เราเชื่อว่านาทีนี้คงจะไม่มีใครไม่รู้จักหนึ่งในแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง หัวเว่ย (Huawei) แน่นอน ซึ่งปัจจุบัน Huawei ได้กลายเป็นหนึ่งแบรนด์ชั้นนำของโลกไปแล้ว ที่มีทั้ง Apple, Samsung และ Huawei หลังจากที่ได้ใช้ความพยายามและความทุ่มเทอย่างหนักในการพิสูจน์ตัวเองมาหลายปี ออกแบบและผลิตผลิตภัณฑ์ออกมามากมาย โดยมีหลาย ๆ รุ่นที่สามารถสร้างได้ชื่อเสียงให้กับ Huawei และสามารถทำให้คนทั่วโลกต้องฮือฮาไปกับเทคโนโลยีอันทันสมัย ล้ำหน้าเหนือคู่แข่งเจ้าตลาด
Huawei นำเสนอสมาร์ทโฟนมากมายหลายระดับ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น, สมาร์ทโฟนราคาประหยัด, สมาร์ทโฟนระดับกลาง ไปจนถึงสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง อย่าง Huawei Mate 40 Series เรือธงรุ่นล่าสุด นอกจากนั้นยังมีรุ่นขายดีอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจาก สมาร์ทโฟนหัวเว่ย (Huawei Phones) มักจะโดดเด่นในเรื่องเซ็นเซอร์กล้องถ่ายภาพที่ล้ำสมัย เป็นผลมาจากความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำในเรื่องกล้องถ่ายรูป อย่าง Leica จึงทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงหลาย ๆ รุ่นของหัวเว่ย กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีที่สุด นอกจากนี้ สมาร์ทโฟน หัวเว่ย (Huawei Phones) ก็มักจะมาพร้อมกับ สเปคเครื่องที่สูงเกินราคาอีกด้วย ทำให้มันมีความคุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
แต่ด้วยความที่ สมาร์ทโฟนหัวเว่ย (Huawei Phones) มีมากมายหลายรุ่น และหลายระดับราคา มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะเลือก สมาร์ทโฟนหัวเว่ยสักเครื่องนึงมาใช้งาน และนี่ก็คือ สาเหตุที่เราเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยให้คุณได้ลองเปรียบเทียบสเปคต่าง ๆ ของแต่ละรุ่น สำหรับมองหาสมาร์ทโฟนที่มีสเปคตรงกับความต้องการของคุณครับ ซึ่งมันจะมีรุ่นอะไรน่าสนใจบ้าง ? ตามไปดูกันเลยครับ
สมาร์โฟน Huawei มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
สำหรับ สมาร์ทโฟนหัวเว่ย (Huawei Phones) มีจุดที่น่าสนใจหลากหลายอย่างครับ โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งหัวเว่ยยังเป็นเจ้าของ HiSilicon ยักษ์ใหญ่ในการออกแบบ และผลิตชิปประมวลผลที่เรารู้จักกันดีอย่างชิปเซ็ต Kirin ที่ใช้งานอยู่ในมือถือหลาย ๆ รุ่น ซึ่งด้วยความที่ผลิตใช้เองเป็นหลัก การออกแบบซิปเซ็ตของหัวเว่ย จึงมีความสอดคล้อง และสอดรับกับ ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ ในเครื่องได้เป็นอย่างดี ทำให้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งและก็ยังสามารถจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเทคโนโลยีที่หัวเว่ยได้ทำการพัฒนาขึ้นมาเองเพื่อนำมาพัฒนาสมาร์ทโฟนของพวกเขาให้มีคุณภาพสูงขึ้น และโดดเด่นกว่าคู่แข่ง อาทิเช่น ฟังก์ชันกล้อง ระบบ AI ต่าง ๆ โหมดการเล่นเกม และยังมีอื่น ๆ อีกมากมาย
สมาร์ทโฟนหัวเว่ย (Huawei Phones) รุ่นไหนดีที่สุด ?
- สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับกล้องประสิทธิภาพสูง ถือว่าดีที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมาก ๆ: HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)
- สมาร์ทโฟนระดับท็อปที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด แม้จะเปิดตัวออกมานานแล้ว แต่ด้วยสเปคที่ให้มาและราคาที่ลดลง ทำให้รุ่นนี้คุ้มค่ามาก ๆ สเปคแรง กล้องเทพ แถมดีไซน์สวย: Huawei Mate 30 Pro 5G (8GB/256GB)
- สมาร์ทโฟนระดับเรือธงอีกหนึ่งรุ่นที่มาในราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบสุดพรีเมี่ยม สเปคระดับท็อป เร็ว แรง พร้อมกล้องคุณภาพสูงทั้งหน้าและหลัง: Huawei P40 Pro 5G (8GB/256GB)
- สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงเกินราคา ดีไซน์สุดหรู สเปคแรง หน้าจอใหญ่ กล้องคุณภาพสูงทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แถมแบตฯ อึด รองรับชาร์จไวถึง 66 วัตต์: Huawei Nova 8i (8GB/128GB)
- สมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่คุ้มค่าที่สุด ดีไซน์สวย หน้าจอขนาดใหญ่ไร้ขอบความละเอียดสูง สเปคกำลังดี ใช้งานได้อย่างลื่นไหล แถมแบตฯ อึด เหมาะมาก ๆ สำหรับการเล่นเกม: Huawei Smartphone Y7a (4GB/128GB)
วิธีการเลือก สมาร์ทโฟนหัวเว่ย ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?
1. สำหรับคนที่ต้องการนำไปเล่นเกม
หากคุณต้องการมือถือเพื่อนำไปเล่นเกม คุณต้องดูที่ขนาดของแรมเป็นสำคัญ เนื่องจาก RAM คือ ตัวช่วยการประมวลผลของสมาร์ทโฟน ไม่ต่างไปจาก แรม (RAM) ของคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค ซึ่งในปัจจุบันนี้ RAM ควรจะมีมากกว่า 4GB ขึ้นไป ยิ่งมีแรมเยอะมากเท่าไหร่ มันก็จะทำให้มือถือประมวลผลได้ดีและรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล และเล่นเกมไม่มีสะดุด
2 สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ
สำหรับกล้องมือถือในปัจจุบันนั้น ถูกพัฒนาขึ้นมาจนมีประสิทธิภาพสูงมากจนเกือบที่จะเทียบเท่ากับ กล้องมิลเลอร์เลส, กล้องคอมแพค, กล้อง DSLR หรือกล้องถ่ายวิดีโอ แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณเป็นคนนึงที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ และชอบการถ่ายภาพทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ที่คุณเจอ คุณก็ต้องพิจาราณาจากความสามารถของกล้องเป็นหลัก ทั้งความละเอียด เทคโนโลยี โหมดการถ่ายภาพ และฟังก์ชันต่าง ๆ ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นต่างกัน
3. ความจุแบตเตอรี่ และวิธีการชาร์จก็สำคัญ

หากคุณจำเป็นต้องใช้มือถือเวลาข้างนอกอยู่ตลอด แบตเตอรี่ของมือถือรุ่นที่คุณเลือกควรมีความจุสูง ๆ เข้าไว้ ถึงแม้ว่าเราจะมีเคสแบตฯ สำรอง หรือพาวเวอร์แบงค์ให้ได้ใช้งานกัน แต่มันก็ทำให้ใช้งานไม่ค่อยสะดวก นอกจากนี้เทคโนโลยีการชาร์จ ก็มีความสำคัญเช่นกัน ถ้าจะให้ดีจะต้องมีระบบชาร์จไวมาให้ด้วย เพื่อความรวดเร็วในการชาร์จครับ
และนี่ก็คือ วิธีการเลือกแบบง่าย ๆ ครับ โดยเอาการใช้งานของคุณเป็นหลัก เพื่อหาสมาร์ทโฟนรุ่นที่เหมาะกับคุณ แต่ถ้าหากว่าคุณยังไม่มั่นใจและยังไม่สามารถตัดสินใจได้ คุณสามารถเข้าไปอ่านวิธีการเลือกซื้อมือถือที่ดีที่สุดเพิ่มเติมได้ เพื่อให้คุณได้สมาร์ทโฟนรุ่นที่เหมาะสมกับคุณที่สุดไปใช้งาน และต่อไปนี้ก็คือ 10 อันดับ สมาร์ทโฟนหัวเว่ย (Huawei Phones) รุ่นที่น่าสนใจที่สุด ปี 2021 ซึ่งมันจะมีรุ่นอะไร ? และราคาเท่าไหร่บ้าง ? ตามไปดูกันต่อเลยครับ
Huawei Y6p (4GB/64GB)

ราคา 3,680 บาท*
