การดูแลริมฝีปากเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะเพราะคงไม่มีใครอยากให้ริมฝีปากของตัวเองลอก แห้งหรือแตกอย่างแน่นอน ผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจในการดูแลริมฝีปากมาก ๆ เพราะหากริมฝีปากไม่เรียบเนียนไม่ว่าเราจะใช้ลิปสติกดีมากแค่ไหนก็ไม่สามารถปกปิดความแห้งกร้านของริมฝีปากได้ค่ะ โดยไอเทมที่ผู้เขียนขาดไม่ได้เลยคือลิปสครับและลิปบาล์มค่ะ ลิปสครับผู้เขียนจะใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้งแต่ลิปบาล์มผู้เขียนจะใช้บ่อยมากแห้งเมื่อไหร่คือทาเมื่อนั้นค่ะ
แน่นอนว่าลิปบาล์มนั้นมีหลายแบบหลายแพ็กเกจให้เลือกค่ะ ทั้งแบบหลอด แบบแท่งและ “ลิปบาล์มแบบตลับ” ค่ะ โดยในวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำลิปบาล์มแบบตลับกัน โดยลิปบาล์มแบบตลับเป็นลิปบาล์มที่สามารถใช้งานได้นาน พกพาได้ง่ายและมีหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกค่ะ หากวันนี้คุณกำลังหาซื้อลิปบาล์มแบบตลับอยู่ก็ห้ามพลาดเพราะเราจะมาแนะนำสินค้ากันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
จุดเด่นของลิปบาล์ม และทำไมต้องเลือกซื้อลิปบาล์มแบบตลับ ?
ลิปบาล์มเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราต้องใช้ทาบนริมฝีปากค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับผิวหนังบนมือ เท้าและใบหน้า หนังกำพร้าของริมฝีปากนั้นมีความบางมากและเยื่อบุในช่องปากมักจะถูกเปิดออกได้ง่ายด้วย ด้วยเหตุนี้ริมฝีปากของเราจึงไวต่อการกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมภายนอก การใช้ลิปบาล์มจึงจำเป็นค่ะเพราะลิปบาล์มไม่เพียงแต่มีข้อดีในการป้องกันรังสียูวี ให้ความชุ่มชื้นและซ่อมแซมริมฝีปากเท่านั้น แต่หลาย ๆ คนยังใช้ลิปบาล์มเพื่อปรับปรุงปัญหาริมฝีปากต่าง ๆ เช่น ริมฝีปากแห้ง ลอกและแตกอีกด้วย

ในท้องตลาดลิปบาล์มที่พบบ่อยที่สุดมักจะมาในรูปแบบของหลอดและแบบแท่งค่ะ แต่ลิปบาล์มแบบตลับก็มีให้เห็นเหมือนกัน แน่นอนว่าลิปบาล์มแบบตลับก็มีหน้าที่ปกป้องริมฝีปากเช่นกันแต่ลิปบาล์มในรูปแบบนี้จะมีความมันวาวและให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่า เนื้อสัมผัสของลิปบาล์มแบบตลับมีความนุ่ม เกลี่ยได้ง่ายและปริมาณเยอะ ดังนั้นจึงสามารถทาได้ง่ายและใช้งานได้นานค่ะ ในการทาลิปบาล์มแบบตลับก็ไม่ได้ยุ่งยากจะใช้ปลายนิ้ว สำลีพันก้านหรือแปรงทาก็ได้เหมือนกันค่ะ ใครที่อยากใช้ลิปบาล์มที่สามารถใช้งานได้นานอย่าลืมเลือกซื้อลิปบาล์มแบบตลับนะคะ
เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปบาล์มแบบตลับ
1. เลือกลิปบาล์มที่เหมาะกับสภาพริมฝีปากของตัวเอง
ลิปบาล์มที่เหมาะกับการใช้ทั่วไป
ลิปบาล์มแบบทั่วไป (Moisturizing Lip Balm) เป็นลิปบาล์มที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกได้หลายประเภท เช่น ลิปมอยส์เจอไรเซอร์ ลิปป้องกันรังสียูวีหรือจะเลือกลิปไพรเมอร์ก็ได้ค่ะ ส่วนผสมที่เราต้องมองหาในลิปบาล์มสำหรับใช้งานทั่วไปคือขี้ผึ้ง วิตามินอี เชียบัตเตอร์หรือจะเลือกลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติก็ได้ค่ะเพราะให้ความชุ่มชื้นได้ดี อย่างไรก็ตามส่วนผสมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติบางครั้งอาจทำให้ผู้ใช้บางคนเกิดการระคายเคืองได้และบางคนก็อาจจะไม่ชอบกลิ่นของสมุนไพรบางชนิดด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยให้เลือกส่วนผสมในลิปบาล์มที่คุณเคยใช้มาก่อน

