ข้อดีอย่างหนึ่งของ “บ้านอัจฉริยะ” ก็คือเราสามารถรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในกรณีที่เราไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ของคุณ กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจเช็กสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้จากระยะไกล ช่วยทำให้คุณอุ่นใจ แถมยังเก็บข้อมูลคลิปต่าง ๆ ไว้ในระบบออนไลน์ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองที่เคยมีโจรขึ้นบ้านในช่วงกลางวันแสก ๆ แม้ว่าหัวขโมยจะเป็นคนรู้จักที่คุ้นเคยกันดี และไม่ได้เอาสิ่งของที่มีค่าไป แต่ก็ทำให้รู้ว่ากล้องวงจรปิดที่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์นั้นกลับเป็นหลักฐานชั้นดีในการระบุตัวคนร้ายได้อย่างง่ายดาย หากไม่มีกล้องวงจรปิดในวันนั้นคอยจับภาพได้ เราจะไม่มีทางจับคนร้ายได้เลยค่ะ

ทุกวันนี้ความสามารถของกล้องวงจรปิดภายในของแต่ละยี่ห้ออาจจะต่างกันไปบาง อาทิเช่น บางรุ่นก็ควบคุมกล้องได้, มีความรวดเร็วในการส่งการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบความผิดปกติ, การตรวจจับและจดจำใบหน้า รวมถึงการโทรพูดคุยด้วยระบบเสียงสองทาง จนทำให้คุณเลือกไม่ถูกว่าควรซื้อแบบไหนดี ?
แต่ทว่าคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ทุกแบรนด์จะต้องมีเหมือนกันก็คือ “ความสามารถดูกล้องวงจรปิดผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ตลอดเวลา” ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบภายในบ้านของคุณผ่านการสตรีมมิ่งวิดีโอสดหรือดูวิดีโอย้อนหลังในระบบคลาวด์ที่บันทึกไว้ หากคุณต้องการดูสิ่งที่เกิดขึ้นภายบ้านของคุณอยู่ตลอดเวลาเพื่อความสบายใจ และคุณยังไม่มั่นใจว่าตัวเองอยากได้กล้องวงจรปิดแบบไหนมาใช้งาน เราคิดว่าบทความของเราในวันนี้จะเป็นคำตอบให้คุณได้ดีที่สุดค่ะ
กล้องวงจรปิดไร้สายภายใน ยี่ห้อไหนดี ?
- กล้องวงจรปิดราคาไม่แพง คุณภาพ 2K โหมด Two Way Talk ยอดเยี่ยม: Xiaomi Mi Camera 2K (Magnetic Mount) กล้องวงจรปิด
- กล้องวงจรปิดราคาไม่แพง คุณภาพ FHD 1080p มีอินฟราเรดและไฟแบล็คไลท์: Ezviz C1HC 1080P กล้องวงจรปิด
- กล้องวงจรปิดหมุนได้ คุณภาพ 2K รองรับ WiFi 5GHz: Xiaomi Mi Camera Pro PTZ 2K 360° กล้องวงจรปิด
- กล้องวงจรปิดหมุนได้ คุณภาพ FHD 1080p พร้อมช่องเสียบ LAN สำรอง: Ezviz C6N 1080P กล้องวงจรปิด
- กล้องวงจรปิดไร้สาย มีแบตเตอรี่ในตัวอยู่ได้นาน 3 เดือน: Autobot Snap 2 Camera 3MP กล้องวงจรปิด
![]() Xiaomi Mi Camera 2K (Magnetic Mount) กล้องวงจรปิด | ![]() Ezviz C1HC 1080P กล้องวงจรปิด | ![]() Ezviz C6N 1080P กล้องวงจรปิด | ![]() Xiaomi Mi Camera Pro PTZ 2K 360° กล้องวงจรปิด | ![]() Autobot Snap 2 Camera 3MP กล้องวงจรปิด |
วิธีเลือกกล้องวงจรปิดไร้สายภายในบ้าน
1. คู่มือภาษาไทย
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องแปลกที่ผู้เขียนให้คุณเลือกกล้องวงจรปิดที่มีคู่มือภาษาไทยเป็นอันดับแรก ? นั่นเป็นเพราะว่าสำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยตัวเองมาก่อนเลย มันเป็นเรื่องที่ท้าทายเกินไปค่ะ แม้ว่าจริง ๆ แล้วขั้นตอนการติดตั้งก็ไม่ซับซ้อนอะไรมาก แต่สำหรับมือใหม่นั้น…ผู้เขียนเข้าใจดีว่าไม่มีใครสามารถทำสำเร็จในครั้งแรก เพื่อไม่ให้เพื่อน ๆ ต้องรู้สึกหงุดหงิดหรือเหนื่อยหน่ายใจ ผู้เขียนขอแนะนำว่าให้เลือกที่เป็นคู่มือภาษาไทยหรือที่เป็นระบบเสียงภาษาไทยก่อนนะคะ 🧡🧡🧡
เนื่องจากผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยตัวเองมาก่อน ตอนนั้นก็น่าจะเป็นช่วงปี 2016-2017 ซึ่งก็ยังไม่มียี่ห้อให้เลือกเยอะมากนัก กล้องที่ขายอยู่ล้วนแต่เป็นภาษาจีน ไม่ว่าจะเป็นทั้งคู่มือหรือระบบเสียง พูดได้เลยว่า “ปวดหัว” ค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าขั้นตอนต่อไปต้องทำอะไรบ้าง ? เมื่อมีข้อผิดพลาดหรือติดปัญหาอะไรก็ไม่รู้ว่าควรจะแก้ตรงไหน ? ทำได้เพียงแค่รีเซ็ตกล้อง และทำตามขั้นตอนเดิมอีกครั้งใหม่ทั้งหมด ซึ่งมันค่อนข้างเสียเวลามาก ๆ
อย่างในบทความนี้แบรนด์ที่ผู้เขียนอยากให้มือใหม่หลีกเลี่ยงมากที่สุดก็คือ Xiaomi ค่ะ ไม่ใช่ว่าสินค้าของเขาไม่ได้คุณภาพนะคะ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วแบรนด์ Xiaomi จะเป็นคู่มือภาษาจีนค่ะ หากเป็นรุ่นที่ใหม่หน่อยก็อาจมีภาษาอังกฤษมาให้ (ก็ถือว่าโชคดีไปค่ะ) แต่รุ่นเก่า ๆ อย่าง Xiaomi Camera Pro PTZ 2K 360° ต้องพิจารณาค่ะ เพราะน้องมีแต่ภาษาจีนอย่างเดียว
2. คุณภาพความละเอียด
สิ่งต่อมาก็คงจะเป็นเรื่องความละเอียดของคลิปหรือภาพที่กล้องจับได้ ในปัจจุบันกล้องวงจรปิดควรมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 1080p แล้วนะคะ เพราะหากต่ำกว่านี้มันดูไม่ออกเลยว่าคนในคลิปหน้าตาเป็นเช่นไร หากเป็นไปได้คุณอาจจะเพิ่มงบและเลือกเป็นรุ่นที่มีความละเอียด 2K หรือ 4K ก็ได้ค่ะ ในกรณีที่คุณต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยต่อสิ่งของ แต่หากคุณแค่อยากติดกล้องวงจรปิดเพื่อให้ดูความเคลื่อนไหวของคนที่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องเลือก 2K หรือ 4K ก็ได้ค่ะ เพราะว่า 1080p ก็ถือว่าชัดในระดับมาตรฐานแล้ว

