เชื่อว่าใครที่มีพื้นที่กว้างภายในบ้านส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งโซนเอาไว้สำหรับการทำสวนเพื่อปลูกผัก, ดอกไม้หรือต้นไม้ประดับบ้านให้สวยขึ้น แต่การตกแต่งสวนก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำสวนให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น เสียม, กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้, บัวรดน้ำต้นไม้, ช้อนปลูก, ส้อมพรวน หรือถุงมือทำสวน อย่างไรก็ดีนอกจากอุปกรณ์สำหรับการปลูกแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมด้วยนั่นคืออุปกรณ์สำหรับการทำความสะอาด ยิ่งบ้านใครมีต้นไม้ใหญ่ก็จะยิ่งมีใบไม้ร่วงอยู่ตามสวนค่อนข้างมาก การเก็บก็ยากตามไปด้วย แต่ปัญหาตรงนี้แก้ได้ด้วยการใช้ ‘เครื่องเป่าใบไม้’ เป่าให้ใบไม้กองรวมกันในจุดเดียว จากนั้นก็กวาดเก็บได้ภายในครั้งเดียว อีกทั้งในบางเครื่องยังดูดกำจัดและย่อยเศษใบไม้ให้กับเราอีกด้วยครับ ทำให้เครื่องเป่าใบไม้กลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ทุกบ้านจะต้องมีเก็บไว้ใช้งาน
เครื่องเป่าใบไม้ยี่ห้อไหนเหมาะกับคุณ
- เครื่องเป่าใบไม้ 2 จังหวะ : KANTO 🇹🇭 เครื่องเป่าลม เป่าใบไม้ รุ่น KT-BW630-STORM
- เครื่องเป่าใบไม้ไร้สาย: INGCO เครื่องเป่าลมไร้สาย 20V รุ่น CABLI200181
- เครื่องเป่าใบไม้ไฟฟ้า: Total เครื่องเป่าลม ไร้สาย รุ่น TABLI20428 ( Li-ion Blower )
- เครื่องเป่าใบไม้แบบเติมน้ำมัน: KASEI เครื่องเป่าลม สะพายหลัง EB-500E
- เครื่องเป่าใบไม้ราคาถูก: STELLAR 3in1 เครื่องเป่าใบไม้ เครื่องดูดใบไม้
ข้อดีของการใช้เครื่องเป่าใบไม้

