ในช่วงวัยหนุ่มสาวเป็นวัยที่ร่างกายของเราสามารถทำทุกสิ่งที่ตามใจปรารถนา ไม่ว่าจะเป็น การทานอาหารสะดวกซื้อที่มีไขมันสูง, การนอนเปื่อย ๆ บนที่นอน, การกินอาหารในช่วงดึก ๆ หรือแม้แต่การไม่ใส่ใจออกกำลังกาย แต่เมื่อเราอายุเพิ่มขึ้น ร่างกายของเราก็เริ่มเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอลที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการทำงานของตับและระบบภายในร่างกายก็เริ่มจะทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากคุณต้องการการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจากภายใน คุณอาจจะต้องเริ่มทานอาหารที่มีประโยชน์และรวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำด้วย ซึ่งสารอาหารที่ประโยชน์บางอย่างก็ไม่ได้รับได้เพียงพอจากมื้ออาหารที่คุณไปในแต่ละวัน แต่นั้นคุณอาจจะต้องใช้ตัวช่วยอย่าง “อาหารเสริม” เข้ามาเป็นทางเลือกในการรับสารอาหารที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมวิตามินรวม ดูแลสุขภาพโดยรวม, อาหารเสริมวิตามิน B รวม บำรุงร่างกายและระบบประสาท, อาหารเสริมไบโอติน วิตามิน B7 ดีต่อระบบเผาผลาญและสมอง, อาหารเสริมวิตามิน C เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน, อาหารเสริมวิตามิน E มีสารต้านอนุมูลอิสระ, อาหารเสริมซิงค์ (Zinc) ช่วยในเรื่องการทำงานของเซลล์, อาหารเสริมธาตุเหล็ก บำรุงเลือด, อาหารเสริมโอเมก้า ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายและบำรุงสมอง, อาหารเสริมแมกนีเซียม ที่จำเป็นต่อร่างกายเพราะไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ และอาหารเสริมแคลเซียม ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารเสริมที่เข้าไปช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของระบบภายในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น หลาย ๆ คนอาจจะต้องทานอาหารเสริมหลายตัวพร้อมกัน เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างครบถ้วน แต่คุณต้องการอาหารเสริมที่ครอบคลุมถึงระบบภายในรวมถึงะบบประสาทและสมองด้วย คุณอาจจะต้องมองหาอาหารเสริมที่เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ได้อย่างเฉพาะเจาะจง อย่าง “อาหารเสริมเลซิติน (lecithin)” ค่ะ
เลซิติน (lecithin) ส่วนใหญ่มาจากถั่วเหลืองหรือไข่ ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก ลดคอเลสเตอรอล และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงช่วยขับสารพิษในร่างกาย เลซิตินเป็นสารประกอบโมเลกุลที่ช่วยสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ และสามารถใช้เพื่อลดคอเลสเตอรอล ทั้งยังช่วยปรับปรุงสุขภาพของตับ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางจิตในสถานการณ์ที่ตึงเครียดให้ดีขึ้น (1,2,3,5,6)
โดยเลซิตินนั้นมีหลายรูปแบบมากค่ะ แต่ในรูปของเลซิตินจากถั่วเหลืองมักพบในได้บ่อยมากที่สุด และพบในอาหารเสริมหลายชนิดอีกด้วย เนื่องจากเป็นสารอิมัลชันที่เข้มข้นช่วยผสมผสานน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกันทำให้เหมาะสำหรับโปรตีนเชค หรือใช้เป็นส่วนผสมของสมูทตี้และอื่น ๆ ในตลาดคุณจะพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลซิตินที่หลากหลาย อย่างไรก็ตามก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ คุณต้องตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ให้ข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับส่วนผสมและแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ด้วยนะคะ และปริมาณของยายังเป็นสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงด้วย หากวันนี้คุณกำลังมองหาอาหารเสริมเลซิตินวันนี้เรามีคำแนะนำมามอบให้คุณกันค่ะ
เลซิติน คืออะไร?
เมล็ดทานตะวัน ถั่วเหลือง และไข่ล้วน มีบางอย่างที่เหมือนกัน นั่นคือมันมีสารประกอบกรดไขมันที่เรียกว่าเลซิติน เลซิตินใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ในอาหารหลายชนิดซึ่งหมายความว่าช่วยแยกไขมันออกจากสารอื่น ๆ และป้องกันไม่ให้ผสมกัน นอกจากนี้ยังใช้เป็นอาหารเสริมสุขภาพ กรดไขมันนี้มีสารประกอบบางชนิดที่เรียกว่าฟอสโฟลิปิดซึ่งเป็นไขมันที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในเยื่อหุ้มเซลล์ เลซิตินมีฟอสโฟลิปิดในระดับสูงที่เรียกว่าฟอสฟาติดิลเซอรีน ฟอสฟาติดิลโคลีนและฟอสฟาติดิลโนซิทอล (1,2,3,5,6)
Phosphatidylserine (ฟอสฟาติดิลเซอรีน) ใช้เป็นอาหารเสริมเนื่องจากมีบทบาทในเยื่อหุ้มเซลล์สมอง มันมักใช้เพื่อสนับสนุนความจำและป้องกันการลดลงของสภาพอารมณ์ ฟอสฟาติดิลโคลีนพบในเลซิตินจากถั่วเหลืองและฟอสฟาติดิลโนซิทอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญโปรตีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเลซิตินนั้นมักมาในรูปแบบแคปซูล เม็ดและของเหลว สารประกอบไขมันยังใช้เป็นยาและใช้ในการผลิตยาบางชนิดด้วย (1,2,3,5,6,7,8)
ประโยชน์ของเลซิติน(Lecithin)
มีการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลซิตินที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยการวิจัยส่วนใหญ่ดำเนินการโดยเฉพาะเกี่ยวกับเลซิตินที่ได้จากถั่วเหลือง นี่คือประโยชน์บางส่วนที่สามารถพบได้จากเลซิติน
1. สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด (1,2,5)
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลซิตินจากถั่วเหลืองได้รับการศึกษาว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดระดับ LDL-cholesterol และระดับคอเลสเตอรอลรวม การศึกษาล่าสุดพบว่าการใช้เลซิตินจากถั่วเหลืองเป็นเวลาสองเดือนโดยใช้ขนาดแคปซูล 500 มก. ทุกวันช่วยลดคอเลสเตอรอลรวมได้ถึง 42% และ LDL-cholesterol 56% อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าผลลัพธ์เหล่านี้น่าเชื่อถือเพียงใด
2. ความเครียด(3)
การศึกษาพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลซิตินจากถั่วเหลืองสามารถช่วยลดความเครียดทั้งทางเคมีและการรับรู้ คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนความเครียดและเราสามารถทำให้ความเครียดลดลงโดยใช้ปริมาณเลซิตินจากถั่วเหลือง 2 กรัมเป็นเวลา 2 ถึง 4 สัปดาห์แม้ว่าผลลัพธ์เหล่านี้จะมีแนวโน้มดี แต่ก็จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
เราจะเลือกอาหารเสริมเลซิตินที่ดี ได้อย่างไร ?
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลซิตินที่ดี ต้องประกอบด้วยเลซิตินระหว่าง 1200 ถึง 2400 มก. ต่อเม็ด เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ทุกชนิดในรายการนี้ แม้ว่าเลซิตินจากถั่วเหลืองจะเป็นหนึ่งในแหล่งเลซิตินที่ได้รับการศึกษามากขึ้น แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าแหล่งใดมีมากกว่าแหล่งถั่วเหลือง เมื่อต้องการอาหารเสริมเลซิตินที่ดีสิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นผลิตโดยบริษัทที่เชื่อถือได้
เราใช้เกณฑ์ในการเลือกสินค้าโดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมไปถึงยอดขายและรีวิวของผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนซื้อแนะนำในอ่านฉลากส่วนประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร
* เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน *
อาหารเสริมเลซิติน ยี่ห้อไหนดี?