สิ่งต่อมาคือความคมชัดของเลนส์กล้องที่แต่ละยี่ห้อใช้ โดยส่วนมากหลาย ๆ แบรนด์ก็ไม่ได้ระบุว่าเลนส์ที่ตัวเองใช้มีความคมชัดเท่าไหร่ แต่หากแบรนด์ไหนระบุมาให้แนะนำให้เลือกที่ 4MP เลยค่ะ เพราะเมื่อเราเอาภาพมาขยายจะทำให้ชัดมากกว่า 2MP แถมภาพที่ได้จากการขยายก็ไม่แตกด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่ายิ่งกล้องสามารถบันทึกภาพได้ละเอียดคมชัดมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งกินพื้นที่ความจำมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมคำนึงถึงข้อนี้ด้วยนะคะ แม้ว่ากล้องทุกตัวที่เรารีวิววันนี้จะเป็นการบันทึกไฟล์วิดีโอด้วยแบบการเข้ารหัส H.265 ที่ช่วยประหยัดพื้นที่หน่วยความจำก็ตาม
3. การหมุนกล้อง & โหมดติดตามอัตโนมัติ
กล้องวงจรปิดสมัยนี้จะมี 2 ประเภทคือแบบตั้งกล้องไว้เฉพาะจุดไปเลย นั่นหมายความว่าตัวกล้องจะหมุนไปมาไม่ได้ มันสามารถจับภาพได้แค่จุดเดียวเท่านั้น หากต้องการปรับเปลี่ยนมุมกล้อง คุณจะต้องปรับจากตัวกล้องเอง ส่วนอีกประเภทก็คือกล้องที่สามารถหมุนไปมาได้รอบทิศทาง แม้ว่าตัวกล้องจะติดตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิมก็ตาม กล้องวงจรปิดประเภทนี้จะมีราคาที่สูงขึ้นมาอีกหน่อย และมันจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ากล้องแบบแรกค่ะ อย่างไรก็ตามหลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าเราจะควบคุมมันได้อย่างไร ? คำตอบง่าย ๆ ก็คือควบคุมผ่านแอปพลิเคชันค่ะ
เราสามารถปรับทิศทางกล้องให้หันซ้ายขวาหรือก้มเงยได้ตามที่ต้องการ แน่นอนว่าคุณสมบัติการควบคุมทิศทางกล้องได้นั้นมักมาพร้อมกับ “ฟังก์ชันติดตามการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ” ฟังก์ชันนี้จะมี AI ควรตรวจจับความเคลื่อนไหวหากพบว่าเป็นบุคคลมันก็จะหันกล้องตามทิศทางที่เคลื่อนไหวไปมาเพื่อไม่ให้คุณพลาดเหตุการณ์สำคัญ
อย่างไรก็ดีฟังก์ชันติดตามการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ไม่ได้หมายความว่ากล้องวงจรปิดทุกตัวที่มีฟังก์ชันนี้จะทำงานได้ดีเสมอไป แนะนำให้เพื่อน ๆ อ่านรีวิวของเราและรีวิวจากผู้ใช้จริงเยอะ ๆ เพราะว่าบางแบรนด์ก็ยังพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ไม่ได้ดีพอ ทำให้การติดตามของกล้องไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรค่ะ
4. แจ้งเตือนการเคลื่อนไหว มายังสมาร์ทโฟน
ฟังก์ชันนี้เรียกว่าเป็นโหมดพื้นฐานของกล้องวงจรปิดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นกล้องที่จับภาพอยู่กับที่หรือกล้องที่หมุนได้ตามที่คุณต้องการ ต่างก็มีโหมดตรวจจับการเคลื่อนไหวทั้งนั้น แน่นอนว่าโหมดนี้มีไว้สำหรับเฝ้าระวังภัย โดยส่วนใหญ่เราจะนิยมเปิดใช้งานโหมดนี้กับกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในจุดที่เสี่ยงอาทิเช่น ประตู หน้าต่าง หรือที่อื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่ากล้องทุกตัวที่มีคุณสมบัตินี้จะทำงานได้รวดเร็วเหมือนกัน เพราะบางแบรนด์ก็ส่งข้อความแจ้งเตือนมาที่สมาร์ทโฟนเราช้าไป หรือไม่กล้องบางตัวก็แยกประเภทของการเคลื่อนไหวไม่ได้ อาทิเช่น สัตว์เลี้ยงเดินผ่านหรือจะเป็นใบไม้ปลิวเข้ามาในห้อง ก็ทำงานแจ้งเตือนไปหมดโดยไม่สนว่ามันเป็นเคลื่อนไหวแบบไหน ซึ่งอาจสร้างความรําคาญแก่คุณได้ แนะนำให้เลือกล้องที่มี AI ล้ำสมัยเอาที่สามารถแยกประเภทของการเคลื่อนไหวได้ วิธีนี้จะช่วยลดความถี่ในการแจ้งเตือนได้เยอะเลยค่ะ
5. คุณภาพของอินฟราเรด (IR)
หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าอินฟราเรดคืออะไร ? อินฟราเรดจะช่วยให้กล้องของคุณทำงานได้ดีขึ้นในช่วงที่แสงน้อยหรือช่วงกลางคืนค่ะ แม้ว่าพื้นที่นั้นจะมืดสนิทจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็ไม่สามารถหลุดรอดการจับภาพของกล้องที่มีอินฟราเรดได้เลยค่ะ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้กล้องวงจรปิดทุกตัวมีอินฟราเรดใส่มาให้เป็นคุณสมบัติพื้นฐานหมดแล้ว แต่การทำงานของอินฟราเรดจะชาญฉลาดมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ของแต่ละแบรนด์ที่ใส่มาให้ หลาย ๆ คนซื้อกล้องไปแล้วบ่นว่าใช้งานตอนกลางคืนแล้วมองไม่เห็นอะไรเลย เอาแต่โทษว่ากล้องยี่ห้อนี้ไม่มีคุณภาพ ทั้งที่จริงแล้วเป็นเพราะเราไม่ได้ตั้งค่าให้มันเปิดโหมดอินฟราเรดเอาไว้ ดังนั้นหากรุ่นไหนสามารถมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบ ๆ แล้วทำการเปลี่ยนโหมดเป็นอินฟราเรดให้อัตโนมัติได้เองก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะนั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องเข้าไปเปิด-ปิดโหมดอินฟราเรดในแอปทุก ๆ วัน

