ความสวยงามของริมฝีปากเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจค่ะ เพราะหากริมฝีปากที่มีสีสันสดใสจะบ่งบอกได้เลยว่าเรามีผิวพรรณที่ดีค่ะ แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างทั้งพันธุกรรม การสูบบุหรี่ ปัญหาสุขภาพ ฯลฯ อาจจะทำให้ริมฝีปากของเรามีความหมองคล้ำและแห้งกร้านได้ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้หลายคนจึงเลือกที่จะสครับริมฝีปากบ่อย ๆ หรือแก้ปัญหาด้วยการสักเพื่อให้สีของริมฝีปากคงอยู่ถาวร แต่เราขอบอกเลยว่ามีวิธีที่ง่ายกว่านั้นและไม่เจ็บตัวเลยค่ะ นั่นก็คือการใช้ “ลิปสติก”
ลิปสติกสามารถกลบความหมองคล้ำและความแห้งกร้านของริมฝีปากได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะเป็นการแก้ไขปัญหาแบบชั่วคราวแต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ ในปัจจุบันมีลิปสติกให้เราเลือกซื้อมากมายทั้งลิปกลอส, ลิปสติกเนื้อแมตต์, ลิปออยล์, ลิปทินท์ รวมไปถึงลิปมันเปลี่ยนสี ซึ่งจะมีหลาย ๆ แบรนด์ให้เราเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติก Mac, ลิปสติก L’Oreal, ลิปสติก Maybeline รวมไปถึง ลิปสติก Dior
แต่ตอนนี้เทรนด์แต่งหน้าทาปากแบบสาวเกาหลีกำลังมาแรง เราเลยอยากแนะนำ “ลิปสติก Innisfree (อินนิสฟรี)” ค่ะ ลิปสติกอินนิสฟรีได้รับความนิยมมากทั้งในไทยและเกาหลีเพราะให้เฉดสีที่เป็นธรรมชาติและสามารถใช้งานได้ง่ายค่ะ ดังนั้นตอนนี้เราไปดูกันค่ะว่าลิปสติกสีไหนจะถูกใจคุณกันบ้าง?
ลิปสติก Innisfree แบบไหน สีไหน โดนใจคุณที่สุด?
- ลิปบาล์มสูตรธรรมชาติ 100 % ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ :: Innisfree Simple Label Lip color balm ลิปบาล์ม
- ลิปลิควิดเนื้อแมตต์ ทาง่าย แค่ปาดก็สวยแล้ว: Innisfree Real fit matte liquid ลิปสติก
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ติดแน่น ทนนานตลอดทั้งวัน: Innisfree Airy Matte Tint ลิปทินท์
- ช่วยให้ริมฝีปากดูมีสวยงามมากขึ้น ด้วยสารสกัดจากไข่มุก : Innisfree Fruity Squeeze Tint ลิปทินท์
- ลิปทินท์ออยล์เฉดสีสดใส ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นและสุขภาพดี : Innisfree Vivid oil tint ลิปออยล์ทินท์
- ผสมผสานด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยให้ริมฝีปากเปล่งประกาย : Innisfree Glow Tint Lip Balm ลิปบาล์ม
ภาพรวมและจุดเด่นของแบรนด์ Innisfree (อินนิสฟรี)
“Innisfree (อินนิสฟรี)” เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 แบรนด์นี้ถือเป็นแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีรายแรกที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ดังนั้นทางแบรนด์จึงใช้ส่วนผสมหลักจากเกาะเชจูที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสูง โดยบนเกาะจะมีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดและเป็นแหล่งเพาะปลูกชาเขียวที่ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง นี่คือเหตุผลที่ Innisfree มักจะใช้ชาเขียวเป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์ของบริษัทค่ะ โดยเราจะเห็นได้จากสกินแคร์ชาเขียวเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของแบรนด์

นอกจากนี้ Innisfree ยังให้ความสำคัญกับการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาธรรมชาติ อีกทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ยังมีประสิทธิภาพและสามารถรีไซเคิลได้ ดังนั้นแบรนด์ Innisfree จึงเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนคุณค่าของธรรมชาติมาโดยตลอด ด้วยคุณสมบัตินี้ Innisfree จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนที่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติค่ะ
ประเภทของลิปสติกจาก Innisfree (อินนิสฟรี)
1. ลิปสติกแบบทั่วไป (Solid lipstick)

ลิปสติกชนิด Solid เป็นลิปสติกแบบทั่วไปค่ะ นั่นก็คือลิปสติกแบบแท่งที่มีเนื้อครีม เนื้อแมตต์ เนื้อซาติน ฯลฯ และเป็นลิปสติกที่หาซื้อได้ง่ายมากที่สุด ผู้หญิงเกือบทุกคนต้องมีลิปสติกแบบนี้เพราะใช้งานได้ง่าย เพียงแค่ทาลิปสติกจะทำให้ริมฝีปากดูมีสีสัน นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับวิธีใช้ได้ตามต้องการด้วย Solid lipstick ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Innisfree จะแบ่งออกเป็นลิปสติกและลิปบาล์ม เช่น คอลเลกชัน Real Fit, Vivid Cotton Stick และ Lip Balm หากให้พูดถึงความนิยมลิปบาล์มของแบรนด์ Innisfree ได้รับความนิยมมากที่สุดค่ะเพราะเป็นลิปบาล์มที่มีสี อีกทั้งยังบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ
2. ลิปทินท์ (Lip Tint)

ลิปทินท์เป็นลิปสติกชนิดหนึ่งที่คนเกาหลีใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เพราะลิปทินท์จะกลมกลืนกับสีริมฝีปากดั้งเดิมแม้ว่าจะไม่ได้ปกปิดเหมือนลิปสติกแบบทั่วไปแต่ก็ให้ความสวยงามได้ดี โดยลิปทินท์ส่วนใหญ่มาในรูปแบบของเหลวและใช้เพื่อสร้างสีริมฝีปากแบบไล่ระดับหรือออมเบร ในฐานะที่แบรนด์ Innisfree เป็นหนึ่งในเครื่องสำอางจากเกาหลีใต้ ทางแบรนด์จึงมีลิปทินท์หลายแบบให้เราเลือกซื้อ ซึ่งเนื้อลิปทินท์ของ Innisfree มีตั้งแต่ครีม เจลไปจนถึงน้ำมัน หนึ่งในคอลเลกชันยอดนิยมคือ Vivid Cotton Ink ซึ่งขึ้นชื่อในด้านเนื้อสัมผัสที่บางเบาและเรียบเนียน
Innisfree Real fit matte liquid ลิปสติก

ราคา 89 บาท*
ลิปสติกเนื้อแมตต์มักทำให้ริมฝีปากแห้ง โดยเฉพาะหากใช้เป็นเวลานาน แต่แม้ว่าจะเป็นลิปสติกแบบแมตต์แต่ Innisfree Real fit matte liquid ก็ได้ไม่ทำให้ริมฝีปากรู้สึกแห้งตึงแต่อย่างใด ตัวเนื้อสัมผัสจะเรียบเนียนดุจกำมะหยี่เมื่อทา อีกทั้งยังมีสารสกัดจากน้ำธรรมชาติเพื่อช่วยบำรุงริมฝีปากไปพร้อม ๆ กัน ตัวลิปเป็นแบบลิควิดทาง่ายมาก ๆ ดังนั้นสำหรับใครที่อยากได้ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ติดทนนานตลอดทั้งวันเราขอแนะนำผลิตภัณฑ์นี้เลยค่ะ
ประเภทของลิปสติก | ลิควิด |
---|---|
ปริมาณ | 3.5 กรัม |
เฉดสี | 10 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | น้ำมันธรรมชาติ |
Innisfree Glow Tint Lip Balm ลิปบาล์ม

ราคา 159 บาท*
Innisfree Glow Tint Lip Balm เป็นลิปทินท์เนื้อบาล์มที่จะช่วยให้ริมฝีปากของคุณเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ลิปทาได้ง่ายมากเพราะอยู่ในรูปแบบแท่งเพียงแค่ปาดก็เรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่อยากได้ลิปทินท์แบบโกลว์แต่ไม่อยากทาให้ยุ่งยากผลิตภัณฑ์นี้คือคำตอบเลยค่ะ ตัวลิปอุดมไปด้วยคุณค่าทางส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติจากพืชหลากหลายชนิด ให้เฉดสีที่เป็นธรรมชาติและมีเนื้อสัมผัสนุ่มเพื่อให้ลิปดูดซึมได้ง่าย ขอบอกเลยว่าเมื่อใช้แล้วริมฝีปากของคุณไม่เพียงแต่ดูสวยงามแต่ยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วย
ประเภทของลิปสติก | ทินท์ (บาล์ม) |
---|---|
ปริมาณ | 3.5 กรัม |
เฉดสี | 5 เฉดสี |
ฟินิชลุค | กึ่งโกลว์ |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | น้ำมันแมคคาเดเมีย น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ |
Innisfree Fruity Squeeze Tint ลิปทินท์

ราคา 219 บาท*
Innisfree Fruity Squeeze Tint เป็นลิปสติกที่คุณไม่ควรพลาดหากคุณต้องการให้ริมฝีปากดูสวยงามและเปล่งประกายมากขึ้น ด้วยสารสกัดจากไข่มุกและเมนทอลจะช่วยให้ริมฝีปากดูฟู อวบอิ่มและเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีปริมาณน้ำมากกว่า 30% เพื่อให้ริมฝีปากดูแวววาวเมื่อใช้ลิปสติก น้ำมันที่มีอยู่ในลิปสติกมีส่วนผสมของน้ำมันพืช 10 ชนิด เพื่อให้สีลิปติดทนนานและยังคงความชุ่มชื่นเอาไว้ได้ ตัวลิปติดทนนานมากอีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของผลไม้ทำให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้ทาค่ะ
ประเภทของลิปสติก | ทินท์ |
---|---|
ปริมาณ | 4 กรัม |
เฉดสี | 10 เฉดสี |
ฟินิชลุค | โกลว์ |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | น้ำมันเมล็ดแอปริคอท, น้ำมันเมล็ดโจโจ้บา, น้ำมันมะกอก, สวีทอัลมอนด์ออยล์และน้ำมันดอกกุหลาบ |
Innisfree Vivid Cotton Stick ลิปสติก

ราคา 222 บาท*
Innisfree Vivid Cotton Stick ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่บางเบาเป็นพิเศษ จนคุณอาจจะลืมไปเลยว่ากำลังทาลิปสติกอยู่ ด้วยเนื้อสัมผัสที่พอดีลิปสติกจึงให้ความรู้สึกเบาราวกับอากาศ แม้ว่าคุณจะทาซ้ำ ๆ ริมฝีปากของคุณจะไม่รู้สึกหนัก แต่อย่างใด เทคโนโลยีที่ทางแบรนด์ใช้เป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ทำให้ลิปสติกให้สีที่ชัดเจนและติดทนนานยิ่งขึ้นค่ะ ขอบอกเลยว่าลิปสติกคอลเลกชันนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้หลาย ๆ คน เพราะมีเฉดสีที่สวยงามมากโดยมีให้เลือกถึง 10 เฉดสี ดังนั้นหากคุณต้องการความสวยงามให้เลือกใช้เลยค่ะ
ประเภทของลิปสติก | แท่ง |
---|---|
ปริมาณ | 2 กรัม |
เฉดสี | 10 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | วิตามินอี น้ำมันมะกอกและน้ำมันอะโวคาโด |
Innisfree Vivid Cotton Ink Blur ลิปสติก

ราคา 380 บาท*
Innisfree Vivid Cotton Ink Blur ลิปสติกแบบทินท์ที่ไม่จับตัวเป็นก้อนทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ใช้งานได้สะดวก ตัวลิปมาพร้อมแปรงที่ใช้งานง่ายสามารถทาริมฝีปากได้อย่างง่ายดาย เม็ดสีของลิปมีความแน่นมากและสามารถให้ลุคที่ดูสวยงามได้ หากอยากได้สีชัด ๆ ก็ทาลงไปแบบเข้ม ๆ เลย แต่หากอยากได้ลุคแบบบางเบาให้ทาแค่ตรงกลางปากแล้วเบลนด์ออกช้า ๆ ค่ะ ด้วยลิปสติกเนื้อครีมแบบกำมะหยี่จะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งแตกด้วย
ประเภทของลิปสติก | ทินท์ |
---|---|
ปริมาณ | 4 กรัม |
เฉดสี | 8 เฉดสี |
ฟินิชลุค | ครีม |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | วิตามินอี น้ำมันมะกอกและน้ำมันอะโวคาโด |
Innisfree Simple Label Lip color balm ลิปบาล์ม

ราคา 440 บาท*
ตอนนี้คุณต้องการลิปสติกที่ทำมาจากธรรมชาติหรือไม่? หากใช่แนะนำให้ลองใช้ Innisfree Simple Label Lip Color สีลิปสติกผลิตมาจากสารสกัดหัวไชเท้าสีแดง สารสกัดจากรากมันเทศและเม็ดสีอนินทรีย์ อีกทั้งยังผ่านการรับรอง Eve Vegan เพราะในลิปใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด นอกจากนี้ลิปสติกยังไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีค่า pH ที่เป็นกลางจึงปลอดภัยสำหรับริมฝีปากที่บอบบาง เมื่อใช้งานแล้วริมฝีปากของคุณจะรู้สึกเรียบเนียนอยู่เสมอและให้ความชุ่มชื้นยาวนาน
ประเภทของลิปสติก | บาล์ม |
---|---|
ปริมาณ | 3.2 กรัม |
เฉดสี | 3 เฉดสี |
ฟินิชลุค | โกลว์ |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | เชียบัตเตอร์ มูรูมูรูบัตเตอร์และน้ำมันเมล็ดเมดโดว์โฟม |
Innisfree Airy Matte Tint ลิปทินท์

ราคา 495 บาท*
Innisfree Airy Matte Tint เป็นลิปสติกเนื้อแมตต์ ที่เฉดสีสวยมากและติดทนนานตลอดทั้งวัน ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลหากคุณมีตารางการประชุมที่ยุ่ง ตลอดทั้งวันแต่ไม่มีเวลาทาลิปสติก แม้ว่าลิปสติกจะมีเนื้อแมตต์แต่เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์บางเบาและนุ่มนวลเมื่อใช้ ตัวลิปมีส่วนผสมของเซราไมด์ช่วยให้ความชุ่มชื่น แม้ริมฝีปากที่แห้งแตกก็สามารถทาลิปแมตต์ตัวนี้ได้ค่ะ หากคุณกลัวว่าลิปสติกจะตกร่องก็หายห่วงไปเลยค่ะ เพราะสารบำรุงในลิปแมตต์แน่นมากใช้แล้วริมฝีปากสวยแน่นอน
ประเภทของลิปสติก | ทินท์ |
---|---|
ปริมาณ | 3.8 กรัม |
เฉดสี | 8 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | เซราไมด์ |
Innisfree Vivid oil tint ลิปออยล์ทินท์

ราคา 560 บาท*
หากคุณชอบลิปทินท์ที่ทำให้ริมฝีปากของคุณดูชุ่มชื่นและมีสุขภาพดี เราขอแนะนำลิป Innisfree Vivid Oild Tint ค่ะเป็นลิปทินท์เนื้อออยล์แวววาวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน 5 ชนิดที่ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื่นตลอดวัน ตัวลิปจะให้ความเปล่งประกายตามธรรมชาติ ริมฝีปากของคุณจะดูสวยงามและมีสีสันที่เด่นชัดมากเป็นพิเศษ ตัวลิปจะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งเหมาะสำหรับวันที่ต้องการแต่งหน้าแบบเบา ๆ หรือวันที่ไม่ได้แต่งหน้าเลยค่ะ ขอบอกเลยว่าเฉดสีของลิปสติกจะทำให้คุณติดใจจนต้องซื้อซ้ำอย่างแน่นอนค่ะ
ประเภทของลิปสติก | ทินท์ (ออยล์) |
---|---|
ปริมาณ | 4 กรัม |
เฉดสี | 5 เฉดสี |
ฟินิชลุค | โกลว์ |
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น | น้ำมันอาร์แกน, น้ำมันเมล็ดทานตะวัน, น้ำมันมะกอกและน้ำมันเมล็ดโจโจ้บา |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ลิปสติก Innisfree (อินนิสฟรี) รุ่นไหนใช้ดี สีสวยที่สุด ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปสติกจาก Innisfree

1. สีลิปสติกและสีผิว
- ผิวขาว สำหรับผู้ที่มีผิวขาว ลิปสติกสีนู้ดและสีอ่อนอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม นอกจากนี้สีต่าง ๆ เช่น สีส้มอ่อน สีน้ำตาล สีแดงและสีชมพูจะใช้ได้ดีกับคนที่มีผิวขาว อีกทั้งหากคุณต้องการความเปล่งประกายคุณสามารถทาลิปกลอสทับลงไปได้เพื่อเพิ่มความเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดีให้กับริมฝีปาก
- แต่คนที่มีผิวขาวควรหลีกเลี่ยงลิปสติกสีเข้ม เช่น สีแดงเข้มหรือสีม่วง เพราะสีที่เข้มเกินไปจะทำให้ภาพรวมของใบหน้าที่แปลกและดูดุขึ้นยกเว้นแต่ว่าได้ผ่านการแต่งหน้าแบบจัด ๆ มาแล้ว
- ผิวขาวเหลืองหรือผิวสีมะกอก คนเอเชียขึ้นชื่อในเรื่องของผิวสีมะกอก สีผิวแบบนี้เป็นผิวที่มีเม็ดสีเหลืองโดดเด่นแต่ก็ยังคงมีความกระจ่างใสอยู่ ผู้ที่มีโทนสีผิวนี้แนะนำให้เลือกลิปสติกสีเบอร์รี่เข้ม เชอร์รี่แดงและสีอิฐ กลุ่มเฉดสีดังกล่าวจะทำให้ผิวดูไม่ซีด หากคุณมีผิวเฉดสีนี้ควรหลีกเลี่ยงลิปสติกสีนู้ด เพราะการใช้สีนู้ดจะไปเน้นสีเหลืองบนผิวและทำให้ผิวของคุณดูหมองคล้ำ
- ผิวสีน้ำตาล/ผิวสองสี ผิวสีน้ำตาลเป็นผิวที่มีเฉดสีลิปสติกให้เลือกใช้มากที่สุด เพราะลิปสติกเกือบทุกสีเข้ากับโทนสีผิวนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีชมพูไปจนถึงสีม่วงอ่อนก็สามารถใช้งานได้ แต่หากคุณต้องการใช้ลิปสติกสีนู้ด พยายามหลีกเลี่ยงการเลือกลิปสติกสีนู้ดที่ซีดมากเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าซีดค่ะ
- ผิวคล้ำ บางคนคิดว่าผิวคล้ำจะหาสีลิปสติกที่ใช่ได้ยาก แต่อันที่จริงผิวคล้ำเป็นเฉดสีผิวที่เลือกเฉดสีลิปสติกได้ง่ายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสีแดงหรือสีแดงเข้มก็สามารถใช้งานได้เพราะมันจะให้ความรู้สึกหรูหราแก่ผิวคล้ำได้ดี ในทางกลับกันก็มีกลุ่มของสีที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้สีผิวดูเข้มขึ้น นั่นก็คือสีพาสเทล สีพาสเทลไม่เหมาะกับผิวคล้ำเลยค่ะห้ามทา อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงลิปสติกแบบมัน ๆ เพราะมันกลบสีปากได้ไม่ดีและทำให้ใบหน้าดูหม่นลง
2. ฟินิชลุค
- เนื้อครีม (Creamy) ลิปสติกเนื้อครีมจะทำให้ริมฝีปากมีประกายระยิบระยับเล็กน้อยแต่ก็ไม่มากเกินไป นอกจากนี้การทาลิปสติกเนื้อครีมจะไม่ทำให้ริมฝีปากดูแห้ง เนื้อสัมผัสทำให้ลิปสติกเนื้อครีมทาได้ง่ายมาก
- เนื้อโกลว์ (Glow) ลิปสติกแบบโกลว์จะทำให้ริมฝีปากดูเป็นประกาย ดูสุขภาพดีและชุ่มชื่นขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่มันวาวนั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ คุณจึงต้องทาซ้ำบ่อย ๆ หนึ่งในลิปสติกของ Innisfree ที่มีเนื้อโกลว์คือ Fruity Squeeze Tint ค่ะ
- เนื้อแมตต์ (Matte) ลิปสติกเนื้อแมตต์ของ Innisfree ค่อนข้างเป็นที่นิยมเพราะติดทนนานและไม่ทิ้งความแวววาวบนริมฝีปากด้วย นอกจากนี้เม็ดสีของลิปสติกเนื้อแมตต์ยังแน่นมากจึงให้เฉดสีที่สวยงาม ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ได้รับความนิยมมากคือ Innisfree Real Fit Matte Lipstick ค่ะมีให้เลือกทั้งแบบแท่งและแบบลิควิด
3. ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก
สำหรับคนที่ทาลิปสติกทุกวันมักจะประสบกับปัญหาริมฝีปากแห้ง แต่แน่นอนว่ามีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นขึ้น โดยคุณสามารถเลือกลิปสติกที่มีสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง วิตามินอี โกโก้บัตเตอร์หรือน้ำมันมะกอกเพื่อบำรุงริมฝีปากได้อย่างล้ำลึก นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกลิปสติกแบบครีม แทนที่จะเลือกแบบแมตต์เพราะลิปสติกเนื้อครีมจะให้ความชุ่มชื่นได้มากกว่า นอกจากนี้ให้หลีกเลี่ยงลิปสติกที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพราะนอกจากจะทำให้ริมฝีปากแห้งแตกแล้วยังทำให้เกิดความดำคล้ำด้วย
วิธีการทำความสะอาดลิปสติกให้สะอาดหมดจด
ในบางครั้งเราเลือกทาลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ติดทนนานเป็นพิเศษ แน่นอนว่าการทาลิปสติกแบบนี้ย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายเพราะมัน “ล้างออกยากมาก” แต่แน่นอนค่ะว่ามีหลายวิธีในการลบและจัดการกับลิปสติก ตามหลักการแล้วคุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่หาซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง Eye and Lip ค่ะเพราะมันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและขจัดออกลิปสติกออกได้อย่างหมดจด แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจจะไม่อ่อนโยนกับเราเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี้เราเลยอยากแนะนำวิธีลบคราบลิปสติกแบบไม่ทำให้ริมฝีปากเสียหายมาฝากกันค่ะ
- วิธีที่ 1 : ทาวาสลีนปิโตรเลียมเจลลี เพียงแค่ทาปิโตรเลียมเจลลีลงบนริมฝีปาก หลังจากนั้นทิ้งไว้สองนาที เมื่อครบเวลาให้ใช้ทิชชู่เปียกหรือสำลีก้อนเช็ดลิปสติกออก
- วิธีที่ 2 : ใช้น้ำมันมะพร้าว/น้ำมันมะกอก แนะนำให้ทาลงบนริมฝีปากเพื่อช่วยบำรุงและขจัดลิปสติกไปพร้อม ๆ กัน วิธีนี้เป็นวิธีธรรมชาติที่สุดและอ่อนโยนมาก แต่หลังจากทาน้ำมันมะพร้าวเสร็จแล้วให้ใช้สำลีก้อนเช็ดผลิตภัณฑ์บนริมฝีปากของคุณให้หมดจดค่ะ
- วิธีที่ 3: โลชั่น หากคุณไม่มีอุปกรณ์ล้างเครื่องสำอางเลย คุณสามารถลองใช้โลชั่นทาหน้าหรือโลชั่นบำรุงผิวกายแล้วนวดเบา ๆ ลงบนริมฝีปาก หลังจากปล่อยทิ้งไว้ 2 – 3 นาทีแล้วให้เช็ดออกด้วยสำลีก้อนค่ะ