สำหรับบทความ ปริ้นเตอร์ รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2023 นี้เราได้ทำการอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ให้เป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ไล่ตั้งแต่วิธีการเลือกซื้อ รุ่นสินค้า และข้อมูลที่น่าสนใจใหม่ ๆ ดังนั้นใครกำลังสนใจจะซื้อปริ้นเตอร์เครื่องใหม่อยู่ หวังว่าบทความตัวนี้จะสามารถช่วยคุณได้นะครับ
หากย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ใครจะไปคิดล่ะครับว่า อุปกรณ์สำนักงานที่เราคุ้นเคยกันอย่าง เครื่องปริ้น จะมีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นมาขนาดนี้ โดยในอดีตกว่าเราจะพิมพ์เอกสารได้สักแผ่นนึง มันค่อนข้างยุ่งยาก วุ่นวาย แถมยังต้องใช้เวลา เพราะไหนจะต้องเตรียมไฟล์ และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ กับเครื่องปริ้น ซึ่งถ้าเป็นปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท เราก็ต้องตรวจสอบ หัวพิมพ์ และปริมาณหมึกก่อน เพราะถ้าทิ้งไว้นานมันก็อาจจะอุดตัน จนไม่สามารถพิมพ์ต่อได้ ส่วนปริ้นเตอร์เลเซอร์ในสมัยนั้น ก็มีราคาแพงมากครับ

ด้วยปัญหาต่าง ๆ ในอดีต ทำให้หลาย ๆ คนต้องซื้อปริ้นเตอร์เครื่องใหม่กันจนเบื่อเลย แต่แล้วด้วยเทคโนโลยีในสมัยนี้ นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้แล้ว มันยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเรามากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งการสั่งพิมพ์ไร้สาย ซึ่งเราสามารถสั่งพิมพ์ผ่านมือถือ หรือแท็บเล็ตได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดคอมฯ ให้เสียเวลา แถมปริ้นเตอร์บางรุ่นก็เป็นมัลติฟังก์ชัน คือ ทำทุกอย่างได้ในเครื่องเดียว ทำให้พวกเครื่องถ่ายเอกสาร แฟกซ์ และสแกนเนอร์ จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะงั้นหากคุณกำลังมองหาครื่องปริ้นสักรุ่นนึง เพื่อนำไปใช้พิมพ์งานเอกสาร บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ ที่คุณต้องรู้ มาฝากกันเหมือนเดิมครับ
ในการเลือกรุ่นและการจัดอันดับสินค้า เราได้อ้างอิงจากสเปกที่แบรนด์ผู้ผลิตได้ระบุเอาไว้ ส่วนนึงได้จากคนที่ซื้อรุ่นนั้น ๆ ไปใช้งานจริง ๆ และอีกส่วนนึงเราได้อ้างอิงจากประสบการณ์การใช้งานส่วนตัว ที่เคยใช้ปริ้นเตอร์มาหลาย ๆ รุ่นครับ
และการจัดอันดับทั้งหมดนี้เราไม่ได้เรียงจากประสิทธิภาพนะครับ เพราะฉะนั้นรุ่นอันดับ 1 ไม่ใช่รุ่นดีที่สุด และรุ่นที่อยู่อันดับสุดท้าย ก็ไม่ใช่รุ่นที่แย่ที่สุดเช่นกัน แต่ทุกรุ่นที่เราเลือกมาคือรุ่นที่ดีและเหมาะกับผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ ครับ และทุกคนสบายใจได้เลยครับ เราไม่ได้รับสปอนเซอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นทั้งหมดเป็นการแนะนำของเราล้วน ๆ
ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) รุ่นไหนดี ?
- Wi-Fi Multi-Function Ink Tank ที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับใช้ในบ้าน หรือธุรกิจเล็ก ๆ : Brother DCP-T520W
- Wi-Fi Multi-Function Ink Tank ที่มีความละเอียด สำหรับงานพิมพ์คุณภาพสูง : Epson EcoTank L3250
- Wi-Fi Multi-Function Inkjet มี WiFi สามารถพิมพ์, สแกน และถ่ายสำเนา: Canon PIXMA E4570
- Multi-Function Inkjet ราคาประหยัด เหมาะกับการใช้งานในบ้าน(พิมพ์ไม่เยอะ) พิมพ์, สแกน และถ่ายสำเนาได้ : HP DeskJet 2330/2333
- Inkjet ราคาประหยัด ตัวเครื่องไม่ใหญ่เหมาะกับนักเรียน/นักศึกษา: HP DeskJet 1210
ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer) รุ่นไหนดี ?
- Wi-Fi Color Laser ที่ดีที่สุด เน้นการพิมพ์เป็นหลัก พิมพ์รูปภาพสีที่คมชัด ด้วยความรวดเร็ว : Brother HL-L3270CDW
- Wi-Fi Color Laser ที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับใช้พิมพ์เอกสารในบ้าน หรือในธุรกิจเล็ก ๆ : RICOH SP C261DNw
- Wi-Fi Multi-Function Color Laser ที่คุ้มค่า สำหรับออฟฟิศที่ต้องการจัดการงานเอกสารทั้งหมด : Brother DCP-L3551CDW
- Wi-Fi Multi-Function Mono Laser เลเซอร์ขาว-ดำ สำหรับออฟฟิศที่ต้องการพิมพ์เอกสารปริมาณมาก ๆ ด้วยความรวดเร็ว และความคมชัด : HP LaserJet MFP M236sdw
- Multi-Function Mono Laser เลเซอร์ขาว-ดำ ราคาประหยัด พิมพ์เร็ว มีฟังก์ชันครับ จัดการงานเอกสารได้ทั้งหมด : Brother MFC-L2700D
เครื่องพิมพ์ หรือปริ้นเตอร์ (Printer) มีกี่ประเภท ?
ในปัจจุบัน เครื่องพิมพ์ มีอยู่หลายประเภทครับ แต่ที่ผู้คนนิยมใช้กันจะมีอยู่ 3 ประเภทครับ ซึ่ง 2 ประเภทในนี้เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน และในออฟฟิศ ส่วนอีก 1 ประเภทจะเหมาะสำหรับงานเฉพาะทางครับ เดี๋ยวเราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเครื่องพิมพ์ทั้ง 3 ประเภทนี้ก่อน เพื่อที่เราจะได้เข้าใจตรงกันมากขึ้น
|
1. ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)จุดเด่นอยู่ที่ราคาประหยัดครับ โดยค่าเครื่อง ค่าหมึก และค่าบำรุงรักษา จะถูกที่สุด และถ้านำมาเทียบกับ เลเซอร์รุ่นที่มีราคาเท่ากัน อิงค์เจ็ทจะให้ฟังก์ชันมามากกว่า นอกจากนี้การพิมพ์รูปภาพก็เป็นอีกจุดเด่นของอิงค์เจ็ทด้วย โดยปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ทจะมีการใช้หมึกอยู่ 2 แบบ ได้แก่
|
|
2. ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer)จุดเด่นอยู่ที่ความรวดเร็วในการพิมพ์ ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการพิมพ์งานปริมาณมาก และจุดเด่นอีกอย่าง คือ สามารถพิมพ์ข้อความได้คมชัดที่สุด โดยจะไม่มีเรื่องหมึกเลอะให้เราปวดหัวเลย ด้วยเหตุนี้เลเซอร์จึงมีอยู่ในออฟฟิศทุก ๆ แห่ง ซึ่งปัจจุบันจะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่
|
|
3. ปริ้นเตอร์สามมิติ (3D Printer)ปริ้นเตอร์สามมิติ ถูกพัฒนามาจาก ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท ทำให้มีการทำงานที่คล้ายกันนั่นก็คือ การเลื่อนหัวพิมพ์ไปยังจุดต้องการพิมพ์เรื่อย ๆ เพียงแต่จะเปลี่ยนจากน้ำหมึกเป็นวัสดุอื่นแทน อาทิเช่น เส้นพลาสติก เรซิ่น หรือวัสดุที่ละลาย และแข็งตัวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สามารถพิมพ์ทีละชั้น ๆ ทับขึ้นไปเรื่อย ๆ จนออกมาเป็นงาน 3 มิติ
|
ระหว่าง ปริ้นเตอร์เลเซอร์ กับ ปริ้นเตอร์อิ้งเจ็ท ซื้อแบบไหนดี ?
หากคุณกำลังมองหาเครื่องพิมพ์มาไว้ที่บ้านสักเครื่อง สำหรับการพิมพ์ข้อความโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะต้องการพิมพ์บ่อย ๆ หรือใช้พิมพ์นาน ๆ ครั้ง และตั้งงบไว้ไม่สูงมาก เราขอแนะนำเป็น ปริ้นเตอร์เลเซอร์ ราคาประหยัดก็พอแล้วครับ พิมพ์เร็ว ตัวอักษรคมชัด แถมไม่มีปัญหาหมึกเลอะ หมึกแห้งให้ปวดหัว เพราะเลเซอร์จะใช้เป็นผงหมึก ทำให้ถ้าไม่ได้ใช้งานนาน ๆ หมึกก็จะไม่แห้ง
แต่หากคุณกำลังมองหาปริ้นเตอร์ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายในราคาไม่แพง แต่สามารถพิมพ์ได้ทั้ง ข้อความ รูปภาพที่มีสีสันตรง ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท จะเหมาะกว่าครับ เนื่องจากมันได้รับการออกแบบมาเพื่อพิมพ์ภาพถ่ายโดยเฉพาะ ทำให้ส่วนใหญ่จะมีความละเอียด ส่วนการผสมสีก็ทำได้แม่นยำกว่า ช่วยให้ภาพถ่ายมีสีสันตรงไม่ผิดเพี้ยน และที่สำคัญคือ มันสามารถพิมพ์กับกระดาษอาร์ตได้หลายประเภทเลย ส่วนปัญหาเรื่องหมึกแห้ง หมึกอุดตัน ก็หายห่วงไปได้เลย เนื่องจากทุกวันนี้ปริ้นเตอร์พัฒนามาไกลมาก ทำให้ปริ้นเตอร์รุ่นใหม่ ๆ แทบจะไม่มีปัญหานี้แล้ว อย่าง Brother DCP-T520W ซึ่งเป็นรุ่นที่ค่อนข้างเก่าแล้ว เพราะตัวผมใช้งานอยู่ที่บ้านมานานกว่า 5 ปี โดยตั้งแต่ใช้งานมาทิ้งไว้เป็นเดือนมันก็ไม่แห้งครับ ฉะนั้นรุ่นใหม่อย่าง Brother DCP-T520W ก็ไม่ต้องกลัวหมึกแห้งเลย อ่านเพิ่มเติมจากหัวข้อ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่าง อิงค์เจ็ท กับ เลเซอร์
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่าง อิงค์เจ็ท กับ เลเซอร์
|
|
หมายเหตุ : ถ้าจะบอกว่า อิงค์เจ็ท มีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นถูกกว่า มันก็ไม่ถูกซะทีเดียวครับ เพราะทั้งคู่จะให้คุณภาพการพิมพ์พื้นฐานต่างกัน อธิบายง่าย ๆ ว่า ถ้าเราใช้ทั้งคู่ พิมพ์ภาพลงบนกระดาษธรรมดาเหมือนกัน ผลที่ได้คือ งานพิมพ์ของเลเซอร์ จะมีคุณภาพสูงกว่ามากครับ ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ อิงค์เจ็ท พิมพ์ภาพออกมา มีคุณภาพสูงเท่ากับ เลเซอร์ คุณก็ต้องเปลี่ยนไปใช้กระดาษพิเศษ เช่น กระดาษโฟโต้, กระดาษกลอสซี่ หรือกระดาษเคลือบน้ำยา อีกทั้งน้ำหมึกที่ใช้ก็ต้องดีกว่าเดิมด้วย และนี่ก็คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นครับ
สรุป : ต้นทุนการพิมพ์จริง ๆ ของทั้งคู่ แตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น
ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชัน (MFP) หรือ All-in-One Printer คืออะไร ?
ปริ้นเตอร์ All-in-One หรือ ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชัน (MFP) จะเป็นรุ่นที่รวมเอาฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งมีทั้ง การพิมพ์, การสแกน, การสำเนา รวมไปถึงการแฟกซ์ด้วย มันช่วยให้ออฟฟิศของคุณ ไม่จำเป็นต้องมี เครื่องถ่ายเอกสาร, สแกนเนอร์ หรือเครื่องแฟกซ์ เพิ่มให้เกะกะ
โดยปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันก็จะมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเลยครับ ซึ่งถ้าเป็นอิงค์เจ็ท ส่วนใหญ่ก็จะให้พิมพ์สีมาเลย อย่างเช่น HP DeskJet 2330/2333, Brother DCP-T520W ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเป็นเลเซอร์ก็มักจะเป็นปริ้นเตอร์ขาวดำก่อน โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4,000 บาท ขึ้นไป อาทิเช่น Brother MFC-L2700D หรือ HP LaserJet MFP M236sdw ถ้าหากเพื่อน ๆ ต้องการเลเซอร์สีก็ต้องจ่ายแพงขึ้นมาหน่อยครับ ดังนั้นถ้าเอาแบบมัลติฟังก์ชันด้วย เตรียมไว้หมื่นกว่า ๆ เลยครับ
แนะนำ ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)
Brother DCP-T520W Refill Tank System เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์

