มาม่าเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่ทุกบ้านต้องมีค่ะ อันที่จริงแล้ว “มาม่า” เป็นชื่อแบรนด์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์หนึ่งในไทยค่ะ แต่ผู้เขียนจะขอเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งหมดว่ามาม่านะคะ เพราะผู้เขียนคิดว่าหลายคนคุ้นเคยกับคำนี้มากกว่าคำว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ผู้เขียนเองเป็นหนึ่งในคนที่ซื้อมาม่าติดตู้ไว้ตลอดเวลาเพราะหากวันไหนนึกเมนูอาหารไม่ออกและไม่รู้ว่าจะทานอะไรดีการทานมาม่าก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่สะดวก อร่อยและอิ่มท้องค่ะ โดยปกติแล้วผู้เขียนจะชื่นชอบมาม่าแบรนด์ไทยและมาม่าเผ็ดเป็นพิเศษเพราะมีรสชาติที่เข้มข้นและถูกปากผู้เขียนมากที่สุด แต่อีกหนึ่งมาม่าที่ผู้เขียนชอบเหมือนกันคือ “มาม่าเกาหลี” ค่ะ

หากได้ทานมาม่าเกาหลีร่วมกับการดูซีรีส์เกาหลีไปพลาง และทานคู่กับเครื่องเคียงอาหารเกาหลีอย่างกิมจิแล้วจะทำให้ความฟินในการทานมีมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ และจุดเด่นของมาม่าเกาหลีคือมีหลากหลายรสชาติ ทำให้เราสามารถสัมผัสกับรสชาติที่แปลกใหม่และเพลิดเพลินไปกับรสชาติอาหารเกาหลีได้ผ่านการทานมาม่า ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนเลยถือโอกาสมาแนะนำมาม่าเกาหลีที่รสชาติอร่อยและได้รับความนิยมกันค่ะ
ทำความรู้จักกับมาม่าเกาหลี
มาม่าเกาหลีมีมานานตั้งแต่ช่วงสงครามเกาหลีเลยค่ะ ในช่วงนั้นรามยอนหรือราเมงเกาหลีกลายเป็นอาหารที่ให้ความอิ่มท้องและมีราคาไม่แพง อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ข้าวขาดแคลนจึงทำให้รามยอนได้รับความนิยม ต่อมาในปี 1963 รามยอนได้พัฒนาขึ้นอีกขั้นโดยบริษัท Samyang Food โดยบริษัทนี้ได้รวมนวัตกรรมจากราเมงญี่ปุ่นและบะหมี่ของจีนเข้าไว้ด้วยกันจนเกิดเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแสนอร่อยที่มีเครื่องเทศที่ให้สารอาหารและแร่ธาตุได้อย่างลงตัว ผลิตภัณฑ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตชาวเกาหลีเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลกอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้มาม่าเกาหลีจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกว่าเดิมและมีการส่งออกไปยังเอเชีย ยุโรปและที่อื่น ๆ มากมาย ปัจจุบันมาม่าสไตล์เกาหลีเป็นส่วนหนึ่งของไลน์อาหารเกาหลี โดยเรียกว่า K-Food ซึ่งนอกจะมีราเมนคลาสสิกและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แล้วยังมีบิบิมบับ ต็อกบกกี ข้าวหน้าต่าง ๆ และอาหารทะเลรสเลิศอื่น ๆ ด้วย

เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับมาม่าไทย แต่เราอยากแนะนำให้ลองเปิดใจทานมาม่าเกาหลีบ้างคะ เพราะรสชาติอร่อยและจะทำให้เราสัมผัสถึงกลิ่นอายและความเป็นเกาหลีมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม
ขอบอกเลยว่ารีวิวของเราวันนี้ซื้อมาม่ามาต้มกินกันจริง ๆ หากพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะว่าจะมีมาม่าเกาหลี แบรนด์ไหนอร่อย และน่าซื้อมาลองกินกันบ้าง?
