เว็บไซต์ของเราได้มีการเขียนแนะนำสินค้าหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เกี่ยวกับสุขภาพมาโดยเสมอ เพราะสุขภาพที่ดีย่อมทำให้การดำเนินชีวิตทั้งในเรื่องของชีวิตประจำวันและการทำงานได้อย่างสะดวก ทั้งนี้เมื่อพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ดีไซน์ออกมาเพื่อสุขภาพก็จะมีให้เลือกอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ที่พักเท้า, หมอนรองคอ, เบาะรองนั่ง, เก้าอี้สำนักงาน, เก้าอี้ Ergonomic หรือโต๊ะปรับระดับความสูง แน่นอนครับว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มีคุณสมบัติที่ช่วยซัพพอร์ตหลังและเท้าของเราไม่ให้รู้สึกปวด สามารถนั่งทำงานหรือนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คได้นานยิ่งขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายคนก็อาจมองข้ามไปในเรื่องของข้อมือ เพราะอย่าลืมนะครับว่าการที่คุณใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์ทั่วไปซึ่งไม่ได้ออกแบบมาในลักษณะของ Ergonomic หรือสรีรศาสตร์ ดังนั้นข้อมือของคุณจะงอและผิดท่าทางของธรรมชาติ ยิ่งโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานนานกว่า 6 – 8 ชั่วโมง ก็คงไม่ต้องแปลกใจเลยครับว่าทำไมแต่ละคนถึงนิ้วล็อกหรือเกิดโรคเจ็บข้อมือกันมากมาย

ดังนั้นเมื่อทราบเหตุผลของอาการปวดแล้ว คุณก็จะต้องมีการแก้ไขและปรับพฤติกรรมการมือและข้อมือที่ถูกต้องด้วยการใช้เมาส์เพื่อสุขภาพ และ ‘คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพ ตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomic Keyboard)’ ที่ออกแบบมาให้เราสามารถจัดวางมือได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดอาการปวดและยังป้องกันอาการปวดข้อมือที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย นอกจากนี้องค์ประกอบของมันยังทำให้เรารู้สึกสบายมือ รวมไปถึงผู้ใช้งานหลายคนยังเคลมกันเป็นเสียงเดียวว่าการพิมพ์นั้นเร็วขึ้นกว่าเดิม เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เป็นอย่างดี
คีย์บอร์ดตามหลักการยศาสตร์ แบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
- คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด: Logitech ERGO K860 Keyboard คีย์บอร์ดสุขภาพแบบไร้สาย ภาษาอังกฤษ - ไทย
- คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพ ออกแบบตามสรีรศาสตร์ และใช้งานสะดวกด้วยปุ่มลัดกว่า 14 ปุ่ม: คีย์บอร์ด Perixx รุ่น PERIDUO 505 ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
- คีย์บอร์ด Ergonomic ที่มาพร้อมกับปุ่มลัดกว่า 7 ปุ่ม: คีย์บอร์ด Perixx รุ่น PERIBOARD 512 - Ergonomic Keyboard ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
- คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพแบบไร้สาย: คีย์บอร์ด Microsoft Sculpt Ergonomic Desktop Mouse&Keyboard set (ไทย - อังกฤษ Keyboard)
- คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพแบบมีสาย: Sanwa คีย์บอร์ดการยศาสตร์แบบมีสาย (มีแทรคบอล)
วิธีการเลือกคีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพ (Ergonomic Keyboard)
1. เช็กที่พักข้อมือ (Palm Rest)
ตำแหน่งและระดับความสูงของที่พักฝ่ามือควรจะต้องอยู่ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าคีย์บอร์ดเล็กน้อย เพราะมันจะเป็นท่าทางที่ถูกต้องหลักสรีรศาสตร์ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการปวดข้อมือ ทั้งนี้ในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพจะต้องมี ‘ที่พักข้อมือ’ เพราะมันจะช่วยปรับตำแหน่งของข้อมือให้อยู่ในองศาที่พอเหมาะและเป็นธรรมชาตินั่นเองครับ
