9 ลิปสติกสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้ง ยี่ห้อไหนดี ให้ความชุ่มชื้น ทาง่าย

การแต่งแต้มริมฝีปากเป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ จนหลาย ๆ คนมีคำพูดติดปากว่า “ปากไม่แดง ไม่มีแรงเดิน” ดังนั้นลิปสติกถือเป็นไอเทมที่จำเป็น หากให้พูดง่ายๆ เลยก็คือลิปสติกเปรียบเสมือนอาวุธของผู้หญิงเลยค่ะ เราจะไม่แต่งหน้าก็ได้แต่เราจะขาดลิปสติกไม่ได้เพราะมันจะทำให้เราดูป่วยทันที (ทั้งๆ ที่ไม่ได้ป่วย)

แน่นอนว่าลิปสติกมีให้เลือกมากมายหลายประเภท หลายแบรนด์ค่ะทั้ง ลิปกลอส, ลิปออยล์, ลิปสติก Mac, ลิปสติก L’Oreal, ลิปสติก Maybeline หรือลิปสติก Dior แต่ขอบอกเลยว่าการเลือกลิปสติกไม่ได้ง่ายเลยโดยเฉพาะหากคุณมีปัญหาริมฝีปากแห้ง คุณจะต้องใช้ลิปสติกที่สามารถรักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปากได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ลิปสติกบางชนิดไม่สามารถให้ความชุ่มชื้นได้เพียงพอ ส่งผลให้ริมฝีปากแตกเป็นขุยหลังจากใช้เป็นประจำ เราเลยอยากแนะนำให้คุณซื้อ “ลิปสติกสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้ง” เพื่อที่คุณจะได้มีลิปสติกที่ให้ความชุ่มชื้นไว้ทาตลอดเวลานั่นเองค่ะ หากตอนนี้พร้อมแล้วก็สามารถไปเลือกซื้อลิปสติกที่สามารถให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษแก่ริมฝีปากของคุณกันได้เลยค่ะ

ลิปสติกสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้ง มีลักษณะแบบไหน ?

ริมฝีปากแห้งเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นค่ะ แน่นอนว่าริมฝีปากแห้งเป็นปัญหาที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การขาดน้ำ การขาดสารอาหาร การสัมผัสแสงแดด สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง นิสัยชอบเลียริมฝีปาก หรือสูบบุหรี่ อีกหนึ่งสาเหตุของริมฝีปากแห้งคือ การใช้ลิปสติกที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือเมนทอล เพราะส่วนผสมทั้งสองสามารถกัดกร่อนความชุ่มชื้นของผิวได้

เราเลยอยากแนะนำให้ใช้ลิปสติกสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งโดยเฉพาะ ลิปสติกสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งหรือลิปสติกให้ความชุ่มชื้นเป็นลิปสติกที่มีส่วนผสมเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก เมื่อเทียบกับลิปสติกทั่วๆ ไป

ลิปสติกที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก จะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งส่วนผสมส่วนใหญ่จะเป็นเชียบัตเตอร์ กรดไฮยาลูโรนิก น้ำมันจากผลไม้และดอกไม้อื่นๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ลิปสติกประเภทนี้มักจะให้ความรู้สึกเรียบเนียนและชุ่มชื้นเมื่อทา และจะมีลักษณะต่างกับกับลิปบาล์มเพราะเป็นลิปสติกที่มีเม็ดสีแน่นแต่ให้ความชุ่มชื้นได้เหมือนกันค่ะ

ลิปสติกสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้ง ยี่ห้อไหนดี?

• ลิปสติกราคาประหยัด มีสีให้เลือก 87 สี: Revlon Super Lustrous Lipstick ลิปสติก
• ลิปสติกเนื้อบางเบา ทาได้ง่าย สบายของริมฝีปาก: L'oreal Paris Makeup Brilliant Signature ลิปสติก
• ลิปสติกสุดฮิต แพ็คเกจดีงามพกพาได้ง่าย: Mac Satin Lipstick ลิปสติก
• ลิปสติกจากแบรนด์ไฮเอนด์ ดาราและนักแสดงชอบซื้อมาใช้: Yves Saint Laurent Rouge Pur Couture ลิปสติก
• ลิปสติกเนื้อซาติน ออกแบบมาอย่างดี ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน: Armani Beauty Lip Power Longwear Satin Lipstick ลิปสติก

เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปสติกสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้ง

1. เลือกเฉดสีลิปสติกให้เข้ากับสีปากตามธรรมชาติ

• เลือกลิปสติกสีสดใสหากคุณมีริมฝีปากซีด คนที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งมักจะมีริมฝีปากสีซีด หากริมฝีปากที่แห้งของคุณดูซีดเซียวให้เลือกสีลิปสติกที่สว่างและสดใส โดยอาจจะเป็นสีพีช สีส้มหรือสีบานเย็นก็ได้ค่ะ เพราะสีเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีริมฝีปากสีซีด ข้อห้ามคือ หลีกเลี่ยงการใช้กลิปสติกสีอ่อน เพราะจะทำให้ริมฝีปากที่ซีดอยู่แล้วซีดเข้าไปอีกค่ะ
• เลือกลิปสติกสีโทนน้ำตาลหากคุณมีริมฝีปากคล้ำ หลายคนที่มีริมฝีปากแห้งก็มักจะเริ่มมีปัญหาริมฝีปากสีคล้ำแทรกเข้ามาด้วย หากคุณมีริมฝีปากแห้งและมีแนวโน้มที่ดำคล้ำให้เลือกลิปสติกสีโทนน้ำตาล ตัวอย่างเช่น สีน้ำตาลแดง สีน้ำตาลเข้มหรือสีพลัม เพราะสีเหล่านี้สามารถปกปิดความเข้มของริมฝีปากได้นั่นเองค่ะ

2. ใส่ใจกับส่วนผสมในลิปสติก

• บีแว็กซ์และแคนเดลิลาแว็กซ์ (Bees Wax/Candelilla Wax) ขี้ผึ้งเป็นส่วนประกอบหลักอย่างหนึ่งในลิปสติกที่สามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากได้ ขี้ผึ้ง 2 ชนิดที่นิยมใช้ในลิปสติกได้แก่ บีแว็กซ์ และแคนเดลิลาแว็กซ์ โดยบีแว็กซ์เป็นขี้ผึ้งที่ผลิตจากรังผึ้งและสามารถดูแลรักษาผิวริมฝีปากที่แห้งและหยาบกร้านได้ ในขณะเดียวกันขี้ผึ้งแคนเดลิลลามาก็ได้มาจากพุ่มแคนเดลิลลา เมื่อทาแล้วจะสามารถป้องกันริมฝีปากที่แตกได้
• น้ำมันธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ลิปสติกบางชนิดใช้น้ำมันธรรมชาติหลายประเภทเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ ประเภทของน้ำมันที่ใช้ในลิปสติก ได้แก่ น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันมะกอกและน้ำมันอะโวคาโด น้ำมันโจโจ้บามีวิตามินบี วิตามินอีและแร่ธาตุซึ่งมีประโยชน์ในการทำให้ริมฝีปากนุ่ม อีกทั้งน้ำมันโจโจ้บายังสามารถป้องกันริมฝีปากไม่ให้แห้งและแตกได้ ส่วนน้ำมันมะกอกถูกใช้เป็นส่วนประกอบในการให้ความชุ่มชื้นมาเป็นเวลานานและสามารถรักษาริมฝีปากที่ดำคล้ำได้ สุดท้ายน้ำมันอะโวคาโดเป็นน้ำมันที่มีสเตอรอลลินเป็นสารปรับผิวริมฝีปากจึงมีประสิทธิภาพในการเร่งการสมานแผล ทำให้เหมาะสำหรับริมฝีปากที่แห้งและแตก

