อาการท้องผูกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะวัยไหน ๆ ก็ตาม โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่หลายคนไม่คำนึงในเรื่องของการรับประทานอาหารที่เหมาะสม เพื่อเข้าไปช่วยในระบบการขับถ่าย ทั้งนี้เมื่อปล่อยไปนานเข้า มันไม่ได้จะเพียงแค่การทรมานในการขับถ่าย แต่มันจะส่งผลเสียให้แก่ร่างกายได้ในอนาคต และร้ายแรงที่สุดคือการเกิดโรคอื่น ๆ ตามมา ฉะนั้นการทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอยู่ประจำ และปรับพฤติกรรมการขับถ่ายของตนเองนั้นควรเป็นสิ่งที่รีบทำก่อนที่จะสายเกินแก้
วิธีที่หลายคนเลือกใช้ในแก้ปัญหาท้องผูกกันเป็นจำนวนมากคือ การดื่มเครื่องดื่มระบายท้อง แก้อาการท้องผูก เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ง่ายสำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้ ทั้งยังสามารถดื่มและชงง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน เมื่อดื่มไปแล้วก็จะได้รับสารอาหารซึ่งมีไฟเบอร์จำนวนมาก ทั้งนี้ไฟเบอร์ดังกล่าวจะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาท้องผูกและช่วยให้ขับถ่ายที่ดี
อาการท้องผูก เกิดจากอะไร ? (1)

จริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก ซึ่งในแต่ละคนนั้นก็จะมีปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น
- รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ หรือ อาหารเช้าซีเรียลธัญพืช ทำให้คุณขับถ่ายยาก
- ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
- มีการเคลื่อนไหวน้อย กิจกรรมและเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการนั่งหรือการนอน
- เมินเฉยที่จะเข้าห้องน้ำ เพื่อขับถ่ายของเสีย
- มีการเปลี่ยนการรับประทานอาหาร หรือเปลี่ยนกิจกรรมในแต่ละวัน
- ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิดที่อาจจะมีผลต่อการขับถ่าย
- ความเครียดต่าง ๆ (แนะนำบทความ 5 ขั้นตอน เพื่อสุขภาพจิตที่ดี)
- อาการท้องผูกยังพบได้บ่อยในระหว่างการตั้งครรภ์ และหลังคลอด
เหตุผลทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผลและเกี่ยวข้องกับสาเหตุของการท้องผูกได้ทั้งหมด ดังนั้นโปรดตรวจสอบตัวเองว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่บ้างหรือไม่ หากพบว่ามีพฤติกรรมตามที่กล่าวมา แนะนำให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองนะครับ
เปรียบเทียบ เครื่องดื่มระบายท้อง ยี่ห้อไหนดี มีไฟเบอร์สูง
![]() เครื่องดื่มระบายท้อง ZEALOSE FIBER เครื่องดื่มใยอาหารซีโลส | ![]() เครื่องดื่มระบายท้อง Donutt Total Fibely 10 Sachets Fiber detox | ![]() เครื่องดื่มระบายท้อง DW Fit Fiber II ฟิต ไฟเบอร์ | ![]() เครื่องดื่มระบายท้อง W FIBER DETOX | ![]() เครื่องดื่มระบายท้อง Vida Fiber mix วีด้า ไฟเบอร์ มิกซ์ | ![]() เครื่องดื่มระบายท้อง Hi Q Pro ไฮคิว โปร | ![]() เครื่องดื่มระบายท้อง Holista Detox Probiotic Fiber |
฿86.10* | ฿119.00* | ฿154.00* | ฿182.00* | ฿220.00* | ฿329.00* | ฿519.00* |
|
|
|
|
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับเครื่องดื่มระบายท้องที่ผมแนะนำไป ต้องบอกว่าโดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องดื่มประเภทชงพวกนี้มีสารสกัดที่มาจากธรรมชาติแทบจะ 100 % ดังนั้นจึงไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องสารเคมีต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีในเรื่องการขับถ่ายได้ แต่อาหารหลักในแต่ละมื้อของเราทุกคนก็ยังคงสำคัญมาเป็นลำดับต้น ๆ
แก้ปัญหาท้องผูกโดยไม่ต้องพึ่งยา ได้อย่างไร ?
