นอกจากการแต่งหน้าจะมีความสำคัญแล้ว การล้างเครื่องสำอางก็มีความสำคัญมากเช่นกันค่ะ นั่นเป็นเพราะว่าเครื่องสำอางหลายชนิดอย่างรองพื้น, แป้งผสมรองพื้น, แป้งฝุ่นหรือคอนซีลเลอร์สามารถอุดตันที่ผิวและรูขุมขนได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ แม้ในท้องตลาดจะมีผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นคลีนซิ่งมิลค์, คลีนซิ่งบาล์มรวมไปถึงไมเซล่า แต่ขอบอกเลยว่า “คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil)” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ควรค่าแก่การใช้มากที่สุด เพราะใช้งานง่ายและสามารถล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ดีอีกด้วย เมื่อพูดถึงคลีนซิ่งออยล์เราขอบอกเลยว่า “คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น” ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นน่าสนใจมากเช่นกัน เพราะเป็นการใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติและปราศจากสารอันตรายค่ะ
คลีนซิ่งออยล์หรือที่เรียกกันว่าน้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางแบบน้ำมันเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่จำเป็นสำหรับการขจัดเครื่องสำอางที่ติดแน่น เช่น รองพื้นกันน้ำ มาสคาร่าแบบกันน้ำและลิปสติกที่ติดทนนาน คลีนซิ่งออยล์เป็นผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่ใช้กันทั่วไปในหมู่สาว ๆ ชาวญี่ปุ่นและคุณสามารถหาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ในราคาที่หลากหลาย คลีนซิ่งออยล์มีความสามารถในการทำความสะอาดที่ดีเยี่ยม เพราะบางครั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวบางตัวอาจทำให้ผิวแห้งกร้านหรือทำให้รูขุมขนอุดตันได้ แต่คลีนซิ่งออยล์ของญี่ปุ่นจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงผิวไปในตัว ดังนั้นผลิตภัณฑ์นี้จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้าทุกคนค่ะ
แต่แน่นอนว่าการเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่เหมาะกับผิวของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจึงอยากจะ “แนะนำคลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่นที่มียอดขายสูงสุด” ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดสูงและให้ผลการดูแลผิวที่ดีเยี่ยมในคราวเดียว หากคุณซื้อผลิตภัณฑ์ที่เราแนะนำ เราขอรับรองเลยว่าคุณจะสามารถขจัดเมคอัพที่ล้างออกยากได้อย่างง่ายดายโดยไม่ทำให้ระคายเคืองผิว อีกทั้งยังทำให้ผิวที่เรียบเนียนและชุ่มชื้นอีกด้วย
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่นตัวไหนดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด?
ประวัติความเป็นมาของคลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น
แนวคิดในการทำความสะอาดผิวในวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นมีมานานแล้วค่ะ การดูแลผิวของชาวญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การทำความสะอาดผิวไปวัน ๆ แต่มันเป็นวิถีชีวิตและพิธีกรรมที่มีมานานหลายศตวรรษ ใครที่เคยไปญี่ปุ่นจะรู้จักโรงอาบน้ำออนเซ็นที่มีชื่อเสียงซึ่งมีอยู่ทุกเมือง เชื่อกันว่าการอาบน้ำด้วยออนเซ็นจะช่วยบำบัดผิวพรรณได้เป็นอย่างดี
เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในญี่ปุ่นเทคนิค “การล้างหน้าแบบ 2 ครั้ง (Double Cleansing)” ได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ค่ะ ซึ่งการล้างหน้าแบบ 2 ครั้งก็มีต้นกำเนิดมาจากเกอิชา ย้อนกลับไปในสมัยญี่ปุ่นไม่มีไฟฟ้าใช้เลยแต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเกอิชาในเกียวโตจะทาใบหน้าด้วยแป้งสีขาวงาช้างใต้แสงเทียนเพื่อให้ใบหน้าดูสวยงามยิ่งขึ้น ส่วนในการลบและจัดการกับใบหน้าสีขาวงาช้างที่เป็นชั้นหนานี้ เกอิชาจำเป็นต้องใช้น้ำมันที่ปลอบประโลมและทำให้ใบหน้าสีอ่อนลงเพื่อคลายสีออกก่อนที่จะสามารถล้างหน้าออกได้ตามปกติ
และแน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่เกอิชาเท่านั้นที่ใช้วิธีนี้เพราะคลีนซิ่งออยล์เหมาะมากสำหรับคนที่แต่งหน้าเป็นประจำทุกคน คลีนซิ่งออยล์ไม่เพียงเป็นน้ำยาล้างเครื่องสำอางที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนเสริมที่ดีในการดูแลผิวเป็นประจำอีกด้วย หลายคนอาจจะบอกว่าคลีนซิ่งออยล์ไม่เหมาะสำหรับผิวมัน แต่อันที่จริงแล้วคลีนซิ่งออยล์นั้นยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวเป็นสิวได้ง่ายมาก เพราะเนื่องจากเป็นน้ำมันเป็นแบบไลโปฟิลิก ซึ่งหมายความว่าคลีนซิ่งออยล์จะช่วยละลายน้ำมันอื่น ๆ โดยไม่ทำให้ผิวแห้งและไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม อีกทั้งคลีนซิ่งออยล์ยังเหมาะสำหรับทั้งผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายอีกด้วย