• วิตามินอี วิตามินอีไม่เพียงแต่ดีต่อผิวเท่านั้นแต่ยังมีประโยชน์ต่อการดูแลริมฝีปากด้วย วิตามินอีสามารถทำให้ริมฝีปากนุ่มและไม่แตก นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการทำร้ายผิวจากแสงแดดและอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
• เชียบัตเตอร์ ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นมากที่สุดที่พบในลิปสติกคือ เชียบัตเตอร์ค่ะ เชียบัตเตอร์ได้มาจากเมล็ดของต้นเชียซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน A, E และ F ส่วนผสมเหล่านี้ไม่เพียงแต่รักษาสุขภาพผิวแต่ยังปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ เชียบัตเตอร์ยังมีคุณสมบัติในการรักษาเกราะป้องกันผิวเพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวและคงความยืดหยุ่นเอาไว้
• สควาเลน สควาเลนเป็นผลมาจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนของสควาลีน ซึ่งเป็นไขมันตามธรรมชาติที่ร่างกายสามารถผลิตได้ แม้ว่าร่างกายจะผลิตได้แต่การผลิตสควาลีนจะลดลงตามอายุ สควาเลนมีความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวได้ดีค่ะ

3. ตรวจสอบปริมาณสารเติมแต่งในลิปสติก

แน่นอนว่าการเลือกลิปสติกที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ริมฝีปากของคุณแห้งได้ มีบางคนที่ไม่ชอบสารเติมแต่ง เช่น สี กลิ่นและสารกันบูดในลิปสติก ปกติแล้วสารเติมแต่งที่มักพบในลิปสติกได้แก่ เมทิลพาราเบนและโพรพิลพาราเบน สารทั้งสองเป็นสารกันบูดที่ทำหน้าที่ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดที่จัดเป็นสารเติมแต่งเช่นกัน ซึ่งนั่นก็คือ BHT ( Butylated Hydroxy Toluene) ขอบอกเลยว่าหากมีปริมาณไม่เป็นไปตามมาตรฐาน BHT อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ลิปสติกเกือบทั้งหมดมีสารเติมแต่ง ตราบใดที่ส่วนผสมยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์จะไม่ส่งผลเสียต่อผิวหนังอย่างแน่นอนค่ะ

4. เช็กเนื้อลิปสติก

• ลิปสติกเนื้อแมตต์ ลิปสติกเนื้อแมตต์จะไม่มีความมันวาวจึงติดทนนานมาก อย่างไรก็ตามลิปสติกเนื้อแมตต์มักจะทำให้ริมฝีปากดูแห้งยิ่งขึ้น หากคุณยังต้องการใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ให้ทาลิปบาล์มก่อนเสมอค่ะ
• ลิปสติกเนื้อกลอส ลิปสติกเนื้อกลอสจะทำให้เราดูสดใสขึ้นเมื่อทา อีกทั้งลิปสติกเนื้อกลอสยังสามารถทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มอีกด้วย
• ลิปสติกเนื้อครีม ลิปสติกเนื้อครีมเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการให้ริมฝีปากมีความมันวาวน้อย ลิปสติกประเภทนี้ยังมีสีที่เข้มข้นกว่าลิปสติกแบบกลอส หากคุณต้องการลิปสติกที่หนาแต่ยังคงความชุ่มชื้นและมันวาวเล็กน้อยลิปสติกเนื้อครีมคือทางออกค่ะ
• ลิปสติกเนื้อซาติน ลิปสติกเนื้อซาตินให้ลุคกึ่งแมตต์ เมื่อทาแล้วคุณจะได้สีลิปสติกที่เข้มขึ้นแต่ไม่มันจนเกินไป อีกทั้งลิปสติกเนื้อซาตินยังให้ความรู้สึกบางเบาและคงความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากได้ดี
• ลิปสติกเนื้อกำมะหยี่ ลิปสติกเนื้อกำมะหยี่มีลักษณะนุ่มลื่นและไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง ลิปสติกชนิดนี้เป็นทางเลือกที่ดีหากคุณต้องการลิปสติกที่ไม่แห้งเกินไปค่ะ

