Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ดีลดี
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » อิเล็กทรอนิกส์ » คอมพิวเตอร์ » อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ » รีวิว เครื่องปริ้นเตอร์ ยี่ห้อไหนดี Brother, Epson, HP, Canon ปี 2023

รีวิว เครื่องปริ้นเตอร์ ยี่ห้อไหนดี Brother, Epson, HP, Canon ปี 2023

เครื่องพิมพ์ปริ้นเตอร์ (ทั้ง InkJet และ Laser) สำหรับใช้งานในบ้าน หรือสำนักงาน รุ่นไหนดี?

Palm PN โดย Palm PN , Saowapan K.
อัปเดตเมื่อ: March 21, 2023
ใน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
เครื่องปริ้นเตอร์ รุ่นไหนดีที่สุด สำหรับปี 2021
Share on FacebookShare on Twitter

สำหรับบทความ ปริ้นเตอร์ รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2023 นี้เราได้ทำการอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ให้เป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ไล่ตั้งแต่วิธีการเลือกซื้อ รุ่นสินค้า และข้อมูลที่น่าสนใจใหม่ ๆ ดังนั้นใครกำลังสนใจจะซื้อปริ้นเตอร์เครื่องใหม่อยู่ หวังว่าบทความตัวนี้จะสามารถช่วยคุณได้นะครับ

หากย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ใครจะไปคิดล่ะครับว่า อุปกรณ์สำนักงานที่เราคุ้นเคยกันอย่าง เครื่องปริ้น จะมีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นมาขนาดนี้ โดยในอดีตกว่าเราจะพิมพ์เอกสารได้สักแผ่นนึง มันค่อนข้างยุ่งยาก วุ่นวาย แถมยังต้องใช้เวลา เพราะไหนจะต้องเตรียมไฟล์ และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ กับเครื่องปริ้น ซึ่งถ้าเป็นปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท เราก็ต้องตรวจสอบ หัวพิมพ์ และปริมาณหมึกก่อน เพราะถ้าทิ้งไว้นานมันก็อาจจะอุดตัน จนไม่สามารถพิมพ์ต่อได้ ส่วนปริ้นเตอร์เลเซอร์ในสมัยนั้น ก็มีราคาแพงมากครับ

Color Laser Printer รุ่น Brother HL-L3270CDW
เราทดสอบใช้งาน Color Laser Printer รุ่น Brother HL-L3270CDW

ด้วยปัญหาต่าง ๆ ในอดีต ทำให้หลาย ๆ คนต้องซื้อปริ้นเตอร์เครื่องใหม่กันจนเบื่อเลย แต่แล้วด้วยเทคโนโลยีในสมัยนี้ นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้แล้ว มันยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเรามากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งการสั่งพิมพ์ไร้สาย ซึ่งเราสามารถสั่งพิมพ์ผ่านมือถือ หรือแท็บเล็ตได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดคอมฯ ให้เสียเวลา แถมปริ้นเตอร์บางรุ่นก็เป็นมัลติฟังก์ชัน คือ ทำทุกอย่างได้ในเครื่องเดียว ทำให้พวกเครื่องถ่ายเอกสาร แฟกซ์ และสแกนเนอร์ จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะงั้นหากคุณกำลังมองหาครื่องปริ้นสักรุ่นนึง เพื่อนำไปใช้พิมพ์งานเอกสาร บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ ที่คุณต้องรู้ มาฝากกันเหมือนเดิมครับ

ในการเลือกรุ่นและการจัดอันดับสินค้า เราได้อ้างอิงจากสเปกที่แบรนด์ผู้ผลิตได้ระบุเอาไว้ ส่วนนึงได้จากคนที่ซื้อรุ่นนั้น ๆ ไปใช้งานจริง ๆ และอีกส่วนนึงเราได้อ้างอิงจากประสบการณ์การใช้งานส่วนตัว ที่เคยใช้ปริ้นเตอร์มาหลาย ๆ รุ่นครับ

และการจัดอันดับทั้งหมดนี้เราไม่ได้เรียงจากประสิทธิภาพนะครับ เพราะฉะนั้นรุ่นอันดับ 1 ไม่ใช่รุ่นดีที่สุด และรุ่นที่อยู่อันดับสุดท้าย ก็ไม่ใช่รุ่นที่แย่ที่สุดเช่นกัน แต่ทุกรุ่นที่เราเลือกมาคือรุ่นที่ดีและเหมาะกับผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ ครับ และทุกคนสบายใจได้เลยครับ เราไม่ได้รับสปอนเซอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นทั้งหมดเป็นการแนะนำของเราล้วน ๆ

ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) รุ่นไหนดี ?

  • Wi-Fi Multi-Function Ink Tank ที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับใช้ในบ้าน หรือธุรกิจเล็ก ๆ : Brother DCP-T520W
  • Wi-Fi Multi-Function Ink Tank ที่มีความละเอียด สำหรับงานพิมพ์คุณภาพสูง : Epson EcoTank L3250 
  • Wi-Fi Multi-Function Inkjet มี WiFi สามารถพิมพ์, สแกน และถ่ายสำเนา: Canon PIXMA E4570
  • Multi-Function Inkjet ราคาประหยัด เหมาะกับการใช้งานในบ้าน(พิมพ์ไม่เยอะ) พิมพ์, สแกน และถ่ายสำเนาได้ : HP DeskJet 2330/2333 
  • Inkjet ราคาประหยัด ตัวเครื่องไม่ใหญ่เหมาะกับนักเรียน/นักศึกษา: HP DeskJet 1210

ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer) รุ่นไหนดี ?

  • Wi-Fi Color Laser ที่ดีที่สุด เน้นการพิมพ์เป็นหลัก พิมพ์รูปภาพสีที่คมชัด ด้วยความรวดเร็ว : Brother HL-L3270CDW
  • Wi-Fi Color Laser ที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับใช้พิมพ์เอกสารในบ้าน หรือในธุรกิจเล็ก ๆ : RICOH SP C261DNw
  • Wi-Fi Multi-Function Color Laser ที่คุ้มค่า สำหรับออฟฟิศที่ต้องการจัดการงานเอกสารทั้งหมด : Brother DCP-L3551CDW
  • Wi-Fi Multi-Function Mono Laser เลเซอร์ขาว-ดำ สำหรับออฟฟิศที่ต้องการพิมพ์เอกสารปริมาณมาก ๆ ด้วยความรวดเร็ว และความคมชัด : HP LaserJet MFP M236sdw
  • Multi-Function Mono Laser เลเซอร์ขาว-ดำ ราคาประหยัด พิมพ์เร็ว มีฟังก์ชันครับ จัดการงานเอกสารได้ทั้งหมด : Brother MFC-L2700D

เครื่องพิมพ์ หรือปริ้นเตอร์ (Printer) มีกี่ประเภท ?

ในปัจจุบัน เครื่องพิมพ์ มีอยู่หลายประเภทครับ แต่ที่ผู้คนนิยมใช้กันจะมีอยู่ 3 ประเภทครับ ซึ่ง 2 ประเภทในนี้เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน และในออฟฟิศ ส่วนอีก 1 ประเภทจะเหมาะสำหรับงานเฉพาะทางครับ เดี๋ยวเราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเครื่องพิมพ์ทั้ง 3 ประเภทนี้ก่อน เพื่อที่เราจะได้เข้าใจตรงกันมากขึ้น

การเติมหมึกใน Ink Tank Printer
การเติมหมึกใน Ink Tank Printer รุ่น Brother DCP-T520W

1. ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)

จุดเด่นอยู่ที่ราคาประหยัดครับ โดยค่าเครื่อง ค่าหมึก และค่าบำรุงรักษา จะถูกที่สุด และถ้านำมาเทียบกับ เลเซอร์รุ่นที่มีราคาเท่ากัน อิงค์เจ็ทจะให้ฟังก์ชันมามากกว่า นอกจากนี้การพิมพ์รูปภาพก็เป็นอีกจุดเด่นของอิงค์เจ็ทด้วย โดยปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ทจะมีการใช้หมึกอยู่ 2 แบบ ได้แก่

  • Ink jet : การใช้หมึกแบบตลับหัวพิมพ์ ซึ่งเหมาะกับคนที่ใช้งานนาน ๆ ครั้ง เวลาหมึกหมด ต้องเปลี่ยนทั้งตลับ ข้อดีคือ ถ้าหมึกแห้งเราแค่ซื้อตลับใหม่มาเปลี่ยน มันจะใช้งานต่อได้ทันที
  • Ink Tank : การมีแทงก์น้ำหมึกในตัว เวลาที่หมึกหมด เราสามารถเติมได้เรื่อย ๆ เหมาะกับคนที่ต้องการพิมพ์รูปภาพ และเอกสารทุกวัน

Color Laser Printer โทนเนอร์ทั้ง 4 สี
Color Laser Printer รุ่น Brother HL-L3270CDW

2. ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer)

จุดเด่นอยู่ที่ความรวดเร็วในการพิมพ์ ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการพิมพ์งานปริมาณมาก และจุดเด่นอีกอย่าง คือ สามารถพิมพ์ข้อความได้คมชัดที่สุด โดยจะไม่มีเรื่องหมึกเลอะให้เราปวดหัวเลย ด้วยเหตุนี้เลเซอร์จึงมีอยู่ในออฟฟิศทุก ๆ แห่ง ซึ่งปัจจุบันจะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่

  • Mono Laser : เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาว-ดำ
  • Color Laser : เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี

 

เครื่องปริ้นสามมิติ 3D Printer

3. ปริ้นเตอร์สามมิติ (3D Printer)

ปริ้นเตอร์สามมิติ ถูกพัฒนามาจาก ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท ทำให้มีการทำงานที่คล้ายกันนั่นก็คือ การเลื่อนหัวพิมพ์ไปยังจุดต้องการพิมพ์เรื่อย ๆ เพียงแต่จะเปลี่ยนจากน้ำหมึกเป็นวัสดุอื่นแทน อาทิเช่น เส้นพลาสติก เรซิ่น หรือวัสดุที่ละลาย และแข็งตัวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สามารถพิมพ์ทีละชั้น ๆ ทับขึ้นไปเรื่อย ๆ จนออกมาเป็นงาน 3 มิติ

 

ระหว่าง ปริ้นเตอร์เลเซอร์ กับ ปริ้นเตอร์อิ้งเจ็ท ซื้อแบบไหนดี ? 

หากคุณกำลังมองหาเครื่องพิมพ์มาไว้ที่บ้านสักเครื่อง สำหรับการพิมพ์ข้อความโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะต้องการพิมพ์บ่อย ๆ หรือใช้พิมพ์นาน ๆ ครั้ง และตั้งงบไว้ไม่สูงมาก เราขอแนะนำเป็น ปริ้นเตอร์เลเซอร์ ราคาประหยัดก็พอแล้วครับ พิมพ์เร็ว ตัวอักษรคมชัด แถมไม่มีปัญหาหมึกเลอะ หมึกแห้งให้ปวดหัว เพราะเลเซอร์จะใช้เป็นผงหมึก ทำให้ถ้าไม่ได้ใช้งานนาน ๆ หมึกก็จะไม่แห้ง

แต่หากคุณกำลังมองหาปริ้นเตอร์ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายในราคาไม่แพง แต่สามารถพิมพ์ได้ทั้ง ข้อความ รูปภาพที่มีสีสันตรง ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท จะเหมาะกว่าครับ เนื่องจากมันได้รับการออกแบบมาเพื่อพิมพ์ภาพถ่ายโดยเฉพาะ ทำให้ส่วนใหญ่จะมีความละเอียด ส่วนการผสมสีก็ทำได้แม่นยำกว่า ช่วยให้ภาพถ่ายมีสีสันตรงไม่ผิดเพี้ยน และที่สำคัญคือ มันสามารถพิมพ์กับกระดาษอาร์ตได้หลายประเภทเลย ส่วนปัญหาเรื่องหมึกแห้ง หมึกอุดตัน ก็หายห่วงไปได้เลย เนื่องจากทุกวันนี้ปริ้นเตอร์พัฒนามาไกลมาก ทำให้ปริ้นเตอร์รุ่นใหม่ ๆ แทบจะไม่มีปัญหานี้แล้ว อย่าง Brother DCP-T520W ซึ่งเป็นรุ่นที่ค่อนข้างเก่าแล้ว เพราะตัวผมใช้งานอยู่ที่บ้านมานานกว่า 5 ปี โดยตั้งแต่ใช้งานมาทิ้งไว้เป็นเดือนมันก็ไม่แห้งครับ ฉะนั้นรุ่นใหม่อย่าง  Brother DCP-T520W ก็ไม่ต้องกลัวหมึกแห้งเลย อ่านเพิ่มเติมจากหัวข้อ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่าง อิงค์เจ็ท กับ เลเซอร์

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่าง อิงค์เจ็ท กับ เลเซอร์

    • ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท

      ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)
      Inkjet Printer รุ่น Brother DCP-T520W
  • รองรับปริมาณงานพิมพ์หลักพันแผ่นต่อเดือน
  • การพิมพ์ที่ช้า ยิ่งพิมพ์งานที่มีความละเอียดสูง จะยิ่งช้า
  • คุณภาพการพิมพ์รูปภาพสูงกว่า ให้สีสันแม่นยำ
  • คุณภาพการพิมพ์ข้อความต่ำกว่า เส้นขาดความคมชัด
  • ปัญหาจุกจิกพบได้เรื่อย ๆ (เส้นขาด ๆ หาย ๆ, หมึกเลอะ)
  • ตัวเครื่องขนาดเล็ก เบา เคลื่อนย้ายง่าย
  • ตัวเครื่องราคาถูกกว่า
  • ที่ราคาเท่ากันจะมีฟังก์ชันเยอะกว่า
  • ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นถูกกว่า (ได้งานพิมพ์คุณภาพต่ำ)
  • หมึกมีทั้ง แบบตลับ และแบบแทงค์ (แบบเติม)
  • ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
  • ปริ้นเตอร์เลเซอร์

    ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer)
    Laser Printer รุ่น Brother HL-L3270CDW
  • รองรับปริมาณงานพิมพ์หลักหมื่นแผ่นต่อเดือน
  • การพิมพ์ที่รวดเร็ว แม้ว่าจะพิมพ์งานที่มีความละเอียดสูง
  • คุณภาพการพิมพ์รูปภาพต่ำกว่า สีสันมีผิดเพี้ยน
  • คุณภาพการพิมพ์ข้อความสูงกว่า เส้นมีความคมชัด
  • ปัญหาจุกจิกพบได้น้อย
  • ตัวเครื่องขนาดใหญ่ หนัก เคลื่อนย้ายลำบาก
  • ตัวเครื่องราคาแพงกว่า
  • ที่ราคาเท่ากันจะมีฟังก์ชันน้อยกว่า
  • ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นแพงกว่า (ได้งานพิมพ์คุณภาพสูง)
  • หมึกต้องเปลี่ยนทั้งตลับ (โทนเนอร์)
  • ต้องใช้ตลับ Opc drum ในการพิมพ์ (มีอายุจำกัด แถมแพง)

 

หมายเหตุ : ถ้าจะบอกว่า อิงค์เจ็ท มีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นถูกกว่า มันก็ไม่ถูกซะทีเดียวครับ เพราะทั้งคู่จะให้คุณภาพการพิมพ์พื้นฐานต่างกัน อธิบายง่าย ๆ ว่า ถ้าเราใช้ทั้งคู่ พิมพ์ภาพลงบนกระดาษธรรมดาเหมือนกัน ผลที่ได้คือ งานพิมพ์ของเลเซอร์ จะมีคุณภาพสูงกว่ามากครับ ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ อิงค์เจ็ท พิมพ์ภาพออกมา มีคุณภาพสูงเท่ากับ เลเซอร์ คุณก็ต้องเปลี่ยนไปใช้กระดาษพิเศษ เช่น กระดาษโฟโต้, กระดาษกลอสซี่ หรือกระดาษเคลือบน้ำยา อีกทั้งน้ำหมึกที่ใช้ก็ต้องดีกว่าเดิมด้วย และนี่ก็คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นครับ 

สรุป : ต้นทุนการพิมพ์จริง ๆ ของทั้งคู่ แตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น

ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชัน (MFP) หรือ All-in-One Printer คืออะไร ?

ปริ้นเตอร์ All-in-One หรือ ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชัน (MFP) จะเป็นรุ่นที่รวมเอาฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งมีทั้ง การพิมพ์, การสแกน, การสำเนา รวมไปถึงการแฟกซ์ด้วย มันช่วยให้ออฟฟิศของคุณ ไม่จำเป็นต้องมี เครื่องถ่ายเอกสาร, สแกนเนอร์ หรือเครื่องแฟกซ์ เพิ่มให้เกะกะ

โดยปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันก็จะมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเลยครับ ซึ่งถ้าเป็นอิงค์เจ็ท ส่วนใหญ่ก็จะให้พิมพ์สีมาเลย อย่างเช่น HP DeskJet 2330/2333, Brother DCP-T520W ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเป็นเลเซอร์ก็มักจะเป็นปริ้นเตอร์ขาวดำก่อน โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4,000 บาท ขึ้นไป อาทิเช่น Brother MFC-L2700D หรือ HP LaserJet MFP M236sdw ถ้าหากเพื่อน ๆ ต้องการเลเซอร์สีก็ต้องจ่ายแพงขึ้นมาหน่อยครับ ดังนั้นถ้าเอาแบบมัลติฟังก์ชันด้วย เตรียมไว้หมื่นกว่า ๆ เลยครับ

แนะนำ ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)


Brother DCP-T520W Refill Tank System เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์

Brother DCP-T520W Refill Tank System เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์
รูปภาพจาก brother.co.th

ราคา 5,230 บาท*

เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันอิงค์แทงค์ที่มีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน พร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi ช่วยให้คุณสามารถสั่งงานผ่านมือถือได้ง่าย ๆ และถึงแม้คุณจะไม่มีไวไฟ รุ่นนี้ก็มี Wi-Fi Direct มาให้ ยังไงก็สามารถสั่งงานได้ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐานการพิมพ์ที่สูงครับ โดยใช้หัวฉีดที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มคุณภาพงานพิมพ์ ทำให้พิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยทำความเร็วในการพิมพ์ขาว-ดำสูงสุด 17 ภาพต่อนาที และพิมพ์สี สูงสุด 9.5 ภาพต่อนาที ซึ่งถือว่าเร็วมาก ๆ เลยทีเดียวครับ ช่วยให้คุณให้ได้งานพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม มีความคมชัดสูง และรวดเร็ว

แถมยังจัดการงานพิมพ์ได้ง่าย ๆ ด้วยถาดกระดาษ ที่รองรับความจุได้มากถึง 150 แผ่น พร้อมทั้งปรับได้หลายขนาดอีกด้วย พร้อมทั้งที่ด้านหลังยังมีช่องใส่กระดาษด้วยมือทีละแผ่น สำหรับป้อนกระดาษที่มีความหนาเป็นพิเศษครับ ติดตั้งอิงค์แทงค์ขนาดใหญ่จากผู้ผลิต ทำให้คุณตรวจดูปริมาณหมึก และสามารถจะเติมหมึกได้ง่าย ๆ แถมหมึกยังมีราคาที่ไม่แพงอีกด้วย โดยขวดมีดีไซน์เป็นกรวยไว้สำหรับเติมโดยเฉพาะ ช่วยให้มันไม่หกเลอะเทอะ ถือเป็นปริ้นเตอร์อเนกประสงค์ ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ รองรับงานพิมพ์ปริมาณมากได้สบายครับ

จุดเด่น

  • มีประสิทธิภาพคุ้มค่าเกินราคา
  • ทำความเร็วในการพิมพ์สูง
  • รองรับงานพิมพ์ได้หลายพันหน้า รองรับงานพิมพ์ปริมาณมากได้สบาย
  • มีระบบล้างหัวพิมพ์อัตโนมัติ
  • มีการติดตั้งอิงค์แทงค์จากโรงงาน ช่วยให้ประหยัดหมึกได้มากขึ้น และเพิ่มความทนทาน
  • ตรวจดูปริมาณหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่ายขึ้น
  • การออกแบบปุ่มอินเตอร์เฟสต่าง ๆ และหน้าจอ 1 บรรทัด ทำได้ดีมาก ใช้งานง่าย มีประโยชน์
  • ตลับหมึกมีราคาค่อนข้างประหยัด

ข้อควรพิจารณา

  • มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายค่อนข้างทำได้ลำบาก
  • การออกแบบปุ่มอินเตอร์เฟส ถึงแม้จะใช้งานง่าย แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ดูเก่าตกยุคเช่นกัน
ประเภท Ink Tank Printer
คุณสมบัติ Print / Scan / Copy
ความละเอียด 1200 × 6000 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 12/30 แผ่น/นาที
  • สี : 9.5/17 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย (Bluetooth / Wi-Fi Direct)
ขนาด 435 × 380 × 159 มม.
น้ำหนัก 7.3 กก.
การรับประกัน 2 ปี รวมหัวพิมพ์ หรือ 30,000 แผ่น
ราคาหมึกแท้ BT-D60 (BK) และ BT-5000 (Y, M, C) 4 สี ขวดละ 250 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Brother MFC-T920DW Ink Tank Printer เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นอิงค์แทงค์

Brother MFC-T920DW Ink Tank Printer เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นอิงค์แทงค์
รูปภาพจาก brother.co.th

ราคา 9,820 บาท*

ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชั่น อิงค์แทงค์ ประสิทธิภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์งานในองค์กร หรือสำนักงานขนาดกลางจนถึงใหญ่โดยเฉพาะ มาพร้อมการทำงานที่โดดเด่น มีทั้งความเร็ว การประหยัด และฟังก์ชันต่าง ๆ ทั้ง พิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และแฟ็กซ์ แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ ช่วยให้งานคุณเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยที่คุณไม่ต้องคอยเปลี่ยนกระดาษทีละแผ่น ๆ ส่วนน้ำหมึกรุ่นนี้ติดตั้งแทงค์ขนาดใหญ่จากโรงงาน รองรับการพิมพ์ขาว-ดำถึง 7,500 แผ่น และพิมพ์สีถึง 5,000 แผ่น พร้อมความเร็วในการพิมพ์ที่สูงมาก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี แถมถาดป้อนกระดาษยังจุถึง 150 แผ่น เลยทีเดียว ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง ทำให้รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ หากคุณมีปริมาณงานพิมพ์ต่อครั้งที่เยอะมาก ๆ เป็นประจำ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ให้คุณสั่งพิมพ์ได้ง่าย ๆ ผ่านมือถือ หากออฟฟิศคุณกำลังหาเครื่องปริ้นดี ๆ สักตัวนึง รุ่นนี้คือคำตอบครับ

จุดเด่น

  • มัลติฟังก์ชั่นอิงค์แทงค์ ที่เหมาะสำหรับงานพิมพ์ปริมาณมาก ๆ
  • มีหน้าจอแสดงผล ที่บอกรายละเอียดครบถ้วน
  • รองรับการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ
  • ติดตั้งอิงค์แทงค์ขนาดใหญ่ พิมพ์ได้หลายพันแผ่น
  • ตรวจดูปริมาณหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่าย
  • การพิมพ์มีการประหยัดหมึกเป็นอย่างมาก
  • มีการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง มีสาย และไร้สาย
  • ราคาตลับหมึกถือว่าถูกมาก ๆ ช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

ข้อควรพิจารณา

  • ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก ส่งผลให้การเคลื่อนย้ายทำได้ลำบาก
  • มีราคาสูง
ประเภท อิงค์แทงค์
คุณสมบัติ Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) / Scan / Copy / Fax
ความละเอียด 1,200 × 6,000 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 26-30 แผ่น/นาที (Fast Mode)
  • สี : 16.5-17 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ USB Direct Print / Ethernet
ระบบไร้สาย (Wi-Fi Direct / Mobile Print)
ขนาด 435 × 439 × 195 มม.
น้ำหนัก 9.8 กก.
การรับประกัน 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น
ราคาหมึกแท้ Brother BT-D60 BK/ BT-5000 Y,M,C 4 สี ขวดละ 250 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Epson EcoTank L3250 All in One Ink Tank Printer ปรื้นเตอร์มัลติฟังก์ชันอิงค์แทงค์

Epson EcoTank L3250 All in One Ink Tank Printer ปรื้นเตอร์มัลติฟังก์ชันอิงค์แทงค์
รูปภาพจาก epson.co.th

ราคา 4,899 บาท*

Epson EcoTank L3250 ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์ รุ่นยอดนิยมอีกรุ่นนึง ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ดูดี ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ ภายในอัดแน่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลายหลาก ตอบโจทย์ทุกงานเอกสาร ทั้ง พิมพ์ ถ่ายสำเนาเอกสาร และการสแกน รองรับการพิมพ์ในปริมาณมาก ๆ ได้อย่างสบาย ๆ ด้วยแท็งค์ขนาดใหญ่ ที่มีการติดตั้งรวมเข้ากับตัวเครื่องจากโรงงาน ซึ่งเป็นแทงค์ที่มีคุณภาพ ได้รับการออกแบบมาให้เติมง่าย ป้องกันการหกเลอะเทอะ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดในการพิมพ์ที่สูง และมีความเร็วในการพิมพ์สูงพอสมควรครับ โดยแบบขาว-ดำ 10 แผ่นต่อนาที และสี 5 แผ่นต่อนาที นอกจากนี้ยังพิมพ์แบบไร้ขอบได้สูงสุดถึงขนาด 4R ด้วย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการปริ้นเตอร์ที่รองรับงานพิมพ์ ปริมาณมาก ๆ ได้ พร้อมกับต้องการคุณภาพงานพิมพ์ที่สูงด้วย รุ่นนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ

จุดเด่น

  • ปรื้นเตอร์มัลติฟังก์ชันที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า คุ้มราคา
  • การพิมพ์ใช้เทคโนโลยี Heat Free ที่ไม่ใช้ความร้อน ช่วยประหยัดต้นทุน
  • มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา กว่ารุ่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
  • มีการติดตั้งอิงค์แทงค์จากโรงงาน ช่วยให้ประหยัดหมึกมากขึ้น
  • ตรวจดูน้ำหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่าย ไม่หกเลอะเทอะ
  • รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง มีสาย และไร้สาย
  • ตลับหมึกมีราคาค่อนข้างประหยัด

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีหน้าจอแสดงผล
  • ความเร็วในการพิมพ์ค่อนข้างช้า เนื่องจากมีความละเอียดสูง
ประเภท Ink Tank Printer
คุณสมบัติ Print / Scan / Copy
ความละเอียด สูงสุด 5760 × 1440 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 10 แผ่น/นาที
  • สี : 5 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย (WiFi, WiFi-Direct)
ขนาดเครื่อง 375 × 347 × 179 มม.
น้ำหนัก 3.9 กก.
การรับประกัน 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น
ราคาหมึกแท้ Epson 003 (ชุด 4 สี C, M, Y และ BK) สีละ 250 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

HP Ink Tank Wireless 415 เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แท็งค์

HP Ink Tank Wireless 415 เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แท็งค์
รูปภาพจาก hp.com

ราคา 4,190 บาท*

ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันอิงค์แท็งค์ไร้สาย มาพร้อมคุณสมบัติที่เพียบพร้อมครับ ทำได้ทั้ง พิมพ์ข้อความ, พิมพ์รูปภาพ, สแกน และถ่ายสำเนา ซึ่งใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ HP Thermal Inkjet โดยมีความเร็วในการพิมพ์ แบบขาว-ดำอยู่ที่ 8 ภาพ/นาที และพิมพ์สี 5 ภาพ/นาที ครับ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับใช้งานที่บ้าน หรือโฮมออฟฟิศ ขนาดเล็ก ทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน ด้วยการเชื่อมต่อทั้ง USB, Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ทำให้คุณสั่งพิมพ์ไร้สายได้โดยตรงผ่านอุปกรณ์ใดก็ได้ และยังมี HP Smart App ซึ่งให้คุณสั่งพิมพ์ได้จากทุกที่ ผ่านมือถือ และแท็บเล็ต โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในเครือข่ายเดียวกันเท่านั้น เพิ่มความสะดวกได้เป็นอย่างมากครับ ส่วนจุดเด่น ๆ ของรุ่นนี้อยู่ที่ราคาหมึกที่ค่อนข้างประหยัดมาก ๆ ครับ โดยใช้หมึกสีดำขวดใหญ่ (เติมได้ 2 ครั้ง) พิมพ์ขาว-ดำได้มากถึง 6,000 แผ่น เฉลี่ยแล้วมีราคาตกแผ่นละประมาณ 5 สตางค์ เท่านั้น และหมึกสีทั้ง 3 สี พิมพ์รวมกันได้ถึง 8,000 แผ่น เลยทีเดียวครับ

จุดเด่น

  • มีประสิทธิภาพสูง รองรับงานพิมพ์ได้หลายพันหน้า
  • ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และเบา หากเทียบกับรุ่นที่มีสเปกใกล้เคียงกัน
  • อิงค์แทงค์จากโรงงาน มีการประหยัดหมึกได้มากขึ้น และเพิ่มความทนทาน
  • ตรวจดูปริมาณหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้ง่ายขึ้น
  • การออกแบบปุ่มอินเตอร์เฟสต่าง ๆ และหน้าจอ ช่วยให้ใช้งานง่าย มีประโยชน์
  • ตลับหมึกมีราคาประหยัดมาก ๆ

ข้อควรพิจารณา

  • ความเร็วในการพิมพ์ระดับกลาง ๆ
  • การดีไซน์แทบไม่ต่างจาก DeskJet 2330/2333 และ DeskJet 1210 รุ่นเริ่มต้นเลย ทำให้ดูไม่ล้ำสมัย
  • แท็งค์หมึกยื่นออกมานอกตัวเครื่องทำให้รู้สึกเกะกะ
ประเภท Ink Tank Printer
คุณสมบัติ Print / Scan / Copy
ความละเอียด
  • ขาวดำ : 1200 × 1200
  • สี : 4800 × 1200
Print Speed
  • ขาวดำ : 8/19 แผ่น/นาที
  • สี : 5/15 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย
ขนาดเครื่อง 525 × 310 × 158 มม.
น้ำหนัก 4.67 กก.
การรับประกัน 2 ปี
ราคาหมึกแท้
  • HP 67 BK 530 บาท
  • HP 67 CO 530 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Canon PIXMA G2010 Printer All in One เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์

Canon PIXMA G2010 Printer All in One เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน อิงค์แทงค์
รูปภาพจาก th.canon

ราคา 3,840 บาท*

Canon PIXMA G2010 เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันอิงค์แทงค์ รุ่นยอดนิยม การันตีด้วยยอดขายแบบถล่มทลาย ครบเครื่องด้วยฟังก์ชัน 3 in 1 ทั้ง การพิมพ์ การถ่ายเอกสาร และการสแกน ตอบโจทย์ทุกงานเอกสาร ตัวเครื่องมีการติดตั้งแทงค์หมึก มาให้เลย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน สำหรับรุ่นนี้มีความละเอียดในการพิมพ์สูงสุด 4800 × 1200 dpi ด้วยหัวพิมพ์ทั้งหมด 1,472 หัวฉีด ช่วยให้มีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำ 8.8 แผ่น/นาที และพิมพ์ภาพสี 5 แผ่น/นาที ถือว่าพิมพ์งานได้รวดเร็วทันใจ แถมมีแทงค์หมึกขนาดใหญ่ที่เติมได้อย่างง่ายดาย ทำให้รองรับงานพิมพ์ในปริมาณมากได้อย่างสบาย ถาดบรรจุกระดาษบรรจุได้ 100 แผ่น แสดงผลบนจอ 1.2 นิ้ว Monochrome LCD ที่แสดงผลได้อย่างครบถ้วน และมีการเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0 ที่ใช้งานง่าย ถือเป็นเครื่องปริ้นที่เหมาะกับคนที่มีงานพิมพ์ในปริมาณมากทุก ๆ วัน

จุดเด่น

  • เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน มีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่ากับราคา
  • เป็เครื่องพิมพ์ที่มีการติดตั้งอิงค์แทงค์มาจากโรงงาน
  • ตรวจปริมาณน้ำหมึก หรือเติมน้ำหมึกได้อย่างง่ายดาย
  • ตลับหมึกมีราคาประหยัด

ข้อควรพิจารณา

  • มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากพอสมควร
  • ความเร็วในการพิมพ์ ถือว่าค่อนข้างช้า หากเทียบราคากับรุ่นอื่น ๆ
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 เท่านั้น ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
ประเภท Ink Tank Printer
คุณสมบัติ Print / Scan / Copy
ความละเอียด สูงสุด 4800 × 1200 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 8.8 แผ่น/นาที
  • สี : 5.0 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย
ขนาดเครื่อง 445 × 330 × 163 มม.
น้ำหนัก 6.3 กก.
การรับประกัน 1 ปี
ราคาหมึกแท้ GI-790 (ชุด 4 สี C, M, Y และ BK) สีละ 337 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Epson L1300 A3 Ink Tank Printer ปริ้นเตอร์อิงค์แทงค์ คุณภาพสูง

Epson L1300 A3 Ink Tank Printer ปริ้นเตอร์อิงค์แทงค์ คุณภาพสูง
รูปภาพจาก epson.co.th