1. ประหยัดเวลา
เครื่องเป่าใบ้ไม้ช่วยลดเวลาในการเคลียร์ใบไม้ได้เยอะมาก เพราะลมที่ปล่อยออกมาแรงพอที่จะเคลียร์ใบไม้ได้ภายในไม่กี่วินาที ในขณะที่การกวาดโดยใช้ไม้กวาดอาจต้องใช้เวลานานกว่าและออกแรงเยอะกว่าค่อนข้างมาก ดังนั้นเครื่องเป่าสามารถช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดไปได้เยอะเลยครับ
2. ใช้งานง่ายมาก
ฟังก์ชันของเครื่องเป่าใบไม้โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรเลยครับ เพียงแค่หยิบเครื่องมาและกดปุ่ม Power ทำงานก็พร้อมทำความสะอาดใบไม้ได้แล้ว แม้แต่เด็กบางคนเองก็สามารถใช้เครื่องนี้ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร
3. ทำความสะอาดได้ในทุกพื้นที่
ในบางครั้งพื้นที่แคบ ๆ หรือพื้นที่สูงอย่างเช่นมุมหลังคาหรือตามซอกบ้านต่าง ๆ ไม้กวาดอาจเข้าไม่ถึง แต่สำหรับเครื่องเป่าใบไม้ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ครับ เพราะแรงลมสามารถพัดเข้าไปได้แบบทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจุดไหนของบ้านหรือของสวนก็เคลียร์ใบไม้ได้หมด
4. ใช้งานได้ต่อเนื่องหลายปี
เครื่องเป่าใบไม้ถือว่าเป็นเครื่องที่ทนทานใช้ได้ยาวนานหลายปีครับ ถ้าหากเก็บรักษาอย่างดีเราสามารถนำเครื่องเป่าใบไม้มาใช้ทำความสะอาดได้ในทุกช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ แม้ว่าจะจ่ายเงินหลักพันแต่หากเปรียบเทียบกับอายุการใช้งานของเครื่องแล้วก็ต้องบอกว่าคุ้มค่า
วิธีการเลือกเครื่องเป่าใบไม้
1. เครื่องแบบมีสาย vs ไร้สาย
เครื่องเป่าไม้เป็นจะมีหลัก ๆ อยู่ 2 แบบครับ นั่นคือเครื่องแบบมีสายและแบบไร้สาย โดยทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อย่างถ้าเป็นเครื่องแบบมีสายน้ำหนักของมันจะเบากว่า เนื่องจากไม่มีการติดตั้งแบตเตอรี่เข้าไปในเครื่อง นอกจากนี้ยังทำงานได้ต่อเนื่องและราคาถูกกว่าประมาณนึงเลยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเครื่องแบบมีสายก็มีข้อเสียตรงที่มันไม่ค่อยสะดวกกับการใช้นอกบ้านสักเท่าไหร่ เพราะถ้าหากสายสั้นเกินไปเราก็จะลำบากในการทำความสะอาดตามมุมไกล ๆ นั่นเองครับ
|
|
ส่วนทางด้านของเครื่องเป่าใบไม้แบบไร้สายจะสะดวกในการพกติดตัวไปใช้นอกสถานที่ ถือพกพาไปเป่าใบได้ในทุกพื้นที่โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ แต่ก็มีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่แบตเตอรี่ของมันทำให้เครื่องหนักขึ้นเล็กน้อยและมีเวลากำจัดครับ ถ้าหากเป็นการทำความสะอาดบริเวณบ้านของตัวเองหรือในพื้นที่ที่ไม่ได้ใหญ่เป็นไร่ ก็จะไม่มีปัญหาอะไรครับแต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เวลาในการเป่านานติดต่อกันหลายชั่วโมง คุณอาจจะต้องเจียดเวลาไปชาร์จเครื่องก่อนจะกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งตรงนี้อาจทำให้เสียเวลาเล็กน้อย ดังนั้นทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียของตัวเองขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด
2. ขนาดและน้ำหนัก
ขนาดและน้ำหนักถือว่าสำคัญมากเหมือนกันครับ เพราะถ้าเครื่องใหญ่หรือน้ำหนักมากจนเกินไป สุดท้ายแล้วคนใช้งานนั่นแหละที่จะลำบากต้องถือไปตามจุดต่าง ๆ นอกจากเหนื่อยในการตามเป่าใบไม้แล้วยังต้องแบกน้ำหนักเครื่องอีกด้วย ดังนั้นก่อนเลือกซื้อลองเช็กกันก่อนว่าเครื่องที่เราจะซื้อหนักหรือใหญ่จนยากต่อการทำความสะอาดหรือเปล่า ?
3. ปริมาณและความแรงของลม
รายละเอียดในส่วนนี้สามารถเช็กได้บนฉลากผลิตภัณฑ์ที่เขียนสเปคของสินค้าเอาไว้ครับ ซึ่งโดยปกติแล้วเครื่องเป่าใบไม้จะเขียนบอกอย่างชัดเจนครับว่ามีการปล่อยลมปริมาณกี่ลูกบาศก์เมตรต่อนาที ส่วนความเร็วรอบจะเป็น จำนวนรอบหมุนต่อนาทีครับ โดยผมแนะนำว่ารอบหมุนไม่ควรต่ำกว่า 3,000 รอบ/นาที ส่วนปริมาณลมไม่ควรต่ำกว่า 2.4 ลูกบาศก์เมตร/นาที
4. แบตเตอรี่ของเครื่อง

สำหรับใครที่เลือกใช้เครื่องเป่าใบไม้แบบไร้สาย จำเป็นต้องเช็กครับว่าเครื่องสามารถทำงานได้ต่อเนื่องนานแค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจะไม่หยุดทำงานระหว่างการทำความสะอาด โดยแนะนำว่าอย่างน้อยควรทำงานต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไปครับ เพราะโดยปกติถ้าพื้นที่ไม่ได้กว้างจนเกินไปจะใช้เวลาทำงานสะอาดประมาณ 15 – 20 นาทีเท่านั้น
5. ความดังระหว่างเครื่องทำงาน
ความดังอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสำหรับการใช้งานเครื่องเป่าใบไม้ แต่บางครั้งการใช้เครื่องที่ดังจนเกินไปก็อาจทำให้เราหรือแม้แต่เพื่อนบ้านรำคาญได้เหมือนกัน หากใครกังวลในเรื่องความดังก็เช็กกันก่อนซื้อครับ แต่ปกติแล้วเรื่องความดังของเครื่องเป็นอะไรที่ปกติอยู่แล้วครับ
STELLAR 3in1 เครื่องเป่าใบไม้ เครื่องดูดใบไม้

ราคา 990 บาท*
Stellar เป็นเครื่องเป่าใบไม้ที่มีทั้งหมดกว่า 3 ฟังก์ชันครับ นอกจากจะเป่าใบไม้ได้แล้วเครื่องรุ่นนี้ยังสามารถดูดใบไม้และทำการย่อยได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก อีกทั้งด้วยมอเตอร์ที่ใหญ่กว่า 3,500 วัตต์ ก็ทำให้การเป่ามีประสิทธิภาพมากมีความแรงลมเร็วลมกว่า 180 - 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมงรอบเป่ามีให้เลือกตั้งแต่ 9,500 - 19,500 รอบต่อนาที ปรับง่าย ๆ เพียงแค่หมุนตัวปรับข้างเครื่อง อีกอย่างหนึ่งที่ดีมากคือตัวเครื่องมาพร้อมกับล้อเลื่อนรวมไปถึงสายสะพาย ทำให้การเคลื่อนย้ายไปตามจุดสถานที่ต่าง ๆ สะดวกยิ่งขึ้น
จุดเด่น
- มีฟังก์ชันแบบ 3in1 ไม่ว่าจะเป็น เป่า, ดูด และย่อยเศษใบไม้
- ปรับความแรงของลมได้
- มีล้อและสายสะพาย ทำให้เคลื่อนย้ายเครื่องสะดวก
ขนาด | ไม่ระบุ |
---|---|
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
ปริมาณลม | 14.2 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที |
รอบเป่า | 9,500 - 19,500 รอบต่อนาที |
เครื่องเป่าใบไม้ MITSUYOSHI รุ่น BE-3A

ราคา 2,699 บาท*
เครื่องเป่าใบไม้ของทาง MITSUYOSHI รุ่น BE-3A ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่ใช้น้ำมัน แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องของการสตาร์ทเครื่องครับ เพราะทางแบรนด์ออกแบบมาเป็นอย่างดี มีระบบที่เรียกว่า Easy Start ช่วยเรื่องการสตาร์ทให้ติดง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนการปล่อยลมของเครื่องนี้ก็จัดได้ว่าแรงพอตัวเลยครับ มีความเร็วรอบในการปล่อยสูงสุดถึง 8000 รอบต่อนาที ซึ่งความแรงระดับนี้สามารถเป่าไฟให้ดับได้เลยครับ ดังนั้นถ้าหากเป็นใบไม้หรือเศษใบไม้ก็ต้องบอกว่าจัดการได้ไม่ยากเลยครับ
จุดเด่น
- มีระบบ Easy Start ช่วยให้สตาร์ทติดง่าย
- ความแรงลมค่อนข้างดี กำจัดได้ทั้งเศษไม้หรือจะนำไปเป่าไฟให้ดับก็ได้
ขนาด | ไม่ระบุ |
---|---|
น้ำหนัก | 8 กิโลกรัม |
ปริมาณลม | ไม่ระบุ |
รอบเป่า | 7,500 - 8,000 รอบต่อนาที |
Finris เครื่องเป่าลม เครื่องเป่าลมไร้สาย

ราคา 1,050 บาท*
Finris มาในฟังก์ชันเครื่องเป่าลมแบบไร้สาย ดังนั้นใครที่ซื้อรุ่นนี้คุณสามารถชาร์จแบตภายในบ้านแล้วถือพกติดตัวไปใช้งานนอกพื้นที่ได้ทุกจุด ไฮไลท์ของเครื่องตัวนี้อย่างแรกเลยคือราคาไม่แพง ส่วนความเร็วของลมก็เร็วไม่แพ้ไปกว่าเครื่องราคาแพงเลยครับ ความเร็วอยู่ในช่วง 19,000 รอบต่อวินาที ปรับได้มากกว่า 6 ระดับ ส่วนปริมาณลมจะอยู่ที่ 5.6 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที ทำให้สามารถเป่าใบไม้ได้แบบสบาย ๆ หรือจะอแดปไปใช้ในการเป่าเตาปิ้งย่างก็ได้เช่นเดียวกันครับ
จุดเด่น
- มีแบตเตอรี่อยู่ในตัว พกพาไปใช้งานได้ทุกที่
- ราคาค่อนข้างถูก
- ปรับความแรงลมได้ 6 ระดับ
- ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะ เป่าใบไม้หรือเป่าเตาปิ้งย่าง
ขนาด | ไม่ระบุ |
---|---|
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
ปริมาณลม | 5.6 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที |
รอบเป่า | 19,000 รอบต่อนาที |
Total เครื่องเป่าลม ไร้สาย รุ่น TABLI20428 ( Li-ion Blower )

