สวัสดีค่ะทุกคน ~ ก่อนอื่นเลยเราต้องขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตจบใหม่ทุกคนที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้ด้วยนะคะ ที่ในที่สุดความพยายามอันแสนยาวนานของเราก็สำเร็จผลซักที !! วันรับปริญญาจึงถือเป็นอีกวันที่แสนสำคัญในชีวิตของหลาย ๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าญาติสนิทมิตรสหายอีกหลายท่านก็จะหอบเอาของขวัญวันรับปริญญามาร่วมแสดงความยินดีกับคุณด้วยเช่นกัน บัณฑิตอย่างเราจึงต้องใส่ใจเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้ดูดีทุกระเบียดนิ้ว ทั้งการใช้น้ำยารีดผ้ารีดชุดนักศึกษา และชุดครุยให้กลีบเนี้ยบคมสวย หรือการใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผม หรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เพื่อให้ผมของคุณอยู่ทรงสวยตลอดวัน นอกจากนี้เรื่องการแต่งหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากคุณจะต้องถ่ายรูปรับพระราชทานปริญญาบัตรเอาไว้แปะฝาบ้านให้ชื่นใจแล้ว คุณยังต้องร่วมถ่ายรูปกับแขกที่มาหาตลอดวันท่ามกลางแดดร้อน และอากาศสุดอบอ้าวอีกด้วยอีกด้วย

และถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งหน้ารับปริญญา เชื่อว่าหลาย ๆ คนโดยเฉพาะคนที่ต้องการแต่งหน้าเอง ต้องกำลังคิดหนักอยู่แน่ ๆ ว่าจะใช้รองพื้นยี่ห้อไหนดีที่ติดทนยาวนานตลอดวัน และยังต้องกันน้ำกันเหงื่อสู้แดดไม่ไหลเยิ้ม แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะในวันนี้เราได้ทำการรวบรวม ‘รองพื้นรับปริญญา’ ตัวเด็ดตัวดัง ที่รับรองว่าใช้แล้วหน้าเป๊ะปัง ถ่ายรูปแล้วสวยเด้ง แถมไม่ดรอปไม่หมองตลอดวันมาแนะนำกัน นอกจากนี้ยังมีวิธีเลือกรองพื้นที่เหมาะกับตัวเองฉบับง่าย ๆ มาฝากกันอีกด้วย จะมีรองพื้นรับปริญญาตัวไหนบ้างที่น่าสนใจ เราไปดูกันเลยค่ะ
รองพื้นรับปริญญา ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับเรา
- รองพื้นถูก และดี ราคาสบายกระเป๋า: Maybelline Fit Me Matte + Poreless Liquid Foundation ครีมรองพื้นเนื้อลิควิด
- รองพื้นฝาดำในตำนาน: Revlon ColorStay Longwear Makeup ครีมรองพื้น
- รองพื้นตัวดังที่ช่างแต่งหน้าเลือกใช้: ESTÉE LAUDER Double Wear Stay In Place Makeup SPF10 / PA+++ ครีมรองพื้น
- รองพื้นงานผิว แมตต์สวยเป็นธรรมชาติ: Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation SPF 15 PA++ ครีมรองพื้น
วิธีการเลือกรองพื้นรับปริญญา

การเลือกรองพื้นรับปริญญาให้เหมาะกับผิวของตัวเองนั้นมีหลากหลายปัจจัยเลยที่เราต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นประเภทของครีมรองพื้น สภาพผิวของเรา และประสิทธิภาพในการกันน้ำกันเหงื่อ เพื่อให้รองพื้นติดทนบนผิวของเราตลอดวัน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของสารป้องกันแสงแดดที่เราไม่ควรละเลยอีกด้วย ซึ่งเราก็ได้สรุปวิธีการเลือกซื้อรองพื้นรับปริญญาในแบบฉบับเข้าใจง่าย ให้คุณได้ทำความเข้าใจตามหัวข้อด้านล่างนี้แล้วค่ะ
1. เลือกรองพื้นรับปริญญาที่เหมาะกับสภาพผิว
การเลือกประเภทของครีมรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอย่างที่คิด โดยในขั้นตอนแรกคุณต้องรู้จักผิวของคุณก่อน ว่าเป็นคนที่มีผิวแห้ง, ผิวมัน หรือผิวผสม เพราะรองพื้นแต่ละแบบนั้นก็ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สภาพผิวที่แตกต่างกัน โดยคุณสามารถเลือกรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิวได้ ตามคำแนะนำด้านล่างนี้เลยค่ะ
|
รองพื้นรับปริญญา สำหรับผิวแห้งคนที่มีผิวแห้งมักต้องเจอกับปัญหาผิวที่แห้งเป็นขุยระหว่างวันโดยเฉพาะในวันที่แต่งหน้า คุณจึงควรมองหารองพื้นที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรซ์เซอร์อย่างเช่น Hyaluronic Acid, Glycerin, Ceramide ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว หรือรองพื้นที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวอย่าง วิตามิน E หรือวิตามิน B5 เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวของคุณดูสวยโกลว์ตลอดวัน ในส่วนของเนื้อรองพื้น แนะนำให้ใช้เป็นรองพื้นเนื้อลิควิด หรือรองพื้นแบบคุชชั่น เพื่อให้ผิวของคุณไม่แห้งตึงจนเกินไป และช่วยให้ผิวของคุณดูฉ่ำเด้งเช้าจรดเย็นค่ะ |
|
รองพื้นรับปริญญา สำหรับผิวมันสำหรับคนผิวมันปัญหาหลัก ๆ ที่คุณต้องเจอเลยคือรองพื้นมักจะไหลเยิ้มเป็นคราบ และหลุดลอกง่ายไม่ติดทน นอกจากนี้ยังมีปัญหารองพื้นสีดรอปลงจนใบหน้าดูหมองคล้ำไม่สดใส คุณจึงควรมองหารองพื้นที่ให้ Finish Look แบบแมตต์ และเป็นสูตรควบคุมความมันที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน อีกทั้งยังควรเลือกรองพื้นที่ช่วยกันน้ำกันเหงื่อเพื่อให้รองพื้นไม่หลุดลอกง่าย ในส่วนของเนื้อรองพื้นนั้นคนที่มีผิวมันสามารถใช้รองพื้นได้ทุกแบบยกเว้นแบบครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมาก และแบบคุชชั่นที่มีส่วนผสมของสารบำรุงเยอะ เพราะจะทำให้หน้าของคุณยิ่งดูมันวาว และไม่ติดทนค่ะ |
|
รองพื้นรับปริญญา สำหรับผิวผสมสำหรับคนที่มีผิวผสมนั้นมักจะเข้าใจผิดว่าสามารถเลือกใช้รองพื้นแบบไหนก็ได้ และด้วยเหตุนี้เองชาวผิวผสมหลายคนจึงไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะเลือกใช้รองพื้นแบบไหนดี เราจึงขอแนะนำว่าให้คุณลองสังเกตว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของใบหน้าเป็นผิวแห้ง หรือผิวมัน เช่น ถ้าหากผิวของคุณเกินครึ่งเป็นผิวมันโดยเฉพาะในช่วงทีโซน และหน้าแก้ม แต่ผิวจะแห้งตรงช่วงข้างแก้ม และคาง แนะนำให้คุณเลือกซื้อเป็นรองพื้นสำหรับผิวมัน และเน้นทางบำรุงในส่วนที่แห้งให้ผิวชุ่มชื้นก่อนลงรองพื้น ในส่วนของเนื้อรองพื้นนั้นแนะนำให้เลือกเป็นรองพื้นเนื้อลิควิค เพราะมีความนุ่มลื่นเกลี่ยง่าย ไม่แมตต์แห้ง หรือชุ่มชื้นจนเกินไป สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวค่ะ |
2. เลือกรองพื้นรับปริญญาที่ใกล้เคียงสีผิวของคุณ
ถัดมาจากประเภทของครีมรองพื้นก็คือเรื่องของเฉดสีรองพื้นที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยคุณจำเป็นจะต้องเลือกเฉดสีให้ใกล้เคียงกับผิวของคุณมากที่สุด ซึ่งเราไม่แนะนำให้เลือกรองพื้นที่สว่างกับผิวเกินไปเพราะกลัวว่าหน้าจะดูหมอง ไม่อย่างนั้นเวลาถ่ายรูปสาดแฟลชออกมารับรองว่าหน้าวอกหน้าลอยแน่นอนค่ะ โดยในการเลือกเฉดสีของรองพื้นนั้นเราสามารถเลือกได้โดยอิงจาก Undertone ของสีผิวตัวเอง ซึ่งเจ้า Undertone นี้ไม่ได้หมายถึงความเข้มอ่อนของสีผิว แต่หมายถึงเฉดสีของสีผิวที่คุณสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ โดยดูบริเวณเส้นเลือดที่ข้อมือ หากเส้นเลือดของคุณมีสีเขียวแปลว่าผิวของคุณเป็น Warm Skin Tone หรือผิวโทนเหลือง และถ้าเส้นเลือดของคุณเป็นสีน้ำเงิน หรือม่วงผิวของคุณคือ Cool Skin Tone หรือผิวโทนชมพู แต่ถ้าเส้นเลือดของคุณมีทั้งสีเขียว และน้ำเงิน แปลว่าคุณอยู่ Neutral Skin Tone หรือผิวสองสีค่ะ

3. เลือกรองพื้นรับปริญญาที่กันน้ำ กันเหงื่อและติดทนนาน
คุณสมบัติการกันน้ำกันเหงื่อ และติดทนนานเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ควรมีในการเลือกรองพื้นสำหรับวันรับปริญญาค่ะ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าในวันรับปริญญานี้เราจะต้องต่อสู้กับแดดอันร้อนระอุและความร้อนอับชื้นจากชุดครุย แถมยังต้องสลับเข้าออกห้องแอร์ตลอดวัน ดังนั้นลืมรองพื้นสูตรบางเบาใน Every Day Look ไปได้เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นได้หน้าเยิ้มเป็นสังขยาตั้งแต่ยังไม่เที่ยงแน่ ๆ นอกจากนี้เราอาจจะใช้วิธีการลงไพรเมอร์ก่อนลงรองพื้น แล้วเซ็ตแป้งฝุ่นทับในขั้นตอนสุดท้ายของงานผิว เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการติดทน ให้ผิวดูสวยสดใสตลอดวันได้เช่นกันค่ะ

4. เลือกรองพื้นรับปริญญาที่ผสมสารกันแดด
อย่างที่เราได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วว่าในวันรับปริญญาเราจำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดที่เราเคยหลีกเลี่ยงมาตลอด โดยเฉพาะตอนที่ต้องถ่ายรูปกลางแจ้งกับญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่มาร่วมแสดงความยินดีตลอดทั้งวัน ทำให้หน้าของเราต้องโดนแดดเผาอย่างช่วยไม่ได้ การเลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมของสารกันแดด จึงเป็นเหมือนการเสริมเกราะป้องกันอีกหนึ่งชั้นให้ผิวไม่ถูกทำร้ายมากเกินไป โดยเราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้ครีมรองพื้นที่มีค่า SPF 30 PA +++ ขึ้นไป เพราะแดดเมืองไทยนั้นแสนจะเจิดจ้า แต่ถ้าหากรอพื้นที่คุณสนใจมีค่าการกันแดดที่น้อยกว่านั้น เราขอแนะนำให้คุณทาครีมกันแดดอื่น ๆ ก่อนลงครีมรองพื้น และอย่าลืมว่าต้องทาในปริมาณ 2 ข้อนิ้ว เพื่อการกันแดดที่เต็มประสิทธิภาพนะคะ
CutePress 1-2 Beautiful Airy Matte Foundation รองพื้นเนื้อครีม

ราคา 279 บาท*
ครีมรองพื้นราคาดีอีกหนึ่งตัวที่หลายคนเลือกใช้ในวันรับปริญญา โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีผิวมันจะรักรองพื้นจาก CutePress ตัวนี้เป็นพิเศษแน่นอน เพราะเป็นรองพื้นที่ให้ Finish Look แบบแมตต์ ๆ แป้ง ๆ แต่ก็ยังดูเป็นธรรมชาติไม่ทำให้หน้าแห้งจนเกินไป ให้สัมผัสที่บางเบาสบายผิวสมชื่อรุ่น Airy Matte ในส่วนของการปกปิดทางแบรนด์ก็เคลมว่า สามารถอำพรางรูขุมขน ปกปิดรอยแดง รอยคล้ำ และจุดด่างดำได้แม้ลงแค่ชั้นเดียว และสามารถลงทับเพื่อเพิ่มการปกปิดเฉพาะจุดได้โดยไม่เป็นคราบ อีกทั้งทางแบรนด์ยังเคลมว่าช่วยควบคุมความมันยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ทำให้ผิวดูสวยแมตต์เนียนเป๊ะ ไม่เป็นคราบ หรือตกร่องระหว่างวันอีกด้วยค่ะ
โดยในส่วนของบรรจุภัณฑ์นั้นทางแบรนด์ก็ออกแบบมาได้น่าสนใจมาก ๆ โดยจะมาในรูปแบบของหลอดรองพื้นแบบนิ่มที่มีด้านบนเป็นหัวปั๊ม ทำให้ใช้งานได้ง่าย กะปริมาณของรองพื้นที่ใช้ได้สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าฝาจะเปิดออกจนรองพื้นหกเลอะเทอะ อีกทั้งในส่วนของบรรจุภัณฑ์ของรองพื้นที่เป็นแบบหลอดพลาสติกนั้นยังทำให้เราสามารถตัดหลอดออกเพื่อใช้รองพื้นด้านในได้อย่างหมดจดจนหยดสุดท้ายอีกด้วยค่ะ

ซึ่งจากการทดลองใช้งาน ถ้าให้เทียบรองพื้นรุ่น Airy Matte จาก CutePress ตัวนี้ กับรองพื้นแบบแมตต์ตัวอื่น ๆ จะเห็นได้ว่ารองพื้นจาก CutePress ตัวนี้ให้ Finish Look แบบแมตต์ที่แตกต่างออกไปหลังเซ็ตตัว เป็นความแมตต์แบบแป้ง ๆ ที่ช่วยเคลือบผิวเอาไว้เหมือนฟิลม์อย่างบางเบา แต่ไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้งจนเกินไป และยังแนบสนิทไปกับผิวเป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้าได้ แต่สำหรับรอยที่เห็นได้ชัดอย่างรอยสิวสีเข้ม ๆ อาจจะต้องมีการบิ้วท์รองพื้นเฉพาะจุดเพิ่มอีกชั้นเพื่อช่วยเพิ่มการปกปิดให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่าการบิ้วท์เพิ่มเลเยอร์ทั้งใบหน้าจะทำให้ผิวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิวมันเพิ่ม หรือทำให้เป็นคราบ จึงเรียกได้ว่ารองพื้นจาก Cute Press ตัวนี้เป็นรองพื้นคุณภาพดี และมีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับรองพื้นแบรนด์อื่น ๆ ที่นำมารีวิวค่ะ
ข้อดี
- รองพื้นเนื้อครีมให้ Finish Look แบบแมตต์แป้ง ดูเป็นธรรมชาติ
- เบาสบายไม่หนักหน้าสมชื่อรุ่น Airy Matte
- ปกปิดริ้วรอย และจุดด่างดำเล็ก ๆ ได้ดี
- สามารถบิ้วท์เพิ่มได้โดยไม่เป็นคราบ
- ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยควบคุมความมันยาวนานถึง 8 ชั่วโมง
ข้อพิจารณา
- เป็นรองพื้นสำหรับคนผิวผสม - ผิวมัน สำหรับคนที่มีผิวแห้ง อาจมีการเกิดขุย หรือเป็นคราบได้ระหว่างวันค่ะ
เนื้อรองพื้น | เนื้อครีม |
---|---|
Finish Look | แบบแมตต์แป้ง |
เฉดสี | 01 Porcelain, 02 Light Beige, 03 Sand Beige, 04 Medium Beige, 05 Golden Beige |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | ✘ |
ปริมาณ | 30 g. |
Maybelline Fit Me Matte + Poreless Liquid Foundation ครีมรองพื้นเนื้อลิควิด

ราคา 309 บาท*
รองพื้นรับปริญญาตัวต่อมาที่เราอยากจะแนะนำ เป็นรองพื้นตัวดังจาก Maybelline ที่เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง เพราะมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป และยังมีหลากหลายเฉดสีถึง 22 เฉดสีให้เราเลือก หมดปัญหาหน้าวอกหน้าลอย อีกทั้งยังช่วยปกปิดรูขุมขน ผิวดูแมตต์สวยตลอดวันแต่ยังให้สัมผัสที่ไม่หนักหน้าจนเกินไป โดยทางแบรนด์ยังเคลมว่าสามารถช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังเป็นรองพื้นสูตร Oil-Free ที่มีส่วนผสมของโคลนจากธรรมชาติ ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนผิว ซึ่งผ่านการทดสอบทางทางแบรนด์แล้วว่าผิวบอบบางที่มีแนวโน้มระคายเคืองง่ายสามารถใช้ได้โดยไม่เกิดอาการแพ้ หรืออุดตัน
