิงถูกสร้างเพื่อเน้นเอกลักษณ์ความเป็นผู้หญิงออกมา โดยน้ำหอมกลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้ที่มีความทันสมัยผสมผสานกับความสดชื่นของผลไม้ แต่นอกจากนี้คุณยังได้รับความรู้สึกคลาสสิกจากกลิ่นหอมของดอกลิลลี่สีขาวที่ให้ความรู้สึกสบายและสดชื่นด้วย
นอกจากนี้ Dolce & Gabbana ยังได้เปิดตัวน้ำหอม The One ในเวอร์ชั่นของผู้ชาย ส่วนผสมของกลิ่นหอมเป็นส่วนผสมของเครื่องเทศ เมื่อฉีดแล้วจะได้กลิ่นความเป็นออร่าที่มีเสน่ห์ ซึ่งจะโดดเด่นและสร้างความประทับใจที่หรูหรา ตัวขวดถูกบรรจุในขวดทรงเรขาคณิตที่มีดีไซน์คลาสสิก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราร่วมสมัย |
|
Light Blue เป็นน้ำหอมที่ออกแบบมาสำหรับฤดูร้อน น้ำหอมตัวนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 และน้ำหอมคอลเลกชัน Light Blue ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย โดยรางวัลแรกคือรางวัล FiFi ในปี 2008 โดยคอลเลกชันของกลิ่นน้ำนี้มีชื่อว่า Light Blue Eau Intense และ Light Blue Forever โดยในช่วงแรกน้ำหอมในคอลเลกชันนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้หญิง แต่ต่อมาทางแบรนด์ก็ได้ออกแบบน้ำหอมสำหรับผู้ชายออกมาตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีน้ำหอมรุ่นที่วางขายอย่างจำกัดเหมือนกัน เช่น Light Blue Dreaming และ Light Blue Sunset ค่ะ ใครที่อยากได้กลิ่นน้ำหอมแบบสดชื่นต้องลองคอลเลกชันนี้ค่ะ |
|
Fruit Collection : Dolce & Gabbana เป็นน้ำหอมกลิ่นผลไม้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกาะซิซิลี เกาะที่มีชื่อเสียงในเรื่องของรสชาติของผลไม้ที่หวานมาก อีกทั้งทางแบรนด์ได้ใช้ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ในเมืองซิซิลีมารังสรรค์เป็นน้ำหอม Fruit Collection นำเสนอกลิ่นของความสุขเมื่อเรากัดผลไม้สดที่เพิ่งเก็บมาจากต้นไม้
ดังนั้นเมื่อฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้แล้วคุณจะสามารถสัมผัสกลิ่นผลไม้ทั้งหมดด้วยการสูดดมน้ำหอมในซีรีส์นี้ โดยน้ำหอมในคอลเลกชันนี้มีทั้งมะนาว ส้ม และสับปะรด โดยน้ำหอมทั้งหมดนี้อยู่ในรูปของ Eau de Toilette ค่ะ |
|
Velvet Collection : Dolce & Gabbana Velvet Collection ได้เปิดตัวน้ำหอมครั้งแรกในปี 2011 โดยทางแบรนด์ได้ออกน้ำหอม 6 กลิ่นในคราวเดียว โดยน้ำหอมในซีรีส์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่ สิ่งของและช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับอิตาลี เช่น ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และกลิ่นอายของฤดูร้อน น้ำหอมทั้ง 6 กลิ่น ได้แก่ Velvet Vetiver, Velvet Patchouli, Velvet Wood, Velvet Desire, Velvet Sublime และ Velvet Love
แต่ต่อมาน้ำหอมคอลเลชันนี้ได้ผลิตกลิ่นเพิ่มมาอีก 11 กลิ่น และน้ำหอมคอลเลกชันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีความหลากหลายของกลิ่นมากที่สุด |
2. ความแตกต่างระหว่าง EDT และ EDP
Dolce & Gabbana แบ่งผลิตภัณฑ์น้ำหอมออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Eau de parfum (EDP) และ Eau de Toilette (EDT) ทั้งสองมีความแตกต่างกันในแง่ของความเข้มข้นและความติดทน แน่นอนว่าก่อนเลือกซื้อคุณจะต้องรู้ลักษณะเฉพาะของน้ำหอมเหล่านี้เพื่อให้คุณได้กลิ่นหอมที่ดีที่สุดค่ะ
