สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการค่ะ แถมช่วงนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง หลายคนจึงเลือกใช้และรับประทานสินค้าจากธรรมชาติเป็นหลัก และเพื่อสุขภาพที่ดีการรับทานอาหารตามโภชนาการจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้คุณกินผักและผลไม้ รวมถึงการดื่มน้ำให้ได้อน่างน้อยวันละ 8 แก้ว ในบางคนอาจรับประทานน้ำผัก, น้ำผลไม้ รวมไปถึงอาหารเสริมอย่าง อาหารเสริมวิตามินอี, อาหารเสริมวิตามินดี, อาหารเสริมบำรุงดวงตาหรือ อาหารเสริมวิตามินซี เพิ่มเติมเข้าไปด้วย

สำหรับในเรื่องอาหารการกินนั้น ผักและผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์มากที่สุด แต่กลับเป็นอาหารที่มีสารปนเปื้อนมากจากสารเคมียาฆ่าแมลงที่ใช้ในด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม ดังนั้นก่อนที่คุณจะรับประทานผักหรือผลไม้ คุณจะต้องทำการล้างและทำความสะอาดให้ดีก่อน
เพราะการล้างผักและผลไม้มันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการกำจัดแบคทีเรีย สารกำจัดศัตรูพืช และองค์ประกอบที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ที่อาจจะลบล้างประโยชน์ของผักผลไม้นั้นได้ เราจึงอยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ “น้ำยาล้างผักและผลไม้” กันค่ะ
ทำไม น้ำยาล้างผักและผลไม้ จึงมีความสำคัญ ?
ในโลกสมัยใหม่ของเราไม่มีอาหารที่เป็นออร์แกนิกแบบ 100 % และบางอาหารนั้นเต็มไปด้วยสารกำจัดศัตรูพืช โดยเฉพาะสินค้าอย่าง สตรอเบอร์รี่, แอปเปิ้ล, องุ่น, เชอร์รี่ หรือมะเขือเทศ สินค้าเหล่านี้นั้นพบสารปนเปื้อนมากที่สุด ถึงแม้ว่าบางผลิตภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการโฆษณาว่าปลอดสารพิษ แต่ก็อาจมีสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างอยู่บ้างอาจจะมาจากการขนส่งหรือการที่ผู้ขายต้องการให้สินค้ามีความสดเลยอาจจะใส่สารบางอย่างลงไปที่อาจจะอันตรายโดยที่ผู้ขายและเราอาจจะไม่รู้ตัว

หากคุณไม่มีเครื่องล้างผักผลไม้ที่มีราคาสูง การใช้ “น้ำยาล้างผักและผลไม้” เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเน่าเสียของอาหาร และลดการสัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อลดการสัมผัสสารกำจัดศัตรูพืช
เราจะขอแนะนำให้คุณรู้จักกับน้ำยาล้างผักที่ปลอดภัย และเหมาะสำหรับการนำมาทำความสะอาดอาหารที่มีการปนเปื้อนยาฆ่าแมลงมากที่สุด หากคุณเป็นคนรักสุขภาพและต้องการที่จะกำจัดสารพิษออกจากผักและผลไม้ คุณจะต้องไม่พลาดกับบทความนี้ค่ะ
น้ำยาล้างผักและผลไม้ แบบไหนดี เหมาะกับคุณมากที่สุด
- น้ำยาล้างผัก ออแกนิค: ละมุนเบบี้ น้ำยาล้างผักผลไม้สูตรออร์แกนิก
- น้ำยาล้างผัก vegga: King's Stella น้ำยาล้างผักผลไม้ออแกนิค
- น้ำยาล้างผัก กิฟฟารีน: กิฟฟารีน น้ำยาล้างผักผลไม้ ล้างสิ่งสกปรก ล้างสารเคมี ล้างแบคทีเรีย
- น้ำยาล้างผัก ปันปันกรีน: ปันกันกรีน น้ำยาล้างผัก-เนื้อสัตว์ สูตรธรรมชาติ
- น้ำยาล้างผัก ฟาร์มดี: ฟาร์มดี น้ำยาล้างผักสูตรธรรมชาติ
เหตุใดจึงใช้สารกำจัดศัตรูพืชในการผลิตผักและผลไม้?
จากข้อมูลของ EPA สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (1) ระบุว่าสารกำจัดศัตรูพืชถูกใช้เพื่อควบคุมศัตรูพืช ป้องกันเชื้อโรคที่มากับสัตว์ เช่นยุง เห็บและหนู อีกทั้งพวกมันยังใช้ในการควบคุมวัชพืช การระบาดของแมลงและโรคอีกด้วย สารกำจัดศัตรูพืชมีหลายประเภท ได้แก่
- สารกำจัดวัชพืช – Glyphosate พวกมันเป็นยาฆ่าวัชพืชชนิดหนึ่งที่อาจใช้กับพืชธรรมดา (ที่ไม่ใช่อินทรีย์) นี้สารกำจัดวัชพืชที่พบบ่อยได้รับการเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งและการหยุดชะงักของต่อมไร้ท่อ
- ยาฆ่าแมลง – Organophosphates เป็นกลุ่มของยาฆ่าแมลงที่ใช้กันทั่วไปในการผลิต คลอร์ไพริฟอส (Chlorpyrifos) วัตถุสารพิษรุนแรงที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำลายสมองที่กำลังพัฒนาของเด็ก
จากข้อมูลของ NCBI ศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (2) ได้เชื่อมโยงการสัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืชกับอัตราที่สูงขึ้นของโรคเรื้อรังได้แก่
- โรคมะเร็งและโรคเบาหวาน
- โรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสันอัลไซเมอร์และ ALS
- ความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์
- โรคหอบหืดเรื้อรังและอื่น ๆ
สิ่งเหล่านี้มีความเสี่ยงมากสำหรับผู้ที่สัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืช กรณีที่รุนแรงมากมักจะเกิดขึ้นกับคนงานเกษตรที่สัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืชในระหว่างการทำงาน นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนงานในฟาร์มเจ็บป่วยกันเยอะมาก ๆ
วิธีเลือกซื้อ น้ำยาล้างผักและผลไม้ ที่ดีที่สุด
1. แบบสเปรย์หรือแบบน้ำสำหรับแช่
สเปรย์ล้างผักและผลไม้เหมาะสำหรับผู้ที่บริโภคผลไม้และผักสดเป็นประจำ มันใช้งานได้จริงสำหรับการล้างผักและผลไม้อย่างรวดเร็วก่อนบริโภค โปรดทราบว่าสเปรย์สำหรับทำความสะอาดผักและผลไม้นั้นไม่เข้มข้นเหมือนการล้างประเภทอื่น ดังนั้นคุณอาจจะต้องใช้บ่อยขึ้นและค่อนข้างสิ้นเปลือง ส่วนแบบน้ำสำหรับแช่ผักและผลไม้ มาในขวดที่มีความเข้มข้น คุณสามารถเติมน้ำยาเพียง 2 – 3 หยดลงในชามก่อนที่จะแช่ผักและผลไม้ของคุณ เนื่องจากมันมีความเข้มข้นสูงมากจึงมักจะใช้งานได้ยาวนานกว่าสเปรย์ มันเหมาะสำหรับการทำความสะอาดผักและผลไม้หลายชิ้น

2. ส่วนผสม
คุณกำลังจะซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับการล้างผักและผลไม้ ดังนั้นการทำความสะอาดไม่ควรทิ้งสารอะไรไว้ข้างหลัง ผลิตภัณฑ์บางยี่ห้ออาจจะทิ้งสิ่งตกค้างหรือกลิ่นในอาหารของคุณ หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้หากคุณกำลังมองหาความเป็นธรรมชาติในผลิตภัณฑ์ เราแนะนำให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติหรือจากพืช ซึ่งมันจะปลอดภัยกว่ามาก ส่วนผสมที่สำคัญที่น้ำยาล้างทำความสะอาดต้องมี มีดังนี้
- น้ำมันซิตรัส น้ำมันซีตรัสนี้มาจากผลไม้ เช่น มะนาวและเกรปฟรุ้ต มันสามารถช่วยล้างสารตกค้างที่เหนียวและสะสมบนพื้นผิวของผักและผลไม้ของคุณได้ นากจากนี้ยังรางานระบุว่า
- เอทิลแอลกอฮอล์ เอทิลแอลกอฮอล์ที่ได้จากข้าวโพดใช้เป็นยาสมานแผล และใช้ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เสริมความงามอย่างโทนเนอร์เพื่อทำความสะอาดสิ่งตกค้างบนใบหน้าของคุณ และยังสามารถใช้ล้างผักและผลไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
- น้ำมันพืช น้ำมันพืชที่มาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น น้ำมันทานตะวันและน้ำมันมะพร้าว น้ำมันเหล่านี้ทำงานเป็นตัวเจือจางส่วนผสมที่มีคุณภาพ ให้มีฤทธิ์ที่อ่อนโยนลงแต่ก็ยังสามารถล้างผักได้อย่างสะอาดเหมือนเดิม
- เบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดาเมื่อรวมกับน้ำจะแยกสิ่งสกปรกและไขมันออก อีกทั้งมันยังทำงานเป็นเครื่องขัดที่มีคุณภาพ แต่รับรองว่ามันไม่มีสารอันตรายอย่างแน่นอน
3. ได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์
หากคุณต้องการที่จะซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพราะคิดว่ามันดีต่อการล้างผักและผลไม้มากกว่าให้มองหาตรารับรองเกษตรอินทรีย์ เพราะในบางครั้งน้ำยาบางชนิดโฆษณาว่าทำจากส่วนผสมออร์แกนิกที่ปลอดจากสารสังเคราะห์ แต่มันจะไม่น่าเชื่อถือถ้ามันไม่มีตราประทับหรือกับกำ
4. Gluten-free
คุณต้องการสุขภาพที่ดีดังนั้นคุณก็คงไม่ต้องการที่จะเสี่ยงด้วยสารเคมีที่มีความอันตราย หากคุณเป็นคนแพ้ง่ายหรือแพ้กลูเตนที่มักจะพบมากในส่วนผสมที่มาจากข้าวประเภทต่าง ๆ เช่นข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ ก็ให้เลือกน้ำยาล้างที่มีการบ่งบอกว่าปราศจากกลูเตนหรือ Gluten – free เพื่อความปลอดภัย (3)
บูมกรีนพลัส น้ำยาล้างผักและผลไม้

ราคา 75 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 150 มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | เอนไซม์เข้มข้น(มะกรูด, เลมอน, ตะลิงปลิง) |
เหมาะสำหรับ | ผักและผลไม้ |
วิธีใช้ | ผสมน้ำล้างผัก 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ลิตรแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด |
ฟาร์มดี น้ำยาล้างผักสูตรธรรมชาติ

ราคา 100 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 350 มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำหมักผลไม้ตามฤดูกาล น้ำและน้ำผึ้งป่า |
เหมาะสำหรับ | ผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ |
วิธีใช้ | สำหรับผักผลไม้ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร แช่ไว้ 15 นาที สำหรับเนื้อสัตว์ 2-4 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร แช่ไว้ 30 นาที ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำซ้ำอีกรอบ |
King's Stella น้ำยาล้างผักผลไม้ออแกนิค

ราคา 159 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 500 มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ว่านหางจระเข้ สารสกัดจากข้าวโพด โซเดียมและแคลเซียม |
เหมาะสำหรับ | ผักและผลไม้ |
วิธีใช้ | ผสมน้ำล้างผัก 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ลิตรแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด |
ละมุนเบบี้ น้ำยาล้างผักผลไม้สูตรออร์แกนิก

ราคา 245 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 400 มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ส้มและดอกเก็กฮวย |
เหมาะสำหรับ | ผักและผลไม้ |
วิธีใช้ | ผสมน้ำล้างผัก 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ลิตรแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด |
น้ำยาล้างขวดนม ล้างผักผลไม้ Pipper Standard™️

ราคา 245 บาท*
สารสกัดหลักของทาง Pipper Standard™️ คือมะพร้าวและข้าวโพด ดังนั้นน้ำยาจึงค่อนข้างปลอดภัยชนิดที่สามารถนำไปล้างขวดนมให้เด็กได้เลยทีเดียวครับ นอกจากนี้น้ำยายังผ่านการตรวจสอบและทดสอบจากทางแพทย์ผิวหนังมาแล้วว่ามันมีความเป็น ‘hypoallergenic’ หรือมีสารก่อภูมิแพ้ที่ต่ำมาก ทั้งยังไม่ทิ้งสารตกค้างอะไรไว้บนผักที่แช่ลงไปอย่างแน่นอน
ปริมาณ | ขวดละ มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | มะพร้าว และ ข้าวโพด |
เหมาะสำหรับ | ผักและผลไม้ |
วิธีใช้ | ผสมผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ 1 ปั๊ม กับน้ำ 3 ลิตร จากนั้นแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที |
ปันกันกรีน น้ำยาล้างผัก-เนื้อสัตว์ สูตรธรรมชาติ

ราคา 269 บาท*
ปันกรัมกรีนเป็นน้ำยาล้างผักสูตรธรรมชาติ 100% ไร้สารเคมีเจือปน สามารถล้างได้ทั้งผักและผลไม้ เมื่อนำน้ำยาเทเข้าไปผสมน้ำสะอาด มันจะแตกตัวกลายเป็นโอโซน จากนั้นมันก็เข้าไปจัดการสารเคมีภายในผักและเนื้อสัตว์ เพียงแค่แช่ไว้ประมาณ 15 - 30 นาที อาหารของเราก็พร้อมรับประทานหรือนำไปปรุงอาหารแล้ว
ปริมาณ | ขวดละ 750 มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท: | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ส่วนผสมทางธรรมชาติ |
เหมาะสำหรับ | ผักและผลไม้ |
วิธีใช้ | ผสมผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้กับน้ำ 1 ลิตร และแช่ทิ้งไว้ 15 นาที |
กิฟฟารีน น้ำยาล้างผักผลไม้ ล้างสิ่งสกปรก ล้างสารเคมี ล้างแบคทีเรีย

ราคา 300 บาท*
น้ำยาล้างผักของทางกิฟฟารีนเป็นอีกหนึ่งตัวที่คนรักสุขภาพใช้กันเป็นจำนวนมาก โดยน้ำยามีฤทธิ์ในการเข้าไปจัดการพยาธิ, แบคทีเรีย, สารเคมี, ยาฆ่าแมลง รวมไปถึงยังจัดการกับกลิ่นตกค้างแบบหมดจด แต่จะไม่ทำให้สีของผักซีดลง ซึ่งผักที่ล้างเสร็จแล้วจะดูสะอาดและน่ารับประทาน ส่วนความปลอดภัยเองก็ไม่น่าเป็น เพราะสินค้าผ่าน อย. และถูกจัดให้อยู่ในหมวด Food Grade อีกด้วย ดังนั้นคุณสามารถรับประทานผักที่ผ่านการล้างน้ำยาของกิฟฟารีนโดยไม่ต้องกลัวเลยครับ
ปริมาณ | ขวดละ 500 มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ส่วนผสมทางธรรมชาติ |
เหมาะสำหรับ | ผักและผลไม้ |
วิธีใช้ | ผสมผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 5 ลิตร จากนั้นแช่ผักไว้ประมาณ 5 นาที แล้วนำไปล้างน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง |
Shidi ผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้

ราคา 359 บาท*
ปริมาณ | ขวดละ 350 มิลลิลิตร x 1 ขวด |
---|---|
ประเภท | แบบน้ำสำหรับแช่ |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไม่ระบุ |
เหมาะสำหรับ | ผักและผลไม้ |
วิธีใช้ | ผสมผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ 10 มล.(2บีบ) ในน้ำ 20 ลิตร แช่ผัก-ผลไม้ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว น้ำยาล้างผักและผลไม้ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
กิฟฟารีน น้ำยาล้างผักผลไม้ ล้างสิ่งสกปรก ล้างสารเคมี ล้างแบคทีเรีย |
| |||
|
เคล็ดลับในการล้างผักและผลไม้ให้ถูกวิธีก่อนบริโภค
- ก่อนที่จะล้างผลิตผลให้ล้างมือของคุณก่อน การล้างมือมีความสำคัญมากเพราะสามารถป้องกันการแพร่กระจายของ Covid-19 ได้ แม้ว่าคุณจะล้างผักแต่คุณต้องมั่นใจว่ามือของคุณสะอาด ล้างมืออย่างน้อย 20 วินาทีก่อนที่จะทำความสะอาดผลไม้และผัก
- ล้างผักและผลไม้ผ่านน้ำที่กำลังไหล ผลไม้และผักทั้งหมดที่ซื้อจากตลาดสามารถล้างด้วยน้ำไหลตามด้วยการถูด้วยมือ องค์การอาหารและยาแนะนำว่า ให้ล้างผักและผลไม้ก่อนที่คุณจะปอกเปลือก เพราะสิ่งสกปรกและแบคทีเรียจะไม่ถูกถ่ายโอนจากมีดลงบนผลไม้หรือผัก
- ห้ามใช้น้ำยาที่มีสารรุนแรง ห้ามใช้สบู่ ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างผักที่มีสารรุนแรง เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายหรือเกิดรอยช้ำได้ อีกทั้งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเองอีกด้วยค่ะ
- ใช้แปรงหรือฟองน้ำถ้าจำเป็น ในขณะที่ทำความสะอาดผักที่มีราก เช่น มันฝรั่งหรือแครอทควรใช้แปรงผักหรือฟองน้ำเพื่อให้แน่ใจว่าขจัดสิ่งสกปรกออกหมดแล้ว
- ผักและผลไม้บางชนิดต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ผลเบอร์รี่ต้องการความสนใจเป็นพิเศษในระหว่างกระบวนการทำความสะอาด ควรวางมันไว้ในกระชอนและล้างออกด้วยน้ำไหลเพื่อกำจัดเชื้อโรค ในทำนองเดียวกันผักกาดหอมและผักใบเขียวควรวางในชามน้ำเย็น องค์การอาหารและยายังแนะนำให้นำใบด้านนอกสุดของหัวผักกาดหอมหรือกะหล่ำปลีออก แล้วทำให้แห้งด้วยกระดาษชำระเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
References :