ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราสามารถเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และเมื่อเราไปเยือนญี่ปุ่นสิ่งแรกที่ทุกคนจะนำกลับมาด้วยเสมอก็คือ ของฝาก ซึ่งหนึ่งในนั้นจะต้องเป็นขนมหวานอย่างแน่นอน เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของอาหารมาก ๆ ทั้งอาหารคาวและอาหารหวานก็ล้วนแต่เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้คนทั่วโลก
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ขนมจากญี่ปุ่นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกคน เป็นเพราะตัวขนมมีรูปแบบต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งยังใช้วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนั้น ๆ มาเป็นส่วนผสมหลัก อย่างเช่น นมฮอกไกโด วาซาบิ หรือชาเขียวมัทฉะ ซึ่งขนมหวานพวกนี้มักมาในรูปแบบ เยลลี่, ไดฟุกุ, ช็อกโกแลตจากญี่ปุ่น หรือบิสกิตแท่งเคลือบช็อกโกแลต รวมถึงอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ลูกอมญี่ปุ่น” ที่ถือเป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีความหลากหลายทั้งด้านรสชาติและเนื้อสัมผัส
ลูกอมญี่ปุ่นเป็นลูกอมที่มีหลายรูปทรง ซึ่งรสชาติส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ โซดา หรือเครื่องดื่มเมนูต่าง ๆ โดยที่คุณสามารถทานเป็นอาหารว่างหรือของทานเล่นได้อย่างสบาย ๆ วันนี้เราจึงอยากแนะนำลูกอมญี่ปุ่นยี่ห้ออร่อย ๆ มาให้คุณได้ลิ้มลองกัน รับรองเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน เราไปดูกันเลยค่ะว่าลูกอมญี่ปุ่นจากตัวไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

ลูกอมญี่ปุ่น แบรนด์ไหนอร่อยที่สุด?
- ลูกอมรสโซดา อร่อย ซ่า ละลายในปาก : Morinaga Ramune Soda Candy ลูกอมโซดา
- ลูกอมรสโซดา อร่อย ซ่า ละลายในปาก: Nobel Otoko Ume Candy ลูกอมรสบ๊วย
- ลูกอมญี่ปุ่นกล่องเหล็ก ของขวัญสุดพิเศษสำหรับแฟน ๆ ที่ชื่นชอบ Grave of Fireflies: Sakuma Candy fruit drops Grave of The Fireflies ลูกอมรสผลไม้
- ลูกอมสุดฮิตจากประเทศญี่ปุ่น เปรี้ยวจี๊ดถึงใจ : The Noble Super Lemon Candy ลูกอม
- ลูกอมรสมัทฉะเข้มข้น สอดไส้ครีมน้ำนมชั้นยอด: UHA matcha milk candy ลูกอมรสชาเขียว
- ลูกอมเคี้ยวหนึบหนับในตำนาน หวานและเปรี้ยวแบบลงตัว: Morinaga HI-CHEW Fruit Chews ลูกอมเคี้ยวหนึบ
จุดเด่นของลูกอมญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีขนมที่มีเอกลักษณ์และมีรสชาติที่หลากหลายมากที่สุดในโลก โดยขนมที่ได้รับความนิยมคือ “ลูกอม” ค่ะ ลูกอมของญี่ปุ่นจะมีเนื้อสัมผัสที่หลากหลายและมีรสชาติที่แตกต่างกันให้เราได้เลือกมากมาย ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าลูกอมก็รสชาติเหมือน ๆ กัน แต่เราบอกเลยว่าลูกอมญี่ปุ่นนั้นแตกต่างออกไปค่ะ เพราะรสชาติส่วนใหญ่จะเป็นรสชาติดั้งเดิมจากญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นรสชาติของผลไม้พื้นเมือง อาหารขึ้นชื่อ รวมถึงลูกอมที่สื่อถึงฤดูกาลและภูมิภาคต่าง ๆ ในญี่ปุ่น
ในส่วนของรูปทรงของลูกอมญี่ปุ่นก็โดดเด่นไม่แพ้รสชาติค่ะ เพราะนอกจากจะมีรูปทรงกลม ๆ แล้ว ลูกอมจากญี่ปุ่นยังมีรูปทรงที่หลากหลายทั้งรูปหัวใจ ดาว สี่เหลี่ยม รูปกรวย ฯลฯ ซึ่งแต่ละรูปทรงก็สามารถดึงดูดใจผู้ซื้อได้ดีมาก จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของลูกอมญี่ปุ่นคือมันจะมีเลเยอร์เป็นชั้น ๆ ค่ะ เปิดชั้นแรกออกมาอาจจะเปรี้ยวมาก ผ่านไปเลเยอร์ของลูกอมก็จะมีรสหวานมากยิ่งขึ้นทำให้เราสามารถลิ้มรสชาติที่ซับซ้อนค่ะ
เคล็ดลับในการเลือกซื้อลูกอมญี่ปุ่น
1. เนื้อสัมผัสของลูกอม
ลูกอมญี่ปุ่นมีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่แบบแข็ง แบบบางไปจนถึงแบบเคี้ยวและแบบนุ่ม หนึ่งในลูกอมและขนมญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดและทุกคนต้องรู้จักคือแบรนด์ Hi-Chew ค่ะ แบรนด์นี้ได้ผลิตลูกอมเคี้ยวหนึบหนุบหนับและมีหลายรสชาติให้เลือกทำให้ได้รับความนิยมจากคนทั่วไป

