เรื่องผิวจะว่าเป็นเรื่องเล็กก็เล็กจะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ใหญ่ค่ะ เพราะอันที่จริงแล้วผิวของเราเป็นด่านแรกที่ได้รับและสัมผัสกับสิ่งสกปรก มลภาวะและความเครียดจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งหลายคนอาจจะสนใจแต่ผิวหน้าแต่ไม่ได้สนใจผิวกายเลยแม้แต่น้อยเพราะคิดว่าใส่ชุดก็สามารถปกปิดผิวได้ แต่อันที่จริงเราต้องดูแลผิวให้เท่าเทียมกันค่ะ ในการดูแลผิวกายเราสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลายทั้งสบู่ สครับขัดผิว น้ำมันบำรุงผิวรวมไปถึงโลชั่น

ในบรรดาผลิตภัณฑ์ที่พูดมาโลชั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดค่ะ เพราะโลชั่นจะช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกซึ่งโลชั่นมีให้เลือกมากมายทั้งครีมและโลชั่นสำหรับผิวแห้ง, โลชั่นสำหรับผิวแทน, โลชั่นผิวขาวรวมไปถึงโลชั่นที่มีสารกันแดด แต่หลายคนไม่สามารถใช้โลชั่นเหล่านี้ได้เพราะเกิดอาการแพ้ แต่ไม่แน่ใจว่าแพ้อะไรเราเลยอยากแนะนำให้ใช้ “โลชั่นบำรุงผิวกายสูตรปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free)” แทนค่ะเพราะอาจจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
โลชั่นที่ปราศจากน้ำหอมเป็นโลชั่นที่เหมาะกับผิวแห้ง สามารถช่วยล็อกความชื้นและช่วยปรับสมดุลน้ำมันตามธรรมชาติได้ดีมาก ซึ่งโลชั่นที่ปราศจากน้ำหอมจะช่วยให้เรามั่นใจว่าได้ว่าโลชั่นจะไม่มีสารเคมีหรือแอลกอฮอล์ที่เติมเข้ามาค่ะ หากพร้อมแล้วไปดูกันค่ะว่ามีแบรนด์ไหนน่าสนใจกันบ้าง
โลชั่นบำรุงผิวกายสูตรปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free) จากแบรนด์ไหน ไม่ระคายเคืองและเหมาะกับคุณมากที่สุด?
- โลชั่นฟื้นฟูผิวในตำนาน ลดคันและความแห้งกร้านได้ดี: La Roche Posay Lipikar Fluid โลชั่นบำรุงผิวกาย
- โลชั่นผสมกรดไฮยาลูโรนิก ฟื้นฟูผิวแห้งได้อย่างรวดเร็ว : Neutrogena Hydro Boost Body Gel Cream โลชั่นบำรุงผิวกาย
- โลชั่นผสมข้าวโอ๊ตคอลลอยด์ เหมาะสำหรับคนที่มีอาการคัน: Aveeno Daily Moisturizing Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย
- ได้รับความนิยมมาตลอด ตอบโจทย์คนที่มีผิวแพ้ง่าย: Eucerin pH5 Lotion Sensitive Skin โลชั่นบำรุงผิวกาย
- ผ่านการคิดค้นโดยแพทย์ผิวหนัง เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งและสักลาย: Lubriderm Daily Moisture Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย
- โลชั่นบำรุงผิวกายสุดพรีเมียม ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว: Clinique Deep Comfort Body Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย
ทำไมผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำหอมจึงเป็นทางเลือกที่ดี
หลายคนชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมเพราะมองว่ากลิ่นหอมสามารถให้ความผ่อนคลายได้ดี แต่จริง ๆ แล้วน้ำหอมเป็นสาเหตุหลักเบื้องหลังของอาการแพ้และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ มากมายค่ะ นอกจากนี้น้ำหอมยังเป็นส่วนผสมที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ค่ะเพราะไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผิวของเราเลย

ดังนั้นในช่วงนี้จึงมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากมายในตลาดที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free) ออกมาวางขาย ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่นมาก (Unscented) เพราะจะทำให้การระคายเคืองน้อยลงและเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าค่ะ หากคุณเป็นคนที่มีอาการแพ้บ่อย ๆ แต่ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมแทนค่ะเพราะคุณอาจจะแพ้น้ำหอมก็เป็นได้
คำว่าปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free) VS. ไม่มีกลิ่น (Unscented) แตกต่างกันอย่างไร ?
หลายคนอาจจะสับสนระหว่างคำว่าปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free) และคำว่าไม่มีกลิ่น (Unscented) ค่ะ แต่ทุกคนคะผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free) ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีกลิ่นนะคะ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจจะมีส่วนผสมที่มีกลิ่นเป็นของตัวเอง ตัวอย่างเช่น หากโลชั่นทำด้วยน้ำมันที่มีกลิ่นหอม ทางผู้ผลิตก็ยังสามารถระบุว่าโลชั่นนี้ปราศจากน้ำหอมได้ เพราะจุดประสงค์ของน้ำมันที่มีอยู่ในโลชั่นคือทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวไม่ได้ใช้กลิ่นของมันค่ะ แต่ในทางกลับกันหากผลิตภัณฑ์โลชั่นที่ซื้อมาเป็นสูตรลาเวนเดอร์ซึ่งแน่นอนว่ามีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์อยู่แล้ว แต่หากทางแบรนด์มีการเติมสารเคมีบางชนิดเพื่อกลบกลิ่นผลิตภัณฑ์ก็สามารถติดฉลากว่าไม่มีกลิ่น (Unscented) ได้เช่นกันค่ะแต่ไม่สามารถติดฉลากว่าปราศจากน้ำหอมได้เพราะมีสารเคมีกลบกลิ่นหอมนั่นเอง โดยเราจะขยายความเพิ่มดังนี้ค่ะ
1. ไม่มีกลิ่น (Unscented)
ผลิตภัณฑ์ที่ไร้กลิ่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่น อย่างไรก็ตามข้อความนี้อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดได้ เพราะแม้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่นจะไม่มีกลิ่น แต่ก็ใช้สารเคมีหรือสารอื่น ๆ เพื่อทำให้กลิ่นของส่วนผสมของผลิตภัณฑ์มีความเป็นกลางและทำให้เราไม่ได้กลิ่น สกินแคร์ส่วนใหญ่มีกลิ่นธรรมชาติอยู่แล้วค่ะแต่ก็ยังคงปรุงแต่งกลิ่นให้มีความเป็นกลางมากขึ้นหรืออาจจะกลบกลิ่นไปเลย โดยเราจะขอยกตัวอย่างของกลิ่นโคลนค่ะ โคลนเป็นส่วนผสมหลักของมาสก์โคลนแต่หากใครที่เคยดมกลิ่นของโคลนและมาสก์โคลนมากแล้วจะพบว่ากลิ่นไม่เหมือนกันเลยค่ะ ถึงแม้ว่าโคลนชนิดนั้นจะเป็นโคลนที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์แต่คนที่ใช้จะไม่ได้กลิ่นนั้นค่ะ เพราะทางแบรนด์จะเพิ่มกลิ่นหอมเพื่อซ่อนกลิ่นธรรมชาติของส่วนผสมที่ใช้ค่ะ
2. ปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free)
ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมจากธรรมชาติหรือน้ำหอมสังเคราะห์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีกลิ่นค่ะเพราะผลิตภัณฑ์เหล่ายังมีกลิ่นของส่วนผสมอยู่
เคล็ดลับในการเลือกซื้อโลชั่นบำรุงผิวกายสูตรปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free)
1. ระวังสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free) และไม่มีกลิ่น (Unscented)
คนส่วนใหญ่อาจจะใช้คำอธิบายของผลิตภัณฑ์เพื่อตัดสินใจว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำหอมจริงไหม แต่คำอธิบายของผลิตภัณฑ์อาจทำให้เข้าใจผิดได้ ดังนั้นในการซื้อให้ตรวจสอบฉลากที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์และเช็กว่ามี “Parfum” หรือ “Fragrance” ไหม ในการเลือกโลชั่นบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำหอมเราไม่ควรสับสนกับโลชั่นที่ไม่มีกลิ่น (Unscented) หลายคนคิดว่าทั้งสองอย่างเหมือนกันแต่นั่นเป็นความเข้าใจผิด แม้ว่าโลชั่นที่ไม่มีกลิ่นจะไม่มีกลิ่นที่เราสัมผัสได้แต่อาจจะถูกผสมด้วยกลิ่นหอมเพื่อขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของผลิตภัณฑ์ค่ะ ในทางกลับกันต้องจำไว้นะคะว่าผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมไม่ได้หมายความว่าไม่มีกลิ่น เพราะแต่ผลิตภัณฑ์อาจยังมีกลิ่นจาง ๆ ที่ได้มาจากส่วนผสมที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ค่ะ
2. ส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว
2.1 Humectants
Humectants เป็นสารดูดความชื้นที่ดึงดูดน้ำจากชั้นล่างของผิวและส่งไปยังชั้นบนสุดของผิว ดังนั้นสาร Humectants จะทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นและดูมีสุขภาพดีขึ้นแถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วย สารให้ความชุ่มชื้นหรือ Humectants ที่มีประสิทธิภาพก็คือกลีเซอรีน กรดไฮยาลูโรนิกและสควาเลน สารเหล่านี้เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายจึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ แบรนด์โลชั่นส่วนใหญ่จะใช้กรดไฮยาลูโรนิกเป็นสาร Humectants เพราะกรดไฮยาลูโรนิกเป็นโมเลกุลน้ำตาลที่ร่างกายผลิตขึ้น โดยสามารถกักเก็บน้ำไว้ในเซลล์ผิวได้มาก ส่วนกลีเซอรีนทำงานในลักษณะเดียวกับกรดไฮยาลูโรนิกสามารถดึงดูดน้ำจากสิ่งแวดล้อมสู่ชั้นนอกของผิวและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งอีก ส่วนสควาเลนเป็นส่วนผสมที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบได้ดีและสามารถช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นของผิวได้

2.2 Emollients
Emollients เป็นสารที่จะทำให้ผิวนุ่มขึ้น ส่วนผสมเหล่านี้ได้แก่ น้ำมันและส่วนผสมจากเนย เช่น เชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันแมคคาเดเมีย น้ำมันจะประกอบด้วยกรดไขมันและวิตามินในระดับสูงเพื่อปรับสภาพผิวแห้งอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวมีสุขภาพดีและเนียนนุ่ม แต่ส่วนผสมนี้ซึมเข้าสู่ผิวได้ช้าค่ะดังนั้นจ้องใจเย็น ๆ ปกติแล้ว Emollients มีคุณสมบัติต้านการอักเสบช่วยลดปัญหาผิวที่เป็นสะเก็ดและคัน ช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นและบรรเทาการระคายเคืองได้
2.3 Occlusives
Occlusives เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน โดยปกติแล้วจะเป็นน้ำมันค่ะ น้ำมันจะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ สาร Occlusives ที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ น้ำมันแร่ ไดเมทิโคน ลาโนลินและน้ำมันมะกอก ส่วนผสมเหล่านี้สามารถช่วยบรรเทาผิวที่ระคายเคืองและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวได้ดี
3. สภาพผิว
3.1 ผิวเป็นสิวง่าย
สำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือมีสิวตามลำตัวจะต้องใช้โลชั่นบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขนเพราะอาจทำให้ปัญหาผิวรุนแรงขึ้นและทำให้เกิดสิวได้ โดยปกติแล้วโลชั่นบำรุงผิวที่มีป้ายกำกับว่า “ไม่ทำให้เกิดสิว” จะเป็นโลชั่นสูตรที่ปราศจากส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขนและไม่ทำให้ผิวมัน

3.2 ผิวแห้ง
ความแห้งของผิวจะทำให้ผิวเป็นสะเก็ด คันและการอักเสบได้ ดังนั้นหากคุณกำลังประสบกับอาการเหล่านี้ให้เลือกโลชั่นที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการระคายเคืองผิวได้ เช่น ว่านหางจระเข้และดอกคาโมมายล์ ส่วนผสมเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ บรรเทาความเจ็บปวดและเร่งกระบวนการสมานผิว นอกจากนี้ส่วนผสมยังอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพกับผิวที่ระคายเคืองหรือแพ้ง่าย
3.3 ผิวแพ้ง่าย
สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจะต้องเช็กการดูรายการส่วนผสมอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคืองต่อผิว ในการเลือกซื้อแนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบการแพ้และผ่านการแนะนำโดยแพทย์ผิวหนังเพราะมันจะปลอดภัยต่อผิวค่ะ ปกติแล้วโลชั่นบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำหอมจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจาก National Eczema Association (NEA) การอนุมัตินี้บ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดย NEA และเหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวบอบบางและมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนังค่ะ หากผิวของคุณระคายเคืองหรืออักเสบได้ง่าย อาจจะเลือกซื้อโลชั่นที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และข้าวโอ๊ตคอลลอยด์ก็ได้ค่ะ เพราะโลชั่นมีประสิทธิภาพในการลดการระคายเคืองและทำให้การอักเสบบรรเทาลง
4. เนื้อสัมผัสของโลชั่น
ขณะเลือกโลชั่นบำรุงผิวอย่าลืมตรวจสอบเนื้อสัมผัสของโลชั่นด้วย สำหรับผิวที่ไม่ได้แห้งกร้านให้เลือกโลชั่นที่มีเนื้อบางเบาและซึมซาบเร็ว เพราะโลชั่นเนื้อบางเบาสามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะเอาไว้ ส่วนคนที่มีผิวแห้งมากให้เลือกโลชั่นสูตรเข้มข้นค่ะ นอกจากนี้เราควรจะเปลี่ยนโลชั่นให้เข้ากับสภาพอากาศหรือฤดูกาล เพราะอากาศที่หนาวจัดสามารถดูดความชื้นออกจากผิวได้และทำให้ผิวแห้ง เป็นขุยและคัน เพื่อจัดการกับปัญหานี้แนะนำให้เลือกซื้อโลชั่นเนื้อหนาเพราะสามารถทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งวัน
Eucerin pH5 Lotion Sensitive Skin โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 288 บาท*
ข้อดี
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้เร็วและเห็นผลได้อย่างชัดเจน
- ตอบโจทย์คนที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งเพราะซ่อมแซมผิวได้ดี
- ไม่ก่อให้เกิดสิวและไม่อุดตันผิวอย่างแน่นอน
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของน้ำมันแร่ใครที่แพ้ไม่แนะนำ
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันมิเนอรัลและลาโนลิน |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย |
La Roche Posay Lipikar Fluid โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 435 บาท*
ข้อดี
- ตอบโจทย์สำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวเด็กทารกหรือผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้
- ไม่ทิ้งสารค้างและไม่ก่อให้เกิดความมันเยิ้มแก่ผิว
- ปราศจากสารอันตรายทุกชนิดสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหนียวเหนอะแต่อาจจะเคลือบผิวเอาไว้
ปริมาณ | 400 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | เชียบัตเตอร์และไนอะซินาไมด์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและแพ้ง่าย |
Neutrogena Hydro Boost Body Gel Cream โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 450 บาท*
ข้อดี
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างดีเยี่ยมไม่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น
- เนื้อบางเบามาก สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก
- สามารถใช้งานได้เป็นประจำเพื่อให้สุขภาพผิวดีขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะเหนียวเหนอะหนะบ้างเล็กน้อย
ปริมาณ | 453 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิก |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้ง |
Curel Intensive Moisture Care Moisture Milk Body Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 475 บาท*
ข้อดี
- ไม่ผ่านการแต่งกลิ่น สีและไม่มีแอลกอฮอล์
- ให้ค่า pH ที่สมดุลแก่ผิวและเหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- เกลี่ยง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะทำให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่นตลอดวัน
ข้อควรพิจารณา
- หากมีผิวแห้งมาก ๆ อาจให้ความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ
ปริมาณ | 220 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | เซราไมด์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและแพ้ง่าย |
Lubriderm Daily Moisture Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 599 บาท*
Lubriderm Daily Moisture Lotion เป็นโลชั่นสูตรพิเศษที่ได้คิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผิวหนัง ส่วนผสมหลักของโลชั่นคือวิตามิน B5 กลีเซอรีนและไดเมทิโคน ส่วนผสมทั้งหมดสามารถซ่อมแซมเกราะป้องกันความชื้นของผิว ทำให้ผิวนุ่มและมีสุขภาพดีตลอดทั้งวัน ยิ่งไปกว่านั้นค่ะแบรนด์ Lubriderm เป็นแบรนด์ที่คนรักการสักลายชื่นชอบและมักจะใช้โลชั่นในการดูแลรอยสักของตัวเองเพราะว่าสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ดี
โลชั่นสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีโดยไม่ทำให้หนักผิวหรือมัน เนื้อโลชั่นเป็นสูตรบางเบาใช้งานได้ทุกวันและเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายด้วยค่ะ โลชั่นเป็นขวดปั๊มที่ให้ความสะดวกมาก เพราะเพียงแค่ปั๊มโลชั่นก็ออกมาแล้ว ราคาของโลชั่นมีความสมเหตุสมผลทำให้ Lubriderm Daily Moisture Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำหอมที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดในปีนี้ค่ะ โลชั่นไม่มีกลิ่นและปราศจากน้ำหอมสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ข้อดี
- เนื้อโลชั่นไม่เหนียวเหนอะหนะและแห้งเร็วมาก
- โลชั่นเป็นสูตรที่อ่อนโยนและไม่ระคายเคืองผิวเลย
- โลชั่นเกลี่ยง่ายมากและใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการซึมเข้าสู่ผิว
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของน้ำมันแร่ใครที่แพ้ไม่แนะนำ
ปริมาณ | 709 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | วิตามินบี 5 กลีเซอรีนและไดเมทิโคน |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวธรรมดาและผิวแห้ง |
CeraVe Moisturising Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 629 บาท*
CeraVe Daily Moisturizing Lotion เป็นหนึ่งในมอยส์เจอไรเซอร์โลชั่นที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ ค่ะและใช้เป็นประจำ ทางแบรนด์เคลมมาว่าโลชั่นจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้ส่วนผสมของเซราไมด์ที่แตกต่างกัน 3 ชนิด ซึ่งเซราไมด์จะช่วยบำรุงผิวและช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้น กรดไฮยาลูโรนิกที่มีอยู่จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไว้ได้นาน
โลชั่นปราศจากน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่ทิ้งคราบมันบนผิวและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วมาก หลังจากที่ใช้งานมานานแล้วผู้เขียนขอบอกเลยว่ารักษาผิวแห้งได้อยู่หมัดมาก ๆ ไม่ว่าจะแห้งจากอากาศหรือแห้งจากเครื่องปรับอากาศก็เอาอยู่อย่างแน่นอนค่ะ เมื่อทาเป็นประจำผิวจะนุ่มลื่นมากและดูสุขภาพดีสุด ๆ
ข้อดี
- มีส่วนผสมของเซราไมด์ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ผิวแห้ง
- ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์และปราศจากน้ำมันใช้ได้ทุกวัน
- อ่อนโยนต่อผิวและไม่ระคายเคืองใช้ได้ทุกสภาพผิว
ข้อควรพิจารณา
- ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายแต่อย่าลืมทดสอบอาการแพ้ก่อน
ปริมาณ | 473 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิกและเซราไมด์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและแพ้ง่าย |
Cetaphil ProAD Derma Skin Restoring Moisturizer โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 672 บาท*
Cetaphil ProAD Derma Skin Restoring Moisturizer เป็นโลชั่นที่ปราศจากน้ำหอมและไม่มีกลิ่นด้วยค่ะ โลชั่นจะเหมาะที่สุดสำหรับคนที่มีปัญหาโรคผิวหนัง เช่น กลากเพราะโลชั่นจะไม่ระคายเคืองและไม่อุดตันรูขุมขน ส่วนผสมหลักของโลชั่น Cetaphil คือข้าวโอ๊ตคอลลอยด์มีประสิทธิภาพในการรักษา ลดผิวแห้งและคัน ดังนั้นใครที่มีปัญหาผิวหรือมีอาการคันเป็นประจำโลชั่นจากเซตาฟิลถือเป็นทางเลือกที่ดี
นอกจากข้าวโอ๊ตคอลลอยด์แล้ว โลชั่นยังมีสารให้ความชุ่มชื้น 15 ชนิดพร้อมกับวิตามิน B3, B5 และ E สามารถให้ความชุ่มชื้น บำรุงผิวและปลอบประโลมผิว สำหรับเรื่องความปลอดภัยสามารถมั่นใจได้เลยค่ะ เพราะ Cetaphil เป็นได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัย สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นและทำให้ผิวนุ่มขึ้นได้
ข้อดี
- เหมาะสำหรับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายและมีอาการคันที่ผิว
- ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นที่จำเป็นต่อผิวทำให้ผิวนุ่มขึ้น
- ปราศจากพาราเบนและผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง
ข้อควรพิจารณา
- ซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างช้า
ปริมาณ | 145 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | เชียบัตเตอร์ น้ำมันดอกทานตะวันและกลีเซอรีน |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและแพ้ง่าย |
