เครื่องดนตรี เป็นอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างเสียงต่าง ๆ ออกมา เมื่อเราเล่นเครื่องดนตรีหลาย ๆ ชนิดรวมกัน เราก็จะได้เสียงที่ใช้ประกอบการร้องรำทำเพลง ซึ่งถ้ามองตามหลักการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ใดก็ตาม หากเรานำมาใช้สร้างเสียงดนตรีได้ มันก็จะถูกเรียกว่า “เครื่องดนตรี” ได้หมดครับ
ในปัจจุบันก็มีเครื่องดนตรีอยู่หลายชนิดให้คุณได้เลือกเล่น ซึ่งเราสามารถแบ่งได้หลายประเภทขึ้นอยู่กับว่า เราใช้เกณฑ์อะไรในการแบ่ง ซึ่งถ้าเราแบ่งตามวิธีการบรรเลงก็จะแบ่งได้ 4 ประเภท ได้แก่ การดีด (อูคูเลเล่, กีต้าร์โปร่ง ฯลฯ), การสี (ไวโอลีน, วิโอลา ฯลฯ), การตี (กลอง, แทมโบรีน ฯลฯ) และ การเป่า (ขลุ่ย, แซกโซโฟน ฯลฯ) ครับ ซึ่งแน่นอนครับว่า เครื่องดนตรีแต่ละชนิดก็จะให้เสียงที่ต่างกัน แต่ก็มีเครื่องดนตรีอยู่ชิ้นนึงได้นำเสียงจากเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ มารวมไว้ในตัวเอง ซึ่งเครื่องดนตรีที่ว่านั้นก็คือ “คีย์บอร์ดไฟฟ้า (Electric Keyboard)” นั่นเองครับ
คีย์บอร์ดไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ เนื่องจากคุณสมบัติที่หลากหลายและก็ความอเนกประสงค์ของมัน อีกทั้งมันยังเป็นเครื่องดนตรีที่ฝึกฝนค่อยข้างง่าย และไม่เจ็บนิ้วเหมือนการเล่นกีต้าร์ มือใหม่หลาย ๆ คน จึงให้ความสนใจคีย์บอร์ดไฟฟ้ากันมาก สำหรับในวันนี้เราขอพาทุกคนมาพบกับ คีย์บอร์ด สำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด ในระดับราคาต่าง ๆ กันครับ เพื่อดูว่ามันมีรุ่นไหนที่น่าสนใจ ? และมีรุ่นไหนที่เหมาะสำหรับมือใหม่บ้าง ?
คีย์บอร์ดไฟฟ้า ดีกว่า เปียโนไฟฟ้า อย่างไร ?
สำหรับ คีย์บอร์ดไฟฟ้าและเปียโนไฟฟ้า มันมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรครับ แม้ว่าจะมีหน้าตา และการเล่นที่เหมือน ๆ กัน ซึ่งแน่นอนครับว่า มันมีดีกันคนละอย่าง มีสิ่งที่โดดเด่นต่างกัน ขึ้นกับว่า คุณชื่นชอบชอบคุณสมบัติของฝั่งไหนมากกว่ากัน และนี่ก็คือ ข้อดีของคีย์บอร์ดไฟฟ้าที่โดดเด่นกว่าเปียโนไฟฟ้า ครับ
1. ราคาประหยัดกว่า

อย่างแรกเลยก็คือ เรื่องของราคา ครับ สำหรับราคาของคีย์บอร์ดไฟฟ้านั้น มันจะประหยัดกว่าเปียโนไฟฟ้าอยู่พอสมควรเลย หากเราเทียบกันในรุ่นเริ่มต้นจะเห็นได้เลยว่า คีย์บอร์ดไฟฟ้าจะประหยัดไปได้หลายพันบาทเลยทีเดียว เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดครับ ซึ่งถ้าหากคุณชื่นชอบเปียโนไฟฟ้า แต่มีงบประมาณที่ไม่มากพอ คุณก็สามารถหาซื้อคีย์บอร์ดไฟฟ้ามาฝึกก่อนได้ครับ เนื่องจากมีหลาย ๆ รุ่นได้ใส่โหมดของเปียโนมาให้ด้วย อาจจะไม่ดีเท่า แต่ก็ใช้ฝึกซ้อมได้ครับ
2. ฟังก์ชันที่มากกว่า