นอกจากลูกอมแบบทั่วไปแล้วประเทศญี่ปุ่นยังมีลูกอมแบบกัมมี่ให้เราได้เลือกซื้อด้วย ซึ่งกัมมี่ในญี่ปุ่นจะมีความแตกต่างจากกัมมี่ที่ผลิตในประเทศอื่น ๆ เพราะจะนุ่มกว่าและมีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ โดยคุณสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ อาทิเช่น ถ้าชอบลูกอมแบบมีไส้ลูกอม Kanro Pure Gummies เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะเพราะผ่านการเคลือบด้วยน้ำตาล แต่มีความเปรี้ยวและมีเยลลี่เป็นไส้อยู่ข้างใน นอกจากนี้ลูกอมจากญี่ปุ่นยังมีลูกอมอัดแข็งแบบผงให้เลือกด้วย นั่นก็คือลูกอมรสรามุเนะโซดา ซึ่งลูกอมเหล่านี้จะมีฟองโซดาในปากเมื่อเราทานค่ะ
2. รสชาติ
ลูกอมญี่ปุ่นมีหลากหลายรสชาติให้เราได้เลือกไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ มะม่วงและองุ่น จุดเด่นของลูกอมญี่ปุ่นก็คือจะมีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ค่ะ โดยจะมีส่วนผสมของผลไม้รสเปรี้ยวเช่น ส้มโอ ส้มแมนดารินและมะนาว ซึ่งเมื่อทานแล้วจะรู้สดชื่นและตื่นตัว

