กลิ่นหอมเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนรอบตัวเราได้ ทำให้ปัจจุบันนี้หลาย ๆ คนหันมาใช้น้ำหอมกันมากขึ้น นั่นเป็นเพราะน้ำหอมจะให้กลิ่นหอมยาวนาน ทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดีและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราได้ค่ะ
ซึ่งตอนนี้น้ำหอมมีมากมายหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกซื้อ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอมจาก Chanel, น้ำหอม Versace, น้ำหอม Marc Jacobs, น้ำหอม Armani รวมไปถึงน้ำหอมจาก Miniso จุดเด่นของแบรนด์เหล่านี้คือส่วนผสมที่ใช้จะแตกต่างกันทำให้ได้กลิ่นหอมของแต่ละแบรนด์มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว
แต่เมื่อพูดถึงแบรนด์น้ำหอมยังมีอีกแบรนด์หนึ่งที่คุณไม่ควรลืม เพราะแบรนด์นี้ใช้กลิ่นหอมที่ไม่ซับซ้อนแต่มีเอกลักษณ์มากเป็นพิเศษและได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้หญิง นั่นก็คือ “น้ำหอม Jo Malone (โจมาโลน)” นั่นเองค่ะ
น้ำหอมโจมาโลนเป็นน้ำหอมสุดพรีเมียมที่เหล่าผู้คลั่งไคล้น้ำหอมต้องมีเก็บไว้ในคลังค่ะ เนื่องจากทางแบรนด์ได้สร้างสรรค์น้ำหอมที่มีการผสมผสานกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แต่ยังคงความสง่างามเหนือกาลเวลาเอาไว้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมกลิ่นไหนของโจมาโลนก็จะไม่มีวันตกยุคอย่างแน่นอนค่ะ
หากวันนี้คุณกำลังมองหาน้ำหอมโจมาโลนอยู่เราก็มีน้ำหอมมาแนะนำกันค่ะ
น้ำหอม Jo Malone กลิ่นไหนดี ?
- น้ำกลิ่นกุหลาบผสมผสานกับกลิ่นอู๊ด ให้ความอบอุ่นและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน: Jo Malone Velvet Rose & Oud Cologne Intense น้ำหอม
- กลิ่นของผลไม้และดอกไม้ หอมเย้ายวนเย้ายวนชวนหลงใหล : Jo Malone Peony & Blush Suede Cologne น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นฮิตสุดคลาสสิก ฉีดได้ทุกที่และทุกเวลา: Jo Malone Lime Basil & Mandarin Cologne น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นแพร์และฟรีเซีย หอมติดทนนาน สดชื่นทุกครั้งที่ใช้: Jo Malone English Pear & Freesia Cologne น้ำหอม
- กลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น เน้นความเป็นผู้หญิง: Jo Malone Nectarine Blossom & Honey Cologne น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นกุหลาบและมิ้นต์ สดชื่นและหอมหวานไปพร้อม ๆ กัน: Jo Malone Red Roses Cologne น้ำหอม
จุดเด่นและเอกลักษณ์ของน้ำหอม Jo Malone (โจมาโลน)
ผู้ก่อตั้งน้ำหอม Jo Malone (โจมาโลน) คือ “Joanne Lesley Malone CBE” ซึ่งชื่อของเธอก็เป็นชื่อของแบรนด์ด้วยเช่นกันแต่นำมาย่อให้เป็น “Jo Malone” ค่ะ ส่วน CBE เป็นเกียรติยศที่เธอได้รับเมื่อปี 2018 คำเต็มของ CBE คือ “Commander of the Order of the British Empire” นั่นหมายความว่า Joanne Lesley Malone ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติชนั่นเองค่ะ โจมาโลนเคยได้รับรางวัลมามากมาย รวมถึงในปี 2008 เธอก็เคยได้รับเกียรติยศ MBE (Most Excellent Order of British Empire) มาก่อนด้วยค่ะ
จุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้เกิดจากการที่ Joanne Lesley Malone เป็นคนที่ชอบน้ำหอมมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอมักจะทำสบู่อาบน้ำของตัวเองจากส่วนผสมของดอกไม้ในสวน ซึ่งกลิ่นที่เธอเคยสัมผัสก็ได้สร้างจิตวิญญาณให้กับเธอ ทำให้เธอได้ผลิตแบรนด์น้ำหอมที่ชื่อว่า Jo Malone ออกมาค่ะ จุดเด่นที่ทำให้น้ำหอม Jo Malone ไม่เหมือนใครก็คือ น้ำหอมของทางแบรนด์มักจะประกอบด้วยส่วนผสมง่าย ๆ ไม่กี่อย่างเท่านั้น ดังนั้นกลิ่นของน้ำหอมจะไม่ซับซ้อนมาก แต่ก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ ด้วยความพิเศษของน้ำหอมโจมาโลนจะทำให้คุณรู้สึกแตกต่างด้วยกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ

น้ำหอมของโจมาโลนแต่ละกลิ่นสามารถผสมผสานกันได้ โดยที่กลิ่นจะไม่ผิดเพี้ยนเลย แต่นอกจากจะสามารถผสมกลิ่นกันได้แล้ว น้ำหอมแต่ละชุดของ Jo Malone ยังใช้ส่วนผสมคุณภาพสูงอีกด้วย เช่น รากออร์ริส (Orris root) เป็นส่วนผสมที่หาได้ยากมากและสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก ๆ ห้าปีเท่านั้น ดังนั้นราคาและความพยายามที่ต้องจ่ายเพื่อให้ได้สารสกัดจารากออร์ริสนั้นแพงมาก อย่างไรก็ตามส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใช้มันคือคุณภาพและเอกลักษณ์ที่ทำให้แบรนด์ Jo Malone ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอมของ Jo Malone
|
Cologne : มีให้เลือกหลากหลายกลิ่นน้ำหอม Jo Malone ที่พบมากที่สุดในท้องตลาดคือคอลเลกชัน Cologne (โคโลญ) ค่ะ น้ำหอมคอลเลกชันนี้มีกลิ่นให้เลือกมากมาย เช่น กลิ่นฟลอรัล สไปซี่ วู้ดดี้ ซิตรัสและฟรุ๊ตตี้ คุณสามารถเลือกได้ตามกลิ่นที่คุณชื่นชอบค่ะ กลิ่นฟลอรัลและซิตรัสจะมอบความสดชื่นให้กับคุณและคนรอบข้างที่ดมกลิ่น ในขณะเดียวกันกลิ่นหอมแบบสไปซี่จะให้ความอบอุ่นและเป็นกันเอง ส่วนกลิ่นผลไม้มักจะผสมผสานได้ง่ายกว่าเมื่อต้องผสมกับกลิ่นอื่น ๆ หากคุณต้องการกลิ่นที่สุภาพให้เลือกน้ำหอม Jo Malone ที่มีกลิ่นหอมแบบวู้ดดี้ค่ะ |
|
Cologne Intense : น้ำหอมกลิ่นเข้มข้น ให้กลิ่นหอมนานขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการกลิ่นหอมที่ติดทนนานสามารถเลือกซื้อน้ำหอมคอลเลกชัน Cologne Intense ของ Jo Malone ได้ วัตถุดิบในการทำ Jo Malone Cologne Intense series นั้นหายากและมีกลิ่นเฉพาะตัวที่เย้ายวนเป็นพิเศษ กลิ่นที่ผลิตจะมีความเข้มข้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Jo Malone Cologne Intense มีราคาที่สูงมาก |
|
Absolute และ Rich Extract : กลิ่นหอมเย้ายวนมากคอลเลกชันน้ำหอมของโจโมโลนที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างคือ Absolu Collection และ Rich Extract Jo Malone Absolu Collection น้ำหอมคอลเลกชันนี้ได้รวบรวมดอกไม้จากสวนดอกไม้จากอังกฤษ ผสมผสานกับสมุนไพรจากทะเลทรายในตะวันออกกลาง กลิ่นหอมที่ผลิตได้จะมีความเย้ายวน ในขณะเดียวกันยังให้กลิ่นหอมที่ล้ำลึก ลึกลับและติดทนทานมาก |
Jo Malone Lime Basil & Mandarin Cologne น้ำหอม

ราคา 2,565 บาท*