2. รูปทรงของคีย์บอร์ด
การดีไซน์ของคีย์บอร์ดถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน โดยสิ่งแรกที่คุณจะต้องเช็กคือบน ‘แป้นพิมพ์จะต้องแบ่งแยกออกจากกันเป็น 2 ฝั่ง’ เพราะมันจะทำให้มือของเราขนานกับไหล่ ซึ่งเป็นท่าที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาติของมุนษย์อย่างเรา ๆ

ทั้งนี้นอกจากที่มันจะต้องแยกออกจากเป็นสองฝั่งแล้ว บริเวณช่องว่างของแป้นพิมพ์จะต้องมีมุมเฉียงหรือมีรูปทรงที่เป็นสามเหลี่ยม เพื่อให้มันฟิตเข้ากับรูปนิ้วและการจัดวางมือของเราได้อย่างพอดีและถูกต้อง ส่วนฐานบริเวณด้านของคีย์บอร์ดจะต้องมีลักษณะนูนขึ้นมาคล้ายกับเต็นท์ เพื่อให้ท่อนแขนและข้อมือของเราวางได้อย่างถูกท่า ลดปัญหาอาการปวดที่อาจเกิดขึ้นได้หากมีการใช้คีย์บอร์ดในระยะเวลานาน
และอีกอย่างหนึ่งที่ต้องดูเป็นองค์ประกอบสุดท้ายคือ ฐานคีย์บอร์ดจะต้องมีความเอียงจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่ควรเลือกควรคีย์บอร์ดที่มีความสูงอยู่ในระนาบเดียวกัน โดยเด็ดขาดเพราะนั่นหมายความว่ามันไม่ใช่คีย์บอร์ดสุขภาพ หรือ Ergonomic Keyboard แบบ 100%
3. ราคาของคีย์บอร์ด
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งครับว่าคีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพนั้นมีรูปทรงและขั้นตอนการผลิตที่จะต้องพิถีพิถันกว่าการทำคีย์บอร์ดทั่วไป ดังนั้นราคาของมันจะแพงกว่าด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหากเป็นคียบอร์ด Ergonomic อย่างดี ราคาจะอยู่จะเริ่มต้นตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไปจนแตะหลักหมื่นก็มีครับ ดังนั้นถ้าหากจะเลือกซื้อคีย์บอร์ดในราคาที่ต่ำกว่านี้ คุณก็จะต้องเช็กรายละเอียดของสินค้าอย่างถี่ถ้วน แต่ผมขอแนะนำว่าควรจะหลีกเลี่ยงดีกว่าครับ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้คีย์บอร์ดคุณภาพจริง ๆ
คีย์บอร์ด Perixx รุ่น PERIBOARD 512 - Ergonomic Keyboard ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

ราคา 1,390 บาท*
ดีไซน์ออกมาในรูปทรงที่เรียกว่า ‘3D Curve’ ซึ่งจะช่วยให้เราจัดวางมือได้ถูกต้องตามสรีรศาสตร์ เพราะบริเวณกลางแป้นพิมพ์จะออกแบบให้ปุ่มกดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนั้นการพิมพ์ในแต่ละครั้งจะรู้สึกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะใช้เวลาพิมพ์นานแค่ไหน ก็จะไม่รู้สึกปวดข้อมือหรือนิ้วอย่างแน่นอน ส่วนใครที่ใช้แป้นพิมพ์ทั่วไปมานานจนเกิดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหรือข้อมือ ผมรับรองได้เลยครับว่าอาการของคุณจะบรรเทาลงเมื่อหันมาใช้คีย์บอร์ดรุ่นนี้
ส่วนฟีเจอร์อีกอย่างหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของคีย์บอร์ดคือ ‘7 Multi-Media Keys’ หรือถ้าอธิบายง่าย ๆ คือปุ่มลัด ซึ่งจะอยู่บริเวณส่วนบนของแป้นพิมพ์ ช่วยให้คุณปรับเสียง, เข้าอีเมล, ค้นหา หรือเข้าบราวเซอร์ได้ด้วยการกดเพียงแค่ปุ่มเดียว โดยฟีเจอร์นี้จะตอบโจทย์สำหรับพนักงานออฟฟิศที่จะทำให้การทำงานของเรารวดเร็วยิ่งขึ้น แถมยังไม่กระทบต่อสุขภาพในขณะการทำงานอีกด้วย
จุดเด่น
- 7 Multi-Media Keys หรือ ปุ่มลัด 7 ปุ่มที่ทำให้การทำงานสะดวกยิ่งขึ้น
- ดีไซน์ออกมาได้ถูกสรีรศาสตร์ทั้งหมด
ข้อควรพิจารณา