Huawei Y6p สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น ราคาประหยัด มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD มีอัตราส่วนหน้าจอต่อขนาดตัวเครื่อง 87% ให้ประสบการณ์การรับชมที่กว้างและสมจริง เหมาะกับทั้งการเล่นเกม การค้นหาข้อมูล และการอ่าน มาพร้อมกับ 2 สีสันตัวเครื่องที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ดูสดใสสวยงาม ในด้านสเปคใช้ชิปประมวลผล Mediatek MT6762R และ IMG GE8320 ช่วยให้การประมวลผลเป็นไปอย่างลื่นไหล ทำงานคู่กับพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ โดยแรม 4GB และรอม 64GB อีกทั้งยังรองรับที่เก็บข้อมูลภายนอกสูงสุด 512GB หมดห่วงเรื่องหน่วยความจำของตัวเครื่อง ในด้านของกล้อง มาพร้อมกล้องหน้า 8MP ที่มีรูรับแสง f/2.0, FF ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่ได้ดีขึ้นแม้อยู่ในที่ที่มีแสงน้อย และกล้องหลังสามตัว โดยมีเลนส์หลักที่ชัดเจน 13MP, เลนส์มุมกว้าง 5MP และสุดท้ายเลนส์ความลึกอีก 2MP ทำให้มันสามารถมอบภาพที่ดูสวยงาม คมชัดทุกรายละเอียดได้ พร้อมฟังก์ชันถ่ายภาพอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ในด้านแบตเตอรี่ รุ่นนี้มาพร้อมความจุถึง 5,000 mAh รองรับงานประจำวันของคุณได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ 6 นอกจากนี้ Y6p ยังสามารถใช้เป็นเครื่องชาร์จได้ด้วย เพื่อชาร์จแบตฯ ให้กับโทรศัพท์เครื่องอื่น ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.3 นิ้ว 720 × 1600 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 10.1 based on Android 10, no Google Play Services |
CPU | Mediatek MT6762R Octa Core |
GPU | IMG GE8320 |
RAM | 4GB |
ROM | 64GB |
กล้องหน้า | 8MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh |
Huawei Smartphone Y7a (4GB/128GB)

ราคา 4,700 บาท*
Huawei Y7a สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มาในราคาสุดคุ้ม มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู ดูพรีเมี่ยม ตัวเครื่องบางเบา ขอบโค้งมนรองรับการสัมผัสได้อย่างพอดีมือ ขอบหน้าจอบางเฉียบ ใช้หน้าจอแสดงผลที่กว้างถึง 6.67 นิ้ว ความละเอียด ระดับ FHD+ ให้ภาพที่คมชัดสวยงาม สีสันสดใส เพิ่มความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มปลดล็อคที่ด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งจะทำงานใน เสี้ยววินาที สะดวกสบายต่อการใช้งานยิ่งกว่า ในด้านสเปคต้องบอกว่าคุ้มค่าเกินราคา ใช้ชิป Kirin 710A ในการประมวลผล ในส่วนกราฟิกใช้ชิป Mali G51-MP4 พร้อมแรม 4GB และรอม 128GB นอกจากนี้ยังรองรับ MicroSD ได้สูงสุดถึง 512GB สำหรับการถ่ายภาพรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับความโดดเด่น โดยกล้องหน้าความละเอียด 8MP ที่ติดตั้งมาตรงกลาง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเซลฟี่ และกล้องหลังเป็นกล้องความละเอียดสูง 4 เลนส์ โดยเลนส์หลักมีความละเอียดสูงถึง 48MP เลนส์ Ultrawide 8MP เลนส์ Macro 2MP และเลนส์ Depth 2MP ซึ่งจะมาพร้อมเทคโนโลยี AI ที่ชาญฉลาด ซึ่งทำให้คุณไม่พลาดแม้แต่รายละเอียดเพียงเล็กน้อย แม้จะมีแสงน้อย ในส่วนแบตเตอรี่ให้ความจุมาที่ 5,000 mAh ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จไวของ HUAWEI SuperCharge 22.5 วัตต์
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.67 นิ้ว 1080 × 2400 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 10.1 based on Android 10, no Google Play Services |
CPU | Kirin 710A Octa Core |
GPU | Mali G51-MP4 |
RAM | 4GB |
ROM | 128GB |
กล้องหน้า | 8MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh (รองรับชาร์จไว 23W) |
Huawei Y9s (6GB/128GB)

ราคา 6,580 บาท*