Lime Basil & Mandarin เป็นน้ำหอมสุดคลาสสิกจาก Jo Malone เลยค่ะ ผ่านการเปิดตัวในปี 1999 น้ำหอมมีกลิ่นหอมสดชื่นพร้อมกลิ่นสมุนไพรและกลิ่นมะนาว กลิ่นเปิดกลิ่นแรกเป็นกลิ่นของมะนาวและกลิ่นของมะกรูด ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของใบโหระพา ไทม์ ไอริสและไลแลค ส่วนกลิ่นปิดเป็นกลิ่นของแพทชูลี่ค่ะ ซึ่งกลิ่นหอมทั้งหมดจะให้ความสดชื่นได้ดีมาก
น้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะที่สุดสำหรับใช้ฉีดในช่วงฤดูร้อนและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเวลากลางวัน เพราะน้ำหอมมีกลิ่นที่สดชื่นและไม่ฉุนมากเกินไป สามารถเข้าได้กับทุกลุคของคุณเลยค่ะ สำหรับความหอมกลิ่นหอมจะติดทนนานประมาณ 5 - 7 ชั่วโมง ถือว่านานมาก ๆ เลยทีเดียว อีกทั้งปริมาณของน้ำหอมยังมีหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ขวดปริมาณ 30 มล. ไปจนถึง 70 มล.เลยค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Lime, Mandarin, Bergamot |
Middle Notes | Basil, Thyme, Iris, Lilac |
Base Notes | Vetiver, Patchouli |
Jo Malone Wood Sage & Sea Salt Cologne น้ำหอม

ราคา 2,565 บาท*
Jo Malone Wood Sage & Sea Salt เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 2014 ซึ่งมีกลิ่นของความสดชื่นจากทะเล น้ำหอมผ่านการผลิตโดย คริสติน นาเกล (Christine Nagel) กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมเป็นกลิ่นเบาและโปร่งสบายของส้มโอและกลิ่นเทียนชะมด ส่วนกลิ่นกลางคือกลิ่นของเกลือทะเลและสาหร่าย กลิ่นทั้งสองนี้จะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นเหมือนกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ สุดท้ายกลิ่นปิดเป็นกลิ่นของใบเสจที่หอมสดชื่นค่ะ
สรุปแล้วน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่สดชื่นซึ่งเหมาะสำหรับวันที่อบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน นอกจากความสดชื่นแล้วยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดทั้งวัน สำหรับความติดทนนานน้ำหอมจะติดทนประมาณ 3 - 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว สำหรับน้ำหอมกลิ่น Wood Sage & Sea Salt ถือเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นอเนกประสงค์ที่สุดและควรมีไว้ในคลังน้ำหอมค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Ambrette Seeds, Grapefruit |
Middle Notes | Sea Salt, Seaweed |
Base Notes | Sage |
Jo Malone Pomegranate Noir Cologne น้ำหอม

ราคา 2,565 บาท*
Jo Malone Pomegranate Noir Cologne เป็นหนึ่งในน้ำหอมกลิ่นผลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Jo Malone ที่สามารถใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง น้ำหอมเปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 กลิ่นของน้ำหอมจะเป็นการรวมตัวกันของกลิ่นผลไม้และผลเบอร์รี่หลากหลายชนิด กลิ่นเปิดกลิ่นแรกเป็นกลิ่นของทับทิม ราสเบอร์รีและแตงโม ส่วนกลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของดอกลิลลี่ในหุบเขา มะลิและดอกกุหลาบ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของแอมเบอร์ มัสค์ อำพันและแพชชูลี่ค่ะ
