ครีมกันแดดเป็นไอเท็มที่ทุกคนคิดว่าจำเป็นต้องมีไว้ใช้ในช่วงฤดูร้อน แต่ขอบอกเลยว่าครีมกันแดดไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในช่วงฤดูหนาวและทุก ๆ ฤดูกาลเนื่องจากเรายังต้องเผชิญกับรังสียูวีอยู่ทุกวัน การใช้ครีมกันแดดทุกวันมีความสำคัญมากเพราะมันจะช่วยป้องกันตัวเองจากความเสียหายของผิว เช่น ผิวไหม้ ผิวลอกและสัญญาณของริ้วรอย ปัจจุบันครีมกันแดดมีให้คุณเลือกมากมายหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดดสำหรับผู้ชาย, ครีมกันแดดสำหรับเด็ก, ครีมกันแดดสำหรับผิวมันรวมไปถึงครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย แต่หากคุณเป็นคนรักผิวมากมีครีมกันแดดอีกหนึ่งชนิดที่เราอยากนำเสนอค่ะ นั่นก็คือ “ครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่น”
ความมหัศจรรย์ของครีมกันแดดญี่ปุ่นได้รับการยอมรับอย่างดีในอุตสาหกรรมความงามว่ามีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่เพียงแต่ปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดแต่ยังให้ประสิทธิภาพในการดูแลผิวไปในตัวอีกด้วย เพราะครีมกันแดดของญี่ปุ่นมีการป้องกันรังสี UVA และ UVB ซึ่งแตกต่างจากครีมกันแดดบางตัวทั่วไปที่ให้การปกป้องเฉพาะ UVB เท่านั้น อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพมากกว่าและมาในราคาที่เหมาะสม
นอกจากนี้ฉลากผลิตภัณฑ์บนครีมกันแดดของญี่ปุ่นยังระบุส่วนผสมและข้อมูลการป้องกันรังสี UVA และ UVB ไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งของครีมกันแดดญี่ปุ่นคือความบางเบา และใช้เทคโนโลยีการบำรุงผิวเพื่อมอบความสบายให้กับผิวในขณะที่ช่วยปกป้องผิวไปในตัว และเนื่องจากน้ำหนักของเนื้อครีมมีความเบามาก มันจึงล้างออกได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสิวหรือเกิดการอุดตันจากการทาครีมกันแดด
หลังจากที่เราพูดมาซะขนาดนี้ทุกคนคงอยากจะทำความรู้จักครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่นกันแล้วใช่ไหมคะ ? ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปกันเลยค่ะ
ทำไมครีมกันแดดของญี่ปุ่น ถึงได้รับความนิยม?
ครีมกันแดดของญี่ปุ่นเป็นสูตรอ่อนโยนที่นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวของคุณแล้วยังช่วยป้องกันรังสียูวีได้ดีอีกด้วย ครีมกันแดดของญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีค่า SPF และค่า PA ที่สูงซึ่งช่วยปกป้องผิวของคุณจากรังสี UVA และ UVB ได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการครีมกันแดดที่มีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ครีมกันแดดของญี่ปุ่นยังมีความอเนกประสงค์มาก เนื่องจากครีมกันแดดของญี่ปุ่นส่วนใหญ่สามารถใช้เป็นไพรเมอร์หรือโทนอัพได้เช่นกัน นอกจากนี้ครีมกันแดดของญี่ปุ่นก็มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเป็นเวลานาน
ซึ่งจุดเด่นของครีมกันแดดของญี่ปุ่นคือมันมีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่าที่เป็นมิตรกับผิว และครีมกันแดดของญี่ปุ่นหลายชนิดมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวควบคู่ไปด้วย ในขณะเดียวกันครีมกันแดดทั่วไปจากฝั่งตะวันตก มักจะเน้นการกป้องจากรังสี UVB (ค่า SPF) เป็นหลักเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากครีมกันแดดญี่ปุ่นตรงที่มีการป้องกันรังสี UVA (ค่า PA) เพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งค่า PA+++ หมายถึงระดับการป้องกันรังสี UVA ที่ครีมกันแดดของญี่ปุ่นมี ยิ่งจำนวน + ที่สูงขึ้นก็ยิ่งแสดงว่าครีมกันแดดมีระดับการป้องกัน UVA ที่สูงกว่านั่นเอง
ความแตกต่างของครีมกันแดดทั่วไปและครีมกันแดดจากญี่ปุ่น
ความแตกต่างระหว่างครีมกันแดดของญี่ปุ่นและครีมกันแดดของแบรนด์ทั่วไปหรือแบรนด์อเมริกาก็คือครีมกันแดดของอเมริกามุ่งเน้นไปที่การป้องกันเฉพาะรังสี UVB ในขณะที่ครีมกันแดดของญี่ปุ่นให้การป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ครีมกันแดดของญี่ปุ่นจะระบุระดับการป้องกันสำหรับทั้ง SPF และ PA (รังสี UVA) ในขณะที่ครีมกันแดดของอเมริกาส่วนใหญ่มาพร้อมกับค่า SPF เพียงอย่างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็คุณก็สามารถหาซื้อครีมกันแดดสัญชาติอเมริกันที่สามารถให้การป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ได้เช่นกัน แต่อาจจะหาซื้อได้ยากเล็กน้อย อีกทั้งปกติแล้วครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่นจะมีค่า PA เยอะกว่าครีมกันแดดทั่วไปด้วยค่ะ

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดดญี่ปุ่นที่ดีที่สุด
1. เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ให้เหมาะสมกับกิจกรรมของคุณ
เมื่อพูดถึงครีมกันแดด SPF และ PA เป็นคำย่อที่สำคัญที่คุณต้องจำไว้ SPF จะวัดว่าคุณจะได้รับการปกป้องจากคลื่นอัลตราไวโอเลต B (UVB) มากแค่ไหน ซึ่งปกติแล้วคลื่นอัลตราไวโอเลต B จะทำให้ผิวไหม้ได้ (2,3)
ในขณะที่ PA สามารถช่วยกรองรังสีอัลตราไวโอเลต A (UVA) ได้ ตัวเลขและเครื่องหมายบวกทั้งหมดที่ใช้ในการวัดแต่ละปัจจัยอาจสร้างความสับสนเล็กน้อยให้กับคุณและนี่คือข้อมูลคร่าว ๆ ที่คุณควรรู้ค่ะ (2,3)
-
- SPF50+ / PA ++++ : เหมาะสำหรับการใช้งานก่อนจะลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ ชายหาดหรือทาก่อนเล่นกีฬากลางแจ้ง
- SPF30 / PA +++ : เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- SPF10 ถึง SPF20 / PA + ถึง PA ++ : เหมาะสำหรับใช้ในร่มหรือในกรณีที่คุณต้องการจะออกไปข้างนอกในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
2. เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด
เนื้อครีมกันแดดส่วนใหญ่มี 3 ประเภทที่คุณสามารถเลือกได้และแต่ละประเภทก็มีประโยชน์ในตัวของมันเอง เนื้อครีมกันแดดที่เราพูดถึงคือ เนื้อครีม เนื้อน้ำนม / โลชั่นและเนื้อเจลค่ะ
2.1 ครีมกันแดดชนิดเนื้อครีม
ครีมกันแดดที่มีเนื้อครีมมีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติซึ่งเหมาะกับผิวของทุกคน เนื่องจากเนื้อสัมผัสมันกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนว่าในท้องตลาดคุณจะพบครีมกันแดดแบบกันน้ำจำนวนมากซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าประสิทธิภาพจะไม่ลดลงเมื่อคุณสัมผัสกับน้ำหรือมีเหงื่อ
2.2 ครีมกันแดดชนิดเนื้อเจล
ครีมกันแดดที่มีเนื้อเจลมักจะใสและให้ความสดชื่น ซึ่งครีมกันแดดชนิดนี้ทาได้ง่ายมากและสามารถเกลี่ยให้เรียบเนียนทั่วผิวของคุณ
2.3 ครีมกันแดดชนิดเนื้อน้ำนม / โลชั่น