ราคา 5,230 บาท*
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันอิงค์แทงค์ที่มีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน พร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi ช่วยให้คุณสามารถสั่งงานผ่านมือถือได้ง่าย ๆ และถึงแม้คุณจะไม่มีไวไฟ รุ่นนี้ก็มี Wi-Fi Direct มาให้ ยังไงก็สามารถสั่งงานได้ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐานการพิมพ์ที่สูงครับ โดยใช้หัวฉีดที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มคุณภาพงานพิมพ์ ทำให้พิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยทำความเร็วในการพิมพ์ขาว-ดำสูงสุด 17 ภาพต่อนาที และพิมพ์สี สูงสุด 9.5 ภาพต่อนาที ซึ่งถือว่าเร็วมาก ๆ เลยทีเดียวครับ ช่วยให้คุณให้ได้งานพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม มีความคมชัดสูง และรวดเร็ว

แถมยังจัดการงานพิมพ์ได้ง่าย ๆ ด้วยถาดกระดาษ ที่รองรับความจุได้มากถึง 150 แผ่น พร้อมทั้งปรับได้หลายขนาดอีกด้วย พร้อมทั้งที่ด้านหลังยังมีช่องใส่กระดาษด้วยมือทีละแผ่น สำหรับป้อนกระดาษที่มีความหนาเป็นพิเศษครับ ติดตั้งอิงค์แทงค์ขนาดใหญ่จากผู้ผลิต ทำให้คุณตรวจดูปริมาณหมึก และสามารถจะเติมหมึกได้ง่าย ๆ แถมหมึกยังมีราคาที่ไม่แพงอีกด้วย โดยขวดมีดีไซน์เป็นกรวยไว้สำหรับเติมโดยเฉพาะ ช่วยให้มันไม่หกเลอะเทอะ ถือเป็นปริ้นเตอร์อเนกประสงค์ ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ รองรับงานพิมพ์ปริมาณมากได้สบายครับ
จุดเด่น
- มีประสิทธิภาพคุ้มค่าเกินราคา
- ทำความเร็วในการพิมพ์สูง
- รองรับงานพิมพ์ได้หลายพันหน้า รองรับงานพิมพ์ปริมาณมากได้สบาย
- มีระบบล้างหัวพิมพ์อัตโนมัติ
- มีการติดตั้งอิงค์แทงค์จากโรงงาน ช่วยให้ประหยัดหมึกได้มากขึ้น และเพิ่มความทนทาน
- ตรวจดูปริมาณหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่ายขึ้น
- การออกแบบปุ่มอินเตอร์เฟสต่าง ๆ และหน้าจอ 1 บรรทัด ทำได้ดีมาก ใช้งานง่าย มีประโยชน์
- ตลับหมึกมีราคาค่อนข้างประหยัด
ข้อควรพิจารณา
- มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายค่อนข้างทำได้ลำบาก
- การออกแบบปุ่มอินเตอร์เฟส ถึงแม้จะใช้งานง่าย แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ดูเก่าตกยุคเช่นกัน
ประเภท | Ink Tank Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print / Scan / Copy |
ความละเอียด | 1200 × 6000 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | (Bluetooth / Wi-Fi Direct) |
ขนาด | 435 × 380 × 159 มม. |
น้ำหนัก | 7.3 กก. |
การรับประกัน | 2 ปี รวมหัวพิมพ์ หรือ 30,000 แผ่น |
ราคาหมึกแท้ | BT-D60 (BK) และ BT-5000 (Y, M, C) 4 สี ขวดละ 250 บาท |
Brother MFC-T920DW Ink Tank Printer เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นอิงค์แทงค์

ราคา 9,820 บาท*
ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชั่น อิงค์แทงค์ ประสิทธิภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์งานในองค์กร หรือสำนักงานขนาดกลางจนถึงใหญ่โดยเฉพาะ มาพร้อมการทำงานที่โดดเด่น มีทั้งความเร็ว การประหยัด และฟังก์ชันต่าง ๆ ทั้ง พิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และแฟ็กซ์ แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ ช่วยให้งานคุณเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยที่คุณไม่ต้องคอยเปลี่ยนกระดาษทีละแผ่น ๆ ส่วนน้ำหมึกรุ่นนี้ติดตั้งแทงค์ขนาดใหญ่จากโรงงาน รองรับการพิมพ์ขาว-ดำถึง 7,500 แผ่น และพิมพ์สีถึง 5,000 แผ่น พร้อมความเร็วในการพิมพ์ที่สูงมาก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี แถมถาดป้อนกระดาษยังจุถึง 150 แผ่น เลยทีเดียว ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง ทำให้รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ หากคุณมีปริมาณงานพิมพ์ต่อครั้งที่เยอะมาก ๆ เป็นประจำ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ให้คุณสั่งพิมพ์ได้ง่าย ๆ ผ่านมือถือ หากออฟฟิศคุณกำลังหาเครื่องปริ้นดี ๆ สักตัวนึง รุ่นนี้คือคำตอบครับ
จุดเด่น
- มัลติฟังก์ชั่นอิงค์แทงค์ ที่เหมาะสำหรับงานพิมพ์ปริมาณมาก ๆ
- มีหน้าจอแสดงผล ที่บอกรายละเอียดครบถ้วน
- รองรับการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ
- ติดตั้งอิงค์แทงค์ขนาดใหญ่ พิมพ์ได้หลายพันแผ่น
- ตรวจดูปริมาณหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่าย
- การพิมพ์มีการประหยัดหมึกเป็นอย่างมาก
- มีการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง มีสาย และไร้สาย
- ราคาตลับหมึกถือว่าถูกมาก ๆ ช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก ส่งผลให้การเคลื่อนย้ายทำได้ลำบาก
- มีราคาสูง
ประเภท | อิงค์แทงค์ |
---|---|
คุณสมบัติ | Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) / Scan / Copy / Fax |
ความละเอียด | 1,200 × 6,000 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | USB Direct Print / Ethernet |
ระบบไร้สาย | (Wi-Fi Direct / Mobile Print) |
ขนาด | 435 × 439 × 195 มม. |
น้ำหนัก | 9.8 กก. |
การรับประกัน | 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น |
ราคาหมึกแท้ | Brother BT-D60 BK/ BT-5000 Y,M,C 4 สี ขวดละ 250 บาท |
Epson EcoTank L3250 All in One Ink Tank Printer ปรื้นเตอร์มัลติฟังก์ชันอิงค์แทงค์