กลิ่นน้ำหอมสามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่จะเหมาะที่สุดหากใช้ในช่วงกลางคืนที่อากาศเย็น กลิ่นหอมของน้ำหอมติดทนนานพอสมควร แม้ว่ากลิ่นของทับทิมจะจางหายไปหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่กลิ่นของกานพลู อำพัน พริกไทยและมัสค์จะยังคงอยู่แม้ผ่านไปแล้ว 4 ชั่วโมงขึ้นไป ขอบอกเลยว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นหนึ่งในรายชื่อน้ำหอมของ Jo Malone London ที่ติดทนนานที่สุดค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Raspberry, Pomegranate, Plum, Rhubarb, Watermelon |
Middle Notes | Lily of the valley, Jasmine, Rose, Pink Pepper, Clove, Olibanum, Opoponax, Guaiac Wood |
Base Notes | Virginia Cedar, Patchouli, Musk, Amber |
Jo Malone Red Roses Cologne น้ำหอม

ราคา 2,565 บาท*
Jo Malone London Red Roses Cologne เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 รังสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมระดับปรมาจารย์ Lucien Piquet และ Patricia Bilodeau กลิ่นหอมเป็นการผสมผสานกันของกลิ่นฟลอรัลโรสและกลิ่นมิ้นต์ค่ะ โดยกลิ่นเปิดกลิ่นแรกจะเป็นกลิ่นของเลม่อนและมิ้นต์ กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของใบไวโอเล็ตและกุหลาบบัลแกเรียที่เข้ากันได้ดีกับกลิ่นหอมทั้งหมด ส่วนกลิ่นปิดจะเป็นกลิ่นของบีแว็กซ์ค่ะ
ตัวน้ำสามารถทาได้ในทุกช่วงของวันโดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนสำหรับความยาวนานของกลิ่น กลิ่นน้ำหอมนี้ติดทนยาวนานมาก นอกจากกลิ่นซิตรัสที่เป็นกลิ่นเปิดแล้ว กลิ่นทั้งหมดของดอกไม้จะยังคงอยู่หลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมงค่ะ สำหรับขวดของน้ำหอมก็เป็นขวดแบบทั่วไปค่ะ หากซื้อขวดใหญ่น้ำหอมจะมีสีชมพูที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนและแสดงให้เห็นถึงความหรูหราของแบรนด์
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Lemon, Mint |
Middle Notes | Bulgarian Rose, Violet Leaf |
Base Notes | Beeswax |
Jo Malone Blackberry & Bay Cologne น้ำหอม

ราคา 2,565 บาท*
Jo Malone Blackberry & Bay เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมหวานและสดชื่นของผลไม้ เมื่อฉีดแล้วกลิ่นแบล็กเบอร์รี่จะมาเป็นกลิ่นแรก จะให้กลิ่นหอมที่ชุ่มฉ่ำมาก รวมถึงยังมีกลิ่นของเกรปฟรุตที่จะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับน้ำหอม ถัดมาจะเป็นกลิ่นหอมของใบกระวานที่มีกลิ่นหอมของสมุนไพร ส่วนกลิ่นปิดจะเป็นกลิ่นของซีดาร์วูดที่มีความอบอุ่น
โดยรวมแล้วน้ำหอมจะเน้นความสดชื่นและให้กลิ่นผลไม้เป็นหลัก สามารถทำให้คุณมีกลิ่นหอมได้ทุกวัน และด้วยกลิ่นหอมของผลไม้ Blackberry & Bay จึงเหมาะที่จะทาในช่วงฤดูร้อน เพราะกลิ่นหอมสดชื่นตามธรรมชาติของผลไม้เข้ากันได้ดีกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น สำหรับความติดทนนาน น้ำหอมติดทนนานมากค่ะประมาณ 4 - 6 ชม. เลยทีเดียว
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Blackberry, Grapefruit |
Middle Notes | Bay Leaves, Floral |
Base Notes | Cedar, Vetiver |
Jo Malone Peony & Blush Suede Cologne น้ำหอม

ราคา 3,600 บาท*
Jo Malone London Peony & Blush Suede Cologne เป็นน้ำหอมที่ผสมผสานกันระหว่างกลิ่นหอมที่ผ่อนคลายที่สุดค่ะซึ่งเป็นกลิ่นของดอกไม้และผลไม้ น้ำหอมเปิดตัวในปี 2013 โดยคริสติน นาเกล (Christine Nagel) นักปรุงน้ำหอมหลักของ Jo Malone London กลิ่นเปิดกลิ่นแรกเป็นกลิ่นของแอปเปิ้ลแดง ตามด้วยกลิ่นกลางซึ่งเป็นกลิ่นของดอกพีโอนี มะลิ คาร์เนชันและดอกกุหลาบ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของหนัง (Suede)
น้ำหอมเหมาะสำหรับใช้ทาในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่มีแดดจ้า เพราะกลิ่นจะหอมเป็นพิเศษ สำหรับความติดทนนานของน้ำหอม ค่อนข้างยาวนานพอสมควรค่ะ แม้ว่ากลิ่นหอมของแอปเปิ้ลจะจางหายไปหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่กลิ่นดอกกุหลาบ กลิ่นดอกมะลิและกลิ่นของ Suede จะยังคงอยู่แม้ผ่านไปแล้ว 4 ชั่วโมงค่ะ สำหรับตัวขวดก็ยังคงเป็นขวดที่คลาสสิกเหมือนเดิม เพราะมาในขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าพร้อมท็อปเปอร์สีเงินค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Red Apple |
Middle Notes | Peoni, Jasmine, Carnation, Rose |
Base Notes | Suede |
Jo Malone English Pear & Freesia Cologne น้ำหอม

ราคา 3,600 บาท*
Jo Malone English Pear & Freesia Cologne เป็นน้ำหอมกลิ่นผลไม้และดอกไม้ที่มีความสมดุลมากเป็นพิเศษ น้ำหอมได้เปิดตัวได้ในปี 2010 และได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นกลิ่นที่แสดงให้เป็นถึงความเป็นผู้หญิงอย่างแท้จริงค่ะ ใครที่กำลังหาน้ำหอมของ Jo Malone กลิ่นแรกให้กับตัวเองเราขอแนะนำเลยค่ะ
กลิ่นหอมของน้ำหอมเปิดออกด้วยความหวานของกลิ่นลูกแพร์ ตามมาด้วยกลิ่นกลางคือกลิ่นของฟรีเซีย ส่วนกลิ่นปิดท้ายคือกลิ่นของแพทชูลี่ แอมเบอร์และวู้ดดี้ค่ะ กลิ่นหอมของน้ำหอมจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะในฤดูใบไม้ร่วง คุณจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของใบไม้บนต้นไม้แต่ละต้นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Pear |
Middle Notes | Freesia |
Base Notes | Patchouli, Amber, Woody |
Jo Malone Nectarine Blossom & Honey Cologne น้ำหอม

ราคา 5,130 บาท*
Jo Malone Nectarine Blossom & Honey เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 2005 กลิ่นเปิดของน้ำหอมเป็นกลิ่นของผลไม้ที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ซึ่งเป็นกลิ่นของแบล็กเคอแรนท์ ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของเนคทารีนและแบล็กโลคัสต์ ส่วนกลิ่นปิดเป็นกลิ่นของพีชและพลัมที่หอมหวาน อีกทั้งยังมีกลิ่นของหญ้าแฝกที่ทำให้กลิ่นหอมโดยรวมโดนใจผู้ใช้มากขึ้น
โดยรวมแล้ว Nectarine Blossom & Honey เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมมาก แม้ว่าจะไม่มีกลิ่นของน้ำผึ้งจริง ๆ แต่กลิ่นผลไม้ที่ชุ่มฉ่ำจะสร้างกลิ่นที่เหมือนน้ำผึ้งให้กับคุณได้ กลิ่นหอมหวานของน้ำหอมจะเป็นกลิ่นหอมของอากาศอันอบอุ่น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวันฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนที่อบอุ่น หากคุณชอบน้ำหอมที่ให้ความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาต้องไม่พลาดค่ะ น้ำหอมจะติดทนนานประมาณ 4 - 6 ชม.
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Green Notes, Blackcurrant, Petitgrain |
Middle Notes | Nectarine, Black Locust |
Base Notes | Peach, Plum, Vetiver |
Jo Malone Velvet Rose & Oud Cologne Intense น้ำหอม

ราคา 5,700 บาท*
Jo Malone London Velvet Rose & Oud Cologne Intense เป็นน้ำหอมที่มีความหอมและซับซ้อนมาก น้ำหอมมีส่วนผสมของกลิ่นหอมคุณภาพสูงหลากหลายชนิดที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้ใช้งาน น้ำหอมกลิ่นนี้ได้เปิดตัวในปี 2019 ค่ะ ให้กลิ่นหอมของดอกไม้แบบตะวันออก สามารถใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงค่ะ กลิ่นเปิดกลิ่นแรกเป็นกลิ่นความเผ็ดร้อนของกานพลู ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของดอกกุหลาบมอญ ปิดท้ายด้วยกลิ่นฐานของพราลีนและไม้กฤษณาค่ะ
จากกลิ่นที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้น้ำหอมเหมาะที่สุดที่จะทาในช่วงเย็นของฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเพราะจะให้กลิ่นหอมได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด สำหรับความติดทนนาน ขอบอกเลยว่าติดทนนานมากอย่างแน่นอน เพราะหลังจากผ่านไปแล้ว 6 ชั่วโมงกลิ่นก็ยังคงอยู่ค่ะ ส่วนบรรจุภัณฑ์มาในขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำเข้มที่มีฉลากสีเงินให้ความหรูหรามากเป็นพิเศษค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne Intense |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Cloves |
Middle Notes | Damask Rose |
Base Notes | Agarwood, Praline |
Jo Malone Scarlet Poppy Cologne Intense น้ำหอม

ราคา 5,900 บาท*
Jo Malone Scarlet Poppy Cologne Intense เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ฉีดครั้งแรกจะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ หลังจากนั้นไม่นาน กลิ่นหอมจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นที่เข้มข้นขึ้น ตัวกลิ่นจะเป็นการผสมผสานของกลิ่นดอกไม้และวานิลลาทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ กลิ่นเปิดกลิ่นแรกเป็นกลิ่นเทียนชะมด ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของออร์ริส ดอกป๊อปปี้และกลิ่นมะเดื่อฝรั่ง ปิดท้ายด้วยกลิ่นถั่วทองกา ข้าวบาร์เลย์และเฮเลียโทรฟ
กลิ่นของน้ำหอมให้ความรู้สึกนุ่ม สะอาดและสบาย แต่ยังแฝงไปด้วยความเย้ายวนและมีความหวานที่ทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่ใช้ น้ำหอมรุ่น Cologne Intense มีความติดทนนานมากเป็นพิเศษค่ะ โดยจะติดทนประมาณ 6 ชม. ขึ้นไปค่ะ ตัวขวดน้ำหอมมีความเป็นเอกลักษณ์มากค่ะ แตกต่างจากน้ำหอมรุ่นอื่น ๆ เพราะขวดน้ำหอมมาในสีแดงแรงฤทธิ์ ซึ่งดูเก๋ไก๋และดูมีรสนิยมมากเลยทีเดียวค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอม | Cologne Intense |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Ambrette Seeds |
Middle Notes | Orris, Poppy, Fig |
Base Notes | Tonka Bean, Barley, Heliotrope |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอม Jo Malone (โจมาโลน)
1. คอลเลกชันน้ำหอมของ Jo Malone
2. ใส่ใจกับโน้ตของน้ำหอม
คุณเคยได้ยินคำว่าท็อปโน้ต โน้ตหัวใจและเบสโน้ตไหม? หากคุณไม่เคยรู้จักเราจะขอบอกเลยว่าในน้ำหอมมีหลายกลิ่นที่คุณสามารถได้กลิ่นหลังจากที่ใช้งาน ซึ่งกลิ่นโน้ตเหล่านี้เป็นชั้นของกลิ่นที่จะสลับกันปรากฏขึ้นหลังจากฉีดน้ำหอมไปสักครู่หนึ่งค่ะ