Gold Bond Ultimate Overnight Deep Moisturizing โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 790 บาท*
ข้อดี
- ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็ว
- ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้กับผิว
- ช่วยล็อกความชุ่มชื้นแก่ผิวได้เป็นอย่างดีทำให้ผิวนุ่มมาก
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับใช้ทาในตอนกลางวันเพราะอาจจะเหนียวได้
ปริมาณ | 226 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิก |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้ง |
Aveeno Daily Moisturizing Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 799 บาท*
ข้อดี
- มีส่วนผสมจากสารธรรมชาติช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีเยี่ยม
- ทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดและช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน
- ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถถูได้ทั่วผิวจึงมีความคุ้มค่ามาก
ข้อควรพิจารณา
- มีส่วนผสมของถั่วเหลืองคนที่แพ้ถั่วเหลืองไม่ควรใช้
ปริมาณ | 1,000 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | ข้าวโอ๊ต น้ำมันดอกทานตะวันและน้ำมันถั่วเหลือง |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย |
Clinique Deep Comfort Body Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย

ราคา 1,440 บาท*
ข้อดี
- ปราศจากสารระคายเคืองผิวทุกชนิดปลอดภัยต่อผิวมาก
- โลชั่นซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะใช้ได้ทุกวัน
- เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวช่วยลดปัญหาผิวแห้งได้ดีมาก
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงแต่ประสิทธิภาพก็คุ้มค่ากับราคา
ปริมาณ | 400 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | สารสกัดจากว่านหางจระเข้และเชียบัตเตอร์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและผิวบอบบางแพ้ง่าย |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว โลชั่นบำรุงผิวกายสูตรปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free) ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
Curel Intensive Moisture Care Moisture Milk Body Lotion โลชั่นบำรุงผิวกาย |
| |||
| ||||
| ||||
Cetaphil ProAD Derma Skin Restoring Moisturizer โลชั่นบำรุงผิวกาย |
| |||
Gold Bond Ultimate Overnight Deep Moisturizing โลชั่นบำรุงผิวกาย |
| |||
| ||||
|
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับผลิตภัณฑ์ที่เราได้แนะนำกันไปในวันนี้ เราหวังว่าทุกคนจะสามารถเลือกซื้อโลชั่นที่ตรงกับความต้องการของผิวได้นะคะ แต่ก่อนจะจากกันหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผลิตภัณฑ์จำนวนมากจึงมีส่วนผสมของน้ำหอม นี่เป็นคำถามที่ดีและคำตอบนั้นก็เดาง่ายมากค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่ชอบเวลาที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมีกลิ่นหอม ทำให้บริษัทเครื่องสำอางเข้าใจถึงความจำเป็นของผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมและเข้าใจผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้น้ำหอมเข้ามามีบทบาทในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก็คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำนวนมากโดยธรรมชาติแล้วกลิ่นจะไม่หอมมากหากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมกลิ่นของสกินแคร์อาจจะฉุนหรือแปลก ๆ ซึ่งตัวน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมละมุนจะสามารถช่วยกลบกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งในการเติมน้ำหอมลงไปจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากแต่สามารถส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นที่เป็นกลางและน่าใช้งานมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