เราต้องยอมรับก่อนว่า เปียโนไฟฟ้า จะมีเสียงที่หวานกว่า คีย์บอร์ดไฟฟ้า มาก แต่มีอยู่หนึ่งสิ่งที่ทำให้คีย์บอร์ดไฟฟ้ามีดีกว่านั่นก็คือ เรื่องของฟังก์ชันในการใช้งานครับ คีย์บอร์ดไฟฟ้าจะมีฟังก์ชั่นมากมาย และรวมถึงเอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ ก็มีเยอะมาก มันทำให้คุณสามารถใส่ที่จะเสียงต่าง ๆ ลงไปในเพลงของคุณได้ ตามแต่จินตนาการ และยิ่งไปกว่านั้น มันก็ยังมีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สะดวกกว่ามาก รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย ไม่ว่าจะมีสายหรือไร้สาย
3. ขนาดที่กะทัดรัดกว่า
และส่วนสุดท้ายที่เรามองว่ามันได้เปรียบกว่าเปียโนไฟฟ้าก็คือ เรื่องของขนาดครับ เนื่องจากมันจะสร้างเสียงได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เพียงอย่างเดียวทำให้ภายในของมันไม่มีกลไกใด ๆ เลย มันจึงสามารถทำให้มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาลงได้นั่นเอง คีย์บอร์ดไฟฟ้าจึงสามารถพกพาได้ ทำให้คีย์บอร์ดไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีที่เหมาะมากกับผู้ที่กำลังเริ่มต้นครับ
วิธีการเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไฟฟ้า เบื้องต้น

ด้วยความที่คีย์บอร์ดไฟฟ้าได้รับความนิยมมาก ๆ มันทำให้คีย์บอร์ดไฟฟ้าในปัจจุบันมีอยู่มากมาย จากหลายแบรนด์ มีทั้งแบบที่สั้น, แบบที่ยาว, แป้นแข็ง, แป้นนิ่ม, แป้นหนัก หรือแป้นเบา แต่ละแบรนด์ต่างแข่งกันใส่ฟังก์ชันดี ๆ มาให้ แม้มันจะเป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคอย่างเรา แต่สำหรับมือใหม่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลือกให้รุ่นคีย์บอร์ดที่เหมาะกับตัวคุณเองได้ ฉะนั้นนี่ก็คือ วิธีการเลือกซื้อคีย์บอร์ดไฟฟ้าในเบื้องต้นที่เราอยากจะแนะนำครับ
1. ประเภทของคีย์บอร์ดไฟฟ้า
สำหรับคีย์บอร์ดไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งประเภทแรกก็คือ คีย์บอร์ดไฟฟ้าที่มีลำโพงในตัว วิธีสังเกตก็ง่าย ๆ ครับ คีย์บอร์ดประเภทนี้จะมีความหนา และใหญ่กว่า ซึ่งข้อดีมันจะมีลำโพงมาให้ในตัวเลยทำให้เราสามารถเล่นสดได้ โดยเสียงจะขึ้นอยู่กับรุ่นที่เราใช้ครับ ส่วนอีกประเภท คีย์บอร์ดไฟฟ้าที่ไม่มีสำโพง หรือ นิยมเรียกว่า คีย์บอร์ดไบ้ จะมีขนาดที่กะทัดรัดน้ำหนักเบาและมีความบางกว่ามาก ทำให้พกพาได้สะดวกกว่านั่นเอง แต่ข้อเสียคือมันจะไม่มีลำโพงในตัวทำให้ไม่สามารถเล่นสด ๆ ได้ ต้องต่ออุปกรณ์เพิ่มเติม ดังนั้นคีย์บอร์ดไบ้มันอาจจะยุ่งยากไปสักหน่อยสำหรับมือใหม่ครับ ทำให้รุ่นที่เราเลือกมาในรีวิวนี้จึงมีแต่คีย์บอร์ดไฟฟ้าที่มีลำโพงในตัวเท่านั้นครับ
2. จำนวนคีย์
จำนวนคีย์เป็นสิ่งที่เราต้องนำมาพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ ครับ เนื่องจากมีผลกับการเล่นของเราโดยตรงและมีผลต่อขนาดและน้ำหนักด้วย โดยคีย์บอร์ดรุ่นที่นิยมมากที่สุดก็คือ รุ่นที่มีจำนวนคีย์ 61 ลิ่ม ซึ่งเหตุผลก็เพราะมันเป็นขนาดที่เราสามารถพกพาได้สะดวกที่สุด ซึ่งถ้าหากเทียบกับเปียโนมันจะเป็นการตัดส่วนหัวและท้ายออกเหลือแต่ลิ่มหรือคีย์ที่จำเป็นตรงกลางเท่านั้น ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับมือใหม่แล้วครับ ทำให้คีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 ลิ่ม จึงได้รับความนิยมสูงสุด นอกจากนั้นหากคุณคิดว่าคีย์บอร์ดไซส์ 61 ลิ่ม มันไม่เหมาะกับคุณ มันก็ยังมีคีย์บอร์ดไซส์ที่เล็กหรือใหญ่กว่านี้ด้วย แต่ก็อาจจะมีตัวเลือกน้อยรุ่นกว่าครับ
3. การตอบสนองการสัมผัส (Touch Response)
สำหรับเปียโนมันจะมีน้ำหนักคีย์ (Touching) ช่วยให้ได้เสียงหนักเบาที่ไม่เท่ากันครับ ซึ่งนี่เป็นเป็นเสน่ห์น่าหลงใหลทำให้มันสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงออกมาได้อย่างดี ดังนั้นหากคุณต้องการคีย์บอร์ดที่สามารถใช้ฝึกเปียโนได้ด้วยคุณต้องเลือกรุ่นที่มีการตอบสนองการสัมผัส (Touch Response) ครับ สิ่งนี้จะช่วยทำให้เพลงที่คุณกำลังเล่นมีความไพเราะมากยิ่งขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือ หากกดแรงเสียงก็จะดัง แต่หากกดเบา ๆ เสียงก็จะออกมาเบาครับ แต่ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักการกดที่มากขึ้นเช่นกัน
4. การเชื่อมต่อ
สำหรับคีย์บอร์ดไฟฟ้าการเชื่อมต่อค่อนข้างสำคัญครับ ไม่ว่าจะเป็นช่องสัญญาณ เพื่อเชื่อมต่อกับแอมป์ ต่อกับมิกเซอร์ ชุดหูฟัง MIDI หรือ USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่องพวกนี้บางช่องมันอาจสำคัญมาก ๆ สำหรับการใช้งานบางอย่สง ดังนั้นคุณก็ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณเอง แต่หากคุณต้องการนำไปเล่นสดเพียงอย่างเดียวข้อนี้สามารถตัดทิ้งไปได้ครับ เพราะรุ่นที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะอยู่ในรุ่นที่มีราคาสูง ๆ
และนี่ก็คือ 8 รุ่น คีย์บอร์ดไฟฟ้า ที่ดีที่สุดในระดับราคาต่าง ๆ ที่เราได้รวบรวมมารีวิวครับ ซึ่งทุกรุ่นในที่นี้เหมาะสำหรับมาก ๆ สำหรับมือใหม่ครับ! โดยในแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกันออกไป คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบกัน เพื่อหาคีย์บอร์ดไฟฟ้ารุ่นที่เหมาะกับคุณที่สุดได้ง่ายขึ้น ซึ่งมันจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจ ? และราคาเท่าไหร่บ้าง ? ตามไปดูกันครับ
MK Keyboard MK-829 คีย์บอร์ดไฟฟ้า ราคาประหยัด

ราคา 2,190 บาท*
MK MK-829 เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้า รุ่นเริ่มต้นที่มีราคาย่อมเยามาก เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองฝึกคีย์บอร์ดดู ตัวบอดี้มีการดีไซด์มาอย่างสวยงามมีความเรียบง่าย มีการระบุการกดเสียงต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน ช่วยทำให้ใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับรุ่นนี้เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 ลิ่ม ขนาดเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา เน้นความสะดวกในการพกพา มาพร้อมเสียงมากถึง 200 เสียง มีจังหวะ 128 จังหวะ มีเพลงสาธิตอีก 12 เพลง และเสียงกำกับจังหวะ 12 เสียง ในส่วนของฟังก์ชันก็มีมากมายให้เล่นครับ นอกจากนี้ยังมีฟังค์ชั่นบทเรียนมาให้ด้วยมีทั้ง One-Key, Follow และ Ensemble ซึ่งเป็นบทเรียนที่ดีมาก และเหมาะกับมือใหม่ครับ ในส่วนของการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง ช่องเสียบไมค์, USB Port และช่องเสียบหูฟัง ทำให้คุณสามารถฝึกซ้อมคนเดียวได้อย่างสบาย ไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนคนอื่น ๆ หากคุณกำลังมองหาคีย์บอร์ดสักตัวนึงมาลองเล่นดู รุ่นนี้ตอบโจทย์สุดแล้วครับ ด้วยฟังก์ชั่นพื้นฐานครบ แถมราคาก็ไม่สูงอีกด้วย
จำนวนคีย์ | 61 คีย์ |
---|---|
Touch Response | |
Polyphony | 32 โน้ต |
ลำโพง/ขนาด | 2.5 วัตต์ 2 ตัว / 8 ซม. |
ขนาด | 930 x 110 x 340 มม. |
น้ำหนัก | N/A |
CASIO CTK-240 คีย์บอร์ดไฟฟ้า 49 คีย์

ราคา 4,250 บาท*
หากคุณกำลังมองหาคีย์บอร์ดไฟฟ้าราคาประหยัด ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เน้นพกพา เราขอแนะนำคีย์บอร์ด CASIO CTK-240 ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่มาก ๆ ตัวนี้เป็นคีย์บอร์ด 49 คีย์ มาพร้อมโทนเสียงมากถึง 100 เสียง มีจังหวะและรูปแบบถึง 100 จังหวะ มีดนตรีประกอบอัตโนมัติ และก็มีเพลงสาธิตมาให้ฝึกซ้อมสูงถึง 50 เพลงเลยทีเดียว ทำให้คุณซ้อมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเบื่อ ในส่วนของฟังก์ชันและโหมดต่าง ๆ ก็มีมาให้อย่างครบครัน ทั้งโหมดคอร์ดและฟิงเกอร์ ฟังก์ชันบทเรียนที่ออกแบบมาเพื่อมือใหม่โดยเฉพาะ โดยเป็นฟังก์ชันเปิดและปิดเมโลดี้ของบทเรียน และยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นในส่วนของช่องเสียบอินพุตและเอาต์พุตก็มีช่องเสียบหูฟังมาให้ ซึ่งเป็นหัวเสียบสเตอริโอแบบมาตรฐาน เหมาะกับการฝึกซ้อมคนเดียว สำหรับ CTK-240 ถือเป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าคุณภาพสูงจากแบรนด์คุณภาพ ที่มาพร้อมกับราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ ขนาดก็เล็ก กะทัดรัด ทำให้สามารถพกพาได้สะดวก
จำนวนคีย์ | 49 คีย์ |
---|---|
Touch Response | |
Polyphony | 12 โน้ต |
ลำโพง/ขนาด | 1.6 วัตต์ 2 ตัว / 10 ซม. |
ขนาด | 914 x 237 x 75 มม. |
น้ำหนัก | 2.8 กก. |
CASIO CT-S100 คีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 คีย์

ราคา 6,265 บาท*
มาต่อกันที่ CASIO CT-S100 เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าราคาประหยัดอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ จากแบรนด์คุณภาพอย่าง CASIO ตัวนี้เป็นคีย์บอร์ด 61 คีย์ที่ได้มาตรฐาน มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบง่าย ขนาดกะทัดรัดมาก มีการออกแบบอินเทอร์เฟซที่ไม่ซับซ้อนเน้นใช้งานง่าย จัดวางอย่างเป็นระเบียบ มีปุ่มน้อยลง ช่วยให้ผู้ใช้มือใหม่ กดได้ง่าย ไม่สับสน ในด้านของเสียงต่าง ๆ รุ่นนี้ มาพร้อมโทนเสียงมากถึง 122 โทนเสียง มีดนตรีประกอบอัตโนมัติ 61 จังหวะ และก็มีเพลงสาธิตมาให้ฝึกซ้อมสูงถึง 60 เพลงเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนครับเสียงต่าง ๆ เหล่านี้มันสามารถช่วยให้คุณซ้อมอย่างสนุกโดยที่ไม่มีเบื่อ สำหรับฟังก์ชันและโหมดต่าง ๆ ก็มีมาให้อย่างครบครัน ครอบคลุมทุกการใช้งาน นอกจากนั้นในส่วนของช่องเสียบอินพุตและเอาต์พุตก็มีทั้งช่องเสียบหูฟังทำให้สามารถฝึกซ้อมคนเดียวได้สบาย ๆ โดยไม่รบกวนคนอื่น ๆ และยังมีช่อง USB ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน สำหรับ CASIO CT-S100 ถือเป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับมือใหม่
จำนวนคีย์ | 61 คีย์ |
---|---|
Touch Response | |
Polyphony | 32 โน้ต |
ลำโพง/ขนาด | 2.0 วัตต์ 2 ตัว / 13 ซม. x 6 ซม. (วงรี) |
ขนาด | 930 x 73 x 256 มม. |
น้ำหนัก | 3.3 กก. |
Yamaha PSR-F51 คีย์บอร์ดไฟฟ้า ราคาประหยัด

ราคา 6,700 บาท*
Yamaha PSR-F51 เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้ารุ่นยอดนิยม เหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ที่มีงบประมาณที่จำกัด รุ่นนี้เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นของแบรนด์คุณภาพอย่าง Yamaha ครับ ซึ่งมาในราคาที่ย่อมเยาและให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินราคา มีดีไซด์ที่เรียบง่ายเน้นใช้งาน ไม่ซับซ้อน เป็นคีย์บอร์ด 61 ลิ่ม ขนาดเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา ช่วยให้พกพาสะดวกมากยิ่งขึ้น ใช้รูปแบบเสียงเป็น AWM Stereo ซึ่งมีเสียงทั้งหมด 120 เสียง มีการตั้งค่าจังหวะ 114 จังหวะ และยังมีเพลงมาให้ซ้อม 30 เพลง ทำให้การฝึกซ้อมของคุณไม่น่าเบื่อ และยังมีเอฟเฟ็กต์ Reverb และ Chorus มาให้เลือกเล่นอีกด้วย มีฟังก์ชัน Duo Mode สามารถแบ่งเป็น 2 ฝั่ง เพื่อใช้เล่นพร้อม ๆ กันสองคนได้ ในส่วนของการเชื่อมต่อก็มีช่องเสียบหูฟังแบบมินิสเตอริโอ (Stereo MINI-Jack) มาให้ ทำให้คุณซ้อมคนเดียวได้ โดยไม่รบกวนคนอื่น ๆ สำหรับ Yamaha PSR-F51 ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ หากคุณมีงบค่อนข้างจำกัด แต่อยากได้คีย์บอร์ดไฟฟ้าที่มีคุณภาพรุ่นนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
จำนวนคีย์ | 61 คีย์ |
---|---|
Touch Response | |
Polyphony | 32 โน้ต |
ลำโพง/ขนาด | 2.5 วัตต์ 2 ตัว / 8 ซม. |
ขนาด | 940 x 109 x 306 มม. |
น้ำหนัก | 3.4 กก. |
Yamaha PSR-E273 คีย์บอร์ดไฟฟ้ายามาฮ่า

ราคา 8,300 บาท*
Yamaha PSR-E273 เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าสำหรับมือใหม่อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจครับ เป็นการพัฒนามาจากรุ่น E263 ซึ่งยังคงมาในราคาที่ย่อมเยาและมีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมเกินราคา สำหรับรุ่นนี้ตัวบอดี้มีดีไซด์ที่เรียบง่ายดูสวยงาม การจัดวางเน้นใช้งาน เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 ลิ่ม ขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา ใช้รูปแบบเสียงเป็น AWM Stereo Sampling ซึ่งจะให้เสียงที่ดีมากขึ้น โดยรุ่นนี้เสียงให้เล่นทั้งหมดมากถึง 