![]() Mega We Care LECITHIN 1200 MG อาหารเสริมเลซิติน | ![]() อาหารเสริมเลซิติน VISTRA Soy Lecithin 1200mg Plus Vitamin E | ![]() Blackmores ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Lecithin | ![]() อาหารเสริมเลซิติน NOW® Foods Lecithin | ![]() อาหารเสริมเลซิติน Nature’s Truth Soya Lecithin 1,200 mg |
แหล่งของเลซิติน (9)
แม้ว่าเลซิตินจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิด แต่อาหารเสริมเลซิตินมักมาจากไข่ ถั่วเหลืองหรือเมล็ดทานตะวัน เลซิตินยังได้รับจากคาโนลา เมล็ดฝ้ายหรือไขมันสัตว์ด้วย ถั่วเหลืองเป็นหนึ่งในพืชผลที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาและ 94 เปอร์เซ็นต์ของมันถูกดัดแปลงพันธุกรรม ถั่วเหลืองเป็นแหล่งของเลซิตินที่คุ้มค่า แต่บางยี่ห้ออาจจะมีสารเคมีรวมทั้งอะซิโตนและเฮกเซนที่ใช้ในการสกัดเลซิตินจากน้ำมันถั่วเหลือง
อย่างไรก็ตามเลซิตินที่ได้จากน้ำมันดอกทานตะวันหรือเมล็กทานตะวันกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอาจเนื่องจากประกาศสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงพืชดัดแปลงพันธุกรรมอาจเลือกเลซิตินจากดอกทานตะวัน โดยทั่วไปกระบวนการสกัดจะอ่อนโยนกว่าและดำเนินการโดยการสกัดเย็นแทนที่จะใช้ตัวทำละลายเคมี
ความเสี่ยงของการทานเลซิตินที่มากเกินไป (10)
เลซิติน“ ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าปลอดภัย” โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) เมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมไม่น่าจะก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือรับเลซิตินผ่านอาหาร หากอาหารเสริมที่คุณเลือกหรือทานไม่ได้รับการตรวจสอบโดย FDA ไม่มีอย. ไม่มี GMP ไม่ควรทาน เราควรศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและชื่อแบรนด์ก่อนรับประทาน
หากมีคนมีคอเลสเตอรอลสูงหรือมีประวัติโรคหัวใจควรปรึกษาเรื่องอาหารเสริมกับแพทย์ หากอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นอาจรวมถึง ท้องร่วง, คลื่นไส้, อาการปวดท้อง, น้ำลายในปากเยอะและความรู้สึกอิ่มให้ปรึกษาแพทย์เช่นกัน
ในขณะที่มูลนิธินมแม่ของแคนาดาแนะนำเลซิตินสำหรับสตรีที่ให้นมบุตร แต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมเลซิตินในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ในงานวิจัยล่าสุดบางชิ้นระบุว่าฟอสฟาติดิลโคลีนที่พบในเลซิตินถูกเปลี่ยนโดยแบคทีเรียในลำไส้เป็นทริมเมทิลามีนเอ็นออกไซด์ (TMAO) เมื่อเวลาผ่านไป TMAO อาจนำไปสู่การแข็งตัวของหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดและหัวใจวายได้
หาากคุณถามเรื่องปริมาณที่แนะนำของเลซิตินนั้นมักจะไม่มีปริมาณที่แนะนำหรือตายตัว ตามกฎทั่วไปปริมาณที่คุณบริโภคไม่ควรเกิน 5,000 มก. ต่อวัน
References:
- Influence of soy lecithin administration on hypercholesterolemia
- Changes in cardiovascular risk factors with participation in a 12-week weight loss trial using a commercial format
- Effects of soy lecithin phosphatidic acid and phosphatidylserine complex (PAS) on the endocrine and psychological responses to mental stress
- Treatments for Problems Lecithin
- Beyond the Cholesterol-Lowering Effect of Soy Protein: A Review of the Effects of Dietary Soy and Its Constituents on Risk Factors for Cardiovascular Disease
- The relation of dietary choline to cognitive performance and white-matter hyperintensity in the Framingham Offspring Cohort
- Phosphatidylinositol
- Lecithin
- Recent Trends in GE Adoption
- Intestinal Microbial Metabolism of Phosphatidylcholine and Cardiovascular Risk