อุปกรณ์อย่างหนึ่งที่เรียกว่าใช้กันมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันสำหรับการเซ็นต์หรือเขียนหนังสือ คงจะหนีไม่พ้น ‘ปากกา’ เพราะตั้งแต่ช่วงวัยประถมเราก็ต้องใช้ปากกาในการจดบันทึกสิ่งที่คุณครูสอนลงหนังสือหรือสมุดโน้ต เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เราก็ยังคงต้องใช้ปากกาในการทำงานหรือเซ็นต์เอกสารสำคัญต่าง ๆ โดยในที่ผ่านมาหลายคนอาจมองว่าปากกาในแต่ละชนิดหรือแต่ละแบรนด์ก็คงมีสเปคและคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ไม่ว่าใช้ปากการาคาเท่าไหร่ก็คงได้คุณภาพหมึกกันเคียงกัน แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ
เนื่องจากปากกาแบรนด์เนม หรือปากการาคาแพงจะดีกว่าปากกาทั่วไป ทั้งในเรื่องของการใช้วัสดุซึ่งจะมีความทนทานมากกว่าค่อนข้างเยอะ ไม่เพียงเท่านั้นหมึกของปากการาคาแพงก็จะมีความคมชัดและเส้นที่มีความหนาบางกำลังพอดี ใช้ได้กับทั้งการเขียนและการเซ็นต์เอกสารทุกรูปแบบ รวมไปถึงการดีไซน์ที่เรียบหรู ซึ่งไม่ได้มีข้อดีแค่เรื่องของแฟชั่นแต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นคนที่มีตำแหน่งใหญ่ ๆ อย่างเช่น ผู้บริหาร หรือคนที่ต้องเซ็นต์เอกสารอยู่บ่อยครั้งจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ ‘ปากกาผู้บริหาร’ เพื่อเพิ่มความเป็นทางการ ความน่าเชื่อถือ และเอกลักษณ์ให้กับตัวเอง
ปากกาผู้บริหาร ยี่ห้อไหนดี?
- ปากกาผู้บริหาร cross ดีไซน์เรียวเล็ก จับได้ถนัดมือและเขียนง่ายมาก: Cross Classic Century ปากกา สลักชื่อ
- ปากกาผู้บริหาร montblanc ดีไซน์เรียบหรู หัวปากกาผลิตจากทอง 14K: ปากกา Montblanc Classique PT 145 คลาสสิกหรูหรา
- ปากกาผู้บริหาร parker ผลิตจากสแตนเลส สวยและเรียบหรู พร้อมกับกลไกลแบบรีฟีลหมึกได้ : Parker Jotter Stainless Steel พร้อมเลเซอร์สลักชื่อ
- ปากกาผู้บริหาร lamy ออกแบบสวยเหมาะกับผู้บริหาร น้ำหนักเบาเซ็นต์เอกสารง่าย: LAMY Safari Rollerball Pen ปากกาลามี่ ซาฟารี โรลเลอร์บอล
- ปากกาผู้บริหาร pental น้ำหมึกคมชัด พร้อมกับประกันหมึกกว่า 1 ปี: Pentel ปากกาหมึกเจล รุ่น Energel Sterling Twist
วิธีการเลือกปากกาผู้บริหาร
1. วัสดุที่ใช้ผลิต
ปากกาผู้บริหารควรมีความทนทานสูง อย่างน้อยจะต้องใช้งานได้อย่างน้อย 2 – 3 ปี เนื่องจากราคาถือว่าแพงในระดับหนึ่ง ถ้าหากอายุการใช้งานของมันน้อยจนเกินไปมันก็อาจไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ทั้งนี้การเลือกปากกาที่แข็งแรงก็ต้องเช็กว่าปากกาผลิตมาจากวัสดุอะไร โดยวัสดุที่แนะนำคือ โลหะผสม อย่างเช่น เหล็ก, โครเมี่ยม และทองเหลือง หรือจะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ก็ได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากทั้งโลหะผสมและคาร์บอนไฟเบอร์ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานอยู่แล้ว
2. เลือกประเภทของปากกาให้เหมาะกับตัวเอง
หลายคนที่ใช้ปากกาอาจไม่ค่อยสังเกตกันสักเท่าไหร่ว่าปากกาในแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของหมึกและความลื่น ดังนั้นก่อนเลือกซื้อเราจำเป็นต้องทราบถึงข้อดีข้อเสียของปากกาแต่ละชนิดก่อน หลังจากนั้นเมื่อทราบแล้วว่าปากกาแต่ละประเภทเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง
3. ปากกาเป็นแบบรีฟิลหรือไม่?
เมื่อใช้ไปในระยะเวลาหนึ่งหมึกของปากกาก็จะหมดไป ถ้าหากใครอยากใช้ปากกาแท่งเดิมต่อไปเรื่อย ๆ ไม่อยากซื้อใหม่ ก็แนะนำให้เลือกปากกาแบบรีฟิลหรือสามารถเติมหมึกเข้าไปได้ แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าการเติมหมึกอาจมีความซับซ้อนและการหาหมึกมาเติมก็อาจลำบากเล็กน้อย ส่วนในกรณีที่ไม่อยากวุ่นวายหาหมึกเติมเองเมื่อหมึกหมดแล้วก็ซื้อปากกาแท่งใหม่ก็ให้ผ่านข้อนี้ไปได้เลยครับ
4. ความกว้างของปลายปากกา
ความกว้างของปลายปากกามีผลต่อเส้นและความเข้มของหมึก โดยยิ่งปลายกว้างเท่าไหร่เส้นของมันก็จะหนายิ่งขึ้นเท่านั้น ในขณะเดียวกันหากปลายแคบหรือมีความแหลมหมึกที่ปล่อยออกมาก็จะเป็นเส้นเล็ก ซึ่งตรงนี้จะมีข้อเสียในเรื่องของการเขียนเพราะความแหลมอาจพุ่งทะเลกระดาษได้ ดังนั้นให้ระวังตรงนี้ด้วยครับ
5. ราคา
ส่วนใหญ่แล้วราคาของปากกาผู้บริหารจะอยู่ในเรทหลักร้อยปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหลายพัน ซึ่งในแต่ละแบรนด์จะมีราคาที่แตกต่างกันในระดับหนึ่ง หากเป็นแบรนด์ไม่ดังมากก็ราคาจะถูกลงมาหน่อย ส่วนแบรนด์ดังหรือปากกาแบรนด์เนมราคาก็อาจสูงกว่าปกติ เนื่องจากการดีไซน์ที่สวยงาม แต่อย่างไรก็ดีผมแนะนำให้เลือกปากการาคาที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของตัวเองครับ
Parker Jotter Stainless Steel พร้อมเลเซอร์สลักชื่อ
ราคา 668 บาท*
ปากกาของ Parker รุ่นนี้ออกแบบมาได้พรีเมียมมาก เนื่องจากตัวด้ามผลิตมาจากสแตนเลสอย่างดี ทำให้ปากกาดูเรียบหรูและในขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักเบามาก เมื่อจับเขียนแล้วจะไม่หนักมือช่วยให้เขียนได้ลื่นสะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้กลไกของปากกาเป็นแบบรีฟีล คือเมื่อหมึกหมดเราก็สามารถไปหาซื้อหมึกมาเติมหรือเปลี่ยนไส้ได้แบบไม่ยุ่งยาก ส่วนขนาดเส้นของปากกาจะอยู่ที่ประมาณ 0.7 mm ใช้สำหรับเขียนและเซ็นต์เอกสารได้ทั้งหมด นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการสลักชื่อลงไปแบบฟรี ๆ ทำให้ปากกาดูมีความเป็นทางการเหมาะสมกับผู้บริหาร รวมไปถึงยังแถมมาพร้อมกับกล่องใส่ปากกาให้อีกเช่นกัน เรียกว่าพรีเมียมตั้งแต่ปากกายันกล่อง
| ประเภท | ปากกาลูกลื่น |
|---|---|
| ขนาดปากกา | 1.2 x 1.27 x 1 เซนติเมตร |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.7 มม. |
| สี | เงิน |
| น้ำหนัก | 0.004 |
| สีน้ำหมึก | น้ำเงิน |
| วัสดุ | สแตนเลส |
Pentel ปากกาหมึกเจล รุ่น Energel Sterling Twist
ราคา 425 บาท*
Pental รุ่น Energel Sterling Twist ขึ้นชื่อในเรื่องของหมึก เพราะเมื่อเขียนลงไปแล้วมันจะใช้เวลาในการแห้งไม่นาน ช่วยป้องกันไม่ให้กระดาษและมือของเราเลอะจากการเขียน ในขณะเดียวกันน้ำหมึกเองก็มีประสิทธิภาพ โดยทางแบรนด์มีการรับประกันตัวหมึกให้ถึง 1 ปี หากมีปัญหาเขียนไม่ติดสามารถนำไปเคลมได้ ทั้งนี้กลไกของปากกาจะเป็นแบบหมุนเปิดปิดช่วยให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาถอดฝาเข้าออก ส่วนการดีไซน์ก็มีความ Hi-Class ตามแบบฉบับของแบรนด์ดังอย่าง Pental อยู่แล้ว
| ประเภท | ปากกาหมึกเจล |
|---|---|
| ขนาดปากกา | 16 x 7 x 3 เซนติเมตร |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.7 มม. |
| สี | น้ำเงิน |
| น้ำหนัก | 0.15 กิโลกรัม |
| สีน้ำหมึก | น้ำเงิน |
| วัสดุ | โลหะ |
Cross Classic Century ปากกา สลักชื่อ
ราคา 1,550 บาท*
Cross Classic Century ดีไซน์ปากกาออกมาให้มีความพรีเมียมและไม่ลืมที่จะทำให้เขียนใช้งานง่าย โดยด้ามจะมีความเรียวเล็กเป็นพิเศษ ช่วยให้จับได้ถนัดมือมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นวัสดุที่ใช้จะเป็นสแตนเลสซึ่งผ่านการชุบโครเมียม เพิ่มความทนทานแข็งแรงและเงางามของปากกา มีความเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ไม่เพียงเท่านั้นน้ำหมึกแบรนด์ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดพิเศษ ช่วยให้หมึกคมชัดในทุกมิติ อีกทั้งกลไกเองก็ดีมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน คุ้มค่าแก่การซื้อมาใช้งานแน่นอน
| ประเภท | ปากกาลูกลื่น |
|---|---|
| ขนาดปากกา | 6.4 x 17 x 4.3 เซนติเมตร |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.7 มม. |
| สี | เงิน |
| น้ำหนัก | 0.13 กิโลกรัม |
| สีน้ำหมึก | น้ำเงิน |
| วัสดุ | สแตนเลส |
LAMY Safari Rollerball Pen ปากกาลามี่ ซาฟารี โรลเลอร์บอล
ราคา 668 บาท*
LAMY Safari Rollerball Pen เป็นปากกาโรลเลอร์บอล ซึ่งมีจุดเด่นในความเข้มข้นของหมึกอยู่แล้ว เหมาะมากสำหรับผู้บริหารที่เตรียมปากกาไว้สำหรับการเซ็นเอกสาร ทั้งนี้ด้ามปากกาผลิตมาจากพลาสติกเกรดดีอย่าง ABS ซึ่งทำให้เขียนได้อย่างคล่องตัวและที่สำคัญคือทนทานแข็งแรงมาก แม้ว่าจะผ่านการกระแทกก็ไม่เป็นปัญหา นอกจากนี้ยังมีกล่องสวย ๆ และประกันปากกาแถมมาให้อีกด้วย
| ประเภท | ปากกาโรลเลอร์บอล |
|---|---|
| ขนาดปากกา | ไม่ระบุ |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.7 มม. |
| สี | ดำ |
| น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
| สีน้ำหมึก | น้ำเงิน |
| วัสดุ | พลาสติก ABS |
ปากกา Montblanc Classique PT 145 คลาสสิกหรูหรา
ราคา 2,990 บาท*
หากพูดถึงความหรูหรารับประกันได้เลยว่า Montblanc จัดเป็นหนึ่งในแบรนด์ต้น ๆ ของวงการปากกาเลยทีเดียว โดยถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างแพงแต่เมื่อลงรายละเอียดแล้วต้องบอกว่าพรีเมียมทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น หัวปากกาซึ่งเป็นทอง 14K พร้อมกับการชุบโรเดียม ทำให้หัวปากกาแข็งแรงและเรียบหรูเหมาะสมกับผู้บริหารมาก ๆ นอกจากนี้ปากกาซึ่งเป็นแบบหมึกซึมก็รับประกันได้เลยว่าความเข้มของสีดีแน่นอน เหมาะสำหรับการพกติดตัวเพื่อนำไปเซ็นเอกสารต่าง ๆ
| ประเภท | ปากกาหมึกซึม |
|---|---|
| ขนาดปากกา | 12 x 15 x 12 เซนติเมตร |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.7 มม. |
| สี | ดำ |
| น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
| สีน้ำหมึก | น้ำเงิน |
| วัสดุ | เรซิน |
ปากกาหมึกซึม Kaweco Collection Dark Olive
ราคา 1,100 บาท*
ปากกาหมึกซึมจากแบรนด์ Kaweco แบรนด์ปากกาแบรนด์เนมคุณภาพที่มีอายุเก่าแก่จากประเทศเยอรมนีก็ได้ออกคอลเลกชันใหม่ส่งท้ายปี 2021 กันด้วย ซึ่งในคอลเลกชันนี้ก็จะมาในรูปทรง 8 เหลี่ยม ด้ามเพรียวและยาวเพื่อให้ใช้งานได้กระชับมือมากขึ้น ออกแบบมาในโทนสีหายากและดูไม่ธรรมดาอย่างสี Dark Olive หรือสีเขียวโอลีฟเข้มตรงบริเวณด้ามจับและตัดด้วยปลายปากกาเหล็กอะไหล่สีทองสวยงาม ถือเป็นการจับสีทั้งสองสีมารวมตัวกันได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึงความคลาสสิคและความหรูหราสมกับเป็นแบรนด์ Kaweco จริง ๆ เลยค่ะ
สำหรับคอลเลกชันนี้ที่ได้ออกแบบให้เป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมนั้นก็เพื่อต้องการให้มันดูคลาสสิกวินเทจโดยออกแบบตามรูปทรงของปากกาแบบดั้งเดิมในปี 1935 ขนาดของปากกาเล็กใส่ในกระเป๋าเสื้อได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ใหญ่พอดีมือ ตัวด้ามทำจากพลาสติก ABS ที่ทนทานแข็งแรงแต่น้ำหนักเบาเป็นพิเศษทำให้ใช้งานได้คล่องตัว ไม่เมื่อมือ ตัวกล่องปากกาเองก็มาในสี Dark Olive เช่นกัน สวยงามหรูหราควรค่าแก่การให้เป็นของขวัญและเก็บเป็นของสะสม
| ประเภท | ปากกาหมึกซึม |
|---|---|
| ขนาดปากกา | 10.5 ซม. |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.38 / 0.5 / 0.7 มม. |
| สี | Dark Olive |
| น้ำหนัก | 9 กรัม |
| สีน้ำหมึก | น้ำเงิน Royal Blue |
| วัสดุ | พลาสติก ABS และเหล็ก |
LAMY ปากกาหมึกซึม รุ่น Safari Limited Edition 2022
ราคา 800 บาท*
LAMY ถือปากกาสัญชาติเยอรมันที่โด่งดังเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คนค่ะ โดยรุ่นที่คุณกำลังเห็นอยู่นี่คือรุ่น Safari Limited Edition ประจำปี 2022 จริง ๆ แล้วในคอลเลกชันนี้ก็จะมีด้วยกัน 2 สีค่ะแต่สีที่เราเลือกมานี้ก็จะเป็นสีครีมวานิลลาที่มาพร้อมกับความสวย สง่างาม และดูเข้ากับทุกเพศทุกวันได้อย่างลงตัว
ด้ามปากกาจะผลิตมาจากพลาสติก ABS ซึ่งก็เป็นพลาสติกที่แข็งแรงทนทานและเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเปลี่ยนจากการเคลือบแววมาเป็นแบบด้านทั้งหมด ด้ามจับตัวนี้ก็ยังออกแบบให้เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ จับง่ายใช้งานสะดวกและเพื่อให้สามารถเขียนได้เป็นเวลานานโดยไม่เมื่อยล้า ส่วนคลิปหนีบโลหะหนีบติดเข้ากับกระเป๋าหรือแฟ้มได้แน่นไม่มีหลุดด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบและทันสมัย หมึกของรุ่นนี้ก็จะเป็นหมึกซึม เขียนได้ลื่นให้ลายเส้นที่สวยคมชัด กันน้ำ และแห้งเลยทันทีโดยที่ไม่ต้องเสียเวลารอนาน
| ประเภท | ปากกาหมึกซึม |
|---|---|
| ขนาดปากกา | 14 ซม. |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.7 มม. |
| สี | Cream |
| น้ำหนัก | ประมาณ 16 กรัม |
| สีน้ำหมึก | น้ำเงิน |
| วัสดุ | พลาสติก ABS |
ปากกาดิจิตอล LAMY AL-star
ราคา 1,760 บาท*
| ประเภท | ปากกาดิจิตอล |
|---|---|
| ขนาดปากกา | ไม่ระบุ |
| ขนาดไส้ปากกา | 0.7 มม. |
| สี | ดำ |
| น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
| สีน้ำหมึก | - |
| วัสดุ | อะลูมิเนียม |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ทำไมถึงต้องใช้ปากกาผู้บริหารในงานที่เป็นทางการ
1. สร้างความน่าเชื่อถือ
หากคุณทำงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรือจำเป็นต้องเจอกับลูกค้าบ่อย แน่นอนว่าปากกาเป็นสิ่งที่พกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อใช้สำหรับการเซ็นเอกสารต่าง ๆ ซึ่งการใช้ปากกาผู้บริหารซึ่งออกแบบมาอย่างสวยงามหรือดูมีความเป็นทางการ มันก็สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้
2. ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี
จริง ๆ แล้วการเลือกใช้ปากกายี่ห้อดี ถือเป็นจุดหนึ่งที่สามารถช่วยส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของบุคคล, องค์กรหรือบริษัทดูดีขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่าดูแพงและมีความใส่ใจในทุกรายละเอียดนั่นเอง
ประเภทของปากกา
1. ปากกาแบบมีฝาปิด
- ปากกาหมึกซึม น้ำหมึกและเส้นของปากกามีความหนา แทบไม่จำเป็นต้องกดปากกาลงบนกระดาษแรงในระหว่างการเขียน ทั้งนี้หมึกของปากกาก็ค่อนข้างสวยและมีสีให้เลือกเยอะ เป็นปากกาที่ผู้บริหารใช้กันค่อนข้างเยอะ แต่ข้อเสียของมันคืออาจเกิดการเลอะหรือเกิดความไหลเยิ้มของหมึก รวมไปถึงการดูแลทำความสะอาดที่ยากเล็กน้อย
- ปากกาโรลเลอร์บอล ปากกาชนิดนี้เป็นปากกาใช้แล้วทิ้ง โดยตัวหมึกของมันเป็นผงหมึกละลายน้ำ เป็นการผสมผสานระหว่างปากกาหมึกซึมและปากกาลูกลื่น ถือเป็นปากกาชนิดหนึ่งที่เขียนได้คล่องตัว ส่วนข้อเสียคือหากลืมปิดฝาหมึกของมันจะแห้งเร็วมาก
2. ปากกาแบบไม่มีฝาปิด
- ปากกาเจล ตัวหมึกจะมีความเป็นน้ำ ทำให้สีของหมึกมีความเข้มและคมชัดมาก ในขณะเดียวกันยังเขียนได้ลื่นมือ
- ปากกาลูกลื่น ปากกาลูกลื่นออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ดังนั้นปากกาลูกลื่นจึงมีวางขายทุกที่และหลายคนก็นิยมใช้กันในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ดีเส้นของมันจะมีความบางไม่หนาเท่ากับปากกาประเภทอื่น ทำให้ต้องออกแรงกดในระดับหนึ่ง
วิธีการดูแลปากกาผู้บริหารให้ใช้ได้นาน
1. เก็บไว้ให้เรียบร้อย
กฎแรกของการดูแลปากกาให้ใช้ได้นาน ๆ คือคุณจะต้องเก็บเอาไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย เช่น ในลิ้นชักหรือกล่องดินสอ ไม่ควรวางบนโต๊ะหรือพื้นที่สูงเพราะมันอาจตกลงมาแตกจนพังได้ครับ ยิ่งถ้าหัวปากกาแตกคุณอาจต้องควักเงินไปซื้อปากกาใหม่เลยทีเดียว
2. กดปากกาอย่างเบามือ
มีหลายคนที่ในระหว่างเขียนเผลอกดปลายปากกาแรง ซึ่งการทำแบบนี้บ่อยส่งผลหัวปากกาได้รับความเสียหายในระยะยาว จนถึงในวันหนึ่งหมึกจะเลอะเปรอะเปื้อน เนื่องจากหัวปากกาแตกนั่นเอง ดังนั้นการใช้ปากกาจะต้องถนอมมือ เพราะกดเพียงแค่เบา ๆ หมึกก็ออกมาแล้ว
3. พยายามใช้ปากกาบ่อย ๆ
การปล่อยปากกาตั้งทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้ อาจทำให้หมึกด้านในแห้งกรังจนไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ควรนำออกมาใช้เขียนบ้างอย่างน้อยสัก 2 – 3 ครั้งต่ออาทิตย์ก็ยังดีครับ เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกด้านในแห้งจนเขียนไม่ออก