ปกติแล้ว Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยมากถึง 15–20% ดังนั้น EDP จึงมีความเข้มข้นมาก ตัวกลิ่นหอมยังสามารถอยู่ได้นานถึง 4 – 5 ชั่วโมง ในขณะเดียวกัน Eau de Toilette มีน้ำมันหอมระเหยเพียง 5 – 15% เท่านั้น สัดส่วนที่สูงของแอลกอฮอล์ทำให้น้ำหอม Eau de Toilette มีกลิ่นหอมอยู่เพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น กลิ่นหอมของ EDT นั้นเบาและสดชื่น หากคุณวางแผนที่จะทำกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนให้ใช้น้ำหอมนี้ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมตรวจสอบความไวของผิวต่อแอลกอฮอล์ด้วย อย่าปล่อยให้ผิวระคายเคืองจากการสัมผัสกับแอลกอฮอล์เพราะน้ำหอม EDT มีแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างสูง
3. กลิ่นของน้ำหอม
เมื่อคุณฉีดน้ำหอมคุณจะได้กลิ่นหอมอย่างทันที อย่างไรก็ตามคุณรู้หรือไม่ว่าน้ำหอมมีระดับกลิ่นแบ่งออกได้เป็นหลายระดับดังนี้
- ท็อปโน๊ต (Top Notes) กลิ่นนี้คือกลิ่นที่คุณจะได้กลิ่นเมื่อฉีดน้ำหอม แน่นอนว่ากลิ่นแรกมีกลิ่นหอมมากแต่ไม่นานก็จะถูกแทนที่ด้วยกลิ่นกลางค่ะ
- มิดเดิ้ลโน้ต (Middle Notes) กลิ่นกลางหรือที่เรียกว่ากลิ่นหัวใจเป็นกลิ่นบาลานเซอร์ แต่ความทนทานก็ไม่นานมากเช่นกันค่ะ แต่เมื่อหลังหมดกลิ่นแรกไปแล้วคุณจะได้กลิ่นนี้ทันที
- เบสโน้ต (Base Notes) เบสโน้ตหรือกลิ่นฐานคือกลิ่นที่ติดทนนานที่สุดและจะปรากฏหลังจากน้ำหอมติดอยู่บนร่างกายมาระยะหนึ่งแล้วเท่านั้นค่ะ
เมื่อคุณรู้แล้วว่าน้ำหอมแต่ละตัวมีกลิ่นหอมหลายชั้น คุณต้องอย่าลืมที่จะเรียนรู้ถึงกลิ่นที่เป็นกลิ่นประกอบและโน้ตแต่ละตัวด้วย อย่างไรก็ตามกลิ่นของน้ำหอมที่แท้จริงอาจจะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น เหงื่อ กลิ่นตัว และสภาพอากาศ ดังนั้นน้ำหอมชนิดเดียวกันจึงสามารถให้กลิ่นที่แตกต่างกันได้เมื่อฉีดกันหลาย ๆ คนค่ะ
Dolce & Gabbana Light Blue EDT น้ำหอม

ราคา 1,840 บาท*
Dolce & Gabbana Light Blue Eau de Toilette น้ำหอมนี้มีเปิดตัวในปี 2001 ซึ่งเป็นกลิ่นของไม้ซีดาร์บนเกาะซิซิลีผสมกับความสดชื่นของแอปเปิลที่เก็บมาสด ๆ เมื่อกลิ่นนี้ผ่านการผสมผสานกัน คุณจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของดอกไม้ บลูเบลล์ที่จะนำพัดพาความรู้สึกของคุณให้เข้าสู่ในฤดูร้อนของอิตาลี ด้วยกลิ่นดอกมะลิและกุหลาบขาวจะช่วยเพิ่มความรู้สึกเป็นผู้หญิงและดึงเอาความเย้ายวนของผู้หญิงเมดิเตอร์เรเนียนออกมา หากคุณต้องการมีกลิ่นกายที่ดูอบอุ่นภายใต้ฤดูร้อนให้ฉีดน้ำหอมนี้ลงบนร่างกายของคุณค่ะ
การผสมผสานของกลิ่นหอมนี้เปิดตัวด้วยกลิ่นแรกคือกลิ่นของแอปเปิล ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นดอกกุหลาบสีขาว ไม้ไผ่และกลิ่นมะลิที่สดชื่นมาก สุดท้ายแล้วก็ปิดท้ายด้วยกลิ่นอำพัน มัสก์และซีดาร์ค่ะ น้ำหอมกลิ่นนี้มีอายุการใช้งานยาวนานจึงเหมาะสำหรับวันที่อากาศเย็นของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ด้วยกลิ่นหอมที่สมบูรณ์แบบนี้เหมาะสำหรับการฉีดก่อนออกนอกบ้าน ปาร์ตี้และเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน ๆ ค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Light Blue |
---|---|
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
ปริมาณสุทธิ | 25 มล. |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Top Notes | Sicilian cedar, Apple |
Middle Notes | Bamboo, Jasmine, White rose |
Base Notes | Amber, Musk |
Dolce & Gabbana Light Blue Pour Homme EDT น้ำหอม

ราคา 2,800 บาท*
Dolce & Gabbana Light Blue Pour Homme น้ำหอมสำหรับผู้ชายรุ่นนี้เปิดตัวในปี 2007 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในทันที มีกลิ่นหอมแบบบางเบา ที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้อย่างแน่นอน น้ำหอมนี้มีความร่วมสมัย เมื่อสูดน้ำหอมเข้าไปแล้วคุณจะได้กลิ่นสดชื่นของผลไม้และกลิ่นหอมของไม้อย่างแน่นอน น้ำหอมกลิ่นนี้แสดงถึงความอบอุ่นของฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยความรัก หากคุณเป็นผู้ชายที่มีความรักสามารถบอกความรู้สึกของคุณกับคนทั้งโลกผ่านน้ำหอมนี้ทันทีค่ะ
น้ำหอมกลิ่นนี้จะติดทนได้นานถึง 8 ชั่วโมง โดยมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ผสานเข้ากับกลิ่นอายของแสงแดดอ่อน ๆ ช่วงเวลาที่เหมาะที่จะใช้งานมากที่สุดคือในช่วงกลางวัน หากตอนนี้กำลังยังอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนอย่าลืมพกน้ำหอมนี้ติดตัวไปด้วยนะคะ เมื่อฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้ไป กลิ่นแรกที่คุณจะได้กลิ่นเลยก็คือกลิ่นเกรปฟรุต จูนิเปอร์และส้มเขียวหวาน ส่วนกลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของไม้พะยูง โรสแมรี่และพริกไทย ส่วนกลิ่นผิดจะเป็นกลิ่นของไม้มัสก์ค่ะ การผสมผสานของกลิ่นน้ำหอมนี้จะทำให้เราได้รับกลิ่นที่สดชื่น น้ำหอมกลิ่นนี้จะเหมาะมากสำหรับผู้ชายที่ต้องการคงความสมบูรณ์แบบในทุกโอกาส
คอลเลกชันน้ำหอม | Light Blue |
---|---|
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
ปริมาณสุทธิ | 75 มล. |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชาย |
Top Notes | Bergamot, Grapefruit, Sicilian mandarin, Juniper |
Middle Notes | Rosemary, Sichuan pepper, Rosewood |
Base Notes | Musk wood, Incense, Oak |
Dolce & Gabbana K น้ำหอม EDT

ราคา 3,600 บาท*
Dolce & Gabbana K เหมาะมากหากคุณผู้ชายคนไหนอยากเป็นราชาของกลิ่นหอม ที่น้ำหอมกลิ่นนี้ถูกเรียกว่า K ที่มาจากคำว่า “King” ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่ออกแบบมาสำหรับผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถใช้ได้นะคะเพราะน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นแบบ Unisex เหมือนกันค่ะ คุณผู้หญิงสามารถซื้อมาใช้ได้ด้วย เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมหวาน หอมหวานเป็นสองเท่าของน้ำหอมสำหรับผู้ชายทั่วไป นอกจากนี้กลิ่นน้ำหอมโดยรวมยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ที่อยู่ภายใน การฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้จะทำให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้ชีวิตมากขึ้น
โดยน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นหนึ่งในน้ำหอมผู้ชายที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ Dolce & Gabbana กลิ่นเปิดของน้ำหอมเป็นกลิ่นของซิตรัส ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของคลารี่เสจ เจเรเนียมและพริกไทย ส่วนกลิ่นปิดเป็นกลิ่นของไม้ซีดาร์และแพชชูลี่ การผสมผสานของกลิ่นหอมเหล่านี้ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้หอมมาก น้ำหอมชนิดนี้เป็นแบบ Eau de Toilette แต่กลิ่นสามารถอยู่ได้นาน 4 -5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ต้องลองนะคะ
คอลเลกชันน้ำหอม | K Series |
---|---|
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชาย |
Top Notes | Zesty Citruses, Blood orange, Sicilian lemon, Juniper berry |
Middle Notes | Clary sage, Geranium, Lavandin, Pimento |
Base Notes | Cedarwood, Vetiver, Patchouli |
Dolce & Gabbana Light Blue Sun EDT น้ำหอม

ราคา 3,680 บาท*