ครีมกันแดดที่มีสูตรคล้ายน้ำนม / โลชั่นเกลี่ยง่ายบนผิวและไม่ทิ้งคราบสีขาว ซึ่งคราบสีขาวนี้มักจะเป็นปัญหาของครีมกันแดดจำนวนมาก หากคุณมีผิวแห้งครีมกันแดดประเภทน้ำนมหรือโลชั่นเป็นหนึ่งในครีมกันแดดญี่ปุ่นที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เนื่องจากมักจะให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติและครีมกันแดดเนื้อน้ำนมยังเหมาะสำหรับการแต่งหน้าของคุณอีกด้วย
3. กันน้ำและล้างออกได้ง่าย
หากคุณต้องอยู่ในน้ำทั้งวันหรือต้องออกกำลังกายเป็นเวลานาน ครีมกันแดดที่กันน้ำและไม่หลุดออกง่ายคือสิ่งที่คุณควรซื้อ ครีมกันแดดเหล่านี้จะป้องกันน้ำและเหงื่อได้เป็นอย่างดี ซึ่งครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่นบางยี่ห้อยังมาพร้อมกับการป้องกันสองเท่าและการป้องกันความชื้นเป็นสองเท่าตัว ดังนั้นจึงมักจะมีประสิทธิภาพมากกว่าครีมกันแดดที่มีการป้องกันแบบชั้นเดียว
ส่วนเรื่องล้างออกง่ายก็จำเป็นมากเช่นกัน ปกติแล้วคุณต้องการใช้ความพยายามในการล้างครีมกันแดดมากแค่ไหน? คุณต้องตรวจสอบฉลากก่อนซื้อเสมอนะคะ เนื่องจากครีมกันแดดส่วนใหญ่โฆษณาว่าสามารถล้างออกได้ง่ายแต่ก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป สำหรับครีมกันแดดนั้นเราขอบอกเลยว่าครีมกันแดดเนื้อเจลเป็นครีมกันแดดที่สามารถล้างออกได้ง่ายที่สุด
4. สภาพผิว
หากคุณมีผิวมันหรือผิวที่มีแนวโน้มที่จะเกิดสิวให้หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของฟิลเตอร์ หรือให้เลือกสูตรที่เขียนว่า No Filter Sunscreen ค่ะ เนื่องจากครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของฟิลเตอร์จะมีความหนามากกว่าแบบทั่วไป หรือถ้าคุณมีผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีสารเคมี เพราะสารเคมีอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ดีหรือทำให้ผิวระคายเคืองได้ ซึ่งครีมกันแดดญี่ปุ่นจะดีที่ดีสุดสำหรับคุณเนื่องจากไม่มีสารเคมีที่อาจทำให้ผิวของคุณระคายเคืองผิว
หมายเหตุ : หากคุณกำลังทาครีมกันแดดชนิดเคมีให้แน่ใจว่าคุณรออย่างน้อยประมาณ 20 นาทีก่อนที่จะสัมผัสกับแสงแดดเพื่อให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวของคุณได้อย่างเหมาะสมนั่นเองค่ะ
ครีมกันแดดสูตรน้ำนม Biore UV Bright Milk SPF50+ PA++++

ราคา 235 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อน้ำนม |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
SPF/PA | SPF 50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดดญี่ปุ่น Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++

ราคา 349 บาท*
อ่านรีวิวฉบับเต็มเพิ่มเติมได้ที่: รีวิว ครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich Watery Essence
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อครีม |
---|---|
ปริมาณ | 50 มล. |
SPF/PA | SPF50+/ PA ++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดดญี่ปุ่น Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+/PA++++

ราคา 355 บาท*

ครีมกันแดดกระจายตัวได้อย่างราบรื่นและมีเนื้อบางเบา คุณสามารถทาเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทับบนครีมกันแดดได้อย่างง่ายดาย ตัวครีมกันแดดจะไม่ทิ้งคราบสีขาวหลังการใช้ มีค่า SPF50+ และ PA ++++ เพื่อการป้องกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk

เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อน้ำนม |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
SPF/PA | SPF50+/ PA ++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่น Rohto Skin Aqua Super Moisture Milk SPF50+

ราคา 373 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อน้ำนม |
---|---|
ปริมาณ | 40 มล. |
SPF/PA | SPF 50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดด Sunplay Skin Aqua Tone Up UV Essence SPF 50+/PA++++

ราคา 399 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อครีม |
---|---|
ปริมาณ | 80 มล. |
SPF/PA | SPF 50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดดญี่ปุ่น NIVEA Sun Protect Super Water Gel SPF50 PA+++

ราคา 450 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อเจล |
---|---|
ปริมาณ | 125 มล. |
SPF/PA | SPF 50/ PA+++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้าและผิวกาย |
กันน้ำได้ | ✘ |
ครีมกันแดด Canmake เมอร์เมดสกินโพรเทคชั่นเจล UV01 Clear For Face And Body 40G SPF +

ราคา 458 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อเจล |
---|---|
ปริมาณ | 40 มล. |
SPF/PA | SPF 50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้าและผิวกาย |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่น CUREL UV Protection Milk SPF50+ PA+++

ราคา 855 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อน้ำนม |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
SPF/PA | SPF 50+/ PA+++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดดเนื้อเจล ALLIE Extra UV Highlight Gel Sunscreen SPF50+ PA++++

ราคา 869 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อเจล |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
SPF/PA | SPF50+/ PA ++++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
ครีมกันแดดป้องกันรังสียูวี SHISEIDO Multi Defense UV Protector 50 SPF 50 PA+++ Water Resistant

ราคา 1,009 บาท*
เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด | เนื้อครีม |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
SPF/PA | SPF50/ PA +++ |
เหมาะสำหรับ | ผิวหน้า |
กันน้ำได้ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
ครีมกันแดดญี่ปุ่น Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ |
| |||
ครีมกันแดดญี่ปุ่น Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+/PA++++ |
| |||
ครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่น Rohto Skin Aqua Super Moisture Milk SPF50+ |
| |||
ครีมกันแดด Sunplay Skin Aqua Tone Up UV Essence SPF 50+/PA++++ |
| |||
ครีมกันแดดญี่ปุ่น NIVEA Sun Protect Super Water Gel SPF50 PA+++ |
| |||
ครีมกันแดด Canmake เมอร์เมดสกินโพรเทคชั่นเจล UV01 Clear For Face And Body 40G SPF + |
| |||
ครีมกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่น CUREL UV Protection Milk SPF50+ PA+++ |
| |||
ครีมกันแดดเนื้อเจล ALLIE Extra UV Highlight Gel Sunscreen SPF50+ PA++++ |
| |||
ครีมกันแดดป้องกันรังสียูวี SHISEIDO Multi Defense UV Protector 50 SPF 50 PA+++ Water Resistant |
|
การทาครีมกันแดดต้องใช้ปริมาณมากเท่าไหร่ถึงจะให้ประสิทธิภาพสูงสุด?

คนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดไม่เพียงพอซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวไหม้ เพื่อให้ได้ Sun Protection Factor (SPF ซึ่งป้องกันรังสี UVB ของดวงอาทิตย์) ตามที่ต้องการและมีประสิทธิภาพตามที่ขวดครีมกันแดดได้บอกไว้ คุณควรใช้ครีมกันแดดประมาณ 2 มิลลิกรัมต่อ 1 ตารางเซนติเมตรของผิวหนัง ถ้าให้บอกแบบเข้าใจง่าย ๆ คือต้องใช้ครีมกันแดด 2 ช้อนโต๊ะกับบริเวณใบหน้าและร่างกาย โปรดจำไว้เสมอว่าต้องทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมงหรือบ่อยกว่านั้นหากคุณว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก (1,2)
อย่าลืมว่าไม่ว่าคุณจะทาครีมกันแดดมากแค่ไหนแต่ถ้าครีมกันแดดของคุณมีค่า SPF ที่ต่ำมันก็ไม่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวหนังได้ตามที่ควร คุณควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่ากันแดดสูงกว่า 30 และควรหาค่า PA ที่ ++++ ค่ะ (1,2) นอกจากการใช้ครีมกันแดดแล้วควรกางร่มกันแดด, สวมชุดหรือปลอกแขนกันแดด, ใช้หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดด ตอนออกแดดเสมอเพื่อป้องกันรังสียูวีที่จะเข้ามาทำลายผิวของคุณค่ะ
References