ปัญหาที่คนรักสัตว์ไม่อยากเจอ เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องตอบว่า “เห็บหมัด” แน่นอน เพราะนอกจากที่มันจะดูดกินเลือดของสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น แมว หรือ สุนัข จนอาจทำให้เกิดอาการป่วยได้แล้ว มันยังส่งผลต่อคนที่เป็นเจ้าของอีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่าอันตรายมาก ๆ เลยทีเดียวครับ
อย่างไรก็ดีปัญหานี้ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถป้องกันหรือแก้ไขได้ เนื่องจากจริง ๆ แล้วมันมีอยู่หลายวิธีมากที่จะกำจัดเห็บหมัดได้แบบอยู่สิ้นซากและอยู่หมัด อย่างเช่น การใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบบ แชมพูกำจัดเห็บหมัด การหมั่นเช็กและหวีขนด้วย แปรงหวีขนสัตว์ นอกจากนี้ยังมีวิธีที่กำจัดได้แบบง่ายและตรงจุดอย่าง สเปรย์กำจัดเห็บหมัด, ปลอกคอกำจัดยิ่งหมัด ยิ่งถ้าได้ ‘ยาหยอดเห็บหมัด’ มาใช้งานเพิ่มเติมอีกละก็รับรองว่าปัญหาเหล่านี้จะหายขาดและไม่กลับมารบกวนคุณและสุดเลี้ยงตัวโปรดอย่างแน่นอน
และใช่ครับวันนี้เราจะมาพูดถึง ยาหยอดเห็บหมัด มาดูกันว่าสินค้าของยี่ห้อไหนบ้างที่ดีและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงคำแนะนำในการเลือกซื้อ
ยาหยอดเห็บหมัดแบบไหนเหมาะกับสัตว์เลี้ยงของคุณมากที่สุด
- ยาหยอดไรหูแมว revolution: Revolution Plus for Cats ยาหยอดกำจัด เห็บ หมัด แมว
- ยาหยดเห็บหมัด ฟรอนท์การ์ด: Frontguard Plus ยาหยอดเห็บหมัด
- ยาหยดเห็บหมัด สุนัข: Be-Tick ยาหยดกำจัดเห็บหมัด
- ยาหยดเห็บหมัด แมว: Cleartix ยาหยดกำจัดเห็บหมัด
การทำงานของ ยาหยอดเห็บหมัด
เมื่อหยอดยาลงไปบริเวณผิวหนังหลังคอของสัตว์เลี้ยงแล้ว ตัวยาจะซึมลงในส่วนของต่อมไขมัน จากนั้นจะกระจายไปทั่วร่างกายด้วยกลไกธรรมชาติ หลังจากนั้นยาจะถูกขับออกมาพร้อมกับน้ำมันตรงบริเวณผิวหนังภายในเวลา 24 – 48 ชั่วโมง (1) ดังนั้นเมื่อเห็บหมัดมีการกัดหรือดูดกินเลือด พวกมันก็จะได้รับยาเข้าไปจนทำให้ตายไปในที่สุด ทั้งนี้ตัวยาจะอยู่ได้นานประมาณ 1 เดือน ซึ่งหมายความว่านอกจากที่กำจัดได้แล้ว หลังจากนั้นยังสามารถป้องกันได้อีกด้วยนั่นเองครับ
วิธีการเลือกยาหยอดเห็บหมัด
1. อายุและน้ำหนัก
เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนจะต้องใส่ใจรายละเอียดในส่วนนี้ให้ดีเลยครับ เพราะถ้าหากคุณละเลยส่วนนี้ไป ยาหยอดอาจไม่มีประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการกำจัดเห็บหมัด อีกทั้งมันอาจส่งผลเสียต่อตัวสัตว์เลี้ยงได้ด้วย หากได้รับยาในปริมาณที่มากจนเกินไป โดยถ้าหลายคนสังเกตกันดี ๆ จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตจะเขียนรายละเอียดเอาไว้ว่ายาหยอดนั้น ๆ สามารถใช้กับสัตว์เลี้ยงน้ำหนักเท่าไหร่หรืออายุเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะต้องได้รับยาในปริมาณที่เท่ากันครับ ดังนั้นห้ามละเลยในส่วนนี้เด็ดขาด
2. สายพันธุ์
สายพันธุ์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะต้องเช็กให้ดีว่าน้องหมาหรือน้องแมวของคุณสามารถใช้ยาหยอดที่คุณจะซื้อได้หรือไม่ เพราะในบางยี่ห้อจะห้ามสุนัขในบางสายพันธุ์ เพราะมันอาจเกิดผลข้างเคียงต่อตัวยาได้ ซึ่งคุณจะต้องส่วนนี้ให้ชัดเจนครับ ถ้าหากไม่แน่ใจจริง ๆ ผมแนะนำให้ปรึกษากับสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของตัวยาให้แน่ชัดเสียก่อน
3. สุขภาพของสัตว์เลี้ยง
คุณควรที่จะทราบประวัติสุขภาพของสัตว์เลี้ยงของตัวเองว่าที่ผ่านมาน้องสุนัขหรือน้องแมวมีการแพ้ยาบ้างหรือไม่ เพื่อที่จะได้ดูว่าตัวยาที่ใส่ลงไปในหลอดนั้นจะทำให้สัตว์เลี้ยงของเราแพ้หรือไม่ นอกจากนี้ถ้าสัตว์เลี้ยงมีโรคประจำตัวหรืออาการป่วยอยู่ ผมอยากจะแนะนำให้ไปปรึกษาสัตวแพทย์โดยตรง เพื่อที่จะให้คุณหมอพิจารณาในการรักษาเห็บหมัดได้อย่างถูกต้อง
4. ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน
โดยทั่วไปแล้วยาในหลากหลายแบรนด์เมื่อหยอดลงไปแล้ว มันจะฤทธิ์ได้นานประมาณ 1 เดือนครับ ซึ่งคุณก็จะต้องเช็กรายละเอียดส่วนนี้สักเล็กน้อยว่าตัวยาจะป้องกันได้นานมากน้อยแค่ไหน เพราะเมื่อครบระยะเวลาของตัวยาแล้วร่องรอยของเห็บหมัดยังคงเหลืออยู่ คุณอาจจะต้องหยอดยาอีก 1 หลอด เพื่อกำจัดเห็บหมัดให้ราบคาบ
5. ยาหยอดผ่านมาตรฐาน
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงในเรื่องของยา สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือความปลอดภัยจะต้องมาเป็นอันดับ 1 ดังนั้นการเลือกยาหยอดที่ผ่านมาตรฐาน อย. หรือองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างน้อยก็จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าตัวยามีการผ่านการทดลองในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัยมาแล้ว ทั้งยังเพิ่มความอุ่นใจให้กับเราด้วยว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบให้กับสัตว์เลี้ยงของเราอย่างแน่นอน
catty line ยาหยอดหมัดแมว สูตรอ่อนโยน
ราคา 15 บาท*
ยาจกำจัดเห็บหมัดของทาง catty line จะบรรจุมาเป็นขวดยาขนาด 1 ซีซี ซึ่งใช้งานง่ายมาก ๆ เพียงแค่เปิดฝาขวดออกแล้วหยอดลงไปบริเวณสันคอ ตัวยาก็จะทำการแทรกซีมเข้าผิวหนัง จากนั้นมันก็จะกระจายตัวยาไปตามร่างกาย เมื่อเห็บหมัดกินเลือดเข้าไปพวกมันก็จะตายแบบราบคาบยกฝูงเลยละครับ อีกทั้งตัวยายังมีฤทธิ์ในการกำจัดพยาธิหนอนหัวใจ และรักษาโรคขี้เรื้อนได้ดีอีกด้วย ที่สำคัญคือสูตรยาค่อนข้างจะอ่อนโยน ปลอดภัยต่อน้องแมวอย่างแน่นอน เพียงแค่ใช้เดือนละ 1 ครั้ง ปัญหาเห็บหมัดก็จะหายไปอย่างปลิดทิ้งเลยครับ
| บรรจุ | 1 ซีซี / ขวด |
|---|---|
| สำหรับ | แมวน้ำหนักไม่เกิน 5 - 10 กิโลกรัม |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐา |
Frontguard Plus ยาหยอดเห็บหมัด
ราคา 33 บาท*
| บรรจุ | 1 หลอด / กล่อง |
|---|---|
| สำหรับ | สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 2 - 10 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 - 20 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 20 - 40 กิโลกรัม / แมว |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
Be-Tick ยาหยดกำจัดเห็บหมัด
ราคา 38 บาท*
| บรรจุ | 1 หลอด / กล่อง |
|---|---|
| สำหรับ | สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 20 - 40 กิโลกรัม |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
Fetic ฟีติก ยาหยดหลังกำจัดเห็บสำหรับสุนัข
ราคา 46 บาท*
| บรรจุ | 1 หลอด |
|---|---|
| สำหรับ | สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10.1 - 20 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 20.1 - 40 กิโลกรัม |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 2 เดือนครึ่ง หรือ 10 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
Fiproline ยาหยอดเห็บหมัด สำหรับสัตว์เลี้ยง
ราคา 86 บาท*
| บรรจุ | 1 หลอด / กล่อง |
|---|---|
| สำหรับ | สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 - 20 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 20 - 40 กิโลกรัม / แมวน้ำหนักไม่เกิน 2 - 10 กิโลกรัม |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
Cleartix ยาหยดกำจัดเห็บหมัด
ราคา 99 บาท*
| บรรจุ | 2 หลอด |
|---|---|
| สำหรับ | สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10.1 - 20 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 20.1 - 40 กิโลกรัม / แมว |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
Revolution Plus for Cats ยาหยอดกำจัด เห็บ หมัด แมว
ราคา 213 บาท*
| บรรจุ | 3 หลอด / กล่อง |
|---|---|
| สำหรับ | แมวน้ำหนักตั้งแต่ 2.5 - 5 กิโลกรัม |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
N-Tick กำจัดเห็บหมัด สุนัข
ราคา 239 บาท*
| บรรจุ | 10 หลอด / กล่อง |
|---|---|
| สำหรับ | สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 - 20 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 20 - 40 กิโลกรัม |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
Frontline plus ฟรอนท์ไลน์ พลัส ยาหยอดเห็บหมัด
ราคา 645 บาท*
| บรรจุ | 1 หลอด / กล่อง |
|---|---|
| สำหรับ | สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 5 - 10 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 - 20 กิโลกรัม / สุนัขน้ำหนักไม่เกิน 20 - 40 กิโลกรัม |
| อายุที่ใช้ยาได้ | ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป |
| ระยะเวลาในการกำจัดและป้องกัน | 1 เดือน |
| ผ่านมาตรฐาน | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ ยาหยอดเห็บหมัด ยี่ห้อไหน กำจัดเห็บหมัดได้ดี ปี 2023 | ||||
|---|---|---|---|---|
| ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
|
|  | ||
|
|  | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
วิธีการ หยอดยาเห็บหมัด ที่ถูกต้อง
จริง ๆ แล้วการหยอดยาไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรเลยครับ แต่ถ้าหากทำผิดวิธีตัวยาอาจไม่สามารถซึมเข้าผิวหนัง จนทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงไปได้ ดังนั้นวันนี้ผมจึงอยากจะแนะนำวิธีการหยอดยาที่ถูกต้องมาฝากกันครับ
ขั้นตอนที่ 1 : สวมถุงมือยางให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ยาและสิ่งสกปรกต่าง ๆ โดนมือของเรา
ขั้นตอนที่ 2 : แหวกขนสุนัขหรือแมวออกจนเห็นผิวหนัง เพื่อทำการเตรียมหยอดยาลงไป
ขั้นตอนที่ 3 : หยอดยาลงไปให้โดนผิวหนังบริเวณหลังคอหรือตรงกลางระหว่างไหล่ 2 ข้าง เพราะถ้าหากโดนบริเวณขน ผิวหนังจะไม่สามารถดูดซึมตัวยาเข้าไปได้
ขั้นตอนที่ 4 : สำหรับน้องแมวหรือน้องหมาที่ค่อนข้างจะซน ผมแนะนำให้ใส่คอลล่า(ปอกคอกันเลีย) เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเราเลียหรือพยายามที่จะไปวุ่นวายบริเวณที่หยอดยา
ขั้นตอนที่ 5 : ปล่อยให้ตัวยาซึมเข้าผิวหนังจนหมด หลังจากนั้นห้ามอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงประมาณ 48 ชั่วโมงหลังจากหยอดยาไป เพราะถ้าอาบน้ำตัวยาที่กระจายไปทั่วผิวหนังจะหายไปทั้งหมดหรือประสิทธิภาพไม่ดีเท่าที่ควร
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับสินค้ายาหยอดเห็บหมัด รวมไปถึงการแนะนำวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง ซึ่งผมหวังว่าข้อมูลที่ผมได้แชร์ไปจะช่วยให้คุณสามารถกำจัดปัญหาเห็บหมัดที่กำลังกวนใจได้ไม่มากก็น้อยนะครับ อย่างไรก็ดีหลังจากที่เห็บหมัดได้หายออกไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือการบำรุงขนและการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ โดยการใช้ สเปรย์บำรุงขน, แชมพูอาบน้ำแมว, แชมพูสำหรับแมวขนยาว, แชมพูยารักษาโรคผิวหนัง, แผ่นเช็ดหูสัตว์เลี้ยง, แผ่นเช็ดคราบน้ำตาสัตว์เลี้ยง หรือน้ำยาเช็ดหูสัตว์เลี้ยง ก็จะสามารถช่วยป้องกันในเบื้อต้นได้ไม่มากก็น้อยครับ
References