Dolce & Gabbana Light Blue Sun น้ำหอมสำหรับผู้ชายที่มีกลิ่นสดชื่นของไม้หอมนี้มาพร้อมกับกลิ่นหอมที่เย้ายวนและติดทนนานที่ผู้ชายทุกวัยจะต้องชอบที่จะใช้ กลิ่นน้ำหอมนี้เป็นกลิ่นที่สดใสมาก เมื่อฉีดแล้วคุณจะรู้สึกมั่นใจขึ้นอย่างแน่นอน น้ำหอมกลิ่นนี้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นลุคไหนหรือโอกาสไหนก็สามารถฉีดได้อย่างแน่นอน น้ำหอมกลิ่นนี้จะมอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ละมุนละไม น้ำหอมนี้เหมาะสำหรับฤดูร้อนมากเพราะมีกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ แต่ยังมีความเป็นชายอยู่บ้างเพราะมีกลิ่นไม้ด้วยเหมือนกัน
กลิ่นเปิดกลิ่นแรกเป็นกลิ่นหอมของมะพร้าว มะนาวและกลิ่นแอปเปิล ส่วนกลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของกุหลาบขาว มะลิและลีลาวดี ส่วนกลิ่นปิดเป็นกลิ่นมัสก์และวนิลาค่ะ การผสมผสานของกลิ่นเหล่านี้จะให้ความสดชื่นกับคุณได้ดีอย่างแน่นอน ถึงแม้จะเป็นกลิ่นที่ออกแบบมาสำหรับผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถใช้งานได้เช่นกันนะคะ เพราะกลิ่นนี้ไม่แมนมากเกินไปค่ะออกจะหวาน ๆ สดชื่น ๆ ใช้แล้วต้องถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Light Blue |
---|---|
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
ปริมาณสุทธิ | 150 มล. |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชายและผู้หญิง |
Top Notes | Coconut Nectar, Lemon, Ozonic notes, Granny Smith apple |
Middle Notes | Frangipani, Jasmine, White Rose |
Base Notes | Bourbon Vanilla, White Musk, Cedar, Ambergris |
Dolce & Gabbana Dolce Peony EDP น้ำหอม

ราคา 5,000 บาท*
Dolce & Gabbana Dolce Peony น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 และเป็นกลิ่นที่สาว ๆ หลายคนชอบมาก โดยกลิ่นน้ำหอมเป็นกลิ่นดอกพีโอนีหรือที่เรียกกันว่าดอกโบตั๋นค่ะ ดอกโบตั๋นซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้ำหอมกลิ่นนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศจีน ในทางกลับกันดอกไม้นี้มีความหมายดีมากและเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังบวก แสดงถึงความโชคดี สุขภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติยศของครอบครัว จิตวิญญาณที่สอดคล้องกับปรัชญาของดอกโบตั๋นทำให้น้ำหอมนี้น่าสนใจมาก ๆ ดังนั้นหากคุณเหนื่อยล้าหรือต้องการพลังบวกให้เลือกซื้อน้ำหอมนี้ค่ะ
กลิ่นเปิดของน้ำหอมนี้เป็นกลิ่นของมะกรูด แพร์และพริกไทยสีชมพู ส่วนกลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของฟรีเซีย ดอกโบตั๋นและดอกกุหลาบ ส่วนกลิ่นปิดเป็นกลิ่นของน้ำผึ้งและพลัมค่ะ เมื่อผสมผสานกันแล้วจะได้กลิ่นหอมแบบลงตัวอย่างแน่นอน สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของน้ำหอมกลิ่นดอกโบตั๋นต้องลองทาน้ำหอมกลิ่นนี้ค่ะ รับรองว่าหอมเย้ายวนใจและให้ความน่ารักสดใสกับผู้ที่ทาอย่างแน่นอน น้ำหอมตัวนี้สามารถฉีดได้ทุกวันหากต้องการค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Dolce |
---|---|
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Parfume |
ปริมาณสุทธิ | 75 มล. |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Top Notes | Citrus bergamia, Cyclamen flower, Pear, Pink peppercorn |
Middle Notes | Freesia, Peony, Rose |
Base Notes | Honey, patchouli, Ambroxan, Mirabelle plum |
Dolce & Gabbana Fruit Collection Lemon EDT น้ำหอม

ราคา 7,000 บาท*
Dolce & Gabbana Fruit Collection Lemon เป็นน้ำหอมอีกหนึ่งกลิ่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากซิซิลี เพราะนอกจากกลิ่นพันธุ์ไม้อื่น ๆ แล้วซิซิลียังมีชื่อเสียงในเรื่องของมะนาว มะนาวเป็นพืชสวนที่ชาวซิซิลีให้ความสนใจและปลูกเพื่อขายมาอย่างยาวนาน เป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วค่ะที่ชาวซิซิลีปลูกมะนาว แน่นอนว่ามะนาวเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Fruit Collection ค่ะ ด้วยกลิ่นมะนาวที่โดดเด่นนี้จะพาคุณกลับไปยังตลาดดั้งเดิมของปาแลร์โม ในประเทศอิตาลีค่ะ