ราคา 2,100 บาท*
ถ้าหากพูดถึงเรื่องฟังก์ชันและคุณภาพ Total รุ่น TABLI20428 เป็นอีกหนึ่งเครื่องที่ดีไม่แพ้ใครเลยครับ โดยเครื่องเป็นแบบไร้สายมาพร้อมกับแบตเตอรี่ Li-ion ที่อึดทนเก็บไฟฟ้าได้เยอะมาก ! ส่วนปริมาณลมสามารถปล่อยออกมาได้มากสุดถึง 42 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีความเร็วลมกว่า 8.5 ลูกบาศก์เมตร ปรับระดับความแรงลมได้กว่า 4 ระดับ ทั้งนี้ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานแบบ Industrial หรือใช้งานหนัก ๆ หากใครจะนำไปใช้ในพื้นที่กว้างหรือใช้เป็นอาชีพ เครื่องนี้ตอบโจทย์เลยละครับ ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย ที่สำคัญคือชาร์จแบตได้ไม่ต้องไปซื้อน้ำมันมาเติม
จุดเด่น
- ออกแบบให้สามารถใช้งานหนักหรือใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion อึดทนเก็บไฟฟ้าได้เยอะ
- ปรับแรงลมได้ถึง 4 ระดับ
ขนาด | ไม่ระบุ |
---|---|
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
ปริมาณลม | 8.5 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที |
รอบเป่า | 15,000 รอบต่อนาที |
KANTO 🇹🇭 เครื่องเป่าลม เป่าใบไม้ รุ่น KT-BW630-STORM

ราคา 3,640 บาท*
Kanto ฟังก์ชันคล้ายกับ Kasei คือเครื่องยนต์จะเป็นเบนซิน 2 จังหวะ สามารถปล่อยความเร็วลมได้ประมาณ 3400 รอบต่อนาที ส่วนปริมาณลมจะอยู่ในช่วง 25 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที เป็นความเร็วลมที่สามารถกำจัดใบไม้ได้อย่างรวดเร็วเลยครับ นอกจากนี้ด้านหลังของเครื่องดีไซน์ออกมาให้เป็นโฟมยางเสริมด้วยสปริงกันสั่นและมาพร้อมกับสายสะพาย เมื่อเครื่องทำงานแรงสั่นของเครื่องจะไม่กระทบกับเราทั้งยังสะพายเป็นเหมือนกับกระเป๋าเป้ไปได้ทุกที่
จุดเด่น
- มีการเสริมสปริงกันสั่นและสายสะพาย ทำให้ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม
- ปล่อยลมออกมาได้ค่อนข้างดี ทำให้เคลียร์ใบไม้ได้เร็ว
- น้ำมันที่ใช้เป็นเบนซินทั่วไป หาซื้อง่าย
ขนาด | 51 x 38.5 x 57 เซนติเมตร |
---|---|
น้ำหนัก | 9 - 10 กิโลกรัม |
ปริมาณลม | 25 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที |
รอบเป่า | 3,000 - 3,400 รอบต่อนาที |
KASEI เครื่องเป่าลม สะพายหลัง EB-500E

