ผิวหน้าคือส่วนที่สาว ๆ แบบเราทุกคนให้ความสำคัญมากเป็นลำดับแรกและยังเป็นส่วนที่เรารักและหวงแหนมากที่สุดค่ะ ซึ่งในส่วนนี้ก็เข้าใจได้ค่ะเพราะผิวหน้าคือส่วนที่สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้คุณสาว ๆ ดูดี แถมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณสาว ๆ ได้หลายสิบเท่าเลยทีเดียวค่ะ แต่การที่จะได้มาซึ่งสุขภาพผิวหน้าที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยค่ะ เพราะผิวหน้าเป็นส่วนที่มีความบอบบางมาก ๆ มีโอกาสที่จะเกิดสิว, ฝ้า, กระ, รอยเหี่ยวย่น และจุดด่างดำได้ง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ทำให้การดูแลผิวหน้าจึงต้องการการดูแลเอาใส่ใจที่มากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการล้างทำความผิวหน้า, การบำรุง และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

รวมไปถึงการปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดเองก็ขาดไม่ได้เช่นเดียวค่ะ เพราะแสงแดดถือเป็นวายร้ายตัวฉกาจที่เป็นต้นเหตุของปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ ปัญหาเรื่องของกระ และที่เศร้าที่สุดนั่นก็คือเรื่องของริ้วรอยที่ทำให้เราดูแก่ก่อนวัยนั่นเองค่ะ (1-3)
แต่ปัญหาที่เกิดจากแสงแดดและยูวีข้างต้นนั้นสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ค่ะคุณสาว ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อผิวหน้านั่นเองค่ะ แต่อย่างไรก็ดีผลิตภัณฑ์กันแดดนั่นก็มีหลากหลายประเภทมาก ๆ อีกทั้งยังมีหลากหลายเรทราคาอีกด้วย โดยในวันนี้ก็จะขอหยิบเอาครีมกันแดด Drugstore มานำเสนอกันค่ะ
ครีมกันแดด Drugstore ดีอย่างไร ?
ก่อนอื่นเลยนั้นเราก็มาทำความเข้าใจความหมายของร้าน Drugstore กันก่อนเลยแล้วกันนะคะซึ่งจริง ๆ แล้ว Drugstore ถ้าจะให้แปลตรงตัวก็คือร้านขายยานั่นเองค่ะ แต่นอกจากร้านขายยาแล้วก็ยังหมายถึงร้านที่ขายเครื่องสำอางทั่ว ๆ ไปอย่าง Watson, Boots และอื่น ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
ครีมกันแดด Drugstore ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพประทับจิตและราคาที่น่าประทับใจเอามาก ๆ ค่ะเพราะว่าราคานั้นไม่ได้แพงหูฉี่ทำให้ทุกคนและทุกวัยเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งกันแดดประเภทนี้ยังสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์หรือซื้อที่ร้าน Drugstore เองก็เช่นกัน
สำหรับครีมกันแดดที่เราเลือกมาในวันนี้ก็จะมีทั้งครีมกันแดดสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย, ครีมกันแดดเนื้อเจล, ครีมกันแดดสำหรับผิวมัน, ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว และอีกมากมายที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี แต่จะมีครีมกันแดดตัวไหนที่น่าสนใจบ้างนั้นก็ตามมาดูกันเลยค่ะ
ครีมกันแดด drugstore ยี่ห้อไหนดี ?
- ครีมกันแดดตัวดังมาในรูปแบบเนื้อเซรั่มที่บางเบาสุด ๆ อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมากที่สุด: MizuMi UV Water Serum ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย
- เนื้อเอสเซ้นส์บางเบา เกลี่ยง่าย ทาทับเมคอัพได้: Biore UV Aqua Rich Watery Essence ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเนื้อเอสเซ้นส์
- เนื้อน้ำนม บางเบา สบายผิว กันรังสี UV ได้ดีเยี่ยม: ครีมกันแดดญี่ปุ่น Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+/PA++++
- ป้องกันมลภาวะ ลดการเกาะติด PM2.5 ให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 8 ชม.: L'OREAL UV Defender ครีมกันแดดสูตร Matte & Fresh
- ครีมกันแดดราคาประหยัด ช่วยอัพผิวให้ดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น ทั้งยังมีส่วนช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี: Garnier Bright Complete ครีมกันแดด สูตรสีธรรมชาติ
- ครีมกันแดดที่มีเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย สามารถช่วยควบคุมความมันได้นานถึง 8 ชม.: La Roche-Posay Anthelios Xl Dry Touch ครีมกันแดดคุมมัน สูตรกันน้ำ
- ครีมกันแดดเนื้อบางเบาเหมาะสำหรับผู้มีปัญหาผิวหน้าแพ้ง่าย ผิวมัน เป็นสิวง่าย และไวต่อแสงมากที่สุด ช่วยป้องกันได้ทั้งรังสียูวีและแสงสีฟ้า: Eucerin Sun Dry Touch Oil Control ครีมกันแดดเนื้อบางเบาสำหรับผิวมันและผิวเป็นสิวง่าย
- ครีมกันแดดที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบและระคายเคือง สำหรับผู้ที่เป็นสิวและผู้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื้อครีมบางเบาและล้างทำความสะอาดได้ง่าย : PHYSIOGEL ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ช่วยลดการระคายเคือง
5 อันดับ ครีมกันแดดทาหน้า ราคาประหยัดและดี (DrugStore)
วิธีการเลือกซื้อครีมกันแดด drugstore
นอกเหนือจากการเลือกซื้อจากแบรนด์ที่คุณชอบและราคาที่คุณพึงพอใจแล้วนั้น การเลือกซื้อครีมกันแดดเองก็ยังต้องพิจารณาในส่วนอื่น ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ เพราะว่าครีมกันแดดนั้นถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการเลือกซื้อ โดยคุณจะต้องเลือกทั้งให้เหมาะกับสภาพผิวและรูปแบบของการใช้งานด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดีในส่วนนี้คุณก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะเพราะวิธีการเลือกซื้อที่เรานำมาฝากด้านล่างนี้จะเป็นไกด์ไลน์ที่ช่วยให้คุณเลือกซื้อครีมกันแดดได้ง่ายขึ้น โดยสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงก็ได้แก่…
1. ค่า SPF และ PA
สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนมักจะเห็นและรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือค่า SPF และ PA นั่นเองค่ะ โดยส่วนใหญ่มักจะเลือกค่าที่สูง ๆ ไว้ก่อน แต่ความคิดที่ว่านี้จะถูกต้องหรือไม่นั้นเราก็มาหาคำตอบกันค่ะ