ในการเลือกซื้อเราแนะนำให้เลือกลูกอมที่ทำจากน้ำผลไม้แท้ ๆ เพื่อให้ได้รสชาติผลไม้ที่เข้มข้น แต่ถ้าคุณชอบความเปรี้ยวและความเค็มที่ผสมผสานกันแบบลงตัว ให้ลองทานลูกอมรสบ๊วยดองหรือบ๊วยเค็ม อย่างของ Nobel Otoko Ume Candy และ Lotte Koume Ramune เพราะบ๊วยเค็มและบ๊วยดองเป็นของว่างของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ทำจากบ๊วย โดยจะมีรสเค็มและเปรี้ยวเข้มข้นมาก
แต่ถ้าคุณชอบความละมุนลูกอมรสนมเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ เพราะทำจากนมข้นหวาน ครีมและนม ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อม อีกทั้งยังมีลูกอมรสชาเขียว รสช็อกโกแลตและรสหวานอื่น ๆ ให้เราเลือกซื้อ แนะนำให้เลือกซื้อตามสไตล์และรสชาติที่ชอบได้เลยค่ะ
3. เลือกซื้อลูกอมตามฤดูกาล
ประเทศญี่ปุ่นมี 4 ฤดูกาลค่ะ ซึ่งในแต่ฤดูกาลก็จะมีขนมและลูกอมพิเศษที่ทำจากส่วนผสมที่มีในฤดูกาลนั้น ๆ ปกติแล้วในช่วงฤดูใบไม้ผลิในประเทศญี่ปุ่นลูกอมรสซากุระเป็นที่นิยมอย่างมากหรือหากเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงคุณจะพบกับลูกอมที่มีรสเกาลัดและมันเทศ
นอกจากนี้ยังมีลูกอมที่เฉลิมฉลองรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาคต่าง ๆ ในญี่ปุ่น และทำด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่นค่ะ ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือขนมจาก KitKat ที่แบรนด์ที่มีขนมรสชาติหลากหลายให้เราได้เลือกซื้อ ซึ่งแต่ละรสชาติได้แสดงถึงแก่นแท้ของภูมิภาค เช่น รสมันเทศสีม่วงของเมืองโอกินาว่าและรสมัทฉะของเกียวโตค่ะ ดังนั้นหากคุณต้องการลองทานลูกอมรสชาติใหม่ ๆ ให้ติดตามข่าวสารและเทรนด์การกินค่ะ
4. เลือกซื้อลูกอมแบบ DIY
ในญี่ปุ่นชุดทำขนมและลูกอม DIY เป็นที่นิยมมาก ในเซตจะประกอบด้วยเครื่องมือ ส่วนผสมและคำแนะนำที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อช่วยให้คุณทำขนมชิ้นเล็ก ๆ ได้อย่างง่ายดาย ส่วนใหญ่จะเป็นการ DIY แฮมเบอร์เกอร์ โดนัท ซูชิชิ้นเล็ก ๆ ในรูปแบบของหวานค่ะ ชุดอุปกรณ์เหล่านี้ค่อนข้างใช้งานง่าย สิ่งที่คุณต้องทำคือเติมน้ำลงในส่วนผสมและปั้นเป็นชิ้นค่ะ ใครที่ชอบความสร้างสรรค์สามารถลองซื้อลูกอมแบบนี้ได้ แต่ในไทยชุดทำขนมและลูกอม DIY จากญี่ปุ่นแบบแท้ ๆ หาซื้อยากสักหน่อยค่ะ
UHA Mikakuto Kororo Fruit Gummy กัมมี่

ราคา 39 บาท*
Kororo Gummy โดดเด่นด้วยบรรจุภัณฑ์ทรงกลมพลาสติกที่ดูพรีเมียม ด้านในเป็นลูกอมเหนียวหนึบ เคี้ยวได้ง่ายมาก ลูกอมมาพร้อมบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและช่วยให้เราได้สัมผัสรสชาติผลไม้แสนอร่อย ขอบอกเลยว่า Kororo Gummy แตกต่างจากลูกอมเคี้ยวหนึบอื่น ๆ เพราะมีเนื้อสัมผัสเป็นเนื้อเยลลี่มากกว่า ชั้นนอกจะหนากว่าลูกอมเหนียว ๆ ส่วนใหญ่ แต่เมื่อคุณกัดเข้าไปความนุ่มด้านในก็จะทำให้คุณรู้สึกรักทันที ตัวกัมมี่มีหลายรสชาติให้เราได้เลือกซื้อค่ะทั้ง องุ่น พีช โคล่า สตรอว์เบอร์รี ฯลฯ แต่รสชาติที่อร่อยมากก็คือโคล่าค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 40 กรัม/ ไม่ระบุ |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | องุ่น พีช โคล่า สตรอว์เบอร์รี ฯลฯ |
Lotte Koume Ramune ลูกอมรามูเนะรูปหัวใจ

ราคา 40 บาท*
Lotte Koume Ramune เป็นลูกอมรสบ๊วยที่คุณต้องลองทานค่ะ อุเมะหรือบ๊วยเป็นผลไม้ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ขึ้นชื่อเรื่องรสเปรี้ยว ตัวลูกอมเป็นรูปหัวใจที่มี 3 ชั้น ขั้นแรกคุณจะได้ลิ้มรสความเค็ม เมื่อความเค็มละลายความหวานก็จะออกมา และสุดท้ายคุณจะได้สัมผัสกับรสบ๊วยที่เคี้ยวหนึบ ๆ อมเปรี้ยวเล็กน้อย รสชาติของลูกอมมีความซับซ้อนของรสชาติคล้าย ๆ กับ The Noble Super Lemon Candy แต่จะมีความนัวของรสบ๊วยมากกว่า ดังนั้นหากใครที่ชอบความหอมของบ๊วยแนะนำเลยค่ะเพราะเป็นบ๊วยแท้ ๆ จากญี่ปุ่นเลย
ปริมาณ/จำนวน | 40 กรัม/ ไม่ระบุ |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | บ๊วย |
Morinaga HI-CHEW Fruit Chews ลูกอมเคี้ยวหนึบ

ราคา 40 บาท*
ลูกอม Hi-Chew เป็นลูกอมที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ค่ะ โดยมีหลายรสชาติให้เราได้เลือกทั้ง Sweet&Sour, Pop Soda และ Original Mix จุดเด่นของลูกอมก็คือมีเนื้อสัมผัสนุ่ม หนึบและสามารถเคี้ยวได้ยาวนาน ลูกอมส่วนใหญ่จะทำจากน้ำผลไม้เข้มข้น ซึ่งมีรสผลไม้ตามธรรมชาติ ผสมผสานความเปรี้ยวและหวานแบบลงตัว ลูกอมจะมีลักษณ์เป็นแท่ง ๆ ค่ะแต่มีกลิ่นหอมและทานได้ง่าย เมื่อเราซื้อมันจะมาในถุงใหญ่ แต่เมื่อแกะซองใหญ่ออกมาภายในจะมีซองเล็ก ๆ อีก 24 ชิ้น รับรองว่าอร่อยและเพลิดเพลินได้ทุกวันค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 100 กรัม/24 เม็ด |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | นุ่ม (Soft) |
รสชาติ | Sweet&Sour, Pop Soda และ Original Mix |
Meiji Apollo Strawberry Chocolate ลูกอมช็อกโกแล็ต

ราคา 49 บาท*
Meiji Apollo Strawberry Chocolate ลูกอมช็อกโกแลตรูปกรวยยอดนิยมจากแบรนด์เมจิ โดยมีชั้นของช็อกโกแลตนมอยู่ด้านบน ส่วนที่ปลายจะเป็นไวท์ช็อกโกแลตรสสตรอว์เบอร์รี่ค่ะ ตัวกรวยมีลักษณะค่อนข้างเล็กทำให้ทานได้ง่าย นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ลูกอมเป็นท็อปปิ้งสำหรับโรยบนไอศกรีมได้ด้วย แต่ขอบอกเลยว่าลูกอมช็อกโกแลตมีรสชาติที่หวานมาก แต่เป็นความหวานที่เข้มข้น มีความครีมมี่และเนื้อนุ่มละลายในปาก หากใครที่ชื่นชอบการผสมผสานรสสตรอว์เบอร์รี่และช็อกโกแลตต้องไม่พลาดค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 46 กรัม/ ไม่ระบุ |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | รสสตรอว์เบอร์รี่และช็อกโกแลต |
Kanro ลูกอมเคี้ยวหนึบ