401 เสียง ชุดกลอง SFX 17 แบบ 143 สไตล์ ผู้เล่นสามารถตั้งค่าเสียงได้ถึง 400 เสียง 130 จังหวะ และ 112 เพลง เลยทีเดียว แน่นอนครับมันจะช่วยให้การฝึกซ้อมของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น และยังมีเอฟเฟ็กต์ Reverb ถึง 9 แบบ และเอฟเฟ็กต์ Chorus อีก 5 แบบ มาให้เลือกเล่นอีกด้วย ในส่วนของฟังก์ชันก็มีมากมายให้เล่นครับ และความพิเศษอีกอย่างของรุ่นนี้ก็คือ มีฟังค์ชั่นบทเรียนมาให้ด้วย ซึ่งเหมาะมากสำหรับมือใหม่ ในส่วนของการเชื่อมต่อก็มีช่องเสียบหูฟังมาให้ ทำให้คุณสามารถฝึกซ้อมคนเดียวได้ โดยไม่รบกวนคนอื่น ๆ สำหรับ Yamaha PSR-E273 ถือว่าเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์มือใหม่ได้เป็นอย่างดี มีฟังก์ชั่นครบ ราคายังไม่สูงเกินไป และที่สำคัญคุณภาพมันเกินราคาครับ
จำนวนคีย์ | 61 คีย์ |
---|---|
Touch Response | |
Polyphony | 32 โน้ต |
ลำโพง/ขนาด | 2.5 วัตต์ 2 ตัว / 12 ซม. |
ขนาด | 940 x 104 x 317 มม. |
น้ำหนัก | 4.0 กก. |
CASIO CT-X800 คีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 คีย์ คุณภาพสูง

ราคา 10,490 บาท*
สำหรับ CASIO CT-X800 เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าคุณภาพสูง ซึ่งให้เสียงที่ดีเยี่ยม มีฟังก์ชันมากมายให้เล่น และมีเสียงต่าง ๆ ให้มาอีกเพียบ ซึ่งทั้งหมดนี้กลับมาในราคาสุดคุ้มค่า ทำใหม่มันเหมาะกับมือใหม่มาก ๆ ครับ ในด้านดีไซน์มันเป็นคีย์บอร์ดที่มีความเรียบง่าย มีปุ่มกดไม่มากช่วยลดความซับซ้อน ทำให้ใช้งายง่ายขึ้น สำหรับคีย์บอร์ดซีรี่ส์ CT-X จะมาพร้อมกับระบบเสียง AiX ที่สามารถสร้างเสียงที่มีคุณภาพ มีเสียงเบสอันทรงพลัง ไปจนถึงเสียงสูงที่คมชัด และชัดเจน มีการประมวลผลที่รวดเร็วของ LSI ช่วยมอบเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติของเสียงอะคูสติก มีสัมผัสการกดที่ดีเยี่ยม ตอบสนองต่อการสัมผัสตามแรงกดของผู้เล่น ช่วยเพิ่มอารมณ์ของเพลง
หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากเล่นเปียโนรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับการฝึกหัดครับ ในด้านของเสียงรุ่นนี้จะมาพร้อมเสียงดนตรีที่มากถึง 600 โทนเสียง มีดนตรีประกอบหรือจังหวะถึง 195 จังหวะ และยังมีเพลงสำหรับการฝึกซ้อมอีก 160 เพลง ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณสนุกไปกับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ ต่อเนื่อง และไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ในส่วนของฟังก์ชันการใช้งานก็มีให้เล่นมากมาย และจุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้ก็คือ มีฟังค์ชั่นบทเรียนมาให้ด้วย ซึ่งเป็นบทเรียนที่ดีมาก ๆ ครับ มีทั้ง บทเรียนสำหรับวลีดนตรีสั้น ๆ ที่จำง่าย มีการให้คะแนนและการเรียนการสอนด้วยเสียง และยังมีการเลือกส่วนของบทเรียนด้วยไม่ว่าจะเป็น มือขวามือซ้าย หรือทั้งสองมือ ถือเป็นการปูพื้นฐานที่ดีเหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ ในส่วนของการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันสำหรับเสียบหูฟังครับ ช่วยให้คุณสามารถจะฝึกซ้อมคนเดียวได้โดยไม่เป็นการรบกวนคนอื่น ๆ สำหรับ CASIO CT-X800 ถือว่าคุ้มค่ากับราคามาก ๆ ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่ และมืออาชีพครับ เสียงดี ฟังก์ชันครบ และราคาประหยัด