มาม่าเกาหลี อันไหนอร่อย (เลือกมาให้หลากหลายรสชาติ)
- มาม่าแห้งรสไก่เผ็ดสุดฮิต ตอบโจทย์คนชอบทานเผ็ด: Samyang Buldak Hot Chicken Ramen มาม่าเกาหลี
- มาม่าจาปากูรีจากภาพยนตร์ Parasite กลมกล่อมหอมกลิ่นซีฟูด: Nongshim Chapaguri Cup มาม่าเกาหลี
- มาม่าที่จิน BTS เป็นพรีเซนเตอร์ เส้นเหนียวนุ่มรสชาติเผ็ดร้อน: Ottogi Jin Ramen Spicy มาม่าเกาหลี
- มาม่าสตูกิมจิ ได้กลิ่นและรสชาติของกิมจิเกาหลีแท้ ๆ: Youus Omori Kimchi Stew Cup Ramen มาม่าเกาหลี
- มาม่าเกาหลีรสชีสเข้มข้น อร่อยถึงใจ : Ottogi Cheese Ramen มาม่าเกาหลี
- มาม่ารสบิบิมบับ เสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น: Paldo Bibimmen Ramen มาม่าเกาหลี
Samyang Buldak Hot Chicken Ramen มาม่าเกาหลี

ราคา 48 บาท*
มาม่าเกาหลี แม้จะเผ็ดแต่ก็สู้เพราะอร่อยถึงใจ
Samyang Buldak Hot Chicken Ramen เป็นมาม่าเกาหลีที่ตอบโจทย์หากคุณชอบทานอาหารรสเผ็ดร้อนค่ะ เป็นรสชาติที่หลาย ๆ คนรู้จักอย่างแน่นอนเพราะมียอดขายดีมาก และได้รับความนิยมในไทยแบบที่เหล่า Influencer ซื้อมาอัดคลิปกินโชว์กันตามโซเซียลเพื่อโชว์สกิลความสามารถในการกินเผ็ด อีกทั้งแบรนด์ Samyang เองก็เป็นแบรนด์มาม่าเกาหลีดั้งเดิมด้วย
รสชาติของมาม่าคือรสไก่เผ็ดหรือที่หลายคนเรียกกันว่า “มาม่าพ่นไฟ (Fire noodle)” จะมีรสชาติเผ็ดร้อนโดยจะสามารถสัมผัสได้ถึงความเผ็ดตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ทาน หากคุณได้ติดตามโซเชียลในช่วงหนึ่งจะมีชาเลนจ์เป็นวิดีโอไวรัลที่คนในเกาหลีใต้พยายามแข่งกันกินมาม่าเพื่อดูว่าใครทำสถิติได้ดีที่สุดด้วย ใครที่ชอบมาม่ารสเผ็ดห้ามพลาดเลยนะคะ นอกจากมาม่าซองสีดำแล้วทางแบรนด์ยังมีมาม่าซองสีแดงแบบเผ็ด 2x และ 3x ด้วย

Samyang Buldak Ramen เป็นมาม่าที่คนทานเผ็ดต้องห้ามพลาดค่ะ สำหรับผู้เขียนมองว่ารสชาติของมาม่ามีความเข้มข้นมาก มีการผสมผสานความหวานและเผ็ด หากใครที่ทานเผ็ดได้มาม่ารสชาตินี้จะต้องถูกปากอย่างแน่นอน ตอนแกะซองเครื่องปรุงออกมาตอนแรกผู้เขียนค่อนข้างตกใจกับสีของเครื่องปรุงค่ะ เพราะมันเข้มมากแค่ดูก็รู้แล้วว่าต้องเผ็ด ส่วนเส้นมาม่าก็มีความเหนียวนุ่มทานได้ง่าย เมื่อได้คลุกเคล้ากับเส้นมาม่ารสชาติก็ยิ่งอร่อยค่ะ ผู้เขียนเองค่อนข้างชอบเลยค่ะถึงแม้จะเผ็ดแต่ก็สู้เพราะอร่อยถึงใจค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 140 กรัม / 1 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบแห้ง |
รสชาติ | ไก่เผ็ด |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,590 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 540 กิโลแคลอรี |
Samyang Buldak Hot Chicken Carbonara Ramen มาม่าเกาหลี

ราคา 39 บาท*
รสไก่เผ็ดคาโบนาร่า มีความเผ็ดแบบละมุน
Samyang Buldak Hot Chicken Carbonara Ramen มาม่าเกาหลีอีกหนึ่งรสชาติที่ขายดีค่ะ โดยรสชาติของมาม่าซองสีชมพูคือรสไก่เผ็ดคาโบนาร่า เป็นมาม่าประเภทฟิวชันที่ผสมผสานราเมนเกาหลีคลาสสิกเข้ากับกลิ่นอายของอิตาลี รสชาติมีความเผ็ดร้อนค่ะ ในความคิดของผู้เขียนมองว่าความเผ็ดพอ ๆ กับ Samyang Buldak Hot Chicken Ramen เลยค่ะ แต่อาจจะมีความละมุนมากกว่าเพราะมีการผสมคาโบนาร่าเข้าไป ใครที่ชอบมาม่าคาโบนาร่าต้องห้ามพลาดเลยค่ะ

Samyang Buldak Hot Chicken Carbonara Ramen มาม่าเกาหลีผสมผสานกลิ่นอายของอิตาเลียนที่คนชอบทานคาโบนาร่าต้องชอบค่ะ เครื่องปรุงรสในซองของมาม่ามีการผสมผสานระหว่างเครื่องเทศ ครีมและชีสจากเกาหลี รับรองว่าเมื่อทานเข้าไปแล้วคุณจะเพลิดเพลินไปรสชาติอย่างแน่นอน ผู้เขียนค่อนข้างชอบสีของมาม่าเมื่อปรุงเสร็จแล้วค่ะ เพราะสีสดและน่ารับประทานเป็นอย่างมาก เมื่อทานเข้าไปแล้วแบรนด์ซัมยังก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเพราะรสชาติดี อร่อย เผ็ดและนัวมากค่ะ สายคาโบนาร่าต้องซื้อเท่านั้น
ปริมาณ/จำนวน | 130 กรัม / 1 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบแห้ง |
รสชาติ | คาโบนาร่า |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,200 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 480 กิโลแคลอรี |
Nongshim Shin Ramyun มาม่าเกาหลี

ราคา 160 บาท*
รสเนื้อมาพร้อมน้ำซุปที่ไม่เผ็ดมากจนเกินไป อร่อยเลย
Nongshim Shin Ramyun เป็นมาม่าอีกหนึ่งรสชาติที่ได้รับความนิยมพอ ๆ กับ Samyang Buldak Hot Chicken Ramen เลยค่ะ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วแบรนด์นงชิมผลิตมาม่ามาตั้งแต่ปี 1986 และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามาม่าของทางแบรนด์ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
รสชาติของมาม่าเป็นรสเนื้อมาพร้อมน้ำซุปที่ไม่เผ็ดมากจนเกินไปทำให้ทานได้ง่าย ในการทานสามารถรับประทานเดี่ยว ๆ ได้เลยหรือจะทานร่วมกับอาหารเกาหลีอย่างซัมกยอบซัล กิมจิ คิมบับหรือเกี๊ยวก็ได้ ผู้เขียนมองว่ารสชาติของ Nongshim Shin Ramyun คือดีเลยค่ะเพราะทางแบรนด์ผสมผสานระหว่างเส้นมาม่าที่เหนียวนุ่มและรสเผ็ดของเนื้อวัว อีกทั้งในซองยังมีแครอทและเห็ดเพื่อให้น่ารับประทานมากขึ้นด้วย
Nongshim Shin Ramyun เป็นมาม่าเกาหลียอดนิยมและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกค่ะ ใครที่ชอบมาม่ารสเนื้อพร้อมซุปที่มีรสเผ็ดอ่อน ๆ จะต้องชอบมาม่าจากนงชิมอย่างแน่นอน เส้นมาม่าของทางแบรนด์เป็นเส้นหนา น้ำซุปเนื้อมีความกลมกล่อมและได้รสชาติของเครื่องเทศที่ชัดเจน ถือเป็นมาม่าเกาหลีอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผู้เขียนชื่นชอบค่ะ แต่หากต้องการให้มาม่าอร่อยมากยิ่งขึ้นอย่าลืมเพิ่มเนื้อ ไข่และผักเข้าไปด้วยค่ะ รับรองว่าอิ่ม อร่อย อยู่ท้องอย่างแน่นอน
ปริมาณ/จำนวน | 120 กรัม / 5 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบซุป |
รสชาติ | เนื้อ |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,760 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 510 กิโลแคลอรี |
Nongshim Chapaguri Cup มาม่าเกาหลี

ราคา 64 บาท*
มีรสชาติที่ผสมผสานกันของจาจังมยอน และนอกูรี
Nongshim Chapaguri Cup มาม่าเกาหลีแบบคัพที่เราภูมิใจนำเสนอค่ะ ใครที่เคยดูภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Parasite จะต้องคุ้นเคยกับเมนูนี้อย่างแน่นอน เพราะในเรื่องตัวละครได้นำมาม่าเกาหลี Nongshim Chapaghetti และ Nongshim Neoguri Udon Spicy Seafood มาผสมกันจนเป็นเมนูที่เรียกว่า “จาปากูรี” แต่หากคุณซื้อมาม่าคัพรสชาตินี้ไม่ต้องผสมให้ยุ่งยากค่ะ เพราะทางแบรนด์ได้ผสมมาให้เรียบร้อยแล้ว
รสชาติของมาม่าเป็นรสซีฟูดกลิ่นหอมน่ารับประทานมาก มาในรูปแบบคัพยิ่งทานได้ง่ายกว่าเดิม ในการทานคุณแค่เติมน้ำร้อนลงไปแล้วไปรอให้เส้นสุกแล้วเทน้ำออก ต่อมาให้ใส่เครื่องเทศผสมให้เข้ากันเสร็จแล้วก็ทานได้เลยค่ะ
Nongshim Chapaguri เป็นอีกมาม่าเกาหลีที่ขายดีค่ะ หลายคนเรียกว่า “เมนูมาม่าออสการ์” เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์และหลายคนที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ลองทำเมนูนี้กันเยอะมาก รสชาติที่ผสมผสานกันของจาจังมยอนและนอกูรีเข้ากันได้ดีมาก ผู้เขียนเองไม่เคยคิดว่ารสชาติจะอร่อยและดีขนาดนี้ค่ะ ส่วนตัวแล้วรสชาติของ Nongshim Chapaguri จะเด่นในส่วนของจาจังมยอนมากกว่า ผู้เขียนคิดว่าหากปรับรสชาติของนอกูรีให้เข้มข้นกว่านี้หน่อยรสชาติก็จะอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 108 กรัม / 1 ถ้วย |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบแห้ง |
รสชาติ | ซีฟูด (จาจังมยอน + นอกูรี) |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อถ้วย) | 1,020 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อถ้วย) | 530 กิโลแคลอรี |
Ottogi Jin Ramen Spicy มาม่าเกาหลี

ราคา 125 บาท*
กลิ่นของน้ำซุปหอม มีระดับความเผ็ดให้เลือก
Ottogi Jin Ramen Spicy มาม่าเกาหลีที่พี่จิน BTS เป็นพรีเซนเตอร์ค่ะ ตอนแรกที่เห็นผลิตภัณฑ์ผู้เขียนคิดว่าเป็นแบรนด์ของพี่จินจริง ๆ เพราะมีชื่อว่า “จินรามยอม (Jin Ramen)” เหมือนชื่อพี่จินเลยค่ะ มาม่าเป็นรสเผ็ดค่ะแต่นอกจากรสเผ็ดแล้วก็ยังมีสูตร Mild หรือเผ็ดน้อยให้เราเลือกซื้อด้วย
รสชาติของซุปอัดแน่นไปด้วยเครื่องเทศและเป็นซุปราเมนเกาหลีที่รสชาติดี อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมที่แตกต่างกันมากมาย นอกจากเส้นมาม่าที่เหนียวนุ่มแล้ว ยังมีน้ำซุปกระดูกวัว พริกแดง สารสกัดจากสาหร่ายเคลป์ แครอท เห็ด ต้นหอมและอื่น ๆ ด้วย ใครที่ชอบมาม่าเกาหลีที่เข้มข้นแนะนำเลยค่ะเพราะอร่อยจริง ๆ ขนาดพี่จิน BTS ยังชอบทานเลยค่ะ อิอิ
มาม่า Ottogi Jin Ramen Spicy เส้นเหนียวนุ่มหนึบมาก ในการเลือกซื้อสามารถซื้อรสชาติที่ชอบได้ค่ะ ใครที่ทานเผ็ดได้ไม่มากก็เลือกรส Mild (เผ็ดน้อย) แต่ผู้เขียนชอบรสชาติ Spicy มากเพราะเข้มข้นถึงใจดี น้ำซุปมีรสเผ็ดแซ่บ ๆ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานมาม่าได้ ความเผ็ดของมาม่าค่อนข้างจัดจ้านค่ะแต่ก็ไม่สามารถเทียบกับความเผ็ดของ Samyang Buldak Ramen ได้ กลิ่นของซุปหอมมากชวนรับประทานเป็นอีกหนึ่งมาม่าเกาหลีที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้
ปริมาณ/จำนวน | 120 กรัม / 6 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบซุป |
รสชาติ | เผ็ด |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,880 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 500 กิโลแคลอรี |
Youus Omori Kimchi Stew Cup Ramen มาม่าเกาหลี

ราคา 69 บาท*
น้ำซุปรสกิมจิ สูตรเข้มข้น
Youus Omori Kimchi Stew มาม่าเกาหลีรสกิมจิที่มีทั้งแบบซองและแบบถ้วย(คัฟ) ให้เราได้เลือกซื้อค่ะ เป็นมาม่ากิมจิต้นตำรับที่ทำให้เราสามารถรับรสชาติของซุปกิมจิเข้มข้นได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เส้นมาม่ามีความเหนียวนุ่มเมื่อได้ทานร่วมกับน้ำซุปยิ่งชูรสชาติของมาม่าให้อร่อยยิ่งขึ้นกว่าเดิม หากคุณชอบกิมจิจิเกหรือสตูกิมจิ คุณจะต้องชอบเมนูอย่างแน่นอนเพราะเข้มข้นจริง ๆ สายกิมจิต้องไม่พลาด
Youus Omori Kimchi Stew มีเส้นมาม่าที่บางคล้ายกับมาม่าไทยเลยแต่มีความเหนียวนุ่มมากกว่า ซึ่งเข้ากับรสชาติของซุปกิมจิมากเลยค่ะ กลิ่นของมาม่าคล้ายกับกลิ่นกิมจิที่หมักไว้นานแล้ว มีทั้งกลิ่นเปรี้ยวและเผ็ดเมื่อทานน้ำซุปเข้าไปจะได้กลิ่นหอมของผงพริกแดง ส่วนในเรื่องความเผ็ดมาม่ามีรสเผ็ดอยู่ค่ะแต่ไม่ได้เผ็ดมากขนาดนั้น เป็นความเผ็ดที่จะช่วยเพิ่มรสชาติโดยรวมของมาม่า