ราคา 59 บาท*
ลูกอมเคี้ยวหนึบจาก Kanro ตัวลูกอมมีดีไซน์ที่ดูน่ารักและมาพร้อมกับเนื้อสัมผัสหนึบ ๆ ที่รสชาติอร่อยมาก ลูกอมมีดีไซน์รูปหัวใจที่สวยงาม ตัวลูกอมผ่านการเคลือบด้วยเม็ดน้ำตาล ด้านนอกของลูกอมมีเนื้อค่อนข้างแน่น แต่ด้านในมีความเหนียวและมีผลไม้บดตรงกลาง ความอร่อยและเนื้อสัมผัสนั้นตัดกันอย่างลงตัว รสชาติของลูกอมเป็นรสองุ่นไซน์มัสคัสซึ่งเป็นผลไม้ยอดฮิตจากญี่ปุ่น แต่นอกจากนี้ยังมีรสชาติอื่น ๆ ให้เราได้เลือกซื้อค่ะ ทั้งส้มแทนเจอรีน เลมอน องุ่นเคียวโฮ ฯลฯ แต่จากการได้ลองทานรสองุ่นถือว่าอร่อยที่สุดค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 56 กรัม/ ไม่ระบุ |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | องุ่นไซน์มัสคัส |
UHA matcha milk candy ลูกอมรสชาเขียว

ราคา 69 บาท*
UHA matcha milk candy ลูกอมสุดฮิตที่ทำมาจากนมฮอกไกโดแท้และชาเขียวจากอุจิ เมืองอุจิเป็นนครที่อยู่ในจังหวัดเกียวโต ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงด้านการปลูกชาเขียวคุณภาพสูงในญี่ปุ่น ทำให้ลูกอมมีรสชาติชาเขียวที่หอมกรุ่นผสมผสานกับไส้นมที่เข้มข้น เมื่อทานแล้วคุณสามารถลิ้มรสรสชาติของมัทฉะได้อย่างแน่นอน แต่ลูกอมจะมีรสขมเล็กน้อยเนื่องจากมีส่วนผสมของผงมัทฉะเข้มข้น ดังนั้นหากคุณไม่ชอบรสขมของมัทฉะเราไม่แนะนำค่ะ แต่ถ้าคุณชอบการทานชาเขียวมัทฉะมากขอบอกเลยว่าต้องไม่พลาด เพราะน้ำนม ครีมและชาเขียวที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวจะทำให้คุณลืมไม่ลงค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 58 กรัม/17 เม็ด |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | นุ่ม (Soft) |
รสชาติ | มัทฉะผสมนม |
Morinaga Ramune Soda Candy ลูกอมโซดา

ราคา 85 บาท*
Morinaga Ramune Soda Candy รามูเนะ (Morinaga) เป็นน้ำอัดลมของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อน คุณสามารถลองดื่มเครื่องดื่มขึ้นชื่อตัวนี้ได้ด้วยการกินลูกอมค่ะ ตัวลูกอมประกอบด้วยผงรสรามูเนะโซดา โดยจะมีเนื้อสัมผัสที่แข็งในช่วงแรก แต่ต่อมามันจะละลายในปากของคุณและกลายเป็นผงที่มีรสมะนาวสามารถให้ความสดชื่นได้ดีมาก ลูกอมมีรสชาติที่ซ่า ๆ ค่ะแต่ไม่ซ่ามากนัก ตัวรสชาติจะกลมกล่อมและเป็นเอกลักษณ์ แพ็คเกจมีทั้งแบบขวดและแบบซองให้เราซื้อค่ะ โดยที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้เป็นแบบซองค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 41 กรัม/ ไม่ระบุ |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | โซดา |
The Noble Super Lemon Candy ลูกอม

ราคา 99 บาท*
The Noble Super Lemon Candy ถือเป็นลูกอมที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น รสชาติเริ่มแรกเมื่อทานเข้าไปจะเปรี้ยวมาก ๆ แต่ชวนน้ำลายสออย่างแน่นอน การทานลูกอมนี้เหมือนกับการผ่านด่านเลยค่ะเพราะเมื่อผ่านความเปรี้ยวมาแล้ว รสชาติมันจะหวานจนคุณติดใจ ตัวลูกอมมี 3 รสชาติให้เราได้เลือกค่ะคือ รสเลมอน โซดาและโค้กค่ะ แต่รสชาติที่เราอยากแนะนำมากที่สุดเลยก็คือรสเลมอนค่ะ เพราะทั้งหอม เปรี้ยวและหวาน อีกทั้งยังช่วยปลุกความสดชื่นให้กับร่างกายได้ดีมาก
ปริมาณ/จำนวน | 88 กรัม/ 30 เม็ด |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | เลมอน โซดาและโค้ก |
Nobel Otoko Ume Candy ลูกอมรสบ๊วย