ราคา 4,899 บาท*
Epson EcoTank L3250 ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์ รุ่นยอดนิยมอีกรุ่นนึง ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ดูดี ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ ภายในอัดแน่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลายหลาก ตอบโจทย์ทุกงานเอกสาร ทั้ง พิมพ์ ถ่ายสำเนาเอกสาร และการสแกน รองรับการพิมพ์ในปริมาณมาก ๆ ได้อย่างสบาย ๆ ด้วยแท็งค์ขนาดใหญ่ ที่มีการติดตั้งรวมเข้ากับตัวเครื่องจากโรงงาน ซึ่งเป็นแทงค์ที่มีคุณภาพ ได้รับการออกแบบมาให้เติมง่าย ป้องกันการหกเลอะเทอะ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดในการพิมพ์ที่สูง และมีความเร็วในการพิมพ์สูงพอสมควรครับ โดยแบบขาว-ดำ 10 แผ่นต่อนาที และสี 5 แผ่นต่อนาที นอกจากนี้ยังพิมพ์แบบไร้ขอบได้สูงสุดถึงขนาด 4R ด้วย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการปริ้นเตอร์ที่รองรับงานพิมพ์ ปริมาณมาก ๆ ได้ พร้อมกับต้องการคุณภาพงานพิมพ์ที่สูงด้วย รุ่นนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ
จุดเด่น
- ปรื้นเตอร์มัลติฟังก์ชันที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า คุ้มราคา
- การพิมพ์ใช้เทคโนโลยี Heat Free ที่ไม่ใช้ความร้อน ช่วยประหยัดต้นทุน
- มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา กว่ารุ่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
- มีการติดตั้งอิงค์แทงค์จากโรงงาน ช่วยให้ประหยัดหมึกมากขึ้น
- ตรวจดูน้ำหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่าย ไม่หกเลอะเทอะ
- รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง มีสาย และไร้สาย
- ตลับหมึกมีราคาค่อนข้างประหยัด
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีหน้าจอแสดงผล
- ความเร็วในการพิมพ์ค่อนข้างช้า เนื่องจากมีความละเอียดสูง
ประเภท | Ink Tank Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print / Scan / Copy |
ความละเอียด | สูงสุด 5760 × 1440 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | (WiFi, WiFi-Direct) |
ขนาดเครื่อง | 375 × 347 × 179 มม. |
น้ำหนัก | 3.9 กก. |
การรับประกัน | 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น |
ราคาหมึกแท้ | Epson 003 (ชุด 4 สี C, M, Y และ BK) สีละ 250 บาท |
HP Ink Tank Wireless 415 เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แท็งค์

ราคา 4,190 บาท*
จุดเด่น
- มีประสิทธิภาพสูง รองรับงานพิมพ์ได้หลายพันหน้า
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และเบา หากเทียบกับรุ่นที่มีสเปกใกล้เคียงกัน
- อิงค์แทงค์จากโรงงาน มีการประหยัดหมึกได้มากขึ้น และเพิ่มความทนทาน
- ตรวจดูปริมาณหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่ายขึ้น
- การออกแบบปุ่มอินเตอร์เฟสต่าง ๆ และหน้าจอ ช่วยให้ใช้งานง่าย มีประโยชน์
- ตลับหมึกมีราคาประหยัดมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ความเร็วในการพิมพ์ระดับกลาง ๆ
- การดีไซน์แทบไม่ต่างจาก DeskJet 2330/2333 และ DeskJet 1210 รุ่นเริ่มต้นเลย ทำให้ดูไม่ล้ำสมัย
- แท็งค์หมึกยื่นออกมานอกตัวเครื่องทำให้รู้สึกเกะกะ
ประเภท | Ink Tank Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print / Scan / Copy |
ความละเอียด |
|
Print Speed |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | |
ขนาดเครื่อง | 525 × 310 × 158 มม. |
น้ำหนัก | 4.67 กก. |
การรับประกัน | 2 ปี |
ราคาหมึกแท้ |
|
Canon PIXMA G2010 Printer All in One เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์

ราคา 3,840 บาท*
Canon PIXMA G2010 เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันอิงค์แทงค์ รุ่นยอดนิยม การันตีด้วยยอดขายแบบถล่มทลาย ครบเครื่องด้วยฟังก์ชัน 3 in 1 ทั้ง การพิมพ์ การถ่ายเอกสาร และการสแกน ตอบโจทย์ทุกงานเอกสาร ตัวเครื่องมีการติดตั้งแทงค์หมึก มาให้เลย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน สำหรับรุ่นนี้มีความละเอียดในการพิมพ์สูงสุด 4800 × 1200 dpi ด้วยหัวพิมพ์ทั้งหมด 1,472 หัวฉีด ช่วยให้มีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำ 8.8 แผ่น/นาที และพิมพ์ภาพสี 5 แผ่น/นาที ถือว่าพิมพ์งานได้รวดเร็วทันใจ แถมมีแทงค์หมึกขนาดใหญ่ที่เติมได้อย่างง่ายดาย ทำให้รองรับงานพิมพ์ในปริมาณมากได้อย่างสบาย ถาดบรรจุกระดาษบรรจุได้ 100 แผ่น แสดงผลบนจอ 1.2 นิ้ว Monochrome LCD ที่แสดงผลได้อย่างครบถ้วน และมีการเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0 ที่ใช้งานง่าย ถือเป็นเครื่องปริ้นที่เหมาะกับคนที่มีงานพิมพ์ในปริมาณมากทุก ๆ วัน
จุดเด่น
- เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน มีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่ากับราคา
- เป็เครื่องพิมพ์ที่มีการติดตั้งอิงค์แทงค์มาจากโรงงาน
- ตรวจปริมาณน้ำหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้อย่างง่ายดาย
- ตลับหมึกมีราคาประหยัด
ข้อควรพิจารณา
- มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากพอสมควร
- ความเร็วในการพิมพ์ ถือว่าค่อนข้างช้า หากเทียบราคากับรุ่นอื่น ๆ
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 เท่านั้น ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
ประเภท | Ink Tank Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print / Scan / Copy |
ความละเอียด | สูงสุด 4800 × 1200 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | |
ขนาดเครื่อง | 445 × 330 × 163 มม. |
น้ำหนัก | 6.3 กก. |
การรับประกัน | 1 ปี |
ราคาหมึกแท้ | GI-790 (ชุด 4 สี C, M, Y และ BK) สีละ 337 บาท |
Epson L1300 A3 Ink Tank Printer ปริ้นเตอร์อิงค์แทงค์ คุณภาพสูง

ราคา 14,500 บาท*
ปริ้นเตอร์อิงค์แทงค์ ประสิทธิภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ซึ่งรองรับสูงสุดที่ขนาด A3+ ทำให้คุณสามารถพิมพ์ งานเขียน CAD แผนผังบ้าน อาคาร พิมพ์รายงาน หรือพิมพ์แผนภูมิสรุปข้อมูลต่าง ๆ พร้อมรายละเอียดที่ชัดเจน สมบูรณ์แบบ โดยที่เครื่องพิมพ์ A4 ทั่ว ๆ ไปทำไม่ได้ โดยรุ่นนี้มาพร้อมแทงค์แท้ ติดตั้งมาจากโรงงาน ช่วยให้มันไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ ทำงานด้วยหัวพิมพ์ Micro Piezo ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ช่วยให้มีความเร็วในการพิมพ์ขาว-ดำสูงถึง 15 ภาพต่อนาที และมีความทนทานสูง ทำให้สามารถรองรับงานพิมพ์ปริมาณมาก ๆ และพิมพ์ต่อเนื่องได้อย่างสบาย ส่วนด้านหลังมาพร้อมถาดป้อนกระดาษที่สามารถรองรับได้หลายขนาด และก็ยังรองรับวัสดุการพิมพ์ได้มากมาย เช่น กระดาษหนา, กระดาษโฟโต้, ซองจดหมาย ฉลาก และอื่น ๆ ช่วยให้คุณพิมพ์งานทุกรูปแบบได้อย่างง่ายดาย
จุดเด่น
- ปริ้นเตอร์เครื่องแรกในโลก ที่รองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่ด้วยคุณภาพที่สูงได้ (สูงสุด A3+)
- เหมาะสำหรับพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ ที่ต้องการความละเอียดสูง ๆ
- ให้งานพิมพ์คุณภาพสูง มีรายละเอียดที่ดีเยี่ยม
- ใช้ต้นทุนในการพิมพ์ต่ำ เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน อินเตอร์เฟสต่าง ๆ มีแค่ไม่กี่ปุ่ม
- อิงค์แทงค์จากโรงงาน ซึ่งมีคุณภาสูง ไร้ปัญหาจุกจิก
- ตรวจดูปริมาณหมึก และการเติมน้ำหมึกทำได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- รองรับเฉพาะ การพิมพ์ภาพ เท่านั้น
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
- มีราคาสูง
ประเภท | Ink Tank Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | |
ความละเอียด | 5,760 × 1,440 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | |
ขนาดเครื่อง | 705 × 322 × 215 มม. |
น้ำหนัก | 12.2 กก. |
การรับประกัน | 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น |
ราคาหมึกแท้ | EPSON 001 ชุด 4 สี ประมาณ 1,000 บาท |
Canon PIXMA E4570 เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท All in One Printer