Huawei Y9s สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม ซึ่งมาในราคาสุดคุ้มค่า ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 ซึ่งอาจจะเก่าไปสักหน่อย แต่ก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะ สำหรับรุ่นนี้มาในดีไซน์การออกแบบที่ดูพรีเมี่ยมแบบสุด ๆ มีหน้าจอแบบ Ultra FullView Display ไร้ขอบ และไร้ติ่งของกล้องหน้า มาในขนาดที่ใหญ่ถึง 6.59 นิ้ว มีความละเอียดระดับ FHD+ ช่วยให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใสมากยิ่งขึ้น และด้วยความที่เป็นจอไร้ขอบ ทำให้ดูภาพได้อย่างเต็มๆ ตา ในด้านขุมพลังใช้รุ่นนี้ชิปเซ็ต Kirin 710F ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทุกการใช้งานไม่ติดขัด พร้อมแรม 6GB และรอมอีก 128GB ทั้งยังสามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงถึง 512GB อีกด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผล ทำงานได้อย่างราบรื่น ทำให้ใช้เล่นเกมได้อย่างสบาย ๆ ส่วนการถ่ายภาพรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ซึ่งเลนส์หลัก 48MP เลนส์อัลตร้าไวน์ 8MP และเลนส์ลึกอีก 2MP ทั้งยังมี AI ช่วยปรับทุกภาพให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ถ่ายภาพได้หลากหลายแนว ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบป็อพอัพ 16MP สามารถถ่ายเซลฟี่ได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมฟังก์ชันการถ่ายภาพอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน และมีเทคโนโลยีชาร์จไว 22.5 วัตต์ สามารถชาร์จ 50% ได้ภายใน 30 นาที เท่านั้น
หน้าจอแสดงผล | 6.59 นิ้ว 1080 × 2340 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 9.1 based on Android 9.0 (Pie) |
CPU | Kirin 710F Octa Core |
GPU | N/a |
RAM | 6GB |
ROM | 128GB |
กล้องหน้า | 16MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,000 mAh (รองรับชาร์จไว 22.5W) |
Huawei Nova 7 SE 5G (8GB/128GB)

ราคา 7,979 บาท*
Huawei Nova 7 SE 5G สมาร์ทโฟนระดับกลางที่เปิดตัวไปเมื่อมิถุนายน 2020 มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม ดูหรูหราด้วยพื้นผิวกระจก 3D ที่สะท้อนแสง แสดงผลบนหน้าจอ Huawei Punch ชนิด IPS ขนาด 6.5 นิ้ว ความคมชัดสูงระดับ FHD+ และรองรับ HDR 10 มอบภาพที่มีความคมชัด สวยงาม พร้อมขอบจอบางเฉียบ มอบมุมมองที่กว้างเต็ม ๆ ตา ใช้งานสะดวก ขับเคลื่อนด้วยด้วยชิป Kirin 820 และกราฟิก Mali-G57 MC6 ช่วยให้มันประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ทำงานร่วมกับแรม 8GB และรอม 128GB ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล สามารถใช้งานต่าง ๆ ได้แบบไม่ติดขัด และรองรับ 5G ด้วย ช่วยให้ใช้งานเครือข่ายความเร็วสูงได้ ในด้านการถ่ายภาพก็โดดเด่นเช่นกัน สามารถใช้ถ่ายรูปได้หลากหลายแนวจา กกล้องหลัง 4 เลนส์ ซึ่งมีเลนส์หลัก 64MP เลนส์ Ultrawide 8MP เลนส์ Macro 2MP และสุดท้ายเป็นเลนส์ Depth 2MP มอบภาพถ่ายที่คมชัด ไม่เสียรายละเอียด พร้อม ทั้งมี AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมาย คอยช่วยปรับแต่งให้ทุกช็อตดูสวยเป็นธรรมชาติ ทั้งยังรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K และ Slow Motion ได้อีกด้วย ส่วนกล้องหน้า เลนส์มาพร้อมความละเอียดถึง 16MP ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ออกมาสวย เป็นธรรมชาติ แม้จะถ่ายในที่แสงน้อยก็ดูดีได้ นอกจากนี้ในด้านแบตเตอรี่รุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh ซึ่งสามารถอยู่ได้ตลอดวัน และแถมยังรองรับระบบชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge สูงถึง 40 วัตต์ ด้วย
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.5 นิ้ว 1080 × 2400 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 10.1 based on Android 10, no Google Play Services |
CPU | Kirin 820 5G Octa Core |
GPU | Mali-G57 MC6 |
RAM | 8GB |
ROM | 128GB |