ค่า SPF (Sun Protection Factor)
คือค่าที่วัดว่าครีมกันแดดตัวนั้นสามารถกรองแสง UVB ได้มากน้อยเพียงใดนั่นเองค่ะ โดยทั่วไปที่เรามักจะเห็นบ่อย ๆ ก็จะมี SPF30 ซึ่งจะสามารถป้องกันรังสี UVB ได้ 97% และ SPF50 ที่สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ 98% ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก ทำให้การเลือกใช้งาน SPF30 หรือ SPF50 จึงขึ้นอยู่กับว่าในวันนั้น ๆ คุณทำกิจกรรมอะไรบ้าง
ถ้าหากว่าเป็นการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่าสูงอย่างค่า SPF50 ก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า แต่ในทางกลับกันหากว่าคุณแทบจะไม่ออกไปนอกบ้านเลยนั้นครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วครีมกันแดดของคุณก็ไม่ควรมีค่า SPF ที่ต่ำกว่า 30 เช่นกันค่ะ

ค่า PA (Protection Grade of UVA)
คือค่าที่วัดการป้องกันรังสี UVA โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นว่าคำว่า PA และตามด้วยเครื่องหมายบวก (+) ซึ่งเครื่องหมายตรงนี้เองค่ะที่เป็นตัวที่บอกถึงความสามารถในการป้องกันรังสี ดังนั้นหากจะให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเครื่องหมายบวกที่มากขึ้นก็แสดงให้ถึงประสิทธิภาพที่มากขึ้นเช่นกันค่ะ สำหรับค่า PA ของครีมกันแดดทาหน้าที่เราแนะนำควรจะอยู่ที่ PA+++ หรือมากกว่า
2. Broad Spectrum ควรป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB
ก่อนอื่นเลยนั้นเราก็ขออธิบายก่อนว่าในแสงแดดจะประกอบไปด้วยรังสี 3 ประเภท ได้แก่ UVA, UVB และ UVC ค่ะ สำหรับรังสี UVC นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเท่าไหร่นักเพราะมันจะถูกกรองโดยชั้นโอโซน แต่ที่ต้องกังวลนั่นก็คือรังสี UVA และ UVB ที่อาจจะส่งผลเสียต่อผิวของเราได้ค่ะ