ปัญหาอาการท้องผูกนั้นสามารถแก้ได้ง่าย ๆ ด้วยตัวของคุณเอง เพียงแค่ปรับเปลี่ยนกิจกรรมและพฤติกรรมบางสิ่งบางอย่าง เพื่อที่จะช่วยให้ระบบการขับถ่ายของคุณดีขึ้นได้ ซึ่งวิธีแก้ไข/ป้องกันปัญหาท้องผูกมีดังนี้
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
พฤติกรรมการกินถือว่าเป็นปัจจัยหลัก ๆ ของระบบการขับถ่ายเลยก็ว่าได้ครับ อาหารที่คุณกินเข้าไปจะส่งผลต่อส่วนนี้โดยตรง ดังนั้นการกินเพื่อที่จะพัฒนาระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น ควรทำดังต่อไปนี้ครับ
1.1 ดื่มน้ำ และงดแอลกอฮอล์ (1, 2)
ผลวิจัยพบว่าการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ จะส่งผลให้ระบบทางเดินอาหารและระบบการขับถ่ายของเรานั้นมีการทำงานที่ดีขึ้น ดังนั้นแน่นอนว่าการดื่มน้ำจะช่วยในเรื่องของอาการท้องผูก และช่วยทำให้อุจจาระไม่แข็งตัวง่ายต่อการขับถ่าย (แนะนำให้อ่าน วิธีช่วยทำให้ดื่มน้ำให้ง่ายขึ้น ได้วันละเยอะ ๆ โดยไม่ต้องฝืน)
1.2 ทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีไฟเบอร์ให้มากขึ้น (1, 3)
มีการศึกษาและวิจัยหลายที่กล่าวว่า การกินอาหารที่มีไฟเบอร์สามารถช่วยให้ลำไส้ทำงานได้มีประสิทธิภาพและรักษาปัญหาท้องผูกเรื้อรังได้อีกด้วย
โดยหนึ่งตัวเลือกง่าย ๆ ที่คุณสามารถเพิ่มไฟเบอร์ให้กับร่างกายได้คือ เครื่องดื่มระบายท้อง หรืออาหารเสริมไฟเบอร์ ที่ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมของไฟเบอร์อยู่ในตัวผลิตภัณฑ์ในทุกแบรนด์ หรือ แนะนำวิธีการทานผักผลไม้อย่างไรให้สมดุลต่อร่างกาย เพื่อที่จะช่วยให้คุณขับถ่ายได้ง่ายขึ้น

2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำ (1)
ในทุก ๆ ครั้งที่มีการขับถ่ายคุณควรให้เวลากับมัน ไม่ควรเร่งรีบในการเบ่งหรือนั่งนานจนเกินไป ทั้งนี้เมื่อเกิดอาการปวดท้องให้คุณรีบเข้าห้องน้ำทันที เพราะการอั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการขับถ่ายที่ผิดปกติครับ
4. ออกกำลังกายให้มากขึ้น (1)
การขยับและเคลื่อนไหวร่างกายมีผลต่อระบบการย่อย ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลต่อระบบการขับถ่ายที่ดีขึ้นด้วยครับ ซึ่งการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจในการสร้างการเคลื่อนไหวให้กับร่างกายได้ง่ายที่สุดคือ การออกกำลังกายมีผลต่อทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อระบบขับถ่าย เมื่อเราออกกำลังกายมาก ๆ แน่นอนว่าร่างกายของเราจะเสียน้ำออกไปจำนวนมาก ซึ่งสิ่งแรกที่เราจะทำหลังจากออกกำลังกายคือการดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อเข้าไปทดแทนกับส่วนที่เสียไป แน่นอนว่าน้ำที่เราดื่มเข้าไปนั้นก็จะเข้าไประบบทางเดินอาหารและตรงไปยังลำไส้ที่มีสิ่งตกค้างอย่างอุจจาระ พอน้ำเข้าไปมันก็จะทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเราสามารถขับของเสียเหล่านั้นออกมาได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้การออกกำลังกายไม่จำเป็นจะต้องไปฟิตเนสก็ได้ครับ เพราะในปัจจุบันเราสามารถหาซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายได้ง่ายส่งตรงถึงบ้าน หากใครกำลังมองหาอยู่สามารถเข้าไปได้ที่ โฮมฟิตเนส อุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายในบ้าน เพื่อเลือกซื้อกันได้เลยครับ
5 อาหารที่ช่วยในการขับถ่าย
- โยเกิร์ต ในตัวผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตมีโปรไบโอติกซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดี ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกเขาเราให้ดีขึ้น (4)
- รำข้าวสาลี มีผลการวิจัยพบว่าข้าวสาลีนั้นมีไฟเบอร์อยู่ค่อนข้างสูง เมื่อรับประทานไปเรื่อย ๆ มันจะช่วยระบบการทำงานของลำไส้และลดอาการท้องผูกให้กับคนที่รับประทานไฟเบอร์น้อย (5)
- กีวี่ ทราบหรือไม่ว่ากีวี่ที่มีน้ำหนัก 100 กรัมจะมีไฟเบอร์อยู่ในผลไม้ชนิดนี้อยู่ถึง 2 กรัม ซึ่งช่วยทำให้การขับถ่ายของผู้ที่รับประทานกี่วี่นั้นง่ายขึ้น (6)
- องุ่น ผลไม้ชนิดนี้มีไฟเบอร์อยู่ค่อนข้างเยอะ ทั้งนี้ในตัวของมันยังมีน้ำอยู่จำนวนมาก แน่นอนว่าทั้งน้ำและไฟเบอร์สามารถช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายของเราดีขึ้นได้ (7)
- แบล็คเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่โดยส่วนใหญ่แล้วจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ดังนั้นผลไม้ 2 ชนิดนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยระบบขับถ่ายครับ (8)
References: