แบรนด์ Gucci ถูกจัดว่าอยู่ในระดับไฮเอนด์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั่วโลก ไม่ต่างอะไรจากแบรนด์กระเป๋าแบรนด์เนมจาก Chanel, CELINE, Dior, Louis Vuitton, Yves Saint Laurent (YSL) หรือ Miu Miu เลยแม้แต่น้อย แถม Gucci เองก็ยังถูกจัดให้อยู่ในระดับท็อป ๆ ของฝั่งกระเป๋าแบรนด์เนมเลยด้วยซ้ำ
เมื่อพูดถึงความโด่งดังของแบรนด์นี้ก็ไม่ต้องมองไปที่อื่นไกลค่ะเพราะแค่เราเข้าไปส่องในไอจีดาราหรือเหล่าคนดังไม่ว่าจะเป็นจากทางฝั่งไทย ฝั่งเกาหลี หรือแม้แต่ฝั่งฮอลลีวูดก็ดี เราก็จะเห็นได้เลยค่ะว่าเหล่าคนดังทั้งหลายแหล่ต่างก็ต้องมีภาพที่ร่วมเฟรมกับแบรนด์ Gucci ให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นในวันที่ต้องออกงานแบบจัดเต็มหรือแม้แต่ในวันสบาย ๆ ก็มักจะเห็นข้าวของเครื่องใช้ที่มาพร้อมกับโลโก้ที่ถือเป็นไอคอนิคเฉพาะตัวของ Gucci ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็คงพอที่จะการันตีความนิยมชมชอบในตัวของแบรนด์เก่าแก่อย่าง Gucci ได้แล้วใช่ไหมล่ะคะ?
ชื่อเสียงของแบรนด์ไม่ได้เพิ่งมาเป็นที่รู้จักกันเมื่อสิบยี่สิบปีที่แล้วหรอกนะคะ แต่แบรนด์ Gucci นั้นได้สั่งสมชื่อเสียงและโลดแล่นอยู่ในแวดวงของแฟชั่นชั้นสูงอยู่นานกว่าร้อยปี และแน่นอนค่ะว่าถ้าแบรนด์ไม่เด็ดหรือมีคุณภาพจริง ๆ ก็คงจะไม่ได้มีอายุอานามมาจนถึงปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน แล้วอีกอย่างด้วยมูลค่าของกระเป๋าที่มากไม่ใช่เล่น ๆ ขนาดนี้ ทำไมหลาย ๆ คนถึงกล้าที่จะเสี่ยงหรือยอมเสียเงินหลายหมื่นบาทเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์นี้กันนั้น? วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันถึงที่มาและต้นกำเนิดของแบรนด์ Gucci และเหตุผลที่ต้องเป็นกระเป๋า Gucci เท่านั้น โดยในวันนี้เราก็ไม่ลืมที่จะนำรีวิวกระเป๋า Gucci ทั้ง 10 รุ่นมาฝากกันด้วย มาดูกันค่ะว่ารุ่นไหนใบไหนจะสวยโดนใจคุณบ้าง
กระเป๋า Gucci แบบไหนเหมาะสำหรับคุณมากที่สุด
- กระเป๋าสะพายแบบ crossbody ผลิตจากหนังที่ทนทาน ไม่เป็นรอยง่าย จุของได้เยอะเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน : Gucci Soho Small Leather Disco Bag
- กระเป๋าสะพายขนาดมินิ ผลิตจากหนังผสมด้วยแคนวาสอย่างลงตัว สามารถสะพายได้หลายแบบ : Padlock Mini Bag
- กระเป๋าโท้ททรงสวย ไม่เสียทรง สามารถใส่ของได้เยอะ ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ : Ophidia GG Medium Tote
- กระเป๋าคาดเอวตัวใหม่สุดเก๋ ใช้งานได้ทั้งแบบถือและคาดเอวแบบแฮนด์ฟรี : Gucci Bamboo 1947 Mini Belt Bag
- กระเป๋าสะพายไหล่ที่มาพร้อมกับการตกแต่งด้วย Horsebit อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ : Gucci Horsebit 1955 Shoulder Bag
- กระเป๋า Gucci ที่มีการผสมผสานความสวยงามด้วยหูหิ้วไม้ไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ : Gucci Diana Mini Tote Bag และ Gucci Bamboo 1947 Small Top Handle Bag
- กระเป๋าสะพายไหล่สุด pratical ทรงสวยพร้อมด้วยการตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ดับเบิล G สะพายได้หลากหลายแบบ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป : GG Marmont Small Matelassé Shoulder Bag
1. Gucci Diana Mini Tote Bag