ซึ่งในส่วนนี้เองครีมกันแดดที่ได้ชื่อว่า Broad Spectrum Sunscreen จะทำหน้าที่ในการป้องกันรังสีทั้งสองประเภทนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่ครีมกันแดดแบรนด์ใดจะมีการระบุข้อความดังกล่าวได้นั้นจะต้องผ่านการทดสอบมาก่อน ดังนั้นแล้วหากว่าครีมกันแดดที่คุณสนใจมีการระบุถึง Broad Spectrum ก็ให้มั่นใจได้เลยค่ะว่ามันสามารถปกป้องผิวคุณจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างแน่นอน
3. ประเภทของผิวหน้า (7,8)
การเลือกซื้อครีมกันแดดก็เช่นเดียวกับการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าตัวอื่น ๆ เลยค่ะ นั่นคือคุณจะต้องเลือกให้เหมาะกับประเภทของผิวหน้านั่นเอง ซึ่งในหัวข้อนี้ก็จะแบ่งออกเป็น
- ผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย : ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมซิงค์หรือไทเทเนียมไดออกไซด์ และควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างเช่น แอลกอฮอล์, สารกันบูด, น้ำหอม หรือออกซิเบนโซน และขอแนะนำให้มองหาครีมกันแดดที่มีการระบุว่า ‘สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย’ โดยเฉพาะ
- ผิวหน้าแห้ง : คุณควรมองหาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นมากเป็นพิเศษ ไม่ทำให้หน้าแห้งกร้าน โดยกันแดดที่มาในรูปแบบเนื้อครีมจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าแห้งค่ะ
- ผิวเป็นสิวง่าย : ครีมกันแดดสำหรับผู้ที่เป็นสิวหรือมีแนวโน้มเป็นสิวง่ายควรที่จะมีการระบุว่า ‘non-comedogenic’ หรือ ‘ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน’ เพื่อเป็นการพิสูจน์แล้วว่าคุณสามารถใช้งานได้โดยที่ไม่ทำให้เกิดสิวและหลีกเลี่ยงส่วนผสมของน้ำมันเพราะมันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รุขุมขนอุดตันได้ค่ะ แต่สิ่งที่ควรมองหานั่นก็คือส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์และไทเทเนียมไดออกไซด์ที่มีส่วนช่วยปกป้องผิวและสร้างเกาะป้องกันให้ผิวแข็งแรง
- ผิวมัน : กุญแจสำคัญของครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าประเภทนี้ก็คือมันต้องช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องไม่เพิ่มความมันให้กับผิวหน้าด้วยเช่นกัน ฉะนั้นแล้วส่วนผสมก็ควรที่จะปราศจากน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนด้วยเช่นกันค่ะ
4. วันหมดที่ผลิตและวันหมดอายุ
วันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะหลงลืมไปเสียสนิท จริง ๆ แล้วส่วนนี้ก็ควรอย่างยิ่งค่ะที่จะตรวจสอบให้รอบคอบ เนื่องจากวันหมดอายุจะเป็นตัวที่บอกว่าคุณสามารถใช้งานครีมกันแดดตัวนี้ไปได้นานแค่ไหน ? ทั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดนั้นยังคงประสิทธิภาพในการทำงานที่ยอดเยี่ยมเหมือนอย่างที่ทางแบรนด์ได้โฆษณาไว้นั่นเองค่ะ
โดยปกติแล้วครีมกันแดดจะมีอายุการใช้งานที่ประมาณ 3 ปี แต่จะมากหรือน้อยกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์นั้น ๆ ด้วยค่ะ แต่ในบางครั้งแสงแดด, การชำรุดเสียหายของบรรจุภัณฑ์เองต่างก็มีผลต่ออายุการใช้งานเช่นกัน แนะนำว่าก่อนการใช้งานทุกครั้งก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อครีมกันแดดอยู่ในสภาพที่เป็นปกติ ไม่มีการแยกชั้นของส่วนผสม ไม่มีสีหรือกลิ่นที่แตกต่างไปจากเดิมซึ่งถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ตามที่บอกไปข้างต้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงก็จะดีที่สุดนะคะ
MizuMi UV Water Serum ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย

ราคา 890 บาท*
ครีมกันแดด MizuMi เป็นครีมกันแดดอีกหนึ่งตัวค่ะที่เลือกได้ว่าโด่งดังและเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ มาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ ที่มีผิวหน้าบอบบางแพ้ง่ายก็จะเหมาะกับตัวนี้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นครีมกันแดดแบบกายภาพแบบ 100% จึงมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมาพร้อมกับสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นเหมือนบอดี้การ์ดที่ช่วยปกป้องผิวของเราอีกด้วย

กันแดดตัวนี้นอกจากจะจะทำงานได้อย่างดีเยี่ยมแล้วนั้น มันก็ยังอ่อนโยนมาก ๆ เช่นกันค่ะเพราะว่าไม่มีส่วนผสมของสารเคมีและส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองใด ๆ เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเนื้อครีมก็เป็นเนื้อเซรั่มที่บางเบาดุจน้ำ ทาง่ายและซึมไว ที่สำคัญที่สุดคือเนื้อครีมกันแดดไม่เข้าไปอุดตันผิวซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ลดโอกาสในการเกิดสิวนั่นเองค่ะ อ่อ…เกือบลืมไปเลยค่ะ เรื่องกลิ่นก็บางเบาสุด ๆ มีกลิ่นนิดเดียวเท่านั้นค่ะหรือจะพูดว่าแทบจะไม่มีกลิ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ อิอิ
ข้อดี
- สามารถทาแล้วออกได้ทันที ไม่ต้องรอ
- เป็นกันแดดแบบ Physical Sunscreen
- ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิว อย่างน้ำหอม, น้ำมัน, แอลกอฮอล์, พาราเบน และสีสังเคราะห์
- ไม่เป็นคราบหลังทาและไม่ทำให้หน้าวอก
- ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง
- เนื้อเซรั่มบางเบาไม่หนักหน้าและไม่ทำให้หน้าเยิ้ม
ข้อควรพิจารณา
- ความสามารถในการกันน้ำอาจทำได้ไม่ดีมากนัก
- เนื้อเซรั่มแห้งค่อนข้างไว ฉะนั้นอาจต้องเกลี่ยอย่างรวดเร็วหรือแนะนำให้ค่อย ๆ ทาก็จะดีที่สุดค่ะ