5. เลือกลิปสติกที่มีเม็ดสีแน่นและติดทนนาน

สำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้ง การทาลิปสติกซ้ำๆ จะทำให้ริมฝีปากแห้งยิ่งขึ้นได้ เพราะลิปสติกที่เราทาเข้าไปซ้ำๆ สามารถดูดซับความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของริมฝีปากได้ ส่งผลให้ริมฝีปากแห้งและแตกค่ะ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ให้เลือกลิปสติกที่มีเม็ดสีแน่นและพิจารณาซื้อลิปสติกที่ติดทนนานเพราะคุณจะได้ไม่ต้องทาซ้ำ ๆ เพื่อทดสอบความติดทนของลิปสติก

Revlon Super Lustrous Lipstick ลิปสติก

ราคา 119 บาท*

Revlon Super Lustrous Lipstick ลิปสติกราคาประหยัด ขายดีมากแนะนำให้ซื้อมาใช้ค่ะ ลิปสติกจากทางแบรนด์จะตอบโจทย์หากคุณชอบทาลิปสติกที่แตกต่างกันทุกวันค่ะ เพราะเป็นรุ่นที่มีเฉดสีให้เลือกมากถึง 87 สี ด้วยเฉดสีที่มีมากมายทำให้คุณสามารถหาสีลิปสติกที่ต้องการได้ตั้งแต่สีนู้ด สีสดใสไปจนถึงสีเข้ม

ความพิเศษคือลิปสติกจากทางแบรนด์มี 2 ฟินิชลุคให้เลือกคือ เนื้อครีม และเนื้อประกายมุกเพื่อช่วยเพิ่มประกายแวววาวให้กับริมฝีปากได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวแล้วชอบแบบประกายมุกเพราะสามารถช่วยยกระดับการแต่งหน้าได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ข้อดี

• เนื้อลิปมีความบางเบา ให้ความเรียบเนียนจึงทาง่าย
• เมื่อทาแล้วจึงไม่หนักริมฝีปาก จึงสามารถใช้ได้ทุกวัน
• มีหลากหลายเฉดสีให้เลือกสามารถเลือกสีได้ตามต้องการ

ข้อควรพิจารณา

• อาจต้องเติมลิปสติกเพิ่มระหว่างวัน

ปริมาณ	4.5 กรัม
เฉดสี	87 สี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	วิตามินอีและน้ำมันอะโวคาโด
ฟินิชลุค	ครีมและประกายมุก

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Maybelline Color Sensational The Creamy Matte Lipstick ลิปสติก

ราคา 69 บาท*

Maybelline Color Sensational The Creamy Matte Lipstick เป็นลิปสติกที่ดีและเหมาะมากสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งค่ะ เพราะเนื้อสัมผัสของลิปสติกมีเนื้อเนียนคล้ายกับเนย เมื่อทาแล้วจะทำให้เรามีริมฝีปากที่นุ่มและทำให้ดูดี ราคาของลิปสติกจากทางแบรนด์ไม่ได้แพงมากและมีหลายสีให้เราได้เลือกตอบโจทย์คนที่ชอบซื้อลิปสติกแบบ Drugstore ค่ะ

ลิปสติกของเมย์เบลลีนรุ่นนี้มีเนื้อแมตต์แต่ทาง่ายเพราะเป็นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ เมื่อทาแล้วจะให้เฉดสีริมฝีปากที่เข้ม จัดจ้านและแมตต์ ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่าลิปสติกสามารถติดทนนานถึง 24 ชั่วโมง แต่ทางผู้เขียนมองว่าต้องทาซ้ำระหว่างวันด้วยค่ะ ใครที่อยากให้ริมฝีปากดูนุ่มและอวบอิ่มแนะนำเลยค่ะ

ข้อดี

• มีเม็ดสีแน่นมากๆ ปาดเพียงครั้งเดียวก็ให้เฉดสีที่สวยงาม
• เนื้อสัมผัสเนียนเรียบและมีความแมตต์ทาได้ทุกลุค
• ลิปสติกให้ความชุ่มชื่นกับริมฝีปากได้เป็นพิเศษเพราะมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง

ข้อควรพิจารณา

• ติดทนแต่อาจจะต้องทาซ้ำบ้างระหว่างวัน เช่น หลังทานข้าว

ปริมาณ	3.9 กรัม
เฉดสี	15 สี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	น้ำผึ้ง
ฟินิชลุค	แมตต์

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Milani Bold Color Statement Matte Lipstick ลิปสติก

ราคา 119 บาท*

Milani Bold Color Statement Matte Lipstick เป็นลิปสติกอีกหนึ่งแบรนด์ที่ต้องห้ามพลาดค่ะ เพราะปาดเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำให้ริมฝีปากดูโดดเด่นในทันที ความพิเศษคือลิปสติกมีฟินิชลุคแบบแมตต์แต่สามารถให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากได้อย่างดีเยี่ยมเพราะมีส่วนผสมของวิตามินเอและวิตามินซีเพื่อช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นตลอดวัน

ลิปสติกจากทางแบรนด์ติดทนนานค่ะและสามารถเกลี่ยได้ง่าย เนื้อสัมผัสของลิปสติกมีความเนียนละเอียด เฉดสีที่มีมากมายทำให้เราสามารถเลือกสีได้ตามต้องการแต่ละสีก็เหมาะสำหรับทุกสีผิว เม็ดสีของลิปสติกแน่นมากค่ะสามารถทาแค่ครั้งเดียวเพื่อให้ได้ลุคธรรมชาติ แต่หากอยากได้สีเข้มหน่อยให้ทาซ้ำๆ หลายๆ รอบค่ะ

ข้อดี

• มีส่วนผสมของวิตามินเอและวิตามินซีเพื่อบำรุงริมฝีปาก
• ลิปสติกติดทนนาน เนื้อเรียบเนียนและทาได้ง่าย
• เฉดสีของลิปสติกเหมาะกับทุกสีผิและให้ความเป็นธรรมชาติได้ดี

ข้อควรพิจารณา

• ลิปสติกเป็นเนื้อแมตต์แต่ดูเหมือนไม่ค่อยแมตต์

ปริมาณ	3.6 กรัม
เฉดสี	15 สี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	วิตามินอีและน้ำมันอะโวคาโด
ฟินิชลุค	แมตต์

ดูได้ที่ Shopee

L'oreal Paris Makeup Brilliant Signature ลิปสติก

ราคา 249 บาท*

L'oreal Paris Makeup Brilliant Signature เป็นลิปสติกที่ตอบโจทย์มากๆ หากคุณอยากได้ริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มแต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหนอะหนะ เพราะแบรนด์ L'Oreal Paris ได้นำเสนอลิปสติกสูตรบางเบาพิเศษและมีส่วนผสมของน้ำมันให้ความชุ่มชื้น เมื่อทาแล้วจะไม่ได้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ลิปสติกจากทางแบรนด์มีเม็ดสีแน่นมากจึงติดทนนานเมื่อใช้

ลิปสติกมาในรูปแบบลิควิดมีแปรงทาในตัว คุณจึงสามารถใช้กับริมฝีปากได้โดยตรงเพื่อให้ได้ริมฝีปากดูเอิบอิ่มและเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ใครที่ชอบลิปสติกที่ทาง่ายและไม่ได้ให้ความรู้สึกหนักริมฝีปากเราขอแนะนำ L'oreal Paris Makeup Brilliant Signature เลยค่ะ

ข้อดี

• บางเบาสบายและให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากได้ดี
• เฉดสีสวยและเม็ดสีก็แน่นมากกลบสีปากเดิมได้อย่างมิดชิด
• แปรงทาลิปสติกทาให้ความสะดวกและวาดรูปปากได้ง่าย

ข้อควรพิจารณา

• อาจจะต้องทาลิปสติกซ้ำหลังทานข้าว

ปริมาณ	7 กรัม
เฉดสี	11 เฉดสี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	สารให้ความชุ่มชื้น
ฟินิชลุค	แวววาว

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Mac Satin Lipstick ลิปสติก

ราคา 470 บาท*

Mac Satin Lipstick ลิปสติกที่หลายคนรู้จักกันดีค่ะ เพราะแบรนด์ Mac มีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์ลิปสติกอยู่แล้ว ลิปสติกจากทางแบรนด์มีสีให้เลือกมากมายค่ะ ซึ่งแต่ละสีก็มีความโดดเด่นหมดเลยค่ะจะเลือกซื้อสีสดๆ หรือสีนู้ดก็ได้ค่ะ ลิปสติกมาในรูปแบบแท่งทาได้ง่ายมากเลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์ลิปสติกมีเนื้อสัมผัสแบบซาตินทาได้ง่ายมาก เมื่อทาแล้วจะทำให้ริมฝีปากดูเนียนนุ่มมากกว่าเดิม ลิปเนื้อซาตินแตกต่างจากลิปสติกเนื้อแมตต์อยู่แล้วค่ะ ปกติแล้วลิปสติกเนื้อแมตต์จะทำให้เส้นร่องและรอยเหี่ยวย่นของริมฝีปากชัดเจนขึ้น แต่ลิปสติกเนื้อซาตินไม่ได้เป็นแบบนั้นจึงเหมาะจะใช้เวลาอยากแต่งหน้าเบาๆ เพราะทาได้ไม่ดูเว่อร์เกินไป

ข้อดี

• ทาได้ง่าย ให้ความสวยงามแต่ไม่ได้ทำให้ริมฝีปากแห้ง
• เม็ดสีแน่นลิปสติกจึงให้เฉดสีที่ชัดสามารถเลือกสีได้ตามต้องการ
• แพ็คเกจผ่านการออกแบบมาอย่างดีพกพาได้ง่ายมาก

ข้อควรพิจารณา

• ติดทนแต่อาจจะต้องทาซ้ำบ้างหลังทานข้าว

ปริมาณ	3 กรัม
เฉดสี	33 เฉดสี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	น้ำมันงาดำ น้ำมันละหุ่งและน้ำมันโจโจ้บา
ฟินิชลุค	ซาติน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

Yves Saint Laurent Rouge Pur Couture ลิปสติก

ราคา 1,028 บาท*

Yves Saint Laurent Rouge Pur Couture เป็นลิปสติกที่มีสีสันสวยงามมากค่ะและได้รับความนิยมมากด้วย ลิปสติกมีสารให้ความชุ่มชื้นเยอะมากๆ นอกจากจะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งแล้ว บรรจุภัณฑ์ของลิปสติกก็มีความหรูหรา ตัวหลอดลิปสติกมีสีเหลืองทองและมีการแกะตัวอักษร YSL ไว้บนลิปสติก ขอบอกเลยว่าเก๋และให้ความหรูหรามาก

เนื้อสัมผัสของลิปสติกมีความมันวาวซึ่งจะตอบโจทย์มากๆ หากคุณชอบทาสีลิปสติกแบบเด่น อีกทั้งลิปสติก Yves Saint Laurent Rouge Pur Couture ยังติดทนนานมากๆ แม้หลังจากทานอาหารมื้อหนักสีของลิปสติกก็ไม่หลุดค่ะ หากคุณเป็นคนที่ชอบสะสมลิปสติกหรือขาดลิปสติกไม่ได้ต้องซื้อค่ะ

ข้อดี

• บรรจุภัณฑ์สวยงามและให้ความรู้สึกที่หรูหราทุกครั้งที่ใช้
• เนื้อสัมผัสมีความเรียบเนียนและชุ่มชื่นไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งเลย
• เฉดสีของลิปสติกมีความสวยงามเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบลิปสติกสีสันสดใส

ข้อควรพิจารณา

• ราคาของลิปสติกค่อนข้างแพงแต่ก็เหมาะสมกับคุณภาพ

ปริมาณ	3.8 กรัม
เฉดสี	19 เฉดสี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	น้ำมันจากธรรมชาติ
ฟินิชลุค	ซาติน

ดูได้ที่ Shopee

Armani Beauty Lip Power Longwear Satin Lipstick ลิปสติก

ราคา 1,350 บาท*

Armani Beauty Lip Power Longwear Satin Lipstick เป็นลิปสติกเนื้อซาตินที่ติดทนนานมากๆ ค่ะ ลิปสติกจากทางแบรนด์มีเม็ดสีแน่นมาก ทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อทาแล้วจะติดทนนานถึง 8 ชั่วโมง หากไม่ได้ทานอาหารเข้าไปเลยลิปสติกสามารถคงความสดใสไว้ได้ ลิปสติกมาในรูปแบบแท่งทำให้ทาได้ง่ายมากเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากความติดทนนานที่น่าประทับใจแล้ว ลิปสติกสูตรนี้ยังผสมน้ำมันเพื่อให้ริมฝีปากสวยงามและเรียบเนียนตลอดวัน เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือกถึง 26 เฉดสี อีกทั้งทางแบรนด์ Armani จะเพิ่มเฉดสีใหม่ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ หากคุณชอบสีปากที่สดใส Armani Beauty Lip Power Longwear Satin Lipstick คือลิปสติกที่คุณควรซื้อค่ะ

ข้อดี

• เฉดสีของลิปสติกมีความสวยงามมากและมีให้เลือกหลายสี
• มีส่วนผสมบำรุงริมฝีปากและจะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง
• บรรจุภัณฑ์สวยงามมาก มาในรูปแบบแท่งทาง่ายพกพาสะดวก

ข้อควรพิจารณา

• ราคาของลิปสติกค่อนข้างสูง

ปริมาณ	3 กรัม
เฉดสี	26 เฉดสี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	เชียบัตเตอร์และน้ำมันธรรมชาติ
ฟินิชลุค	ซาติน

ดูได้ที่ Central

Kiko Milano Coloured Balm ลิปสติก

ราคา 427 บาท*

Kiko Milano Coloured Balm ลิปสติกเนื้อบาล์มสีอ่อนตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบทาลิปสติกหนาๆ ค่ะ เพราะเนื้อสัมผัสของลิปสติกบางเบาและทาง่ายสุดๆ ไปเลย ลิปสติกมีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ วิตามินเอ วิตามินอีและวิตามินซี เมื่อทาไปแล้วริมฝีปากจะดูชุ่มชื่นมากกว่าเดิม เราขอบอกเลยว่าเมื่อใช้แล้วคุณจะติดใจและเปลี่ยนไปใช้ลิปสติกจากแบรนด์อื่นไม่ได้เลยค่ะ

เมื่อทาลิปสติกไปแล้วริมฝีปากจะมีความเงางามและแวววาวมากกว่าเดิม ทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อทาลิปสติกจะสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของริมฝีปากได้ในเวลาเพียง 28 วัน สิ่งที่คุณต้องทำคือทาลิปสติกให้ทั่วริมฝีปากค่ะ

ข้อดี

• เนื้อครีมเนียนละเอียดมากทาง่ายและมีกลิ่นหอมของเชียร์บัตเตอร์
• ช่วยให้ริมฝีปากดูอ่อนเยาว์และเอิบอิ่มมากยิ่งขึ้น
• ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นขึ้นสามารถใช้ทาในวันสบายๆ ได้