ราคา 14,500 บาท*

ปริ้นเตอร์อิงค์แทงค์ ประสิทธิภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ซึ่งรองรับสูงสุดที่ขนาด A3+ ทำให้คุณสามารถพิมพ์ งานเขียน CAD แผนผังบ้าน อาคาร พิมพ์รายงาน หรือพิมพ์แผนภูมิสรุปข้อมูลต่าง ๆ พร้อมรายละเอียดที่ชัดเจน สมบูรณ์แบบ โดยที่เครื่องพิมพ์ A4 ทั่ว ๆ ไปทำไม่ได้ โดยรุ่นนี้มาพร้อมแทงค์แท้ ติดตั้งมาจากโรงงาน ช่วยให้มันไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ ทำงานด้วยหัวพิมพ์ Micro Piezo ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ช่วยให้มีความเร็วในการพิมพ์ขาว-ดำสูงถึง 15 ภาพต่อนาที และมีความทนทานสูง ทำให้สามารถรองรับงานพิมพ์ปริมาณมาก ๆ และพิมพ์ต่อเนื่องได้อย่างสบาย ส่วนด้านหลังมาพร้อมถาดป้อนกระดาษที่สามารถรองรับได้หลายขนาด และก็ยังรองรับวัสดุการพิมพ์ได้มากมาย เช่น กระดาษหนา, กระดาษโฟโต้, ซองจดหมาย ฉลาก และอื่น ๆ ช่วยให้คุณพิมพ์งานทุกรูปแบบได้อย่างง่ายดาย

จุดเด่น

  • ปริ้นเตอร์เครื่องแรกในโลก ที่รองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่ด้วยคุณภาพที่สูงได้ (สูงสุด A3+)
  • เหมาะสำหรับพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ ที่ต้องการความละเอียดสูง ๆ
  • ให้งานพิมพ์คุณภาพสูง มีรายละเอียดที่ดีเยี่ยม
  • ใช้ต้นทุนในการพิมพ์ต่ำ เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน อินเตอร์เฟสต่าง ๆ มีแค่ไม่กี่ปุ่ม
  • อิงค์แทงค์จากโรงงาน ซึ่งมีคุณภาสูง ไร้ปัญหาจุกจิก
  • ตรวจดูปริมาณหมึก และการเติมน้ำหมึกทำได้ง่าย

ข้อควรพิจารณา

  • รองรับเฉพาะ การพิมพ์ภาพ เท่านั้น
  • ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก
  • ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
  • มีราคาสูง
ประเภท Ink Tank Printer
คุณสมบัติ Print
ความละเอียด 5,760 × 1,440 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 15 แผ่น/นาที
  • สี : 5.5 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย
ขนาดเครื่อง 705 × 322 × 215 มม.
น้ำหนัก 12.2 กก.
การรับประกัน 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น
ราคาหมึกแท้ EPSON 001 ชุด 4 สี ประมาณ 1,000 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Canon PIXMA E4570 เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท All in One Printer

Canon PIXMA E4570 เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท All in One Printer
รูปภาพจาก th.canon

ราคา 3,550 บาท*

มาต่อกันที่เครื่องปริ้นรุ่นประหยัดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่สุดกันบ้างครับ กับ Canon PIXMA E4570 ซึ่งเป็นเครื่องปริ้นอิงค์เจ็ท All In One แบบไร้สาย ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ ครับ พร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร หรือแม้แต่แฟ็กซ์ โดยมีความเร็วในการพิมพ์ขาว-ดำ 8.8 ppm และพิมพ์สี 4.4 ppm ทั้งยังมีการเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน ด้วยฟีเจอร์การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้น และมีฟีเจอร์ฟีดเอกสารอัตโนมัติ ที่สามารถป้อนเอกสารอัตโนมัติได้สูงสุดถึง 20 แผ่น สำหรับการทำสำเนาและการแสกน ช่วย ให้คุณไม่ต้องรอป้อนกระดาษด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะผ่าน WIFI, มือถือ, อุปกรณ์ IOS หรือ Wi-Fi Direct ทำให้ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหน คุณก็สามารถสั่งพิมพ์ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ครับ

จุดเด่น

  • เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ราคาประหยัด ที่มีคุณสมบัติครบครันที่สุด
  • มีประสิทธิภาพการพิมพ์สูง รองรับทั้ง การพิมพ์, สแกน, สำเนา และการแฟ็กซ์
  • รองรับการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ
  • รองรับการฟีดเอกสารอัตโนมัติ สูงสุด 20 แผ่น
  • มีจอ LCD ขาวดำ แสดงผลแบบ 2 บรรทัด ดูง่าย
  • รองรับการสั่งพิมพ์แบบไร้สาย

ข้อควรพิจารณา

  • ปุ่มการใช้งานดูค่อนข้างซับซ้อน
  • มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากพอสมควร
  • ความเร็วในการพิมพ์สี ถือว่าค่อนข้างช้า หากเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ในราคาเท่า ๆ กัน
ประเภท Inkjet Printer
คุณสมบัติ Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) / Scan / Copy / Fax
ความละเอียด สูงสุด 4800 × 1200 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 8.8 แผ่น/นาที
  • สี : 4.4 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย
ขนาดเครื่อง 435 × 295 × 189 มม.
น้ำหนัก 5.8 กก.
การรับประกัน 1 ปี
ราคาหมึกแท้
  • PG-47 PGBK 338 บาท
  • CL-57 (Colour) 606 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

HP DeskJet 2330/2333 ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท All in one

HP DeskJet 2330/2333 ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท All in one
รูปภาพจาก hp.com

ราคา 1,390 บาท*

มาต่อที่ HP DeskJet 2330/2333 ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท all in one ที่ถูกอัพเกรดขึ้นมาจาก HP DeskJet 1210 ครับ ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติที่มากขึ้น ทั้ง พิมพ์, สแกน และถ่ายสำเนา แต่ยังคงมีราคาประหยัดเช่นเดิม โดยตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด ทำให้เหมาะกับโต๊ะทำงานมาก ๆ เน้นการใช้ที่สะดวกและรวดเร็ว สามารถติดตั้งเพียงไม่กี่ขั้นตอนก็พร้อมที่จะทำงานให้คุณแล้ว โดยมีความเร็วในการพิมพ์ (ISO) แบบขาว-ดำ 7.5 ppm และแบบสี 5.5 ppm ถาดกระดาษ สามารถบรรจุกระดาษได้สูงสุด 60 แผ่น ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับบ้านหรือโฮมออฟฟิศที่มีงานเอกสารไม่มาก หากใครที่ต้องการปริ้นเตอร์ All in one ที่มีคุณสมบัติครบครัน ในราคาประหยัดที่สุด DeskJet 2330/2333 คือคำตอบที่เหมาะกับคุณครับ

จุดเด่น

  • ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท All in one ที่มีราคาประหยัดที่สุด
  • ขนาดเล็กกะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่
  • ในการพิมพ์สีและขาวดำ มีความเร็วพอสมควร

ข้อควรพิจารณา

  • ต้องใช้งานเป็นประจำ เพื่อป้องกันหมึกแห้ง
  • ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
ประเภท Inkjet Printer
คุณสมบัติ Print / Scan / Copy
ความละเอียด
  • ขาวดำ : 1200 × 1200
  • สี : 4800 × 1200
Print Speed
  • ขาวดำ : 7.5 แผ่น/นาที
  • สี : 5.5 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย
ขนาดเครื่อง 425.2 × 304.1 × 149.1 มม.
น้ำหนัก 3.42 กก.
การรับประกัน 1 ปี
ราคาหมึกแท้
  • HP 67 BK 530 บาท
  • HP 67 CO 530 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Canon PIXMA เครื่องพิมพ์ไร้สายอิงค์เจ็ท รุ่น TS307

Canon PIXMA เครื่องพิมพ์ไร้สายอิงค์เจ็ท รุ่น TS307
รูปภาพจาก th.canon

ราคา 1,790 บาท*

Canon PIXMA TS307 เป็นปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ทแบบไร้สาย มาพร้อมกับขนาดที่กะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ ด้านบนถูกทำให้ราบเรียบ ช่วยให้คุณยังคงมีพื้นที่วางเอกสารอยู่ รุ่นนี้มาพร้อมประสิทธิภาพการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม รองรับทั้ง การพิมพ์ และการสแกน โดยมีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำ 7.7 แผ่น/นาที ซึ่งค่อนข้างเร็ว และมีความเร็วในการพิมพ์ภาพสี 4.0 แผ่น/นาที ตอบโจทย์การพิมพ์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์การสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือ ทั้ง การพิมพ์ และการสแกน โดยใช้แอปพลิเคชั่น Canon PRINT Inkjet/Selphy ซึ่งสามารถรองรับได้ทุกระบบ มี One-Touch ทำให้เชื่อมต่อไปอย่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ในสัมผัสเดียว และยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย ถือเป็นรุ่นที่คุ้มค่ากับราคามาก ๆ ตอบโจทย์ทั้ง การใช้งานในบ้าน หรือโฮมออฟฟิศ

จุดเด่น

  • มีราคาประหยัด
  • ขนาดเล็ก ช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง
  • มีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำสูงพอสมควร
  • มีฟังก์ชันรองรับการสั่งงานแบบไร้สาย ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ

ข้อควรพิจารณา

  • การสแกน และทำสำเนา ทำผ่านสมาร์ทโฟนเท่านั้น
  • มีความเร็วในการพิมพ์สีค่อนข้างช้า
  • ต้องใช้งานเป็นประจำ เพื่อป้องกันหมึกแห้ง
  • ตลับหมึกมีราคาค่อนข้างสูง
ประเภท Inkjet Printer
คุณสมบัติ Print (Scan และ Copy ทำผ่านสมาร์ทโฟน)
ความละเอียด สูงสุด 4800 × 1200
Print Speed
  • ขาวดำ : 7.7 แผ่น/นาที
  • สี : 4.0 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย (Bluetooth / Wi-Fi Direct)
ขนาดเครื่อง 430 × 282 × 143 มม.
น้ำหนัก 2.9 กก.
การรับประกัน 1 ปี
ราคาหมึกแท้
  • PG-745 BK 623 บาท
  • CL-746 CL 956 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

HP DESKJET เครื่องปริ้น ราคาประหยัด รุ่น 1210

HP DESKJET เครื่องปริ้น ราคาประหยัด รุ่น 1210
รูปภาพจาก hp.com

ราคา 1,160 บาท*

HP DeskJet 1210 เป็นปริ้นเตอร์ตัวเริ่มต้นที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก HP DeskJet 1112 ที่เป็นปริ้นเตอร์ราคาประหยัดที่ได้รับความนิยมมาก ๆ รุ่นนึง ซึ่งตัวเครื่องถูกดีไซน์มาให้เหมาะกับโต๊ะทำงานโดยเฉพาะครับ เน้นใช้งานส่วนตัวที่บ้าน ตัวบอดี้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้ใช้พื้นที่การติดตั้งน้อย แถมมีการใช้ที่ง่ายมาก ๆ ติดตั้งเพียงไม่กี่ขั้นตอน ตัวเครื่องก็พร้อมที่จะให้คุณสั่งพิมพ์ได้ทันที่

เห็นราคาถูก ๆ แบบนี้แต่บอกเลยว่า มันครอบคลุมการพิมพ์มาก ๆ ครับ เพราะมันสามารถพิมพ์ได้ทั้ง สี และขาวดำเลย โดยจะมีความเร็วในการพิมพ์ขาวดำประมาณ 7.5 แผ่น/นาที และการพิมพ์สี 5.5 แผ่น/นาที ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ช้าและก็ไม่ได้เร็ว ถาดบรรจุกระดาษใส่ได้สูงสุด 60 แผ่น นับว่าเยอะใช้ได้เลย สำหรับการใช้งานแบบส่วนตัว แต่ด้วยราคาเพียงแค่พันต้น ๆ เท่านั้น ทำให้มีการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB เพียงอย่างเดียวครับ ด้วยเหตุนี้ผมถึงบอกว่ามันเหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัวมากกว่า หากใครที่กำลังมองหาปริ้นเตอร์ราคาประหยัดที่ตอบโจทย์งานพิมพ์ได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ

จุดเด่น

  • เป็นปริ้นเตอร์สีที่มีราคาประหยัดมาก ๆ
  • ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ช่วยประหยัดพื้นที่
  • ในการพิมพ์สีและขาวดำ มีความเร็วพอสมควร
  • ความละเอียดในการพิมพ์ค่อนข้างสูง ให้งานพิมพ์ที่มีคุณภาพ

ข้อควรพิจารณา

  • รองรับเฉพาะการพิมพ์เท่านั้น
  • ต้องใช้งานเป็นประจำ เพื่อป้องกันหมึกแห้ง
  • ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
ประเภท Inkjet Printer
คุณสมบัติ Print
ความละเอียด
  • ขาวดำ : 1200 × 1200
  • สี : 4800 × 1200
Print Speed
  • ขาวดำ : 7.5 แผ่น/นาที
  • สี : 5.5 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย
ขนาดเครื่อง 425.2 × 214.7 × 121.9 มม.
น้ำหนัก 2.02 กก.
การรับประกัน 1 ปี
ราคาหมึกแท้
  • HP 67 BK 530 บาท
  • HP 67 CO 530 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

วีดีโอสรุป ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) รุ่นไหนดี ?


แนะนำ ปริ้นเตอร์เลเซอร์  (Laser Printer)


Brother HL-L3270CDW Color Laser Printer เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี

Brother HL-L3270CDW Color Laser Printer เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี
รูปภาพจาก brother.co.th

ราคา 11,990 บาท*

หากคุณกำลังมองหาปริ้นเตอร์ตัวใหม่ เพื่อมาใช้ในธุรกิจของคุณที่กำลังเติบโต เราขอแนะนำปริ้นเตอร์จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Brother กับรุ่น HL-L3270CDW ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี ราคาประหยัด แต่มีประสิทธิภาพการพิมพ์ของรุ่นท๊อปยัดใส่มาให้ ช่วยให้มันรองรับงานพิมพ์ที่มากขึ้นได้สบาย ๆ โดยเครื่องพิมพ์เลเซอร์สีรุ่นนี้สามารถพิมพ์ได้สูงสุดถึง 25 หน้า/นาที ทั้ง การพิมพ์สี และขาว-ดำ พร้อมระบบการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งเวลา และกระดาษ ทั้งยังสามารถจะลดต้นทุนการพิมพ์มากขึ้น ด้วยโหมดประหยัดผงหมึก ซึ่งจะพิมพ์ขาว-ดำ ด้วยผงหมึกสีดำเพียงอย่างเดียว แทนที่จะใช้ทั้ง 4 สี เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณไม่เปลืองสีอื่น ๆ ไปด้วยครับ ในส่วนถาดป้อนกระดาษเข้า รุ่นนี้ใส่ได้ถึง 250 แผ่น เลยทีเดียว ส่วนถาดกระดาษออก จะใส่ได้อีก 150 แผ่น ครับ ทำให้มันรับมือกับงานพิมพ์ปริมาณมากได้สบาย ๆ  พร้อมมีช่องป้อนกระดาษด้วยมืออีก 1 ช่อง ทำให้คุณพิมพ์เอกสารพิเศษ ทั้ง ซองจดหมาย ฉลาก หรือใบปะหน้า ได้ง่ายขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องกระดาษในถาดกระดาษหลัดออกเลย

Brother รุ่น HL-L3270CDW ใส่กระดาษได้ถึง 250 แผ่น รองรับงานพิมพ์ปริมาณมากได้
Brother รุ่น HL-L3270CDW ใส่กระดาษได้ถึง 250 แผ่น รองรับงานพิมพ์ปริมาณมากได้

แถมยังน่าใช้มาก ๆ เพราะมีหน้าจอสีแบบสัมผัส ขนาด 2.7 นิ้ว ที่ปรับขึ้นลงได้ และปุ่มมีแค่ 3 ปุ่ม เท่านั้น ช่วยให้คุณตั้งค่าตัวเลือกสำหรับการพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย การเชื่อมต่อก็รองรับได้หลากหลาย โดยแบบไร้สาย จะรองรับได้ทั้งแบบ Wi-Fi ปกติ, แบบ Peer to Peer (Wi-Fi Direct, NFC และ Mobile Print) และยังมีรองรับ Brother Web Connect ที่ให้ปริ้นเตอร์สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์คลาวด์ชั้นนำต่าง ๆ ได้ ส่งผลให้คุณและทุกคนสามารถสั่งพิมพ์ไร้สายได้จากทุก ๆ อุปกรณ์ รวมไปถึงตัวปริ้นเตอร์เอง ก็สามารถสั่งพิมพ์เอกสารที่อยู่บนเว็บไซต์ได้โดยตรงเลย ดังนั้นออฟฟิศไหนที่เน้นทำงานออนไลน์ บอกเลยว่าเหมาะมากจริง ๆ ครับ แต่ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่อโดยใช้สายรุ่นนี้ก็ใช้ได้ทั้ง USB และ LAN ดังนั้นไม่ว่าต้องการจะใช้งานแบบไหน รุ่นนี้ก็รองรับได้ทั้งหมดครับ

อ่านรีวิวฉบับเต็มของเราได้ที่ [รีวิว] Brother HL-L3270CDW ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี พิมพ์ไว เส้นชัด สีสันสดใส

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องดีไซน์สี่เหลี่ยมแบบเรียบ ๆ จัดวางได้ง่าย
  • มาพร้อมคุณภาพและประสิทธิภาพการพิมพ์ที่สูง มีความละเอียด
  • รองรับการพิมพ์ขาว-ดำ และสี ทำให้พิมพ์ได้ทั้ง ข้อความ และรูปภาพ
  • รองรับการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ช่วยประหยัดทั้ง เวลา และกระดาษ
  • มีความเร็วในการพิมพ์เอกสาร 25 หน้า/นาที ทั้ง ขาว-ดำ และสี
  • หน้าจอสี ระบบสัมผัส และปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่าย
  • หน้าจอและปุ่ม ถูกออกแบบให้สามารถยกให้ตั้งขึ้นได้ ช่วยให้ตอนนั่ง คุณยังคงมองเห็น ไม่ต้องยืนขึ้นไปดู
  • รองรับการเชื่อมต่อได้ทุกรูปแบบ
  • รองรับฟังก์ชัน Brother Web Connect ช่วยให้ปริ้นเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับเว็บไซต์ฝากไฟล์ต่าง ๆ และสั่งปริ้นได้โดยตรง

ข้อควรพิจารณา

  • ตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
  • รองรับการพิมพ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

คลิปรีวิว ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี Brother HL-L3270CDW พิมพ์ไว เส้นชัด สีสันสดใส [ฉบับทดลองใช้งานจริง]

ประเภท Color Laser Printer
คุณสมบัติ Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ)
ความละเอียด 2,400 × 600 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 25แผ่น/นาที
  • สี : 24 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ USB 2.0 / Ethernet/ Wireless LAN/ NFC
ระบบไร้สาย (Wi-Fi Direct)
ขนาดเครื่อง 439 × 461 × 252 มม.
น้ำหนัก 18.5 กก.
การรับประกัน 3 ปี
ราคาหมึกแท้ TN-263 (เล็ก)/ TN-267(ใหญ่) (BK, C, M, Y) สีละประมาณ 1,400-1,900 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

RICOH Colour Laser Printer เครื่องพิมพ์เลเซอร์ SP C261DNw

RICOH Colour Laser Printer เครื่องพิมพ์เลเซอร์ SP C261DNw
รูปภาพจาก ricoh.co.th

ราคา 7,850 บาท*

RICOH SP C261DNw เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานภายในออฟฟิศโดยเฉพาะ มาพร้อมประสิทธิภาพการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งการพิมพ์สี และขาวดำ โดยมีความเร็วในการพิมพ์สูงสุด 20 แผ่นต่อนาที อีกทั้งในด้านการใช้งานก็สะดวกสบาย มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้สาย รองรับการสั่งงานผ่านอุปกรณ์อื่นๆ โดยใช้แอปฯ Ricoh Smart Device Connector สั่งพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว ภายในไม่กี่ขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการพิมพ์ 2 หน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกมากขึ้นไปอีก ถาดรองกระดาษขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุได้ถึง 751 แผ่น นั้นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นบรรจุกระดาษอยู่บ่อย ๆ ทำให้การทำงานของคุณมีความต่อเนื่อง เหมาะมาก ๆ สำหรับออฟฟิศที่มีปริมาณงานเอกสารจำนวนมาก

จุดเด่น

  • ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในออฟฟิศที่มีปริมาณงานเอกสารจำนวนมาก
  • มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารทั้ง สี และขาวดำ
  • รองรับการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ
  • รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย

ข้อควรพิจารณา

  • ตัวเครื่องมีขนาดค่อยข้างใหญ่ ส่งผลให้การเคลื่อนย้ายทำได้ลำบาก
  • รองรับการพิมพ์เพียงอย่างเดียว
  • หมึกพิมพ์ค่อนข้างแพง
ประเภท Color Laser Printer
คุณสมบัติ Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ)
ความละเอียด 2,400 × 600 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 20 แผ่น/นาที
  • สี : 20 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย (Wi-Fi / Wi-Fi Direct)
ขนาดเครื่อง 400 × 450 × 320 มม.
น้ำหนัก 23.8 กก.
การรับประกัน 3 ปี
ราคาหมึกแท้ SP C250S (BK, C, M, Y) ประมาณ 9,000 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

FUJIFILM Apeos C325 dw ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี All In One Color Laser

FUJIFILM Apeos C325 dw ปริ้นเตอร์เลเซอร์สี All In One Color Laser
รูปภาพจาก fujifilm.com

ราคา 18,500 บาท*

ออฟฟิศไหนที่กำลังมองหาปริ้นเตอร์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันไปใช้งานอยู่ เราขอแนะนำ FUJIFILM Apeos C325 dw ซึ่งเป็น All In one Color Laser ที่ได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์งานด้านเอกสารโดยเฉพาะ สามารถใช้งานในออฟฟิศขนาดกลางถึงใหญ่ได้สบาย ๆ ครับ โดยรุ่นนี้มีครบทุกฟังก์ชัน จบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์ สแกน แฟ็กซ์ ถ่ายเอกสาร หรือแม้แต่การสแกนไปยัง PC หรืออีเมลโดยตรง ตัวเครื่องมาในดีไซน์ใหม่ครับ เป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบเรียบ ๆ เนื่องจากได้มีการตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก ช่วยให้รุ่นนี้มีขนาดเล็กลง จัดวางง่ายขึ้น แต่กลับมีศักยภาพที่สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน แต่ข้อเสียอยู่ที่น้ำหนักครับ โดยมันหนักถึง 20.5 กก. เลยทีเดียว ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายได้

โดยรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นที่สุดแห่งคุณภาพการพิมพ์ มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์งานพิมพ์ได้ทั้งหมด ซึ่งรุ่นนี้จะทำงานด้วยหัวพิมพ์ LED และ IReCT พร้อมกับใช้โทนเนอร์ EA-Eco toner เทคโนโลยีใหม่ที่สามารถจะพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กมาก ๆ ได้อย่างคมชัด และยังมีเทคโนโลยี IET ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มมิติ และความเรียบเนียนให้กับงานพิมพ์ ช่วยให้งานพิมพ์ของเราออกมามีคุณภาพสูงสุด โดยมีความเร็วในการพิมพ์ทั้ง สี และขาวดำ สูงสุดถึง 31 แผ่น/นาที เลยทีเดียว

และเพิ่มความสะดวกในการทำงานมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ และระบบสแกน 2 หน้า พร้อมกันในครั้งเดียว ช่วยคุณประหยัดทั้ง เวลา และกระดาษเลย การเชื่อมต่อก็ต้องบอกเลยครับว่า รุ่นนี้มีให้ครบครันทั้งแบบมีสาย และไร้สาย รวมถึงพอร์ต USB ก็มีมาให้ด้วยช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์ และแถมยังสามารถสั่งพิมพ์จาก USB แฟลชไดรฟ์ได้โดยตรงอีกด้วย

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง CP315dw ที่มีคุณสมบัติคล้าย ๆ กันถึง 40%
  • ปริ้นเตอร์เลเซอร์สีแบบ All in one รองรับทั้ง การพิมพ์ การสแกน การแฟ็กซ์ การถ่ายเอกสาร และอีเมล
  • เหมาะสำหรับใช้งานในออฟฟิศที่มีปริมาณงานจำนวนมากโดยเฉพาะ
  • มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารทั้ง สี และขาวดำ สูงที่สุด (สูงถึง 31 แผ่น/นาที)
  • รองรับการพิมพ์ 2 หน้า และการแสกน 2 หน้า อัตโนมัติ
  • หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว พร้อมเมนูภาษาไทยที่ใช้งานง่าย
  • ถาดกระดาษขนาดใหญ่ ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง
  • รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย ทั้ง มีสาย และไร้สาย
  • มีพอร์ต USB มาให้ด้วย สามารถสั่งพิมพ์จาก แฟลชไดรฟ, ฮาร์ดดิสก์พกพา และอื่น ๆ ได้โดยตรง
  • หมึกพิมพ์รองรับงานพิมพ์ในปริมาณมากได้สบาย
  • มาพร้อมการติดตั้ง และระบบดูแลจัดการที่ง่ายดาย

ข้อควรพิจารณา

  • ตัวเครื่องแม้จะเล็กลงกว่ารุ่นก่อน แต่ก็ยังมีน้ำหนักมากถึง 20.5 กก. ซึ่งยากต่อการเคลื่อนย้าย
  • หมึกพิมพ์มีราคาแพง
  • มีราคาสูง
ประเภท Color Laser Printer
คุณสมบัติ Print/ Scan/ Copy/ Fax/ Email
ความละเอียด 600 × 2,400 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 31 แผ่น/นาที
  • สี : 31 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ
  • USB 2.0
  • Ethernet
  • USB Port
ระบบไร้สาย
  • Wi-Fi
  • Wi-Fi Direct
  • NFC
  • AirPrint/ Mopria
ขนาดเครื่อง 410 × 430 × 366 มม.
น้ำหนัก 20.5 กก.
การรับประกัน 3 ปี
ราคาหมึกแท้ CT203490BK, 91C, 92M, 93Y (3,000+ บาท/ตลับ)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Brother Colour LED Multi-Function ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันเลเซอร์ DCP-L3551CDW

Brother Colour LED Multi-Function ปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันเลเซอร์ DCP-L3551CDW
รูปภาพจาก brother.co.th

ราคา 14,790 บาท*

เครื่องปริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันเลเซอร์ ประสิทธิภาพสูงจาก Brother ที่รองรับการทำงานได้ครบ จบในเครื่องเดียว ทั้ง พิมพ์ สแกน และทำสำเนา ตัวเครื่องมาพร้อมความเร็วในการพิมพ์ 18-19 แผ่น/นาที เพิ่มความสะดวก ด้วยถาดกระดาษอัตโนมัติ ที่รองรับได้ถึง 50 แผ่น พร้อมมีฟังก์ชันการพิมพ์ 2 หน้า อัตโนมัติ มำให้การพิมพ์งานของคุณรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่งป้อนกระดาษเอง อีกทั้งถาดบรรจุกระดาษมาตรฐานก็รองรับได้มากถึง 250 แผ่นเลยทีเดียว ทำให้งานพิมพ์ของคุณมีความต่อเนื่อง ในส่วนการเชื่อมต่อก็สามารถรองรับได้หลากหลายครับ ทั้ง แบบมีสาย และแบบไร้สาย ด้วยสัญญาณ Wi-Fi รองรับการสั่งงานผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ครบ นอกจากนี้คุณยังสามารถแชร์ผ่านเคลือข่าย LAN ได้อีกด้วย ช่วยให้ทุกคนในออฟฟิศสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ถือเป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับใช้งานภายในออฟฟิศหรือสำนักงานโดยเฉพาะ

จุดเด่น

  • มีฟังก์ชันที่หลากหลาย
  • มาพร้อมคุณภาพการพิมพ์ที่สูง มีความละเอียดดีเยี่ยม
  • รองรับการพิมพ์ขาว-ดำ และสี
  • รองรับการพิมพ์ และการสแกน อัตโนมัติ 2 หน้า
  • มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารทั้ง ขาว-ดำ และสี
  • รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย

ข้อควรพิจารณา

  • ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก
  • มีราคาสูง
ประเภท Color Laser Printer
คุณสมบัติ Print (พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ) / Scan (สแกนรูปภาพ 2 หน้า) / Copy
ความละเอียด 2,400 × 600 dpi
ความเร็ว
  • ขาวดำ : 19 แผ่น/นาที
  • สี : 18 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ USB 2.0 / LAN
ระบบไร้สาย (Wi-Fi Direct)
ขนาดเครื่อง 410 × 475 × 414 มม.
น้ำหนัก 23.5 กก.
การรับประกัน 3 ปี
ราคาหมึกแท้ TN-267 (BK, C, M, Y) สีละประมาณ 2,500 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

HP LaserJet MFP M236sdw ปริ้นเตอร์เลเซอร์ มัลติฟังก์ชัน (9YG09A)

HP LaserJet MFP M236sdw ปริ้นเตอร์เลเซอร์ มัลติฟังก์ชัน (9YG09A)
รูปภาพจาก store.hp.com

ราคา 8,990 บาท*

HP MFP M236sdw เป็นเครื่องปริ้นเลเซอร์ มัลติฟังก์ชัน ขาว-ดำ ราคาสุดคุ้ม ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผลผลิตที่สูง ทำงานด้วยฟังก์ชันที่ครบครันทั้ง การพิมพ์ สแกน และสำเนา ตัวเครื่องมาในดีไซน์ที่เรียบง่ายครับ ขนาดถือว่าเล็กเลย ซึ่งถ้าหากเราเทียบกับ Brother HL-L3270CDW ที่รองรับการพิมพ์เพียงอย่างเดียว รุ่นนี้ที่เป็นมัลติฟังก์ชัน กลับมีขนาดเล็ก และเบากว่า โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 9.5 กก. เบากกว่าเกือบครึ่งครับ

ในด้านการใช้งานรุ่นนี้มาพร้อมกับเลเซอร์ขนาดเล็กที่น่าทึ่ง ซึ่งให้การพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยมันมีความเร็วการพิมพ์ขาวดำสูงสุดถึง 30 แผ่นต่อนาที ด้วยกระดาษ A4 ซึ่งถ้าใครต้องการเร็วกว่านี้ ก็ต้องเลือกรุ่นหลักหมื่นขึ้นไป อีกทั้งยังมีระบบการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติที่รวดเร็ว ตัวป้อนกระดาษอัตโนมัติ และการเชื่อมต่อที่รองรับทั้งแบบมีสาย และไร้สาย รวมไปถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย ซึ่งรองรับทั้ง Apple AirPrint, HP ePrint, HP Smart, Mopria Print และ Wi-Fi Direct เลย

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องมีขนาดค่อยข้างเล็ก และเบา ช่วยให้การเคลื่อนย้ายทำได้ไม่ยาก
  • รองรับการพิมพ์สูงสุดถึง 20,000 หน้า/เดือน
  • รองรับทั้ง การพิมพ์, การสแกน การถ่ายเอกสาร และ ADF Duplex
  • ความเร็วในการพิมพ์ขาวดำ สูงถึง 30 แผ่น/นาที (สูงกว่ารุ่นที่แพงกว่าบางรุ่น)
  • รองรับการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ
  • การเชื่อมต่อที่ครบครัน

ข้อควรพิจารณา

  • มีดีไซน์ที่ยื่นออกมาจากตัวเครื่อง ทำให้บางครั้งอาจจะรู้สึกเกะกะได้
  • หน้าจอไอคอน LCD ขนาด 1.6 นิ้ว อาจจะใช้งานยากไปหน่อย สำหรับยุคนี้
ประเภท Mono Laser Printer
คุณสมบัติ Print / Scan / Copy
ความละเอียด 600 × 600 dpi
ความเร็ว ขาวดำ : 30 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ
  • USB 2.0
  • Ethernet
ระบบไร้สาย
  • Wi-Fi
  • Wi-Fi Direct
  • HP Smart App
  • AirPrint/ Mopria
ขนาดเครื่อง 418 × 308 × 294 มม.
น้ำหนัก 9.5 กก.
การรับประกัน 3 ปี
ราคาหมึกแท้ HP 136A Black (2,030 บาท)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Brother DCP-1610W Mono Laser Printer 3-in-1 ปริ้นเตอร์เลเซอร์ขาว-ดำ มัลติฟังก์ชัน

Brother DCP-1610W Mono Laser Printer 3-in-1 ปริ้นเตอร์เลเซอร์ขาว-ดำ มัลติฟังก์ชัน
รูปภาพจาก brother.co.th

ราคา 4,247 บาท*

ปริ้นเตอร์เลเซอร์ ขาว-ดำ แบบ 3-in-1 ที่มีฟังก์ชันครบ จบในเครื่องเดียว ตอบโจทย์ทั้ง การพิมพ์ สแกน และสำเนา โดยถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในบ้าน หรือธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการพิมพ์ให้สูงขึ้น ซึ่งตัวเครื่องมาในดีไซน์เรียบง่าย ทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ช่วยให้มันจัดวางได้ง่าย ประหยัดมาก ๆ ครับ ส่วนน้ำหนักก็ไม่ได้มากจนเกินไป ยังคงเคลื่อนย้ายได้สะดวก ด้านหน้ามีปุ่มควบคุม พร้อมจอแบบ 16 ตัวอักษร 2 บรรทัด ที่อาจจะดูเก่าหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ดี

มีถาดกระดาษเข้าขนาดใหญ่ ใส่กระดาษ 80 แกรม ได้สูงสุดถึง 150 แผ่น ช่วยให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนถาดกระดาษออก ก็รองรับกระดาษ 80 แกรม ได้ 50 แผ่น ซึ่งเพียงพอแล้วกับการใช้งานทั่วไป โดยความเร็วในการพิมพ์ ทำได้สูงสุดถึง 20 แผ่น/นาที เลยทีเดียวครับ ซึ่งทำได้เร็วกว่าปริ้นเตอร์รุ่นท๊อป ๆ บางรุ่นซะอีก และเห็นถูก ๆ แบบการเชื่อมต่อยังให้มาครบนะครับ ทั้ง แบบมีสาย และไร้สายเลย ช่วยให้คุณ และทุกคน สามารถสั่งพิมพ์ผ่านโน้ตบุ๊ค พีซี หรือจะสั่งพิมพ์ด้วยมือถือ แท็บเล็ต ก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ  iPrint & Scan นอกจากนี้ยังโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยการพิมพ์ที่ประหยัดผงหมึกมากขึ้น ดังนั้นด้วยความที่เครื่องพิมพ์ก็ไม่แพง แถมตลับผงหมึกก็ประหยัด ช่วยให้รุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในปริ้นเตอร์เลเซอร์ขาว-ดำที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ

จุดเด่น

  • มีราคาประหยัด เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน และออฟฟิศขนาดเล็ก
  • ตัวเครื่องเล็ก และมีน้ำหนักไม่มาก ช่วยให้ย้ายได้ง่าย แถมยังประหยัดพื้นที่การติดตั้งด้วย
  • รองรับทั้ง การพิมพ์ การสแกน และการถ่ายสำเนา
  • มีความเร็วในการพิมพ์ในระดับที่น่าพอใจ
  • รองรับการเชื่อมต่อทั้ง มีสาย และไร้สาย
  • แอปพลิเคชั่น iPrint&Scan ที่ใช้งานได้ดีมาก รองรับทุกอุปกรณ์

ข้อควรพิจารณา

  • Mono Laser Printer รองรับการพิมพ์ขาว-ดำ เพียงอย่างเดียว
  • ตลับผงหมึกรองรับการพิมพ์ประมาณ 700-1,000 หน้า/ตลับ
  • หน้าจอแสดงผลแบบ 2 บรรทัด ใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก
  • เหมาะสำหรับคนที่มีงานพิมพ์ไม่มาก ไม่ควรเกิน 1,800 หน้า/เดือน
  • ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Peer to Peer ทั้ง Wi-Fi Direct และ NFC
ประเภท Mono Laser Printer
คุณสมบัติ Print/ Copy/ Scan
ความละเอียด 2400 × 600 dpi (เทคโนโลยี HQ1200)
ความเร็ว ขาว-ดำ : 20 แผ่น/นาที (A4)
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2.0
ระบบไร้สาย (Wi-Fi)
ขนาดเครื่อง 385 × 340 × 255 มม.
น้ำหนัก 7.2 กก.
การรับประกัน 2 ปี
ราคาหมึก รหัส หมึกดำ TN-1000
  • แท้ : 700-900 บาท
  • เทียบ : 300-400 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Brother Multifunction LED Mono Laser Printer MFC-L2700D

Brother Multifunction LED Mono Laser Printer MFC-L2700D
รูปภาพจาก brother.co.th

ราคา 6,590 บาท*

Brother MFC-L2700D เครื่องพิมพ์เลเซอร์ มัลติฟังก์ชั่น สำหรับพิมพ์ขาวดำ ที่มาในราคาสุดคุ้มค่า ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสำนักงานที่ต้องการจัดการกับงานเอกสารในปริมาณมาก ๆ โดยเฉพาะ มาพร้อมประสิทธิภาพและฟังก์ชันมากมายที่จะช่วยให้งานเอกสารของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง การพิมพ์, การสแกน, การถ่ายเอกสาร และการส่งแฟ็กซ์ ซึ่งรุ่นนี้สามารถทำความเร็วในการพิมพ์ได้สูงถึง 30 หน้าต่อนาที เลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถตั้งค่างานพิมพ์ทุกชนิด ให้เป็นพิมพ์แบบ 2 หน้า อัตโนมัติได้ด้วย เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงาน และยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองกระดาษ นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดหมึกพิมพ์ ช่วยให้คุณลดต้นทุนในการพิมพ์ได้อีกด้วย ถือเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับใช้ในการทำงานมาก ๆ

จุดเด่น

  • มีราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ
  • มาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย รองรับทั้ง การพิมพ์, การสแกน, การถ่ายเอกสาร และการส่งแฟ็กซ์
  • มีความเร็วในการพิมพ์เอกสารสูงถึง 30 แผ่น/นาที

ข้อควรพิจารณา

  • รองรับการปริ้นเฉพาะขาวดำเท่านั้น ไม่สามารถปริ้นสีได้
  • ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายค่อนข้างทำได้ลำบาก
  • ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
ประเภท Mono Laser Printer
คุณสมบัติ Print / Scan / Copy / Fax
ความละเอียด 600 x 600 dpi
ความเร็ว ขาวดำ : 30 แผ่น/นาที
การเชื่อมต่อ Hi-Speed USB 2
ระบบไร้สาย
ขนาดเครื่อง 409 × 398 × 316 มม
น้ำหนัก 11.4 กก.
การรับประกัน 3 ปี
ราคาหมึกแท้ HP 79A ประมาณ 2,000 บาท
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

วีดีโอสรุป ปริ้นเตอร์เลเซอร์ (Laser Printer) รุ่นไหนดี ?

 

ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

วิธีเลือกซื้อ ปริ้นเตอร์ (Printer) ให้เหมาะกับการใช้งาน

1. เลือกประเภท โดยดูจากปริมาณงานที่ต้องการพิมพ์

ปริ้นเตอร์แต่ละประเภท ถูกออกแบบมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันครับ ซึ่งถ้าเราดูจากการ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ระหว่างอิงค์เจ็ท กับเลเซอร์ เพื่อน ๆ จะเห็นเลยว่า ทั้งคู่มันมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นอันดับแรก เพื่อน ๆ ควรที่จะคำนึงถึงจุดประสงค์ของตัวเองก่อนว่า ต้องการนำไปพิมพ์อะไร ? เช่น ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการพิมพ์เอกสารเฉลี่ย 1,000 แผ่นต่อวัน แน่นอนครับ เลเซอร์ตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะด้วยปริมาณที่มาก ความเร็วในการพิมพ์จึงมีความสำคัญ ซึ่งอิงค์เจ็ทให้ในส่วนนี้ไม่ได้ แต่หากต้องการพิมพ์เฉลี่ย 100 แผ่นต่อวัน แนะนำให้เลือกอิงค์เจ็ทดีกว่า เพราะเลเซอร์จะมีราคาสูงเกินไป

หากเราลองเทียบรุ่นที่มีราคาใกล้ ๆ กัน เช่น ในงบ 5,000 บาท ถ้าเราซื้อปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท เราจะได้เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันสี ที่ทำได้ทั้ง พิมพ์ สำเนา และสแกน แต่หากไปซื้อปริ้นเตอร์เลเซอร์ในงบนี้ ส่วนใหญ่ก็จะได้เป็นเครื่องพิมพ์ขาว-ดำ ที่พิมพ์ได้อย่างรวดเร็วเพียงอย่างเดียว เพราะงั้นถ้าคุณไม่ได้ต้องการพิมพ์เป็นร้อย เป็นพันแผ่นต่อวัน ความเร็วในการพิมพ์ก็ไม่จำเป็นเลย

2. เลือกจากวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณ 

เมื่อเพื่อน ๆ เลือกประเภทได้แล้ว ต่อมาเราก็ต้องจำกัดวงให้แคบลงมาครับ เพราะปัจจุบันนี้ปริ้นเตอร์มีแทบทุกราคา ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นแพง ๆ ไปเลยดี หรือจะซื้อแค่รุ่นประหยัดก็พอ ? ซึ่งจากในข้อแรกเพื่อน ๆ ก็รู้แล้วว่า อิงค์เจ็ทนั้นเหมาะกับงานพิมพ์ไม่มาก ส่วนเลเซอร์เหมาะกับงานพิมพ์ปริมาณมาก ดังนั้นวิธีง่าย ๆ ในการหารุ่นที่คุ้มค่าที่สุดนั่นก็คือ การถามตัวเองดูว่า เราต้องการจะพิมพ์อะไร ? เน้นคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ? และต้องการจะใช้งานแบบไหนบ้าง ?

เช่น ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ทมาใช้พิมพ์เอกสาร และรูปภาพสีต่าง ๆ แต่ไม่ได้เน้นคุณภาพที่สูงมากนัก ส่วนฟังก์ชันอื่นก็ไม่ต้องการใช้งาน การใช้อิงค์เจ็ทรุ่นเริ่มต้นก็เพียงพอแล้ว

แต่หากเพื่อน ๆ ต้องการจะพิมพ์ภาพถ่าย เก็บเอาไว้เป็นคอลเลกชัน เพื่อน ๆ ก็ต้องซื้อรุ่นที่แพงขึ้นมาหน่อย เพราะมีทั้ง ความเร็ว และความคมชัดที่มากกว่า อีกทั้งยังมีสีสันที่แม่นยำมาก ๆ

ส่วนเพื่อน ๆ ที่ต้องการใช้เลเซอร์พิมพ์พวกข้อความขาว-ดำล้วน ๆ แนะนำเป็นเลเซอร์รุ่นเริ่มต้นก็พอแล้วครับ เพราะราคาถูกมาก แต่ให้ทั้ง ความเร็ว และความคมชัด ซึ่งต่อให้พิมพ์ตัวอักษรทีเล็กมาก ๆ มันก็ยังคงพิมพ์ได้อย่างคมชัด อ่านง่าย โดยไม่มีน้ำหมึกหกเลอะกระดาษเหมือนอิงค์เจ็ทเลย

แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการพิมพ์ภาพสี และใช้ฟังก์ชันทั้งหมดที่เกี่ยวกับงานเอกสาร รวมถึงเพิ่มความสะดวก ด้วยการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ และอื่น ๆ แนะนำให้เลือกเลเซอร์รุ่นไฮเอนด์ไปเลยจะคุ้มค่ากว่าครับ

3. คุณภาพการพิมพ์

ความละเอียดแบบจุดต่อนิ้ว (dpi) ของเครื่องพิมพ์จะเคล้าย ๆ ความละเอียดของภาพถ่าย หรือหน้าจอเลยครับ นั่นก็คือ ถ้ายิ่งสูงเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งคมชัดขึ้นเท่านั้น ช่วยให้สามารถขยายงานพิมพ์ให้ใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นถ้าความต้องการการใช้งานของเพื่อน ๆ มีการพิมพ์ด้วยคุณภาพสูง เพื่อน ๆ ก็ควรจะพิจารณาในส่วนนี้ด้วย เพราะถ้าหากซื้อไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนให้สูงขึ้นในภายหลังได้ ดังนั้นแนะนำให้เลือกเผื่อไว้ก่อนจะดีกว่าครับ