- ท็อปโน้ต (Top Notes) ท็อปโน้ตคือกลิ่นที่หอมกลิ่นแรกของน้ำหอมที่เราจะได้กลิ่นค่ะ กลิ่นนี้จะคงอยู่เพียง 5-15 นาทีหลังจากฉีดพ่นน้ำหอมออกมา กลิ่นหอมจะให้ความรู้สึกสดชื่นและเป็นกลิ่นแรกที่หลายคนให้ความสนใจเมื่อซื้อน้ำหอมค่ะ
- โน๊ตหัวใจหรือโน้ตกลาง (Middle Notes/Heart Notes) โน๊ตหัวใจหรือโน้ตกลางเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของน้ำหอม กลิ่นกลางนี้เป็นกลิ่นที่เราสามารถสัมผัสได้ยาวนานที่สุด กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ
- เบสโน้ต (Base Notes) เบสโน้ตเป็นกลิ่นสุดท้ายที่เราจะได้กลิ่นซึ่งตัวกลิ่นจะมีความโดดเด่นและให้ความประทับใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งหลาย ๆ คนมักจะจำน้ำหอมจากกลิ่นสุดท้ายนี้ค่ะ ซึ่งกลิ่นผิดส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นของมัสค์ วานิลลา ไม้จันทน์และซีดาร์วูดค่ะ
3. ปริมาณของน้ำหอม
น้ำหอม Jo Malone มีวางจำหน่ายในขวดแก้วที่หรูหราและสวยงาม อีกทั้งยังมีหลายปริมาณให้เราได้เลือกซื้อตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แน่นอนว่าการซื้อน้ำหอมทางออนไลน์อาจเป็นเรื่องที่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณซื้อน้ำหอมเป็นครั้งแรกเพราะคุณไม่สามารถดมกลิ่นได้โดยตรง ดังนั้นคุณควรซื้อน้ำหอมขนาดเล็กมาก่อนเพื่อทดลองใช้ หากตรงกับกลิ่นที่คุณชอบ คุณสามารถซื้อน้ำหอมขวดที่ใหญ่ขึ้นได้ แต่ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไรให้ปรับเปลี่ยนตามงบประมาณที่คุณมีค่ะ
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม Jo Malone ให้ติดทนนานและหอมนานขึ้น
ก่อนจากกันวันนี้เราก็มีเคล็ดลับในการใช้น้ำหอม Jo Malone มาฝากกันค่ะ หากคุณเคยซื้อน้ำหอมที่ขายดีที่สุดและมีราคาแพงที่สุด แต่กลับต้องผิดหวังที่กลิ่นหอมจางหายไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปอย่างแน่นอนค่ะเพราะเคล็ดลับการใช้น้ำหอมของเราจะทำให้น้ำหอมที่คุณใช้มีกลิ่นหอมและติดทนนานมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้าง?
- ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจรหลาย ๆ จุดบนร่างกาย จุดชีพจร เช่น ข้อมือ คอ หลังข้อศอกและเข่าเป็นจุดที่สามารถตอบสนองต่ออุณหภูมิของร่างกายได้ดี อุณหภูมิร่างกายที่อบอุ่นจะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายไปทั่วร่างกายได้ดีมากและให้กลิ่นหอมยาวนาน
- ใช้น้ำหอมหลังอาบน้ำ หลังอาบน้ำผิวของเราจะยังคงความชื้นเอาไว้ ซึ่งความชื้นจะช่วยให้น้ำหอมซึมซับได้ดีขึ้น ทำให้กลิ่นหอมจะคงอยู่นานบนผิวของเรา
- อย่าถูน้ำหอมบนผิว เมื่อฉีดน้ำหอมลงบนผิวแล้ว ให้หลีกเลี่ยงการถูน้ำหอมบนผิว การถูน้ำหอมทำให้กลิ่นหอมหายไปอย่างรวดเร็วและน้ำหอมไม่สามารถส่งกลิ่นได้อย่างสมบูรณ์
- ห้ามฉีดน้ำหอมขึ้นไปในอากาศ หลายคนชอบฉีดน้ำหอมในอากาศแล้วเดินผ่าน แต่อันที่จริงแล้วน้ำหอมที่ฉีดไปในอากาศจะระเหยเร็วมาก แนะนำให้ฉีดน้ำหอมลงบนผิวเพื่อให้กลิ่นติดทนนาน
- ห้ามเขย่าขวดน้ำหอมก่อนฉีด หากคุณเขย่าขวดน้ำหอมอากาศสามารถเข้าไปได้ ซึ่งจะทำให้คุณภาพของน้ำหอมลดลง ดังนั้นห้ามเขย่าขวดน้ำหอมก่อนใช้
แบรนด์น้ำหอม Jo Malone London เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกค่ะ เพราะทางแบรนด์ใส่ใจในเรื่องคุณภาพของน้ำหอมและใช้กลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ที่สุด นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีกลิ่นเหมือนกับน้ำหอมไม่ว่าจะเป็นเทียนไข น้ำมันหอมระเหยและผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำค่ะ โดยคุณสามารถหาซื้อได้ตามกลิ่นที่ชอบเลยค่ะ