ข้อควรพิจารณา

• เฉดสีของลิปสติกอ่อนมากๆ

ปริมาณ	3 กรัม
เฉดสี	7 เฉดสี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	เชียบัตเตอร์ วิตามินเอ วิตามินอีและวิตามินซี
ฟินิชลุค	ครีม

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

DHC Deep Moistening Color Lip Cream ลิปสติก

ราคา 398 บาท*

DHC Deep Moistening Color Lip Cream ลิปสติกที่เราอยากแนะนำมากๆ ค่ะ เพราะสามารถทาได้ทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียวค่ะ ลิปสติกมาในรูปแบบเนื้อครีมทาได้ง่ายมาก สีของลิปสติกไม่ได้แรงมากค่ะสามารถทาได้ทุกวันเลย ก่อนที่จะทาลิปสติกไม่จำเป็นต้องใช้ลิปบาล์มก่อนเพราะในลิปสติกมีสารให้ความชุ่มชื้นเยอะมากๆ ทาแล้วไม่จำเป็นกังวลว่าริมฝีปากจะแห้ง

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวหรือทำงานในห้องแอร์ก็สามารถทาลิปสติกจาก DHC Deep Moistening Color Lip Cream ได้เช่นเดียวกัน ขอบอกเลยค่ะว่านอกจากให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากแล้ว ริมฝีปากของคุณยังมีสีสวยงามน่าจุ๊บด้วยค่ะ ลิปสติกมีทั้งหมด 3 สีค่ะสามารถเลือกสีที่ที่เข้ากับริมฝีปากได้เลย ใครที่อยากให้ตัวเองมีริมฝีปากสวย

ข้อดี

• ช่วยดูแลริมฝีปากที่แห้งและแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• มีสารสกัดจากธรรมชาติที่จำเป็นต่อการบำรุงริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้น
• ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือพาราเบนที่เป็นอันตรายต่อผิว

ข้อควรพิจารณา

• เฉดสีของลิปสติกอ่อนมากไม่เหมาะกับคนที่มีริมฝีปากคล้ำ

ปริมาณ	1.5 กรัม
เฉดสี	3 เฉดสี
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น	น้ำมันมะกอก, สควาเลน, สารสกัดจากพลาเซนต้าและน้ำมันลาโลนิน
ฟินิชลุค	ครีม

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

เคล็ดลับการดูแลริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้น

บริเวณริมฝีปากเป็นบริเวณที่บอบบางมากๆ เพราะบริเวณนั้นมีปริมาณน้ำมันเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ นอกเหนือจากการใช้ลิปสติกที่ให้ความชุ่มชื้นและเหมาะกับริมฝีปากที่แห้งแล้วยังมีอีกหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้ริมฝีปากมีความนุ่มและชุ่มชื้น ด้านล่างคือวิธีและเคล็ดลับที่เราอยากแนะนำค่ะ

• การขาดของเหลวในร่างกายอาจทำให้ริมฝีปากแห้งและแตกได้ ดังนั้นในแต่ละวันจะต้องดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายขาดน้ำ
• หลีกเลี่ยงการกัด เลียหรือลอกริมฝีปากด้วยมือ
• พยายามทำความสะอาดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนริมฝีปากเป็นประจำ ใช้สครับริมฝีปากที่ขายตามท้องตลาดหรืออาจจะทำเองโดยใช้ส่วนผสมของน้ำตาลและน้ำผึ้งค่ะ
• หากคุณอาศัยหรือใช้ชีวิตในสภาพอากาศที่แห้งบ่อยๆ ควรทาลิปบาล์มเป็นประจำ นอกจากนี้คุณยังสามารถลองใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าวและว่านหางจระเข้ได้
• ใช้ลิปเซรั่มก่อนเข้านอนเพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นตลอดคืน