- คีย์บอร์ดมีขนาดที่ใหญ่ อาจต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นชิน
- คีย์บอร์ดเป็นแบบมีสาย มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะความไกลในการใช้งาน
การเชื่อมต่อ | สาย USB |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | Windows 7, 8 และ 10 |
แบตเตอรี่ | ไม่มีแบตเตอรี่ |
ขนาด | 48.5 x 23.6 x 4.4 เซนติเมตร |
คีย์บอร์ด Perixx รุ่น PERIDUO 505 ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

ราคา 1,590 บาท*
รูปทรงของ Perixx รุ่น PERIDUO 505 จะเหมือนกับรุ่น PERIBOARD 512 ตรงที่รูปทรง 3D หรือการออกแบบมาให้เป็นทรง curve เพื่อซัพพอร์ตการวางนิ้วและข้อมือได้ถูกท่าทาง นอกจากจะใช้ได้สบายแล้วยังป้องกันโรคที่เกี่ยวกับข้อมืออีกด้วย แต่สิ่งที่แตกต่างกันจะอยู่ในส่วนของ ปุ่มลัดซึ่งจะมีมาให้มากกว่า 14 ปุ่ม (รุ่น 512 มีเพียงแค่ 7 ปุ่มเท่านั้น) ในขณะที่บริเวณกลางคีย์บอร์ดจะเพิ่มล้อหมุนหรือล้อเลื่อนแบบ 4 ทิศทาง ทำหน้าที่คล้ายกับฟีเจอร์บนเมาส์ เลื่อนได้ทั้ง ขึ้น, ลง, ซ้าย และขวา
แต่ข้อดียังไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ครับ เพราะสินค้าจะแถมมาพร้อมกับเมาส์ Ergonomic ที่มีความเร็วในระดับ 1000/1600 DPI ทั้งนี้ตัวแป้นพิมพ์ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปติดตั้งโปรแกรมอะไรให้เสียเวลา เพียงแค่เสียบเข้ากับ Windows คีย์บอร์ดก็พร้อมใช้งานได้ในทันที
จุดเด่น
- สินค้ามาพร้อมกับเมาส์ Ergonomic แบบครบเซ็ต
- ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมหรือระบบใด ๆ สามารถเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คแล้วใช้งานได้ทันที
- มีปุ่มลัดมากกว่า 14 ปุ่ม ซึ่งมากกว่ารุ่น PERIBOARD 512
- บริเวณตรงกลางจะมีล้อเลื่อน ทำหน้าที่เลื่อนหน้าจอได้คล้ายกับเมาส์
ข้อควรพิจารณา
- คีย์บอร์ดเป็นแบบมีสาย มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะความไกลในการใช้งาน
การเชื่อมต่อ | สาย USB |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | Windows 7, 8 และ 10 |
แบตเตอรี่ | ไม่มีแบตเตอรี่ |
ขนาด | 26.8 x 55 x 8.6 เซนติเมตร |
Sanwa คีย์บอร์ดการยศาสตร์แบบมีสาย (มีแทรคบอล)

ราคา 3,168 บาท*
Sanwa จะแตกต่างออกไปจากคีย์บอร์ดตัวอื่นภายในลิสต์ตรงที่มันจะมีแทร็คบอลสีแดง และล้อเลื่อนบริเวณส่วนล่างของคีย์บอร์ด ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับเมาส์เกือบทั้งอย่าง สามารถควบคุมได้แบบครอบคลุมถึง 4 ทิศทาง
ส่วนการดีไซน์ก็ออกแบบได้ถูกต้องตามหลักของทางสรีรศาสตร์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปุ่มคีย์บอร์ดออกเป็นสองส่วน หรือปุ่มกดที่มีความนิ่มมาก เมื่อกดลงไปแล้วจะรู้สึกสบายมือและนิ้ว ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานดีขึ้น อีกอย่างหนึ่งคือขนาดของมันค่อนข้างจะมีความเล็กกระทัดรัด หากเปรียบเทียบกับคีย์บอร์ด Ergonomic รุ่นอื่น ๆ ซึ่งสะดวกต่อการพกพาไปออฟฟิศหรือใช้งานนอกสถานที่ได้ง่ายมากขึ้น
จุดเด่น
- มีแทรคบอลและล้อเลื่อนซึ่งทำหน้าที่ได้คล้ายกับเมาส์ บังคับได้ถึง 4 ทิศทาง
- หากเปรียบเทียบกับความนุ่มของปุ่มกดแล้ว Senwa ถือว่านิ่มที่สุด
ข้อควรพิจารณา
- ด้วยสินค้าเป็นของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นภาษาบนแป้นจะเป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น (แต่สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ภาษาไทยมาแปะทับได้)
