สุขภาพของเส้นผมเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ แต่หลาย ๆ คนมักจะละเลยการดูแลเส้นผมและไปเน้นในการดูแลผิวแทน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดมากค่ะเพราะไม่ว่าจะเส้นผมหรือผิวพรรณก็ต้องได้รับการดูแลที่เท่า ๆ กัน เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นเส้นผมของเรามักจะบางและแข็งแรงน้อยลงไปตามกาลเวลา อีกทั้งหลาย ๆ คนยังชอบทรมานเส้นผมเป็นประจำด้วยการใช้เครื่องจัดแต่งทรงผมที่ให้ความร้อน เช่น เครื่องหนีบผม ไดร์เป่าผมและเครื่องม้วนผม ซึ่งเรื่องนี้แก้ไขได้ทันเวลาหากคุณใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่ถูกต้องค่ะ แต่เรื่องที่สำคัญมากที่สุดคือการใช้ทำความสะอาดเส้นผมด้วยการใช้ “แชมพูสระผม” ค่ะ

แม้ว่าแชมพูในท้องตลาดมีขายหลายแบรนด์และหลายแบบมาก ๆ ทั้ง แชมพูสำหรับขจัดรังแค, แชมพูสำหรับผมมัน, แชมพูรักษาสีผม, แชมพูสำหรับผมดัด, แชมพูเคราติน, แชมพูออร์แกนิกรวมไปถึงแชมพูสีม่วง แน่นอนว่าแชมพูเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อสภาพเส้นผมที่แตกต่างกัน แต่ก็มีแชมพูอีกหนึ่งแบบที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองใช้นั่นก็คือ “แชมพูญี่ปุ่น” ค่ะ
แชมพูญี่ปุ่น ที่เราหมายถึงคือแชมพูที่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นแท้ ๆ นะคะ โดยจุดเด่นของแชมพูญี่ปุ่นคือการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ มีกลิ่นหอมและดีกับทุกสภาพผม หากคุณกำลังมองหาแชมพูญี่ปุ่นอยู่ วันนี้เราจะพาคุณไปเปิดโลกกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
(แชมพู) ยาสระผมญี่ปุ่น แบรนด์ไหนดี ?
- ช่วยฟื้นผมแห้งเสียและให้ความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก : Tsubaki Premium Moist Shampoo แชมพู
- ช่วยให้เส้นผมมีวอลลุ่มและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น: Moist Diane Perfect Beauty Extra Volume & Scalp Shampoo แชมพู
- แชมพูน้ำมันมาในตำนาน ลดผมแห้งเสียและขาดหลุดร่วง: Kumano Horse Oil Non silicon แชมพู
- แชมพูกลิ่นซากุระ ใช้แล้วผมนุ่มและมีกลิ่นหอม: Ichikami Smoothing Shampoo แชมพู
- แชมพูขจัดแบคทีเรียและลดปัญหารังแค: Kaminomoto Medicated Shampoo แชมพู
- แชมพูสระผมสีชมพู ช่วยปรับสีผมให้ติดทนนาน: Royd Punkish Pink Shampoo แชมพู
แชมพูญี่ปุ่น VS แชมพูตะวันตก (ฝรั่ง) ต่างกันอย่างไร ?
อันที่จริงแล้วแชมพูญี่ปุ่นและแชมพูตะวันตกไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่ามีไว้สระผมเหมือนกัน แต่เนื่องจากปัญหาทางชีวภาพ สิ่งแวดล้อมและสารอินทรีย์ เส้นผมของชาวเอเชียจึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับเส้นผมของคนตะวันตก ดังนั้นผลิตภัณฑ์แชมพูทั้งสองประเภทก็จะมีเป้าหมายในการดูแลเส้นผมที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทและปัญหาของเส้นผมด้วย ปกติแล้วเส้นผมของชาวเอเชียจะมีเส้นใหญ่มาก ด้วยสภาพอากาศจะทำให้ผมของชาวเอเชียมีความมันได้ง่าย ส่วนเส้นผมของชาวตะวันตกจะมีเส้นเล็ก อากาศที่แห้งและเย็นจะทำให้เส้นผมของพวกเขาขาดความชุ่มชื้น
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของญี่ปุ่นอาศัยการใช้สารสกัดจากพืชธรรมชาติรวมถึงมีสูตรที่อ่อนโยน ทำให้สามารถช่วยลดปัญหาผมแตกปลายและลดความมันได้ดี ในขณะที่ผลิตภัณฑ์แชมพูของตะวันตกจะมีลักษณะเป็นครีมซึ่งมุ่งเป้าหมายไปที่การลดผมชี้ฟูและการเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมที่ไร้น้ำหนักค่ะ
ทำไมต้องเลือกใช้แชมพูญี่ปุ่น ?
- แชมพูญี่ปุ่นมีคุณภาพสูง เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของญี่ปุ่นที่เราได้แนะนำกันมาหลายบทความค่ะ แชมพูญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพมากโดยในประเทศญี่ปุ่นมีแชมพูวางขายมากกว่า 1,200 แบรนด์ อุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งหมายความว่าในแต่ละแบรนด์ก็งัดทุกกระบวนท่าเพื่อให้แบรนด์ของตัวเองขึ้นชื่อว่ามีประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับผมทุกประเภท สิ่งที่ฝังแน่นในวัฒนธรรมองค์กรของญี่ปุ่นก็คือประโยคที่ว่า “ลูกค้าคือแรงบันดาลใจ” ผู้ใช้งานแต่ละคนมีสภาพเส้นผมที่แตกต่างกันและมีปัญหาเส้นผมที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแบรนด์แชมพูของญี่ปุ่นจึงนึกถึงปัญหาผมทุกอย่างที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นผมแห้ง, ผมหงอก, ผมชี้ฟู, ผมเสีย, ผมมัน, ผมบาง, รังแคหรือผมร่วง ดังนั้นจึงมีแชมพูที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและคุณจะพบกับแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของคุณอย่างแน่นอนค่ะ
- แชมพูญี่ปุ่นใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ คนญี่ปุ่นมักจะมีผิวที่แพ้ง่ายและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ด้วยเหตุนี้แบรนด์แชมพูญี่ปุ่นจึงแข่งขันกันด้วยการใช้ส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผม แชมพูญี่ปุ่นจึงเน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติมากมายที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองค่ะ
- แชมพูญี่ปุ่นจะมีกลิ่นหอม แชมพูญี่ปุ่นมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ติดทนนานบนเส้นผม ซึ่งความหอมจะคงอยู่นาน แม้หลังจากสระผมไปแล้วเส้นผมก็ยังคงหอมอยู่ค่ะ อีกทั้งแชมพูแบรนด์ญี่ปุ่นมักจะมาพร้อมครีมนวดผมทำให้เราสามารถดูแลผมได้ครบวงจรแบบง่าย ๆ
เคล็ดลับในการเลือกซื้อแชมพูญี่ปุ่น