กล้องหน้า | 16MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,000 mAh (รองรับชาร์จไว 40W) |
Huawei Nova 8i (8GB/128GB)

ราคา 8,990 บาท*
HUAWEI nova 8i สมาร์ทโฟนที่สายแฟชั่นต้องเหลี่ยวมอง มาในรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และพรีเมี่ยมเป็นอย่างมาก ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฏาคม 2021 แสดงผลบนหน้าจอ HUAWEI Edgeless Display หน้าจอไร้ขอบขนาด 6.67 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดสูงระดับ FHD+ มอบภาพที่คมชัด แสดงรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก Snapdragon 662 ทำงานคู่กับชิปกราฟิก Adreno 610 ช่วยให้มีการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมาก พร้อมกับแรม 8GB และรอม 128GB และยังรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก microSD ได้สูงสุดถึง 1 TB เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีข้อมูลปริมาณมาก ๆ ในด้านของการถ่ายภาพ มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องที่ล้ำสมัย มอบภาพถ่ายที่สวยงาม คมชัด ด้วยกล้องกลัง 4 เลนส์ โดยเลนส์หลักมีความละเอียดสูงสุด 64MP เลนส์ Ultrawide 8MP เลนส์ Depth 2MP และเลนส์ Macro 2MP เพิ่มความฉลาดด้วย AI และเทคโนโลยีอีกมากมาย พร้อมทำให้ภาพของคุณดูสมบูรณ์แบบ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ช่วยให้คุณเซฟฟี่ด้วยภาพที่คมชัด ถ่ายได้สวยทั้งกลางวันและกลางคืน และในส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้ให้ความจุมาที่ 4,300 mAh พร้อมกับการรองรับการชาร์จไวถึง 66 วัตต์ ช่วยให้คุณสามารถชาร์จไฟเต็ม 100% ได้ภายใน 37 นาที เท่านั้น
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.67 นิ้ว 1600 × 2376 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 11.0 base on Android 10, no Google Play Services |
CPU | Qualcomm Snapdragon 662 Octa Core |
GPU | Adreno 610 |
RAM | 8GB |
ROM | 128GB |
กล้องหน้า | 16MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,300 mAh (รองรับชาร์จไว 66W) |
Huawei Nova 7i (8GB/128GB)

ราคา 9,900 บาท*
Huawei Nova 7i สมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมสเปคคุณภาพสูงเกินราคา มาในดีไซน์ที่โดดเด่น เรียบหรู แสดงผลบนหน้าจอไร้ขอบแบบ IPS ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดสูง มอบภาพที่ดูสวยงาม สีสันสดใส มีความคมชัดสูง ขับเคลื่อนด้วยุมพลังจากชิปเซ็ต Kirin 810 ที่มีสถาปัตยกรรม Da Vinci ทำให้มันสามารถประมวลผลได้อย่างมีคุณภาพ คู่กับ Mali-G52 MP6 ที่สามารถตอบสนองด้านกราฟิกได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม พร้อมแรม 8GB หน่วยความจำอีก 128GB อีกทั้งยังรองรับ NM card ได้สูงสุด 256 GB ทำให้มันสามารถตอบโจทย์การใช้งานด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และยังมีการประมวลผล AI และการประมวลผลภาพ ISP + IVP ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แถมมีโหมดสำหรับเล่นเกม GPU Turbo ที่ช่วยปรับอัตราเฟรมที่สูง ช่วยให้เกมของคุณไม่มีกระตุก ในด้านของกล้องก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว โดยมีเลนส์หลัก 48 MP มีเลนส์เก็บภาพมุมกว้าง 8MP เลนส์มาโคร 2MP และเลนส์สำหรับถ่ายแนวหน้าชัดหลังละลายอีก 2MP พร้อมทั้งเทคโนโลยีและฟังก์ชันการถ่ายภาพอีกมากมาย ช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ในส่วนกล้องหน้า 16MP ให้คุณใช้ถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน รองรับการสแกนนิ้วข้างตัวเครื่อง เพื่อปลดล็อคเครื่อง และให้คุณสามารถใช้งานได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวัน จากแบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว Super Charge 40 วัตต์
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.4 นิ้ว 1080 × 2310 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 10 based on Android 10.0, no Google Play Services |
CPU | Kirin 810 Octa Core |
GPU | Mali-G52 MP6 |
RAM | 8GB |
ROM | 128GB |
กล้องหน้า | 16MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh (รองรับชาร์จไว 40W) |
Huawei Mate 30 Pro 5G (8GB/256GB)

ราคา 13,880 บาท*
Huawei Mate 30 Pro 5G สมาร์ทโฟนระดับท็อปที่ประสบความสำเร็จมาก แม้จะเปิดตัวไปตั้งแต่กันยายน 2019 ซึ่งค่อนข้างเก่าแล้ว แต่ด้วยราคาที่ลดลงมากว่าครึ่ง ทำให้รุ่นนี้คุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างมากครับ มาพร้อมกับการออกแบบที่ดูซับซ้อน เรียบหรู และสีที่เปล่งประกาย ในทุกสภาพแสงและเงา หน้าจอไร้ขอบแบบโค้งพิเศษ ช่วยขยายมุมมองในการใช้งาน และมอบสัมผัสที่เป็นธรรมชาติเมื่อถือไว้ในมือ แสดงผลด้วยหน้าจอ OLED กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ ฉายความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด มอบภาพที่คมชัดและสวยงาม ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเทคโนโลยีขั้นสูง อย่าง Kirin 990 ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม การใช้พลังงานและการประมวลผลที่รวดเร็ว กราฟิกใช้ Mali-G76 พร้อมแรม 8GB และหน่วยความจำ 256GB ช่วยให้มันทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด และยังรองรับการ์ดหน่วยความจำ NM card สูงสุดถึง 256 GB หมดปัญหาเรื่องพื้นที่จัดเก็บข้อมูล จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ กล้องหน้า 32MP และกล้อง 4 ตัว ที่ถูกโอบล้อมด้วยวงแหวน Halo ซึ่งผสมผสานการทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ มอบความคมชัดในทุกภาพทั้งกลางวัน และกลางคืน พร้อมมีเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับท็อปอีกมากมาย ช่วยให้คุณได้ภาพที่สมบูรณ์แบบได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุมากถึง 4500 mAh ซึ่งรองรับการใช้งานได้ตลอดวัน และยังมี SuperCharge พร้อมไปกับคุณทุกที่ทุกเวลา
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.53 นิ้ว 1176 × 2400 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 10 based on Android 10.0, no Google Play Services |
CPU | Kirin 990 5G Octa Core |
GPU | Mali-G76 |
RAM | 8GB |
ROM | 256GB |
กล้องหน้า | 32MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,500 mAh (รองรับชาร์จไว 40W / รองรับชาร์จไร้สาย) |
Huawei P30 Pro (8GB/256GB)

ราคา 13,900 บาท*
Huawei P30 Pro สมาร์ทโฟนตัวท็อป แต่มาในราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ มีดีไซน์ที่ดูหรูและพรีเมี่ยมเป็นอย่างมาก หน้าจอกระจกโค้ง 3 มิติ ที่สามารถแสดงผลเต็มได้หน้าจอ มีพิ้นที่การใช้งานมากขึ้น โดยใช้หน้าจอแบบ OLED มีความละเอียด FHD+ ขนาด 6.47 นิ้ว ช่วยให้การแสดงผลภาพที่คมชัด ลื่นไหล และมีสีสันเป็นธรรมชาติ สะดวกสบายด้วยการสแกนนิ้วใต้หน้าจอที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ในด้านสเปครุ่นนี้ มาพร้อมกับขุมพลัง Kirin 980 ที่มีประสิทธิภาพสูงในทุก ๆ ด้าน ทำงานคู่กับกับแรม 8GB และมีรอมอีก 256GB ช่วยให้มันสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้เล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ ได้สบาย อีกทั้งยังใช้พลังงานที่น้อยมาก ๆ จุดเด่นอีกอย่างก็คือเรื่องการถ่ายภาพ รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว จากแบรนด์ดังอย่าง Leica ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำ จัดเต็มด้วยกล้องหลัง 3 ตัว โดยเลนส์หลัก 40MP เลนส์มุมกว้างพิเศษ 20MP และเลนส์เทเลโฟโต้ 8MP ซึ่งเป็นแบบ SuperZoom พร้อมเทคโนโลยีอีกมากมาย ช่วยให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ มอบภาพถ่ายที่คมชัดสวยงาม แม้ถ่ายในสถานที่ที่มืดสนิท แถมยังสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนกล้องหน้าก็โดดเด่นไม่แพ้กัน มีความละเอียดสูงถึง 32MP ช่วยให้การเซลฟี่ของคุณดูสวยงามเป็นธรรมชาติในทุก ๆ ช็อต นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 40 วัตต์ สามารถชาร์จ 70% ได้ภายใน 30 นาที เท่านั้น รวมทั้งรองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 15 วัตต์ ด้วย
หน้าจอแสดงผล | 6.47 นิ้ว 1080 × 2340 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 9.1 based on Android 9.0 (Pie) |
CPU | HiSilicon Kirin 980 Octa Core |
GPU | N/a |
RAM | 8GB |
ROM | 256GB |
กล้องหน้า | 32MP |
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh (รองรับชาร์จไว 40W / รองรับชาร์จไร้สาย) |
Huawei P40 Pro 5G (8GB/256GB)

ราคา 15,979 บาท*
Huawei P40 Pro 5G สมาร์ทโฟนตัวท็อปที่เปิดตัวไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ถือเป็นรุ่นที่มีกระแสตอบรับดีมาก ๆ ในช่วงที่เปิดตัวออกมา มีดีไซน์ที่ดูเรียบหรูและพรีเมี่ยม ใช้หน้าจอแบบ OLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียดสูง เป็นหน้าจอแบบโค้งที่ใช้งานได้เต็ม ๆ ตา มีความคมชัดสูง และมอบสีสันเป็นธรรมชาติ ทำงานบนขุมพลัง Kirin 990 5G ประสิทธิภาพสูง คู่กับ Mali-G76 MP16 พร้อมแรม 8GB และหน่วยความจำมาอีก 256GB ทำให้รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานทุก ๆ ด้าน สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ประมวลผลกราฟิกต่าง ๆ ได้อย่างคมชัด ลื่นไหล เล่นเกมแรง ๆ ได้สบาย แถมยังรองรับสัญญาณ 5G LTE ด้วย ในด้านกล้อง มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ที่ได้จับมือกับ Leica แบรนด์กล้องชั้นนำ โดยจะมีเลนส์หลัก 50MP เก็บทุกรายละเอียด เลนส์กว้าง 40MP เก็บภาพมุมกว้างโดยเฉพาะ เลนส์เทเลโฟโต้ 12MP และเลนส์ ToF 3D Depth Sensing ช่วยให้ภาพของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีเทคโนโลยีอีกมากมาย ซึ่งจะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องหน้าคู่ มีเลนส์หลัก 32MP และเลนส์ IR TOF 3D ช่วยให้คุณถ่ายภาพเซลฟี่ได้เป็นธรรมชาติ มอบภาพที่สมบูรณ์แบบ ในส่วนแบตเตอรี่ รุ่นนี้ได้ให้ความจุมาที่ 4,200mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 40 วัตต์ และชาร์จไวแบบไร้สายที่ 27 วัตต์ ช่วยให้คุณมีการใช้งานที่ยาวนานตลอดทั้งวัน
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.58 นิ้ว 1200 × 2640 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 10.1 based on Android 10.0, no Google Play Services |
CPU | Kirin 990 5G Octa Core |
GPU | Mali-G76 MP16 |
RAM | 8GB |
ROM | 256GB |
กล้องหน้า |
|
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh (รองรับชาร์จไว 40W) |
HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)

ราคา 29,990 บาท*
สำหรับรุ่นนี้ไม่ได้ใช้ระบบ Android แต่เราขอรวมมาไว้ในลิสส์นี้ด้วย โดย HUAWEI Mate 40 Pro โทรศัพท์รุ่นที่ดีที่สุด จากแบรนด์ดัง Huawei ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่โดดเด่นเรื่องกล้องถ่ายภาพมากที่สุด ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง HarmonyOS ซึ่งเน้นการใช้งานที่เรียบง่าย ใกล้เคียงกับ Android มีดีไซน์ที่ยอดเยี่ยม เพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยขอบหน้าจอแบบโค้ง ทำให้มันเป็นจอไร้ขอบ ใช้งานได้เต็ม ๆ ตา โดยใช้หน้าจอ HDR 10 ขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมที่ 6.76 นิ้ว รุ่นนี้เป็นจอโค้ง ความละเอียดสูง และมีอัตราการสัมผัสหน้าจอ 90 เฮิรตซ์ ช่วยมอบการแสดงผลที่ไหลลื่น ดูสวยงาม มีระบบสแกนลายนิ้วมือใต้จอ และระบบจดจำใบหน้า 3D face เพิ่มความรวดเร็ว ในด้านกล้องก็ยังคงร่วมมือกับ Leica อีกเช่นเดิม โดยมีกล้องให้มาถึง 2 เลนส์ ความละเอียด 13MP และกล้องหน้าตัวที่สอง TOF 3D ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเซลฟี่ให้ดียิ่งขึ้น ส่วนกล้องหลังให้มา 3 เลนส์ โดยเป็น เลนส์กล้องดิจิตอล 50MP เลนส์ Periscope telephoto 12MP และเลนส์ Ultrawide 20MP ซึ่งเป็นเลนส์จากแบรนด์ดังอย่าง Leica ที่มีเอกลักษณ์ของภาพสูงมาก ทำให้ได้ภาพที่โดดเด่นกว่ามือถือค่ายอื่น ๆ และมันยังมีฟังก์ชันถ่ายภาพอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยให้สนุกกับการภ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ในด้านสเปครุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Kirin 9000 5G ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง คู่กับ Mali-G78 MP24 พร้อมแรม 8GB และรอม 256GB ช่วยให้มันสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด ตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งานได้อย่างสบาย อีกทั้งยังรองรับ NM card สูงสุด 256 GB อีกด้วย หมดกังวลเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลไปได้เลย นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จ SuperCharge 40W ชาร์จแค่ 30 นาที ได้ 70% ซึ่งเร็วมาก และชาร์จไร้สายด้วย
ข้อควรพิจารณา
- ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง Harmony OS
- ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล | 6.76 นิ้ว 1344 × 2772 pixels |
---|---|
ระบบปฏิบัติการ | HarmonyOS 2.0 |
CPU | Kirin 9000 Octa Core |
GPU | Mali-G78 MP24 |
RAM | 8GB |
ROM | 256GB |
กล้องหน้า |
|
กล้องหลัง |
|
การเชื่อมต่อ |
|
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh (รองรับชาร์จไว 40W / รองรับชาร์จไร้สาย) |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว สมาร์ทโฟน Huawei มีรุ่นไหนน่าใช้บ้าง ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
ปัญหาของ Huawei ในปัจจุบัน ?
เราทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า หลังจากที่ Huawei ได้มีปัญหากับประเทศสหรัฐอเมริกา จึงส่งผลให้ Google ตัดขาดความสัมพันธ์กับ Huawei อย่างเป็นทางการ ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากกับแบรนด์หัวเว่ย ทำให้มีการงดการอัพเดทระบบ Android บทสมาร์ทโฟนทุกรุ่น จากแบรนด์ Huawei ไม่สามารถใช้แอปพลิเคชั่นบางอย่างของ Google ได้ และไม่สามารถใช้ Google Play Store ทำให้ในช่วงนี้ทางหัวเว่ยไม่ได้ปล่อยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ออกมาเลย แต่ได้เร่งพัฒนา ระบบปฏิบัติการของตนเองออกมา ซึ่งใช้ชื่อว่า Harmony OS ที่ใช้งานอยู่ในรุ่น Huawei Mate 40 Pro ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปครับว่าทาง Huawei จะแก้ปัญหานี้อย่างไร ?
สำหรับรุ่นที่เราได้คัดเลือกมารีวิวในวันนี้ ทุกรุ่นยังคงสามารถหาซื้อได้ช็อปทั่วๆ ไป และส่วนใหญ่ยังมีการใช้งานระบบปฎิบัติการ Android ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทาง Huawei จะไม่มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ของ Google มาให้ คุณจำเป็นต้องโหลดมาติดตั้ง เพื่อใข้งานด้วยตนเองครับ หากติดตั้งเสร็จแล้วมันก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าหากคุณกลัวจะเจอปัญหาในอนาคต เรายังมีบทความของสมาร์ทโฟนค่ายอื่นที่เราได้รีวิวไปแล้ว อาทิเช่น Samsung, Oppo, Xiaomi, Vivo, Realme, infinix และ Nokia เป็นต้น หรือจะเปลี่ยนแนวไปทาง iOS ของ iPhone ก็ได้ครับ