อาหารเสริมบำรุงร่างกายมีมากมายไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี, วิตามินซี, วิตามินรวม, แคลเซียม, กลูต้าไธโอน, คอลลาเจน, ซิงค์ ฯลฯ อาหารเสริมที่เราพูดถึงเป็นอาหารเสริมที่เหมาะกับคนทั่วไปค่ะ หากเป็นผู้สูงอายุหน่อยก็จะมีอาหารเสริมที่ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุโดยเฉพาะหรือแม้แต่คนที่มีปัญหาเรื่องสิวก็มีอาหารเสริมสำหรับรักษาสิวด้วยเช่นกัน แต่ในบรรดาอาหารเสริมหลากหลายชนิดที่เรากล่าวมานั้นมีอาหารเสริมอีกอย่างหนึ่งที่เราขาดไม่ได้นั่นก็คือ “น้ำมันปลา” นั่นเอง น้ำมันปลาเป็นหนึ่งในแหล่งที่ดีที่สุดของกรดไขมันโอเมก้า 3 โดยในน้ำมันปลามี EPA และ DHA ซึ่งมีบทบาทในการปกป้องหลอดเลือดของเราจากการอุดตันของไขมันและแร่ธาตุที่แข็งตัว การวิจัยแสดงให้เห็นว่าโอเมก้า 3 สามารถบำรุงหัวใจและช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ดี รวมถึงการแทรกแซงการรวมตัวของเกล็ดเลือดที่ก่อตัวเป็นลิ่ม ยับยั้งการปล่อยสารอักเสบที่ส่งเสริมการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ในหลอดเลือดแดงและช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด อีกทั้งกรดโอเมก้า 3 ยังเป็นหนึ่งใน 2 ของ “กรดไขมันจำเป็น” ที่ต้องได้รับจากอาหาร เนื่องจากมนุษย์เราไม่สามารถผลิตได้เอง

สำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานปลา การหาทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เป็นเรื่องที่ยาก ส่วนใหญ่แล้วปลาที่ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ก็จะมี ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาร์ดีน ปลากระตักหรือปลาเทราท์เลค หากคนที่ไม่ทานปลาเลยอาหารเสริมน้ำมันปลาอาจเป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณา ในขณะที่นักวิจัยยังคงถกเถียงกันว่าน้ำมันปลานั้นให้ประโยชน์เช่นเดียวกับการกินปลาเป็นประจำหรือไม่แต่แน่นอนว่ามันจะมีประโยชน์ต่อร่างกายคุณอย่างแน่นอน ตอนนี้เราไปดูเกร็ดความรู้เกี่ยวกับน้ำมันปลากันก่อนค่ะ
น้ำมันปลายี่ห้อไหน ตอบโจทย์และเหมาะกับคุณที่สุด?
- อาหารเสริมน้ำปลาที่หลายคนไว้วางใจ ไม่มีกลิ่นคาว: Blackmores ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา
- อาหารเสริมน้ำมันปลา 1,400 มก. อัดแน่นไปด้วยโอเมก้า EPA และ DHA : Vitamate Fish Oil น้ำมันปลา
- น้ำมันปลาปริมาณ 100 เม็ด ให้ความคุ้มค่า เป็นแบรนด์ที่หลายๆ คนวางใจ: น้ำมันปลา Vistra Salmon Fish Oil
- น้ำมันปลาแซลมอนสกัดคุณภาพดี ราคาไม่แพง: น้ำมันปลา Bewel Salmon Fish Oil
- น้ำมันปลาแอมเวย์ ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบอาหารเสริมจากแอมเวย์: น้ำมันปลา นิวทริไลท์ Amway Nutrilite Fish Oil
EPA และ DHA ที่มีอยู่ในน้ำมันปลาคืออะไร ?
EPA คือกรด Eicosapentaenoic ส่วน DHA คือกรด Docosahexaenoic เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ประกอบอยู่ในโอเมก้า 3 ที่มีสายโซ่ยาว (O-3s) มักพบมากใน ปลา หอยและสาหร่ายหรือพืชดัดแปลงพันธุกรรมบางชนิด ร่างกายของมนุษย์ต้องการโอเมก้า 3 ในการพัฒนาร่างกายและช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างเหมาะสมในทุกช่วงของชีวิต ปกติแล้วปริมาณขั้นต่ำที่คุณควรบริโภคน้ำมันปลาคือ 1,000 มก. และสูงสุด 5,000 มก. ต่อวันค่ะ จำนวนนี้รวมถึง EPA และ DHA ที่คุณอาจบริโภคผ่านอาหารประจำวันแล้วด้วยค่ะ โดยทั่วไปแล้วคนที่ไม่ได้กินปลาทุกวันจะได้รับสาร EPA และ DHA จากการรับประทานอาหารวันละ 300 มก.
ในทางกลับกันสำหรับคนที่กินปลาทุกวันให้ประเมินปริมาณ DHA และ EPA ที่คุณได้รับจากอาหารก่อน หากคุณยังได้รับสารอาหารไม่ถึงปริมาณที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ให้ทาเพิ่มผ่านผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาต่างๆ ที่มีจำหน่าย ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาจำนวนมากที่วางจำหน่ายในปริมาณสารอาหารน้อยกว่า 500 มก. ต่อวัน แต่หากคุณไม่ได้กินปลาทุกวันให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณที่แนะนำมากกว่า 500 มก. ต่อวัน เพื่อให้คุณได้รับคุณประโยชน์สูงสุดจากน้ำมันปลา
ความแตกต่างระหว่าง น้ำมันปลา VS น้ำมันปลา
หลายคนอาจจะสงสัยว่าน้ำมันปลากับน้ำมันตับปลานั้นแตกต่างกันหรือไม่? วันนี้เรามีคำตอบมาบอกกันค่ะ น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาเป็นน้ำมัน 2 ชนิดที่แตกต่างกันถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมาจากปลาและมีกรดไขมันคล้ายคลึงกันแต่ก็ยังมีข้อแตกต่างค่ะ เราไปดูกันค่ะว่ามันแตกต่างกันอย่างไร
1. น้ำมันปลา
น้ำมันปลาผ่านการสกัดจากเนื้อของปลาทูน่า ปลาแฮร์ริ่ง ปลาค็อดและปลาทะเลน้ำลึกอื่นๆ ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น EPA และ DHA แต่มีวิตามิน A หรือ D ไม่มาก

2. น้ำมันตับปลา
น้ำมันตับปลาสกัดมาจากตับของปลาค็อด น้ำมันตับปลาจะมีโอเมก้า 3 น้อยกว่าน้ำมันปลา แต่อุดมไปด้วยวิตามิน A และ D น้ำมันตับปลาถูกคิดค้นมาครั้งแรกเพื่อใช้กับเด็ก ๆ ในช่วงทศวรรษที่ 1960 โดยน้ำมันตับปลาเป็นแหล่งของวิตามินดีที่ดีมาก เพราะในยุโรปตอนเหนือมีแสงแดดจำกัดในช่วงฤดูหนาวที่ยาวนาน ดังนั้นน้ำมันปลาจึงเป็นสิ่งจำเป็นและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ขาดวิตามินดี ปกติแล้วน้ำมันตับปลามี EPA และ DHA (ประมาณ 8% EPA และ 10% DHA) ซึ่งน้ำมันปลามี EPA และ DHA อยู่ที่ (18% EPA และ 12% DHA)
ประโยชน์ของน้ำมันปลาที่มีต่อสุขภาพ
น้ำมันปลา ( Fish Oil ) เป็นน้ำมันที่ได้มาจากปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีนและปลาอื่นๆ น้ำมันปลามักจะบรรจุในรูปแบบซอฟต์เจลเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยน้ำมันปลามีส่วนประกอบหลักคือ DHA และ EPA ซึ่งเรียกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัว ร่างกายไม่สามารถผลิตสารนี้ได้ เราจะได้รับจากอาหารที่กินเข้าไปเท่านั้นค่ะ DHA และ EPA ที่มีอยู่ในน้ำมันปลามีประโยชน์มากมายต่อร่างกายของคุณและนี่คือประโยชน์ที่คุณจะได้รับ

- ช่วยกระตุ้นเซลล์สมองในขณะที่เพิ่มสมาธิและความจำ
- สามารถลดอารมณ์แปรปรวนที่เกิดจากความวิตกกังวลหรือความผิดปกติทางจิตอื่นๆ
- ช่วยลดความเจ็บปวดและเพิ่มภูมิต้านทาน
- ลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด
- ปกป้องสุขภาพหัวใจ
น้ำมันปลายังเหมาะสำหรับใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ระหว่างควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย นั่นเป็นเพราะน้ำมันปลาสามารถยับยั้งการสลายตัวของกล้ามเนื้อและการสะสมไขมันได้ แต่น้ำมันปลาสามารถรับได้จากการรับประทานปลาที่มีไขมันเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายเลยที่จะกินปลาที่มีไขมันในปริมาณที่เพียงพอทุกวัน ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาใน รูปแบบซอฟต์เจลหรือของเหลวที่ง่ายต่อการบริโภคมากมาย ด้วยวิธีนี้คุณจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอาหารและยังได้รับประโยชน์สูงสุดจากน้ำมันปลา
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำมันปลา
1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี EPA และ DHA จำนวนมาก
น้ำมันปลาที่มี EPA และ DHA เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะเพราะจะช่วยเสริมในส่วนที่เราขาดได้ค่ะ คนที่ทานปลาอย่างปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีนและปลาอื่นๆ เป็นประจำ อาจจะทานอาหารเสริมที่มีปริมาณน้อยกว่า 500 มก. แต่ถ้าคุณไม่ได้ทานปลาเลยให้เลือกอาหารเสริมที่มีปริมาณน้ำมันปลามากกว่า 1,000 มก. ค่ะ อย่างไรก็ตามนอกจากน้ำมันปลาแล้ว คุณยังสามารถพบปริมาณ DHA ได้จากน้ำมันสาหร่ายได้อีกด้วย นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ไม่ทานปลา แน่นอนว่ามีบางคนที่ไม่เต็มใจที่จะดื่มน้ำมันปลาด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งเรื่องความกังวลเกี่ยวกับสารเคมีที่เป็นพิษ เช่น โลหะหนักที่สะสมในปลาเนื่องจากมลพิษทางทะเลเป็นสาเหตุหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหานี้การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาที่สกัดจากปลาตัวเล็กอาจเป็นทางออก ปลาขนาดเล็กที่เราพูดถึงคือปลาซาร์ดีนและปลาแองโชวี ปลาเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในห่วงโซ่อาหาร ดังนั้นจึงมีสารปนเปื้อนที่มีความเข้มข้นต่ำ
2. ตรวจสอบปริมาณ ขนาดและรูปแบบของน้ำมันปลา
แม้ว่าน้ำมันปลาบางชนิดจะอยู่ในรูปของเหลวหรือแคปซูล แต่น้ำมันปลาส่วนใหญ่จะบรรจุในรูปแบบซอฟต์เจล ผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดแคปซูลเล็กหรือซอฟต์ เจลจะทำให้คุณบริโภคอาหารเสริมได้ง่ายขึ้น ถึงกระนั้นขนาดที่เล็กก็ทำให้คุณต้องกินกลืนถึง 4 แคปซูลต่อครั้ง ในทางกลับกันยังมีผลิตภัณฑ์ขนาดแคปซูลหรือซอฟต์เจลที่มีขนาดใหญ่อีกด้วย ผลิตภัณฑ์แบบนี้มักจะแนะนำให้บริโภคเพียง 1 หรือ 2 เม็ด อย่างไรก็ตามคุณอาจรู้สึกลำบากที่จะกลืนมันเพราะขนาดที่ใหญ่กว่า นอกจากนี้คุณต้องใส่ใจกับรูปแบบแคปซูลหรือซอฟต์เจลด้วย แม้ว่าจะมีขนาดเล็กหากรูปร่างไม่ดีคุณก็ยังกลืนลำบาก ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีขนาด ปริมาณ และรูปร่างที่เหมาะสมที่สุดและทำให้คุณบริโภคได้ง่ายขึ้น

3. เลือกน้ำมันปลาที่ไม่มีกลิ่นคาว
น้ำมันปลาบางแบรนด์จะให้กลิ่นคาวเมื่ออาหารเสริมเปิดออกหรือรั่ว อีกทั้งผลิตภัณฑ์บางอย่างยังมีกลิ่นคาวแม้ว่าจะยังไม่ได้บริโภคก็ตาม เรื่องกลื่นเป็นเรื่องสมเหตุสมผลค่ะเพราะว่าน้ำมันปลามาจากปลา อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ไม่สามารถทนต่อกลิ่นได้ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นน้อยที่สุด ด้วยวิธีนี้คุณจะรู้สึกสบายขึ้นและสามารถบริโภคได้อย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่ามีหลายแบรนด์ที่ผลิตน้ำมันปลาแบบไม่มีกลิ่นคาวออกมาสามารถเลือกซื้อได้เลยค่ะ จำไว้นะคะว่าผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดจากการบริโภคน้ำมันปลาคืออาหารไม่ย่อยและมีแก๊ส การรับประทานอาหารเสริมในรูปแบบแคปซูลสามารถช่วยลดกลิ่นและผลข้างเคียงของน้ำมันปลาได้
Blackmores ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา

ราคา 220 บาท*
Blackmores ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาที่หลายคนคุ้นเคยค่ะ ขอพูดประสบการณ์ก่อนเลยว่าผู้เขียนเคยซื้ออาหารเสริมน้ำมันปลาจากทางแบรนด์มาทาน สูตรเดิมของทางแบรนด์ยังมีกลิ่นคาวอยู่บ้างค่ะ แต่สูตรนี้เป็นสูตรปรับใหม่แล้วทำให้ทานได้ง่ายและไม่มีกลิ่นคาว อาหารเสริมจากทางแบรนด์ใช้ปลาซาร์ดีนปลาแมคเคอเรลและปลาแอง ชวี่จากทะเลลึก เป็นปลาที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าปราศจากสารปรอท ไม่เพียงแต่มี DHA และ EPA เท่านั้นแต่ยังมีการเพิ่มวิตามินอีไปด้วย
ส่วนผสมจาก DHA และ EPA คือช่วยลดการสร้างไขมัน มีประสิทธิภาพในการลดความดันและปรับปรุงสุขภาพ เมื่อเสริมวิตามินอีเข้ามาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ สำหรับเรื่องความปลอดภัยแบรนด์ Blackmores (แบล็คมอร์) ก็เป็นแบรนด์ที่หลายๆ คนคุ้นเคยเป็นอย่างดีและเป็นแบรนด์อาหารเสริมที่หลายคนไว้วางใจ ใครที่กำลังมองหาน้ำมันปลาดีๆ อยู่ต้องลองค่ะ ปริมาณความเข้มข้น 500 มก. เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทานอาหารเสริมน้ำมันปลา
สกัดน้ำมันมากจาก | ปลาทะเล |
---|---|
ปริมาณของน้ำมันปลา | 1,000 มิลลิกรัม |
จำนวน | ขวดละ 60 แคปซูล x 1 ขวด |
EPA | 180 มิลลิกรัม |
DHA | 20 มิลลิกรัม |
วิธีรับประทาน | รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 - 3 ครั้ง ทุกวัน |
Vitamate Fish Oil น้ำมันปลา

ราคา 792 บาท*
Vitamate Fish Oil เป็นน้ำมันปลาที่หลายคนกำลังจับตามองอยู่ค่ะ น้ำมันปลาให้สารอาหาร 1,400 มก. โดยทางแบรนด์เคลมมาว่า มีโอเมก้า 998.9 มก. มี EPA 689 มก. และมี DHA 271.6 มก. ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่เยอะ หากเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ก็ถือว่าเยอะมาก สารอาหารที่ทางแบรนด์มีทั้งหมดช่วยส่งเสริมสุขภาพ ลดไขมันในเลือดและช่วยปรับปรุงระบบประสาท ดีต่อคนที่ต้องการบำรุงร่างกายเป็นอย่างมาก
นอกจากโอเมก้า EPA และ DHA อาหารเสริมก็ไม่มีส่วนผสมอะไรอีกค่ะ อาหารเสริมมาในรูปแบบซอฟต์เจลช่วยให้กลืนได้ง่ายอีกทั้งยังสามารถละลายน้ำได้เร็วมากๆ ความพิเศษคือผลิตภัณฑ์ไม่มีกลิ่นคาว อีกทั้งยังมาในขวดแบบทึบแสง ช่วยปกป้องกลิ่นหืนได้และสามารถป้องกันแสงแดดได้ ใครที่กำลังมองหาอาหารเสริมน้ำมันปลาที่มีโดสสูง Vitamate อาจเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
สกัดน้ำมันมากจาก | ปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาว |
---|---|
ปริมาณของน้ำมันปลา | 1,400 มิลลิกรัม |
จำนวน | ขวดละ 90 แคปซูล x 1 ขวด |
EPA | 647 มิลลิกรัม |
DHA | 253 มิลลิกรัม |
วิธีรับประทาน | รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ทุกวันพร้อมมื้ออาหาร |
น้ำมันปลา Vistra Salmon Fish Oil

ราคา 210 บาท*
นอกจากแบรนด์ Blackmores แล้วก็แบรนด์ Vistra นี่แหละค่ะที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทย น้ำมันปลาชนิดนี้เป็นน้ำมันปลาที่ใช้สารสกัดจากปลาแซลมอนจากธรรมชาติจึงอุดมไปด้วยวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย น้ำมันปลามีปริมาณสารอาหาร 1,000 มก. โดยมี EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. นอกจากนี้ยังมีวิตามินอีด้วย 9.09 มก. การมีวิตามินอีเพิ่มเข้ามาทำให้อาหารเสริมน้ำมันปลามีประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดีขึ้น ปริมาณ EPA 180 มก. ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลได้ดี พร้อมบำรุงร่างกายให้สมดุล
เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์ Blackmores แล้วทั้งคู่แทบไม่ต่างกันเลยค่ะเพราะมีปริมาณ EPA และ DHA เท่ากันและมีวิตามินอีเช่นกัน สามารถเลือกสูตรได้เหมือนกันทั้งแบบธรรมดาและแบบ Odorless ที่ไม่มีกลิ่นค่ะ แต่แบรนด์วิสตร้ามีปริมาณเยอะกว่า ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน หากคุณคุ้นเคยกับแบรนด์ไหนมากกว่าก็เลือกแบรนด์นั้นได้เลย
สกัดน้ำมันมากจาก | ปลาแซลม่อน |
---|---|
ปริมาณของน้ำมันปลา | 1,000 มิลลิกรัม |
จำนวน | ขวดละ 100 แคปซูล x 1 ขวด |
EPA | 180 มิลลิกรัม |
DHA | 120 มิลลิกรัม |
วิธีรับประทาน | รับประทานวันละ 1 แคปซูลพร้อมมื้ออาหาร |
น้ำมันปลา Bewel Salmon Fish Oil

ราคา 81 บาท*
Bewel Salmon Fish Oil น้ำมันปลาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยสกัดมาจากปลาแซลมอนจากประเทศไอซ์แลนด์ ทางแบรนด์เคลมมาว่าได้คัดปลาที่มีคุณภาพมาบรรจุเป็นเม็ดให้ทุกท่านได้รับประทาน สารอาหารของน้ำมันปลามีปริมาณ 1,000 มก. มีปริมาณ EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. นอกจากสารอาหารทั้งหมดแล้วยังให้วิตามินอีปริมาณ 9.09 มก. เทียบเท่ากับหน่วยสากลคือ 10 IU เลยค่ะ การรวมกันระหว่าง EPA DHA และวิตามินอีจะช่วยให้อาหารเสริมทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
น้ำมันปลามาในรูปแบบแคปซูลซอฟต์เจล ทานได้ง่าย ไม่มีกลิ่นคาวเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังทดลองทานเพราะราคาย่อมเยาแต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ปริมาณของน้ำมันปลาคือ 70 เม็ด ผ่านการบรรจุมาอย่างดี ขวดเป็นขวดสีทึบช่วยป้องกันแสงแดดและปกป้องสารอาหารที่มีไว้ในอาหารเสริมได้ด้วยแนะนำเลยค่ะ
สกัดน้ำมันมากจาก | ปลาแซลม่อน |
---|---|
ปริมาณของน้ำมันปลา | 1,000 มิลลิกรัม |
จำนวน | ขวดละ 30 แคปซูล x 1 ขวด |
EPA | 180 มิลลิกรัม |
DHA | 120 มิลลิกรัม |
วิธีรับประทาน | รับประทานวันละ 1 แคปซูลพร้อมมื้ออาหาร |
น้ำมันปลา นิวทริไลท์ Amway Nutrilite Fish Oil

ราคา 1,300 บาท*
Amway Nutrilite Fish Oil เป็นน้ำมันปลาจากแอมเวย์ แน่นอนว่าแอมเวย์มีชื่อเสียงมากในเรื่องอาหารเสริม ทางเราเชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครไม่รู้จักผลิตภัณฑ์แอมเวย์ค่ะ น้ำมันปลาจากทางแบรนด์เป็นน้ำมันปลาที่สกัดมาจากแซลมอนน้ำลึก ปลาแซลมอนเป็นปลาที่ขึ้นชื่อว่าอุดมไปด้วยโอเมก้าอยู่แล้วค่ะ ปริมาณของสารอาหารอยู่ที่ 525 มก. มี EPA 80 มก. และ DHA 60 มก. เป็นปริมารที่พอเหมาะกับการใช้บำรุงสุขภาพร่างกายค่ะ
นอกจาก EPA และ DHA แล้วน้ำมันปลาจากทางแบรนด์ยังมีวิตามินอี 12 IU ซึ่งวิตามินอีจะช่วยเสริมให้อาหารเสริมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่มีปริมาณสารอาหารเท่าๆ กันอย่าง Giffarine แบรนด์ Amway มีเหมือนจะได้รับความนิยมมากว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการการของแต่ละคนค่ะ ส่วนใครที่ทานอาหารเสริมแอมเวย์มาตลอดแนะนำเลยค่ะ
สกัดน้ำมันมากจาก | ปลาแซลม่อน |
---|---|
ปริมาณของน้ำมันปลา | 525 มิลลิกรัม |
จำนวน | ขวดละ 90 แคปซูล x 1 ขวด |
EPA | 80 มิลลิกรัม |
DHA | 60 มิลลิกรัม |
วิธีรับประทาน | รับประทานวันละ 1 - 2 แคปซูลทุกวันพร้อมมื้ออาหาร |
น้ำมันปลา Nature’s Truth DHA

ราคา 650 บาท*
Nature’s Truth น้ำมันปลาที่ทางแบรนด์เคลมมาพร้อมสารอาหาร 2,000 มก. โดยมีโอเมก้า 600 มก. น้ำมันปลาของทางแบรนด์ได้ผ่านการสกัดน้ำมันจากปลาทูน่าในน้ำลึก น้ำมันปลาจากแบรนด์ Nature’s Truth เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา น้ำมันปลามี EPA 90 มก. และ DHA 500 มก. แน่นอนว่าทางแบรนด์เน้นปริมาณของ DHA มากกว่าค่ะ DHA มีประสิทธิภาพในการทำงานของสมองและระบบประสาท จึงตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการปรับปรุงในด้านนี้โดยเฉพาะ
นอกจากปริมาณ EPA และ DHA แล้วอาหารเสริมไม่มีอะไรเพิ่มอีกค่ะ จากข้อมูลที่เราพบน้ำมันปลาไม่มีส่วนผสมของปรอทและมีสัญลักษณ์รับรองความปลอดภัยจากอเมริกาด้วย รูปแบบของอาหารเสริมเป็นซอฟต์เจล ทานได้ง่ายและดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารเสริมประเภทอื่นๆ ใครที่ต้องการเน้นทานสารอาหารอย่าง DHA แนะนำน้ำมันปลา Nature’s Truth เลยค่ะ
สกัดน้ำมันมากจาก | ปลาทูน่า |
---|---|
ปริมาณของน้ำมันปลา | 2,000 มิลลิกรัม |
จำนวน | ขวดละ 60 แคปซูล x 1 ขวด |
EPA | 90 มิลลิกรัม |
DHA | 500 มิลลิกรัม |
วิธีรับประทาน | รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 - 2 ครั้ง ทุกวันพร้อมมื้ออาหาร |
น้ำมันปลา Giffarine Fish Oil

ราคา 200 บาท*
น้ำมันปลาจากแบรนด์ Giffarine สำหรับแบรนด์นี้ก็มีทุกอย่างจริงค่ะทุกคน น้ำมันปลาตัวนี้เป็นน้ำมันปลาที่ให้โอเมก้า อีกทั้งยังมีการผสมผสานของวิตามินอีกด้วย น้ำมันปลามีปริมาณ 500 มก. โดยมีปริมาณ EPA 90 มก. และ DHA 60 มก. พร้อมวิตามินอี 2.08 มก. ถือว่าเป็นปริมาณที่คุ้มค่าและเหมาะสมค่ะ ด้วยส่วนผสมของEPA และ DHA ทำให้อาหารเสริมช่วยบำรุงกระดูก สมองและควบคุมคอเลสเตอรอล
รูปแบบของอาหารเสริมมาในรูปแบบแคปซูล สามารถทานได้ง่ายกว่าเดิม หลายคนอาจจะไม่เชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพมากนักแต่คุณภาพดีค่ะ การันตีด้วยรีวิวเชิงบวกมากมายและมียอดขายที่เยอะมากๆ ด้วย น้ำมันปลาจากทางแบรนด์สามารถทานได้ทุกวัยเลยค่ะ ใครที่มีงบน้อยแต่อยากซื้ออาหารเสริมคุณภาพดีแนะนำเลยค่ะ
สกัดน้ำมันมากจาก | ปลาทะเล |
---|---|
ปริมาณของน้ำมันปลา | 500 มิลลิกรัม |
จำนวน | ขวดละ 50 แคปซูล x 1 ขวด |
EPA | 90 มิลลิกรัม |
DHA | 60 มิลลิกรัม |
วิธีรับประทาน | รับประทานวันละ 1 แคปซูลพร้อมมื้ออาหาร |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดีสุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการทานน้ำมันปลา
ไม่มีคำแนะนำเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับระดับของน้ำมันปลาที่เราควรบริโภค แต่ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุและสุขภาพของแต่ละคน จากการศึกษาหลายชิ้นพบว่าการบริโภคน้ำมันปลามากกว่า 20 กรัมต่อวันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย ดังนั้นคุณสามารถเริ่มรับประทานน้ำมันปลาในระดับต่ำทุกวันและปรึกษาแพทย์ก่อนเพิ่มปริมาณ
หากคุณรู้สึกกังวลกับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หรือผลข้างเคียงอื่นๆ ให้ลองลดระดับการบริโภคน้ำมันปลา หลังจากนั้นลองดูว่าการลดระดับการบริโภคจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่ แนะนำให้นะวังหากคุณมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น อาการแพ้ ผื่น อาเจียนหรือหายใจลำบาก หากเป็นเช่นนั้นคุณควรหยุดทานน้ำมันปลาทันทีและปรึกษาแพทย์