ปริมาณ/จำนวน | 150 กรัม / 1 ถ้วย |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบน้ำ |
รสชาติ | สตูกิมจิ |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อถ้วย) | 1,870 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อถ้วย) | 490 กิโลแคลอรี |
Nongshim Neoguri Udon Spicy Seafood มาม่าเกาหลี

ราคา 45 บาท*
รสชาติน้ำซุปซีฟูดที่เผ็ดร้อน ทานง่าย
Nongshim Neoguri Udon Spicy Seafood เป็นอีกหนึ่งมาม่าเกาหลีในตำนาน เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1982 และได้รับความนิยมเรื่อยมา เป็นมาม่าเกาหลีที่อยู่ในเมนูจาปากูรีและเป็นส่วนผสมของ Nongshim Chapaguri ด้วย เป็นเส้นอุด้งที่เหนียวหนึบและนุ่มละมุนลิ้น มาพร้อมรสชาติน้ำซุปซีฟูดที่เผ็ดร้อนทานแล้วอุ่นท้อง ทางแบรนด์ได้ผสมอาหารทะเลหลากหลายชนิดและสาหร่ายทะเลแห้งเข้าไปเพื่อทำให้มาม่าอร่อยมากกว่าเดิม ใครที่ชื่นชอบรสชาติของซีฟูดห้ามพลาดนะคะเพราะอร่อยจริง หากได้เพิ่มอาหารทะเลเข้าไปในมาม่าด้วยจะยิ่งอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ
Nongshim Neoguri Udon Spicy Seafood เป็นมาม่าที่มีการผสมผสานระหว่างอาหารทะเลและซุปอันเป็นเอกลักษณ์ของคนเกาหลีใต้ ผู้เขียนค่อนข้างชอบเส้นมาม่าเพราะอร่อยและเหนียวนุ่ม ทานเข้ากันได้ดีกับน้ำซุปรสอาหารทะเล รสชาติของมาม่ามีความเผ็ดเล็กน้อย เป็นความเผ็ดที่ไม่ได้เผ็ดมากค่ะแค่เพิ่มความเผ็ดเข้าไปเพื่อให้รสชาติเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ใครที่ชอบมาม่ารสซีฟูดต้องห้ามพลาดเลยค่ะเพราะ Nongshim Neoguri Udon Spicy Seafood เขาทำมาดีจริง ๆ
ปริมาณ/จำนวน | 120 กรัม / 1 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบซุป |
รสชาติ | ซีฟูด |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,010 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 260 กิโลแคลอรี |
Ottogi Cheese Ramen มาม่าเกาหลี

ราคา 179 บาท*
มาม่ารสชีส ไม่เผ็ด เด็กทานได้
Ottogi Cheese Ramen มาม่าสไตล์เกาหลีที่เหมาะสำหรับคนชอบทานชีส มีเครื่องเทศที่เข้มข้นผ่านการผสมกับผงชีส ซึ่งเมื่อคุณเติมน้ำลงไปจะทำให้มาม่ามีเนื้อครีมชีสและน่ารับประทาน พร้อมรสชาติของชีสที่เข้มข้นมากค่ะ รสชาติของน้ำซุปไม่เผ็ดเลยเหมาะสำหรับเด็กและคนที่ทานมังสวิรัติ ภายในซองไม่มีเนื้อสัตว์แห้ง แต่มีผักอบแห้งและเชดดาร์ชีสค่ะ จากรีวิวมากมายทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ Ottogi Cheese Ramen เป็นมาม่าเกาหลีที่ได้รับความนิยมรองมาจาก Ottogi Jin Ramen เลยค่ะ ใครที่ชอบมาม่ารสชีสห้ามพลาดนะคะเพราะอร่อยถึงใจถึงรสชีสค่ะ
Ottogi Cheese Ramen เป็นมาม่าที่ตอบโจทย์คนชอบชีสจริง ๆ ค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่ชอบทานชีส แต่รสชาติของมาม่าชีสจากทางแบรนด์ก็อร่อยค่ะคนที่ชอบชีสน่าจะประทับใจเลย ในซองมาม่านอกจากน้ำซุปและผักแบบซองแล้ว ยังมีผงชีสที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับมาม่าด้วย การผสมผสานกันของเครื่องปรุงรสทำให้มาม่ามีความครีมมี่ เส้นมาม่าที่เหนียวนุ่มก็เข้ากับรสชาติของน้ำซุปได้ดีเลย มาม่าไม่เผ็ดนะคะเด็กทานได้
ปริมาณ/จำนวน | 120 กรัม / 6 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบซุป |
รสชาติ | ชีส |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,820 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 460 กิโลแคลอรี |
Paldo Bibimmen Ramen มาม่าเกาหลี

ราคา 42 บาท*
มาม่ารสบิบิมบับ ทานได้ทั้งร้อนและเย็น
Paldo Bibimmen Ramen มาม่าที่คนชอบอาหารเกาหลีต้องไม่พลาด เพราะเป็นมาม่าเย็นรสบิบิมบับค่ะ ในการทำมาม่าจะต้องลวกเส้นมาม่าให้สุกก่อนแล้วนำเส้นไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ นอกจากนี้ยังสามารถแช่เส้นในชามน้ำแข็งได้เพื่อให้เส้นเย็นเร็วขึ้น โดยรวมแล้วมาม่าให้ความรู้สึกสดชื่นเหมาะกับหน้าร้อนสุด ๆ ไปเลย
ส่วนรสชาติมีความเผ็ดของพริกแดง ผสมผสานกับความหวานของแอปเปิลเกาหลีเป็นรสชาติที่เข้ากันได้ดี นอกจากนี้เส้นมาม่าจะยิ่งเคี้ยวหนึบมากขึ้นเมื่อแช่เย็นด้วยค่ะ ใครที่ชอบกินเมนูบะหมี่เย็น ต้องลอง Paldo Bibimmen Ramen เลยค่ะ นอกจากทานแบบเย็นแล้วแบบร้อนก็ทานได้นะคะ
Paldo Bibimmen Ramen เป็นมาม่าแห้งแบบไม่มีน้ำซุปที่สามารถรับประทานได้ทั้งร้อนและเย็น ผู้เขียนมองว่าไอเดียนี้เป็นไอเดียที่ดีเลยค่ะ เพราะไม่บ่อยนักที่จะมีมาม่าให้เราเลือกได้ว่าจะทานแบบร้อนหรือเย็น รสชาติของมาม่ามีความคล้ายซอสพริก มีความหวานและเผ็ดแบบลงตัว เส้นมาม่ามีความเหนียว นุ่ม ทานได้ง่าย เส้นมีความแวววาวน่ารับประทานมากค่ะ หากให้ผู้เขียนให้คะแนนผู้เขียนให้ที่ 8/10 เลยเพราะแปลกใหม่และอร่อยค่ะ
ปริมาณ/จำนวน | 130 กรัม / 1 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบแห้ง |
รสชาติ | บิบิมบับ |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,400 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 540 กิโลแคลอรี |
Nongshim Budae Jjigae Noodle Soup มาม่าเกาหลี

ราคา 55 บาท*
น้ำซุปบูเดชิเกเข้มข้น เส้นมีความเหนียวนุ่ม
Nongshim Budae Jjigae Noodle Soup มาม่ารสบูเดชิเกที่ต้องลองสักครั้งค่ะ ปกติแล้วบูเดชิเกจะประกอบด้วยถั่วอบ แฮม ไส้กรอก สแปม กิมจิและบะหมี่ ผสมผสานพริกแดงอย่างโคชูจังเข้าไปทำให้รสชาติอร่อยและสบายท้องค่ะ เฉพาะหากคุณอยากทานบูเดชิเกก็ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี เพียงแค่ซื้อมาม่ารสนี้ ก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติของบูเดชิเกแล้วค่ะ
ซุปของมาม่าบูเดชิเกมีความเข้มข้นมาก เส้นมาม่ามีความเหนียวนุ่ม แต่ถ้าหากอยากทานให้อร่อยแบบจัดเต็มจริง ๆ อย่าลืมเติมเนื้อสัตว์ตามฉบับของบูเดชิเกไปด้วยนะคะ
Nongshim Budae Jjigae Noodle Soup เป็นมาม่าที่เหมาะกับคนชอบทารบูเดชิเกค่ะ เส้นมาม่ามีความบางกว่ามาม่าจากแบรนด์อื่น ๆ แต่ยังคงเหนียวนุ่ม ผู้เขียนคิดว่าเส้นมาม่าถูกต้องออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับรสชาติของบูเดจิเก คุณสามารถรับน้ำซุปที่มีไขมันได้ดีกับบะหมี่ประเภทนี้ กลิ่นของมาม่ามีความคล้ายกับบูเดชิแกแบบโฮมเมดจริง ๆ มีกลิ่นหอมของกิมจิ ผงพริกแดงและสแปม น้ำซุปมีความเผ็ดและเค็มลงตัวมากค่ะ ใครที่ชอบทานอาหารเกาหลีอยู่แล้วแนะนำเลยรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ แต่มาม่ารสนี้โซเดียมแอบสูงนะคะระวังกันด้วย
ปริมาณ/จำนวน | 127 กรัม / 1 ซอง |
---|---|
รูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | แบบซุป |
รสชาติ | บูเดจิเก |
ปริมาณของโซเดียม (ต่อซอง) | 1,980 มก. |
ปริมาณของพลังงานทั้งหมด (ต่อซอง) | 530 กิโลแคลอรี |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อมาม่าเกาหลี
1. เลือกระหว่างมาม่าแห้งหรือมาม่าที่มีน้ำซุป
มาม่าเกาหลีก็เหมือนมาม่าจากประเทศอื่น ๆ ค่ะ โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือประเภทที่มีน้ำซุปและประเภทที่ไม่มีน้ำซุป แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและอร่อยเหมือนกัน จุดเด่นเลยก็คือมาม่าเกาหลีทั้งสองแบบมีเครื่องปรุงรสและเครื่องเคียงแบบผงมาให้ด้วยเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย แต่ส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่ามาม่าเกาหลีแบบน้ำผงซุปจะเข้มข้นกว่าเพราะจะต้องละลายน้ำและผู้เขียนเองก็ชอบมาม่าแบบน้ำมากกว่าเหมือนกันเพราะทานแล้วอุ่นท้อง ตอนนี้ผู้เขียนจะพาคุณไปดูความแตกต่างของมาม่าทั้งสองประเภทค่ะ
|
มาม่าแบบแห้งในขั้นตอนการทำคุณยังคงต้องต้มเส้นมาม่าในน้ำและจะต้องสะเด็ดน้ำออกหลังจากต้มเส้นสุกแล้ว รสชาติที่เข้มข้นของมาม่าแบบแห้งได้มาจากซองเครื่องปรุงรสที่ทางแบรนด์ให้มา โดยจะมีเครื่องปรุงแบบผงและมีน้ำมันที่เป็นของเหลว มาม่าแบบแห้งมีรสชาติที่เข้มข้นและอร่อยค่ะ หากคุณเลือกรสเผ็ดขอบอกเลยว่ามาม่าแห้งรสเผ็ดจะเผ็ดมากต้องเตรียมน้ำเอาไว้ดื่มเยอะ ๆ เลย |
|
มาม่าแบบซุปมาม่าที่มาพร้อมกับน้ำซุปจะช่วยให้อิ่มท้องมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานร่วมกับมื้ออาหารได้เมื่อคุณไม่มีเวลาทำซุปใหม่ค่ะ ผู้เขียนมองว่ามาม่าแบบซุปยังมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเรียกน้ำย่อยก่อนทานอาหารมื้อหลัก เนื่องจากซุปในมาม่าสามารถเสิร์ฟเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้ อีกทั้งมาม่าพร้อมน้ำซุปก็เหมาะสำหรับมื้ออาหารจานด่วนเช่นกันเพราะทำได้ง่าย แต่ถ้าหากอยากให้มาม่าแบบซุปอร่อยขึ้นอย่าลืมตอกไข่เข้าไปด้วยสักฟองนะคะ รับรองว่าอร่อยจนลืมไม่ลง |
2. เลือกรสชาติที่ต้องการ
มาม่าเกาหลีมีหลากหลายรสชาติซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยชื่นชอบมาม่าเกาหลีมาก ในการเลือกซื้อคุณสามารถลองชิมรสชาติของมาม่าเกาหลีได้มากมายนับไม่ถ้วนจากแต่ละแบรนด์แล้วค่อย ๆ เปรียบเทียบเอาว่าคุณชอบรสชาติไหนมากที่สุด แต่หากคุณไม่ชอบการทดลองเราแนะนำให้เลือกรสชาติที่คุ้นเคย เช่น รสชาติอาหารทะเลหรือรสเนื้อก็ได้ค่ะเพราะทานได้ง่าย ใคร ๆ ก็สามารถทานมาม่าเกาหลีเหล่านี้ได้
แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบทานอาหารเกาหลีอยู่แล้ว ผู้เขียนอยากแนะนำให้เลือกทานมาม่าเกาหลีรสจาจังมยอน ที่เป็นเมนูที่ฮิตมาก รูปแบบของมันคือมาม่าราดซอสถั่วดำที่มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน
นอกจากรสจาจังมยอนแล้วมาม่าเกาหลีรสจับแช กิมจิและบิบิมบับก็อร่อยเหมือนกัน อีกทั้งมาม่าเกาหลียังมีรสชีสและรสแกงกะหรี่ให้เราได้เลือกซื้อด้วย ซึ่งการเลือกรสชาติเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนค่ะ แนะนำเลยว่าหากชอบรสชาติแบบไหนให้เลือกซื้อรสชาติแบบนั้น
3. เช็กความเผ็ดของมาม่าเกาหลี
ถ้าปกติแล้วคุณชอบทานอาหารรสเผ็ดมาม่าเกาหลีเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ตอบโจทย์คุณได้ดีอย่างแน่นอน เพราะมาม่าเกาหลีมีหลายแบรนด์และมีรสชาติที่หลากหลายให้เราได้เลือกซื้อ ซึ่งระดับความเผ็ดของเครื่องเทศในมาม่าเกาหลีจะระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์เสมอ หากคุณต้องการมาม่าเกาหลีที่มีความเผ็ดเล็กน้อยให้มองหาฉลากที่ระบุว่า “Mild” หรือเลือกมาม่าเกาหลีที่มีรูปพริกหน้าซอง 1 เม็ดก็ได้ค่ะ แต่หากคุณเป็นคนที่ทานเผ็ดได้อยู่แล้วและชอบรสชาติที่เข้มข้นให้เลือกมาม่าที่มีฉลากว่า “Hot” หรือ “2x” หรือจะเลือกแบบ “3x” หรือ “4x” ก็ได้ค่ะ
แต่จำไว้นะคะว่ายิ่งตัวเลขมากเท่าไหร่ความเผ็ดก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ใครที่ทานเผ็ดไม่ได้ต้องหลีกเลี่ยงเลยนะคะอย่าหาว่าผู้เขียนไม่เตือนนะเพราะเผ็ดจริงจังค่ะมีน้ำหูน้ำตาไหลอย่างแน่นอน
4. เลือกประเภทของบรรจุภัณฑ์ตามวิธีการบริโภคที่คุณต้องการ
มาม่าคัพ
มาม่าคัพหรือที่เรารู้จักกันในชื่อมาม่าแบบถ้วย เป็นมาม่าที่มักจะมาในชามพลาสติกหรือชามกระดาษแข็ง บรรจุภัณฑ์แบบนี้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกเพราะแทบจะไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ทางแบรนด์เตรียมเส้น เครื่องปรุงและซ้อมเอาไว้ให้แล้ว ในการทานเราใช้แค่น้ำเดือดเท่านั้นค่ะ มาม่าคัพบางแบรนด์สามารถเอาเข้าไมโครเวฟได้ ทำให้มาม่าคัพเหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการอาหารว่างที่ใช้เวลารวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถทานได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นมื้อเที่ยง ตอนบ่ายหรือทานเป็นอาหารตอนเที่ยงคืนก็ได้ค่ะ ผู้เขียนชอบตรงที่มาม่าคัพสามารถพกพาได้ เมื่อทานเสร็จแล้วก็ไม่ต้องล้างแค่ทิ้งลงในถังขยะก็พอ
มาม่าซอง
มาม่าแบบซองมีวิธีการทำและปรุงมาม่าที่ซับซ้อนมากกว่ามาม่าคัพค่ะ ในการทำมาม่าแบบซองเราจะต้องเปิดเตาแก๊ส ใช้ไมโครเวฟหรือใช้หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ต้องเตรียมถ้วยและช้อนส้อมเองทั้งหมด การใช้อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากแต่ข้อดีคือให้ความรู้สึกแบบโฮมเมดมากกว่า นอกจากนี้มาม่าแบบซองยังเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการเติมเนื้อสัตว์ ผักหรือไข่ลงไปในมาม่า ปกติแล้วมาม่าแบบซองจะมีราคาที่ถูกกว่าแบบถ้วยและเราสามารถซื้อในปริมาณที่เยอะขึ้นได้เพราะนอกจากจะมีมาม่าเกาหลีแบบซองเดี่ยววางขายแล้วยังมีมาม่าเกาหลีแบบซองที่ขายเป็นแพ็กด้วย ใน 1 แพ็กจะมีมาม่าประมาณ 6 ซองค่ะ
เคล็ดลับและเทคนิคในการทำมาม่าเกาหลีให้อร่อย
เคล็ดลับสำคัญในการปรุงมาม่าเกาหลีให้อร่อยมักขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนค่ะ ผู้เขียนมองว่าการทานมาม่าเกาหลีเพียงอย่างเดียวก็อร่อยดี แต่หากได้เติมเนื้อสัตว์อย่างไก่ หมู เนื้อวัวหรือปลาลงไปก็ดูอร่อยค่ะ เราอยากแนะนำให้เติมเนื้อสัตว์ตามรสชาติของซุปมาม่าเกาหลี หากมาม่าเกาหลีที่ซื้อเป็นรสไก่ก็เติมไก่ หากเป็นรสเนื้อก็เติมเนื้อวัวลงไป หากเป็นซุปซีฟูดก็ควรจะเติมกุ้งหรือปลาหมึกลงไปค่ะ ส่วนเนื้อสัตว์เทียมอย่างเต้าหู้หรือหมูแดงเจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ทานเจและมังสวิรัติ
นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มเครื่องอื่น ๆ เช่น ไข่ลวก ต้นหอมสดสับหรือผักมากมายตามความชอบของตัวเองได้ แน่นอนว่ามาม่าเกาหลีสามารถเติมผักได้หลายชนิดค่ะ จะเติมข้าวโพดอ่อน บรอกโคลี เห็ด แครอท ขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือแตงกวาก็ได้ตามความชอบของคุณเลย จุดหนึ่งที่ผู้เขียนมองว่าเป็นความสำคัญต่อความอร่อยคือการเลือกรสชาติค่ะ หากเลือกรสชาติที่ตรงกับความชอบของตัวเองการทานมาม่าเกาหลีก็อร่อยมากยิ่งขึ้น ซึ่งรสชาติของมาม่าเกาหลีก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