ที่นอนเพื่อสุขภาพ เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เรานอนหลับสบายตลอดทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นหมอนยางพารา, ที่นอนยางพารา รวมถึงชุดเครื่องนอนที่นุ่ม ๆ อย่าง Topper เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นที่นอนที่ดีสำหรับผู้คนปกติ แต่สำหรับผู้ป่วยแล้วที่นอนเพื่อสุขภาพอาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก เพราะสิ่งสำคัญกว่าความสบายคือความสะดวกในการใช้งาน ผู้ป่วยบางคนก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้มากนัก จะลุกจะเดินจะนั่งแต่ละครั้งก็แสนจะลำบาก มันคงจะดีกว่าหากเรามี “เตียงนอนสำหรับผู้ป่วย” ไว้ที่บ้าน ที่สามารถปรับองศาของเตียง, ปรับความระดับความสูงจากพื้นได้, เคลื่อนย้ายได้สะดวก รวมถึงความปลอดภัยที่รัดกุมกว่าเตียงนอนปกติ สิ่งเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ตัวผู้ป่วยเองและผู้ที่ดูแลได้เป็นอย่างดี

หลังจากการผ่าตัดใหญ่หรือคนที่มีโรคประจำตัวซึ่งไม่สามารถขยับร่างกายได้นั้น การพักผ่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย เพื่อที่จะทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ดีผู้ป่วยเองก็อาจจำเป็นที่จะต้องใช้ “เตียงผู้ป่วย” เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการพักผ่อน เพราะถ้าหากคุณใช้ เตียงนอน ทั่วไป มันอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้สำหรับคนที่เป็นผู้ป่วยผ่าตัดหรือผู้ป่วยที่ช่วยตนเองไม่ได้ เพราะเตียงนอนไม่ได้มีระบบความปลอดภัยที่เหมือนกับเตียงผู้ป่วย ซึ่งเตียงผู้ป่วยนั้นออกแบบมาเพื่อรองรับและใช้งานด้านนี้โดยเฉพาะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่จะเลือกซื้อเตียงผู้ป่วยเราก็จำเป็นที่จะต้องดูองค์ประกอบอะไรหลายอย่าง เพราะเตียงผู้ป่วยนั้นมีอยู่หลายประเภท อีกทั้งคุณสมบัติการใช้งานในแต่ละเตียงก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย ซึ่งถ้าหากคุณไม่มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเตียงผู้ป่วยที่เพียงพอ มันก็อาจทำให้คุณซื้อเตียงผู้ป่วยมาไม่ตรงกับความต้องการของตัวเอง ดังนั้นวันนี้ผมจึงนำเอาความรู้และเคล็ดลับในการเลือกเตียงผู้ป่วย รวมไปถึงสินค้าเตียงผู้ป่วยคุณภาพ
ประเภทของเตียงผู้ป่วย
1. เตียงผู้ป่วยระบบมือ

เตียงผู้ป่วยประเภทนี้จะเป็นเตียงทั่วไปที่ระบบการปรับเตียงทั้งหมดจะเป็นระบบที่ใช้มือ ไม่ว่าจะเป็นการปรับหัวเตียงในส่วนหัวหรือส่วนเท้า ทั้งนี้เตียงประเภทนี้ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
-
- เหมาะสำหรับคนที่ไม่จำเป็นที่จะตรงมีการปรับเตียงอะไรมากมาย
- เตียงผู้ป่วยประเภทนี้มีราคาที่ค่อนข้างจะถูก เมื่อเทียบกับเตียงผู้ป่วยประเภทอื่น
ข้อเสีย
-
- หากผู้ป่วยหรือผู้ใช้งานไม่มีแรงพอที่จะหมุนปรับเตียงก็อาจจะเกิดปัญหาได้
- ปรับเตียงได้ค่อนข้างจำกัด เพราะโดยทั่วไปแล้วเตียงประเภทนี้จะปรับได้แค่ส่วนตัวและส่วนเท้า ซึ่งจะไม่สามารถปรับความสูงของเตียงได้
2. เตียงผู้ป่วยระบบกึ่งอิเล็กทรอนิกส์