สิ่งต่อมาคือแสงรบกวนของอินฟราเรด หลายคนที่เพิ่งซื้อกล้องวงจรปิดอาจไม่ทราบว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางคืนหากโหมดอินฟราเรดเริ่มทำงาน ตัวกล้องก็จะปล่อยแสงสีแดงออกมาเป็นจุดเล็ก ๆ บางรุ่นก็อาจจะปล่อยออกมาเยอะมากจนรบกวนสายตาและเวลานอนพักผ่อนได้ แนะนำว่าถ้าหากคุณติดตั้งในห้องนอนควรเลือกรุ่นที่ปล่อยอินฟราเรดแบบ “ล่องหน” มาค่ะ กล้องเหล่านี้จะยังคงเปิดอินฟราเรดอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่สายตาของเราไม่สามารถมองเห็นได้เท่านั้นค่ะ
6. โหมดโทรคุยเรียลไทม์
การโทรคุยแบบเรียลไทม์ก็เหมือนการโทรศัพท์ที่คอลหากันโดยทั้งสองฝังสามารถโต้ตอบกันไปมาได้ หรือที่เรียกว่า ฟังก์ชันพูดคุยสองทิศทาง (Two Way Talk) ก็ได้ค่ะ แต่การที่ใช้ฟังก์ชัน Two Way Talk ได้กล้องตัวนั้นจะต้องมีทั้งไมโครโฟนและลำโพงในตัว ซึ่งควรจะเป็นระบบเสียงที่มีคุณภาพดีทั้งสองอย่างด้วย อีกทั้งระบบของอินเทอร์เน็ตที่ใช้จะต้องมีความเสถียรด้วยนะคะ

แต่ทว่าฟังก์ชัน Two Way Talk เป็นฟังก์ชันที่ทดสอบได้ยากมาก เพราะหากไม่ซื้อมารีวิวทดสอบเองจริง ๆ ก็ไม่มีทางทราบว่ายี่ห้อไหนมีระบบเสียงที่ดี บางยี่ห้อก็ให้เสียงแหลม ๆ จนฟังไม่รู้เรื่อง หรืออาจให้เสียงและภาพที่ดีเลย์ ในขณะที่บางยี่ห้อใช้ไมค์ที่ไม่มีคุณภาพจนทำให้คนที่ดูกล้องผ่านแอปไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายเลยก็มีค่ะ
7. มุมกว้างของเลนส์
สำหรับข้อนี้จะเป็นมุมมองความกว้างของคลิปว่าคุณต้องการให้มันกว้างมากน้อยเพียงใด เพราะบางคนก็ชอบให้มุมภาพออกมาแคบ ๆ ในขณะที่บางคนก็ชอบให้ภาพออกมากว้าง ๆ จนสามารถมองเห็นได้ทั่วห้อง คำแนะนำจากเรามีอย่างเดียวก็คือยิ่งองศาเลนส์มีตัวเลขสูงก็ยิ่งบอกให้รู้ว่ากล้องตัวนั้นเป็นเลนส์ที่มีมุมกว้างมากเป็นพิเศษค่ะ หากคุณไม่มั่นใจว่าควรเลือกซื้อมุมกว้างของเลนส์ที่ขนาดเท่าไหร่ดี ? แนะนำว่า 100 องศาขึ้นไปก็ได้ค่ะ
8. รูปแบบจัดเก็บข้อมูล
ส่วนใหญ่เกือบร้อยทั้งร้อยกล้องวงจรปิดจะมีรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลอยู่ 2 วิธี ซึ่งก็คือการเก็บข้อมูลลง MicroSD การ์ดซึ่งเป็นการ์ดขนาดเล็ก ๆ ที่เสียบอยู่กับตัวกล้อง โดยจะทำการบันทึกคลิปซ้ำได้เรื่อย ๆ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปลบไฟล์ใด ๆ แต่อย่างไรก็ตาม…สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทราบคือกล้องแต่ละยี่ห้อออกแบบมาให้รองรับความจุของ MicroSD การ์ดที่ต่างกัน ดังนั้นก่อนจะซื้อเราขอให้คุณศึกษาดูด้วยว่าความจุสูงสุดที่รุ่นนั้นรองรับคือขนาดเท่าไหร่ อาทิเช่น TP-Link Tapo C225 4MP 2K รองรับ MicroSD สูงสุด 512 GB ส่วนกล้องของ Xiaomi Mi ส่วนใหญ่จะรองรับ MicroSD ได้มากที่สุดแค่ 32 GB เท่านั้น
ส่วนวิธีเก็บข้อมูลหรือคลิปแบบที่สองก็คือการสำรองคลิปไว้ในระบบ Cloud ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ วิธีนี้คุณอาจจะต้องจ่ายเงินสมาชิกเป็นรายเดือนหรือรายปี ซึ่งจะแลกมากับความปลอดภัยของข้อมูล แถมยังสามารถแชร์กับเพื่อนหรื่อคนในครอบครัวก็ได้ค่ะ ในกรณีที่คุณไม่อยากใช้ระบบ Cloud และไม่อยากซื้อ MicroSD การ์ดเพิ่ม หากถามว่ากล้องวงจรปิดยังคงทำงานได้ไหม ก็บอกเลยว่าทำงานได้ตามปกติค่ะ เพียงแต่มันเป็นกล้องวงจรปิดที่ใช้ดูแบบเรียลไทม์มากกว่า โดยที่คุณไม่สามารถย้อนดูประวัติคลิปเก่า ๆ ได้
9. ช่วงความถี่ WiFi 5GHz หรือ 2.4GHz
ใจจริงหากเป็นไปได้เราอยากให้คุณเลือกกล้องวงจรปิดที่รองรับ WiFi 5GHz มากกว่า (ซึ่งบทความนี้มีแค่รุ่น Xiaomi Camera Pro PTZ 2K 360° เท่านั้น) เนื่องจาก 5GHz จะมีสัญญาณรบกวนน้อยทำให้กล้องใช้งานได้ราบรื่บ แต่โดยส่วนใหญ่เกือบ 99% กล้องวงจรปิดในปัจจุบันนี้จะรองรับ WiFi 2.4GHz เท่านั้น ซึ่งมันอาจจะทำให้การใช้ฟังก์ชัน Two Way Talk ถูกรบกวนได้ง่ายนั่นเองค่ะ
10. วิธีรีเซ็ตกล้อง
ใครบอกว่าการรีเซ็ตกล้องเป็นเรื่องง่ายที่ไม่จำเป็นต้องพิจารณาก็ได้ ผู้เขียนขอเถียงขาดใจเลยค่ะ เพราะจากที่เจอมากับตัวนั้นส่วนใหญ่กล้องวงจรปิดที่ใช้วิธีเอาคลิปจิ้มในรูเพื่อรีเซ็ต พวกเขาไม่ให้คลิปจิ้มมาด้วย (เสียใจหนักมาก ต้องเดินหาทั่วบ้านเลยค่ะ) สำหรับตัวผู้เขียนเองรู้สึกว่าปุ่มกดรีเซ็ตที่เป็นปุ่มกดแบบกายภาพดูเหมือนจะใช้งานได้สะดวกมากกว่า แต่ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ก็มองข้ามข้อนี้ไปได้เลยค่ะ

11. อะแดปเตอร์
ข้อสุดท้ายคืออะแดปเตอร์หรือหัวจ่ายไฟที่ใช้เสียบเข้าเบ้าปลั๊กไฟ หลายคนอาจคิดว่ากล้องวงจรปิดที่ตัวเองซื้อมานั้นทางแบรนด์จะต้องแถมอะแดปเตอร์มาให้ด้วยเป็นเรื่องปกติ แต่บอกเลยว่าไม่ใช่ทุกแบรนด์ค่ะ !!!! ดังนั้นหากคุณไม่อยากต้องมารู้สึกอารมณ์เสียที่ต้องหาซื้ออะแดปเตอร์แยกต่างหาก แนะนำให้เลือกแบรนด์ที่มีอะแดปเตอร์มาให้ตัวค่ะ

12. มาตรฐาน IP กันน้ำกันฝุ่น ไม่มีความจำเป็นสำหรับกล้องในภายอาคาร
สำหรับข้อสุดท้ายนี้เราแค่อยากบอกไว้ก่อนเผื่อว่ามีเพื่อน ๆ พยายามมองหามาตรฐาน IP ในการกันน้ำกันฝุ่น โดยส่วนใหญ่แล้วกล้องวงจรปิดภายในบ้านจะไม่มีมาตรฐาน IP มาให้ค่ะ เพราะว่ามันไม่จำเป็นต้องใช้ แต่หากเป็นกล้องวงจรปิดกลางแจ้งอย่าลืมตรวจสอบค่ามาตรฐาน IP กันด้วยนะคะ
Xiaomi Mi Camera 2K (Magnetic Mount) กล้องวงจรปิด

ราคา 779 บาท*

กล้องวงจรปิดจาก Xiaomi Mi Camera 2K รุ่น Magnetic Mount หรือจะเรียกว่ารุ่นฐานแม่เหล็กก็ได้ รุ่นนี้สามารถถ่ายวิดีโอในระดับความชัดที่ 2K มอบความละเอียดคมชัดให้แก่ภาพไม่เพียงเฉพาะในตอนกลางวันเท่านั้น แต่เมื่อมันทำงานร่วมกับโหมดแสงอินฟราเรดและเทคโนโลยีลดนอยซ์ก็ยิ่งทำให้การมองเห็นตอนกลางคืนยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณเห็นภาพได้ไกลไปถึง 9 เมตร โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟแบล็คไลท์อีกต่อไป

นอกจากนี้สำหรับคนที่อยากติดตั้งในห้องนอนก็ไม่ต้องกลัวว่าไฟอินฟราเรดจากกล้องรบกวนเลยค่ะ เพราะไฟอินฟราเรดรุ่นนี้มีความยาวคลื่นเพียง 940 นาโนเมตรดังนั้นจึงทำให้สายมนุษย์มองไม่เห็นแสงสีแดงแน่นอน สำหรับการตรวจจับการเคลื่อนไหวนั้นรุ่นนี้ได้มีการอัปเกรด AI ที่ดียิ่งขึ้นช่วยให้กล้องประเมินผลรวดเร็วและลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดให้น้อยลง (พวกการเคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ไม่ใช่สัญญาณอันตราย กล้องจะไม่แจ้งเตือนให้รบกวนการทำงานของคุณ)

สิ่งที่เรารู้สึกประทับใจมาก ๆ คือแจ้งเตือนมายังมือถือที่รวดเร็วสุด ๆ เมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวบุคคลภาย 2-3 วินาทีก็จะแจ้งบนสมาร์ทโฟนทันทีโดยที่สามารถแจ้งเตือนได้แม้ว่าคุณจะไม่ได้เปิดแอปอยู่ก็ตาม อีกทั้งยังปรับปรุงคุณภาพไมโครโฟนและลำโพงสำหรับโหมด Two Way Talk ให้ดีมากขึ้น ภาพเสียงชัด และมีความเสถียรมากกว่าเดิม อ่านบทความ [รีวิวใช้งานจริง] Xiaomi Mi Camera 2K (Magnetic Mount)
ข้อดี
- ราคาสมเหตุสมผล
- ภาพคมชัดเก็บรายละเอียดได้ดี คุณภาพ 2K ที่คมชัดเป็นพิเศษ
- คุณภาพระบบเสียงและไมค์ที่ดีมาก เหมาะสำหรับ Two Way Talk
- การมองเห็นกลางคืนด้วยไฟอินฟราเรดที่มีคุณภาพ
- สายตาเปล่ามองไม่เห็นแสงอินฟราเรดสีแดง
- ระบบเตือนในโทรศัพท์ที่ทำงานรวดเร็ว
- อัปเกรดเทคโนโลยีสำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ดียิ่งขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- รองรับ WiFi 2.4 GHz ที่อาจถูกรบกวนได้ง่าย
- ไม่สามารถแพนกล้องผ่านแอปได้
- การรีเซ็ตกล้องต้องใช้คลิปมาจิ้ม ซึ่งทางแบรนด์ไม่มีแถมมาให้
- ไม่มีอะแดปเตอร์มาให้ ต้องซื้อแยกต่างหาก
- พื้นที่จัดเก็บแบบ MicroSD สูงสุดเพียง 32GB
- ไม่มีระบบเสียงภาษาไทยระหว่างติดตั้ง จะมีเพียงแต่ภาษาจีนและอังกฤษ
คลิปวิดีโอ รีวิว Xiaomi Mi Camera 2K (ลองใช้จริง) กล้องวงจรปิดไร้สาย
ความละเอียดสูงสุด | 2K |
---|---|
มุมมองกว้าง | 125° |
WiFi | 2.4 GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 32 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 60 x 48 x 67 mm |
อะแดปเตอร์ |
Ezviz C1HC 1080P กล้องวงจรปิด

ราคา 690 บาท*

EZVIZ C1HC เป็นกล้องวงจรปิดภายบ้านในที่มีราคาไม่แพงมาก การเชื่อมต่อเป็นแบบผ่าน WiFi ติดตั้งง่าย แอปก็ใช้งานง่ายด้วยค่ะ รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับบันทึกภาพเฉพาะมุมสำคัญ ๆ เท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการแพนกล้องผ่านแอปได้ ในส่วนความคมชัดของภาพจัดอยู่ในระดับมาตรฐานก็คือ 1080p แม้ว่าจะดูภาพมั่ว ๆ เบลอ ๆ ไปบ้าง แต่ก็สามารถระบุหน้าตาคนในกล้องได้ อีกทั้งรองรับการใช้งานทั้งกลางวันกลางคืน เพราะมีระบบออโต้อินฟราเรดที่ช่วยให้ภาพกลางคืนคมชัดมากขึ้น มาพร้อมกับไฟแบล็คไลท์ที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้คุณมองเห็นภาพในกล้องได้ไกลกว่าเดิม