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด MizuMi UV Water Serum
ปริมาณ | 40 กรัม |
---|---|
SPF/PA | SPF50+ PA++++ |
ป้องกันรังสี | UVA1 / UVA2 / UVB |
เนื้อกันแดด | เนื้อเซรั่ม |
เหมาะสำหรับ | ผิวแพ้ง่าย |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✔ |
Biore UV Aqua Rich Watery Essence ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเนื้อเอสเซ้นส์

ราคา 299 บาท*
มาต่อกันที่อีกหนึ่งกันแดดค่ะที่มาในราคากลาง ๆ ไม่แพงมากจนเกินไป แต่ความสามารถในการกันแดดนั้นไม่แพ้กันแดดราคาแพงเลยแม้แต่น้อย สำหรับกันแดด Biore ตัวนี้มีการใช้นวัตกรรมสุดล้ำที่มีชื่อว่า Micro Defense ที่ให้มากกว่าการปกป้องผิวชั้นนอกเท่านั้น แต่มันยังช่วยปกป้องลึกถึงชั้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยลดปัญหาผิวแลดูแก่ก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดี

เนื้อของกันแดดจะมาในรูปแบบของเนื้อเอสเซ้นส์ที่ให้คุณรู้สึกเบาสบายผิว ไม่หนักหน้า อีกทั้งยังไม่เหนอะหนะหลังทาอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้แล้วกันแดดตัวนี้ก็ยังแอบให้ความรู้สึกที่ชุ่มชื้นด้วยนะคะ เพราะว่ามีส่วนผสมของ Butylene Glycol จึงไม่ทำผิวแห้งกร้าน แต่ในขณะเดียวกันไม่ทำให้ฉ่ำและวาวมากจนเกินไปนะคะ
ข้อดี
- ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้ระคายเคืองและไม่ก่อให้เกิดสิว
- เป็นสูตรกันน้ำและกันเหงื่อนจึงไม่หลุดง่าย
- สามารถทาทับเมคอัพระหว่างวันได้โดยที่ไม่ทำเกิดคราบ
- เนื้อบางเบาและสามารถเกลี่ยได้ง่ายมาก
ข้อควรพิจารณา
- มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แนะนำให้ทดสอบก่อนการใช้งานในครั้งแรก
- สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้ามันมาก ตัวนี้อาจจะช่วยคุมมันได้ในระดับปานกลาง

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่: รีวิว ครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich Watery Essence
ปริมาณ | 50 กรัม |
---|---|
SPF/PA | SPF50+ PA++++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB |
เนื้อกันแดด | เนื้อเอสเซ้นส์ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✔ |
ครีมกันแดดญี่ปุ่น Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+/PA++++

ราคา 355 บาท*

ครีมกันแดดกระจายตัวได้อย่างราบรื่นและมีเนื้อบางเบา คุณสามารถทาเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทับบนครีมกันแดดได้อย่างง่ายดาย ตัวครีมกันแดดจะไม่ทิ้งคราบสีขาวหลังการใช้ มีค่า SPF50+ และ PA ++++ เพื่อการป้องกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk

เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อน้ำนม |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
SPF/PA | SPF50+/ PA ++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
L'OREAL UV Defender ครีมกันแดดสูตร Matte & Fresh

ราคา 599 บาท*
ครีมกันแดด L'OREAL UV Defender จริง ๆ แล้วมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 สูตรนะคะแต่เราขอหยิบมารีวิวกันแค่สูตร Matte & Fresh ซึ่งเป็นสูตรที่ขายดีแถมยังเหมาะกับผิวของสาว ๆ ส่วนใหญ่อีกด้วยค่ะ คุณสมบัติพิเศษของกันแดดตัวนี้นั่นก็คือมีส่วนผสมของแอร์ลิเซี่ยมที่ทำหน้าที่ควบคุมความมันและในขณะเดียวก็ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าด้วยเช่นกันค่ะ
ไม่ใช่เพียงแค่การควบคุมความมันอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่กันแดดตัวนี้ยังไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม ทาแล้วตัวเนื้อกันแดดนั้นซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ไวสุด ๆ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการกันแดดที่สูง ช่วยป้องกันรังสียูวีได้มากถึง 98% ซึ่งหากว่าใช้เป็นประจำและต่อเนื่องนั้นคุณจะสัมผัสได้เลยค่ะว่าปัญหาเรื่องของริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ และจุดด่างดำนั้นลดลงอย่างชัดเจน
ข้อดี
- ช่วยให้ผิวแลดูชุ่มชื้นนานถึง 8 ชม.
- ทาแล้วไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะและไม่ทำให้ผิวแลดูวาว
- ช่วยปกป้องทั้งจากรังสียูวีและมลภาวะ
- เนื้อกันแดดค่อนข้างซึมไวและไม่เป็นคราบ
- เนื้อครีมถึงแม้จะดูค่อนข้างข้น แต่ก็สามารถเกลี่ยได้ง่ายมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ถึงแม้จะเป็นสูตรที่ช่วยควบคุมความมัน แต่ก็ยังมีความมันเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละคนด้วยค่ะ

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่: "รีวิว ครีมกันแดด L’oreal Paris UV Defender Matte & Fresh"
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
SPF/PA | SPF 50+ PA++++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB |
เนื้อกันแดด | เนื้อเซรั่ม |
เหมาะสำหรับ | ผิวมัน |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✘ |
Garnier Bright Complete ครีมกันแดด สูตรสีธรรมชาติ

ราคา 309 บาท*
ก่อนที่เราจะไปเริ่มรีวิวกันแดดตัวอื่น ๆ กันนั้น เรามาอุ่นเครื่องกันกับกันแดดราคาเบา ๆ จาก Garnier กันก่อนแล้วกันนะคะ กันแดดตัวนี้นอกจากจะมีส่วนช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากยูวีแล้วนั้น มันก็ยังมีส่วนผสมของวิตามินซีที่ช่วยในเรื่องของการลดเลือนจุดด่างดำและปรับให้ผิวแลดูกระจ่างใสเป็นธรรมชาติด้วยเช่นเดียวกัน

เนื้อกันแดดจะเป็นเนื้อที่ไม่ข้นและไม่เหลวเกินไป เกลี่ยง่ายมากค่ะ เนื้อจัดว่าค่อนข้างที่จะบางเบา แต่อาจจะต้องใช้เวลาให้เนื้อซึมสักเล็กน้อย แต่หลังจากที่ซึมแล้วก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่เหนอะหนะแต่อย่างใด กลิ่นของกันแดดจะเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้าย ๆ กลิ่นของมะนาว ซึ่งถ้าหากว่าใครที่ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ของทาง Garnier อยู่แล้วก็น่าจะคุ้นเคยกันดี เอาเป็นว่าสำหรับใครที่ต้องการกันแดดสำหรับใช้ทาทุกวัน แถมยังช่วยทำให้ผิวดูไบรท์มากขึ้นในราคาที่น่าคบหาก็ขอแนะนำตัวนี้เลยจ้า
ข้อดี
- เนื้อกันแดดมีสีช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสทันทีหลังทา
- มีกลิ่นที่หอมสดชื่น
- เนื้อครีมไม่หนักหน้ามากเกินไป
- ราคาไม่แพง
- ทาแล้วไม่เป็นคราบ
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อกันแดดมีสีซึ่งในส่วนนี้อาจทำให้บางคนหน้าวอกได้ ผู้ที่มีผิวสีเข้มแนะนำให้ทาบาง ๆ
- กลิ่นของมะนาวอาจจะแรงเกินไปสำหรับผู้ใช้งานบางคน

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด Garnier Bright Complete Vitamun C Super UV
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
SPF/PA | SPF50+ PA++++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB / UVA1 |
เนื้อกันแดด | เนื้อฟลูอิด |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✘ |
SPECTRABAN ครีมกันแดด สูตรกันน้ำและเหงื่อ

ราคา 210 บาท*
SPECTRABAN เป็นกันแดดที่ต้องติด 1 ใน 10 ของวันนี้ค่ะ ไม่มีไม่ได้เลยทีเดียวเพราะว่าเป็นกันแดดตัวที่คุณหมอผิวหนังแนะนำค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวไวต่อแสงและผู้ที่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานเพราะว่าตัวนี้ให้การปกป้องแบบ Double Protection ที่ช่วยสะท้อนรังสียูวีและช่วยสลายรังสีในหนึ่งเดียว โดยกันแดดตัวนี้สามารถปกป้องทั้งรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นจึงเป็นผลให้มีส่วนช่วยลดปัญหาการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ปัญหาฝ้า กระ ตลอดจนถึงปัญหาจุดด่างดำ
นอกจากในเรื่องของการกันแดดที่ถือได้ว่าทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วนั้น กันแดดตัวนี้เองก็ยังมีส่วนผสมที่มีความอ่อนโยนและปราศจากน้ำหอมอีกด้วยค่ะ ฉะนั้นแล้วสำหรับคนที่มีผิวที่ค่อนข้างบอบบางแพ้ง่าย รวมไปถึงผิวไวต่อแสงแล้วละก็ ครีมกันแดดตัวนี้คือคำตอบที่เหมาะกับคุณมากที่สุดค่ะ
ข้อดี
- อ่อนโยนไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและการแต่งสี
- ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
- กลิ่นของกันแดดเบาบาง ไม่ฉุน
- กันน้ำและเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันเป็นทุนเดินอยู่แล้ว อาจจะทำให้หน้ามันเพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ
- เนื้อครีมอาจให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างหนืดและหนักหน้าเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้งานบางคน
- สำหรับผู้ที่มีผิวเข้ม แนะนำให้ทาในปริมาณที่ไม่มากเพราะอาจจะทำให้หน้าวอกได้ค่ะ
ปริมาณ | 20 กรัม |
---|---|
SPF/PA | SPF 50+ PA+++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB |
เนื้อกันแดด | เนื้อครีม |
เหมาะสำหรับ | ผิวที่ไวต่อแดด |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✔ |
NIVEA SUN Protect & Sensitive Oil Control Serum เซรั่มกันแดด สูตรอ่อนโยน

ราคา 379 บาท*
ประสบปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่ายบวกกับปัญหาผิวหน้ามัน แต่ก็ยังอยากที่จะแต่งหน้าเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ กันแดดจาก NIVEA ตัวนี้สามารถช่วยคุณได้ค่ะ เพราะส่วนผสมของกันแดดนั้นออกแบบมาให้ช่วยปกป้องแสงแดดและช่วยปลอบประโลมผิวหน้าอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เมคอัพที่เราอุตส่าห์บรรจงแต่งนั้นมันเยิ้มระหว่างวัน และที่น่าสนใจอีกอย่างนั่นก็คือมันมีส่วนผสมของ L-Carnitine ที่ช่วยเรื่องการควบคุมความันส่วนเกินได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ
ครีมกันแดด NIVEA เองก็ถือว่าเป็นตัวนี้น่าสนใจค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องของคุณสมบัติของครีมกันแดด รวมไปถึงการใช้งานเองก็ถือว่าคุ้มค่าสมราคา เนื่องจากเนื้อครีมไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้ามากเกินไป แถมยังซึมง่าย ไม่เป็นคราบ ดังนั้นแล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่อาจจะไม่ต้องออกกลางแจ้งบ่อย ตัวนี้ก็ถือว่าสนใจค่ะ แถมยังหาซื้อได้ค่อนข้างง่ายอีกด้วยค่ะ
ข้อดี
- คุมมันได้นานถึง 8 ชม.
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและพาราเบน
- ไม่ทำให้ผิวอุดตัน
- ราคาไม่สูงจนเกินไป
- เกลี่ยได้ค่อนข้างง่ายและไม่ทิ้งคราบขาว
- กลิ่นไม่ฉุน
ข้อควรพิจารณา
- ทั้งนี้ระยะเวลาในการคุมมันและการช่วยให้เมคอัพติดทนนานนั้นอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของผู้ใช้งานแต่คนด้วยค่ะ
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
SPF/PA | SPF50+ PA+++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB |
เนื้อกันแดด | เนื้อเซรั่ม |
เหมาะสำหรับ | ผิวแพ้ง่าย |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✘ |
PHYSIOGEL ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ช่วยลดการระคายเคือง

ราคา 765 บาท*
ต่อมาก็จะเป็นคิวของครีมกันแดดสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย ผิวหน้าไวต่อแสงแดดและเกิดการระคายเคืองได้ง่ายแล้วละคะ โดยครีมกันแดดตัวนี้มาจากแบรนด์ PHYSIOGEL เป็นครีมกันแดดที่ให้มากกว่าการปกป้องผิวจากยูวี โดยจะช่วยมีส่วนช่วยในการลดปัญหาการระคายเคืองผิว ลดการอักเสบ อาการคัน ผิวแดง และยังช่วยปลอบประโลมผิวหน้าของคุณอย่างอ่อนโยน
การทาลงบนผิวหน้าโดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวจะไม่ทำให้รู้สึกแสบหรือคันค่ะ สามารถทาได้ทั่วหน้าและทาได้แบบ 2 ข้อนิ้ว โดยที่ไม่ทำหน้าวอกอย่างแน่นอน แล้วอีกอย่างเนื้อครีมที่มีความบางเบาเช่นนี้ก็ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม แถมยังไม่หนักหน้าอีกด้วยเพราะตัวเนื้อกันแดดนั้นซึมซาบเข้าผิวได้ค่อนข้างไว ผิวหน้าหลังทาก็ไม่ได้แห้งเสียสะทีเดียวนะคะ แต่จะคงความชุ่มชื้นไว้พอสมควรทำให้ผิวหน้าแลดูฉ่ำแบบสาวสุขภาพผิวดีอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว
ข้อดี
- ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอมและพาราเบน
- ไม่อุดตันผิว
- ผ่านการทดลองจากแพทย์ด้านผิวหนัง
- ไม่ทำให้แสบ คัน ระคายเคืองสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว
- เนื้อครีมค่อนข้างเบา ไม่หนักหน้า และไม่เป็นคราบ
- ไม่ทำให้หน้าแห้งมาก แต่จะให้ความชุ่มชื้นแลดูสุขภาพผิวดี
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อกันแดดซึมซาบได้ดีแต่อาจต้องใช้เวลาเล็กน้อย
- หลังทาอาจจะทำให้หน้าฉ่ำและมีความวาวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ดูเยิ้ม ในส่วนนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการกันแดดที่แห้งไวและให้ความแมตต์
ปริมาณ | 40 มล. |
---|---|
SPF/PA | SPF 50+ PA+++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB |
เนื้อกันแดด | เนื้อฟลูอิด |
เหมาะสำหรับ | ผิวเป็นสิวและผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✔ |
La Roche-Posay Anthelios Xl Dry Touch ครีมกันแดดคุมมัน สูตรกันน้ำ

ราคา 1,190 บาท*
La Roche-Posay Anthelios Xl Dry Touch คือกันแดดที่ยืนหนึ่งสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวหน้าที่มันเยิ้ม ผิวเป็นสิวง่าย รวมไปถึงผิวหน้าที่อาจเกิดการระคายเคืองจากแสงแดดด้วยเช่นกันค่ะ เพราะว่าตัวนี้มีการใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Airlicium ที่ทำหน้าที่ซึมซาบเข้าสู้ชั้นผิวได้ไว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ และก็ยังช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้นานหลายชั่วโมงโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเติมระหว่างวัน แถมยังออกแดดได้อย่างเต็มที่เพราะว่ามีประสิทธิภาพในการปกป้องยูวีที่สูง
ผู้ใช้งานหลายคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันค่ะว่ากันแดดตัวนี้เมื่อทาแล้วสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว แห้งไวสุด ๆ หลังจากแห้งก็ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เป็นเป็นขุย เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปค่ะเพราะเนื้อกันแดดไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้าและมันก็ยังเหมาะสำหรับการทาออกไปทำกิจกรรมข้างนอกด้วยค่ะเพราะตัวนี้สามารถกันน้ำและเหงื่อได้โอเคเลยทีเดียว
ข้อดี
- ปกป้องเหงื่อและน้ำได้ค่อนข้างดีเยี่ยม
- ช่วยคุมมันได้นาน 8 ชม.
- อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวและผิวรอบดวงตา
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและพาราเบน
- ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้อุดตันรูขุมขน
- ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
- เนื้อบางเบา ไม่ทิ้งคราบขาว
ข้อควรพิจารณา
- ยังมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แนะนำว่าควรทดสอบการแพ้ก่อนการใช้งานจริง
- สำหรับผู้ที่มีผิวมันมากเป็นพิเศษ กันแดดอาจจะช่วยคุมมันได้ไม่นานเท่ากับที่เคลมไว้ค่ะ อาจต้องคอยซับระหว่างวันบ้างเล็กน้อย
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
SPF/PA | SPF50+ PA++++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB |
เนื้อกันแดด | เนื้อเจลครีม |
เหมาะสำหรับ | ผิวมันและผิวเป็นสิวง่าย |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✔ |
Eucerin Sun Dry Touch Oil Control ครีมกันแดดเนื้อบางเบาสำหรับผิวมันและผิวเป็นสิวง่าย

ราคา 1,260 บาท*
ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้ามัน แพ้ง่าย มีปัญหาสิว ตลอดจนผิวไวต่อแสงแดดก็ไม่ต้องมองไปที่ไหลไกลค่ะ ขอบอกเลยว่าครีมกันแดดจาก Eucerin ตัวนี้คือตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากที่สุดค่ะ สำหรับกันแดดตัวนี้ไม่ใช่แค่เพียงปกป้องผิวคุณจากรังสียูวีอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่มันยังช่วยลดการทำร้ายผิวจากแสงสีฟ้าซึ่งเป็นแสงที่อยู่รอบตัวเราได้ถึง 85% เลยทีเดียวและนอกจากนี้ส่วผสมในกันแดดที่สำคัญอย่างคาร์นีทีนก็ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าของคุณได้ด้วยเช่นกันค่ะ
ตัวกันแดดจะมาในรูปแบบของหัวปั๊มจึงทำให้คุณสามารถบีบใช้งานได้อย่างง่ายดายและสะดวกสุด ๆ ส่วนตัวเนื้อกันแดดนั้นจะเป็นเนื้อเจลสีขาว เนื้อเกลี่ยง่ายและให้ความรู้สึกที่บางเบามาก ๆ เป็นปลื้ม กลิ่นนี่แทบจะไม่มีเลยค่ะ ทาง่ายแถมยังไม่ทิ้งคราบอีกด้วยน่า คือราคาอาจจะแรงไปหน่อยแต่ในเรื่องของคุณภาพเอย แพ็กเกจเอย ก็ถือว่าโอเคค่ะสมเหตุสมผลและยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าได้ดีมาก ๆ อีกด้วย
ข้อดี
- ช่วยคุมมันนาน 8 ชม.
- ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง
- สามารถปกป้องทั้งแสงยูวีและแสงสีฟ้า
- เนื้อกันแดดซึมซาบได้ค่อนข้างไวและไม่อุดตัน
- ไม่ทำให้หน้าดรอประหว่างวัน
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี และพาราเบน
- ใช้งานง่ายและสะดวก แถมยังไม่ต้องเขย่าขวดก็สามารถบีบใช้งานได้ทันที
- ไม่ทำให้รู้สึกแสบในบริเวณที่เป็นสิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูง
- สำหรับที่มีปัญหาหน้ามันมาก หน้าอาจจะมันบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ทำให้ดูมันจนเยิ้ม
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
SPF/PA | SPF 50+ PA+++ |
ป้องกันรังสี | UVA / UVB / HEVIS LIGHT (High Energy Visible Light) |
เนื้อกันแดด | เนื้อเจล |
เหมาะสำหรับ | ผิวมันและผิวเป็นสิวง่าย |
ช่วยกันน้ำและเหงื่อ | ✘ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ครีมกันแดด Drugstore ยี่ห้อไหนใช้ดีที่สุด (สำหรับทาหน้า) ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
Biore UV Aqua Rich Watery Essence ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเนื้อเอสเซ้นส์ |
| |||
ครีมกันแดดญี่ปุ่น Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+/PA++++ |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
NIVEA SUN Protect & Sensitive Oil Control Serum เซรั่มกันแดด สูตรอ่อนโยน |
| |||
| ||||
La Roche-Posay Anthelios Xl Dry Touch ครีมกันแดดคุมมัน สูตรกันน้ำ |
| |||
Eucerin Sun Dry Touch Oil Control ครีมกันแดดเนื้อบางเบาสำหรับผิวมันและผิวเป็นสิวง่าย |
|
จำเป็นต้องทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้วจริงหรือไม่ ? (4-6)
เมื่อไม่นานมานี้ก็มีประเด็นที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องตั้งข้อสงสัยกันอย่างมากซึ่งนั่นก็คือวิธีการทาครีมกันแดดที่ผิวหน้า 2 ข้อนิ้วนั่นเองค่ะ ซึ่งหลังจากที่ยินแบบนี้แล้วหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยใช่ไหมล่ะคะว่าแล้ว 2 ข้อนิ้วที่ว่านี้จะต้องทาอย่างไร มันจะได้ผลจริงหรือไม่ จะวอกหรือเปล่า และวิธีการเช่นนี้มีที่ไปที่มาเช่นไร วันนี้เราจะมาอธิบายเพิ่มเติมให้คุณเข้าใจง่ายขึ้นค่ะ

การทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้วนั้นมาจากกฎ “Rule of Nine” ซึ่งจะเป็นการแบ่งพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายออกเป็น 11 ส่วนที่แตกต่างกันโดยแต่ละส่วนก็จะคิดเป็น 9% ของพื้นที่ผิวทั้งหมด ซึ่งก็ได้แก่
- ศีรษะ ใบหน้า และลำคอ
- แขนซ้าย
- แขนขวา
- หลังส่วนบน
- หลังส่วนล่าง
- ลำตัวด้านหน้าส่วนบน
- ลำตัวด้านหน้าส่วนล่าง
- ขาท่อนบนซ้ายและต้นขา
- ขาท่อนบนขวาและต้นขา
- ขาและเท้าล่างซ้าย
- ขาและเท้าล่างขวา
ซึ่งการที่จะทาครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพมากพอที่จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและเพื่อให้เป็นไปตามค่าความสามารถในการป้องกันรังสียูวีที่กล่าวอ้างนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องทาในปริมาณที่เหมาะสมนั่นก็คือ 2 ข้อนิ้ว ซึ่งหมายถึง ปริมาณครีมกันแดดตั้งแต่ปลายจรดโคนนิ้วชี้และนิ้วกลาง
แต่ในกรณีเช่นนี้จะเป็นการทาในส่วนที่ 1 ซึ่งไม่ได้หมายถึงใบหน้าอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงส่วนคอด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากต้องการทาแค่ใบหน้าก็อาจจะปรับลดปริมาณลงได้ โดยปริมาณครีมกันแดดจะใช้มากหรือน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับประเภทและเนื้อครีมกันแดดด้วยค่ะ
การทาครีมกันแดดควรทาก่อนออกแดดประมาณ 15 หรือ 30 นาทีก็ขึ้นอยู่กับครีมกันแดดแต่ละตัว แต่ก็มีบางตัวเช่นกันค่ะที่สามารถทาแล้วออกแดดได้เลยทันที ซึ่งในส่วนนี้ก็แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ให้แน่ใจเสียก่อนนะคะ
ครีมกันแดดถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพแต่มันก็ไม่สามารถป้องกันผิวจากยูวีได้ทั้งหมด ดังนั้นแล้วทางที่ดีคือคุณควรเลี่ยงที่จะออกไปในที่ที่มีแสงแดดจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 10.00 น. ถึง 16.00 น. แต่ถ้าหากจำเป็นต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งก็แนะนำให้สวมเสื้อแขนยาว ใส่ปลอกแขน สวมหมวก หรืออาจจะกางร่มเพื่อช่วยป้องกันอีกชั้นนั่นเองค่ะ
References :
- Sun’s effect on skin
- Sun and Skin The Dark Side of Sun Exposure
- Health Effects of UV Radiation
- How to apply sunscreen for maximum protection
- Simple dosage guide for suncreams will help users
- Ultraviolet (UV) Radiation and Sun Exposure
- Titanium dioxide and zinc oxide nanoparticles in sunscreens: focus on their safety and effectiveness
- Sodium lauryl sulfate (SLS) induced irritant contact dermatitis: a correlation study between ceramides and in vivo parameters of irritation