ลิปบาล์มสำหรับรักษาริมฝีปากลอกและแตก
นอกจากส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแล้วลิปบาล์มสำหรับรักษาปากแห้งและแตก (Medicated Lip Balm) ก็เป็นไอเทมที่หลายคนชอบเหมือนกันค่ะ เพราะลิปบาล์มประเภทนี้จะมีส่วนผสมที่ทำหน้าที่ป้องกันปากลอกและปากแตกจากความแห้งกร้านได้ แต่บอกก่อนนะคะว่าลิปบาล์มแบบนี้ไม่ได้มีไว้ใช้แทนยาแต่มีฤทธิ์ป้องกันการหลุดลอกเท่านั้นค่ะ ซึ่งจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันมากมาย เช่น Lip Treatment, Lip Repair, Lip Therapy ฯลฯ จุดที่หลายคนชอบเกี่ยวกับลิปบาล์มชนิดนี้คือมันสามารถช่วยรักษาริมฝีปากที่ได้รับความเสียหาย เช่น แตก ลอกและมีเลือดออกได้ดี โดยส่วนผสมที่เราอยากให้มองหาคือ Tocopheryl Acetate มีประสิทธิภาพในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและป้องกันผิวแห้งลอก ถัดมาคือ Stearyl Glycyrrhetinate มีประสิทธิภาพในการต้านการอักเสบค่ะ แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนซื้อมาใช้งานค่ะ
2. เลือกลิปบาล์มที่มี SPF ป้องกันแสงแดด
เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ที่มีอยู่ในผิวหนังสามารถปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตและลดการสร้างเมลานินได้ แต่เมลาโนไซต์บนริมฝีปากนั้นน้อยมากดังนั้นผิวที่ริมฝีปากจึงเสี่ยงเป็นพิเศษที่จะได้รับความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต เมื่อเราสัมผัสกับแสงแดดแล้วริมฝีปากจะคล้ำและเกิดความแห้งกร้าน ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดคืออาจเกิดตุ่มพองที่ริมฝีปากได้ค่ะ ดังนั้นเมื่อซื้อลิปบาล์มทางเราอยากแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ลิปบาล์มที่มีค่า SPF เพราะจะช่วยปกป้องริมฝีปากจากแสงแดดได้ แต่ในบางครั้งลิปบาล์มที่มีส่วนผสมป้องกันรังสียูวีอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ดังนั้นควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ นอกจากนี้อย่าลืมทำความสะอาดริมฝีปากให้สะอาดทุกครั้งหลังทาลิปบาล์มเพื่อหลีกเลี่ยงการตกค้างของลิปบาล์มค่ะ
3. เลือกปริมาณลิปบาล์มที่เหมาะสม
ลิปบาล์มแบบตลับมีขนาดใหญ่จึงเกิดการปนเปื้อนได้ง่ายเมื่อเราเปิดและปิดค่ะ นอกจากนี้เวลาใช้งานต้องใช้ปลายนิ้วป้ายที่ริมฝีปากซึ่งอาจจะทำให้แบคทีเรียเกาะติดอยู่และอาจจะส่งผลต่อคุณภาพของลิปบาล์มได้ ถึงแม้ว่าการซื้อลิปบาล์มที่มีปริมาณเยอะจะคุ้มค่าแต่หากคำนึงถึงด้านสุขอนามัยในการใช้งานจะปลอดภัยกว่าหากเลือกลิปบาล์มที่มีความจุน้อยและสามารถใช้งานหมดได้เร็ว นอกจากนี้ลิปบาล์มแบบตลับบางชนิดยังมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นที่แตกต่างกัน นอกจากริมฝีปากแล้วยังสามารถใช้เป็นครีมทามือหรือมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับนิ้วมือได้อีกด้วย หากลิปบาล์มที่คุณซื้อมีความอเนกประสงค์แบบนี้แม้ว่าคุณจะซื้อปริมาณที่เยอะก็ไม่มีปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใดค่ะ
ลิปบาล์มแบบตลับ ใช้งานง่าย พกพาสะดวก คุณภาพดี ?
- ลิปวาสลีนยอดนิยม ทาง่ายให้ความชุ่มชื้นได้ดี: Vaseline Lip Therapy Rosy Lips ลิปบาล์ม
- ลิปบาล์มลดการอักเสบของริมฝีปาก ทาแล้วเย็นริมฝีปากทันที: Carmex Lipbalm Classic Jar ลิปบาล์ม
- ลิปบาล์มแบบมีสี บำรุงและช่วยให้ริมฝีปากสวยเป็นธรรมชาติ: Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm ลิปบาล์ม
- ลิปบาล์มราคาประหยัด ใช้ได้กับทุกสภาพของริมฝีปาก: Bhaesaj Chakorn Lips Care ลิปบาล์ม
- ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ ใช้เป็นลิปบาล์มและลิปมาสก์ได้ในหนึ่งเดียว: LA MER Repair The Lip Balm ลิปบาล์ม
![]() Vaseline Lip Therapy Rosy Lips ลิปบาล์ม | ![]() Carmex Lipbalm Classic Jar ลิปบาล์ม | ![]() Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm ลิปบาล์ม | ![]() Bhaesaj Chakorn Lips Care ลิปบาล์ม |
Vaseline Lip Therapy Rosy Lips ลิปบาล์ม

ราคา 165 บาท*
Vaseline Lip Therapy Rosy Lips เป็นลิปบาล์มที่เราอยากแนะนำมาก ๆ เลยค่ะ เพราะแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ดังและวางตลาดมาอย่างยาวนาน แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่านอกจากแบบแท่งและแบบกระปุกยังมีแบบตลับขนาด 17 กรัมวางขายด้วยค่ะ ดีไซน์ของลิปบาล์มมีความน่ารักสามารถพกพาใส่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าถือได้ง่าย ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มคือปิโตรเลียมเจลลี น้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์และน้ำมันจากกุหลาบมอญที่ดีต่อสุขภาพริมฝีปากของเราค่ะ
ส่วนผสมของลิปบาล์มมีความเรียบง่ายและไม่เติมน้ำหอมจึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ได้เป็นอย่างดี ลิปบาล์มให้ความรู้สึกชุ่มชื้นกำลังพอดีสามารถลดปัญหาริมฝีปากแห้งแตกได้ ลิปบาล์มมีสีด้วยนะคะเป็นสีชมพูอ่อน ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับ Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm แล้วสีอ่อนกว่ามากค่ะแต่เรื่องความชุ่มชื้นต้องให้เขา
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- มีสีชมพูอ่อน ๆ ให้ความธรรมชาติเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปาก
- เนื้อสัมผัสนุ่มนวล ใช้งานง่ายและสามารถใช้งานได้ทุกวัน
- ไม่เหนียวเหนอะหนะและให้ความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี
ปริมาณ | 17 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ปิโตรเลียมเจลลี น้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์และน้ำมันจากกุหลาบมอญ |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✔ |
Carmex Lipbalm Classic Jar ลิปบาล์ม

ราคา 94 บาท*
Carmex Lipbalm Classic เป็นลิปบาล์มที่ไม่เพียงแต่มีราคาไม่แพงเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นและการซ่อมแซมผิวบริเวณริมฝีปากได้ จุดเด่นของลิปบาล์มคือมีความอเนกประสงค์สามารถใช้ที่ริมฝีปาก บริเวณนิ้ว ข้อศอกหรือจมูกที่ลอกได้ โดยส่วนผสมหลักของลิปบาล์มคืออัลลันโทอิน โกโก้บัตเตอร์ เชียบัตเตอร์ ฯลฯ ซึ่งมีผลในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้น อีกทั้งยังมีว่านหางจระเข้และลาโนลินที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถบรรเทาอาการระคายเคืองของริมฝีปากได้ด้วย ซึ่งจุดนี้จะแตกต่างจาก Vaseline Lip Therapy Rosy Lips เพราะวาสลีนมีผลในเรื่องความชุ่มชื้นแต่ไม่ได้เคลมมาว่าช่วยลดการระคายเคือง
จุดที่ผู้เขียนชอบอีกหนึ่งอย่างคือมีส่วนผสมของการบูรและเมนทอลด้วย ทำให้มีความเย็นทันทีที่เราทา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบรรเทาอาการคันและบรรเทาความเจ็บปวดของริมฝีปากที่แตก แต่เรื่องที่ต้องระวังก็มีค่ะเพราะผลิตภัณฑ์นี้มีกรดซาลิไซลิกซึ่งสามารถผลัดเซลล์ผิวได้ ดังนั้นคนที่มีผิวแพ้ง่ายเราไม่อยากแนะนำให้ใช้ค่ะ หากต้องการจะลองจริง ๆ แนะนำให้ทดสอบอาการแพ้ก่อน
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ช่วยปลอบประโลมและปกป้องริมฝีปากที่แห้งแตกได้ดีมาก
- มีส่วนผสมของเมนทอลเมื่อทาแล้วจะให้ความเย็นกับริมฝีปากทันที
- ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึกลดการระคายเคืองได้
ปริมาณ | 7.5 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | อัลลันโทอิน, โกโก้บัตเตอร์, เชียบัตเตอร์, การบูร, เมนทอล ฯลฯ |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✘ |
Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm ลิปบาล์ม

ราคา 126 บาท*
Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm เป็นลิปบาล์มที่ตอบโจทย์มาก ๆ หากคุณคิดว่าลิปสติกสีแรงเกินไปแต่หากจะให้ใช้ลิปบาล์มทั่วไปก็ไม่สดใสพอ ลิปบาล์มจากทางแบรนด์เป็นลิปบาล์มที่มีสีและมีพลังให้ความชุ่มชื้นสูง ลิปบาล์มของทางแบรนด์มีให้เลือก 5 สีค่ะแต่สี 03 Ruby Red ที่เราแนะนำกันไปสีน่ารักมากที่สุดเลย หากทาบาง ๆ จะให้ลุคที่สดใสและเป็นธรรมชาติ แต่หากทา 2-3 ชั้นจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้สีสุดเซ็กซี่
ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มคือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, เชียบัตเตอร์, น้ำมันเมล็ดโฮโฮบา, วิตามินอี ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ริมฝีปากไม่แห้งหรือลอก ผู้เขียนชอบสีของ Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm มากที่สุดค่ะเพราะสีชัดมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ Vaseline Lip Therapy Rosy Lips เรื่องสีคิวท์เพรสคือยืนหนึ่งมากเลย ใครที่อยากให้ริมฝีปากดูสวยระเรื่อแนะนำเลย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ลิปบาล์มเนื้อนุ่มทาได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- เฉดสีของลิปบาล์มมีความสวยงามและมีให้เลือกหลายสี
- ใช้งานได้กับทุกเพศทุกวัยเพราะช่วยบำรุงฝีปากไม่ให้แห้งหรือลอก
ปริมาณ | 6.5 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, เชียบัตเตอร์, น้ำมันเมล็ดโฮโฮบา, วิตามินอี ฯลฯ |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✔ |
Bhaesaj Chakorn Lips Care ลิปบาล์ม

ราคา 9 บาท*
Bhaesaj Chakorn Lips Care ลิปบาล์มเภสัชที่อยู่คู่กันไทยมานานรองจาก Siphungmaeliab Lip Balm เลยค่ะ จุดเด่นของลิปบาล์มของทางแบรนด์คือมีราคาถูกมากและสามารถหาซื้อได้ง่าย ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มคือวิตามินอีที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถให้ความชุ่มชื้นและทำให้ริมฝีปากนุ่มขึ้น ผู้เขียนใช้ลิปบาล์มจากแบรนด์นี้มาตั้งแต่เด็กเลยค่ะเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์แรกที่ผู้เขียนรู้จักเลยและผู้เขียนก็เชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จักแน่นอน
เนื้อลิปบาล์มเป็นเนื้อนุ่ม ไม่แข็งและเกลี่ยได้ง่ายมาก เมื่อทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะสามารถใช้ได้ทุกเวลาจะทาตอนเช้าก็ได้หรือจะทาก่อนนอนก็ได้เหมือนกันค่ะ เนื้อลิปมีสีชมพูนะคะแต่เมื่อทาแล้วจะไม่มีสีจะเป็นสีใส หากใครที่อยากซื้อลิปบาล์มแบบมีสีตัวนี้ไม่เหมาะนะคะควรจะเลือก Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm ดีกว่า แต่ถ้าใครที่กำลังมองหาลิปบาล์มตลับราคาประหยัดแนะนำ Bhaesaj Chakorn Lips Care เลยค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ลิปบาล์มให้ความชุ่มชื้นได้ดีสามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลาของวัน
- มาในรูปแบบตลับเล็กจึงสามารถพกพาได้ง่าย
- เนื้อลิปบาล์มมีความนุ่ม เกลี่ยง่ายและไม่จับตัวเป็นก้อน
ปริมาณ | 2 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันจากธรรมชาติและวิตามินอี |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✘ |
Siphungmaeliab Lip Balm สีผึ้งแม่เลียบ

ราคา 15 บาท*
Siphungmaeliab Lip Balm เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใคร ๆ ก็รู้จักค่ะเพราะมันคือสีผึ้งแม่เลียบในตำนานนั่นเองค่ะ ส่วนผสมหลักของสีผึ้งคือรังผึ้งร้างและน้ำมันมะพร้าวที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ดีและป้องกันไม่ให้ริมฝีปากแห้งแตก ใครที่ริมฝีปากดำคล้ำก็สามารถใช้งานได้นะคะเพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าผลิตภัณฑ์ช่วยลดความหมองคล้ำของริมฝีปากได้ เนื้อลิปจะมีความหนืดเล็กน้อยนะคะแต่ไม่ส่งผลเสียต่อการใช้งาน
เนื้อลิปด้านในเป็นสีน้ำตาลเมื่อทาแล้วไม่มีสี ปริมาณของลิปอยู่ที่ 3 กรัมปริมาณเยอะกว่า Bhaesaj Chakorn Lips Care เล็กน้อยแต่ราคาไม่ได้ต่างกันมาก ผู้เขียนชอบใช้สีผึ้งแม่เลียบเหมือนกันค่ะเพราะให้ความชุ่มชื้นได้ดีแต่พักหลัง ๆ ไม่ได้ใช้แล้วเพราะชอบลิปบาล์มแบบมีสีมากกว่านั่นเอง ลิปบาล์มสามารถใช้ได้กับทุกสภาพริมฝีปากได้เลยนะคะ แต่หากใครที่มีผิวแพ้ง่ายหรือแพ้เกสรดอกไม้แนะนำให้ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มเน้นความเป็นธรรมชาติทาได้ง่าย
- ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึกและลดความแห้งกร้านได้ดี
- ลดปัญหาริมฝีปากแห้งแตกได้ดีเหมาะสำหรับใช้ก่อนนอน
ปริมาณ | 3 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | รังผึ้งร้างและน้ำมันมะพร้าว |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✘ |
The history of Whoo Royal Lip Balm ลิปบาล์ม

ราคา 1,161 บาท*
The history of Whoo Royal Lip Balm เป็นลิปบาล์มระดับไฮเอนด์ที่เราอยากแนะนำให้ใช้ค่ะ ตลับของลิปบาล์มเป็นทรงกลมขอบทองจับคู่กับโทเท็มสีทองอันสง่างาม แค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกก็ดูมีออร่าและน่าใช้งานมากแล้วค่ะ จุดที่ผู้เขียนชอบคือลิปบาล์มมาพร้อมกับแปรงทาปาก ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านสุขอนามัยได้ดีลดการทาลิปบาล์มด้วยนิ้ว ลิปบาล์มมีส่วนผสมของสมุนไพรเกาหลีที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์และสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก
ลิปบาล์มมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่จะหายไปหลังจากทาบนริมฝีปาก ดังนั้น แม้แต่คนที่ไวต่อกลิ่นหอมก็สามารถใช้งานได้ แต่เนื้อของลิปบาล์มเหนียวมากถึงแม้ว่าความเหนียวจะสามารถแก้ไขริมฝีปากแห้งแตกและให้ความชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ความรู้สึกที่หนาของลิปบาล์มอาจจะทำให้หลายคนไม่ชอบค่ะ ดังนั้น The history of Whoo Royal Lip Balm จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากหาลิปบาล์มไว้ทากลางคืนค่ะเพราะตื่นมาแล้วปากจะฉ่ำฟูมาก
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- มีประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นที่ดีมากเหมาะสำหรับคนปากแห้ง
- มาพร้อมแปรงช่วยทาลิปเพื่อช่วยเพิ่มสุขอนามัยในการทา
- ดีไซน์สวยมาก น่าใช้งานและสามารถพกพาได้ง่าย
ปริมาณ | 7 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สมุนไพรเกาหลีและเซราไมด์ |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✘ |
LA MER Repair The Lip Balm ลิปบาล์ม

ราคา 2,960 บาท*
LA MER The Lip Balm เป็นผลิตภัณฑ์ลิปบาล์มระดับไฮเอนด์เหมือนกับ The history of Whoo Royal Lip Balm เลยค่ะและเป็นผลิตภัณฑ์ในฝันของใครหลาย ๆ คนด้วย ส่วนผสมหลักของของลิปบาล์มคือ Miracle Broth™ เป็นเอสเซนส์เข้มข้นที่สกัดจากสาหร่ายทะเลน้ำลึกและผ่านการวิจัยมาเป็นเวลา 12 ปี ทางแบรนด์เคลมมาว่าส่วนผสมนี้สามารถเจาะลึกเข้าสู่ผิว ช่วยซ่อมแซมและรักษาริมฝีปากให้มีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติอยู่เสมอ
เนื้อสัมผัสของลิปบาล์มมีความเนียนเรียบผสมผสานกับกลิ่นมินต์อันหรูหราให้ความรู้สึกเย็นสบายหลังการใช้และให้ความชุ่มชื้นยาวนาน เมื่อทาไปครั้งแรกแล้วคุณไม่จำเป็นต้องทาซ้ำอีกเพราะชุ่มชื้นนานตลอดทั้งวัน ส่วนใครที่มีปากลอกก็สามารถทาได้ค่ะโดยให้ทาหนา ๆ ก่อนเข้านอนแล้วตอนเช้าให้ถูเบา ๆ วิธีนี้จะสามารถขจัดผิวที่ตายแล้วอย่างอ่อนโยน แต่น่าเสียดายที่ราคาของลิปบาล์มค่อนข้างแพงเลยค่ะเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากเพราะมีสารสกัดจาก Miracle Broth™ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางแบรนด์
- ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งและขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก
- ลดความแห้งกร้านได้อย่างรวดเร็วและสามารถใช้เป็นลิปมาสก์ได้
ปริมาณ | 9 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจาก Miracle Broth™ |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✘ |
Smith’s Rosebud Lip Balm ลิปบาล์ม

ราคา 385 บาท*
Smith’s Rosebud Lip Balm เป็นลิปบาล์มที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคย แต่จริง ๆ แล้ว Rosebud Balm ผลิตมาตั้งแต่ปี 1892 แล้วค่ะและได้รับความนิยมทั่วโลกมานานกว่า 100 ปี ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มคือส่วนผสมจากพืชที่มีความบริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติจึงสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยแม้กับผิวที่บอบบางของเด็กทารก ทางแบรนด์เคลมมาว่าลิปบาล์มให้ความชุ่มชื้นได้ดีและไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อทาไปแล้วจะให้ความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนานและลิปบาล์มก็มีกลิ่นหอมมากด้วย
Smith’s Rosebud Lip Balm มีหลายสูตรให้เลือกนะคะแต่แบบที่เราเลือกมาคือแบบที่มีสี โดยสีจะมีความชมพูเหมือน Cute Press Glow to Go Tinted Lip Balm แต่อาจจะอ่อนกว่า แต่หากคุณไม่ชอบแบบมีสีก็สามารถเลือกแบบใสได้เพราะแบบใสสามารถใช้เป็นลิปไพรเมอร์ได้ด้วยค่ะ ใครที่อยากซื้อลิปบาล์มที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานก็ต้องห้ามพลาดนะคะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ปริมาณเยอะใช้งานได้นานและให้ความคุ้มค่าได้ดี
- ลิปบาล์มมีส่วนผสมน้อยและอ่อนโยนกับทุกสภาพริมฝีปาก
- มีกลิ่นหอมใช้แล้วผ่อนคลายให้ความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี
ปริมาณ | 22 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ปิโตรเลียมเจลลีและน้ำมันจากเมล็ดฝ้าย |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✔ |
DHC Medicated Lip Balm ลิปบาล์ม

ราคา 220 บาท*
DHC Medicated Lip Balm เป็นลิปบาล์มจากญี่ปุ่นที่เราอยากแนะนำมาก ๆ เลยค่ะ ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มคือน้ำมันมะกอกเข้มข้นซึ่งทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถเจาะและซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว เมื่อทาแล้วจะสร้างชั้นไขมันที่ป้องกันริมฝีปาก นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากพืชธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการป้องกันความแห้งและการหลุดลอกของริมฝีปาก
ลิปบาล์มสูตรนี้ไม่มีสีเหมือนกับ Carmex Lipbalm Classic แต่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นสูง ไม่เหนียวเหนอะหนะและให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับคนที่ทำงานห้องแอร์หรือมีริมฝีปากแห้งแตกตลอด แต่ดีไซน์แบบตลับอาจจะไม่สะดวกต่อการใช้งานมากนักแต่ก็ใช้งานได้นานค่ะ ใครที่มีปากแตกและลอกหนักมากแนะนำเลย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ช่วยดูแลริมฝีปากที่แห้งและแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีสารสกัดจากธรรมชาติที่จำเป็นต่อการบำรุงริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้น
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือพาราเบนที่เป็นอันตรายต่อผิว
ปริมาณ | 7.5 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันมะกอกและว่านหางจระเข้ |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสารกันแดด | ✘ |
IRA Natural Lip Balm ลิปบาล์ม

ราคา 180 บาท*
IRA Natural Lip Balm เป็นลิปบาล์มที่เราอยากแนะนำหากคุณมีผิวแพ้ง่ายค่ะ เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ค่ะ ลิปบาล์มจะมีให้เลือกทั้งหมด 6 กลิ่นนะคะสามารถเลือกกลิ่นได้ตามความต้องการเลย ผู้เขียนค่อนข้างชอบกลิ่นของลิปบาล์มทุกกลิ่นเลยค่ะเพราะกลิ่นมันหอมหวานน่ารับประทานมาก ๆ แต่ทานไม่ได้นะคะทุกคนเขาออกแบบมาเพื่อทาปากเด้อ
หากถามว่า IRA Natural Lip Balm เหมาะกับใครตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งและต้องการความชุ่มชื้นค่ะ เพราะลิปบาล์มสามารถให้ความชุ่มชื้นได้นานมากเลยและช่วยล็อกความชุ่มชื้นได้ดีด้วย ปริมาณของลิปบาล์มอยู่ที่ 10 กรัมนะคะถือว่าใช้งานได้นานเลย ใครที่มีริมฝีปากแพ้ง่ายหรืออยากใช้ลิปบาล์มจากธรรมชาติก็ห้ามพลาดเลย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดแม้ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้
- ผ่านการแต่งกลิ่นโดยใช้กลิ่นจากธรรมชาติไม่ระคายเคืองริมฝีปาก
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากและลดความแห้งกร้านได้
ปริมาณ | 10 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจากธรรมชาติ 100% |
มีสารกันแดด | ✘ |
มีสี | ✘ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีใช้ลิปบาล์มให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แนะนำให้ทาลิปบาล์ม “5 ครั้งต่อวัน”
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าการพูด การรับประทานอาหาร การแปรงฟัน การเลียริมฝีปาก ฯลฯ ทุกการกระทำของเราสามารถทำให้ริมฝีปากแห้งได้ ดังนั้นจึงต้องทาลิปบาล์มในปริมาณที่เหมาะสมบ่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่เกิดจากการเสียดสีบริเวณริมฝีปาก โดยพื้นฐานแล้วเวลาที่เหมาะสมสำหรับใช้ลิปบาล์มมากที่สุดคือหลังการแปรงฟัน หลังอาบน้ำ หลังอาหาร ทาก่อนนอนหรือทาลิปเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากแห้งเป็นพิเศษค่ะ
วอร์มลิปบาล์มก่อนทา
ลิปบาล์มแบบกระปุกส่วนใหญ่จะมีเนื้อสัมผัสที่อยู่ในรูปแบบเนื้อแข็งค่ะ นอกจากการใช้แปรงทาปากแล้วคุณสามารถใช้ปลายนิ้วเพื่อวอร์มลิปบาล์มก่อนทาได้ ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณสามารถทาลิปได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดได้ด้วย
ทาลิปบาล์มในแนวตั้ง
หากริมฝีปากของคุณยังคงรู้สึกแห้งแม้หลังจากใช้ลิปบาล์มแล้ว คุณอาจต้องตรวจสอบทิศทางในการใช้งานค่ะเพราะปกติแล้วเส้นริมฝีปากและรอยแตกที่เกิดจากริมฝีปากนั้นจะแตกเป็นแนวตั้ง เมื่อทาลิปบาล์มเราก็ควรทาตามแนวตั้งเพื่อให้ริมฝีปากซึมซับส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีที่สุดและลดการเสียดสีบนริมฝีปาก นอกจากนี้หลาย ๆ คนยังมีนิสัยชอบ “เม้มริมฝีปาก” การกระทำแบบนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้นริมฝีปากให้แห้งโดยไม่จำเป็นดังนั้นอย่าลืมหลีกเลี่ยงจะดีกว่าค่ะ