1. ประเภทของเส้นผม
ก่อนเลือกซื้อแชมพูญี่ปุ่นสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความต้องการของเส้นผมและหนังศีรษะค่ะ แม้ว่าแชมพูจะได้รับการออกแบบเพื่อขจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากเส้นผมและหนังศีรษะ แต่ก็มีแชมพูบางชนิดที่มีประโยชน์เพิ่มเติมที่ดีต่อเส้นผม
- หากคุณมีผมมัน คุณอาจต้องใช้แชมพูที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากเส้นผม
- แต่หากผมของคุณผ่านการทำสีมาให้เลือกแชมพูที่จะช่วยดูแลและรักษาสีผม
- สุดท้ายหากเส้นผมของคุณอ่อนแอมากให้พยายามเลือกซื้อแชมพูที่จะทำให้เส้นผมของคุณแข็งแรงขึ้นค่ะ
ในการเลือกซื้อให้เลือกซื้อแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผมเท่านั้น ห้ามเลือกซื้อผิดประเภทเพราะชอบในกลิ่นหอมของแชมพูโดยเด็ดขาด อีกทั้งการซื้อแชมพูผิดประเภทยังทำให้เราไม่เห็นผลลัพธ์ของแชมพูอีกด้วย
|
2. กลิ่นแชมพูญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีกลิ่นที่ติดทนนานซึ่งเกือบจะทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังใส่น้ำหอมอยู่ แม้ว่าจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ชัดเจนและสามารถคงอยู่ได้นานหลายชั่วโมงหลังจากที่คุณสระผม ในการเลือกซื้อแชมพูคุณควรเลือกกลิ่นที่เหมาะสมเสมอ โปรดจำไว้ว่าแชมพูญี่ปุ่นมีหลายกลิ่นให้เราได้เลือกตั้งแต่กลิ่นผลไม้ กลิ่นมิ้นต์และกลิ่นดอกไม้โดยคุณสามารถเลือกกลิ่นได้ตามความต้องการ ในการเลือกซื้อพยายามเลือกกลิ่นที่ชอบหรือเลือกกลิ่นที่ใกล้เคียงกับน้ำหอมที่ใช้มากที่สุดเพื่อให้กลิ่นกายหอมยาวนาน |
3. ส่วนผสมของแชมพู
ส่วนผสมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อแชมพู นั่นเป็นเพราะว่าเรามีประเภทของเส้นผมที่แตกต่างกัน ดังนั้นส่วนผสมหลักที่ใช้ก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแชมพูของคุณมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่จะไม่ทำร้ายเส้นผมของคุณ อีกทั้งแชมพูจะต้องไม่ระคายเคืองหนังศีรษะหรือทำให้เกิดอาการแพ้โดยเด็ดขาด โดยส่วนผสมที่นิยมใช้กันมากในแชมพูญี่ปุ่นคือน้ำผึ้ง, น้ำมันธรรมชาติ, โปรตีน, เคราติน, สารสกัดจากไหม ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นส่วนผสมที่คัดสรรมาจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ
4. หลีกเลี่ยงซัลเฟต
ไม่ว่าคุณจะมีเส้นผมประเภทไหนก็ตามให้เลือกแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตเสมอค่ะ ส่วนผสมนี้ใช้เพื่อทำให้แชมพูมีเนื้อครีมเข้มข้นขึ้น การใช้ซัลเฟตมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้และผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็เตือนว่าการใช้ซัลเฟตอาจทำให้ผมร่วงได้ ดังนั้นหากไม่อยากมีปัญหาในระยะยาวควรหลีกเลี่ยงซัลเฟตค่ะ
แต่นอกจากซัลเฟตแล้วเรื่องของฟองก็สำคัญ แชมพูที่มีฟองในปริมาณมากจะให้ความรู้สึกสะอาดสะอ้านโดยไม่ทิ้งสิ่งสกปรกไว้เบื้องหลัง ซึ่งบางคนก็กังวลว่าแชมพูที่มีฟองมากเกินไปจะทิ้งสารตกค้างบนหนังศีรษะซึ่งอาจทำให้ผมร่วงได้ แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ค่ะแต่หากล้างให้สะอาดก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย
Tsubaki Premium Moist Shampoo แชมพู

ราคา 269 บาท*
Shiseido Tsubaki extra moist shampoo แชมพูสูตรพิเศษเพื่อฟื้นบำรุงผมแห้งเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณค่าของสารสกัดจากสมุนไพรญี่ปุ่นและน้ำมันสึบากิทำให้แชมพูสามารถให้การบำรุงอย่างล้ำลึกและให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม สิ่งที่คุณต้องทำคือชโลมแชมพูลงบนผมที่เปียกและนวดให้เป็นฟอง หลังจากล้างจนทั่วเพื่อขจัดคราบแชมพู เมื่อใช้แล้วคุณจะพบว่าปอยผมของคุณอ่อนนุ่มกว่าปกติ เพราะแชมพูสามารถฟื้นฟูเนื้อผมและความเงางามตามธรรมชาติของเส้นผมได้ ขอบอกเลยว่าแชมพูเหมาะมากสำหรับใช้งานเป็นประจำค่ะ
ข้อดี
- ช่วยให้หนังศีรษะรู้สึกสดชื่น สะอาดและเหมาะกับทุกสภาพผม
- ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผมและหนังศีรษะมีความมัน
- ป้องกันรังสี UV ความร้อนและความชื้นได้ดีมาก
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นรังแคหรือมีหนังศีรษะบอบบาง
ปริมาณ | 490 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันสึบากิและสมุนไพรญี่ปุ่น |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งกร้านไร้น้ำหนัก |
Moist Diane Perfect Beauty Extra Volume & Scalp Shampoo แชมพู

ราคา 320 บาท*
Moist Diane Perfect Beauty Extra Volume & Scalp เป็นแชมพูที่เหมาะมากหากคุณมีปัญหาผมร่วงหรือผมบาง แชมพูมีเคราตินสามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและทำให้เส้นผมดูมีวอลลุ่มมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นนะคะเพราะแชมพูมีส่วนผสมของน้ำมันอาร์แกนและน้ำมันซาโพเทที่สามารถทำให้หนังศีรษะแข็งแรงขึ้น กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่และสามารถทำให้เส้นผมของคุณนุ่มได้ แชมพูมีกลิ่นที่หอมมากและมีกลิ่นที่ติดเส้นผมมากเลยทีเดียว ใครที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมไม่แข็งแรงต้องลองใช้ค่ะ
ข้อดี
- ทำให้เส้นผมรู้สึกสดชื่นและดูมีวอลลุ่มทันทีหลังสระ
- ปราศจากซิลิโคน พาราเบนและไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายในแชมพู
- ช่วยลดความแห้งเสียของเส้นผมและทำให้หนังศีรษะมีสุขภาพที่ดีขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ไม่ค่อยมีฟองต้องใช้ในปริมาณเยอะ
ปริมาณ | 450 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | ไบโอติน, น้ำมันอาร์แกน, น้ำมันซาโปเต, เคราตินไฮโดรไลซ์ ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียและผมแตกปลาย |
Kumano Horse Oil Non silicon แชมพู

ราคา 329 บาท*
Kumanoyushi Horse Oil Non-silicon แชมพูใช้ส่วนผสมของน้ำมันม้าเป็นหลัก ซึ่งน้ำมันม้าเต็มไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งเป็นกรดที่จำเป็น มันจะทำหน้าที่และมีบทบาทสำคัญในการบำรุงเนื้อเยื่อของผิวหนัง ทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อใช้แล้วน้ำมันม้าจะช่วยบำรุงผิวหนังศีรษะของคุณ ทำให้คุณมีรังแคและอาการคันน้อยลง น้ำมันม้ายังขึ้นชื่อในเรื่องคุณสมบัติต้านการเกิดออกซิเดชันและต้านแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งแบคทีเรียและการติดเชื้อแบคทีเรียไปพร้อม ๆ กัน แชมพูใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดไม่ผสมซิลิโคนทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและไร้สารตกค้าง
ข้อดี
- ปราศจากซิลิโคนและมีความเป็นกรดอ่อน ๆ ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก
- ฟื้นฟูผมเสียด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด
- มีกลิ่นเมนทอลที่ให้ความเย็นและให้ความรู้สึกสดชื่น
ข้อควรพิจารณา
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดลองกับสัตว์และใช้ส่วนผสมมาจากสัตว์
ปริมาณ | 600 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันม้า |
เหมาะสำหรับ | ผมชี้ฟูและขาดหลุดร่วง |
Ichikami Smoothing Shampoo แชมพู

ราคา 375 บาท*
Ichikami Smoothing Shampoo แชมพูญี่ปุ่นแบรนด์ดังที่จะจัดการกับน้ำมันส่วนเกินของหนังศีรษะ เมื่อใช้งานแล้วจะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมของคุณแตกหักและขาดหลุดร่วง แชมพูมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากข้าว น้ำมันจมูกข้าวและน้ำมันเมล็ดจาโพนิกาทำให้สามารถดูแลเส้นผมได้อย่างล้ำลึก แชมพูจะมีเนื้อโฟมที่อ่อนโยนมากและล้างออกได้ง่าย หากใช้งานเป็นประจำจะสังเกตเห็นเลยว่าเส้นผมนุ่มและดูมีน้ำหนักมากขึ้น จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือแชมพูมีกลิ่นหอมของดอกซากุระ แนะนำให้ใช้ร่วมกับครีมนวดผมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ชัดเจนมากขึ้น
ข้อดี
- อ่อนโยนเพียงพอสำหรับใช้ทุกวันและช่วยให้ผมมีกลิ่นหอม
- ใช้สารสกัดจากพฤกษชาติญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ทำให้ผมของคุณมีสุขภาพดีและจัดทรงได้ง่ายขึ้น
- ปราศจากซัลเฟตจึงไม่ทำให้หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของพาราเบน
ปริมาณ | 480 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันจมูกข้าวและน้ำมันเมล็ดจาโพนิกา |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียและขาดหลุดร่วง |
Kaminomoto Medicated Shampoo แชมพู

ราคา 499 บาท*
Kaminomoto Medicated Shampoo แชมพูจะช่วยขจัดหนังศีรษะและทำความสะอาดรูขุมขนจากความมันและสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก แชมพูมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและต้านการอักเสบที่ช่วยให้หนังศีรษะของคุณไม่เกิดอาการคันและผื่นแดง ขอบอกเลยว่าแชมพูเหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผมเลยค่ะ อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยในการรักษาสุขภาพหนังศีรษะและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมด้วย แชมพูมีสารสกัดจากพืชธรรมชาติ เช่น รากไอโซดอนและสารสกัดจากดอกอัญชันที่ช่วยให้ผมแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แชมพูมาในขวด 300 มล. แต่สามารถใช้งานได้ยาวนาน ใครที่มีปัญหาเรื่องผมร่วงได้ง่ายต้องไม่พลาดค่ะ
ข้อดี
- สามารถใช้งานได้ทั้งสำหรับผู้ชายและหญิง
- มีส่วนผสมรักษาหนังศีรษะ โคนผมและป้องกันรังแคได้อย่างดีเยี่ยม
- ขจัดความมันส่วนเกินออกจากหนังศีรษะและลดผมร่วงได้จริง
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้งานเป็นประจำถึงจะเห็นผลและประสิทธิภาพ
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | รากไอโซดอนและสารสกัดจากดอกอัญชัน |
เหมาะสำหรับ | ผมขาดหลุดร่วง |
& honey Deep Moist Shampoo แชมพู

ราคา 590 บาท*
& honey Deep Moist Shampoo แชมพูญี่ปุ่นที่อุดมด้วยสารอาหารมากมาย เช่น น้ำผึ้ง, น้ำมันอาร์แกน, ไหมทองคำ, กรดไฮยาลูโรนิก ฯลฯ ที่สามารถให้ความชุ่มชื้น ซ่อมแซมเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ แชมพูมีกลิ่นน้ำผึ้งเป็นหลักและได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สารอาหารแก่ผมแห้ง น้ำผึ้งที่ทางแบรนด์ใช้จะมี 3 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ น้ำผึ้งดิบจากญี่ปุ่น น้ำผึ้งอะคาเซียจากฮังการีและน้ำผึ้งมานูก้าจากนิวซีแลนด์ แชมพูสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผมเพราะปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น พาราเบนและซิลิโคนค่ะ
ข้อดี
- ปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะจากแสงแดดด้วยฟิลเตอร์ UV จากธรรมชาติ
- ช่วยล็อกเส้นผมให้ดูมีน้ำหนักและชุ่มชื้น
- ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์ กลูเตนและส่วนผสมจากสัตว์
ข้อควรพิจารณา
- หลายคนไม่ชอบกลิ่นของแชมพู
ปริมาณ | 440 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำผึ้ง, น้ำมันอาร์แกน, ไหมทองคำ, กรดไฮยาลูโรนิก ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งและขาดความชุ่มชื้น |
Royd Punkish Pink Shampoo แชมพู

ราคา 590 บาท*
Royd Punkish Pink Shampoo เป็นแชมพูที่เหมาะมากหากคุณชอบทำสีผมและกำลังมองหาแชมพูที่ให้การบำรุง ปกติแล้วเมื่อเราย้อมผมสีผมของเราจะซีดจางไปตามกาลเวลา ดังนั้นแชมพูจาก Royd จึงสามารถช่วยปกป้องผมและช่วยให้สีย้อมติดทนยาวนานขึ้น แชมพูมีส่วนผสมของสารให้ความชื้นที่จำเป็นสำหรับเส้นผมเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมชี้ฟู อีกทั้งทางแบรนด์ยังเคลมมาว่าแชมพูสามารถขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งแชมพูนี้เป็นหนึ่งในแชมพูที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเนื่องจากได้มาตรฐานคุณภาพสูงสุด
ข้อดี
- เนื้อแชมพูเป็นสีชมพูสามารถรักษาสีผมให้คงสภาพได้ยาวนานมากขึ้น
- มีส่วนผสมจากธรรมชาติ สามารถทำให้ผมนุ่มสลวยและเงางามได้
- ใช้งานได้เป็นประจำโดยที่จะไม่ทำให้เส้นผมเสียหาย
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, น้ำมันโจโจ้บา, จมูกข้าว, อัลมอนด์, เชียบัตเตอร์ ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผมที่ผ่านการทำสี |
Tsubaki Premium Repair Shampoo แชมพู

ราคา 269 บาท*
แชมพู Shiseido Tsubaki Premium Repair Shampoo เป็นแชมพูที่นิยมใช้กันในร้านเสริมสวยและได้รับความนิยมในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามค่ะ เพราะแชมพูช่วยรักษาเส้นผมที่ได้รับความเสียหายและลดปัญหาผมแห้งเสียได้เป็นอย่างดี แชมพูอัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากน้ำมันดอกคามิเลีย สารสกัดจากดอกคาโมไมล์ สารสกัดจากนมผึ้งและสารสกัดจากเมล็ดถั่วเหลือง ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยทำให้เส้นผมและโคนผมมีความแข็งแรงมากขึ้น ขอบอกเลยว่าแชมพูเป็นทางเลือกที่ดีโดยเฉพาะถ้าคุณมีผมเสียและหลุดร่วงที่เกิดจากการทำสีและการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนค่ะ
ข้อดี
- มีส่วนผสมจากธรรมชาติและช่วยซ่อมแซมผมเสียได้ดีเยี่ยม
- แชมพูมีกลิ่นหอมของผลไม้ เมื่อสระแล้วจะให้ความสดชื่น
- ช่วยลดปัญหาผมขาดและหลุดร่วงจากสารเคมีได้ดี
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นรังแคหรือมีหนังศีรษะบอบบาง
ปริมาณ | 490 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | สารสกัดจากน้ำมันดอกคามิเลีย, สารสกัดจากดอกคาโมไมล์, สารสกัดจากนมผึ้ง, สารสกัดจากเมล็ดถั่วเหลือง ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียและขาดหลุดร่วงจากเคมี |
Kurobara Tsubaki Oil Shampoo แชมพู

ราคา 342 บาท*
Kurobara Tsubaki Oil Shampoo เป็นแชมพูที่สามารถช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะและเส้นผมได้อย่างอ่อนโยน แชมพูมีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดคามิเลียเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งแน่นอนว่าน้ำมันเมล็ดคามิเลียเป็นส่วนผสมที่นิยมใช้กันมาในญี่ปุ่น เพราะใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วซึ่งน้ำมันเมล็ดคามิเลียมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นที่ดีมากค่ะ เมื่อรวมกับส่วนผสมอื่นๆ ที่ได้จากดอกคามิเลียทำให้แชมพูสามารถช่วยให้หนังศีรษะรักษาระดับค่า pH ไว้ได้ ในขณะที่สามารถทำให้ผมนุ่มสลวยไปพร้อมๆ กัน
ข้อดี
- ช่วยบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึกเหมาะสำหรับผมเสีย
- ลดความมันของหนังศีรษะและเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม
- แชมพูปราศจากน้ำมันแร่ สารแต่งสีและซิลิโคน
ข้อควรพิจารณา
- กลิ่นหอมมาจนอาจจะฉุนไปสำหรับบางคน
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันเมล็ดคามิเลียและดอกคามิเลีย |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสีย |
DHC Q10 Revitalizing Shampoo EX แชมพู

ราคา 624 บาท*
DHC Q10 Revitalizing Shampoo EX เป็นแชมพูที่มีกลิ่นกุหลาบหรูหรา เมื่อสระแล้วจะให้ฟองโฟมนุ่ม ๆ หลังจากใช้แล้วจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าโคนผมมีวอลลุ่มและหนังศีรษะรู้สึกชุ่มชื้น แชมพูจะช่วยขจัดความมันส่วนเกินออกจากหนังศีรษะของเรา แชมพูมีกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญในการซ่อมแซมและให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม อีกทั้งยังมีเซราไมด์ เคราตินไฮโดรไลซ์และคอลลาเจน ดังนั้นจึงเหมาะในการบำรุงผมให้ชุ่มชื้นและช่วยรักษาสีผมค่ะ หากใช้เป็นประจำคุณจะรู้สึกได้เลยว่าเส้นผมมีความนุ่มสลวยดุจแพรไหม
ข้อดี
- ฟื้นฟูผมเสียและช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม
- ไม่ทำลายสีผมและช่วยให้สีผมติดทนยาวนานกว่าเดิม
- ดูแลเส้นผมจากภายในอย่างล้ำลึกและทำให้เส้นผมแข็งแรง
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้ร่วมกับทรีตเมนต์เท่านั้นถึงจะเห็นผลได้อย่างชัดเจน
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | เซราไมด์ เคราตินไฮโดรไลซ์และคอลลาเจน |
เหมาะสำหรับ | ผมผ่านการทำสีและขาดหลุดร่วง |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีดูแลเส้นผมให้นุ่มสลวยเหมือนสาวญี่ปุ่น
- ขั้นตอนที่ 1 : สิ่งแรกที่ต้องทำคือทาน้ำมันที่ผมอาจจะใช้เป็นน้ำมันอาร์แกนหรือน้ำมันมะพร้าวก็ได้ค่ะ นวดผมด้วยน้ำมันให้ทั่วทั้งเส้นผม หลังจากนั้นให้สวมหมวกกันความร้อนทับไว้ รอเวลาประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นให้ถอดหมวกออก นวดเส้นผมและหนังศีรษะอีกครั้งเพื่อให้น้ำมันซึมลึกยิ่งขึ้น การใช้น้ำมันจะทำให้เส้นผมสุขภาพดีขึ้น
- ขั้นตอนที่ 2 : หลังจากหมักผมแล้วขั้นตอนที่สองคือวิธีการใช้แชมพู แนะนำให้ใช้แชมพูที่ใช้เป็นประจำเพื่อสระผม หลังจากนั้นใช้ครีมนวดผมแต่ใช้เฉพาะปลายผมเท่านั้น ขั้นตอนนี้ห้ามใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นในการล้างผมเพราะอาจทำให้เส้นใยผมเสียหายได้

- ขั้นตอนที่ 3 : เมื่อสระผมแล้วขั้นตอนต่อไปคือการเช็ดผมและหวี แนะนำให้ใช้ผ้าเช็ดผมเบา ๆ โดยไม่ต้องบิดผม ในการทำให้ผมแห้งควรหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์และให้ใช้ลมจากพัดลมแทน เมื่อผมแห้งให้หวีผมด้วยหวีไม้ขนาดใหญ่ หวีไม้เป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่สำคัญของคนญี่ปุ่นเพราะหวีไม้ไม่เหมือนกับหวีทั่วไป หวีไม้จะไม่ทำให้หนังศีรษะและเส้นผมเสียหายมากนัก
- ขั้นตอนที่ 4 : ในขั้นสุดท้ายของเราคุณจะต้องจัดแต่งทรงผม ในระหว่างการจัดทรงผมแนะนำให้ใช้น้ำมันธรรมชาติเล็กน้อย ด้วยวิธีนี้เส้นผมของคุณจะได้รับความเสียหายน้อยลงและลดการแตกปลายได้ดี
การดูแลเส้นผมด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม

- ใช้ชาล้างผม : วัฒนธรรมการดื่มชาเป็นวัฒนธรรมที่มีมานานมากแล้วค่ะ แต่นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีแล้วยังให้ประโยชน์หลายประการกับเส้นผมของคุณอีกด้วย ในการทำให้ใช้ชาเขียวหรือชาดำหนึ่งหรือสองถ้วย แล้วใช้ชโลมผมขณะอาบน้ำ หากทำเป็นประจำจะรู้สึกเลยว่าเส้นผมดีขึ้น
- ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล : น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลเป็นผลิตภัณฑ์ทำอาหารอีกอย่างที่ใช้ดูแลผมตามฉบับของสาวผู้หญิงญี่ปุ่น ผู้หญิงญี่ปุ่นมักจะเทน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลลงไป 2 ช้อนในแชมพู วิธีนี้จะทำให้เส้นผมดูเรียบเนียน นุ่มสลวยและมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
- ใช้ปลอกหมอนผ้าไหม : แม้แต่ในเวลานอนผู้หญิงญี่ปุ่นมักจะให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นผมเป็นอย่างมาก เพราะเส้นผมของเรามักจะสัมผัสโดยตรงกับหมอนขณะนอนหลับและการเสียดสีนี้เป็นอันตรายต่อเส้นผม เนื่องจากอาจทำให้เกิดการแตกปลายและขาดหลุดร่วงได้ค่ะ เราเลยอยากแนะนำให้ใช้ปลอกหมอนผ้าไหมเพราะจะไม่เสียดสีกับเส้นผมเลยค่ะ