การเชื่อมต่อ | สาย USB |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | Windows |
แบตเตอรี่ | ไม่มีแบตเตอรี่ |
ขนาด | ไม่ระบุ |
คีย์บอร์ด Microsoft Sculpt Ergonomic Desktop Mouse&Keyboard set (ไทย - อังกฤษ Keyboard)

ราคา 4,490 บาท*
Microsoft Sculpt Ergonomic ถือว่าเป็นคีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพที่มียอดขายมาเป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดเลยครับ โดยจุดเด่นของสินค้าคือแป้นพิมพ์ตัวอักษรจะแยกออกจากแป้นพิมพ์ของตัวเลข ซึ่งนอกจากจะถูกสรีรศาสตร์แล้วมันยังช่วยพิมพ์ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งมันจะมาพร้อมกับระบบ ‘Nano Transceiver’ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อเมาส์และคีย์บอร์ดกับ Windows หรือ IOS ได้ในเวลาเดียวกันด้วยระบบไร้สาย แม้ว่าจะใช้คีย์บอร์ดไกลกว่า 10 เมตร ก็สามารถเชื่อมต่อได้แบบไร้ปัญหา
ส่วนทางด้านของฟีเจอร์บนคีย์บอร์ดก็จะมีปุ่มกดให้มากถึง 104 ปุ่ม และยังมีปุ่มลัดแบบเพรียบพร้อม ทำให้ใช้คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้เมาส์ที่แถมมากับสินค้าก็มีคุณสมบัติดีไม่แพ้กัน อย่างความไวของเมาส์ระดับ 1000dpi ซึ่งมีทั้งความแม่นยำและไวต่อการใช้งาน รวมไปถึงตัวล้อที่เลื่อนได้ 4 ทิศทางอีกด้วย
จุดเด่น
- มีเมาส์ Ergonomic ความไว 100dpi แถมมาให้ในเซ็ต
- แป้นพิมพ์อักษรและแป้นพิมพ์ตัวเลขแยกออกจากกัน ทำให้พิมพ์ได้ง่ายกว่าเดิม
- คีย์บอร์ดเป็นระบบไร้สาย เชื่อมต่อได้ไกลกว่า 10 เมตร
- สามารถเชื่อมคีย์บอร์ดกับเมาส์พร้อมกันได้ด้วยระบบ Nano Transceiver
- ใช้ได้กับทั้ง Windows และ IOS
ข้อควรพิจารณา
- หากใช้กับ IOS อาจสับสนและซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย เพราะคีย์บอร์ดจะเน้นตอบโจทย์กับ Windows มากกว่า
การเชื่อมต่อ | ไร้สาย 2.4 GHz |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | Windows 7 - 10, Windows XP และ Mac OS |
แบตเตอรี่ | แบตเตอรี่ในตัว (Lithium CR2430) |
ขนาด | 22.8 x 39.2 เซนติเมตร |
Logitech ERGO K860 Keyboard คีย์บอร์ดสุขภาพแบบไร้สาย ภาษาอังกฤษ - ไทย

ราคา 6,850 บาท*
หากมองในเรื่องของราคาของ Logitech ERGO K860 แน่นอนครับว่ามันอาจจะแพงที่สุดในลิสต์ แต่ถ้ามองถึงรูปทรงและฟีเจอร์ของคีย์บอร์ดก็คงต้องบอกว่ามันคุ้มค่าแก่การลงทุนจริง ๆ โดยตัวคีย์บอร์ดนั้นได้มีการวิจัยและผ่านการทดสอบมาจากนักการยศาสตร์มาเรียบร้อยแล้วว่าข้อมือของผู้ใช้งานจะได้รับการจัดท่าทางที่ถูกต้อง ทำให้ช่วยบรรเทาอาการปวด ลดการงอข้อมือ 25% และรองรับข้อมือได้ดีกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปถึง 54% ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพิมพ์ได้เร็วกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้น่าจะถูกพนักงานออฟฟิศหลายคนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรืองานที่ต้องมีการพิมพ์
ที่สำคัญคือคีย์บอร์ดออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั้ง macOS และ Windows ไม่ว่าคุณจะใช้คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ครุ่นไหน ระบบของคีย์บอร์ดก็จะฟิตและลิงก์เข้าได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผมชอบสุด ๆ เลยคือ การเชื่อมต่อแบบไร้สายไกลกว่า 10 เมตร และตัวคีย์บอร์ดนั้นกินไฟน้อยมาก เพียงแค่ใส่ถ่าน AAA เข้าไป ก็ใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 2 ปี!