ราคา 4,190 บาท*
Kasei รุ่น EB-500E มาในเครื่องยนต์ที่เป็นแบบ 2 จังหวะ ดังนั้นเครื่องเป่าจะต้องมีการเติมน้ำมันเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงาน ซึ่งกำลังเครื่องยนต์อยู่ที่ 2.04 แรงม้า ถือว่าค่อนข้างแรงเลยละครับทำให้มันปล่อยลมได้เร็วกว่าสูงสุดถึง 6500 รอบต่อนาที โดยน้ำหนักเครื่องอาจจะหนักเล็กน้อยแต่การใช้งานและการเคลื่อนย้ายไม่เป็นปัญหาครับ เพราะทางแบรนด์ออกแบบให้คล้ายกับกระเป๋าเป้ สามารถสะพายไปได้ทุกที่เมื่อต้องการทำความสะอาด
จุดเด่น
- ดีไซน์ออกมาให้มีสายสะพาย สามารถแบกเครื่องได้เหมือนกับกระเป๋าเป้
- กำลังเครื่องค่อนข้างดี ทำให้ลมที่ปล่อยออกมาค่อนข้างแรง
- น้ำมันที่ใช้เป็นเบนซินทั่วไป หาซื้อง่าย
ขนาด | 36 x 46 x 49 เซนติเมตร |
---|---|
น้ำหนัก | 8.3 กิโลกรัม |
ปริมาณลม | 14.4 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที |
รอบเป่า | 6,500 รอบต่อนาที |
INGCO เครื่องเป่าลมไร้สาย 20V รุ่น CABLI200181

ราคา 799 บาท*
สำหรับคนที่เน้นใช้งานง่ายพกพาสะดวกหรือต้องการใช้งานภายในบ้าน ผมอยากจะแนะนำเครื่องของแบรนด์ INGCO รุ่น CABLI200181 เนื่องจากตัวเครื่องดีไซน์ออกแบบให้สามารถหยิบจับได้ด้วยมือเดียว ไม่ต้องสะพายหลังหรือยกเครื่องด้วย 2 มือหนัก ๆ ทุกคนสามารถใช้เครื่องนี้ได้ครับน้ำหนักถือว่าค่อนข้างเบาเลยละ ส่วนการปล่อยลมสามารถปล่อยได้ตั้งแต่ 9000 ไปจนถึง 18000 รอบต่อนาที (ปรับได้ 2 ระดับ) ทั้งนี้แบตเตอรี่เองก็เป็น Li-ion เหมือนกับทาง ‘Total รุ่น TABLI20428’ ทำงานได้อย่างต่อเนื่องเป็นชั่วโมง เป็นอีกหนึ่งเครื่องที่ซื้อติดบ้านยังไงก็คุ้มค่าสำหรับการลงทุน
จุดเด่น
- น้ำหนักเบา ออกแบบให้ถือใช้งานสะดวกด้วยมือเดียว
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion มีความอึดทนใช้งานได้นาน
- ปล่อยความเร็วลมได้สูงถึง 18,000 รอบต่อนาที ถือว่าลมดีมาก
- ฟังก์ชันกับราคาของเครื่องถือว่าราคาไม่แพง
ขนาด | 25 x 40 x 30 เซนติเมตร |
---|---|
น้ำหนัก | 2 กิโลกรัม |
ปริมาณลม | 2.7 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที |
รอบเป่า | 9,000 - 18,000 รอบต่อนาที |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ แนะนำ เครื่องเป่าใบไม้ ยี่ห้อไหน คุณภาพดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
Total เครื่องเป่าลม ไร้สาย รุ่น TABLI20428 ( Li-ion Blower ) |
| |||
| ||||
| ||||
|
วิธีการดูแลรักษาเครื่องเป่าใบ้ไม้ให้ใช้ได้นาน
- หากเป็นเครื่องที่ใช้น้ำมันต้องมั่นใจว่าในพื้นที่ตรงนั้นมีการถ่ายเทอากาศที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป
- ทุกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จ แนะนำให้ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกฝังแน่นอยู่บนเครื่อง
- หลังจากปิดเครื่องต้องเช็กทุกส่วนของเครื่องว่ามีจุดไหนที่พังหรือไม่ เพื่อจะได้ซ่อมและแก้ไขครับ เพราะต่อไปมันอาจทำให้เครื่องพังหรือทำงานได้ไม่เต็มที่
- ถ้าหากเป็นเครื่องที่ใช้ระบบไฟฟ้าแนะนำให้ถอดแบตเตอรี่ออกมาจากเครื่องทุกครั้ง ส่วนเครื่องที่ใช้น้ำมันให้ถอดหัวเทียนออกครับ
- ไม่ควรใช้เครื่องต่อเนื่องนานจนเกินไป เพราะความร้อนอาจทำให้เครื่องพัง ทั้งนี้อายุของเครื่องเป่าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 10 ปี ถ้ามากกว่านั้นควรเช็กให้ดีเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน