การเล่นดนตรี นอกจากมันจะได้ความสนุกสนานแล้ว มันยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น ได้ฝึกความพยายาม ฝึกความอดทน ฝึกสมาธิ พัฒนาทักษะการฟัง การเข้าสังคม การทำงานเป็นทีม และอื่น ๆ ซึ่งแน่นอนครับว่าทักษะต่าง ๆ เหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนั้นแล้วทักษะการเล่นดนตรีก็อาจช่วยให้คุณมีรายได้เสริมด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ เครื่องดนตรีก็มีอยู่มากมายหลายประเภทให้เลือกเล่นครับ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของคุณ อาทิเช่น ขลุ่ย, อูคูเลเล่, เบส, กลองไฟฟ้า, เปียโนไฟฟ้า หรือกีต้าร์ เป็นต้น
สำหรับเครื่องดนตรีที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเล่นกันก็คือ กีต้าร์ ครับ เนื่องจากมันเป็นเครื่องดนตรีที่ทั้งเล่นและร้องไปด้วยได้ และถ้าคุณสังเกตุวงดนตรีหลาย ๆ วง มือกีต้าร์ จะมีชื่อเสียงรองลงมาจาก นักร้องนำ เลย นั่นก็เป็นเพราะมือกีต้าร์จะมีช่วงเวลาให้โชว์ของพวกเขาจึงดูเท่ในสายตาผู้ชม หลาย ๆ คนจึงอยากที่จะเล่นกีต้าร์บ้าง และหากคุณอยากจะเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าคุณควรเริ่มฝึกกับกีต้าร์โปร่งก่อนครับ เพราะกีต้าร์ทั้งสองแบบนี้ใช้พื้นฐานเดียวกัน แต่สำหรับกีต้าร์ไฟฟ้าจะมีเทคนิคต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามาทำให้วิธีการเล่นยุ่งยากมากขึ้น หากคุณมีพื้นฐานไม่แน่นพอ อาจจะทำให้รู้สึกท้อ และไม่อยากเล่นอีกเลยก็ได้
สำหรับมือกีต้าร์ที่เริ่มเล่นกีต้าร์โปร่งจนคล่องแคล่วแล้วสามารถตีคอร์ดแบบต่าง ๆ ได้และสามารถโซโล่ได้ สเต็ปต่อมาก็ถึงเวลาของ กีต้าร์ไฟฟ้า ครับ เนื่องจากกีต้าร์โปร่งไม่สามารถฝึกบางเทคนิคของกีต้าร์ไฟฟ้าได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องพัฒนาตนเองครับแต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่า กีต้าร์ไฟฟ้ารุ่นไหนดี ? แต่ละรุ่นมีเสียงแตกต่างกันอย่างไร ? รวมถึงมีรุ่นไหนบ้างที่ได้รับความนิยม ? ในวันนี้เราขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ กีต้าร์ไฟฟ้า ให้มากขึ้นครับ รวมไปถึงเราได้คัดสรร กีต้าร์ไฟฟ้า รุ่นยอดนิยม สำหรับมือใหม่ ในระดับราคาต่าง ๆ มารีวิวด้วยครับ เพื่อที่คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบกัน จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
ประเภทของ กีต้าร์ ที่ได้รับความนิยม

กีต้าร์ถูกแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ซึ่งวิธีการเล่นจะอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน แต่กีต้าร์บางประเภทจะมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นมา โดยในบ้านเราจะนิยมเล่นกันอยู่ 3 ประเภท ดังนี้
- กีตาร์โปร่ง (Acoustic Guitar) : เป็นกีต้าร์ที่มีบอดี้โปร่ง ให้เสียงดัง กังวาล ทำให้คุณสามารถเล่นได้เลยโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า สามารถพกพาไปได้ทุกที่ แม้มีขนาดใหญ่แต่น้ำหนักเบา หลาย ๆ เริ่มฝึกกีต้าร์กับกีต้าร์โปร่ง เพราะ สะดวก ไม่ยุ่งยาก จับยกมาเล่นได้เลย
- กีตาร์โปร่งไฟฟ้า (Electric Acoustic Guitar) : เป็นกีตาร์โปร่ง แต่ได้มีการติดตั้ง Pick Up ประกอบเข้าไปในตัวของกีตาร์โปร่ง ซึ่งจะทำให้สามารถต่อสายจากกีตาร์เข้าเครื่องขยายได้โดยตรง
- กีตาร์ไฟฟ้า (Electric Guitar) : มีลักษณะบอดี้ตัน และมีการติดตั้ง Pick Up สำหรับกีตาร์ไฟฟ้าอีก 2 หรือ 3 ชุด ไว้บนบอดี้ของกีตาร์ เพื่อแปลงของสัณญาณเสียงให้เป็นกระแสไฟฟ้าเข้าไปที่เครื่องขยายเสียงอีกที และกีตาร์ไฟฟ้าจำเป็นจะต้องมีเครื่องขยาย หากไม่มีจะให้เสียงออกมาเบามาก เนื่องจากบอดี้ตันทำให้ไม่สามารถสร้างเสียงให้ดัง กังวาลเหมือนกีต้าร์โปร่งได้
Century ce-384 กีต้าร์ไฟฟ้า ราคาประหยัด

ราคา 2,890 บาท*
Century ce-384 เป็นกีตาร์ไฟฟ้าราคาประหยัด มาในทรง Stratocaster มาตรฐาน 22 เฟรต ขนาด Medium Jumbo มาพร้อมกับสเปคระดับมาตรฐานครับ เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการกีต้าร์ไฟฟ้าราคาคุ้มค่า ตัวบอดี้ทำมาจากไม้เบสวู้ด ในส่วนฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้โรสวู้ด และส่วนของคอกีต้าร์เป็นไม้เมเปิลครับ สำหรับรุ่นนี้มีสีสันให้เลือกหลากหลายสีและมีการทำลวดลายมาให้ด้วย ซึ่งช่วยให้มันดูสวยงาม และดูแพงมากขึ้น ในส่วนของโครงปิ๊กอัพมีการจัดวางแบบ HSS ครับ ปิ๊กอัพคอและปิ๊กอัพกลาง เป็นแบบ Standard Single Coil ส่วนปิ๊กอัพบริดจ์ใช้เป็น Standard Humbucking ช่วยเพิ่มเสียงให้หนาขึ้น ในส่วนแผงควบคุมมีทั้งหมด 3 ปุ่มครับ เป็นปรับโวลุ่ม 1 ปุ่ม และโทนอีก 2 ปุ่ม ส่วนสวิทช์ปิ๊กอัพรุ่นนี้สามารถปรับได้ 5 ทาง ช่วยให้คุณสามารถเล่นได้หลากหลายแนวมากยิ่งขึ้น เหมาะมาก ๆ ครับ สำหรับคนที่กำลังฝึกเริ่มเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า
รูปทรง | Stratocaster |
---|---|
ไม้บอดี้ | Basswood |
ไม้คอ | Maple |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Single Coil |
ปิ๊กอัพกลาง | Single Coil |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Humbucking |
บริดจ์ | Tremolo |
Cravis KG-02 Set กีต้าร์ไฟฟ้า คอดาว ครบชุดพร้อมเล่น

ราคา 2,990 บาท*
Cravis KG-02 Set เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าราคาสุดคุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่นครับ สำหรับตัวนี้มีของแถมมาให้แบบครบชุด เหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยมีกีต้าร์ไฟฟ้ามาก่อนเลย เพราะของแถมในชุดนี้ทำให้คุณสามารถเล่นได้เลย ไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์ใด ๆ เพิ่ม ซึ่งในของแถมจะประกอบด้วย ตู้แอมป์กีต้าร์ 20 วัตต์, กระเป๋ากีต้าร์, สายแจ็ค, สายสะพาย, ปิ้ค, คันโยก, ประแจ และเครื่องตั้งสายครับ Cravis KG-02 มาในทรง Stratocaster รูปแบบ Fender Style รูปทรงยอดนิยม ตัวบอดี้ทำจากไม้เบสวู้ด ซึ่งช่วยให้มีน้ำหนักที่พอดี ไม่หนักเกินไป ช่วยให้คุณสามารถเล่นได้ต่อเนื่อง คอกีต้าร์และฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้เมเปิ้ล มอบเสียงที่ใสกังวาล และโดดเด่นด้วยอินเลที่ทำออกมาเป็นรูปดาว ดูสวยงามลงตัวมากขึ้น ในส่วนของปิ๊กอัพวางแบบ HSS ครับ ปิ๊กอัพคอและปิ๊กอัพกลาง เป็นแบบ Single Coil ส่วนปิ๊กอัพบริดจ์ใช้เป็น Humbucking ช่วยเพิ่มเสียงให้หนามากยิ่งขึ้น ในส่วนแผงควบคุมมีปรับโวลุ่ม 1 ปุ่ม และโทนอีก 2 ปุ่ม ส่วนสวิทช์ปิ๊กอัพปรับได้ 5 ทาง ทำให้คุณเลือกเล่นได้หลากหลายแนว สำหรับ Cravis KG-02 Set ถือเป็นกีต้าร์ที่เหมาะสำหรับมือใหม่มาก ๆ ด้วยเสียงมาตราฐาน ไม่ผิดเพี้ยน มีอุปกรณ์ให้มาครบ ซึ่งคุ้มค่ากับราคามาก ๆ
รูปทรง | Stratocaster |
---|---|
ไม้บอดี้ | Basswood |
ไม้คอ | Maple |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Maple |
ปิ๊กอัพคอ | Single Coil |
ปิ๊กอัพกลาง | Single Coil |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Humbucking |
บริดจ์ | Tremolo |
ANGEL AST-200 กีต้าร์ไฟฟ้า สำหรับมือใหม่

ราคา 4,050 บาท*
ANGEL AST-200 เป็นกีตาร์ไฟฟ้า ราคาประหยัด มาในทรง Stratocaster มาตรฐาน 22 เฟรต ขนาด Medium Jumbo โดยมาพร้อมกับสเปคระดับมาตรฐาน เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่โดยเฉพาะ ตัวบอดี้ทำมาจากไม้เบสวู๊ด ส่วนคอกีต้าร์ทำมาจากเมเปิล ซึ่งคอมาในแบบ C shape ทำให้สามารถเล่นได้ง่ายครับ ในส่วนของฟิงเกอร์บอร์ดทำมาจากไม้โรสวู๊ด สำหรับ Pick up นั้นรุ่นนี้เป็นแบบ Single-coil 3 ตัว ทั้งปิ๊กอัพคอ, ปิ๊กอัพกลาง และปิ๊กอัพบริดจ์ ส่วนบริดจ์เป็นแบบ Tremolo สามารถต่อคันโยกได้ และส่วนแผงควบคุมมาพร้อมตัวปรับ 1 โวลุ่ม และ 2 โทน พร้อม Switch สลับ Pick up ได้ 5 ทาง สำหรับ ANGEL AST-200 ถือเป็นกีต้าร์ที่มีฟังก์ชันพื้นฐานให้มาครบ เสียงที่ได้ก็ออกในโทนกลาง ๆ มีความใส และออกชัดเจน เหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ที่กำลังหากีต้าร์ไฟฟ้าไปฝึกหัดครับ
รูปทรง | Stratocaster |
---|---|
ไม้บอดี้ | Basswood |
ไม้คอ | Maple |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Single Coil |
ปิ๊กอัพกลาง | Single Coil |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Single Coil |
บริดจ์ | Tremolo |
Clevan CTD20 กีตาร์ไฟฟ้า 24 เฟรตจัมโบ้ เคลือบด้าน

ราคา 5,300 บาท*
Clevan CTD-20 เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจครับ มาในทรง Fender Stratocaster มาตรฐาน 22 เฟรต ตัวบอดี้ทำจากไม้อกาธิส ซึ่งจะให้เสียงออกไปในโทนหนา คอกีต้าร์ทำจากไม้แคนาเดี้ยนเมเปิ้ล และในส่วนของฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด เสริมด้วยปิ๊กอัพ แบบฮัมบัคเกอร์คู่ โดยใช้ของ Clevan HB ทำให้ซาวด์ของกีต้าร์ตัวนี้จึงออกไปทางโทนหนา และอบอุ่น และในส่วนของแผงควบคุมเสียง รุ่นนี้มาพร้อมปุ่ม 1 โวลุ่ม และ 1 โทน สวิตซ์สามารถปรับได้ 3 ทาง สำหรับ Clevan CTD-20 ถือเป็น กีต้าร์ไฟฟ้าที่เหมาะจะนำไปเล่นกับดนตรีแนวร็อคจนไปถึงเมทัล ด้วยซาวด์ของรุ่นนี้ที่จะออกไปทางโทนหนา และอบอุ่น ส่วนตัววัสดุอื่น ๆ บนกีต้าร์มีการชุบโครเมี่ยมมาให้ทั้งหมด มีความเงางาม ตัดกับตัวบอดี้ที่ออกไปในโทนทึบ ๆ ทำให้มันดูสวยลงตัวมากขึ้น สำหรับกีต้าร์ไฟฟ้าตัวนี้ ถือว่าตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และมือเก่าครับ
รูปทรง | Stratocaster |
---|---|
ไม้บอดี้ | Agathis |
ไม้คอ | Canadian Maple |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Clevan Humbucker |
ปิ๊กอัพกลาง | ไม่มี |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Clevan Humbucker |
บริดจ์ | Fixed |
Epiphone Les Paul Special VE กีตาร์ไฟฟ้า ทรง LP ลายไม้สไตล์วินเทจ