เมื่อฉีดแล้วคุณจะอิ่มเอมกับกลิ่นดอกไม้และกลิ่นมะนาวผสมขิง เมื่อฉีดน้ำหอมนี้เมื่อคุณจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นในวันที่วุ่นวายและร้อนอบอ้าว กลิ่นเปิดกลิ่นแรกจะเป็นกลิ่นของมะนาวจากซิซิลีและเพตติเกรน ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของขิงและกลิ่นปิดเป็นกลิ่นของหญ้าแฝกค่ะ เมื่อผสมผสานกันแล้วจะได้กลิ่นที่สดชื่นเป็นพิเศษค่ะ ใครที่เป็นสายมะนาวต้องลองค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Fruit Collection |
---|---|
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
ปริมาณสุทธิ | 150 มล. |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Top Notes | Sicilian lemon, Calabrian bergamot oils, Petitgrain |
Middle Notes | Ginger |
Base Notes | Haitian vetiver |
Dolce & Gabbana Velvet Oriental Musk EDP น้ำหอม

ราคา 13,950 บาท*
คอลเลกชันน้ำหอม | Velvet Collection |
---|---|
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Parfume |
ปริมาณสุทธิ | 150 มล. |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชายและผู้หญิง |
Top Notes | Cardamom, Saffron, Cumin |
Middle Notes | Damask Rose, Cypriol Oil |
Base Notes | Musk, Sandalwood, Cedar, Tonka Bean, Ambroxan |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว น้ำหอม Dolce & Gabbana สูตรไหนดี กลิ่นหอมติดทน ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
ควรจะเลือกน้ำหอม โดลเช่ แอนด์ กาบบานา กลิ่นไหนดี ?
น้ำหอม Dolce & Gabbana เป็นน้ำหอมที่มีให้เลือกมากกว่า 60 กลิ่น วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกกลิ่นน้ำหอมที่เหมาะสมคือการพิจารณาว่ากลิ่นใดคือกลิ่นที่คุณชื่นชอบ ก่อนที่จะเลือกซื้อคุณต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าปกติแล้วคุณชอบน้ำหอมกลิ่นผลไม้ กลิ่นไม้หรือกลิ่นดอกไม้มากกว่ากัน? หากคุณสำรวจตัวเองเสร็จแล้วคุณก็สามารถเลือกซื้อน้ำหอมได้ในทันที หากคุณชอบน้ำหอมกลิ่นดอกไม้แนะนำให้เลือกซื้อ Dolce & Gabbana Dolce เพราะเป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่เข้มข้นมาก สามารถบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงได้เป็นอย่างดี แต่หากกลิ่นดอกไม้ไม่เหมาะสำหรับคุณ คุณสามารถเลือกซื้อน้ำหอมกลิ่นผลไม้อย่าง Dolce & Gabbana Fruit Collection ได้เช่นกันค่ะ แต่หากอยากได้กลิ่นแบบอบอุ่นและสดชื่นให้เลือกซื้อน้ำหอมจาก The Dolce & Gabbana Light Blue ค่ะเพราะมันให้กลิ่นที่ทรงเสน่ห์มากเลยทีเดียว
วิธีแยกแยะระหว่างน้ำหอม Dolce & Gabbana ของแท้และของปลอม
แม้ว่าในท้องตลาดจะมีน้ำหอม Dolce & Gabbana ของปลอมมากมาย แต่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลไปค่ะเพราะมีหลายวิธีในการตรวจหาของปลอมก่อนที่คุณจะซื้อ ขั้นแรกให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ตรวจสอบหมายเลขแบทช์และบาร์โค้ดของประเทศต้นทาง มองหาคำที่สะกดผิด โลโก้และเครื่องหมายการค้า
หากไม่ได้ผลให้ตรวจดูว่าตัวอักษรที่พิมพ์ออกมานั้นสลักอยู่บนกล่องหลังจากที่คุณเอากระดาษแก้วออกหรือไม่ อีกทั้งควรตรวจสอบขนาดของขวด ฝาและสีอย่างละเอียด แต่ถ้าแยกไม่ออกจริง ๆ คุณอาจจะดมกลิ่นน้ำหอมแทนค่ะเพราะปกติแล้วน้ำหอมปลอมจะไม่มีกลิ่นเหมือนน้ำหอมของแท้และจะติดทนได้ไม่นาน