จำนวนคีย์ | 61 คีย์ |
---|---|
Touch Response | ตอบสนองการสัมผัส 3 ระดับ |
Polyphony | 48 โน้ต (24 โน้ต สำหรับบางโทนเสียง) |
ลำโพง/ขนาด | 2.5 วัตต์ 2 ตัว / 12 ซม. |
ขนาด | 948 x 109 x 350 มม. |
น้ำหนัก | 4.4 กก. |
Roland E-X20 Portable Keyboard คีย์บอร์ดไฟฟ้า

ราคา 11,400 บาท*
Roland E-X20 คีย์บอร์ดไฟฟ้ารุ่นใหม่ ดีไซน์สวยงาม มีการออกแบบอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้มันใช้งานได้ง่ายมาก ๆ มีลูกเล่นด้านเสียงมากมายให้คุณสนุกได้อย่างเต็มที่ สำหรับรุ่นนี้เป็นคีย์บอร์ด 61 คีย์ มีตอบสนองการสัมผัส 3 ระดับ ช่วยให้คุณใส่อารมณ์หนักเบาได้เต็มที่ สามารถจะทำเสียงโพลีโฟนีได้สูงถึง 128 เสียง เลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าเปียโนไฟฟ้าบางรุ่นเสียอีก เหมาะมาก ๆ ครับ สำหรับคนที่อยากเล่นเปียโนไฟฟ้าด้วย มีเอฟเฟ็กต์คอรัส 8 แบบ และเอฟเฟ็กต์รีเวิร์ปอีก 10 แบบเป็นลูกเล่นเพิ่มเติม มีระบบ Parts ถึง 16 ส่วน มีสไตล์ถึง 253 สไตล์ มีเพลงให้ผู้เล่นได้ฝึกซ้อมภายในเครื่องอีก 140 เพลง ซึ่งสามารถบันทึกเพิ่มได้อีก 10 เพลง มีระบบ Transpose, Octave และ Tempo อีกทั้งยังมี One Touch Setting ที่สามารถตั้งค่าได้ 4 สไตล์อีกด้วย ช่วยให้คุณฝึกซ้อมได้หลากหลายแบบ ไม่รู้สึกจำเจ น่าเบื่อ ในด้านการเชื่อมต่อรุ่นนี้ได้ทำการตัดส่วน MIDI ออกไป และใช้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านทาง USB แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งมันช่วยให้การใช้งานมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สามารถเล่นไฟล์ .wav และไฟล์ MP3 ได้ตามมาตรฐาน สำหรับ Roland E-X20 ถือเป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ให้มาครบ การจัดวางตำแหน่งอินเทอร์เฟซต่าง ๆ ก็ดูเรียบร้อย ทำให้ใช้งานได้ง่าย ดูเป็นมิตรกับผู้ใช้มือใหม่ ราคาก็ไม่สูงมาก
จำนวนคีย์ | 61 คีย์ |
---|---|
Touch Response | ตอบสนองการสัมผัส 3 ระดับ |
Polyphony | 128 โน้ต |
ลำโพง/ขนาด | 3.0 วัตต์ 2 ตัว / 10 ซม. |
ขนาด | 956 x 133 x 360 มม. |
น้ำหนัก | 5.0 กก. |
Yamaha PSR-E373 Portable Keyboard คีย์บอร์ดไฟฟ้า ยามาฮ่า

ราคา 13,000 บาท*