4. ความเร็วในการพิมพ์

ถ้าหากงานพิมพ์ของเพื่อน ๆ มีความยาวแค่ 4-5 แผ่นต่อครั้ง คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในข้อนี้เลยครับ แต่หากคุณต้องการพิมพ์ครั้งละมาก ๆ 50-60 แผ่นต่อครั้ง และมีคนอื่น ๆ รอจะสั่งพิมพ์ต่อจากคุณ แน่นอนครับว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ความรวดเร็วในการพิมพ์ ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อหนึ่งเลยที่บอกว่า ปริ้นเตอร์เลเซอร์จะเหมาะสำหรับคนที่มีงานพิมพ์ปริมาณมากโดยเฉพาะ นั่นเพราะเลเซอร์สามารถพิมพ์ได้เร็วกว่าอิงค์เจ็ทอยู่พอสมควรเลย ซึ่งปัจจุบันอิงค์เจ็ทรุ่นใหม่ ๆ บางรุ่นก็ถูกพัฒนาจนสามารถพิมพ์ได้เร็วขึ้นมากแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกปริ้นเตอร์ อิงค์เจ็ท หรือเลเซอร์ ทั้งคู่ก็จะมีความเร็วในการพิมพ์ ระบุไว้อย่างชัดเจนครับ เพื่อน ๆ สามารถนำปัจจัยนี้มาใช้ในการเลือกปริ้นเตอร์ที่เหมาะกับตัวเองได้

5. การเชื่อมต่อ

ในปัจจุบันนี้การเชื่อมต่อของเครื่องพิมพ์ มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ ช่วยให้เราไม่ต้องใช้พอร์ต USB ที่เราใช้กันมาอย่างยาวนานแล้ว ซึ่งปริ้นเตอร์รุ่นใหม่ ๆ จะมีทั้ง พอร์ต Ethernet ที่ใช้เชื่อมต่อปริ้นเตอร์ เข้ากับเครือข่าย เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันสามารถเข้าถึงเครื่องพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้สายใด ๆ เลย มีสัญญาณ Wi-Fi ที่จะไม่ใช้สายใด ๆ เลย เพียงแค่เชื่อมต่อปริ้นเตอร์ เข้ากับเครือข่าย Wi-Fi เพียงเท่านี้ อุปกรณ์ทุกเครื่องของทุกคน ที่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ตัวเดียวกัน ก็จะสามารถสั่งพิมพ์ได้ทันทีครับ ซึ่งนับว่าสะดวดสบายมากจริง ๆ

เลือกเครื่องปริ้นเตอร์ที่สามารถปริ้นผ่าน Wi-Fi Direct ได้ ทำให้คุณปริ้นเอกสารต่าง ๆ ได้สะดวกมาขึ้น

นอกจากนี้เครื่องพิมพ์บางรุ่นยังรองรับ NFC หรือเทคโนโลยีการส่งข้อมูลระยะใกล้ ที่มีความปลอดภัย, Wi-Fi Direct ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโดยตรง Peer to Peer คือการที่ปริ้นเตอร์ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ของตัวเองออกมา จากนั้นเราแค่นำอุปกรณ์ไปเชื่อมต่อเพียงเท่านี้ เราจะสามารถสั่งพิมพ์ได้ทันที, เทคโนโลยี Mobile Print ที่ถูกพัฒนาโดยแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ อาทิเช่น AirPrint ของ Apple และ Mopria Print Service ของอุปกรณ์ Android เป็นต้น ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถใช้อุปกรณ์พกพา ทุกรุ่น ทุกระบบ เชื่อมต่อและสั่งพิมพ์ได้ทันทีเลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเลย

5. ขนาดพื้นที่ที่คุณต้องการติดตั้ง (ขนาด และน้ำหนักของปริ้นเตอร์)

ในการเลือกซื้อปริ้นเตอร์อย่าลืมดูขนาดของปริ้นเตอร์ด้วยนะครับว่า มันมีขนาดใหญ่แค่ไหน ? เพราะบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่เราจะวางไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้ หรือบางรุ่นมันอาจจะต้องการพื้นที่ในการติดตั้งน้อยก็จริง แต่กลับมีความสูงที่สูงกว่าปกติแทน จนทำให้เราจำเป็นต้องวางกับพื้น นอกจากนี้ในเรื่องของน้ำหนักก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่สำคัญไม่แพ้กันครับ อย่างเช่น รุ่น Brother HL-L3270CDW ที่ดูไม่ได้สูงใหญ่เลย บางคนอาจจะดูว่าเล็กด้วยซ้ำ แต่มันกลับ มีน้ำหนักมากถึง 18.5 กิโลกรัม เลยทีเดียวครับ เพราะงั้นอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ พิจารณาจากขนาด และน้ำหนักด้วย เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง และเคลื่อนย้าย


การดูแลรักษาปริ้นเตอร์เลเซอร์

  1. ควรเลือกใช้กระดาษที่เหมาะสมกับปริ้นเตอร์ของคุณ เพราะปริ้นเตอร์แต่ละรุ่นรองรับกระดาษได้ต่างกัน
  2. ไม่ควรกระดาษในแต่ละครั้งมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องปริ้นติดขัดหรือเสียหายได้
  3. ก่อนใส่กระดาษจะต้อง กรีดหรือคลี่กระดาษก่อนสัก 1-2 ครั้ง ป้องกันกระดาษติดกัน เพราะหากติดกันก็จะเพิ่มความหนาให้กระดาษอีก ส่งผลให้กระดาษติดเครื่องปริ้นได้
  4. หากต้องการพิมพ์ลงในแผ่นใส่ โปรดจงเลือกใช้แผ่นใส่สำหรับปริ้นเท่านั้น ไม่ควรใช้แบบธรรมดา เพราะแผ่นใส่แบบธรรมดานั้นไม่ทนต่อความร้อน อาจจะละลายภายในเครื่องได้
  5. การเลือกใช้หมึกก็เป็นอีกข้อที่สำคัญ ที่จะทำให้เครื่องปริ้นของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น คุณควรเลือกใช้หมึกสำหรับเครื่องปริ้นเลเซอร์เท่านั้น และควรเลือกคุณภาพของหมึกที่ได้มาตรา อย่างเช่น หมึกแท้หรือหมึกเทียบเท่า เพราะหากเลือกหมึกที่ไม่ดีมาใช้อาจทำให้หัวพิมพ์อุดตันได้
  6. หลังใช้งานเสร็จควรมีผ้าคลุมเครื่องปริ้นให้เรียบร้อย ป้องกันฝุ่นเข้าเครื่อง
  7. กรณีกระดายติดเครื่อง ไม่ควรนำของมีคมมางัดแงะในเครื่อง
  8. สำหรับผู้ที่ชอบใช้งานกระดาษ Reuse โปรดระวังลวดเย็บกระดาษเข้าไปในเครื่อง ควรจะตรวจสอบกระดาษก่อนทุกครั้งให้เรียบร้อย

การดูแลรักษาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท

  1. พยายามเปิดปิดเครื่องปริ้นด้วยตัวสวิตช์ก่อนถอดปลั๊ก เพื่อป้องกันไฟกระชากในเครื่องปริ้น อันที่จริงข้อเราสามารถนำไปใช้ได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเลยนะคะ
  2. อย่าลืม update driver ให้เป็นเว่อร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. ใช้ตลับหมึกยี่ห้อเดียวกับเครื่องปริ้น เพื่อป้องกันหัวพิมพ์อุดตัน ไม่แนะนำให้เติมหมึกเอง เพราะบางครั้งอาจจะได้หมึกที่ไม่มีคุณภาพมา ก็จะสร้างความเสียหายแก่หัวพิมพ์ได้เช่นกัน
  4. เมื่อมีการแจ้งเตือนว่าหมึกหมด ควรจะเปลี่ยนน้ำหมึกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นหมึกสัดำหรือหมึกสี หากยังใช้งานทั้งที่หมึกหมดอาจจะทำให้เครื่องปริ้นเสียหายได้
  5. อย่าลืมใช้งานเครื่องปริ้นบาง อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันหมึกแห้ง หรือหัวหมึกอุดตันได้
  6. หมั่นทำความสะอาดเครื่องปริ้นโดยการปัดหรือเป่าฝุ่นออกเป็นประจำ และอย่าลืมใช้ผ้าคลุมทุกครั้งหลังใช้งานเครื่องปริ้นเสร็จ เพื่อป้องกันฝุ่นเกาะหรือเข้าไปในเครื่อง
  7. ทำความสะอาดลูกกลิ้งที่ใช้หมุนกระดาษบ้าง โดยอาจจะใช้น้ำยาที่ทำความสะอาดเฉพาะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เครื่องปริ้นทั่วไป
Previous Post

12 กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ให้ภาพชัด ซื้อแล้วคุ้ม ปี 2023

Next Post

รีวิว ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ป้องกันรังสี UVA/UVB

Palm PN

Palm PN

I with a bachelor degree in Computer Science from Songkhla Rajabhat University. I live in Songkhla. I like to write articles about in IT products and motorcycle accessories.

Next Post
รีวิว ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดีที่สุด ประจำปี 2020

รีวิว ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ป้องกันรังสี UVA/UVB

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

ฮาร์ดดิสก์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2021
คอมพิวเตอร์

ฮาร์ดดิสก์ (Internal hard disk) ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

April 27, 2023
Bluetooth Adapter (บลูทูธ อะแดปเตอร์) ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย เชื่อมต่อไว
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

9 Bluetooth Adapter ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย เชื่อมต่อไว ปี 2023

July 11, 2023
รีวิว เมาส์ Logitech เมาส์สำหรับทำงานคุณภาพดี รุ่นไหนดีที่สุด
คอมพิวเตอร์

รีวิว เมาส์ Logitech รุ่นไหนดีที่สุด เหมาะสำหรับใช้ทำงาน ปี 2023

July 17, 2023
รีวิว คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2021
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

7 คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

April 25, 2023
รีวิว ฮาร์ดดิสก์แบบพกพา (External Hard Drive) รุ่นไหนดี ปี 2021
อิเล็กทรอนิกส์

รีวิว ฮาร์ดดิสก์แบบพกพา (External Hard Drive) รุ่นไหนดี ปี 2023

March 4, 2023
รีวิว หน้าจอคอมพิวเตอร์ (มอนิเตอร์) ราคาประหยัด ยี่ห้อไหนดีที่สุด
คอมพิวเตอร์

รีวิว หน้าจอคอมพิวเตอร์ (มอนิเตอร์) ราคาประหยัด ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

April 1, 2023
ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้

Recent Posts

  • รีวิว น้ำว่านหางจระเข้ ยี่ห้อไหน รสชาติดี ดื่มง่าย ปี 2023
  • 8 ตู้คีบตุ๊กตาจำลอง แบบไหนดี ช่วยเด็กฝึกทักษะ มีไฟและดนตรี ดีไซน์สวยน่าเล่น ปี 2023
  • 9 รองเท้าบาส ยี่ห้อไหนดี ข้อสูง ระบายอากาศได้ดี ซัพพอร์ตทั้งการวิ่งและการกระโดด ปี 2023
  • 10 มาสก์หน้าสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น ยี่ห้อไหนดี ช่วยเติมน้ำให้ผิวแบบเร่งด่วน เหมาะกับทุกสภาพผิว ปี 2023
  • 8 ที่ชาร์จในรถ USB-C Car Chargers รุ่นไหนดี ปี 2023

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ดีลดี

© 2022 Best Review Asia