ราคา 5,790 บาท*
Epiphone Les Paul Special VE เป็นกีตาร์ไฟฟ้าราคาประหยัด ทรง Les Paul สไตล์วินเทจ 22 เฟรต ขนาด Medium Jumbo ตัวบอดี้ทำจากไม้ป๊อปล่าร์มอบเสียงกลางที่โดดเด่น ทำให้ซาวด์ค่อนข้างกว้างและบางลงเล็กน้อย ในส่วนคอทำจากไม้โอกูเม่หรือมะฮอกกานีเอเชีย ให้โทนเสียงที่หนานุ่ม คอกีต้าร์เป็นทรง D แบบ Slim ช่วยให้เล่นได้ง่ายมากขึ้น ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด และมีอินเลย์ลายจุดฝังมุกที่ดูสวยงาม ในด้านของปิ๊กอัพรุ่นนี้เป็นแบบฮัมบัคกิ้งคู่ ตัวที่อยู่ใกล้คอใช้รุ่น Epiphone 650R Humbucker ส่วนตัวที่อยู่ใกล้สะพานสายใช้รุ่น Epiphone 700T Humbucker แผงคอลโทลเป็นโวลุ่มและโทนอย่างละ 1 ตัว สวิทช์ 3 ทาง ส่วนบริดจ์รุ่นนี้ใช้เป็นแบบ Fixed ซึ่งใส่คันโยกไม่ได้ มือใหม่ไม่ต้องปวดหัว สำหรับ Epiphone Les Paul Special VE ถือว่าตอบโจทย์ผู้เล่นทุกระดับครับ โดยเฉพาะผู้เล่นมือใหม่ครับ ด้วยตัวกีต้าร์มีน้ำหนักที่เบาลง คอกีต้าร์ก็มีการปรับให้ Slim ทำให้มันบางจนเล่นได้ง่ายขึ้นมาก และยังไม่ทิ้งคาแรคเตอร์ Les Paul ซึ่งโดดเด่นเรื่องซาวด์หวาน แบบร็อคโบราณ
รูปทรง | Les Paul |
---|---|
ไม้บอดี้ | Poplar |
ไม้คอ | Okoume |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Epiphone 650R Humbucker |
ปิ๊กอัพกลาง | ไม่มี |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Epiphone 700T Humbucker |
บริดจ์ | Fixed |
Paramount ELC3 กีตาร์ไฟฟ้า ทรง Les Paul

ราคา 5,990 บาท*
Paramount ELC3 เป็นกีตาร์ไฟฟ้าที่มาในดีไซน์ที่โดดเด่นมาก ๆ อีกรุ่นนึงครับ สำหรับรุ่นนี้มาในทรง Les Paul ขนาดมาตรฐาน 22 เฟรต ใช้สาย D'Addario EXP ตัวบอดี้ทำจากไม้ลินเดน ส่วนของคอทำจากไม้โรสวู้ด และฟิงเกอร์บอร์ดทำมาจากโรสวู๊ด ให้โทนเสียงที่ชัดเจน ใส เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าที่มีซาวด์ที่ค่อนข้างกว้างและบางเล็กน้อย ตามสไตล์ของ Les Paul สำหรับ Pick up นั้นรุ่นนี้ใช้เป็นแบบฮัมบัคกิ้งคู่ Humbucker ในส่วนแผงควบคุมมีปรับโวลุ่ม 2 ปุ่ม และโทนอีก 2 ปุ่ม ส่วนสวิทช์ปิ๊กอัพปรับได้ 3 ทาง ช่วยให้คุณเลือกเล่นได้หลากหลายแนว ส่วนบริดจ์รุ่นนี้ใช้เป็นแบบ Fixed ซึ่งใส่คันโยกไม่ได้ มือใหม่ไม่ต้องปวดหัวครับ สำหรับ Paramount ELC3 เรื่องความสวยงามหมดห่วงเลยครับ มีให้เลือกถึง 3 สี สีเชอร์รี่ซันเบิร์ส, สีดำ และสีขาว รูปทรงเรียบหรูสวยงามตามสไตล์ของ Les Paul โดดเด่นไม่เหมือนใครในราคาประหยัด
รูปทรง | Stratocaster |
---|---|
ไม้บอดี้ | Linden Solid |
ไม้คอ | Maple |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Humbucker |
ปิ๊กอัพกลาง | ไม่มี |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Humbucker |
บริดจ์ | Fixed |
Fender Squier Bullet Stratocaster HSS กีต้าร์ไฟฟ้า ราคาสุดคุ้ม