Yamaha PSR-E373 ถือเป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้ารุ่นที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับมือใหม่มากที่สุดเลย มีสัมผัสการกด และเสียงที่ใกล้เคียงกับเปียโนจริง ๆ มาก หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากเล่นเปียโนรุ่นนี้เหมาะมากกับการฝึกหัดครับ สำหรับรุ่นนี้ได้พัฒนาต่อมาจาก E363 รุ่นก่อนหน้า ตัวบอดี้มีการดีไซด์มาอย่างสวยงาม ดูเรียบง่าย การจัดวางตำแหน่งปุ่มต่าง ๆ เน้นใช้งาน เป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 ลิ่ม ขนาดมาตรฐาน กะทัดรัด และน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใช้รูปแบบเสียงเป็น AWM Stereo Sampling ซึ่งให้เสียงที่ดีมากยิ่งขึ้น แป้นกดคีย์บอร์ดรองรับทัชชิ่ง ให้สัมผัสที่เหมือนกับเปียโน มาพร้อมเสียงดนตรีที่มากถึง 622 เสียง มีดนตรีประกอบมากถึง 205 สไตล์ มีเสียงประสานอีก 26 แบบ และมีกลุ่มโน้ตในคอร์ดที่ถูกกระจายออกมาอีกกว่า 150 แบบ
นอกจากนี้ก็ยังมีเอฟเฟกต์ DSP พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Super Articulation Lite Voices 11 ซึ่งเป็นเสียงใหม่ล่าสุด ทำให้คุณสนุกไปกับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ในส่วนของฟังก์ชันก็มีมากมายให้เล่นครับ และจุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้ก็คือ มีฟังค์ชั่นบทเรียนมาให้ด้วย ซึ่งเป็นบทเรียนที่ดีมาก ๆ สำหรับมือใหม่ ในส่วนของการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครัน สัญญาณเสียงดิจิตอลแบบ 2 ทาง มี Melody Suppressor สำหรับสัญญาณเสียงอินพุตทั้งแบบอนาล็อกและดิจิตอลด้วย ส่วนช่องเสียบหูฟังก็มีมาให้ครับ ทำให้คุณสามารถฝึกซ้อมคนเดียวได้อย่างสบาย สำหรับรุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ตอบโจทย์ทั้งผู้เล่นมือใหม่และมืออาชีพ
จำนวนคีย์ | 61 คีย์ |
---|---|
Touch Response | Yes (Soft, Medium, Hard, Fixed) |
Polyphony | 48 โน้ต |
ลำโพง/ขนาด | 2.5 วัตต์ 2 ตัว / 12 ซม. |
ขนาด | 945 x 118 x 369 มม. |
น้ำหนัก | 4.6 กก. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ แนะนำ คีย์บอร์ดไฟฟ้า (Electric Keyboard) สำหรับมือใหม่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
บทส่งท้าย
คีย์บอร์ดไฟฟ้า ถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีความน่าสนใจมาก แม้ลักษณะรูปร่างหน้าตา และวิธีการเล่นคล้ายคลึงกับเปียโนไฟฟ้า แต่ความพิเศษของมันก็คือสามารถสร้างเสียงของเครื่องดนตรีอื่น ๆ ได้ด้วย ทำให้คุณสามารถเล่นได้หลายแบบไม่น่าเบื่อ ซึ่งในปัจจุบันคีย์บอร์ดก็ได้รับการพัฒนาไปมาก มีการเพิ่มฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าไป ใส่บทเรียนสำหรับผู้เริ่มต้น และปรับปรุงส่วนอื่น ๆ รวมไปถึงการเชื่อมต่อด้วย ทำให้มันสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ อาทิเช่น หูฟัง, หูฟังบลูทูธ, อุปกรณ์บันทึกเสียง, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป และอื่น ๆ (ขึ้นอยู่กับรุ่นของคีย์บอร์ด) ซึ่งทั้งหมดนี้มันสามารถช่วยให้คุณสนุกขึ้นและยังช่วยพัฒนาทักษะทางด้านดนตรีของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สุดท้ายนี้เราก็หวังว่าข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