จุดเด่น
- แบตเตอรี่อยู่นานกว่าถึง 2 ปี
- ใช้งานได้ทั้ง IOS และ Windows
- ผ่านการทดสอบมาแล้วว่า รองรับข้อมือได้ 54% และ ลดการงอข้อมือถึง 25% ดังนั้นการซัพพอร์ตถือว่าโดดเด่นมากกว่าคีย์บอร์ดในประเภทเดียวกัน
ข้อควรพิจารณา
- ราคาแพงกว่าคีย์บอร์ดในประเภทเดียวกัน
การเชื่อมต่อ | สาย USB |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | Windows และ Mac OS |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AAA |
ขนาด | 45.6 x 23.3 x 4.8 เซนติเมตร |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพ (Ergonomic Keyboard) ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
คีย์บอร์ด Perixx รุ่น PERIBOARD 512 - Ergonomic Keyboard ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ |
| |||
| ||||
| ||||
คีย์บอร์ด Microsoft Sculpt Ergonomic Desktop Mouse&Keyboard set (ไทย - อังกฤษ Keyboard) |
| |||
Logitech ERGO K860 Keyboard คีย์บอร์ดสุขภาพแบบไร้สาย ภาษาอังกฤษ - ไทย |
|
ประโยชน์ที่ได้จากการใช้คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพ (Ergonomic Keyboard)
1. ป้องกันอาการบาดเจ็บจากการใช้คีย์บอร์ดระยะเวลานาน
การวางข้อมือหรือการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดในระยะเวลานานแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ จนอาจลามไปถึงเส้นประสาทได้เลยทีเดียว ทั้งนี้หากไม่ได้เข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างจริงจัง อาการปวดเหล่านี้จะกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังที่ยากต่อการรักษา ดังนั้นเพื่อไม่ให้อาการปวดเหล่านี้เกิดขึ้น การใช้คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพจะช่วยปรับท่าทางการพิมพ์และข้อมือของเราให้ถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่าอาการบาดเจ็บก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
2. ลดอาการปวดจากโรคชามือจากโพรงฝ่ามือกดทับเส้นประสาท
สำหรับใครที่มีอาการปวดข้อมือหรือเป็นโรคชามือจากโพรงฝ่ามือกดทับเส้นประสาท การใช้คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพในการทำงานตะช่วยบรรเทาอาการตรงนี้ให้ดีขึ้นได้ ช่วยให้คุณทำงานและใช้คอมพิวเตอร์ได้นานยิ่งขึ้น
3. พิมพ์ได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากที่คีย์บอร์ด Ergonomic จะจัดวางข้อมือของเราได้อย่างถูกต้องแล้ว รูปทรงของมันยังช่วยเสริมให้การพิมพ์ของเรารวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นนักเรียน, นักศึกษา หรือพนักงานออฟฟิศคนไหนที่ต้องมีการพิมพ์งานค่อนข้างเยอะ คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพจะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพและเสร็จได้เร็วกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปครับ
ใช้เวลามากน้อยแค่ไหนถึงจะชินกับการใช้คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพ
แน่นอนครับว่าการใช้คีย์บอร์ดทั่วไปเป็นระยะเวลานานหลายปีหรือหลายสิบปี มันก็จะทำให้เกิดความเคยชินเกิดขึ้น เพราะสมองของเรามีความจดจำการเคลื่อนตัวหรือการวางมือเอาไว้ ดังนั้นหากเปลี่ยนมาใช้คีย์บอร์ดเพื่อสุขภาพจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างความคุ้นชินประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ โดยในช่วงแรกอาจมีการพิมพ์ผิดเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ แต่ไม่นานนักก็จะดีขึ้นและมีประสิทธิภาพในการพิมพ์เท่าเดิมครับ
สามารถปรับให้คีย์บอร์ดทั่วไปเป็นคีย์บอร์ดสุขภาพได้หรือไม่ ?
มีอุปกรณ์หนึ่งที่ชื่อว่า ‘ที่รองข้อมือ’ หรือ ‘ที่พักข้อ’ ซึ่งสามารถนำเอามาวางไว้ด้านหน้าของคีย์บอร์ด เพื่อที่จะซัพพอร์ตข้อมือของเราและปรับตำแหน่งในการวางข้อมือได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ผิวของมันจะเป็นเจลหรือเมมโมรีโฟม เพื่อให้ความนุ่มและความเบาสบายอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดีองค์ประกอบและรูปทรงต่าง ๆ ของคีย์บอร์ดทั่วไป ก็ยังไม่สามารถที่จะช่วยซัพพอร์ตได้เต็มที่หรือดีเท่ากับคีย์บอร์ดสุขภาพหรือ Ergonomic Keyboard ครับ