ราคา 6,660 บาท*
Fender Squier Bullet Stratocaster HSS เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าจากแบรนด์ดังที่ออกแบบมาพร้อมกับความเรียบง่ายและราคาไม่แพง ซึ่งมือกีต้าร์หลาย ๆ คนให้ความสนใจรุ่นนี้กันเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดแล้วในบรรดา Squier แต่ยังคงมีคุณภาพเต็มเปี่ยม Squier Bullet Stratocaster HSS มาในทรง Stratocaster 21 เฟรต ขนาด Medium Jumbo ตัวบอดี้ทำมาจากไม้เบสวู้ด ส่วนคอใช้ไม้เมเปิ้ล ซึ่งมาในทรง C-Shape ทำให้เล่นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ในส่วนฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด ให้เสียงในโทนกลาง ๆ สามารถเล่นได้ทุกแนวเพลง มีปิ๊กอัพ 3 ตำแหน่งในตัวกีต้าร์ โดยเป็น Single Coil 2 ตัว และ Humbucking อีก 1 ตัว ช่วยให้ซาวด์ที่ได้มีความหนามากขึ้น แผงคอนโทรล 3 ตัว โวลุ่ม 1 ตัว และโทน 2 ตัว พร้อมซีเลคเตอร์ 5 ทาง ช่วยให้คุณสามารถเล่นได้หลากหลายแนวมากขึ้นครับ สำหรับ Squier Bullet Stratocaster HSS ถือเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าที่เหมาะมาก ๆ กับผู้เล่นมือใหม่ที่อยากได้กีต้าร์ไฟฟ้าทรงมาตรฐานเอาไว้ใช้ฝึกหัด ในราคาเท่านี้ ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
รูปทรง | Stratocaster |
---|---|
ไม้บอดี้ | Basswood |
ไม้คอ | Maple |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Single Coil |
ปิ๊กอัพกลาง | Single Coil |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Humbucking |
บริดจ์ | Tremolo |
Yamaha ERG121U กีตาร์ไฟฟ้า คุณภาพสูง ราคาเบา ๆ

ราคา 7,300 บาท*
Yamaha ERG121U เป็นกีตาร์ไฟฟ้าแบรนด์เนม มาพร้อมกับราคาที่ถูกที่สุดแล้ว หากเทียบกับคุณภาพที่ได้มา มาในรูปทรงมาตรฐาน Stratocaster มี 22 เฟรต ตัวบอดี้นั้นทำจากไม้อกาธิส ให้เสียงที่มีความหนา ส่วนคอทำจากไม้เมเปิลที่จะให้เสียงใส และชัดเจนทุกตัวโน๊ต และในส่วนของฟิงเกอร์บอร์ดทำมาจากไม้โรสวู้ด ในส่วนของปิ๊กอัพเป็นแบบ HSH ปิ๊กอัพแบบซิงเกิ้ลคอยล์ 1 ตัว และปิ๊กอัพแบบฮัมบัคกิ้ง 2 ตัว ส่วนแผงคอนโทรล ปุ่มโวลุ่ม และปุ่มโทนอย่างละ1 ตัว สวิทช์ 5 ทาง ลูกบิดแบบ Die-cast ที่ดูสวยงาม และในส่วนของบริดจ์ใช้เป็น Tremolo ซึ่งในชุดมีคันโยกมาให้ด้วย โดยรวม Yamaha ERG121U ถือเป็นกีต้าร์ที่เหมาะสำหรับมือใหม่มาก ๆ ครับ ขนาดมาตรฐาน น้ำหนักไม่มากเกินไป สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่อง และความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือ คุณจะได้ฟังก์ชันทุก ๆ อย่างที่กีต้าร์ไฟฟ้าควรจะมีให้มาครบถ้วน ทำให้มันเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าคุ้มราคาสามารถใช้งานได้ยาว ๆ เลย
รูปทรง | Stratocaster |
---|---|
ไม้บอดี้ | Agathis |
ไม้คอ | Maple |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Humbucker |
ปิ๊กอัพกลาง | Single Coil |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Humbucker |
บริดจ์ | Tremolo |
Epiphone SG Special VE กีต้าร์ไฟฟ้า ทรง SG

ราคา 7,500 บาท*
Epiphone SG-Special VE เป็นกีตาร์ไฟฟ้า ทรง SG จากปี 1962 ขนาด Medium Jumbo มี 22 เฟรต ตัวบอดี้รุ่นนี้ได้มีการเคลือบด้านมา ทำให้มันเป็นกีต้าร์ที่ดูสวยงามมาก และไม่ลื่นมือ ช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้น ตัวบอดี้ใช้ไม้ป็อปลาร์ที่โดดเด่นในย่านเสียงกลาง และมีการปะหน้าด้วยไม้มะฮอกกา เพิ่มซาวด์ให้หนา ทำให้เสียงออกมามีมิติมากขึ้น ในส่วนฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้โนสวู๊ด และส่วนของคอกีต้าร์ใช้ไม้โอกูเม่ ซึ่งมอบเสียงที่หนานุ่ม ทรงคอมาในแบบ SlimTaper ทรง D มาตรฐาน แบบปี 60 ซึ่งมีขนาดกำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ปิ๊กอัพใช้เป็นแบบฮัมบัคกิ้งคู่ 2 ตัว คือ 650R Humbucker และ 700T Humbucker มอบเสียงที่ค่อนข้างหนา ดุดัน ตามสไตล์ของเพลงแนวร็อค ด้านแผงควบคุมมีตัวสวิทช์ 3 ทาง ปรับโทน และปรับโวลุ่มแยกจากกัน ช่วยให้สามารถปรับจูนได้ตามสะดวก หากคุณเป็นชาวร็อค Epiphone SG-Special VE ถือเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคาแรคเตอร์ของชาวร็อค ความสวยงาม และคุณภาพของเสียงในแบบ SG
รูปทรง | SG |
---|---|
ไม้บอดี้ | Poplar |
ไม้คอ | Okoume ทับด้วย Mahogany Veneer |
ฟิงเกอร์บอร์ด | Rosewood |
ปิ๊กอัพคอ | Epiphone 650R Humbucker |
ปิ๊กอัพกลาง | ไม่มี |
ปิ๊กอัพบริดจ์ | Epiphone 700T Humbucker |
บริดจ์ | Tremolo |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว กีต้าร์ไฟฟ้า รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
Epiphone Les Paul Special VE กีตาร์ไฟฟ้า ทรง LP ลายไม้สไตล์วินเทจ |
| |||
| ||||
Fender Squier Bullet Stratocaster HSS กีต้าร์ไฟฟ้า ราคาสุดคุ้ม |
| |||
| ||||
|
วิธีเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าอย่างไร ให้ได้รุ่นที่ดีที่สุด
กีตาร์ไฟฟ้า (Electric Guitar) ในปัจจุบันมีหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ให้คุณได้เลือกกันครับ ทำให้คุณลังเลใจว่าจะซื้อกีต้าร์ตัวไหนดี รุ่นที่ชอบ คนอื่นว่าไม่ดี แต่รุ่นที่คนอื่นว่าดี เรากลับไม่ชอบ ดังนั้นเราขอมาแนะนำว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่คุณควรดู เพื่อให้ได้กีต้าร์ไฟฟ้าที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
1. ทรงของกีต้าร์ไฟฟ้า หรือ บอดี้ (Body)

ทรงของกีต้าร์ไฟฟ้ามีอยู่มากมายหลายทรงมาก ๆ ครับ มีตั้งแต่ทรงมาตราฐานอย่าง Stratocaster หรือ Telecaster ไปจนถึงทรงแปลก ๆ อย่าง V-2 และ Star (ทรงที่วงร็อคชอบใช้) ซึ่งถ้าหากคุณเป็นมือใหม่ คุณก็ควรเลือกกีต้าร์ไฟฟ้าทรงมาตรฐานก่อนครับ เพราะทรงมาตรฐานมันถูกออกแบบมาให้เล่นได้ง่าย เข้ากับสรีระร่างกาย รูปทรงเหล่านี้จึงเหมาะกับผู้เล่นมือใหม่ และคุณไม่ควรเลือกทรงที่แปลก ๆ แม้มันจะดูสวยงาม ไม่เหมือนใคร แต่เชื่อเถอะครับว่า มันก็เล่นได้ยากมาก ๆ เช่นกัน
2. ตัวรับเสียงกีต้าร์ไฟฟ้า หรือ ปิ๊กอัพ (Pick up)

สำหรับ ส่วนรับเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้า หรือ ปิ๊กอัพ จะอยู่บนตัวกีต้าร์ไฟฟ้าถัดมาจากสะพานสาย รวมถึงระบบไฟฟ้าด้วย ซึ่งจะมีผลกับเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้าโดยตรง มือใหม่ควรต้องดูก่อนทำการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้า โดยปิ๊กอัพจะมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ซึ่งมันจะให้เสียงที่ต่างกันโดยแบบแรก Single Coil จะมอบเสียงที่มีความบางกว่า ส่วนอีกแบบ Humbuckers จะมอบเสียงที่มีความหนามากกว่า ซึ่งในส่วนนี้มือใหม่สามารถเลือกได้เลยครับว่า ชื่อชอบโทนเสียงแบบไหน ?
นอกจากนี้ ปิ๊กอัพ ยังมีทั้ง แบบที่ต้องใช้ถ่าน (Active Pick Up) และ แบบที่ไม่ต้องใช้ถ่าน (Passive Pick Up) ซึ่งมีความแตกต่างกันตรงที่ แบบที่ต้องใช้ถ่าน (Active Pick Up) จะสามารถเพิ่มความดัง หรือเร่งย่านเสียงให้ดังขึ้นมาได้ สำหรับมือใหม่ให้เลือกใช้ แบบที่ไม่ต้องใช้ถ่าน (Passive Pick Up) ก็เพียงพอแล้วครับ เนื่องจากมันสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าและไม่ต้องคอยเปลี่ยนถ่านอยู่เรื่อย ๆ ส่วนเสียงที่ได้ก็เพียงพอสำหรับการเล่นทั่วไปแล้วครับ
2. สะพานสาย หรือ บริจด์ (Bridge)

สะพานสาย คือตัวรองรับหย่อง และสายกีต้าร์เอาไว้กับลำตัวของกีต้าร์ ในกีต้าร์ไฟฟ้าจะต่างจากกีต้าร์โปร่งตรงที่บริดจ์สามารถถอดออกได้ ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งได้ทั้ง ความสูง-ต่ำของสายกีต้าร์ อินโทนเนชั่น และระยะห่างของสายกีต้าร์ โดยจะปรับแต่งร่วมกับเหล็กดามคอ หลาย ๆ คน มักจะมองข้ามสะพานสายไปเวลาเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้า เนื่องจากไม่รู้ว่า มันมีผลต่อการเล่น และการดูแลรักษากีต้าร์ด้วย สำหรับสะพานสายถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบครับ ซึ่งแต่ละแบบก็จะทำงานแตกต่างกัน และจะมีความยุ่งยากซับซ้อนที่ต่างกันอีกด้วย
- ฟิกบริดจ์ (Fixed Bridge) เป็นสะพายสายแบบที่มีหน้าที่ลองรับสายอย่างเดียว ซึ่งใช้งานง่ายที่สุดครับ โดยเหมาะมากกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า เพราะฟิกบริดจ์มีความยุ่งยากในการใช้งานน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถตั้งสายให้ตรงได้ง่าย และที่สำคัญมีความเพี้ยนของสายน้อยที่สุด หากเทียบกับอีก 2 แบบที่เหลือ
- เทมโมโรบริดจ์ (Tremolo Bridge) เป็นสะพายสายที่มีความยุ่งยากในการปรับแต่งขึ้นมาอีกขั้น โดยสะพายสายแบบนี้จะมีการเพิ่มระบบสปริงเข้ามาทำให้สามารถใช้เทคนิคในการเล่นกีต้าร์เพิ่มขึ้น ซึ่งตัวสปริงนี้แหละครับคือตัวที่ยากสำหรับมือใหม่ เพราะมีผลกับสายกีต้าร์โดยตรง จะเป็นตัวที่สามารถทำให้สายกีต้าร์ตึงหรือหย่อนได้ ทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะใช้คันโยกได้นั่นเอง
- ฟรอยโรสบริดจ์ (Floyd Rose Bridge) เป็นสะพานสายแบบที่มีความซับซ้อนมากที่สุด และยังเป็นสะพานสายที่มีข้อดีมากที่สุดเช่นกันครับ โดยสะพายสายแบบนี้ก็จะมีการเพิ่มระบบสปริงเข้ามา เพื่อให้ผู้เล่นสามารถที่จะใช้คันโยกได้เหมือนกับแบบที่สอง แต่สิ่งที่ฟรอยโรสบริดจ์มีเพิ่มเข้ามาคือ การล๊อคตรึงสายให้อยู่กับที่ ทำให้สายกีต้าร์จะไม่เพี้ยนเลย แต่มันก็มาพร้อมกับความยุ่งยากในการใส่สาย การตั้งสปริง และการตั้งสายใหม่ เพราะฉะนั้นในแบบนี้มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงครับ
4. ลูกบิด หรือ จูนนิ่ง (Tuning)

สำหรับ ลูกบิด หรือ จูนนิ่ง เป็นตัวที่มีหน้าที่ยึดสายเช่นเดียวกับสะพานสาย แต่จะมีหน้าที่อีกอย่างคือ ปรับจูนความตึงและความหย่อนของสายกีต้าร์ โดยลูกบิดของกีต้าร์ไฟฟ้าปัจจุบันจะมีการวางตำแหน่งอยู่สองแบบหลัก ๆ ก็คือ การเรียงแถวเดียว และการแบ่งออกเป็น 2 แถว ส่วนวัสดุที่ใช้ทำลูกบิดก็จะมีทั้ง พลาสติก, เหล็ก, อลูมิเนียม และอื่น ๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับราคาครับ
สำหรับ ลูกบิด ที่ใช้อยู่ทั่วไปสำหรับตั้งสายหรือใส่สายกีต้าร์ จะมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ครับ ซึ่งก็คือ ลูกบิดแบบปกติ และลูกบิดแบบล็อคสาย ความต่างของทั้งสองแบบนี้ก็คือ โอกาสที่สายจะเพี้ยน ครับ ซึ่งก็ตามชื้อเลยลูกบิดแบบปกติมีโอกาสที่สายจะเพี้ยนได้มากกว่า ส่วนลูกบิดแบบล็อคสายมีโอกาสที่เสียงจะเพี้ยนได้น้อยกว่า สำหรับมือใหม่ สามารถเลือกแบบไหนก็ได้ครับ เพราะไม่มีผลอะไรมากนักเกี่ยวกับการเล่น
5. ส่วนคอ (Neck)

ในส่วนคอกีต้าร์ ก็ถือเป็นอีกส่วนที่สำคัญมาก ๆ ของกีต้าร์ไฟฟ้าครับ หลาย ๆ คนอาจไม่เคยสังเกตว่า คอกีต้าร์มันมีอยู่หลายทรงมาก เช่นเดียวกับบอดี้ ซึ่งในแต่ละทรงมันก็จะความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ในบางทรงอาจจะใหญ่ หรือบางทรงอาจจะเล็ก ซึ่งในปัจจุบันก็มีทั้ง ทรง D, ทรง U, ทรง C, ทรง V hard, ทรง V soft และยังมีทรงอื่น ๆ อีก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นทรง D ครับ แต่ก็มีบางรุ่นที่ใช้ทรงที่ต่างออกไป ในข้อนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณครับว่า ถนัดเล่นกับคอกีต้าร์แบบไหน ?
บทส่งท้าย
กีต้าร์ไฟฟ้า คือ เครื่องดนตรีที่สร้างสรรค์เสียงต่าง ๆ ได้มากมาย การโซโล่ลงไปในเนื้อเพลง เป็นการเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้ให้กับเพลงนั้น ๆ สำหรับหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเล่นกีต้าร์เก่ง ๆ อย่างเดียวที่ต้องทำเลยก็คือ ฝึกซ้อม เท่านั้น เพราะ การที่คุณฝึกอยู่บ่อย ๆ สม่ำเสมอนั้น จะทำให้นิ้วสามารถเคลือนไหวได้อย่างคล่องตัว และทำให้เสียงกีต้าร์ที่คุณสร้างออกมาฟังดูสมูธ ไหลลื่น ไม่ตัดขัด เราหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณได้กีต้าร์ไฟฟ้า ที่ดีและถูกใจคุณไปฝึกซ้อมกันนะครับ สุดท้ายนี้เราอยากที่จะแนะนำให้คุณฝึกฟังเสียงของกีต้าร์ด้วย เพราะสิ่งนี้มันจะเป็นประโยชน์มากครับ อย่างเช่น หากกีต้าร์ของเราสายเพี้ยนก็สามารถรู้ได้ทันที แต่หากคุณยังเป็นมือใหม่อยู่ เราแนะนำให้หาซื้ออิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์มาใช้งานก่อน เสียงที่คุณเล่นจะได้ตรง จะได้ไม่จำเสียงสับสนครับ