ราคา 3,550 บาท*
จุดเด่น
- เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ราคาประหยัด ที่มีคุณสมบัติครบครันที่สุด
- มีประสิทธิภาพการพิมพ์สูง รองรับทั้ง การพิมพ์, สแกน, สำเนา และการแฟ็กซ์
- รองรับการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ
- รองรับการฟีดเอกสารอัตโนมัติ สูงสุด 20 แผ่น
- มีจอ LCD ขาวดำ แสดงผลแบบ 2 บรรทัด ดูง่าย
- รองรับการสั่งพิมพ์แบบไร้สาย
ข้อควรพิจารณา
- ปุ่มการใช้งานดูค่อนข้างซับซ้อน
- มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากพอสมควร
- ความเร็วในการพิมพ์สี ถือว่าค่อนข้างช้า หากเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ในราคาเท่า ๆ กัน
ประเภท | Inkjet Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) / Scan / Copy / Fax |
ความละเอียด | สูงสุด 4800 × 1200 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | |
ขนาดเครื่อง | 435 × 295 × 189 มม. |
น้ำหนัก | 5.8 กก. |
การรับประกัน | 1 ปี |
ราคาหมึกแท้ |
|
HP DeskJet 2330/2333 ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท All in one

ราคา 1,390 บาท*
มาต่อที่ HP DeskJet 2330/2333 ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท all in one ที่ถูกอัพเกรดขึ้นมาจาก HP DeskJet 1210 ครับ ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติที่มากขึ้น ทั้ง พิมพ์, สแกน และถ่ายสำเนา แต่ยังคงมีราคาประหยัดเช่นเดิม โดยตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด ทำให้เหมาะกับโต๊ะทำงานมาก ๆ เน้นการใช้ที่สะดวกและรวดเร็ว สามารถติดตั้งเพียงไม่กี่ขั้นตอนก็พร้อมที่จะทำงานให้คุณแล้ว โดยมีความเร็วในการพิมพ์ (ISO) แบบขาว-ดำ 7.5 ppm และแบบสี 5.5 ppm ถาดกระดาษ สามารถบรรจุกระดาษได้สูงสุด 60 แผ่น ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับบ้านหรือโฮมออฟฟิศที่มีงานเอกสารไม่มาก หากใครที่ต้องการปริ้นเตอร์ All in one ที่มีคุณสมบัติครบครัน ในราคาประหยัดที่สุด DeskJet 2330/2333 คือคำตอบที่เหมาะกับคุณครับ
จุดเด่น
- ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท All in one ที่มีราคาประหยัดที่สุด
- ขนาดเล็กกะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่
- ในการพิมพ์สีและขาวดำ มีความเร็วพอสมควร
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้งานเป็นประจำ เพื่อป้องกันหมึกแห้ง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
ประเภท | Inkjet Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print / Scan / Copy |
ความละเอียด |
|
Print Speed |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | |
ขนาดเครื่อง | 425.2 × 304.1 × 149.1 มม. |
น้ำหนัก | 3.42 กก. |
การรับประกัน | 1 ปี |
ราคาหมึกแท้ |
|
Canon PIXMA เครื่องพิมพ์ไร้สายอิงค์เจ็ท รุ่น TS307

ราคา 1,790 บาท*
Canon PIXMA TS307 เป็นปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ทแบบไร้สาย มาพร้อมกับขนาดที่กะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ ด้านบนถูกทำให้ราบเรียบ ช่วยให้คุณยังคงมีพื้นที่วางเอกสารอยู่ รุ่นนี้มาพร้อมประสิทธิภาพการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม รองรับทั้ง การพิมพ์ และการสแกน โดยมีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำ 7.7 แผ่น/นาที ซึ่งค่อนข้างเร็ว และมีความเร็วในการพิมพ์ภาพสี 4.0 แผ่น/นาที ตอบโจทย์การพิมพ์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์การสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือ ทั้ง การพิมพ์ และการสแกน โดยใช้แอปพลิเคชั่น Canon PRINT Inkjet/Selphy ซึ่งสามารถรองรับได้ทุกระบบ มี One-Touch ทำให้เชื่อมต่อไปอย่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ในสัมผัสเดียว และยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย ถือเป็นรุ่นที่คุ้มค่ากับราคามาก ๆ ตอบโจทย์ทั้ง การใช้งานในบ้าน หรือโฮมออฟฟิศ
จุดเด่น
- มีราคาประหยัด
- ขนาดเล็ก ช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง
- มีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำสูงพอสมควร
- มีฟังก์ชันรองรับการสั่งงานแบบไร้สาย ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ
ข้อควรพิจารณา
- การสแกน และทำสำเนา ทำผ่านสมาร์ทโฟนเท่านั้น
- มีความเร็วในการพิมพ์สีค่อนข้างช้า
- ต้องใช้งานเป็นประจำ เพื่อป้องกันหมึกแห้ง
- ตลับหมึกมีราคาค่อนข้างสูง
ประเภท | Inkjet Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print (Scan และ Copy ทำผ่านสมาร์ทโฟน) |
ความละเอียด | สูงสุด 4800 × 1200 |
Print Speed |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | (Bluetooth / Wi-Fi Direct) |
ขนาดเครื่อง | 430 × 282 × 143 มม. |
น้ำหนัก | 2.9 กก. |
การรับประกัน | 1 ปี |
ราคาหมึกแท้ |
|
HP DESKJET เครื่องปริ้น ราคาประหยัด รุ่น 1210

ราคา 1,160 บาท*
HP DeskJet 1210 เป็นปริ้นเตอร์ตัวเริ่มต้นที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก HP DeskJet 1112 ที่เป็นปริ้นเตอร์ราคาประหยัดที่ได้รับความนิยมมาก ๆ รุ่นนึง ซึ่งตัวเครื่องถูกดีไซน์มาให้เหมาะกับโต๊ะทำงานโดยเฉพาะครับ เน้นใช้งานส่วนตัวที่บ้าน ตัวบอดี้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้ใช้พื้นที่การติดตั้งน้อย แถมมีการใช้ที่ง่ายมาก ๆ ติดตั้งเพียงไม่กี่ขั้นตอน ตัวเครื่องก็พร้อมที่จะให้คุณสั่งพิมพ์ได้ทันที่
เห็นราคาถูก ๆ แบบนี้แต่บอกเลยว่า มันครอบคลุมการพิมพ์มาก ๆ ครับ เพราะมันสามารถพิมพ์ได้ทั้ง สี และขาวดำเลย โดยจะมีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำประมาณ 7.5 แผ่น/นาที และการพิมพ์สี 5.5 แผ่น/นาที ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ช้าและก็ไม่ได้เร็ว ถาดบรรจุกระดาษใส่ได้สูงสุด 60 แผ่น นับว่าเยอะใช้ได้เลย สำหรับการใช้งานแบบส่วนตัว แต่ด้วยราคาเพียงแค่พันต้น ๆ เท่านั้น ทำให้มีการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB เพียงอย่างเดียวครับ ด้วยเหตุนี้ผมถึงบอกว่ามันเหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัวมากกว่า หากใครที่กำลังมองหาปริ้นเตอร์ราคาประหยัดที่ตอบโจทย์งานพิมพ์ได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- เป็นปริ้นเตอร์สีที่มีราคาประหยัดมาก ๆ
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ช่วยประหยัดพื้นที่
- ในการพิมพ์สีและขาวดำ มีความเร็วพอสมควร
- ความละเอียดในการพิมพ์ค่อนข้างสูง ให้งานพิมพ์ที่มีคุณภาพ
ข้อควรพิจารณา
- รองรับเฉพาะการพิมพ์เท่านั้น
- ต้องใช้งานเป็นประจำ เพื่อป้องกันหมึกแห้ง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
ประเภท | Inkjet Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | |
ความละเอียด |
|
Print Speed |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | |
ขนาดเครื่อง | 425.2 × 214.7 × 121.9 มม. |
น้ำหนัก | 2.02 กก. |
การรับประกัน | 1 ปี |
ราคาหมึกแท้ |
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วีดีโอสรุป ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) รุ่นไหนดี ?
แนะนำ ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer)
Brother HL-L3270CDW Color Laser Printer เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี

ราคา 11,990 บาท*
หากคุณกำลังมองหาปริ้นเตอร์ตัวใหม่ เพื่อมาใช้ในธุรกิจของคุณที่กำลังเติบโต เราขอแนะนำปริ้นเตอร์จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Brother กับรุ่น HL-L3270CDW ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี ราคาประหยัด แต่มีประสิทธิภาพการพิมพ์ของรุ่นท๊อปยัดใส่มาให้ ช่วยให้มันรองรับงานพิมพ์ที่มากขึ้นได้สบาย ๆ โดยเครื่องพิมพ์เลเซอร์สีรุ่นนี้สามารถพิมพ์ได้สูงสุดถึง 25 หน้า/นาที ทั้ง การพิมพ์สี และขาว-ดำ พร้อมระบบการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งเวลา และกระดาษ ทั้งยังสามารถจะลดต้นทุนการพิมพ์มากขึ้น ด้วยโหมดประหยัดผงหมึก ซึ่งจะพิมพ์ขาว-ดำ ด้วยผงหมึกสีดำเพียงอย่างเดียว แทนที่จะใช้ทั้ง 4 สี เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณไม่เปลืองสีอื่น ๆ ไปด้วยครับ ในส่วนถาดป้อนกระดาษเข้า รุ่นนี้ใส่ได้ถึง 250 แผ่น เลยทีเดียว ส่วนถาดกระดาษออก จะใส่ได้อีก 150 แผ่น ครับ ทำให้มันรับมือกับงานพิมพ์ปริมาณมากได้สบาย ๆ พร้อมมีช่องป้อนกระดาษด้วยมืออีก 1 ช่อง ทำให้คุณพิมพ์เอกสารพิเศษ ทั้ง ซองจดหมาย ฉลาก หรือใบปะหน้า ได้ง่ายขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องกระดาษในถาดกระดาษหลัดออกเลย

แถมยังน่าใช้มาก ๆ เพราะมีหน้าจอสีแบบสัมผัส ขนาด 2.7 นิ้ว ที่ปรับขึ้นลงได้ และปุ่มมีแค่ 3 ปุ่ม เท่านั้น ช่วยให้คุณตั้งค่าตัวเลือกสำหรับการพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย การเชื่อมต่อก็รองรับได้หลากหลาย โดยแบบไร้สาย จะรองรับได้ทั้งแบบ Wi-Fi ปกติ, แบบ Peer to Peer (Wi-Fi Direct, NFC และ Mobile Print) และยังมีรองรับ Brother Web Connect ที่ให้ปริ้นเตอร์สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์คลาวด์ชั้นนำต่าง ๆ ได้ ส่งผลให้คุณและทุกคนสามารถสั่งพิมพ์ไร้สายได้จากทุก ๆ อุปกรณ์ รวมไปถึงตัวปริ้นเตอร์เอง ก็สามารถสั่งพิมพ์เอกสารที่อยู่บนเว็บไซต์ได้โดยตรงเลย ดังนั้นออฟฟิศไหนที่เน้นทำงานออนไลน์ บอกเลยว่าเหมาะมากจริง ๆ ครับ แต่ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่อโดยใช้สายรุ่นนี้ก็ใช้ได้ทั้ง USB และ LAN ดังนั้นไม่ว่าต้องการจะใช้งานแบบไหน รุ่นนี้ก็รองรับได้ทั้งหมดครับ
อ่านรีวิวฉบับเต็มของเราได้ที่ [รีวิว] Brother HL-L3270CDW ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี พิมพ์ไว เส้นชัด สีสันสดใส
จุดเด่น
- ตัวเครื่องดีไซน์สี่เหลี่ยมแบบเรียบ ๆ จัดวางได้ง่าย
- มาพร้อมคุณภาพและประสิทธิภาพการพิมพ์ที่สูง มีความละเอียด
- รองรับการพิมพ์ขาว-ดำ และสี ทำให้พิมพ์ได้ทั้ง ข้อความ และรูปภาพ
- รองรับการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ช่วยประหยัดทั้ง เวลา และกระดาษ
- มีความเร็วในการพิมพ์เอกสาร 25 หน้า/นาที ทั้ง ขาว-ดำ และสี
- หน้าจอสี ระบบสัมผัส และปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่าย
- หน้าจอและปุ่ม ถูกออกแบบให้สามารถยกให้ตั้งขึ้นได้ ช่วยให้ตอนนั่ง คุณยังคงมองเห็น ไม่ต้องยืนขึ้นไปดู
- รองรับการเชื่อมต่อได้ทุกรูปแบบ
- รองรับฟังก์ชัน Brother Web Connect ช่วยให้ปริ้นเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับเว็บไซต์ฝากไฟล์ต่าง ๆ และสั่งปริ้นได้โดยตรง
ข้อควรพิจารณา
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
- รองรับการพิมพ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
คลิปรีวิว ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี Brother HL-L3270CDW พิมพ์ไว เส้นชัด สีสันสดใส [ฉบับทดลองใช้งานจริง]
ประเภท | Color Laser Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) |
ความละเอียด | 2,400 × 600 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | USB 2.0 / Ethernet/ Wireless LAN/ NFC |
ระบบไร้สาย | (Wi-Fi Direct) |
ขนาดเครื่อง | 439 × 461 × 252 มม. |
น้ำหนัก | 18.5 กก. |
การรับประกัน | 3 ปี |
ราคาหมึกแท้ | TN-263 (เล็ก)/ TN-267(ใหญ่) (BK, C, M, Y) สีละประมาณ 1,400-1,900 บาท |
RICOH Colour Laser Printer เครื่องพิมพ์เลเซอร์ SP C261DNw

ราคา 7,850 บาท*
RICOH SP C261DNw เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานภายในออฟฟิศโดยเฉพาะ มาพร้อมประสิทธิภาพการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งการพิมพ์สี และขาวดำ โดยมีความเร็วในการพิมพ์สูงสุด 20 แผ่นต่อนาที อีกทั้งในด้านการใช้งานก็สะดวกสบาย มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้สาย รองรับการสั่งงานผ่านอุปกรณ์อื่นๆ โดยใช้แอปฯ Ricoh Smart Device Connector สั่งพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว ภายในไม่กี่ขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการพิมพ์ 2 หน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกมากขึ้นไปอีก ถาดรองกระดาษขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุได้ถึง 751 แผ่น นั้นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นบรรจุกระดาษอยู่บ่อย ๆ ทำให้การทำงานของคุณมีความต่อเนื่อง เหมาะมาก ๆ สำหรับออฟฟิศที่มีปริมาณงานเอกสารจำนวนมาก
จุดเด่น
- ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในออฟฟิศที่มีปริมาณงานเอกสารจำนวนมาก
- มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารทั้ง สี และขาวดำ
- รองรับการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย
ข้อควรพิจารณา
- ตัวเครื่องมีขนาดค่อยข้างใหญ่ ส่งผลให้การเคลื่อนย้ายทำได้ลำบาก
- รองรับการพิมพ์เพียงอย่างเดียว
- หมึกพิมพ์ค่อนข้างแพง
ประเภท | Color Laser Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) |
ความละเอียด | 2,400 × 600 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | (Wi-Fi / Wi-Fi Direct) |
ขนาดเครื่อง | 400 × 450 × 320 มม. |
น้ำหนัก | 23.8 กก. |
การรับประกัน | 3 ปี |
ราคาหมึกแท้ | SP C250S (BK, C, M, Y) ประมาณ 9,000 บาท |
FUJIFILM Apeos C325 dw ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี All In One Color Laser

ราคา 18,500 บาท*
ออฟฟิศไหนที่กำลังมองหาปริ้นเตอร์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันไปใช้งานอยู่ เราขอแนะนำ FUJIFILM Apeos C325 dw ซึ่งเป็น All In one Color Laser ที่ได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์งานด้านเอกสารโดยเฉพาะ สามารถใช้งานในออฟฟิศขนาดกลางถึงใหญ่ได้สบาย ๆ ครับ โดยรุ่นนี้มีครบทุกฟังก์ชัน จบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์ สแกน แฟ็กซ์ ถ่ายเอกสาร หรือแม้แต่การสแกนไปยัง PC หรืออีเมลโดยตรง ตัวเครื่องมาในดีไซน์ใหม่ครับ เป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบเรียบ ๆ เนื่องจากได้มีการตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก ช่วยให้รุ่นนี้มีขนาดเล็กลง จัดวางง่ายขึ้น แต่กลับมีศักยภาพที่สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน แต่ข้อเสียอยู่ที่น้ำหนักครับ โดยมันหนักถึง 20.5 กก. เลยทีเดียว ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายได้
โดยรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นที่สุดแห่งคุณภาพการพิมพ์ มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์งานพิมพ์ได้ทั้งหมด ซึ่งรุ่นนี้จะทำงานด้วยหัวพิมพ์ LED และ IReCT พร้อมกับใช้โทนเนอร์ EA-Eco toner เทคโนโลยีใหม่ที่สามารถจะพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กมาก ๆ ได้อย่างคมชัด และยังมีเทคโนโลยี IET ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มมิติ และความเรียบเนียนให้กับงานพิมพ์ ช่วยให้งานพิมพ์ของเราออกมามีคุณภาพสูงสุด โดยมีความเร็วในการพิมพ์ทั้ง สี และขาวดำ สูงสุดถึง 31 แผ่น/นาที เลยทีเดียว
และเพิ่มความสะดวกในการทำงานมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ และระบบสแกน 2 หน้า พร้อมกันในครั้งเดียว ช่วยคุณประหยัดทั้ง เวลา และกระดาษเลย การเชื่อมต่อก็ต้องบอกเลยครับว่า รุ่นนี้มีให้ครบครันทั้งแบบมีสาย และไร้สาย รวมถึงพอร์ต USB ก็มีมาให้ด้วยช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์ และแถมยังสามารถสั่งพิมพ์จาก USB แฟลชไดรฟ์ได้โดยตรงอีกด้วย
จุดเด่น
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง CP315dw ที่มีคุณสมบัติคล้าย ๆ กันถึง 40%
- ปริ้นเตอร์เลเซอร์สีแบบ All in one รองรับทั้ง การพิมพ์ การสแกน การแฟ็กซ์ การถ่ายเอกสาร และอีเมล
- เหมาะสำหรับใช้งานในออฟฟิศที่มีปริมาณงานจำนวนมากโดยเฉพาะ
- มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารทั้ง สี และขาวดำ สูงที่สุด (สูงถึง 31 แผ่น/นาที)
- รองรับการพิมพ์ 2 หน้า และการแสกน 2 หน้า อัตโนมัติ
- หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว พร้อมเมนูภาษาไทยที่ใช้งานง่าย
- ถาดกระดาษขนาดใหญ่ ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย ทั้ง มีสาย และไร้สาย
- มีพอร์ต USB มาให้ด้วย สามารถสั่งพิมพ์จาก แฟลชไดรฟ, ฮาร์ดดิสก์พกพา และอื่น ๆ ได้โดยตรง
- หมึกพิมพ์รองรับงานพิมพ์ในปริมาณมากได้สบาย
- มาพร้อมการติดตั้ง และระบบดูแลจัดการที่ง่ายดาย
ข้อควรพิจารณา
- ตัวเครื่องแม้จะเล็กลงกว่ารุ่นก่อน แต่ก็ยังมีน้ำหนักมากถึง 20.5 กก. ซึ่งยากต่อการเคลื่อนย้าย
- หมึกพิมพ์มีราคาแพง
- มีราคาสูง
ประเภท | Color Laser Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print/ Scan/ Copy/ Fax/ Email |
ความละเอียด | 600 × 2,400 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ |
|
ระบบไร้สาย |
|
ขนาดเครื่อง | 410 × 430 × 366 มม. |
น้ำหนัก | 20.5 กก. |
การรับประกัน | 3 ปี |
ราคาหมึกแท้ | CT203490BK, 91C, 92M, 93Y (3,000+ บาท/ตลับ) |
Brother Colour LED Multi-Function ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันเลเซอร์ DCP-L3551CDW

ราคา 14,790 บาท*
เครื่องปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันเลเซอร์ ประสิทธิภาพสูงจาก Brother ที่รองรับการทำงานได้ครบ จบในเครื่องเดียว ทั้ง พิมพ์ สแกน และทำสำเนา ตัวเครื่องมาพร้อมความเร็วในการพิมพ์ 18-19 แผ่น/นาที เพิ่มความสะดวก ด้วยถาดกระดาษอัตโนมัติ ที่รองรับได้ถึง 50 แผ่น พร้อมมีฟังก์ชันการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ มำให้การพิมพ์งานของคุณรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่งป้อนกระดาษเอง อีกทั้งถาดบรรจุกระดาษมาตรฐานก็รองรับได้มากถึง 250 แผ่นเลยทีเดียว ทำให้งานพิมพ์ของคุณมีความต่อเนื่อง ในส่วนการเชื่อมต่อก็สามารถรองรับได้หลากหลายครับ ทั้ง แบบมีสาย และแบบไร้สาย ด้วยสัญญาณ Wi-Fi รองรับการสั่งงานผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ครบ นอกจากนี้คุณยังสามารถแชร์ผ่านเคลือข่าย LAN ได้อีกด้วย ช่วยให้ทุกคนในออฟฟิศสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ถือเป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับใช้งานภายในออฟฟิศหรือสำนักงานโดยเฉพาะ
จุดเด่น
- มีฟังก์ชันที่หลากหลาย
- มาพร้อมคุณภาพการพิมพ์ที่สูง มีความละเอียดดีเยี่ยม
- รองรับการพิมพ์ขาว-ดำ และสี
- รองรับการพิมพ์ และการสแกน อัตโนมัติ 2 หน้า
- มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารทั้ง ขาว-ดำ และสี
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย
ข้อควรพิจารณา
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก
- มีราคาสูง
ประเภท | Color Laser Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) / Scan (สแกนรูปภาพ 2 หน้า) / Copy |
ความละเอียด | 2,400 × 600 dpi |
ความเร็ว |
|
การเชื่อมต่อ | USB 2.0 / LAN |
ระบบไร้สาย | (Wi-Fi Direct) |
ขนาดเครื่อง | 410 × 475 × 414 มม. |
น้ำหนัก | 23.5 กก. |
การรับประกัน | 3 ปี |
ราคาหมึกแท้ | TN-267 (BK, C, M, Y) สีละประมาณ 2,500 บาท |
HP LaserJet MFP M236sdw ปริ้นเตอร์เลเซอร์ มัลติฟังก์ชัน (9YG09A)

ราคา 8,990 บาท*
HP MFP M236sdw เป็นเครื่องปริ้นเลเซอร์ มัลติฟังก์ชัน ขาว-ดำ ราคาสุดคุ้ม ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผลผลิตที่สูง ทำงานด้วยฟังก์ชันที่ครบครันทั้ง การพิมพ์ สแกน และสำเนา ตัวเครื่องมาในดีไซน์ที่เรียบง่ายครับ ขนาดถือว่าเล็กเลย ซึ่งถ้าหากเราเทียบกับ Brother HL-L3270CDW ที่รองรับการพิมพ์เพียงอย่างเดียว รุ่นนี้ที่เป็นมัลติฟังก์ชัน กลับมีขนาดเล็ก และเบากว่า โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 9.5 กก. เบากกว่าเกือบครึ่งครับ
ในด้านการใช้งานรุ่นนี้มาพร้อมกับเลเซอร์ขนาดเล็กที่น่าทึ่ง ซึ่งให้การพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยมันมีความเร็วการพิมพ์ขาวดำสูงสุดถึง 30 แผ่นต่อนาที ด้วยกระดาษ A4 ซึ่งถ้าใครต้องการเร็วกว่านี้ ก็ต้องเลือกรุ่นหลักหมื่นขึ้นไป อีกทั้งยังมีระบบการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติที่รวดเร็ว ตัวป้อนกระดาษอัตโนมัติ และการเชื่อมต่อที่รองรับทั้งแบบมีสาย และไร้สาย รวมไปถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย ซึ่งรองรับทั้ง Apple AirPrint, HP ePrint, HP Smart, Mopria Print และ Wi-Fi Direct เลย
จุดเด่น
- ตัวเครื่องมีขนาดค่อยข้างเล็ก และเบา ช่วยให้การเคลื่อนย้ายทำได้ไม่ยาก
- รองรับการพิมพ์สูงสุดถึง 20,000 หน้า/เดือน
- รองรับทั้ง การพิมพ์, การสแกน การถ่ายเอกสาร และ ADF Duplex
- ความเร็วในการพิมพ์ขาวดำ สูงถึง 30 แผ่น/นาที (สูงกว่ารุ่นที่แพงกว่าบางรุ่น)
- รองรับการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ
- การเชื่อมต่อที่ครบครัน
ข้อควรพิจารณา
- มีดีไซน์ที่ยื่นออกมาจากตัวเครื่อง ทำให้บางครั้งอาจจะรู้สึกเกะกะได้
- หน้าจอไอคอน LCD ขนาด 1.6 นิ้ว อาจจะใช้งานยากไปหน่อย สำหรับยุคนี้
ประเภท | Mono Laser Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print / Scan / Copy |
ความละเอียด | 600 × 600 dpi |
ความเร็ว | ขาวดำ : 30 แผ่น/นาที |
การเชื่อมต่อ |
|
ระบบไร้สาย |
|
ขนาดเครื่อง | 418 × 308 × 294 มม. |
น้ำหนัก | 9.5 กก. |
การรับประกัน | 3 ปี |
ราคาหมึกแท้ | HP 136A Black (2,030 บาท) |
Brother DCP-1610W Mono Laser Printer 3-in-1 ปริ้นเตอร์เลเซอร์ขาว-ดำ มัลติฟังก์ชัน

ราคา 4,247 บาท*
ปริ้นเตอร์เลเซอร์ ขาว-ดำ แบบ 3-in-1 ที่มีฟังก์ชันครบ จบในเครื่องเดียว ตอบโจทย์ทั้ง การพิมพ์ สแกน และสำเนา โดยถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในบ้าน หรือธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการพิมพ์ให้สูงขึ้น ซึ่งตัวเครื่องมาในดีไซน์เรียบง่าย ทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ช่วยให้มันจัดวางได้ง่าย ประหยัดมาก ๆ ครับ ส่วนน้ำหนักก็ไม่ได้มากจนเกินไป ยังคงเคลื่อนย้ายได้สะดวก ด้านหน้ามีปุ่มควบคุม พร้อมจอแบบ 16 ตัวอักษร 2 บรรทัด ที่อาจจะดูเก่าหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ดี
มีถาดกระดาษเข้าขนาดใหญ่ ใส่กระดาษ 80 แกรม ได้สูงสุดถึง 150 แผ่น ช่วยให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนถาดกระดาษออก ก็รองรับกระดาษ 80 แกรม ได้ 50 แผ่น ซึ่งเพียงพอแล้วกับการใช้งานทั่วไป โดยความเร็วในการพิมพ์ ทำได้สูงสุดถึง 20 แผ่น/นาที เลยทีเดียวครับ ซึ่งทำได้เร็วกว่าปริ้นเตอร์รุ่นท๊อป ๆ บางรุ่นซะอีก และเห็นถูก ๆ แบบการเชื่อมต่อยังให้มาครบนะครับ ทั้ง แบบมีสาย และไร้สายเลย ช่วยให้คุณ และทุกคน สามารถสั่งพิมพ์ผ่านโน้ตบุ๊ค พีซี หรือจะสั่งพิมพ์ด้วยมือถือ แท็บเล็ต ก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ iPrint & Scan นอกจากนี้ยังโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยการพิมพ์ที่ประหยัดผงหมึกมากขึ้น ดังนั้นด้วยความที่เครื่องพิมพ์ก็ไม่แพง แถมตลับผงหมึกก็ประหยัด ช่วยให้รุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในปริ้นเตอร์เลเซอร์ขาว-ดำที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- มีราคาประหยัด เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน และออฟฟิศขนาดเล็ก
- ตัวเครื่องเล็ก และมีน้ำหนักไม่มาก ช่วยให้ย้ายได้ง่าย แถมยังประหยัดพื้นที่การติดตั้งด้วย
- รองรับทั้ง การพิมพ์ การสแกน และการถ่ายสำเนา
- มีความเร็วในการพิมพ์ในระดับที่น่าพอใจ
- รองรับการเชื่อมต่อทั้ง มีสาย และไร้สาย
- แอปพลิเคชั่น iPrint&Scan ที่ใช้งานได้ดีมาก รองรับทุกอุปกรณ์
ข้อควรพิจารณา
- Mono Laser Printer รองรับการพิมพ์ขาว-ดำ เพียงอย่างเดียว
- ตลับผงหมึกรองรับการพิมพ์ประมาณ 700-1,000 หน้า/ตลับ
- หน้าจอแสดงผลแบบ 2 บรรทัด ใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก
- เหมาะสำหรับคนที่มีงานพิมพ์ไม่มาก ไม่ควรเกิน 1,800 หน้า/เดือน
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Peer to Peer ทั้ง Wi-Fi Direct และ NFC
ประเภท | Mono Laser Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print/ Copy/ Scan |
ความละเอียด | 2400 × 600 dpi (เทคโนโลยี HQ1200) |
ความเร็ว | ขาว-ดำ : 20 แผ่น/นาที (A4) |
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2.0 |
ระบบไร้สาย | (Wi-Fi) |
ขนาดเครื่อง | 385 × 340 × 255 มม. |
น้ำหนัก | 7.2 กก. |
การรับประกัน | 2 ปี |
ราคาหมึก | รหัส หมึกดำ TN-1000
|
Brother Multifunction LED Mono Laser Printer MFC-L2700D

ราคา 6,590 บาท*
Brother MFC-L2700D เครื่องพิมพ์เลเซอร์ มัลติฟังก์ชั่น สำหรับพิมพ์ขาวดำ ที่มาในราคาสุดคุ้มค่า ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสำนักงานที่ต้องการจัดการกับงานเอกสารในปริมาณมาก ๆ โดยเฉพาะ มาพร้อมประสิทธิภาพและฟังก์ชันมากมายที่จะช่วยให้งานเอกสารของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง การพิมพ์, การสแกน, การถ่ายเอกสาร และการส่งแฟ็กซ์ ซึ่งรุ่นนี้สามารถทำความเร็วในการพิมพ์ได้สูงถึง 30 หน้าต่อนาที เลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถตั้งค่างานพิมพ์ทุกชนิด ให้เป็นพิมพ์แบบ 2 หน้า อัตโนมัติได้ด้วย เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงาน และยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองกระดาษ นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดหมึกพิมพ์ ช่วยให้คุณลดต้นทุนในการพิมพ์ได้อีกด้วย ถือเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับใช้ในการทำงานมาก ๆ
จุดเด่น
- มีราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ
- มาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย รองรับทั้ง การพิมพ์, การสแกน, การถ่ายเอกสาร และการส่งแฟ็กซ์
- มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารสูงถึง 30 แผ่น/นาที
ข้อควรพิจารณา
- รองรับการปริ้นเฉพาะขาวดำเท่านั้น ไม่สามารถปริ้นสีได้
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายค่อนข้างทำได้ลำบาก
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
ประเภท | Mono Laser Printer |
---|---|
คุณสมบัติ | Print / Scan / Copy / Fax |
ความละเอียด | 600 x 600 dpi |
ความเร็ว | ขาวดำ : 30 แผ่น/นาที |
การเชื่อมต่อ | Hi-Speed USB 2 |
ระบบไร้สาย | |
ขนาดเครื่อง | 409 × 398 × 316 มม |
น้ำหนัก | 11.4 กก. |
การรับประกัน | 3 ปี |
ราคาหมึกแท้ | HP 79A ประมาณ 2,000 บาท |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วีดีโอสรุป ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer) รุ่นไหนดี ?
วิธีเลือกซื้อ ปริ้นเตอร์ (Printer) ให้เหมาะกับการใช้งาน
1. เลือกประเภท โดยดูจากปริมาณงานที่ต้องการพิมพ์
ปริ้นเตอร์แต่ละประเภท ถูกออกแบบมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันครับ ซึ่งถ้าเราดูจากการ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ระหว่างอิงค์เจ็ท กับเลเซอร์ เพื่อน ๆ จะเห็นเลยว่า ทั้งคู่มันมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นอันดับแรก เพื่อน ๆ ควรที่จะคำนึงถึงจุดประสงค์ของตัวเองก่อนว่า ต้องการนำไปพิมพ์อะไร ? เช่น ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการพิมพ์เอกสารเฉลี่ย 1,000 แผ่นต่อวัน แน่นอนครับ เลเซอร์ตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะด้วยปริมาณที่มาก ความเร็วในการพิมพ์จึงมีความสำคัญ ซึ่งอิงค์เจ็ทให้ในส่วนนี้ไม่ได้ แต่หากต้องการพิมพ์เฉลี่ย 100 แผ่นต่อวัน แนะนำให้เลือกอิงค์เจ็ทดีกว่า เพราะเลเซอร์จะมีราคาสูงเกินไป
หากเราลองเทียบรุ่นที่มีราคาใกล้ ๆ กัน เช่น ในงบ 5,000 บาท ถ้าเราซื้อปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท เราจะได้เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันสี ที่ทำได้ทั้ง พิมพ์ สำเนา และสแกน แต่หากไปซื้อปริ้นเตอร์เลเซอร์ในงบนี้ ส่วนใหญ่ก็จะได้เป็นเครื่องพิมพ์ขาว-ดำ ที่พิมพ์ได้อย่างรวดเร็วเพียงอย่างเดียว เพราะงั้นถ้าคุณไม่ได้ต้องการพิมพ์เป็นร้อย เป็นพันแผ่นต่อวัน ความเร็วในการพิมพ์ก็ไม่จำเป็นเลย
2. เลือกจากวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณ
เมื่อเพื่อน ๆ เลือกประเภทได้แล้ว ต่อมาเราก็ต้องจำกัดวงให้แคบลงมาครับ เพราะปัจจุบันนี้ปริ้นเตอร์มีแทบทุกราคา ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นแพง ๆ ไปเลยดี หรือจะซื้อแค่รุ่นประหยัดก็พอ ? ซึ่งจากในข้อแรกเพื่อน ๆ ก็รู้แล้วว่า อิงค์เจ็ทนั้นเหมาะกับงานพิมพ์ไม่มาก ส่วนเลเซอร์เหมาะกับงานพิมพ์ปริมาณมาก ดังนั้นวิธีง่าย ๆ ในการหารุ่นที่คุ้มค่าที่สุดนั่นก็คือ การถามตัวเองดูว่า เราต้องการจะพิมพ์อะไร ? เน้นคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ? และต้องการจะใช้งานแบบไหนบ้าง ?
เช่น ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ทมาใช้พิมพ์เอกสาร และรูปภาพสีต่าง ๆ แต่ไม่ได้เน้นคุณภาพที่สูงมากนัก ส่วนฟังก์ชันอื่นก็ไม่ต้องการใช้งาน การใช้อิงค์เจ็ทรุ่นเริ่มต้นก็เพียงพอแล้ว
แต่หากเพื่อน ๆ ต้องการจะพิมพ์ภาพถ่าย เก็บเอาไว้เป็นคอลเลกชัน เพื่อน ๆ ก็ต้องซื้อรุ่นที่แพงขึ้นมาหน่อย เพราะมีทั้ง ความเร็ว และความคมชัดที่มากกว่า อีกทั้งยังมีสีสันที่แม่นยำมาก ๆ
ส่วนเพื่อน ๆ ที่ต้องการใช้เลเซอร์พิมพ์พวกข้อความขาว-ดำล้วน ๆ แนะนำเป็นเลเซอร์รุ่นเริ่มต้นก็พอแล้วครับ เพราะราคาถูกมาก แต่ให้ทั้ง ความเร็ว และความคมชัด ซึ่งต่อให้พิมพ์ตัวอักษรทีเล็กมาก ๆ มันก็ยังคงพิมพ์ได้อย่างคมชัด อ่านง่าย โดยไม่มีน้ำหมึกหกเลอะกระดาษเหมือนอิงค์เจ็ทเลย
แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการพิมพ์ภาพสี และใช้ฟังก์ชันทั้งหมดที่เกี่ยวกับงานเอกสาร รวมถึงเพิ่มความสะดวก ด้วยการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ และอื่น ๆ แนะนำให้เลือกเลเซอร์รุ่นไฮเอนด์ไปเลยจะคุ้มค่ากว่าครับ
3. คุณภาพการพิมพ์
ความละเอียดแบบจุดต่อนิ้ว (dpi) ของเครื่องพิมพ์จะเคล้าย ๆ ความละเอียดของภาพถ่าย หรือหน้าจอเลยครับ นั่นก็คือ ถ้ายิ่งสูงเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งคมชัดขึ้นเท่านั้น ช่วยให้สามารถขยายงานพิมพ์ให้ใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นถ้าความต้องการการใช้งานของเพื่อน ๆ มีการพิมพ์ด้วยคุณภาพสูง เพื่อน ๆ ก็ควรจะพิจารณาในส่วนนี้ด้วย เพราะถ้าหากซื้อไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนให้สูงขึ้นในภายหลังได้ ดังนั้นแนะนำให้เลือกเผื่อไว้ก่อนจะดีกว่าครับ
4. ความเร็วในการพิมพ์
ถ้าหากงานพิมพ์ของเพื่อน ๆ มีความยาวแค่ 4-5 แผ่นต่อครั้ง คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในข้อนี้เลยครับ แต่หากคุณต้องการพิมพ์ครั้งละมาก ๆ 50-60 แผ่นต่อครั้ง และมีคนอื่น ๆ รอจะสั่งพิมพ์ต่อจากคุณ แน่นอนครับว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ความรวดเร็วในการพิมพ์ ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อหนึ่งเลยที่บอกว่า ปริ้นเตอร์เลเซอร์จะเหมาะสำหรับคนที่มีงานพิมพ์ปริมาณมากโดยเฉพาะ นั่นเพราะเลเซอร์สามารถพิมพ์ได้เร็วกว่าอิงค์เจ็ทอยู่พอสมควรเลย ซึ่งปัจจุบันอิงค์เจ็ทรุ่นใหม่ ๆ บางรุ่นก็ถูกพัฒนาจนสามารถพิมพ์ได้เร็วขึ้นมากแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกปริ้นเตอร์ อิงค์เจ็ท หรือเลเซอร์ ทั้งคู่ก็จะมีความเร็วในการพิมพ์ ระบุไว้อย่างชัดเจนครับ เพื่อน ๆ สามารถนำปัจจัยนี้มาใช้ในการเลือกปริ้นเตอร์ที่เหมาะกับตัวเองได้
5. การเชื่อมต่อ
ในปัจจุบันนี้การเชื่อมต่อของเครื่องพิมพ์ มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ ช่วยให้เราไม่ต้องใช้พอร์ต USB ที่เราใช้กันมาอย่างยาวนานแล้ว ซึ่งปริ้นเตอร์รุ่นใหม่ ๆ จะมีทั้ง พอร์ต Ethernet ที่ใช้เชื่อมต่อปริ้นเตอร์ เข้ากับเครือข่าย เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันสามารถเข้าถึงเครื่องพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้สายใด ๆ เลย มีสัญญาณ Wi-Fi ที่จะไม่ใช้สายใด ๆ เลย เพียงแค่เชื่อมต่อปริ้นเตอร์ เข้ากับเครือข่าย Wi-Fi เพียงเท่านี้ อุปกรณ์ทุกเครื่องของทุกคน ที่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ตัวเดียวกัน ก็จะสามารถสั่งพิมพ์ได้ทันทีครับ ซึ่งนับว่าสะดวดสบายมากจริง ๆ

นอกจากนี้เครื่องพิมพ์บางรุ่นยังรองรับ NFC หรือเทคโนโลยีการส่งข้อมูลระยะใกล้ ที่มีความปลอดภัย, Wi-Fi Direct ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโดยตรง Peer to Peer คือการที่ปริ้นเตอร์ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ของตัวเองออกมา จากนั้นเราแค่นำอุปกรณ์ไปเชื่อมต่อเพียงเท่านี้ เราจะสามารถสั่งพิมพ์ได้ทันที, เทคโนโลยี Mobile Print ที่ถูกพัฒนาโดยแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ อาทิเช่น AirPrint ของ Apple และ Mopria Print Service ของอุปกรณ์ Android เป็นต้น ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถใช้อุปกรณ์พกพา ทุกรุ่น ทุกระบบ เชื่อมต่อและสั่งพิมพ์ได้ทันทีเลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเลย
5. ขนาดพื้นที่ที่คุณต้องการติดตั้ง (ขนาด และน้ำหนักของปริ้นเตอร์)
ในการเลือกซื้อปริ้นเตอร์อย่าลืมดูขนาดของปริ้นเตอร์ด้วยนะครับว่า มันมีขนาดใหญ่แค่ไหน ? เพราะบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่เราจะวางไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้ หรือบางรุ่นมันอาจจะต้องการพื้นที่ในการติดตั้งน้อยก็จริง แต่กลับมีความสูงที่สูงกว่าปกติแทน จนทำให้เราจำเป็นต้องวางกับพื้น นอกจากนี้ในเรื่องของน้ำหนักก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่สำคัญไม่แพ้กันครับ อย่างเช่น รุ่น Brother HL-L3270CDW ที่ดูไม่ได้สูงใหญ่เลย บางคนอาจจะดูว่าเล็กด้วยซ้ำ แต่มันกลับ มีน้ำหนักมากถึง 18.5 กิโลกรัม เลยทีเดียวครับ เพราะงั้นอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ พิจารณาจากขนาด และน้ำหนักด้วย เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง และเคลื่อนย้าย
การดูแลรักษาปริ้นเตอร์เลเซอร์
- ควรเลือกใช้กระดาษที่เหมาะสมกับปริ้นเตอร์ของคุณ เพราะปริ้นเตอร์แต่ละรุ่นรองรับกระดาษได้ต่างกัน
- ไม่ควรกระดาษในแต่ละครั้งมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องปริ้นติดขัดหรือเสียหายได้
- ก่อนใส่กระดาษจะต้อง กรีดหรือคลี่กระดาษก่อนสัก 1-2 ครั้ง ป้องกันกระดาษติดกัน เพราะหากติดกันก็จะเพิ่มความหนาให้กระดาษอีก ส่งผลให้กระดาษติดเครื่องปริ้นได้
- หากต้องการพิมพ์ลงในแผ่นใส่ โปรดจงเลือกใช้แผ่นใส่สำหรับปริ้นเท่านั้น ไม่ควรใช้แบบธรรมดา เพราะแผ่นใส่แบบธรรมดานั้นไม่ทนต่อความร้อน อาจจะละลายภายในเครื่องได้
- การเลือกใช้หมึกก็เป็นอีกข้อที่สำคัญ ที่จะทำให้เครื่องปริ้นของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น คุณควรเลือกใช้หมึกสำหรับเครื่องปริ้นเลเซอร์เท่านั้น และควรเลือกคุณภาพของหมึกที่ได้มาตรา อย่างเช่น หมึกแท้หรือหมึกเทียบเท่า เพราะหากเลือกหมึกที่ไม่ดีมาใช้อาจทำให้หัวพิมพ์อุดตันได้
- หลังใช้งานเสร็จควรมีผ้าคลุมเครื่องปริ้นให้เรียบร้อย ป้องกันฝุ่นเข้าเครื่อง
- กรณีกระดายติดเครื่อง ไม่ควรนำของมีคมมางัดแงะในเครื่อง
- สำหรับผู้ที่ชอบใช้งานกระดาษ Reuse โปรดระวังลวดเย็บกระดาษเข้าไปในเครื่อง ควรจะตรวจสอบกระดาษก่อนทุกครั้งให้เรียบร้อย
การดูแลรักษาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
- พยายามเปิดปิดเครื่องปริ้นด้วยตัวสวิตช์ก่อนถอดปลั๊ก เพื่อป้องกันไฟกระชากในเครื่องปริ้น อันที่จริงข้อเราสามารถนำไปใช้ได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเลยนะคะ
- อย่าลืม update driver ให้เป็นเว่อร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ใช้ตลับหมึกยี่ห้อเดียวกับเครื่องปริ้น เพื่อป้องกันหัวพิมพ์อุดตัน ไม่แนะนำให้เติมหมึกเอง เพราะบางครั้งอาจจะได้หมึกที่ไม่มีคุณภาพมา ก็จะสร้างความเสียหายแก่หัวพิมพ์ได้เช่นกัน
- เมื่อมีการแจ้งเตือนว่าหมึกหมด ควรจะเปลี่ยนน้ำหมึกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นหมึกสัดำหรือหมึกสี หากยังใช้งานทั้งที่หมึกหมดอาจจะทำให้เครื่องปริ้นเสียหายได้
- อย่าลืมใช้งานเครื่องปริ้นบาง อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันหมึกแห้ง หรือหัวหมึกอุดตันได้
- หมั่นทำความสะอาดเครื่องปริ้นโดยการปัดหรือเป่าฝุ่นออกเป็นประจำ และอย่าลืมใช้ผ้าคลุมทุกครั้งหลังใช้งานเครื่องปริ้นเสร็จ เพื่อป้องกันฝุ่นเกาะหรือเข้าไปในเครื่อง
- ทำความสะอาดลูกกลิ้งที่ใช้หมุนกระดาษบ้าง โดยอาจจะใช้น้ำยาที่ทำความสะอาดเฉพาะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เครื่องปริ้นทั่วไป