กล้องวงจรปิด C1HC มีฟังก์ชันตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ทำงานได้ค่อนข้างแม่นยำและรวดเร็วมากเลยทีเดียว มันสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ตามระดับความไวที่เราตั้งค่าไว้ ซึ่งจะมีให้เลือกถึง 6 ระดับ จากนั้นก็จะแจ้งเตือนการเคลื่อนไหวมายังสมาร์ทโฟนที่เราติดตั้งแอปไว้ โดยเราสามารถกำหนดพื้นที่ตรวจจับให้เป็นเฉพาะส่วนได้ค่ะ โดยในรูปจะเป็นการลากพื้นที่ส้มที่ต้องการให้กล้องตรวจจับเฉพาะบริเวณนั้น ทั้งนี้การแจ้งเตือนก็เด้งมาบนหน้าจออาจมีการดีเลย์ไปบ้างแต่ก็ไม่นานเกินไป (หากเทียบกับ Xiaomi Mi 2K ฐานแม่เหล็ก รุ่นนี้จะช้ากว่าประมาณ 2-3 วินาทีเท่านั้น) อ่านบทความ [รีวิวใช้งานจริง] EZVIZ รุ่น C1HC

ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- คุณภาพระดับ FHD 1080p ตามมาตรฐานกล้องวงจรปิดทั่วไป
- ให้การมองเห็นในตอนกลางคืนที่คมชัดด้วยไฟอินฟราเรด + ไฟแบล็คไลท์
- ฟังก์ชันการแจ้งเตือนการเคลื่อนไหวทำงานรวดเร็ว สามารถกำหนดพื้นที่เฉพาะจุดได้
- รองรับการ์ด MicroSD ได้สูงสุด 256GB
- มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ในตัว
- มีระบบเสียงภาษาไทยในขั้นตอนการติดตั้ง
ข้อควรพิจารณา
- รองรับ WiFi 2.4 GHz ที่อาจถูกรบกวนได้ง่าย
- ไม่สามารถแพนกล้องผ่านแอปได้
- ฟังก์ชันพูดคุยสองทิศทาง (Two Way Talk) ยังต้องปรับปรุงทั้งระบบไมค์และลำโพง
คลิปวิดีโอรีวิว EZVIZ C1HC 1080P (ลองใช้จริง) กล้องวงจรปิดราคาหลักร้อย
ความละเอียดสูงสุด | 1080p |
---|---|
มุมมองกว้าง | 108° |
WiFi | 2.4 GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 256 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 53 x 53 x 90 mm |
อะแดปเตอร์ |
Xiaomi Mi Camera Pro PTZ 2K 360° กล้องวงจรปิด

ราคา 1,699 บาท*

ก่อนอื่นขอบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นสินค้าที่ผลิตออกมานานมากแล้วค่ะ และเว็บไซต์ของเรายังคงอยากนำเสนอให้คุณอยู่ดี เพราะว่ามันเป็นกล้องวงจรปิดที่มีฟังก์ชันครบครัน มาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงมากเกินไป ระบบ AI ที่มีความเสถียรภาพ และยังเป็นอีกรุ่นที่มีอายุการใช้งานยาวนาน (เนื่องจากเราได้ใช้งานจริงตั้งแต่ปี 2021 จนปัจจุบันนี้ก็ยังคงใช้ได้ดีไม่มีปัญหาใด ๆ)
![]() |
![]() |
หากคุณได้อ่านรีวิวกล้องวงจรปิดในสองตัวแรกซึ่งก็คือ Xiaomi Mi 2K ฐานแม่เหล็ก และ EZVIZ รุ่น C1HC คุณจะทราบได้ว่ากล้องทั้งคู่ไม่สามารถแพนกล้องหรือควบคุมกล้องให้หันซ้าย/ขวา/ขึ้น/ลงได้ผ่านแอปพลิเคชัน ที่สำคัญเมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวก็ทำได้แค่ส่งข้อความแจ้งเตือนให้ทราบเท่านั้น แต่ไม่สามารถหันกล้องติดตามการเคลื่อนไหวได้ แน่นอนว่าทั้งคู่อาจจะเหมาะจะสำหรับการดูแบบเรียลไทม์มากกว่า แต่ถ้าคุณต้องการกล้องวงจรปิดที่อัจฉริยะมากขึ้นเราคิดว่า Xiaomi Mi 2K 360° จะเหมาะกับคุณอย่างยิ่งค่ะ !!! เพราะว่ามันสามารถควบคุมมุมมองของกล้องผ่านแอปได้ง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น รวมถึงกล้องจะหันตามบุคคลที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เพื่อจับภาพอย่างต่อเนื่องก็ได้ด้วยค่ะ

ในส่วนของความคมชัดและมุมภาพที่กว้างนั้น นั้นแม้ว่ารุ่น Pro 2K 360° ตัวนี้จะให้คุณภาพในระดับ 2K เหมือนกัน แต่ Xiaomi Mi 2K ฐานแม่เหล็กจะให้โทนสีที่ดูสมจริงมากกว่าและมุมมองความกว้างของกล้องเก็บได้เยอะกว่ารุ่นนี้เล็กน้อย ในส่วนของโทนสีนั้นขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคน เพราะว่าภาพที่เราได้ทดสอบเปรียบเทียบให้ดูคุณจะเห็นว่ารุ่น Pro 2K 360° มีโทนสีที่สดใสและสว่างมากกว่าค่ะ

ในส่วนที่ผู้เขียนแอบรู้สึกติดใจเล็กน้อยก็เพราะว่ารุ่นนี้มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ แม้ว่าดีไซน์ของ Xiaomi จะสวยดูเรียบหรู แต่ด้วยขนาดกล้องที่ใหญ่จึงต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งสักหน่อยค่ะ อ่านบทความ [รีวิวใช้งานจริง] Mi 360 ° Home Security Camera 2K Pro
ข้อดี
- สามารถหมุนกล้องได้ผ่านแอป (หมุนแนวนอน 360° แนวตั้ง 118°)
- ตรวจจับการเคลื่อนไหวพร้อมแจ้งเตือน + หมุนกล้องติดตามการเคลื่อนไหวเอง
- AI แยกประเภท บุคคล สัตว์ สิ่งของ หรือแมลง เพื่อลดความผิดพลาดในการทำงาน
- คุณภาพระดับ 2K มอบโทนสีสว่างสดใส
- รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ
- มีแสงไฟอินฟราเรดช่วยให้ภาพชัดเจนในตอนกลางคืน โดยที่แสงอินฟราเรดจะไม่รบกวนคุณ
- เป็นรุ่นที่มีอะแดปเตอร์มาให้ในเซ็ต
ข้อควรพิจารณา
- ดีไซน์สวย แต่มีขนาดที่ใหญ่เกินไป ทำให้เปลืองพื้นที่ติดตั้ง
- คุณภาพของโหมดพูดคุยสองทิศทาง (Two Way Talk) ยังต้องปรับปรุงอีกนิดเมื่อเทียบกับรุ่น Xiaomi Mi 2K ฐานแม่เหล็ก
- พื้นที่จัดเก็บแบบ MicroSD สูงสุดเพียง 32GB
- คู่มือการติดตั้ง และคำสั่งเสียงต่าง ๆ จะเป็นภาษาจีนทั้งหมด ไม่มีแม้แต่ภาษาอังกฤษ
- การรีเซ็ตกล้องลำบากต้องใช้คลิปมาจิ้ม ซึ่งทางแบรนด์ไม่ได้ให้มาด้วย
ความละเอียดสูงสุด | 2K |
---|---|
มุมมองกว้าง | 110° |
WiFi | 2.4GHz & 5GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 32 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 122 x 78 x 78 mm |
อะแดปเตอร์ |
Ezviz C6N 1080P กล้องวงจรปิด