เตียงประเภทนี้จะเป็นแบบกึ่งระบบมือและระบบไฟฟ้าครับ โดยที่การปรับระดับเตียงในส่วนหัวและส่วนเท้านั้นจะใช้รีโมทในการควบคุม แต่ในการปรับระดับความสูงอาจจะต้องใช้ระบบมือในการหมุนปรับเตียง
ข้อดี
-
- ผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงหรือสามารถขยับมือได้ จะสามารถปรับระดับเตียงได้ด้วยตนเองผ่านรีโมทด้านข่างของตัว
- สามารถปรับระดับเตียงได้โดยไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมเตียงได้มากกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันราคาของสินค้าก็ไม่แพงจนเกินไป
ข้อเสีย
-
- ราคาแพงกว่าเตียงผู้ป่วยระบบมือ
- การปรับความสูงของเตียงยังคงต้องใช้แรงด้วยระบบการปรับด้วยมือ
3. เตียงผู้ป่วยอิเล็กทรอนิกส์

การปรับเตียงไม่ว่าจะเป็นความสูงของเตียง, ระดับความสูงที่หัว และระดับความสูงที่เท้า ล้วนแล้วแต่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ดังนั้นมันจะง่ายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ผู้ใช้งานไม่จำเป็นจะต้องใช้แรงแต่อย่างใด
ข้อดี
-
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับระดับของเตียงโดยที่ไม่ต้องออกแรง และผู้ป่วยสูงอายุที่ไม่มีแรงในการขยับร่างกาย
- ปรับระดับของเตียงได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่มบนรีโมท
- สามารถใช้งานได้ในทุกสถานที่
ข้อเสีย
-
- มีราคาที่ค่อนข้างสูง
วิธีการเลือกเตียงผู้ป่วย
1. ตรงกับความต้องการในการใช้งาน