ราคา 119 บาท*
Nobel Otoko Ume Candy ลูกอมรสบ๊วยดั้งเดิม โดยลูกอมนี้ถูกเรียกว่าลูกอมโอโตโกะอุเมะค่ะ ลูกอมโอโตโกะอุเมะเป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นและคนต่างประเทศค่ะ นั่นเป็นเพราะว่ามีรสบ๊วยซึ่งเป็นรสชาติต้นตำรับของบ๊วยเลยค่ะ หากคุณไม่เคยลองทานลูกอมรสบ๊วยจากญี่ปุ่นมาก่อน ความเปรี้ยวของลูกอมก็อาจทำให้คุณตกใจในตอนแรก แต่ก็เปรี้ยวอยู่ไม่นานเพราะหลังจากความเปรี้ยวหายไปรสหวานก็ตามมา ลูกอมรสบ๊วยจะผ่านการเคลือบด้วยผงบ๊วยเบา ๆ เพิ่มเติมที่ด้านนอกทำให้คุณได้รสชาติบ๊วยเป็นสองเท่าค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 80 กรัม/ ไม่ระบุ |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | บ๊วย |
Sakuma Candy fruit drops Grave of The Fireflies ลูกอมรสผลไม้

ราคา 189 บาท*
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของ Grave of the Fireflies ซึ่งเป็นภาพยนตร์อนิเมะโดย Studio Ghibli หากคุณเคยดู คุณอาจเคยเห็นกระป๋องลูกอมผลไม้นี้ค่ะ ลูกอมได้วางขายในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1908 และผ่านการทำด้วยน้ำผลไม้แท้ ๆ โดยในกระป๋องจะมีลูกอม 7 รสชาติที่แตกต่างกัน โดยรสชาติหลัก ๆ จะเป็นสับปะรด แอปเปิ้ลเขียวและสตรอว์เบอร์รี่ค่ะ ตัวลูกอมผ่านการบรรจุในกระป๋องที่ปิดสนิทและทนทานทำให้เก็บได้นาน ลูกอมมีรสหวานแต่ให้รสชาติที่เป็นธรรมชาติ ขอบอกเลยว่าแพ็คเกจดี สามารถให้เป็นของขวัญได้เลยค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 115 กรัม/ 40 เม็ด |
---|---|
เนื้อสัมผัสของลูกอม | แข็ง (Hard) |
รสชาติ | สับปะรด แอปเปิ้ลเขียว สตรอเบอร์รี่ ฯลฯ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ลูกอมญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
Sakuma Candy fruit drops Grave of The Fireflies ลูกอมรสผลไม้ |
|
ระวังน้ำตาลจากลูกอม !! (1)
|
ลูกอมเป็นของว่างที่น่าทานมาก ๆ ค่ะ แต่ที่คุณต้องระวังก็คือมันมีน้ำตาลค่ะ ถึงแม้ว่าการทานลูกอม 4 – 10 เม็ดในคราวเดียวอาจจะไม่ส่งผลกับคุณในทันที แต่มันส่งผลในระยะยาวอย่างแน่นอน การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงซ้ำ ๆ ทุกวันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพหลายประการ ทั้งโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า โรคมะเร็ง ฯลฯ นั่นเป็นเพราะน้ำตาลทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย เมื่อรวมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด การนอนหลับที่ไม่ดีหรือการขาดการออกกำลังกาย การอักเสบจะกลายเป็นโรคเรื้อรังและรบกวนกระบวนการของร่างกายนำไปสู่การเจ็บป่วยที่รุนแรงค่ะ ดังนั้นควรบริโภคแต่น้อยและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ |
Reference :