ราคา 840 บาท*
ยังคงอยู่กับกล้องวงจรปิดจากแบรนด์ Ezviz อีกครั้ง หลังจากที่เราแนะนำ Ezviz รุ่น C1HC ที่มีสเปกพื้นฐานในราคาไม่แพงกันไปแล้ว ครั้งนี้ขอขยับราคาขึ้นมากอีกสัก 200-300 บาทนะคะ โดยรุ่นนี้ค่อนข้างพิเศษมากกว่าตรงที่มันสามารถหมุนกล้องได้รอบทิศทางผ่านการควบคุมด้วยแอปพลิเคชัน และยังมีฟังก์ชันการติดตามอัจฉริยะให้อีกด้วย ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดสิ่งสำคัญใด ๆ เลยค่ะ
แน่นอนว่าอ่าน ๆ ดูแล้วมันช่างมีคุณสมบัติไม่ต่างจากตัวก่อนหน้านี้ที่เรารีวิวไว้เลยหรือก็คือกล้องวงจรปิดของ Xiaomi Mi Pro PTZ 2K 360° ใช่มั้ยคะ ? แต่ทว่า...สิ่งที่ทำให้ต่างกันก็คือรุ่นนี้มีความละเอียดที่ 1080p และรองรับแค่ Wi-Fi 2.4 GHz ซึ่งทั้งคู่จัดเป็นเสปกมาตรฐานเท่านั้น ดังนั้น Ezviz C6N จึงมีราคาที่ถูกกว่ามาก ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่อยากได้ฟังก์ชันกล้องวงจรปิดที่ครบครัน แต่เอาจริง ๆ นะคะ หากคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องภาพที่คมชัด เราคิดว่าความละเอียด 1080p ก็ถือว่าชัดมากแล้วค่ะ
ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- คุณภาพระดับ FHD 1080p ในระดับมาตรฐานกล้องวงจรปิดทั่วไป
- สามารถรองรับการ์ด MicroSD ได้สูงสุด 256GB
- หมุนกล้องได้ตามต้องการผ่านแอป (หมุนแนวนอน 340° แนวตั้ง 55°)
- ตรวจจับการเคลื่อนไหว พร้อมแจ้งเตือน และการติดตามการเคลื่อนไหวให้อัจฉริยะ
- มีระบบเสียงภาษาไทยในระหว่างขั้นตอนการติดตั้ง
- มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ในตัว
- มีช่องเสียบสำหรับสาย LAN สำรองมาให้ในกรณีที่ไม่ต้องการติดตั้งกับ WiFi
ข้อควรพิจารณา
- การพูดคุยแบบเรียลไทม์ (Two Way Talk) ยังคงต้องได้รับการปรับปรุง
- รองรับ WiFi 2.4 GHz ที่อาจถูกรบกวนได้ง่าย
- มุมมองภาพค่อนข้างแคบเพราะ 85°
ความละเอียดสูงสุด | 1080p |
---|---|
มุมมองกว้าง | 85° |
WiFi | 2.4 GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 256 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 88 x 88 x 119 mm |
อะแดปเตอร์ |
TP-Link Tapo C225 4MP 2K กล้องวงจรปิด

ราคา 1,790 บาท*
กล้องวงจรปิดจาก TP-Link Tapo C225 รุ่นนี้ใช้เลนส์ที่มีความคมชัดถึง 4 ล้านพิกเซล โดยจะมอบความละเอียดให้แก่ภาพและคลิปที่ 2K ไม่ว่าบริเวณที่ตั้งติดกล้องอยู่ในพื้นที่แสงน้อยหรือแสงมากเป็นพิเศษ ก็สามารถเก็บภาพได้อย่างคมชัดทุกช่วงขณะ ตัวกล้องควบคุมให้หมุนได้รอบทิศทาง มาพร้อมกับ Smart AI ที่อัจฉริยะสุด ๆ เพราะสามารถระบุประเภทของบุคคล สัตว์เลี้ยง และยานพาหนะได้ ในขณะเดียวกันก็มีอัลกอริทึมสำหรับจดจำเสียงที่ผิดปกติเพื่อแจ้งเตือนให้คุณทราบเมื่อมีอันตรายเกิดขึ้น
ทางแบรนด์เคลมมาว่าเทคโนโลยีที่ใช้นั้นค่อนข้างล้ำสมัยมาก เนื่องจากมันสามารถ ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ตรวจจับยานพาหนะ, แจ้งเตือนเสียงสุนัข-แมว, เสียงแก้วแตก ยังไม่รวมถึงการตรวจจับควันและวิเคราาะห์อารมณ์สีหน้าได้ด้วย ทั้งนี้ตัวกล้องยังสามารถติดตามการเคลื่อนไหวได้มากสุดถึง 120° ต่อวินาทีเพื่อให้คุณไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญอีกด้วยนะคะ
โดยส่วนตัวแล้วทางเว็บไซต์ของเรายังไม่ได้มีการทดลองใช้รุ่นนี้จริง ๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์เคลมมามีความแม่นยำมากเพียงไร แต่จากที่ดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงก็ยังไม่พบการวิจารณ์ในเชิงลบ
อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากได้กล้องวงจรปิดที่มีฟังก์ชันพิเศษเสริมมากมาย เราคิดว่ารุ่นนี้เหมาะมากค่ะ แม้ว่าราคาอาจจะดูสูงไปสักหน่อยแต่ก็แลกมากับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของคุณ
ข้อดี
- รองรับ MicroSD สูงสุด 512 GB
- การตรวจจับและการแจ้งเตือนด้วย AI อัจฉริยะ
- รับรู้เสียงทารกร้องไห้และเสียงอื่น ๆ พร้อมแจ้งเตือน
- สามารถแพนและเอียงกล้องในแนวนอน 360° แนวตั้ง 149°
- เซ็นเซอร์รูรับแสงขนาดใหญ่ F1.6 ช่วยมอบภาพที่คมชัดมากยิ่งขึ้น
- มีโหมดความเป็นส่วนตัวที่ตัวกล้อง ดังนั้นคนที่อยู่ในห้องสามารถกดปุ่มปิดกล้องให้หันหลังได้หรือสั่งการผ่านแอปพลิเคชันก็ได้
- แสงอินฟราเรด IR 850-940 นาโนเมตร ไม่มีแสงสีแดงรบกวนการนอนหลับของคุณ
- มีอะแดปเตอร์มาให้
ข้อควรพิจารณา
- รองรับ WiFi 2.4 GHz ที่อาจถูกรบกวนได้ง่าย
ความละเอียดสูงสุด | 2K |
---|---|
WiFi | 2.4 GHz |
มุมมองกว้าง | ไม่ระบุ |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 512 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 80 x 80 x 112 mm |
อะแดปเตอร์ |
IMOU Ranger 2C 4MP 1080p กล้องวงจรปิด