ก่อนที่จะซื้อเตียงผู้ป่วยเราควรที่จะต้องดูถึงความต้องการก่อนว่าเราจะนำเตียงนี้ไปใช้เองหรือซื้อให้ญาติผู้ใหญ่คนไหน ทั้งนี้คุณต้องการฟังก์ชันของเตียงอย่างไร และมีกำลังซื้อแค่ไหน ถ้าหากคุณลิสต์ความต้องการและรู้ว่าต้องการเตียงผู้ป่วยแบบใด มันจะก็ง่ายต่อการเลือกซื้อมากขึ้นครับ
2. ระยะเวลาการใช้งาน
ระยะเวลาในการใช้งานถือว่าสำคัญมากครับ เพราะหากใช้งานในระยะเวลานาน อย่างผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ คุณก็ควรที่จะเลือกซื้อเตียงที่มีคุณภาพมากที่สุด เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายต่อผู้ใช้งาน แต่ถ้าใช้เวลาในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น ใช้สำหรับพักผ่อนหลังจากผ่าตัดในระยะเวลาไม่เดือน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนอะไรมากมาย
3. ใช้งานต่อวันนานแค่ไหน ?
ถ้าหากผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้เตียงนานกว่า 15 ชั่วโมง ผมแนะนำให้คุณซื้อเตียงที่มีฟังก์ชันครบถ้วนอย่างเตียงผู้ป่วยประเภทอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะถ้าหากคุณใช้เตียงผู้ป่วยระบบมือและระบบกึ่งอิเล็กทรอนิกส์ มันอาจไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะหลัก ๆ แล้วเตียง 2 ประเภทนี้จะเหมาะสำหรับการใช้งานในระยะเวลาสั้นมากกว่า
4. ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนที่ได้หรือไม่ ?
การที่จะซื้อเตียงเราควรที่จะต้องดูผู้ป่วยด้วยครับว่าเขาสามารถเคลื่อนที่หรือขยับตัวได้เองมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากตัวผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เลย คุณก็อาจจำเป็นที่จะต้องซื้อเตียงประเภทกึ่งอิเล็กทรอนิกส์หรืออิเล็กทรอนิกส์ เพราะมันจะสามารถปรับความสูงของเตียงได้ ในขณะที่เตียงแบบระบบมือบางรุ่นอาจไม่สามารถที่จะปรับความสูงของเตียงได้ครับ ฉะนั้นในบางครั้งที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยก็อาจจะค่อนข้างลำบากเล็กน้อย
5. รองรับน้ำหนักผู้ป่วยได้มากแค่ไหน
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะต้องให้ความใส่ใจมากที่สุดครับ เพราะเตียงผู้ป่วยนั้นควรที่จะสามารถรองรับน้ำหนักของผู้ป่วยได้ดี ทั้งนี้หากเตียงไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างแข็งแรง มันอาจจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ครับ ยิ่งโดยเฉพาะคนที่ต้องนอนหลังจากการผ่าตัดยิ่งต้องดูในจุดนี้ให้ดี ๆ
6. มีการรับประกันสินค้า
เตียงผู้ป่วยถือเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นสินค้าที่เราจะซื้อควรที่จะต้องมีการรับประกันจากผู้ขาย เพราะในระหว่างการส่งสินค้าอาจทำให้สินค้าเกิดการเสียหายได้ครับ ฉะนั้นถ้าสินค้ามีการรับประกันเราจะสามารถเปลี่ยนสินค้าได้
วิธีการใช้งานเตียงผู้ป่วยที่ถูกต้องและปลอดภัยต่อผู้ป่วย
1. ล็อกล้อของเตียงผู้ป่วยตลอดเวลา
คุณควรที่จะล็อกเตียงผู้ป่วยตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้เตียงนั้นเคลื่อนที่จะอาจเกิดอันตรายต่อตัวผู้ป่วย ทั้งนี้การปลดล็อกล้อก็ควรที่จะปลดเฉพาะตอนที่ต้องการเคลื่อนเตียงเท่านั้น เมื่อเคลื่อนเตียงตรงจุดที่ต้องการแล้วก็ให้ล็อกล้อทันที
2. วางหรือแขวนรีโมทปรับเตียงไว้ให้ถุกจุด
ควรวางหรือแขวนไว้ในที่ที่สามารถกดหรือใช้งานได้ง่าย ทั้งนี้เมื่อได้สินค้ามาแล้วก็ควรที่จะทดลองปรับเตียงในลักษณะต่าง ๆ เพื่อดูว่าเตียงนั้นมีการเคลื่อนตัวอย่างไร เพื่อที่จะได้รู้และใช้งานได้อย่างถูกต้อง
3. ดึงรั้วกันข้างเตียงไว้ตลอดเวลา
เพื่อป้องกันผู้ป่วยตกเตียง ญาติหรือผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องดึงรั้วกันทั้งสองข้างของตัวขึ้นตลอดเวลา ทั้งนี้สามารถดึงลงได้เฉพาะตอนที่มีคนดูแลอยู่ข้างเตียงหรือจำเป็นที่จะต้องลุกออกหรือเข้ามานอนในเตียงเท่านั้น
4. ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต
คุณควรที่จะอ่านคู่มือการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่ติดมาให้ถี่ถ้วนและปฏิบัติตามทุกข้อครับ เพราะความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยที่ใช้งาน เพราะหากเกิดอุบัติจากการใช้งานที่ผิดวิธีมันอาจทำให้ผู้ป่วยที่นอนนั้นเจ็บหนักกว่าเดิม ดังนั้นอย่าละเลยตรงจุดนี้อย่างเด็ดขาด
5. ควรที่จะสามารถปรับได้อย่างอิสระ
ตัวปรับระดับรีโมทหรือตัวหมุนแบบใช้มือนั้นควรที่จะสามารถปรับเตียงได้อย่างอิสระ โดยที่ไม่ต้องใช้อีกมือในการช่วยดันเตียง โดยถ้าหากตัวปรับระดับเริ่มติดขัดนั่นแสดงว่าเตียงผู้ป่วยเริ่มจะเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว ดังนั้นควรนำเอาไปซ่อมหรือซื้อใหม่ครับ