หลังจากที่เปิดตัว iPhone 13 Pro Max ไปได้ไม่นานก็เชื่อว่าสาวกไอโฟนหลาย ๆ คนตอนนี้ก็คงได้ไอโฟนเครื่องใหม่กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องยอมรับเลยค่ะว่าการมาของไอโฟนรุ่นนี้ค่อนข้างเป็นที่ฮือฮากันเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานที่ลื่นไหลมากขึ้น ฟีเจอร์กล้องถ่ายรูปก็ปรับให้มีคุณภาพและลูกเล่นที่แตกต่างไปจากเดิม หน้าจอที่สมูทสวยงามมากขึ้น รวมไปถึงสีสันและการดีไซน์ก็ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่าไอโฟนรุ่นใหม่มาแรงเช่นนี้ก็ย่อมแลกมาด้วยราคาค่าตัว 4 หมื่นอัพ โอ้พระเจ้า! ถือว่าราคาสูงไม่ใช่เล่น ๆ เลยค่ะ ดังนั้นก็ต้องประคบประหงมกันสักเล็กน้อยเพราะถ้าหากน้องเค้าตกกระแทกพื้นขึ้นมานี้อืม…ถือว่าพระเจ้าได้ลงโทษอย่างหนักเลยทีเดียว 🙂 ในส่วนนี้เราก็ขอแนะนำว่านอกจากจะติดฟิล์มกันกระแทกแล้วนั้นก็ควรมองหาเคส iPhone 13 Pro Max คุณภาพดีสักชิ้นก็จะช่วยได้มากเลยค่ะ
เคส iPhone 13 Pro Max ยี่ห้อไหนดี ?
- เคสที่สามารถป้องกันการกระแทกได้ดีที่สุด: เคส UAG รุ่น Monarch
- เคสใสราคาประหยัด สามารถใช้งานกับ MagSafe ได้: Manis Lemon เคสโทรศัพท์แม่เหล็กไร้สาย
- เคสป้องกันทูโทนสไตล์มินิมอล: elago เคสสไตล์ทูโทน
- เคสแข็งที่สามารถพับและตั้งถึง 3 รูปแบบ : Rock Space เคสแข็งสำหรับไอโฟน13 Pro Max ฝาหลังพับได้
- เคสซิลิโคนที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ MagSafe โดยเฉพาะ: APPLE เคสซิลิโคนพร้อม MagSafe
- เคสใสลายน่ารัก ใช้งานได้นานโดยไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง: HI-SHIELD Stylish เคสใสกันกระแทก รุ่น Smiley
เคสโทรศัพท์จำเป็นหรือไม่ ?
หลาย ๆ คนเคยตั้งข้อสงสัยไหมคะว่าเคสโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะเป็น iPhone, Samsung, Xiaomi, OPPO, Huawei รวมถึงยี่ห้ออื่น ๆ จริง ๆ แล้วจำเป็นต้องใส่เคสหรือไม่ ? แล้วอีกอย่างเคสสามารถป้องกันมือถือได้จริงหรือเปล่า ? วันนี้เรามาไขคำตอบกันค่ะ
หากมองจากภาพรวมในปัจจุบันก็จะเห็นได้ชัดค่ะว่ามนุษย์เราหันมาใช้โทรศัพท์กันเพิ่มมากขึ้น แทบจะใช้งานกันทุกที่ทุกเวลาเลยทีเดียวซึ่งแน่นอนค่ะว่ายิ่งเราใช้งานโทรศัพท์มือถือบ่อยแค่ไหนก็มีโอกาสที่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้เสมอและที่ดูจะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดนั่นก็คือมือถือหล่นแตก หน้าจอร้าวจนไม่สามารถสัมผัสได้ ขอบบิ่น หรืออาจจะร้ายแรงถึงขั้นเครื่องดับเลยทีเดียวซึ่ง

ในส่วนนี้หากว่าเรามีเคสมาช่วยป้องกันไว้อีกขั้นก็จะทำให้โทรศัพท์มือถือไ้ด้รับความเสียหายน้อยลงหรือเผลอ ๆ อาจจะไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ จริง ๆ แล้วเคสมือถือไม่ใช่แค่ช่วยป้องกันตัวเครื่องอย่างเดียวเท่านะคะแต่มันยังเสริมให้โทรศัพท์ของคุณโดดเด่นน่าใช้งาน ทั้งยังช่วยให้จับใช้งานมือถือได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังช่วยป้องกันฝุ่นรวมไปถึงสิ่งสกปรกได้ดีอีกด้วยค่ะ
วิธีการเลือกซื้อเคส iPhone 13 Pro Max
1. วัสดุใช้ผลิต
วัสดุนอกจากจะมีผลต่อความสวยงามของเครื่องแล้วนั้น มันก็ยังจะมีผลต่อความรู้สึกตอนที่คุณสัมผัสใช้งาน อายุการใช้งาน การดูแลรักษา รวมไปถึงปัจจัยเรื่องอื่น ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ สรุปง่าย ๆ เลยก็คือวัสดุที่ใช้ผลิตนั้นมีผลกับการใช้งานของคุณโดยตรง ฉะนั้นแล้วเรามาพิจารณาจุดแข็งและจุดด้วยของวัสดุแต่ละประเภทกันก่อนแล้วกันนะคะ
- พลาสติก : แน่นอนค่ะว่าข้อดีของเคสพลาสติกนั่นก็คือราคาที่ถูกและมักจะมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามแปลกตา แต่ส่วนใหญ่เคสพวกนี้จะให้การป้องกันการกระแทกที่ไม่ได้ดีมาก อีกทั้งเมื่อใช้งานไปสักระยะก็จะกลายเป็นสีเหลืองหรือมีคราบมันเกาะบนของเคสนั่นเองค่ะ
- ไม้ : ในเรื่องของอายุการใช้งานก็ต้องบอกเลยค่ะว่านานพอสมควรเลยทีเดียว อีกทั้งมันยังหยิบจับใช้งานได้สะดวก แต่ถ้าลองเปรียบเทียบประสิทธิภาพในเรื่องการกันน้ำ ของเหลว หรือสารทำความสะอาดก็ถือว่าทำได้ไม่ดีนักซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไม้ที่นำมาผลิตด้วยนะคะ
- คาร์บอนไฟเบอร์ : เป็นวัสดุที่ค่อนข้างแข็งแรงและทนต่อความร้อนรวมไปถึงการกัดกร่อนสูง แต่มันก็มักจะมาพร้อมกับราคาที่สูง อีกทั้งเรื่องของสีสันและลวดลายก็ค่อนข้างจำกัดเช่นกันค่ะ
- หนัง : หนังในที่นี้จะรวมไปถึงหนังแท้และหนังเทียมค่ะ แน่นอนว่าในเรื่องของอายุการใช้งานก็ถือว่านานพอสมควร ทั้งยังให้ความรู้สึกที่หรูหราน่าสัมผัส แต่เรื่องของราคาก็นับว่าสูง แล้วอีกอย่างสีและดีไซน์ก็ไม่ค่อยมีให้เลือกมากนัก
- ซิลิโคน : ข้อดีของวัสดุประเภทนี้ก็คือน้ำหนักเบา มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้งาน เคสซิลิโคนยังยืดหยุ่นได้ดี ไม่แตกง่าย และที่สำคัญเลยคือให้การป้องกันโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกันค่ะ แต่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดก็อาจมีส่วนทำให้ประสิทธิภาพของเคสลดลงเช่นกันค่ะ

2. การป้องกันพิเศษสำหรับเลนส์กล้อง
ใน iPhone 13 Pro Max ถือว่าโมดูลกล้องมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ซึ่งนี่ก็ถือเป็นการยกระดับการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนไปอีกขั้นนึงเลยทีเดียวค่ะ แต่เลนส์พวกนี้ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายหรือรอยขีดข่วนได้เช่นกัน ฉะนั้นแล้วสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณานั่นก็คือเคสโทรศัพท์ที่คุณเลือกจะต้องมีวงแหวนหรือส่วนที่ช่วยปกป้องเลนส์สมาร์ทโฟนได้ด้วยเช่นกัน
3. ผิวสัมผัสของเคส
เคสสวย น้ำหนักเบา แต่สัมผัสแล้วลื่นมือ จับใช้งานได้ไม่สะดวกอันนี้ก็ถือว่ายังไม่ผ่านนะคะ เคสที่ดีนอกจากจะราคาดีและสวยงามแล้วนั้น มันก็ควรที่จะใช้งานได้ง่ายโดยที่ไม่ลื่นมือ ไม่ว่ามือของคุณจะเปียกหรือมัน ผิวสัมผัสก็ควรที่จะต้องให้การยึดเกาะได้ดีด้วยเช่นกัน
4. การป้องกันการกระแทก
หน้าจอแตกหรือตัวเครื่องเสียหายจากการตกกระแทกพื้นถือเป็นปัญหาที่พบได้ค่อนข้างบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมาจากมุมโทรศัพท์นั่นเองค่ะ ดังนั้นแล้วในส่วนนี้แนะนำว่าให้มองหาเคสที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการกระแทกโดยเฉพาะเพื่อให้มันช่วยซับแรงกระแทกนั่นเองค่ะ ในส่วนของเคสประเภทนี้ก็มีทั้งแบบบางและแบบหนา ซึ่งถ้าหากเป็นแบบบางก็แน่นอนค่ะว่าให้การกันกระแทกในระดับพื้นฐานไปถึงกลาง แต่ถ้าหากใครที่ต้องการป้องกันขึ้นสุดเคสก็จะดูหนาขึ้นสักเล็กน้อยนะคะ

5. รองรับ MagSafe (ชาร์จแบบไร้สาย)
Magsafe หรือการชาร์จพลังงานแบบไร้สายในไอโฟนก็มีมาตั้งแต่ไอโฟน 12 แล้วก็ยังคงต่อเนื่องมาถึงไอโฟนรุ่นล่าสุดด้วยเช่นกัน โดยตัวเคสจำเป็นที่จะต้องมีวงแหวนแม่เหล็กในตัวเพื่อที่จะสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ MagSafe อื่นๆ ได้ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ก็คือให้คุณมองหาวงแหวนที่อยู่ด้านหลังของเคสนั่นเองค่ะ
แต่ในบางครั้งแม้ไม่มีวงแหวนดังกล่าวก็ยังจะสามารถชาร์จได้ ในกรณีเช่นนี้ก็เป็นเพราะเคสของคุณบางพอจะที่จะให้แม่เหล็กยึดติดได้ แต่ต้องบอกเลยนะคะว่าในกรณีเช่นนี้การเชื่อมต่อจะค่อนข้างอ่อนมาก ๆ ดังนั้นแล้วหากคุณมีแพลนว่าต้องการใช้งาน Magsafe ด้วยแล้วละก็แนะนำให้ซื้อเคสที่ออกแบบมาโดยเฉพาะก็จะดีที่สุดค่ะ
Manis Lemon เคสโทรศัพท์แม่เหล็กไร้สาย

ราคา 69 บาท*
สำหรับใครที่กำลังมองหาเคสราคาประหยัดเพื่อใช้งานชั่วคราวก็ขอแนะนำเคสจาก Manis Lemon รุ่นนี้เลยค่ะ โดยเคสรุ่นนี้ผลิตมาจากวัสดุที่ให้ความยืดหยุ่นสูง ช่วยป้องกันการตกกระแทกพื้นได้ในระดับนึงเลยทีเดียว แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือว่าเคสรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับวงแหวนแม่เหล็กที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับ Magsafe ได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ ตัวเคสนั้นจะเป็นเคสใสที่ไม่หนาและไม่บางจนเกินไป ใส่ง่าย สัมผัสดีไม่ลื่นมือ อีกทั้งมันยังช่วยป้องกันรอยนิ้วมือที่อาจจะกวนใจใครหลายคนได้ดีอีกด้วยค่ะ สำหรับเคสอันนี้โดยรวมถือว่าคุณภาพสมราคาเลยทีเดียวค่ะ
ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- สามารถใช้งานได้เข้ากับโทรศัพท์ทุกสี
- สามารถยึดเกาะแม่เหล็กได้ดี เมื่อเทียบกับราคาที่ไม่ถึงร้อย
- ขอบรอบกล้องสูงขึ้นจึงช่วยป้องกันเลนส์เสียหายได้
ข้อควรพิจารณา
- เคสอาจจะให้ความรู้สึกที่แข็งเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้งานบางคน
สี | ใส |
---|---|
วัสดุ | ซิลิโคน |
ป้องกันการกระแทก | ✔ |
รองรับ MagSafe | ✔ |
Rock Space เคสแข็งสำหรับไอโฟน13 Pro Max ฝาหลังพับได้

ราคา 499 บาท*
สำหรับเคสจาก Rock Space รุ่นนี้ถือว่าค่อนข้างโดดเด่นในแง่ของการใช้งานที่สะดวกสบาย สุด ๆ เลยค่ะ เพราะฝาหลังรุ่นนี้นั้นสามารถพับและตั้งได้ โดยมันสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางการวางทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้ถึง 3 แบบเหมาะอย่างยิ่งค่ะสำหรับใครที่ชอบดูหนังหรือเล่นออนไลน์เพราะคุณไม่จำเป็นต้องคอยถือให้เมื่อมือนั่นเองค่ะ ดีไซน์ของรุ่นนี้ก็บอกได้เลยว่าดูเรียบง่าย ไม่เชยเลยค่ะ ส่วนในเรื่องของการกันกระแทกก็ถือว่าทำได้ดีสมราคา อีกทั้งข้อดีเรื่องอื่น ๆ ก็จะมีการใส่และถอดเคสที่ทำได้อย่างง่ายดาย ผิวสัมผัสเองก็นุ่มมือแถมยังไม่ทิ้งรอยนิ้วมือไว้กวนใจอีกด้วยค่ะ
ข้อดี
- สามารถตั้งได้
- จับใช้งานง่ายสะดวก ไม่ลื่นมือ
- เลนส์กล้องยกสูงช่วยเพิ่มการป้องกันได้เป็นอย่างดี
- ผิวสัมผัสนิ่มไม่เป็นรอย
- การใช้งานสะดวกและสามารถตั้งได้อย่างต่อเนื่องไม่มีหล่น
สี | ดำ / น้ำเงิน |
---|---|
วัสดุ | TPU และ PC |
ป้องกันการกระแทก | ✔ |
รองรับ MagSafe | ✘ |
HI-SHIELD Stylish เคสใสกันกระแทก รุ่น Smiley

ราคา 620 บาท*
HI-SHIELD คืออีกหนึ่งแบรนด์ค่ะที่มีชื่อเสียงทั้งเรื่องของฟิล์มกระจกและเคสโทรศัพท์มือถือซึ่งรุ่นนี้ก็จะเป็นเคสใสที่มาพร้อมกับลวดลายรอยยิ้มที่ดูสดใส สามารถใช้งานได้กับทุกสี โดยเคสตัวนี้ผลิตมาจากวัสดุที่ให้ความแข็งแกร่งอย่างดี ผ่านการทดสอบการกันกระแทกด้วยความสูง 2 เมตรเลยทีเดียว แถมตัวเคสก็ไม่ดูดเครื่อง ไม่กินขอบ นอกจากนี้ก็ยังมีผิวที่ไม่ลื่นทำให้จับใช้งานได้ถนัดมือไม่กลัวหล่น และที่พิเศษยิ่งกว่านั่นก็คือทางแบรนด์ได้มีการเคลือบสารชนิดพิเศษที่ช่วยป้องกันเคสเหลืองซึ่งนี่ก็ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องเสียเงินและเสียเวลาเปลี่ยนเคสบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงามไม่ซ้ำใคร
- ใช้งานได้นานโดยที่เคสเหลืองช้า
- จับถนัดมือ ไม่ลื่น
- ไม่เกิดรอยนิ้วมือหรือรอยขีดข่วนได้ง่าย
สี | ใส |
---|---|
วัสดุ | TPE, TPU และ PC |
ป้องกันการกระแทก | ✔ (ในระดับ 2 ม.) |
รองรับ MagSafe | ✔ |
OtterBox รุ่น Commuter

ราคา 690 บาท*
OtterBox คืออีกหนึ่งแบรนด์เคสยอดนิยมจากทางฝั่งอเมริกา โดยรุ่นที่เราเลือกมาในวันนี้ก็คือรุ่น Commuter สีสันสดใสรวมไปถึงในรุ่นนี้ก็ยังมีสีดำที่เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ที่ไม่ชอบสีสันด้วยเช่นกันนะคะ เคสจะเป็นแบบบาง พกพาใส่กระเป๋าได้สะดวกด้วยน้ำหนักประมาณ 53 กรัมซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียวค่ะ เคสให้การป้องกันการกระแทกถึง 2 ชั้น ทั้งช้ันที่นุ่มและแข็งซึ่งจะทำหน้าที่ด้วยซับและป้องกันแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี สามารถป้องกันได้รอบทิศทาง ทั้งยังผ่านมาตรฐานการทดสอบการกันกระแทกมาแล้วด้วยดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้เลยค่ะ นอกจากนี้ในเรื่องของแบคทีเรียเองทางแบรนด์ก็ทำได้ดีไม่น้อยเพราะมีการเลือกใช้เทคโนโลยี Antimicrobial ที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียภายนอกตัวเคสด้วยเช่นกัน
ข้อดี
- ช่วยป้องกันแบคทีเรีย
- ขอบเลนส์กล่องและขอบตัวเครื่องสูงช่วยป้องกันความเสียหายได้ดี
- เข้ากับขนาดเครื่องพอดี ไม่หลวม
- วัสดุแข็งแรงแต่ให้สัมผัสขณะใช้งานที่ยอดเยี่ยมไม่ลื่น
- ออกแบบให้จับได้ถนัดมือ
สี | ดำ / Maven Way / Rock Skip Way |
---|---|
วัสดุ | โพลรคาร์บอเนตและยางสังเคราะห์ |
ป้องกันการกระแทก | ✔ |
รองรับ MagSafe | ✔ |
Kate Spade New York รุ่น Protective Hardshell Case

ราคา 790 บาท*
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากได้เคสที่ดูดีสวยหวานไม่ซ้ำใครขอแนะนำเป็นเคสสวย ๆ จาก Kate Spade แล้วกันนะคะโดยเคสของทางแบรนด์นั้นถือได้ว่าเป็นเคสแฟชั่นที่ทันสมัยด้วยการออกแบบเป็นลวดลายดอกไม้ในแบบฉบับของ Kate Spade New York โดยเฉพาะ ตัวเคสผลิตมาจากวัสดุอย่างดี ไม่หนาหรือแข็งมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่บางมากเช่นกันค่ะ ตัวเคสสามารถกันกระแทกและรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี แถมผิวสัมผัสก็ไม่ลื่นใช้งานได้สะดวก รูปทรงของเคสเองก็บางเบาและเพรียวสวยไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอยในกระเป๋าของคุณสาว ๆ อย่างแน่นอนเลยละค่ะ
ข้อดี
- ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้งาน
- ช่วยป้องกันแบคทีเรียบนผิวของเคส
- เข้าถึงพอร์ตและตัวควบคุมต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวก
- เคสพอดีกับตัวเครื่อง ไม่หลวม แถมยังใส่ใช้งานสะดวก
สี | ลาย Hollyhock Floral |
---|---|
วัสดุ | PC และ TPU |
ป้องกันการกระแทก | ✔ (ในระดับ 3 ม.) |
รองรับ MagSafe | ✔ |
RhinoShield รุ่น SolidSuit

ราคา 810 บาท*
เคสกันกระแทกจาก RhinoShield รุ่น SolidSuit นี้ถือว่าออกแบบมาได้ในดีไซน์ที่เรียบหรูดูแพงสุด ๆ ทั้งยังมีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่บางเฉียบแต่กลับให้การป้องกันขั้นสุดด้วยการผสมผสานด้วยเทคโนโลยี ShockSpread ไว้ในชิ้นเดียว ตัวเคสสามารถยืดหยุ่นได้ดีมาก ๆ จึงไม่ทำให้ตัวขอบเครื่องเกิดรอยขีดข่วนไม่ว่าจะเป็นการใส่หรือถอดเคสก็ตาม นอกจากนี้เคสยังออกแบบมาให้กระชับและพอดีกับตัวเครื่องเป๊ะ ๆ จึงให้การป้องกันการกระแทกที่ตรงจุดโดยที่โทรศัพท์ไม่มีกระเด็นออกจากเคสอย่างแน่นอนค่ะ ขอบของเครื่องและขอบของเลนส์จะออกแบบให้ยกสูงเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้หน้าจอและเลนส์กระแทกเข้ากับพื้นนั่นเองค่ะ นอกจากนี้มันก็ยังมาพร้อมกับปุ่มที่สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบอีกด้วยนะคะ
ข้อดี
- เคสมีขนาดที่ไม่ใหญ่จนดูเทอะทะมากจนเกินไป
- น้ำหนักเบา
- สัมผัสดี ไม่เหนียวมือ ไม่มัน
- ขนาดกระชับทำให้จับถนัดมือ
- วัสดุมีความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- วัสดุค่อนข้างเฟิร์มทำให้ใส่ได้ยากเล็กน้อย
สี | ดำ / ชมพู |
---|---|
วัสดุ | Polycarbonate และ Polymer |
ป้องกันการกระแทก | ✔ (ในระดับ 3.5 ม.) |
รองรับ MagSafe | ✔ |
JTLegend เคสใส Hybrid Cushion DX Case-Crystal

ราคา 990 บาท*
JTLegend เคสใสสำหรับกันกระแทกในเลเวลที่ไม่สูงมากเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเคสที่ช่วยป้องกันในระดับเริ่มต้นได้ดี แถมยังมาในราคาที่ไม่สูงมากเกินไปอีกด้วยค่ะ เคสรุ่นนี้จะเป็นเคสใสบาง ขอบข้างจะหนามาพร้อมกับเทคโนโลยี ยี Air Aeroseal ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีและที่พิเศษยิ่งกว่านั่นก็คือที่มุมแต่ละมุมนั้นมี Aphla GEL ซึ่งจะเป็นตัวที่ช่วยซับแรงกระแทกป้องกันไม่ให้เครื่องเสียหายหรือหน้าจอแตกนั่นเองค่ะ ขอบกล้องและขอบรอบตัวเครื่องเองก็ปรับให้สูงขึ้น และตัวกรอบเลนส์กล้องเองก็สามารถถอดเปลี่ยนสีได้ตามต้องการอีกด้วยค่ะ และนอกจากนี้ตัวเคสก็ยังเคลือบสาร Anti-Bacterial ซึ่งจะช่วยลดและยับยั้งการสะสมของเชื้อโรครวมไปถึงแบคทีเรียด้วยเช่นกันค่ะ
ข้อดี
- ออกแบบพิเศษปุ่มกดกดง่ายและไม่มีส่วนบดบังลำโพงของตัวเครื่อง
- ช่วยป้องกันแบคทีเรียได้ดี
- เคสบางเบา ไม่หนา แต่ให้การป้องกันในระดับเริ่มต้นได้ดี
- เคสใสสามารถใช้งานได้กับทุกสี
- กรอบเลนส์กล้องเปลี่ยนได้หลายสี
ข้อควรพิจารณา
- การป้องกันการกระแทกจัดว่าอยู่ในระยะเริ่มต้น (2 ม.) หากว่าเป็นการตกกระแทกแรง ๆ ก็มีโอกาสที่เครื่องจะเกิดความเสียหายได้ค่ะ
สี | ใส |
---|---|
วัสดุ | PC และ TPU |
ป้องกันการกระแทก | ✔ (ในระดับ 2 ม.) |
รองรับ MagSafe | ✘ |
elago เคสสไตล์ทูโทน

ราคา 1,290 บาท*
elago คือเคสสไตล์ทูโทนที่มาพร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อนจึงตอบโจทย์การใช้งานของสายมินิมอลและทุก ๆ คนได้เป็นอย่างดี โดยดีไซน์ด้านหลังจะเป็นการจับคู่สีมาผสมผสานกันอย่างลงตัวทำใหม่ไม่ดูฉูดฉาดมากจนเกินไปค่ะ ในส่วนของขอบก็ออกแบบมาค่อนข้างหนาจึงช่วยดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ตัวเคสให้สัมผัสที่เนียนเรียบและนุ่มสบายมือแต่กลับแข็งแรงไม่ลื่นและไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายค่ะ ขอบกล้องยกสูงจึงช่วยป้องกันเลนส์กล้องได้เป็นอย่างดี บอกได้คำเดียวว่าไม่ใช่แค่สวยงามดูดีเท่านั้นนะคะแต่แบรนด์นี้ยังมาพร้อมกับคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบหรูเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ
- มีหลากหลายสีให้เลือกใช้งาน
- สีไม่ดูฉูดฉาดทำให้เข้ากับตัวเครื่องทุกสี
- สีสวยและตรงตามรูปที่โฆษณา
- ขนาดพอดีช่วยให้จับกระชับมือ
ข้อควรพิจารณา
- สำหรับสีขุ่นอาจจะเปื้อนได้ง่ายกว่าสีอื่น ๆ
สี | ดำ-เทา / ดำ-เขียว / เขียว-เทา / เทา-ฟ้าอ่อน / โรสโกลด์-สีขุ่น / ม่วง-สีขุ่น / ชมพู-สีขุ่น / ฟ้าอ่อน-สีขุ่น |
---|---|
วัสดุ | ซิลิโคนและเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน |
ป้องกันการกระแทก | ✔ |
รองรับ MagSafe | ✘ |
APPLE เคสซิลิโคนพร้อม MagSafe

ราคา 1,790 บาท*
สำหรับเคสนี้ก็จะเป็นเคสที่ออกแบบโดยทาง Apple เลยนะคะ ผลิตมาจากซิลิโคนคุณภาพดีให้สัมผัสที่เนียนเรียบและนุ่ม แต่ก็ไม่ทำให้ลื่นหลุดมืออย่างแน่นอนค่ะ โดยเนื้อซิลิโคนจะค่อนข้างที่จะยึดเกาะกับผิวเราได้ดีไม่ว่ามือของคุณจะชุ่มเหงื่อหรือเต็มไปด้วยความมันเองก็ตาม ซับในของตัวเคสผลิตจากไมโครไฟเบอร์ที่อ่อนนุ่มจึงช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดช่วนในตัวเครื่องได้ดีอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ในเคสรุ่นนี้ถึงแม้จะไม่ได้มีสัญลักษณ์วงแหวนแม่เหล็กสำหรับชาร์จแบบไร้สายแต่ก็ได้มีการติดตั้งแม่เหล็กเข้าไปในตัวทำให้มันสามารถใช้งาน MagSafe ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่เคสของคุณยังคงดูเรียบเนียนสวยงามเช่นเดิมนั่นเองค่ะ
ข้อดี
- น้ำหนักเบาใช้งานสะดวก
- สัมผัสเยี่ยมไม่ลื่นมือ
- รองรับ MagSafe ได้อย่างดี
- คุณภาพดีสมราคา
- ซับด้านในอ่อนนุ่มไม่เป็นอันตรายต่อตัวเครื่อง
สี | แดง |
---|---|
วัสดุ | ซิลิโคน |
ป้องกันการกระแทก | ✔ |
รองรับ MagSafe | ✔ |
เคส UAG รุ่น Monarch

ราคา 1,832 บาท*
UAG คืออีกหนึ่งเคสค่ะที่ได้รับการขนานนามว่าแข็งแกร่งสุด ๆ เหมาะอย่างยิ่งค่ะทำสำหรับคนที่ชอบทำตกบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ เคส UAG เป็นแบรนด์ดังจากฝั่งอมเริกาที่เลือกใช้วัสดุในการผลิตคุณภาพระดับพรีเมียมที่มาพร้อมกับการป้องกันถึง 5 ชั้น อีกทั้งยังมีการป้องกันการกระแทกแบบรอบทิศทางแบบ 360 องศาอีกด้วยค่ะ ความพิเศษไม่ได้อยู่แค่นี้นะคะแต่เคสทุกรุ่นของทางแบรนด์ยังต้องผ่านมาตรฐานการตกกระแทกทางทางการทหารมาก่อนซึ่งในรุ่นนี้ก็ผ่านการทดสอบในระดับ 6 ม.มาถึง 52 ครั้งเลยทีเดียวค่ะ ในส่วนของดีไซน์ก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะรุ่นนี้ทั้งดูเท่และดูดุดันเหมาะสำหรับการใช้งานของหนุ่ม ๆ รวมไปถึงสาว ๆ มาดเท่เป็นที่สุด
ข้อดี
- น้ำหนักเบา
- ขนาดค่อนข้างที่จะกระชับมือไม่ลื่น
- แข็งแรงป้องกันการกระแทกได้ดี
- มีประกันให้นานถึง 10 ปี
- ปุ่มต่าง ๆ กดง่าย ทั้งยังมีขนาดที่ใหญ่ไม่ติดหัวสายชาร์จ
- สีไม่ลอกหากว่าใช้งานไปนาน ๆ
- อายุการใช้งานค่อนข้างนาน
- ออกแบบให้ช่วยป้องกันความเสียหายตรงบริเวณเลนส์กล้องอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
- ดีไซน์ของรุ่นนี้อาจไม่เหมาะสำหรับสาวหวาน
สี | แดง |
---|---|
วัสดุ | หนัง, ยาง, โพลีคาร์บอเนต และเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน |
ป้องกันการกระแทก | ✔ (ในระดับ 6 ม.) |
รองรับ MagSafe | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เคส iPhone 13 Pro Max ยี่ห้อไหนดี ดีไซน์สวย กันกระแทกได้ดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
เคสเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเกิดจากสาเหตุอะไร ?
หลายต่อหลายคนน่าจะเคยเจอปัญหาเคสใสจากที่เคยดูแวววาวสวยงามแต่พอเริ่มใช้งานไปสักระยะก็จะเริ่มขุ่นและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทำให้โทรศัพท์มือถือของคุณดูเก่า มิหนำซ้ำยังดูสกปรกอีกต่างหาก สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเคสส่วนใหญ่นั้นผลิตมาจากซิลิโคนจำพวกพอลิเมอร์ เนื่องจากวัสดุประเภทนี้มีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นได้ดี ทั้งยังมีราคที่ถูกมาก ๆ อีกด้วยแต่เมื่อใช้งานไปสักพักเคสเหล่านี้ก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก็เพราะว่าได้รับความร้อน แสง สารเคมีที่บ่อยและมากเกินไปนั่นเองค่ะ แต่ก็ไม่ต้องตกอกตกใจไปนะคะเพราะถึงอย่างไรดีมันพอมีวิธีการแก้ไขปัญหานี้อยู่ค่ะ
1. ทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน

ผสมน้ำอุ่นหนึ่งถ้วยกับน้ำยาล้างจานประมาณ 2 – 3 หยด จากนั้นผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็ใช้แปรงสีฟันค่อย ๆ นำมาขัดทำความสะอาดให้ทั่ว แนะนำว่าให้ขัดในซอกมุมด้านในตัวเคสด้วยนะคะ จากนั้นก็ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ สำหรับวิธีการนี้แนะนำให้ทำเป็นประจำทุก ๆ สัปดาห์เพื่อช่วยขจัดคราบมัน สิ่งสกปรก และสารเคมีที่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เคสของคุณเสื่อมสภาพเร็วขึ้นนั่นเองค่ะ
2. ขัดด้วยเบกกิ้งโซดา
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่าเบกกิ้งโซดานั้นมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านของการขจัดคราบสกปรกบนผ้า พื้นผิวต่าง ๆ ไม่เว้นแต่เคสโทรศัพท์มือถือก็เช่นกันค่ะ วิธีการง่าย ๆ ก็คือให้นำผงเบกกิ้งโซดาโรยลงไปบนเคสจากนั้นให้นำแปรงสีฟันไปชุบน้ำให้เปียกแล้วนำมาขัดทำความสะอาด จากนั้นก็ล้างเบกกิ้งโซดาออกแล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง

3. เช็ดด้วยแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์นอกจากจะมีส่วนช่วยฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียบนเคสได้แล้ว มันก็ยังสามารถช่วยลดคราบเหลืองได้ดีด้วยค่ะ โดยในขั้นตอนนี้แนะนำให้ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ค่อย ๆ ฉีดและเช็ดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกตัวเคส แต่ถ้าหากใครไม่มีสเปรย์แอลกอฮอล์ก็สามารถใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์นำมาเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยเช่นกันค่ะ
บทสรุป
สำหรับเคสที่เราเลือกมาให้ในวันนี้ก็เป็นเคสที่ออกแบบมาเพื่อ iPhone 13 Pro Max โดยเฉพาะนะคะซึ่งไอโฟนรุ่นนี้นับว่ามีขนาดและดีไซน์ที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ดังนั้นการที่จะหาเคสคุณภาพดีสักชิ้นก็ควรเลือกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเท่านั้นค่ะ เอาเป็นว่านอกจากเคส iPhone 13 Pro Max ที่เราได้หยิบมารีวิวในวันนี้แล้วนั้นทางเว็บไซต์ของเราเองก็ยังได้ทำการรีวิว เคสมือถือ iPhone รุ่นต่าง ๆ ไว้ด้วยเช่นกันค่ะ รวมไปถึงก่อนหน้านี้ก็ได้เคยรีวิวเคสแบตสำรอง iPhone, เคส iPad Air , เคส Macbook และเคส AirPod ไว้ด้วยเช่นกัน เอาเป็นว่าใครที่เป็นสาวกของ Apple หากสนใจก็ลองไปอ่านเข้าไปดูได้ตามลิงค์ที่เราได้ให้ไว้นะคะ