วิธีเลือกซื้อคลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น
1. ประเภทของน้ำมันในคลีนซิ่งออยล์
คลีนซิ่งออยล์มักจะประกอบด้วยน้ำมันแร่ เอสเทอร์ น้ำมันและไขมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ (โดยปกติมาจากพืช) หรือทั้งสามอย่างรวมกัน คุณสมบัติหลักของคลีนซิ่งออยล์ถูกกำหนดไว้ในน้ำมันตัวแรกในรายการส่วนผสม นั่นหมายความว่าส่วนผสมแรกที่อยู่ในรายการจะเป็นน้ำมันที่มีปริมาณมากที่สุด
1.1 น้ำมันแร่ (Miniral Oil)
น้ำมันแร่เป็นน้ำมันที่มีความมันมากที่สุด ดังนั้นในฐานะที่เป็นน้ำยาทำความสะอาดผิว พวกเขามักจะทิ้งคราบเครื่องสำอางไว้เพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่มีเลย หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์กันน้ำเป็นประจำ น้ำยาทำความสะอาดที่มีน้ำมันแร่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณค่ะ แต่น้ำมันแร่มักจะมีส่วนผสมของน้ำหอมจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หากคุณอยากรู้ว่าคลีนซิ่งตัวไหนมีน้ำมันแร่เป็นส่วนผสมให้ดูรายละเอียดของส่วนผสมค่ะ
1.2 เอสเทอร์ (Esters)
เอสเทอร์ไม่แรงเท่าน้ำมันแร่แต่ก็ยังเป็นน้ำยาทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ พวกมันไม่เกิดการออกซิไดซ์และสามารถเกาะติดกับผิวของคุณได้ดี มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้เอสเทอร์อยู่ไม่กี่ชนิดที่ไม่ต้องทำความสะอาดซ้ำซ้อน นั่นคือคุณไม่จำเป็นต้องล้างหน้าหลายครั้งซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้ แต่เอสเทอร์ก็สามารถขจัดน้ำมันตามธรรมชาติบนใบหน้าของคุณได้ แม้ว่าจะไม่ได้มากเท่าที่น้ำยาทำความสะอาดแบบน้ำมันแร่ทำค่ะ
1.3 น้ำมันและไขมันธรรมชาติ
น้ำมันและไขมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้นได้มาจากพืชและสัตว์ เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันม้า ไขมันเหล่านี้มีโครงสร้างคล้ายกับซีบัมของมนุษย์ จึงกลมกลืนกับผิวได้ดี ผลิตภัณฑ์แบบนี้มักจะมีราคาที่แพงกว่า แต่น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของไขมันหรือน้ำมันเป็นส่วนผสมที่อ่อนโยนที่สุด ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
2. ระวังส่วนผสมที่เป็นอันตราย
หนึ่งในสาเหตุหลักของผิวที่มีอาการแพ้คือมีเกราะป้องกันที่อ่อนแอ หากคุณเป็นคนที่มีผิวที่แพ้ง่ายให้เลือกคลีนซิ่งออยล์ที่ปราศจากสารเติมแต่ง เช่น แอลกอฮอล์ (เอทานอล), น้ำหอม/น้ำหอมสังเคราะห์, พาราเบนและสีย้อมสังเคราะห์ เพราะสารเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่คุณจะต้องตรวจสอบเฉพาะว่าคลีนซิ่งออยล์ที่คุณซื้อมีส่วนผสมเหล่านี้หรือไม่ หากคลีนซิ่งออยล์ของคุณปราศจากส่วนผสมดังกล่าวหมายความว่าอ่อนโยนและปลอดภัยกับผิวค่ะ (1)

3. คลีนซิ่งออยล์แบบเปียก VS แบบแห้ง
โดยทั่วไปแล้วคลีนซิ่งออยล์จะสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อผสมกับน้ำ หากคุณต้องการลบและจัดการกับเครื่องสำอางทั้งหมดขณะอาบน้ำ ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าสามารถทำความสะอาดแบบเปียกได้ สิ่งเดียวที่ต้องจำไว้คือเมื่อคุณใช้คลีนซิ่งออยล์แบบแห้งด้วยมือที่เปียก มันจะกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะผสมส่วนอย่างน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้ผล เราขอแนะนำให้ใช้คลีนซิ่งออยล์แบบแห้งในวันที่มีการแต่งหน้าหนัก ๆ ค่ะ ส่วนคลีนซิ่งออยล์แบบเปียกนั้นสามารถใช้ได้ทุกวันตามความต้องการค่ะ
4. ใช้กับการต่อขนตาได้
สุดท้ายตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลีนซิ่งออยล์ที่คุณซื้อปลอดภัยสำหรับการต่อขนตา การต่อขนตาคือการใช้ขนตาปลอมติดกับติดกับขนตาธรรมชาติของคุณ คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันแร่สามารถทำให้กาวติดขนตาปลอมที่ใช้ในระหว่างการต่อขนต่ออ่อนแอลงได้ อย่างไรก็ตามมีตัวเลือกของคลีนซิ่งออยล์มากมายให้คุณเลือก ดังนั้นควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ให้เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด คุณคงไม่อยากที่จะให้ขนตาที่ทำมาแพง ๆ ต้องพังลงด้วยการล้างหน้าอย่างแน่นอนค่ะ
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น Kose Softymo White Cleansing Oil

ราคา 137 บาท*
ข้อดี
- ลบเมคอัพได้อย่างหมดจดโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมาก แม้แต่ครีมกันแดดและบีบีครีมก็ทำความสะอาดได้
- บรรจุภัณฑ์แข็งแรง ขวดใสมาพร้อมหัวปั๊มและมีรีฟิลให้เติมด้วย
- มีกลิ่นหอมของซิตรัสที่ไม่ระคายเคืองผิวและช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
ข้อควรพิจารณา
- ลบมาสคาร่ากันน้ำได้แต่ต้องลบหลาย ๆ ครั้ง
ปริมาณ | 60 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันออร์แกนิก |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น Kurashirizumu Cleansing Oil

ราคา 179 บาท*
ข้อดี
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวไปพร้อม ๆ กับการทำความสะอาดเครื่องสำอาง
- หอมกลิ่นของผลไม้ทำให้สดชื่นทุกครั้งที่ได้ใช้งาน
- ส่วนผสมทั้งหมดมาจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวมันมากนัก
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันมะกอก น้ำมันอาร์แกนและสควาเลน |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น MUJI Mild Cleansing Oil Pump

ราคา 290 บาท*
ข้อดี
- สามารถลบเครื่องสำอางได้ดีและผิวไม่แห้งตึงหลังจากใช้
- บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์มีความสวยงาม สะดวกและถูกสุขอนามัย
- ใช้ส่วนผสมที่ไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อผิว
ข้อควรพิจารณา
- กลิ่นของน้ำมันค่อนข้างฉุนหลายคนอาจไม่ชอบ
ปริมาณ | ปริมาณ |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันมะกอกและน้ำมันโจโจ้บา |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์ทำความสะอาดเมคอัพ Biore Makeup Remover Cleansing Oil

ราคา 345 บาท*
ข้อดี
- สามารถขจัดรองพื้นแต่งหน้าแบบบางเบา ครีมกันแดดหรือสิ่งสกปรกบนผิวได้
- เนื้อบางเบา ไม่อุดตันผิวและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
- ให้ความคุ้มค่าสูงและใช้งานได้เป็นประจำทุกวัน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่อ่อนโยนต่อดวงตาเพราะจะแสบตาเล็กน้อยเมื่อใช้
ปริมาณ | 230 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันธรรมชาติ |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์ SENKA All Clear Oil

ราคา 380 บาท*
ข้อดี
- สามารถขจัดรองพื้นแต่งหน้าแบบบางเบาออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังจากการใช้งาน
- ใช้กับการต่อขนตาได้อย่างสะดวกและไม่ทำให้ขนตาได้รับความเสียหาย
ข้อควรพิจารณา
- สามารถลบมาสคาร่าและอายไลเนอร์แบบกันน้ำได้แต่ต้องถูหลายครั้ง
ปริมาณ | 230 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไฮยาลูโรนิกและรังไหมสีขาว |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Cleansing Oil

ราคา 399 บาท*
ข้อดี
- ไม่มีกลิ่นของน้ำมัน ทำให้ใช้งานได้ง่ายมากเลยทีเดียว
- ช่วยบำรุงผิวไปในตัวและให้ความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- คลีนซิ่งออยล์จะเปลี่ยนน้ำมันเป็นน้ำนมเมื่อเรานวดเข้าสู่ผิว
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณ
ปริมาณ | 200 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันโจโจ้บาและ Super Hyaluronic Acid |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น DHC Deep Cleansing Oil

ราคา 799 บาท*
ข้อดี
- ทำความสะอาดเมคอัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่แสบตาและอ่อนโยนต่อผิวมากเป็นพิเศษ
- ราคาสมเหตุสมผลกับปริมาณและใช้งานได้นานมาก
ข้อควรพิจารณา
- ค่อนข้างเหนียวเหนอะหนะเล็กน้อย
ปริมาณ | 200 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันมะกอกออร์แกนิก |
เหมาะกับสภาพผิว | ผิวธรรมดา |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น Fancl Mild Cleansing Oil

ราคา 799 บาท*
ข้อดี
- ล้างและทำความสะอาดเมคอัพพร้อมให้การบำรุงไปพร้อม ๆ กัน
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างล้ำลึกมาก ไม่ทำให้แห้งตึงหลังใช้
- เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ลบมาสคาร่าและอายไลเนอร์ได้ไม่หมดในคราวเดียว
ปริมาณ | 120 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันธรรมชาติ |
เหมาะกับสภาพผิว | ผิวแพ้ง่าย |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์ทำความสะอาดผิวหน้า THREE Cleansing Oil

ราคา 1,549 บาท*
ข้อดี
- กลิ่นหอมละมุนมาก ทำให้รู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ใช้
- ขจัดเครื่องสำอางได้ดีและมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง
- ไม่ระคายเคืองผิว ไม่อุดตันและไม่ทำให้เกิดสิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 185 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ผิวแพ้ง่าย |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น Shu Uemura Cleansing Oil

ราคา 1,900 บาท*
ข้อดี
- ทำความสะอาดเมคอัพได้อย่างหมดจดโดยไม่ทิ้งคราบมันเอาไว้
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีมาก ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
- ใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติทั้งหมดจึงไม่ระคายเคืองผิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 150 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันพฤกษศาสตร์ 8 ชนิด |
เหมาะกับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ | ✔ |
ปราศจากสารอันตราย | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
คลีนซิ่งออยล์ทำความสะอาดเมคอัพ Biore Makeup Remover Cleansing Oil |
| |||
| ||||
คลีนซิ่งออยล์แบรนด์ญี่ปุ่น Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Cleansing Oil |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
|
เราควรใช้คลีนซิ่งออยล์บ่อยแค่ไหน?
คุณสามารถใช้คลีนซิ่งออยล์ได้ทุกวันเพราะคลีนซิ่งออยล์มีความอ่อนโยนมากพอที่จะใช้งาน อย่างไรก็ตามหากคุณถูกกดดันด้วยเวลา อย่างน้อยก็ควรใช้คลีนซิ่งออยล์เมื่อแต่งหน้าเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าได้ขจัดสิ่งสกปรกออกจากใบหน้าทั้งหมดได้อย่างหมดจด แต่หากคุณมีเวลาเหลือเฟือกับการปฏิบัติกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ การใช้คลีนซิ่งออยล์บนผิวหน้าทุกวันจะช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่าใบหน้าของคุณจะปราศจากความมันและสิ่งสกปรก

วิธีใช้คลีนซิ่งออยล์ตามฉบับสาวญี่ปุ่น
ในการใช้คลีนซิ่งออยล์ต้องจำไว้ว่า การใช้คลีนซิ่งออยล์ควรเป็นขั้นตอนแรกของกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ แต่การใช้อย่างถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันค่ะ ในวันนี้เราเลยนำวิธีการใช้คลีนซิ่งออยล์ตามฉบับของสาวญี่ปุ่นมาฝากทุกคนกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
- ขั้นตอนที่ 1 : เริ่มต้นการใช้คลีนซิ่งออยล์ด้วยใบหน้าที่แห้งและมือที่แห้ง แล้วปั๊มน้ำมันทำความสะอาดของญี่ปุ่นที่คุณเลือก แนะนำให้ใช้ 2 – 3 ปั๊มลงบนฝ่ามือ
- ขั้นตอนที่ 2 : ค่อย ๆ ทาน้ำมันให้ทั่วใบหน้าที่แห้ง (บางยี่ห้อสามารถใช้กับใบหน้าที่เปียกได้ ดังนั้นแนะนำให้อ่านฉลากค่ะ)
- ขั้นตอนที่ 3 : เริ่มนวดน้ำมันเข้าสู่ผิวอย่างช้า ๆ จากใบหน้า โดยค่อยๆ นวดไปที่ขอบด้านนอกของใบหน้าเป็นวงกลม

- ขั้นตอนที่ 4 : ใช้นิ้วชี้ขึ้นลูบบนหน้าผาก แก้มและทุกส่วนของใบหน้าแบบเบา ๆ ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาดสิ่งตกค้างของเครื่องสำอางบนหน้าผากและไรผมจนหมดจด
- ขั้นตอนที่ 5 : ค่อย ๆ วนนิ้วมือเป็นวงกลมรอบ ๆ ริมฝีปาก จมูก คางและลำคอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกจากรอยแยกระหว่างใบหน้าและลำคอจนหมดจด
- ขั้นตอนที่ 6 : สุดท้ายคือลบเครื่องสำอางออกจากดวงตา ใช้ปลายนิ้วกดเบา ๆ จากคิ้ว เหนือเปลือกตาและผ่านไปยังผิวหนังใต้เบ้าตา ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามือของคุณมีน้ำมันมากพอที่จะล้างเครื่องสำอางและค่อย ๆ เลื่อนปลายนิ้วลงแทนที่จะปัดออก ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาในการทำความสะอาดนานขึ้นหากทามาสคาร่าแบบกันน้ำ
- ขั้นตอนที่ 7 : เมื่อคุณนวดน้ำมันเข้าสู่ผิวแล้ว ให้ล้างมือและล้างน้ำมันออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นและค่อย ๆ ซับให้แห้ง แล้วทำตามขั้นตอนการดูแลผิวตามปกติในการทำความสะอาดของคุณ
* หากคุณต่อขนตาแบบกึ่งถาวรต้องระวังเป็นพิเศษ การต่อขนตาส่วนใหญ่จะได้รับความเสียหายเมื่อสัมผัสกับน้ำมัน หากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาช่างเสริมสวย สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือควรนวดน้ำมันบนใบหน้าของคุณเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วินาที เพื่อขจัดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกอย่างทั่วถึง
Reference