ไหน ๆ ก็เพิ่งพูดถึงกระเป๋ารุ่นที่เป็นไอคอนิคของแบรนด์ไปแล้ว ก็เลยจะขอเปิดการรีวิวด้วยกระเป๋ารุ่นนี้กันเลยแล้วกันนะคะ โดย Gucci Diana เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 ซึ่งชื่อของรุ่นนี้ก็เป็นการตั้งตามชื่อของเจ้าหญิงไดอานานั่นเองค่ะ รูปทรงของกระเป๋าจะเป็นทรง Tote พร้อมด้วยหูหิ้วที่ทำมาจากไม้ไผ่ที่ไม่เหมือนใครแทนการใช้หนังที่หายากนั่นเองค่ะ
แต่ก็ต้องบอกไว้เลยว่านี่เลยถือเป็นโอกาสทองที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักกับกระเป๋าแบรนด์เนมในภาพจำใหม่ ๆ ที่มีการผสมผสานระหว่างไม้ไผ่และหนังได้อย่างลงตัวแบบไม่มีที่ติ หูจับไม้ไผ่นั้นถือเป็นการผลิตที่ใช้ทักษะชั้นยอดเพราะจะต้องคอยให้ความร้อนที่เหมาะสมเพื่อให้ไม้ไผ่อ่อนตัวและดัดได้รูปทรงตามที่ต้องการ จากนั้นก็นำไปเคลือบเงาสวยงาม ซึ่งดูเหมือนจะง่ายใช่ไหมล่ะคะ แต่จริง ๆ แล้วขั้นตอนการทำหูหิ้วนั้นต่างก็ต้องเลือกใช้ไม้ไผ่ที่มีคุณภาพผนวกกับฝีมือและประสบการณ์อันช่ำชองด้วยเช่นกัน

โดยนอกจากความสวยงามของหูหิ้วแล้วนั้น ในรุ่นนี้ก็ยังทำออกมาได้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยสีสันและลวดลายที่มีให้เลือกใช้งานกันอย่างหลากหลาย และที่สำคัญเลยคือยังมาพร้อมกับเข็มขัดขนาดเล็ก 2 เส้นที่ไว้คาดในส่วนของหูหิ้วด้วยค่ะ สีเข็มขัดก็จะเป็นสีนีออนสดใสซึ่งจะตัดกับตัวกระเป๋าอย่างชัดเจน
ในส่วนภายในของกระเป๋าก็จะมีช่องใส่ของหลักเพียงช่องเดียวนะคะ ไม่มีช่องเล็ก ๆ แยกมาให้นะคะ แล้วด้วยรุ่นที่เราเลือกมาเป็นรุ่นมินิทำให้กระเป๋าจึงมีขนาดที่ค่อนข้างที่จะกะทัดรัด แต่ก็สามารถใส่ของใช้จำเป็นอย่างพวกโทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่ ๆ ได้นะคะ ส่วนอะไหล่ก็จะเป็นอะไหล่สีทองทั้งตัวโลโก้ด้านหน้า หมุดกระเป๋าด้านล่าง และตัวเกี่ยวสายสะพาย และใช่แล้วค่ะนอกจากจะใช้เป็นกระเป๋าถือได้แล้ว รุ่นนี้ก็ยังจะสามารถสะพานแบบ Crossbody ได้ด้วยเช่นกันนะคะคุณสาว ๆ
2. Gucci Soho Small Leather Disco Bag

สำหรับโจทย์การมองหากระเป๋าแบรนด์เนมของใครที่ต้องการกระเป๋าสำหรับใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องเน้นการดูแลอะไรมาก จะสะพายขึ้นรถลงเรือหรือไปทำธุระที่ไหน ๆ ก็ไร้กังวล ซึ่งถ้าหากว่าคุณต้องการการใช้งานในลักษณะนี้ กระเป๋าใบนี้ก็ถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของคุณเลยก็ว่าได้
โดย Gucci Soho Disco Bag คือกระเป๋าสะพาย Crossbody ที่ออกแบบมาค่อนข้างที่จะดูเรียบง่าย ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมาย แต่ด้วยความเรียบง่ายนี่เองค่ะที่ทำให้มันกลายเป็นกระเป๋าที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งใบของทางแบรนด์ รูปทรงจะกระเป๋าจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ค่อนข้างที่จะอยู่ทรงสวยแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้แข็งมากจนเกินไปค่ะ ด้านในค่อนข้างเปิดโล่งและมีช่องสำหรับใส่ของ 2 ฝั่ง ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องบอกไว้เลยว่าจุของได้มาก และมากกว่าที่คุณคิดอย่างแน่นอนค่ะ มากจนต้องอึ้งในส่วนการใช้งานถือว่าทำได้ดีให้สามผ่านเลยค่ะ

สายกระเป๋าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบการใช้งานเลยค่ะ ส่วนดีไซน์ภายนอกก็อย่างที่บอกไปว่าเรียบแต่ก็ไม่ได้ดูว่างเปล่ามากนักเพราะว่าด้านหน้าก็มีการตัดเย็บโลโก้แบรนด์ลายนู้น และเติมความน่าสนใจด้วยพู่หนัง และที่ทำให้เราประทับใจที่สุดก็คือหนังเกรนของรุ่นนี้นั่นเอง คือพอเปลี่ยนเป็นหนังเกรนปุ๊บก็ทำให้การใช้งานนั้นสมูท ไร้กังวลใด ๆ เพราะด้วยหนังที่ค่อนข้างแข็งแรงทนทาน ดูสมบุกสมบันดีมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของความอึดทนต่อการใช้งานแล้วนั้น หนังตัวนี้ก็ยังให้สัมผัสที่นิ่มแล้วก็ยังมีน้ำหนักที่เบามาก ๆ คือค่อนข้างที่จะคล่องตัวดีเลย แบบนี้ก็เหมาะสำหรับการสะพายไปเที่ยวด้วยเช่นกันนะคะเนี่ย
3. Jackie 1961 Small Shoulder Bag

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่คิดถึงกลิ่นอายของกระเป๋าทรงวินเทจวันนี้เราก็มีมาแนะนำเช่นกัน โดย Jackie 1961 เดิมนั้นเคยมีการออกแบบขึ้นในปี 1950 ซึ่งในครั้งนั้นมีชื่อว่า Fifties Constance แต่แล้วเมื่อปี 196 คุณ Jackie O. อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐนั้นได้สะพายกระเป๋ารุ่นนี้บ่อยมาก ๆ จนทำให้เกิดกระแสความนิยมกระเป๋ารุ่นนี้กันเป็นอย่างมาก จนในที่สุดชื่อเรียกของกระเป๋าใบนี้ก็ได้เปลี่ยนมาตั้งตามชื่อของคุณ Jackie ซึ่งนอกจากจะเป็นการให้เกียรติแล้วนั้นก็ยังเปลี่ยนให้กระเป๋ารุ่นนี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรามีระดับและดูไฮโซด้วยสไตล์ที่อยู่เหนือกาลเวลาด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งกระเป๋าใบที่เราเห็นนี้เป็นการหยิบกระเป๋ารุ่นคลาสสิกดังที่กล่าวไปมาปัดฝุ่นใหม่และเปลี่ยนให้ดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยลายโมโนแกรมสุดเก๋ทำให้มีดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นค่ะ

ตัวกระเป๋าทำมาจากแคนวาส ตัดแต่งขอบและสายด้วยหนังอย่างดี อยากบอกเลยว่ารุ่นนี้คือสวย งามเนี๊ยบมากทุกคน ว่าด้านหน้าสวยแล้วแต่ด้านข้างคือที่สุดเอาไปเลยสิบเต็มสิบ คือคุณสาว ๆ ลองจินตนาการนะคะว่าตอนที่สะพายไหล่เนี่ย กระเป๋าจะสั้นมาก ๆ คือดังนั้นรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าด้านข้างหรือมุมไหน ๆ ก็ต้องสวยและเนี๊ยบสุด ๆ ซึ่งในส่วนนี้คือปลื้มมากเพราะสวยทุกมุมจริง ๆ เลยค่ะ ด้านหน้าเองก็มาพร้อมกับแถบสีเขียวแดงและตัวล็อกแบบลูกสูบที่ไม่เหมือนใคร ปิดเปิดง่ายมากและล็อกได้แน่นถึงแม้จะไม่มีซิปปิดก็เถอะ แต่แค่นี้ก็ถือว่าปลอดภัยแล้วค่ะ ช่องด้านในจะมีช่องหลัก 1 ช่องและช่องใส่ของข้างละ 1 ช่อง ซึ่งการใช้งานจริงก็ต้องบอกเลยว่าใช้ได้ค่ะ จุของได้เยอะเพราะไม่ได้เป็นรุ่นที่เล็กมาก จัดว่าไซส์กลาง ๆ กำลังดีเลยแหละคุณสาว ๆ
4. Gucci Horsebit 1955 Shoulder Bag

มาต่อกันที่อีกหนึ่งรุ่นที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นค่อนข้างที่จะได้รับความนิยมสูงมาก ๆ คือมันดีย์มากอ่ะรุ่นนี้ Gucci Horsebit 1955 ปรากฏตัวในคอลเลกชัน Cruise 2020 เป็นกระเป๋าสะพายไหล่ที่ผลิตมาจากแคนวาสลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามที่ดูทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับตกแต่งขอบด้วยหนังเรียบชั้นเยี่ยมสีน้ำตาลสุดหรู ส่วนสายสะพายก็จะทำมาจากหนังอีกเช่นกันค่ะ ซึ่งตัวสายก็สัมผัสได้เลยว่าแข็งแรงและทนทานมาก ๆ
นอกจากจะสะพายไหล่ได้แล้วก็ยังสามารถปรับสายมาเป็นการสะพายแบบ Crossbody ได้ ดีไซน์ตัวกระเป๋าจะเป็นแบบมีฝาปิด ขอบโค้งมน ล็อกด้านหน้าด้วยตัวล็อกธรรมดา ไม่ใช่เป็นแม่เหล็กนะคะแต่ก็ถือว่าให้ความปลอดภัยแก่ตัวทรัพย์สินได้ดีมาก ๆ

ตัวล็อกด้านหน้านั้นจะตกแต่งด้วยเหล็กปากม้าหรือ horse bit ซึ่งเป็นการดีไซน์ที่เคยมีมาแล้วในปี 1955 ก่อนที่จะหยิบนำมาเป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋าอีกครั้งนั่นเองค่ะซึ่งนี่กลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ นั่นเอง ขนาดของกระเป๋าก็กำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จุดของได้กลาง ๆ ถึงมากเลยแหละซึ่งด้านในก็จะมาพร้อมกับช่องใส่ของทั้งหมด 3 ช่องหลัก ๆ และยังมีช่องเล็กด้านหน้าอีกหนึ่ง กระเป๋ารุ่นนี้ก็ถือว่าอยู่ทรงสวยรับรองว่าไม่เสียทรง สะพายไหล่ก็สวยเลิศ หรือจะสะพายข้างก็ดูเก๋ไก๋เอาเรื่องอยู่นะคะเนี่ย
5. Dionysus small GG shoulder bag

กระเป๋ารุ่น Gucci Dionysus นั้นถือเป็นการผสมผสานระหว่างความวินเทจและความทันสมัยออกมาได้อย่างลงตัว โดยผลลัพธ์ก็ปรากฎฎออกมาเหมือนอย่างที่เห็นค่ะคือไม่ได้ดูวินเทจมากจนเกินไป และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ดูโมเดิร์นหรูหรามากเช่นกัน โดยตัวกระเป๋าใบนี้ก็จะเป็นการพรีเซนต์ออกมาในลวดลาย GG บนตัวแคนวาสและเติมรายละเอียดด้านหน้าให้ดูเพอร์เฟกต์มากขึ้นด้วยหนังกลับสีน้ำตาลอ่อน
ที่พิเศษและโดดเด่นมาก ๆ อีกอย่างนั่นก็คือตัวล็อกที่ออกแบบมาให้ทั้งสองข้างเป็นหัวเสือ ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพเจ้ากรีกที่มีชื่อว่า Dionysus โดยในตำนานกล่าวว่าเทพองค์นี้ได้ข้ามแม่น้ำ Tigris ด้วยเสือที่ Zeus ส่งมาให้และนั่นจึงเป็นที่ไปที่มาของการออกแบบตัวล็อกอันนี้นั่นเอง

โดยรายละเอียดของตัวล็อกนั้นได้มีการประดับตกแต่งด้วยคริสตัลระยิบระยับสวยงาม ซึ่งการเปิดใช้งานก็แค่กดปุ่มด้านข้างก็เท่านั้นเองค่ะ เมื่อเปิดเข้าไปด้านในก็จะพบกับช่องใส่ของขนาดใหญ่ที่จุของได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ แต่ที่ดูจะสะดุดตาอีกอย่างนั่นก็คือการบุกระเป๋าด้านในที่ทำมาจากหนังกลับทั้งหมด บอกได้คำเดียวเลยว่าสวยมาก ดูหรูหราสุด ๆ
สำหรับสายก็จะเป็นสายโซ่นะคะสามารถสะพายไหล่ได้ สะพายข้างก็ได้ หรือจะสะพายแบบ crossbody ก็ได้อีกเช่นกันค่ะ แต่ด้วยความที่ว่าสายทั้งหมดเป็นสายโซ่อาจจะทำให้รู้สึกเมื่อยหากว่าต้องสะพายเป็นเวลานาน แถมถ้าหากว่าของที่ใส่ค่อนข้างหนักก็อาจทำให้รู้สึกไม่สบายบ่าได้นะคะ แต่ในส่วนนี้ก็เชื่อว่าสาว ๆ ทุกคนน่าจะไม่ซีเรียสอะไรมากเพราะเพื่อความสวยปังอ่ะเนาะ สู้ไหวอยู่แล้ว อิอิ
6. GG Marmont Small Matelassé Shoulder Bag

มาถึงอีกหนึ่งรุ่นที่ต้องยกให้เป็นกระเป๋าสุด Pratical ที่ตีคู่มากับ Gucci Disco เลยก็ว่าได้ ซึ่งรุ่นนี้เรื่องของการใช้งานก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยเพราะสามารถจุของได้เยอะ แถมยังมีดีไซน์ที่สวยงามสุด ๆ ด้วยรูปทรง Camera Bag สุดเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร โดย GG Marmont นั้นเป็นกระเป๋าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหัวเข็มขัดสไตล์วินเทจจาก Gucci ในช่วงยุค 70 นั่นเองค่ะ
โดยดับเบิล G ที่ถูกนำมาใช้ตกแต่งในส่วนของดีเทลด้านหน้านั้นก็จะเป็นอะไหล่สีทองวินเทจ ไม่แวววาวมากเหมือนไหล่ทองทั่วไปและในส่วนของหนังนั้นจะเป็นหนังนิ่ม เนื้อเรียบให้สัมผัสนุ่ม รายละเอียดบนตัวหนังก็จะมีการตัดเย็บด้วยลายนูนที่ดูสวยงามและไม่แย่งซีนความโดดเด่นของตัวดับเบิ้ล G เลยแม้แต่น้อย แล้วก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการผสมผสานที่ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งสำหรับใครที่ชอบความเรียบหรู ไม่ได้เน้นลายโลโก้ที่ดูหวือหวามากไปรุ่นนี้ก็ถือว่าตรงตามโจทย์ความต้องการของคุณเลยละค่ะ

มาดูด้านในของกระเป๋ากันบ้าง โดยรวมถือว่าใส่ของได้ค่อนข้างเยอะเพราะเป็นไซส์ small ที่ไม่เล็กไปและในขณะเดียวกันก็ไม่ดูใหญ่ไป เมื่อแนบกับลำตัวหรือลองสะพายดูแล้วก็ไม่ดูเทอะทะนะคือไซส์กำลังดีมาก ๆ เปิดเข้ามาด้านในก็จะมีช่องสำหรับใส่ของขนาดใหญ่และช่องซิปเล็ก ๆ ซับในจะเป็นไมโครไฟเบอร์
มาถึงการสะพายกันบ้างรุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่สะพายได้หลากหลายแบบโดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์การแต่งตัวแต่วันได้เลย ซึ่งสายนอกจากจะเป็นโซ่แล้วนั้นก็ยังมีส่วนของหนังอีกด้วยซึ่งในส่วนนี้ก็จะแตกต่างจากตัว Dionysus ที่มาเป็นโซ่ล้วนแน่นอนค่ะ ซึ่งถ้าถามว่าดีอย่างไรก็ต้องบอกเลยว่าสะพายได้สบายกว่าเพราะมีหนังรองบ่าที่จะเข้ามาช่วยลดแรงกดทับขณะสะพายนั่นเองค่ะ ถ้าหากเป็นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันก็ดีงามเลยค่ะคุณสาว ๆ เพราะนอกจากจะสวยปังแล้ว นี่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่แมทช์ได้ง่ายมาก ๆ อีกด้วยค่ะ
7. Padlock Mini Bag

เชื่อเลยค่ะว่าสาว ๆ บางคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่อาจจะเป็นคนที่ชอบกระเป๋าใบเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก สะพายง่ายไม่เมื่อยไหล่ ซึ่งถ้าหากว่าคำตอบของคุณคือใช่แล้วละก็ เราก็ขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ Gucci Padlock ใบมินิใบนี้เลยค่ะ คือน้องเค้าเป็นกระเป๋าใบเล็กแต่ไม่จิ๋วจนขนาดที่ว่าใส่ของอะไรไม่ได้เลยนะคะ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นพวกของสำคัญ ๆ อย่างกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือว่าใส่ได้นะคะ แถมยังมีที่เหลือสำหรับใส่พวกของกระจุกกระจิกอื่น ๆ ได้ด้วย แต่ต้องวงเล็บไว้เลยว่าโทรศัพท์มือถือที่ใส่เคสที่ดูอลังการงานสร้างมาก ๆ อาจจะเปลืองพื้นที่นิดนึงนะคะ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าผ่านเลยค่ะ ใช้งานได้โอเค สามารถสะพายข้างได้ สะพายแบบ crossbody ได้ แล้วก็ยังสามารถถอดสายใช้งานเก๋ ๆ ชิค ๆ แบบกระเป๋าถือใบเล็กได้ด้วย

เรามาดูต่อกันที่ดีไซน์ของกระเป๋าใบนี้กันบ้างดีกว่านะคะ โดยการออกแบบนั้นจะเป็นการผสมระหว่างหนังและแคนวาสโดยใช้เฉดที่แตกต่างกันนั่นเอง ตัวกระเป๋าทั้งหมดจะเป็นแคนวาสลายโมโนแกรม ตัดด้วยฝาหนังสีดำสนิทและเพิ่มความโดดเด่นด้วยสายสะพายและหูหิ้วสีน้ำตาล และที่ดูจะเป็นไฮไลต์ที่ดูสะดุดตาคุณสาว ๆ เอามาก ๆ ก็คงจะเป็นตัวล็อกสีทองแวววาวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวล็อกที่ถูกติดตั้งอยู่กับหีบเดินทางนั่นเองค่ะ และถึงแม้จะเห็นว่าเป็นตัวล็อกที่ดูสวยงามและดูมีดีเทลที่เยอะอย่างนี้นะคะ แต่จริง ๆ แล้วตัวล็อกนั้นใช้งานง่ายมาก ๆ ซึ่งรับรองได้ว่าคุณสาว ๆ จะคุ้นชินกับการใช้งานได้ในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างแน่นอนค่ะ
8. Ophidia GG Medium Tote

สำหรับสาว ๆ ที่กะจะลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบแต่ก็อยากให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ใส่ของได้เยอะแบบจุก ๆ ก็ต้องจัดกระเป๋า tote เท่านั้นค่ะ ซึ่งกระเป๋า tote ของทาง Gucci ที่เราหยิบมานำเสนอในวันนี้ก็ถือว่าสวยงามมาก ๆ และเป็นกระเป๋าที่บ่งบอกถึงตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นลายโมโนแกรม Gucci และคาดด้วยแถบสีเขียว-แดง พร้อมกันนี้ยังเพิ่มความเป็น Gucci girl ให้กับคุณสาว ๆ ด้วยโลโก้ดับเบิล G ที่อยู่บนแถบสีด้วยค่ะ
ในเรื่องของการใช้งานนั้นก็ต้องถือว่าเหมือนทางแบรนด์จะออกแบบมาเพื่อให้ใส่ของที่ค่อนข้างมีน้ำหนักได้ดี เพราะว่าสายหนังหนา แข็งแรง และอยู่ทรงสวย แตกต่างจากกระเป๋า tote จากแบรนด์อื่น ๆ ที่สายมักจะอ่อนปวกเปียก แถมกระเป๋ารุ่นนี้เองก็ค่อนข้างที่จะอยู่ทรงสวย จะวางตั้งไว้เฉย ๆ ก็ไม่เสียทรงด้วยค่ะ

มาถึงในเรื่องฟังก์ชันในการใช้งานก็ค่อนข้างไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าด้านในค่อนข้างกว้างมาก ๆ จุของได้เยอะ สาว ๆ คนไหนที่ต้องพกพาสัมภาระเยอะ ๆ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือออกไปข้างนอกก็มั่นใจได้ว่าจุไหวแน่นอนค่ะ และภายในเองก็ยังมีกระเป๋าเล็ก ๆ อีกสองใบ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่เล็กเท่าไหร่เลยค่ะ ค่อนข้างที่จะใหญ่จนสามารถจุโทรศัพท์หรือกระเป๋าสตางค์ได้ ซึ่งนี้ถือว่าค่อนข้างที่จะสะดวกเพราะทำให้คุณสาว ๆ หยิบใช้งานง่ายขึ้น ไม่ต้องไปง่วนอยู่กับการหาของให้เสียเวลานั่นเองละค่ะ
9. Gucci Bamboo 1947 Mini Belt Bag

สำหรับในปี 2022 นี้ทางแบรนด์ก็ได้มีไลน์สินค้าจากไม้ไผ่ญี่ปุ่นตัวใหม่ล่าสุดซึ่งก็คือ Gucci Bamboo 1947 Mini Belt Bag ตัวนี้เลยค่ะ โดยในครั้งนี้ได้มีการชุบชีวิตไม้ไผ่ญี่ปุ่นให้กลับมาโลดแล่นและมีบทบาทในวงการแฟชั่นอีกครั้ง ด้วยการนำมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวล็อกนั่นเองค่ะ และถึงแม้คราวนี้จะไม่ได้นำมาทำเป็นหูหิ้วแบบครั้งก่อน ๆ แต่ก็ต้องบอกเลยว่าการใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในส่วนนี้ลงไปก็สามารถทำให้กระเป๋าคาดเอวรุ่นนี้ดูโดดเด่นและน่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว
เสน่ห์ของไม้ไผ่นอกจากจะมีน้ำหนักที่เบาทำให้ใช้งานสะดวกแล้วนั้น มันก็ยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในวัสดุที่ใครต่อใครต่างก็ลงความเห็นว่าทนทานและดีเทลที่ค่อนข้างเฉพาะตัวและไม่ซ้ำใคร ซึ่งนี่เองค่ะที่เป็นเสน่ห์ Gucci Bamboo 1947 ใบนี้

แต่อย่างไรก็ดีแม้ว่ารุ่นนี้จะเป็นกระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับคาดเอวมากกว่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมันก็ยังสามารถเปลี่ยนมาใช้งานแบบสะพายไหล่ได้ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากสายที่ให้มานั้นเป็นสายที่แตกต่างกันทั้งหมด 3 แบบ คุณจึงสามารถดีไซน์ได้เองเลยค่ะว่าต้องการสะพายแบบไหน แถมสายสะพายเก๋ ๆ ในรุ่นนี้ก็สามารถนำมาใช้คาดเอวเป็นเข็มขัดสุดชิคได้ด้วยเช่นกันค่ะ และสายที่เราถูกอกถูกใจมาก ๆ นั่นก็คือสายหนังที่มาพร้อมกับตะขอปากม้าขนาดใหญ่นั่นเอง ซึ่งมองจากไกล ๆ ก็รู้ได้เลยค่ะนี่แหละ Gucci แน่นอน มาถึงจุดนี้หลายคนอาจจะสงสัยกันใช่ไหมล่ะคะว่ามันจะใส่ของได้มากหรือไม่ ในเรื่องนี้ก็ใส่ได้แน่นอนค่ะ แต่ถ้าหากว่าเป็นของสำคัญที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ก็พอไหวอยู่ (ไหวอยู่ที่แปลว่าใส่ได้) นะคะ อิอิ
10. Gucci Bamboo 1947 Small Top Handle Bag

และขอมาต่อกันที่อีกหนึ่งรุ่นที่ถือว่าสวยงามไม่ต่างจากรุ่นก่อนเลยแม้แต่น้อยนั่นก็คือกระเป๋าถือ Gucci Bamboo 1947 ที่มาพร้อมกับหูหิ้วไม้ไผ่ที่ผ่านการเกลาและเคลือบเงาอย่างสวยงามซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งผลงานของ Alessandro Michele ที่เห็นแล้วก็น่าประทับใจเอามาก ๆ เลยค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นการดีไซน์ที่หยิบเอาเอกลักษณ์ของไม้ไผ่ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของผลงานชิ้นโบว์แดงใบนี้แล้ว ก็ยังมีการผสมผสานความสวยงามแบบสมัยใหม่ ๆ ลงไปด้วย
ซึ่งนี่ก็กล้าบอกเลยว่ากระเป๋าใบนี้เป็นการบอกเล่าถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตผ่านการสร้างสรรค์อันน่าทึ่งอย่างที่เห็นนี่เลยค่ะ และที่ชอบมาก ๆ อีกอย่างหนึ่งคือการดีไซน์รูปทรงที่โค้งมนสวยงาม แตกต่างจากจะ Gucci Diana ที่มาในทรงที่ดูเหลี่ยมกว่านั่นเองค่ะ

นอกจากหูหิ้วที่ทำมาจากไม้ไผ่ที่ดูโดดเด่นแล้วนั้น ก็ยังมีในส่วนของสายสะพายที่ต้องบอกเลยว่าสวยงามและดูทันสมัยเอามาก ๆ ด้วยการออกแบบโดยใช้หนังและสายรัดที่ตกแต่งด้วยแถบเขียวแดง สามารถปรับเปลี่ยนความสั้นยาวได้ตามต้องการ นอกจากนี้ก็ยังมีสายหนังล้วนสำหรับเปลี่ยนใส่ให้ด้วยอีกหนึ่งเส้นค่ะ ซึ่งแค่เปลี่ยนสายก็บอกเลยว่าคุณจะได้สไตล์กระเป๋าและให้ลุคดูที่แตกต่างกันทันทีเลยทีเดียว
ประวัติของแบรนด์ Gucci
ก่อนที่จะมาเป็นแบรนด์เนมชื่อดังและเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกจากสินค้าประเภทเสื้อผ้า, รองเท้า, เข็มขัด, เครื่องประดับ, น้ำหอมม สินค้าเพื่อความสวยความงาม และของตกแต่งบ้านอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนั้น จริง ๆ แล้ว Gucci ได้เริ่มต้นมาจากธุรกิจเครื่องหนังเล็ก ๆ เท่านั้นเองค่ะ
โดยผู้ที่ริเริ่มและเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์นั้นก็คือ Guccio Gucci ชาวเมืองฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลีที่ได้มีโอกาสเดินทางออกตามล่าหาความฝันและประสบการณ์ที่ประเทศอังกฤษ โดยเรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นหลังจากที่ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานขนกระเป๋าในโรงแรมสุดหรูที่มีชื่อว่า Savoy ในกรุงลอนดอน ในระหว่างที่เขาทำงานอยู่ที่นี่นี่เองเขาก็ได้พบเจอกับความสวยงามของกระเป๋าเดินทางและเครื่องหนังของบรรดาชนชั้นสูงในสมัยนั้นผ่านตากันอยู่ทุกวัน แต่แล้วเมื่อได้เห็นมันเข้าทุกวัน ๆ ก็ทำให้เขารู้ตัวทันทีเลยว่าเขานั้นเริ่มหลงใหลในเสน่ห์ของกระเป๋าแะเครื่องหนังเข้าอย่างเต็มเปา Guccio เลยตัดสินใจลาออกแล้วเดินทางกลับมายังอิตาลีเพื่อเริ่มสานต่อความชอบของตัวเองให้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นค่ะ
ในช่วงแรกที่กลับมายังอิตาลีนั้น Guccio ก็ได้ไปร่วมทำงานกับช่างผลิตกระเป๋าหนังเพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้เสียก่อน ครั้นเมื่อความรู้ความสามารถและฝีมือของเขาเริ่มพัฒนาและเก่งกล้ามากขึ้น Guccio ก็ได้เริ่มเปิดธุรกิจเครื่องหนังเป็นของตัวเองครั้งแรกในปี 1921 โดยในช่วงแรกนั้น Guccio ได้ผลิตเครื่องหนังเพื่อส่งขายให้กับพวกคนรวย
แน่นอนว่านอกจากกระเป๋าเดินทางแล้วนั้น เขาก็ยังได้ผลิตอานม้าจากหนังชั้นดีส่งให้ด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นแบรนด์ก็ได้เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่แล้วแบรนด์ก็เกิดปัญหาขาดแคลนหนังที่ใช้ผลิตอย่างหนัก เพราะว่าอิตาลีถูกคว่ำบาตรเนื่องด้วยเหตุผลทางสงครามนั่นเองค่ะ ทางแบรนด์เลยได้พยายามนำวัสดุต่าง ๆ มาใช้ทดแทนเครื่องหนังและนี่ก็ถือเป็นการช่วยต่อลมหายใจให้ Gucci อีกเฮือก
หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็แน่นอนค่ะว่ากระแสของ Gucci ในสมัยนั้นก็ดีตามขึ้นไปด้วย ในช่วงนี้เองก็เป็นช่วงที่ถือกำเนิดกระเป๋าหูหิ้วไม้ไผ่ที่เป็นไอคอนิคมาจนถึงปัจจุบันและเริ่มมีการใช้สีเขียว-แดงมาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ จากนั้นธุรกิจทั้งหมดก็ถูกส่งต่อให้กับลูก ๆ ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารอย่างเต็มตัว ซึ่งก็ดูเหมือนว่าธุรกิจจะไปได้สวยใช่ไหมล่ะคะ แต่ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ค่ะเพราะในช่วงที่มีการส่งมายังรุ่นที่ 3 ก็เกิดวิกฤตหลายอย่างมาก ๆ ทำให้แบรนด์ Gucci เริ่มประสบกับปัญหาทางการเงินอย่างหนัก แต่ในภายหลังก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากที่ได้มาอยู่ภายใต้การบริหารของ PPR และด้วยการบริหารที่ยอดเยี่ยมและดีขึ้นกว่าที่เคยมีมา บวกกับคุณภาพและการดีไซน์ที่เฉพาะอันเป็นทุนเดิมของแบรนด์อยู่ก็ส่งผลทำให้ Gucci กลับมาผงาดอย่างสง่าผ่าเผยอีกครั้ง
ทำไมถึงต้องเลือกซื้อกระเป๋าจากแบรนด์ Gucci?
มาถึงในส่วนนี้หลาย ๆ คนก็อาจจะเคยตั้งข้อสงสัยกันใช่ไหมล่ะคะว่าทำไมหลายคนถึงกล้าทุ่มเงินหลายหมื่นเพื่อที่จะได้ครอบครองกระเป๋าถือใบเล็ก ๆ สักใบ โดยที่เจ้าตัวกลับไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินที่เสียไปเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนี่ก็คือ 5 เหตุผลที่น่าจะไขข้อสงสัยให้กับคุณได้เป็นอย่างดี จะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ
1. ฝีมือการออกแบบชั้นเยี่ยม
อย่างที่เราได้เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าแบรนด์ Gucci นั้นอยู่ในวงการการออกแบบเครื่องหนังมานานและมีประสบการณ์ที่ช่ำชองมาก ๆ ซึ่งนี่เองค่ะที่เป็นใบการันตีได้ว่ากระเป๋าจาก Gucci แต่ละคอลเลกชันนั้นออกมามีคุณภาพและดูดีด้วยการตัดเย็บที่ละเอียดและเนี๊ยบสุด ๆ ซึ่งถ้าหากว่าลองสังเกตดี ๆ นั่นจะเห็นเลยค่ะว่าไม่มีด้ายหลุดลุ่นหรือไม่มีส่วนไหนที่มีตำหนิเลยแม้แต่น้อย
2. สามารถตอบโจทย์ทุกคนต้องการได้เป็นอย่างดี
แฟชั่นเป็นอะไรที่ค่อนข้างที่จะอิสระ ไม่มีอะไรผิดอะไรถูกและไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน การที่กระเป๋าสักใบจะถูกจริตกับใครสักคนนั้นกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ Gucci แน่นอนค่ะ เพราะว่าทางแบรนด์นั้นได้มีการดีไซน์กระเป๋าออกมาได้ค่อนข้างหลากหลายทั้งเรื่องของสี, ขนาด และลวดลาย ซึ่งในส่วนนี้ก็ทำให้กระเป๋า Gucci สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณสาว ๆ แต่ละคนที่มีรสนิยมที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี
3. มีความโดดเด่นเฉพาะตัว
ไม่ว่าจะเป็นโลโก้หรือลายโมโนแกรมต่างก็เป็นที่จดจำของผู้คนทั่วโลก ถึงแม้จะไม่ได้คลุกคลีอยู่ในวงการแฟชั่นมากก็ตาม แต่หากได้เห็นแถบสี โลโก้ หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของแบรนด์แล้วก็รู้ทันทีเลยว่ากระเป๋าใบนี้นั้นมาจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Gucci แน่นอน ซึ่งการสะพายกระเป๋าที่มีสัญลักษณ์ที่เฉพาะตัวเช่นนี้จะทำให้คุณดูแตกต่างและดูโดดเด่นได้ไม่ยาก นอกจากนี้แล้วการออกแบบของทาง Gucci เองก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งทำให้ตัวกระเป๋านั้นดูเด่นไม่แพ้กันค่ะ
4. เป็นแบรนด์ที่น่าลงทุน
การซื้อกระเป๋าของ Gucci โดยเฉพาะรุ่นที่ถือเป็นไอคอนิคของแบรนด์ไม่ใช่เพื่อเป็นการซื้อไว้เพื่อโชว์หรือซื้อมาเพื่อชมเชยอย่างเดียวเท่านั้น แต่การซื้อกระเป๋า Gucci เท่ากับการลงทุนมากกว่าค่ะ เพราะว่ากระเป๋าของคุณนั้นสามารถส่งต่อไปขายได้ในราคาที่สูง แล้วยิ่งรุ่นไหนที่เป็นที่ต้องการแล้วด้วยก็บอกได้เลยว่ามูลค่าก็พุ่งสูงตามไปด้วยเช่นกัน
5. คุ้มค่าในเรื่องของการใช้งาน
และเหตุผลสุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความคุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งในส่วนนี้หากพูดกันแค่ในเรื่องของการซื้อมาใช้งานจริง ๆ แล้วละก็ถือว่าคุ้มมาก ๆ เพราะถึงแม้จะเป็นการจ่ายเงินก่อนใหญ่ในครั้งเดียว แต่ถ้าหากลองเทียบกับอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก ๆ ก็ถือว่าคุ้ม ซึ่งเหตุผลก็ง่าย ๆ นั่นก็เพราะคุณเลือกลงทุนกับแบรนด์ที่ใช้วัสุดพรีเมียมคุณภาพเยี่ยมนั่นเองค่ะ แล้วอีกอย่างอย่าลืมว่ากระเป๋าของ Gucci นั้นเป็นกระเป๋าสุดคลาสสิกที่สามารถใช้งานได้ทุกโอกาส แมทช์ได้ทุกลุค และใช้งานได้ทุกช่วงเวลา โดยที่ไม่มีคำว่าตกเทรนด์อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลหากลองประเมินดูแล้วก็จะพบว่าการลงทุนซื้อกระเป๋า Gucci มาใช้งานั้นคุ้มค่ามาก ๆ ดีไม่ดีคุณอาจจะใช้งานได้หลายสิบปีโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนกระเป๋าเยอะแยะหลายใบเลยนะคะ
กระเป๋าจากแบรนด์ Gucci ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ค่ะที่มีดีมานด์หรือความต้องการที่ค่อนข้างสูงมาก ๆ ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นช่องโหว่ที่ทำให้พวกหัวใสคิดที่จะลอกเลียนแบบกระเป๋า Gucci แล้วนำมาขายในราคาที่ถูกกว่าได้ ซึ่งในส่วนนี้ก็มีเคสตัวอย่างให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ
ดังนั้นแล้วเราขอแนะนำว่าถ้าจะให้ดีควรเลือกซื้อของช็อปของทางแบรนด์ก็จะดีที่สุดนะคะ หรือถ้าหากคุณต้องการกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองก็แนะนำให้เลือกจากร้านที่สามารถไว้ใจได้จริง ๆ เท่านั้น เพราะอย่าลืมนะคะว่านอกจากเงินและความรู้สึกที่เสียไปแล้ว คุณจะไม่ได้อะไรจากการตกเป็นเหยี่อของคนพวกนี้เลยด้วยซ้ำ แถมกระเป๋าที่ได้มาก็ไม่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างสนิทใจ อีกทั้งอายุการใช้งานนั้นสั้นมาก ๆ อีกด้วย ดังนั้นแล้วแนะนำให้ลงทุนอย่างมีสติและใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมด้วยนะคะ