ราคา 1,113 บาท*
IMOU Ranger 2C เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดหลังจากที่ Ranger 2 ได้สร้างยอดขายไว้อย่างดี สำหรับรุ่นนี้เป็นกล้องวงจรปิดสเปกสูง เพราะเลนส์กล้องมีความคมชัดถึง 4 ล้านพิกเซล เท่ากับ TP-Link Tapo C225 แต่คุณภาพของคลิปจะอยู่ที่ 1080p อย่างไรก็ตาม ภาพที่ได้จะคมชัดมากกว่ากล้องทั่วไปแน่นอนค่ะ เพราะเมื่อทำการซูมภาพก็จะเห็นรายละเอียดต่าง ๆ มากกว่าโดยที่ภาพไม่แตก มาพร้อมกับฟังก์ชันหมุนได้รอบทิศแบบ 360º โหมดอินฟราเรดจะทำงานในตอนกลางคืนซึ่งสามารถช่วยให้คุณมองเห็นภาพในความมืดได้ไกลขึ้นอีก 10 เมตร แน่นอนว่ารุ่นนี้จะต้องมี AI สุดฉลาดที่ตรวจจับคนและติดตามในตัว พร้อมกับแจ้งเตือนให้คุณทราบทันที
ในส่วนของ Two Way Talk รุ่นนี้จะมีทั้งลำโพงและไมค์แบบ Built-in ดังนั้นจึงสามารถพูดคุยโต้ตอบกันได้ สิ่งที่น่าสนใจคือทางแบรนด์เคลมมาว่าได้ใช้ Soft AP Version ซึ่งมันสามารถดูภาพจากกล้องโดยไม่ต้องใช้ WiFi เลย แถมยังมีเสียงไซเรนเเจ้งเตือนเมื่อตรวจพบสิ่งผิดปกติ
ข้อดี
- คุณภาพระดับ FHD 1080p ในระดับมาตรฐานกล้องวงจรปิดทั่วไป แต่เลนส์กล้อง 4MP
- ปรับมุมมองผ่านแอพได้
- จับความเคลื่อนไหว ติดตามการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ และแจ้งเตือน
- จับเสียงผิดปกติ เช่น เสียงเด็กร้อง
- MicroSD card สูงสุด 256GB
- รองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด NVR
- ลำโพงและไมค์คุณภาพดี เหมาะสำหรับใช้งานในโหมด Two Way Talk
- IMOU แอปใช้งานง่าย เชื่อมต่อง่าย แอปค่อนข้างเสถียร
- มีอะแดปเตอร์
ข้อควรพิจารณา
- รองรับ WiFi 2.4 GHz ที่อาจถูกรบกวนได้ง่าย
- มุมมองภาพค่อนข้างแคบ มุมมอง 92º
- ฟังก์ชันติดตามการเคลื่อนไหวไม่ยังค่อยเสถียร
ความละเอียดสูงสุด | 1080p |
---|---|
มุมมองกว้าง | 92° |
WiFi | 2.4 GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 256 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 106 x 77 x 77 mm |
อะแดปเตอร์ |
TP-Link Tapo C210 3MP 2K กล้องวงจรปิด

ราคา 999 บาท*
หากคุณรู้สึกชอบกล้องวงจรปิดของ TP-Link แต่เนื่องจาก Tapo C225 มีราคาที่แพงเกินไป เราขอแนะนำกล้องวงจรปิด Tapo C210 ตัวนี้ในราคาไม่ถึง 1,000 บาทค่ะ
อย่างไรก็ดี ในราคาที่ถูกลงก็ย่อมมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่น้อยลงตามไปด้วย แต่คุณสมบัติขั้นพื้นฐานยังมีอยู่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น เลนส์กล้องที่ใช้มีความคมชัดถึง 3 ล้านพิเซล ให้ความละเอียดในระดับ 2K ตัวกล้องสามารถหมุนได้ถึง 360º ในแนวนอนและ 114º ในแนวตั้ง มาพร้อมกับโหมดกลางคืนที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพในกล้องได้ชัดเจนขึ้น ส่วนคุณสมบัติการตรวจจับการเคลื่อนไหวและเสียง รุ่นนี้ก็มีมาให้เช่นกันค่ะ โดยจะแจ้งเตือนผ่านอีเมล์ของคุณ สำหรับ Two Way Talk หรือสื่อสารด้วยเสียงสองทิศทางนั้นก็ทำออกมาได้ระดับที่ดี
ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- สามารถหมุนกล้องได้ผ่านแอป
- ตรวจจับการเคลื่อนไหว และเสียง พร้อมแจ้งเตือน รวมถึงหมุนกล้องติดตามการเคลื่อนไหว
- คุณภาพระดับ 2K
- รองรับ Micro SD Card สูงสุดที่ 256 GB
- มีอะแดปเตอร์
- มีแสงไฟอินฟราเรดช่วยให้ภาพชัดเจนในตอนกลางคืน
ข้อควรพิจารณา
- รองรับ WiFi 2.4 GHz ที่อาจถูกรบกวนได้ง่าย
- ควบคุมการหมุนผ่านแอปยังไม่ค่อยเสถียร กล้องไม่ได้รับคำสั่งในทันทีมีช่วงที่ดีเลย์ สะดุด และกระตุกบางครั้ง
- การเปิดแอปเพื่อเข้าไปดูใช้เวลาประมวลผลค่อนข้างช้า
ความละเอียดสูงสุด | 2K |
---|---|
มุมมองกว้าง | ไม่ระบุ |
WiFi | 2.4 GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 256 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 86 x 85 x 117 mm |
อะแดปเตอร์ |
IMILAB Pro A1 2K กล้องวงจรปิด

ราคา 1,150 บาท*
สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ท่านไหนกำลังมองหากล้อง IP ที่ใช้ดูลูกน้อยตลอด 24 ชั่วโมง เราคิดว่ารุ่นนี้จะเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่มากที่สุดค่ะ เนื่องจากมีฟังก์ชันตรวจจับเสียงเด็กร้อง (Baby cry) พร้อมแจ้งเตือนทันที ดังนั้นไม่ว่าลูกน้อยของคุณจะตื่นตอนไหนหรือหิวเมื่อไหร่ รวมถึงต่อให้คุณไม่ได้อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ ลูกน้อย คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ช่วยให้หมดกังวลได้เยอะเลยค่ะ

นอกจากนี้พวกฟังก์ชันพื้นฐานอย่าง ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ติดตามการเคลื่อนไหว, AI ที่ใช้แยกประเภท บุคคล สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของ รวมถึงสามารถควบคุมให้กล้องหมุนได้ตามต้องการผ่านแอปพลิเคชัน มาพร้อมกับมุมมองภาพกว้างถึง 110° สำหรับเก็บรายละเอียดภายในห้องได้อย่างครบถ้วน ในส่วนของการพูดคุยแบบเรียลไทม์หรือโหมด Two Way Talk ก็มีมาให้เช่นกันค่ะ ที่สำคัญคือรุ่นนี้ใช้กล้องความละเอียด 3MP ให้ภาพความคมชัดระดับ 2K เลยค่ะ
ข้อดี
- ความละเอียดของกล้อง 3MP ให้คมชัดของภาพในระดับ 2K
- กล้องหมุนได้ตามต้องการผ่านแอป (หมุนแนวนอน 360° แนวตั้ง 90°)
- มีฟังก์ชันตรวจจับ Baby Cry พร้อมแจ้งเตือนทันที
- ใช้งานกับแอป Mi Home (ของ Xiaomi)
- รองรับ MicroSD สูงสุด 256 GB
ข้อควรพิจารณา
- รองรับ WiFi 2.4 GHz ที่อาจถูกรบกวนได้ง่าย
- ไม่มีอะแดปเตอร์มาให้
- ฟังก์ชันติดตามการเคลื่อนไหว ยังไม่ค่อยเสถียรต้องได้รับปรับปรุงหรือพัฒนาต่อไป
- เมื่อเปิดดูในแอปการประมวลผลภาพค่อนข้างดีเลย์ใช้เวลาเล็กน้อย แล้วเมื่อเทียบกับ Xiaomi Mi 2K รุ่นฐานแม่เหล็กแล้วดูเหมือนว่ากล้องของ IMILAB จะประมวลภาพออกมาได้ช้ากว่าค่ะ
ความละเอียดสูงสุด | 2K |
---|---|
มุมมองกว้าง | 110° |
WiFi | 2.4 GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 256 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 160 x 90 x 90 mm |
อะแดปเตอร์ |
Autobot Snap 2 Camera 3MP กล้องวงจรปิด

ราคา 2,990 บาท*
สำหรับกล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายนี้จริง ๆ แล้วสามารถใช้งานได้ทั้งในร่มและกลางแจ้งเลยค่ะ ราคาอาจดูสูงไปหน่อยแต่ทว่าเป็นกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งง่ายมาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้สายไฟในการจ่ายพลังงานเลย แถมยังไม่ต้องเชื่อมต่อกับสาย LAN อีกด้วย ดังนั้นหากจะเรียกว่าเป็นกล้องวงจรปิดที่ไร้สายก็คงไม่เกินจริงค่ะ
โดยรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ ดังนั้นจึงในตัวหมดปัญหาไฟดับในตัวหรือมีเหตุกรณีฉุกเฉินใด ๆ ตัวแบตเตอรี่มีความจุ 5200 mAh ดูเหมือนจะน้อยใช่มั้ยคะ ? แต่ว่าอยู่ได้นานสูงสุด 3 เดือนในกรณีที่มีการจับภาพเป็นระยะเลยทีเดียว แต่หากเปิดใช้งานตลอดจะมีอายุอยู่ที่ 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แน่นอนว่าแบตเตอรี่สามารถถอดชาร์จไฟได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องถอดทั้งตัวกล้องเลย สำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ ตัวกล้องใช้เลนส์ 3 ล้านพิกเซล มีฟังก์ชันตรวจจับทุกการเคลื่อนไหว สามารถดูผ่านแอป (แอปพลิเคชัน Autobot+) และเป็นการเชื่อมต่อ WiFi
ข้อดี
- ภาพคมชัดระดับ Full HD
- ช่วยตรวจจับและแจ้งเตือนการเคลื่อนไหว
- รองรับ Micro SD Card สูงสุดที่ 128 GB
- สามารถใช้โหมด Two Way Talk ในพูดคุยสื่อสารผ่านลำโพงและไมโครโฟนที่ติดอยู่ในเครื่องได้
- มีการแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำ
- มี Save mode สำหรับประหยัดพลังงานเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหว
- กันน้ำ กันฝุ่น ด้วยมาตรฐาน IP65
- ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ทั้งในอาคารและกลางแจ้ง
ข้อควรพิจารณา
- ระยะเวลาชาร์จ 7-8 ชั่วโมง
- ราคาค่อนข้างสูง
ความละเอียดสูงสุด | 1080p |
---|---|
มุมมองกว้าง | 130º |
WiFi | 2.4GHz |
จัดเก็บใน MicroSD | สูงสุด 128 GB |
จัดเก็บบนคลาวด์ | |
ตรวจจับการเคลื่อนไหว & แจ้งเตือน | |
ขนาด | 55 x 100 x 60 mm |
อะแดปเตอร์ | ไม่จำเป็นต้องใช้ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
กล้องวงจรปิดไร้สาย Wireless ไม่เสถียร ทำอย่างไรดี ?
ก่อนที่เราจะส่งกล้องไปเคลมหรือทักแชทไปต่อว่าทางแบรนด์ผู้ผลิต ผู้เขียนอยากแนะนำให้คุณลองตรวจสอบสัญญาณ WiFi ของตัวเองดูก่อนนะคะ
อย่างแรกเลยคือจุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดมันอยู่ใกล้เราเตอร์ไหม เพราะโดยทั่วไปการติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบไร้สาย ควรจะเลือกจุดติดตั้งที่ใกล้เราเตอร์มากที่สุด
สิ่งต่อมาก็คือในการทดสอบผ่านแอปฯ บนมือถือของเรา เราแนะนำให้คุณเลือก WiFi อื่นที่ไม่ใช่ตัวเดียวกับที่เชื่อมต่อกับกล้อง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเลือกใช้อินเทอร์เน็ตที่เป็นคนละเครือข่ายกัน หรือไม่ก็ใช้เป็นเครือข่ายของสมาร์ทโฟนที่คุณเลือกซื้อบริการไว้ก็ได้ค่ะ จะเป็นแบบ 4G หรือ 5G ก็ได้หมดค่ะ จากนั้นลองทดสอบดูว่ายังมีสัญญาณรบกวนอีกไหม
หากกล้องวงจรปิดของคุณมีช่องสำหรับเสียบสาย LAN สำรองมาให้ด้วย แนะนำให้ทดลองต่ออินเทอร์เน็ตด้วยวิธีสาย LAN ดูค่ะ หากพบว่าทำงานได้ปกติ หมายความว่าตัวรับสัญญาณ WiFi ของกล้องอาจมีปัญหาได้