สำหรับตัวบรรจุภัณฑ์ของรองพื้นจาก Maybelline ตัวนี้มาในรูปแบบของขวดแก้วสีใสที่มีความหนา ทำให้มีความแข็งแรงทนทานไม่แตกหักง่าย และยังสามารถมองเห็นรองพื้นที่เหลืออยู่ด้านในขวดได้อีกด้วย ด้านบนขวดเป็นแบบหัวกดปั๊มสีดำสำหรับกดเนื้อรองพื้นออกมา ซึ่งถือว่าใช้งานง่าย และสะดวกมาก ๆ แต่ก็เป็นธรรมดาของขวดแบบปั๊มที่มักจะเหลือเนื้อรองพื้นติดอยู่ในขวดเยอะ โดยเราเองใช้วิธีเปิดฝาขวดปั๊มออกเพื่อเทรองพื้นมาใช้งาน ถ้าหากใครเสียดายรองพื้นที่เหลืออยู่จะลองใช้วิธีของเราก็ได้นะคะ

ซึ่งส่วนตัวเราเองเคยมีประสบการณ์การทดลองใช้งานรองพื้นรุ่น Fit Me จาก Maybelline ในวันรับปริญญาของตัวเอง ซึ่งสีที่ใช้เป็นสี 118 ออกขาวเหลือง เนื้อรองพื้นค่อนข้างเหลวทำให้เกลี่ยง่าย เมื่อรองพื้นเซ็ตตัวแล้วให้ผิวที่ดูแมตต์เนียนสวย ปกปิดรอยแดง และรอยคล้ำต่าง ๆ ได้ดี สามารถบิวท์เพิ่มเพื่อปกปิดจุดดำเข้ม ๆ ได้โดยที่ไม่เป็นคราบ แต่เราเลือกแต้มเฉพาะจุดด้วยคอนซีลเลอร์ เพราะไม่ต้องการให้รองพื้นหนาเกินไป สำหรับในเรื่องความติดทนเราเองเป็นคนผิวมัน ในระหว่างวันที่มีอากาศร้อน และเหงื่อออกก็มีรองพื้นติดบนแมสก์ หรือติดทิชชู่ออกมาบ้างเวลาซับเหงื่อ แต่รองพื้นที่อยู่บนผิวก็ยังคงดูเนียนสวย และให้การปกปิดที่ดี ไม่ได้หลุดลอกแบบแหว่งออกไปเลยจนดูไม่สวยค่ะ
ข้อดี
- รองพื้นเนื้อครีมให้ Finish Look แบบแมตต์
- ปกปิดรูขุมขน หน้าเนียนสวยตลอดวัน แต่บางเบาไม่หนักหน้าจนเกินไป
- ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง
- มีส่วนผสมของโคลนจากธรรมชาติ ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน
- สูตร Oil-Free ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าผิวบอบบางสามารถใช้ได้ ไม่อุดตัน
- มีเฉดสีให้เลือกถึง 22 เฉดสี เลือกรองพื้นที่แมทช์กับผิวได้ง่าย
ข้อพิจารณา
- สำหรับคนที่มีผิวแห้ง อาจทำให้หน้าเป็นขุย หรือเกิดคราบได้เล็กน้อยระหว่างวันค่ะ
เนื้อรองพื้น | รองพื้นเนื้อลิควิด |
---|---|
Finish Look | 22 เฉดสี |
เฉดสี | 22 เฉดสี |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | SPF 22 |
ปริมาณ | 30 ml. |
L'oreal Paris Infallible Matte Cover ครีมรองพื้น

ราคา 349 บาท*
อีกหนึ่งรองพื้นตัวดัวจากแบรนด์ L’oreal ที่หลายคนเลือกใช้ในวันรับปริญญา เพราะเป็นรองพื้นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในวันที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อน ทั้ง Finish Look แบบแมตต์ ที่ช่วยให้หน้าดูเนียนสวยได้ตลอดวัน ด้วยเนื้อรองพื้นสูตรน้ำที่เกลี่ยง่าย บางเบาสบายผิวไม่หนักหน้า แต่ให้การปกปิดที่เนียนเป๊ะระดับโปร อีกทั้งยังเป็นสูตรควบคุมความมันที่มาพร้อมเทคโนโลยี Shine Defy Blotting Spheres ช่วยดูดซับความมัน และเหงื่อ หน้าไม่ดรอป ไม่หมองตลอดวัน กันน้ำกันเหงื่อหน้าเนียนใสไม่เป็นคราบ โดยทางแบรนด์เคลมว่าติดทนนานตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วยค่ะ
สำหรับบรรจุภัณฑ์จะมาในรูปแบบของรองพื้นบรรจุมาในหลอดสำหรับบีบที่เรียวเล็ก ดูพกพาได้ง่าย มาพร้อมกับหัวบีบแบบปากเล็ก ทำให้เราสามารถกะปริมาณของรองพื้นที่จะบีบออกมาได้ด้วยแรงบีบของเราเอง ซึ่งเราอาจจะต้องระวังไม่ให้มือหนักบีบมาเยอะจนเกินไป เพราะว่าตัวหลอดเป็นแบบปิดไม่มีจุดที่สามารถหมุนเปิดได้ แนะนำว่าในการใช้ครั้งแรกควรบีบใช้แต่น้อยเพื่อกะปริมาณการใช้รองพื้นของเราต่อการแต่งหน้า 1 ครั้งค่ะ
ในส่วนเนื้อรองพื้นมีลักษณะเป็นเนื้อลิควิคที่ค่อนข้างเหลวแต่มีความเข้มข้น เนื้อสัมผัสนุ่มลื่นเกลี่ยได้ง่าย เมื่อเกลี่ยเนื้อรองพื้นไปซักพักจะเปลี่ยนจากเนื้อลิควิดเป็นเนื้อแมตต์ ให้ความรู้สึกเบาสบายผิวหน้า และไม่ทำให้ผิวรู้สึกเหนอะหนะ แต่ก็ค่อนข้างเซ็ตตัวเร็วจึงแนะนำว่าให้ลงบนผิวทีละจุดแล้วเกลี่ยจะดีกว่า นอกจากนี้ยังสามารถบิวท์รองพื้นเพิ่มอีกเลเยอร์เฉพาะจุด หรือทั้งหน้าได้โดยไม่เป็นคราบ แต่ถ้าให้เทียบกับรองพื้นเนื้อแมตต์ที่มีราคาใกล้เคียงกันอย่าง Maybelline จะมีความรู้สึกว่ารองพื้นจาก L'oreal จะมีเนื้อครีมที่เข้มข้น และมีสัมผัสที่แน่นมากกว่าค่ะ
ข้อดี
- รองพื้นเนื้อน้ำเกลี่ยง่ายให้ผิวสวยแมตต์เป็นธรรมชาติ บางเบาไม่หนักหน้า
- ปกปิดเรียบเนียน ผิวเป๊ะสวยระดับโปร บิ้วท์เพิ่มได้ไม่เป็นคราบ
- สูตรควบคุมความมันด้วยเทคโนโลยี Shine Defy Blotting Spheres ที่ดูดซับเหงื่อ และน้ำมัน หน้าไม่ดรอป ไม่หมอง
- ผ่านการทดสอบว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่อุดตัน
- ทางแบรนด์เคลมว่ากันน้ำกันเหงื่อ ติดทนนาน 24 ชั่วโมง
- มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดด SPF / 16 PA+++
ข้อพิจารณา
- สำหรับคนที่ผิวแห้งมาก ๆ อาจเกิดขุยเล็กน้อยในระหว่างวัน แนะนำให้บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนลงรองพื้นค่ะ
เนื้อรองพื้น | รองพื้นสูตรน้ำ |
---|---|
Finish Look | แบบแมตต์ |
เฉดสี | 16 เฉด |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | ✘ |
ปริมาณ | 30 ml. |
Revlon ColorStay Longwear Makeup ครีมรองพื้น

ราคา 404 บาท*
มาถึงรองพื้นในตำนานที่สาว ๆ ทุกคนรู้จักกันดี กับรองพื้นจาก Revlon รุ่น ColorStay หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่ารองพื้น Revlon ฝาดำ ซึ่งรองพื้นฝาดำตัวนี้ก็เป็นรองพื้นที่ปรับสูตรใหม่ให้มีเนื้อที่บางเบา นุ่มลื่นเกลี่ยง่ายยิ่งขึ้น แต่ยังคงปกปิดได้เนียนเป๊ะเหมือนเดิม สามารถบิ้วท์ให้ปกปิดเพิ่มได้ตามต้องการโดยไม่เป็นคราบ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามิน E ช่วยบำรุง และ Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ความร้อน แสงแดด รวมถึงเหงื่อ นอกจากนี้ยังเป็นรองพื้นสูตร Oil-free และ Fragrance-free ทำให้ไม่อุดตัน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ค่ะ
โดยในส่วนของบรรจุภัณฑ์ก็จะมีลักษณะที่คล้ายกับรองพื้นแบรนด์อื่น ๆ คือมารูปแบบของขวดแก้วแบบหนาที่ทนทานไม่แตกง่าย และมีด้านบนเป็นแบบหัวปั๊มแบบกด ทำให้เราสามารถกะปริมาณของรองพื้นได้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะบีบออกมาเยอะจนเกินไป มาพร้อมกับฝาแบบหมุนปิดกันรองพื้นหกเลอะเทอะค่ะ
ซึ่งจากที่ได้ลองสัมผัสพบว่าเนื้อสัมผัสของรองพื้นมีความนุ่มลื่น และเกลี่ยง่ายกว่ารองพื้นสูตรเดิมที่จะมีความหนืดมากกว่า แต่รองพื้นสูตรใหม่นี้จะมีความบางเบาที่ยังคงประสิทธิภาพในเรื่องของการปกปิดเอาไว้ และนอกจากคุณสมบัติที่ทางแบรนด์ได้เคลมไว้ จากการทดลองใช้งานพบว่าเราประทับใจในความติดทนของรองพื้นรุ่น ColorStay Longwear จาก Revlon ตัวนี้มาก เพราะเราเคยใช้รองพื้นตัวนี้ในการออกไปถ่ายรูปชุดครุยนอกสถานที่ตลอดวัน ซึ่งมีแดดร้อนทำให้เหงื่อออกเยอะมาก ๆ แต่ตัวรองพื้นก็ยังปกปิดติดทน และไม่ไหลเยิ้ม ถึงแม้จะมีหลุดติดแมสบ้าง แต่งานผิวก็ยังคงดูสวยเรียบเนียนค่ะ
ข้อดี
- รองพื้นเนื้อครีม นุ่มลื่นเกลี่ยง่าย เบาสบายไม่หนักหน้า ให้ผิวแมตต์สวยตลอดวัน
- ให้การปกปิดที่ดี สามารถบิ้วท์เพิ่มได้ โดยทางแบรนด์เคลมว่าติดทนนาน 24 ชั่วโมง
- มีส่วนผสมของวิตามิน E ช่วยบำรุง และ Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
- มี SPF 15 ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี
- เป็นสูตร Oil - free และ Fragrance - free
ข้อพิจารณา
- ผลิตภัณฑ์มีการปรับสูตรให้บางเบา ทให้เนื้อสัมผัสมีความเหลวกว่าเดิมค่ะ
- ตัวรองพื้นให้การปกปิดที่ดีอยู่แล้ว หากมีการบิ้วท์หลายเลเยอร์เกินไป อาจทำให้รู้สึกไม่สบายผิวหน้าได้ค่ะ
เนื้อรองพื้น | เนื้อครีม |
---|---|
Finish Look | แบบแมตต์ |
เฉดสี | 7 เฉดสี |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | SPF 15 |
ปริมาณ | 30 ml. |
Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation ครีมรองพื้น

ราคา 1,390 บาท*
สำหรับใครที่ในวันรับปริญญาอยากได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟิลผิวดีมาตั้งแต่เกิด ขอแนะนำสุดยอดรองพื้นงานผิวจาก Lancome ตัวนี้เลยค่ะ เพราะรองพื้นตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อบางเบาสบายผิวราวกับให้ผิวได้หายใจ แต่ช่วยปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดีด้วยเทคโนโลยี Airwear ช่วยให้ผิวดูสวยสม่ำเสมอ ได้ Finish Look ที่ดูสวยสมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติ ติดทนยาวนานตลอดวัน นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด และมลภาวะด้วยค่า SPF 38 / PA+++ อีกด้วยค่ะ
โดยบรรจุภัณฑ์ของของรองพื้น Lancome ตัวนี้ก็มาในรูปแบบของขวดแก้วดีไซน์เรียบหรูที่มีรูปทรงผอมสูง มีพิื้นผิวแบบแมตต์ที่ให้สัมผัสที่ดี และมีความหนาของขวดค่อนข้างมากดูแข็งแรงทนทาน ด้านบนเป็นหัวปั๊มแบบกดที่ใช้งานได้ง่าย สามารถกดรองพื้นออกมาได้ในปริมาณที่เราต้องการใช้ มาพร้อมกับฝาขวดแบบพลาสติกหนาที่ดูมีความแข็งแรง ด้านบนาตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ ช่วยเพิ่มความสวยงาม และหรูหราค่ะ
ซึ่งรองพื้นจาก Lancome ตัวนี้เมื่อเทียบกับรองพื้นงานผิวตัวอื่น ๆ อย่าง Bobbi Brown รุ่น Skin Long-Wear Weightless แล้ว จะพบว่าให้ Finish Look ของงานผิวที่ดูแมตต์กว่า แต่ยังคงให้งานผิวที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ดูดูกองกันบนผิว อีกทั้งยังช่วยเบลอรูขุมขน และควบคุมความมันได้ดีมาก ๆ รองพื้นงานผิวตัวนี้จึงคิดว่าเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีผิวมัน และมีปัญหารูขุมขนกว้างค่ะ
ข้อดี
- ครีมรองพื้นเนื้อแมตต์สูตรบางเบา ให้ลุคงานผิวสวยเป็นธรรมชาติ
- ปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าได้เรียบเนียน บางเบาด้วยเทคโนโลยี Airwear
- คุมมัน กันน้ำกันเหงื่อยาวนาน 24 ชั่วโมงตามคำเคลมของทางแบรนด์
- มีค่า SPF 38 / PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
ข้อพิจารณา
- มีราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ของผิวที่ได้แน่นอนค่ะ
- ถ้าเป็นรอยใหญ่ ๆ อย่างรอยสิวอักเสบ แนะนำให้ใช้ควบคู่กับคอนซิลเลอร์ค่ะ
เนื้อรองพื้น | เนื้อครีม |
---|---|
Finish Look | แมตต์เป็นธรรมชาติ |
เฉดสี | 12 เฉดสี |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | SPF 38 / PA+++ |
ปริมาณ | 30 ml. |
MAC Studio Fix Fluid Spf 15 Foundation ครีมรองพื้น

ราคา 1,850 บาท*
รองพื้นจาก MAC ตัวดังรุ่นนี้ก็เป็นรองพื้นอีกหนึ่งตัวที่อยากแนะนำให้ทุกคนลองใช้กันในวันรับปริญญา เพราะคุณสมบัติสุดปังของรองพื้นตัวนี้ที่ช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าให้ผิวดูเนียนสวย ปิดรอยคล้ำใต้ตา รอยแดง และจุดด่างดำเล็ก ๆ ได้ดี เนื้อครีมเกลี่ยง่ายเซ็ทตัวได้เร็วได้ Finish Look แบบแมตต์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แห้งตึง ผิวดูสวยเนียนราวกับมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารบำรุงช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ช่วยทำให้สีรองพื้นไม่ดรอป หรือเป็นคราบระหว่างวัน และยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะด้วยค่า SPF 15 อีกด้วยค่ะ
ซึ่งในส่วนของบรรจุภัณฑ์รองพื้นรุ่น Studio Fix Fluid จาก MAC ก็มาในรูปแบบของขวดแก้วแบบหนาที่ดูแข็งแรงทนทานเช่นกัน แต่ข้อแตกต่างจากรองพื้นขวดแก้วตัวอื่น ๆ ก็คือรองพื้นรุ่นนี้จะไม่มีหัวปั๊มมาให้ค่ะ จะเป็นเพียงปากขวดแบบแคบเอาไว้เทเนื้อรองพื้นออกมาเท่านั้น โดยที่มีฝาปิดแบบพลาสติกหนาเนื้อแมตต์มาให้เพื่อกันหกเลอะเทอะ ทำให้ต้องกะปริมาณการเทรองพื้นให้พอดีโดยส่วนตัวจึงรู้สึกว่าแอบใช้งานยากเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นทางแบรนด์ก็ได้ผลิตหัวปั๊มสำหรับสวมลงไปบนปากขวดมาวางจำหน่ายเพื่อคนที่ต้องการความสะดวกค่ะ
สำหรับในส่วนของตัวรองพื้นนั้นถือเป็นรองพื้นอีกตัวที่อยากแนะนำสำหรับคนที่ต้องการ Finish Look แบบแมตต์ที่ยังดูเป็นผิว และยังติดทนนาน ซึ่งจากการใช้งานของบิวตี้บล็อกเกอร์หลายท่าน และผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต่างรู้สึกประทับใจจนเรียกรองพื้นจาก MAC ตัวนี้ว่ารองพื้นในตำนานอีกหนึ่งตัวเลยทีเดียว ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบกับรองพื้นแบบแมตต์อีกตัวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ต่างกันอย่างรองพื้นรุ่น Double Wear Stay In Place Makeup จากแบรนด์ ESTÉE LAUDER จะพบว่ามีความติดทนที่พอ ๆ กัน แต่ Finish Look ของ MAC จะเป็นแมตต์แบบที่ยังดูเป็นผิว ส่วน ESTÉE LAUDER จะมีความแมตต์มากกว่าค่ะ
ข้อดี
- รองพื้นเนื้อครีมให้ผิวดูสวยแมตต์เป็นธรรมชาติ ไม่แห้งตึง
- ให้การปกปิดที่ดี อำพรางจุดบกพร่องเล็ก ๆ ได้มิด สามารถบิ้วท์เพิ่มได้
- เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย เซ็ตตัวเร็วให้ผิวสวยราวกับมืออาชีพ
- มีส่วนผสมของสารบำรุง ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น
- มีค่า SPF 15 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะ
- มีให้เลือกถึง 36 เฉดสี
ข้อพิจารณา
- เนื้อรองพื้นเซ็ตตัวค่อนข้างเร็ว แนะนำว่าให้ลงรองพื้นแล้วเกลี่ยทีละส่วน จะดีกว่าการแต้มรองพื้นทั้งใบหน้าแล้วค่อยเกลี่ยค่ะ
- ไม่มีหัวปั๊มมาให้ จำเป็นต้องซื้อแยกต่างหากค่ะ
เนื้อรองพื้น | เนื้อครีม |
---|---|
Finish Look | แบบแมตต์ |
เฉดสี | 10 เฉดสี |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | SPF 15 |
ปริมาณ | 30 ml. |
ESTÉE LAUDER Double Wear Stay In Place Makeup SPF10 / PA+++ ครีมรองพื้น

ราคา 1,870 บาท*
เรียกได้ว่าเป็นรองพื้นตัวดังที่ช่างแต่งหน้าหลายคนเลือกใช้ในงานรับปริญญาเลยค่ะ สำหรับรองพื้นจาก Estee Lauder รุ่นนี้ เพราะอนุภาคที่เนียนละเอียดของครีมรองพื้นทำให้สามารถยึดเกาะบนผิวได้ดีแต่ไม่ทำให้รู้สึกหนักผิว ช่วยปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ ของใบหน้าให้ดูเนียนสวยตลอดวัน โดยที่ผิวยังดูสดชื่น และดูเป็นธรรมชาติแม้จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว นอกจากนี้ยังเป็นสูตรที่ไม่ผสมน้ำมัน และน้ำหอม ช่วยให้ผิวไม่ดรอปไม่หมองระหว่างวัน และยังไม่ก่อให้เกิดการอุดตันบนผิวอีกด้วยค่ะ
ซึ่งในส่วนของบรรจุภัณฑ์นั้นก็เป็นแบบขวดแก้วเนื้อหนาที่มีผิวแบบแมตต์ แต่จะแตกต่างจากรองพื้นขวดแก้วแบรนด์อื่น ๆ ตรงที่ใช้ฝาของขวดเป็นสีทองแวววาว ทำให้รองพื้นจาก ESTÉE LAUDER ขวดนี้ให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น แต่ด้านในจะเป็นปากขวดแบบแคบสำหรับเทรองพื้นเช่นเดียวกันกับรองพื้นจาก MAC ซึ่งทำให้เราต้องกะปริมาณการเทรองพื้นให้ดี แต่ในปัจจุบันทางแบรนด์ก็ได้ผลิตหัวปั๊มสำหรับสวมบนปากขวดออกมาวางจำหน่ายเพื่อความสะดวกในการใช้งานแล้วค่ะ
เนื้อสัมผัสของรองพื้นมีความเหลวพอสมควรแต่ไม่ได้ไหลจนเป็นน้ำ ยังคงอยู่ในระดับที่มีความแน่นของเม็ดสีอยู่มาก และมีความหนืดเล็กน้อยเมื่อเกลี่ยบนผิว เมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วเซ็ตตัวค่อนข้างเร็ว ให้ Finish Look แบบแมตต์ที่ไม่มีความมันวาวอยู่เลย จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีผิวมัน นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปกปิดในระดับ Full coverage เพราะรองพื้นตัวนี้ให้การปกปิดที่แน่นมาก ๆ เรียกว่าถ้าเป้นรอยคล้ำบริเวณใต้ตาที่ไม่ได้รุนแรงมากก็สามารถปกปิดได้แนบเนียนโดยที่แทบไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เลยล่ะค่ะ
ข้อดี
- รองพื้นเนื้อครีมให้ Finish Look แบบแมตต์
- ปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ดี แต่บางเบาไม่หนักผิว
- อนุภาคเนียนละเอียด เกาะติดผิวหน้าได้ดี ผิวเนียนสวยตลอดวัน
- มีค่า SPF10 / PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
- เป็นรองพื้นสูตรไม่มีน้ำมัน และน้ำหอม
ข้อพิจารณา
- มีราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ของผิวที่ได้แน่นอนค่ะ
- ไม่มีหัวปั๊มมาให้ จำเป็นต้องซื้อแยกต่างหาก
เนื้อรองพื้น | เนื้อครีม |
---|---|
Finish Look | แบบแมตต์ |
เฉดสี | 10 เฉดสี |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | SPF10 / PA+++ |
ปริมาณ | 30 ml. |
Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation SPF 15 PA++ ครีมรองพื้น

ราคา 2,300 บาท*
สำหรับที่ชอบงานผิว งานลูกคุณหนูเหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิดแต่ปกปิดเริ่ด ขอแนะนำรองพื้นจาก Bobbi Brown ตัวนี้เลยค่ะ เพราะรองพื้นตัวนี้จะช่วยให้ผิวของคุณดูสวยเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยครีมรองพื้นเนื้อแน่นเนียนละเอียดให้ผิวที่ดูเรียบเนียน ช่วยปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยสัมผัสที่บางเบาราวกับเป็นผิวชั้นที่สอง อีกทั้งยังเป็นสูตรควบคุมความมันด้วยส่วนผสมของ Marine sugar cane และ Mineral powder อีกทั้งยังมีสารบำรุงผิวอย่างวิตามิน E , C และ Shea butter ช่วยผิวของคุณดูสวยสดชื่นติดทนตลอดวัน ได้ดรอปไม่หมอง นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดด้วยค่า SPF 15 PA++ อีกด้วยค่ะ
ในส่วนของบรรจุภัณฑ์นั้นก็มาในรูปแบบของขวดแก้วแบบหนา สีใส ดูแข็งแรงทนทาน มีผิวสัมผัสแบบแมตต์ มาพร้อมฝาปิดสีดำที่มีผิวสัมผัสแบบแมตต์เช่นเดียวกัน มีดีไซน์โดยรวมที่ดูมินิมอลเรียบหรู ด้านในมีหัวปั๊มมาให้ ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก และง่ายดาย ช่วยให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องการเทรองพื้นหกเลอะเทอะค่ะ
เนื้อสัมผัสของรองพื้นจาก Bobbi Brown ตัวนี้ค่อนข้างจะแตกต่างจากรองพื้นตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกันกับรองพื้นงานผิวปกปิดดีที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันอย่าง MAC Studio Fix Fluid เพราะเนื้อของรองพื้น Bobbi Brown ตัวนี้จะมีความแน่นมาก เมื่อบีบออกมาแล้วก็พบว่าแทบจะไม่ไหลเยิ้มเลย ซึ่งในการลงรองพื้นนั้นขอแนะนำว่าให้ใช้วิธีการตบเบา ๆ ลงบนผิวแทนการถูลากจะช่วยให้สามารถลงรองพื้นได้เรียบเนียน และได้ผิวที่ดูสวยมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่ และบิวตี้บล็อคเกอร์ต่างเห็นตรงกันว่ารองพื้นตัวนี้ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ปกปิดทั้งรอยดำรอยแดงบนผิว และรูขุมขนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังกันน้ำกันเหงื่อ แถมสีไม่ดรอประหว่างวันอีกด้วยค่ะ
ข้อดี
- รองพื้นงานผิว เผยผิวสวยเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
- ปกปิดจุดบกพร่องบนผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ให้สัมผัสเบาสบายราวกับผิวชั้นที่สอง
- เป็นรองพื้นสูตรควบคุมความมันด้วยส่วนผสมของ Marine sugar cane และ Mineral powder ทำให้รองพื้นติดทนตลอดวันไม่ดรอปไม่หมอง
- มีส่วนผสมของวิตามิน E , C และ Shea butter ช่วยให้ผิวดูสวยสดชื่นตลอดวัน
- มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดด SPF 15 PA++
ข้อพิจารณา
- มีราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ของผิวที่ได้แน่นอนค่ะ
- เนื้อรองพื้นค่อนข้างมีความแน่น และเข้มข้น แนะนำให้ใช้วิธีการตบบนผิวเบา ๆ แทนการถูลากจะช่วยให้ได้งานผิวที่สวย และเรียบเนียนกว่าค่ะ
เนื้อรองพื้น | เนื้อครีม |
---|---|
Finish Look | แมตต์แบบธรรมชาติ |
เฉดสี | 19 เฉดสี |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✔ |
ผสมสารป้องกันแสงแดด | SPF 15 |
ปริมาณ | 30 ml. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว รองพื้นรับปริญญา ยี่ห้อไหนดี กันเหงื่อติดทน หน้าสวยเด้งตลอดวัน ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
CutePress 1-2 Beautiful Airy Matte Foundation รองพื้นเนื้อครีม |
| |||
Maybelline Fit Me Matte + Poreless Liquid Foundation ครีมรองพื้นเนื้อลิควิด |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
ESTÉE LAUDER Double Wear Stay In Place Makeup SPF10 / PA+++ ครีมรองพื้น |
| |||
Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation SPF 15 PA++ ครีมรองพื้น |
|
เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคนกับ 8 อันดับรองพื้นรับปริญญาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ มีตัวไหนที่เข้าตาโดนใจกันบ้างมั้ยเอ่ย? หวังว่าทกคนจะได้รองพื้นรับปริญญาที่เหมาะกับผิวของตัวเองจากคำแนะนำของเรานะคะ
แต่ถ้าหากใครที่กำลังต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับของใช้อื่น ๆ ที่จำเป็นในวันรับปริญญาเราก็ยังมีบทความอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับคุณอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รีวิวรองเท้าคัทชูรับปริญญา, รีวิวถุงน่องขาเรียวสวย หรือบทความเกี่ยวกับเครื่องสำอางอย่างบทความรีวิวแป้งคุมมัน, คอนซีลเลอร์, อายแชโดว์ไพรเมอร์, อายไลเนอร์กันน้ำ, มาสคาร่ากันน้ำ, ขนตาปลอม นอกจากนี้ยังมีรีวิวผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมเพื่อให้ถูกระเบียบ หรือถ้าหากใครไม่อยากย้อมสีผม เราก็ยังมีบทความแนะนำผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชั่วคราวอย่างแว็กซ์เปลี่ยนสีผมหรือสเปรย์เปลี่ยนสีผมอีกด้วย ถ้าหากใครสนใจสินค้าชนิดใดก็สามารถคลิ้กลิ้งก์ที่เราแนบไว้เพื่ออ่านรีวิวได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อน ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันรับปริญญานะคะ บ๊ายบายค่ะ ~~