การแต่งหน้าถือว่าเป็นกิจวัตรที่สำคัญของผู้หญิงทุกคนค่ะ แล้วคุณรู้กันหรือไม่ ว่าการแต่งหน้าของคุณจะไม่มีทางสมบูรณ์แบบได้หากคุณไม่ได้ทา “ลิปสติก” ไม่ว่าคุณจะลืมแต่งทาอายแชโดว์ ลืมปัดบลัชออนหรือลืมกรีดอายไลเนอร์มันก็ไม่ได้รับความเสียหายเท่ากับการไม่ได้ทาลิปสติก เพราะลิปสติกถือเป็นตัวชูโรงเมื่อเราทาลงบนริมฝีปากจะทำให้ริมฝีปากดูโดดเด่น แต่ไม่ใช่แค่ริมฝีปากเท่านั้นนะคะเพราะลิปสติกสามารถทำให้การแต่งหน้าโดยรวมของเราสดใสมากขึ้นกว่าเดิมด้วย บอกตามตรงเลยค่ะลิปสติกเป็นหนึ่งในไอเทมที่ผู้เขียนให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะชอบที่ตัวเองดูสดใสขึ้นเมื่อทาลิปสติก ขนาดเลือกซื้อลิปบาล์มผู้เขียนยังซื้อลิปบาล์มที่มีสีเลยค่ะเพราะไม่อยากให้หน้าตัวเองขาดสีสันไป

แน่นอนว่าวันนี้เราจะมาแนะนำลิปสติกกันค่ะ ซึ่งลิปสติกที่เราจะนำมาแนะนำกันเป็นลิปสติกที่คนไทยชอบใช้ กว่าจะได้บทความนี้ผู้เขียนได้สำรวจข้อมูลผ่านหลากหลายแอปพลิเคชันเลยทีเดียวค่ะ บอกเลยว่ายากมากเพราะลิปสติกมีหลายแบรนด์ให้เราซื้อ โดยในรายการแนะนำของเราส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีค่ะ มีทั้งลิป Maybelline, L’oreal Paris , Dior, MAC, Chanel และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย หากคุณอยากรู้ว่าแบรนด์ไหนจะตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุดต้องไปดูเท่านั้นค่ะ
ลิปสติกยี่ห้อไหน เฉดสีสวย ได้รับความนิยมและเหมาะกับคุณมากที่สุด?
- ลิปสติกที่ได้รับความนิยมในไทย ติดทนนาน ไม่ติดแมสก์: Maybelline Super Stay Matte Ink ลิปสติก
- ลิปเนื้อแมตต์แต่ปากไม่แห้ง ทาได้ง่าย : L'oreal Paris Makeup Rouge Signature Matte Ink Liquid ลิปสติก
- ลิปแมตต์เนื้อซาติน ตามเทรนด์ยูนาบี Nevertheless: Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution ลิปสติก
- ลิปสติกลิควิด 2 ด้าน เฉดสีลูกคุณหนูติดทนนานทั้งวัน : Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color ลิปสติก
- ลิป MAC เนื้อแป้งทาง่าย เบลอริมฝีปากได้ดี: MAC Powder Kiss Lipstick ลิปสติก
- ลิปสติกสูตรวีแก้น ใช้สารสกัดจากพืชให้ลุคอิ่มฟูแบบเกาหลี: Muzigae Mansion Object Liquid ลิปสติก
ลิปสติก สำคัญอย่างไร?
ลิปสติกเป็นไอเทมที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงและผู้ชายในปัจจุบัน ใช่ค่ะทุกคนผู้ชายก็สามารถใช้ลิปสติกได้เช่นกันและเดี๋ยวนี้ผู้ชายก็หันมาซื้อลิปสติกกันมากขึ้นเป็นผลพวงจากเหล่าไอดอลชาย K – P0P ที่มีริมฝีปากสดใสและสวยงามอยู่เสมอ ทำให้การที่ผู้ชายจะใช้ลิปสติกไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกอีกต่อไป ปัจจุบันแบรนด์ลิปสติกมีมากมายค่ะ เราสามารถเลือกซื้อสีที่ชอบ รูปแบบที่ชอบและแบรนด์ที่ชอบได้อย่างง่ายดาย แต่ก่อนจะซื้อลิปสติกคุณรู้ไหมคะว่าลิปสติกมีความสำคัญอย่างไร? แม้ว่าทุกวันนี้คนส่วนใหญ่มองว่าลิปสติกเป็นเครื่องสำอางนำแฟชั่นที่สามารถช่วยเนรมิตริมฝีปากให้ดูสวยงามมากขึ้น แต่อันที่จริงลิปสติกมีความพิเศษมากกว่านั้นค่ะความพิเศษนั้นคืออะไรไปดูค่ะ
- ลิปสติกช่วยเพิ่มความงาม ไม่ว่าคุณจะชอบสีปากสไตล์ไหน สีที่คมชัด เข้ม ดูละมุนหรือเฉดสีที่เป็นธรรมชาติลิปสติกก็มีทุกแนวให้เราได้เลือกค่ะ แน่นอนว่าหลังจากการทาลิปสติกคุณจะรู้สึกสวยขึ้นทันที หากเป้าหมายของคุณคือการโดดเด่นท่ามกลางฝูงชน ต้องการดูสวยขึ้นหรือเพียงแค่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ ลิปสติกคือเครื่องมือทางแฟชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานนี้ค่ะ
- ลิปสติกให้ความชุ่มชื้น แม้ว่าลิปสติกรุ่นเก่าบางยี่ห้อจะใช้ส่วนผสมที่สามารถดูดความชื้นจากริมฝีปากได้ แต่เดี๋ยวนี้ตลาดลิปสติกเปลี่ยนไปแล้วค่ะเพราะแบรนด์ลิปสติกส่วนใหญ่ใช้ส่วนผสมเพื่อเติมความชุ่มชื้นและช่วยรักษาสภาพธรรมชาติของริมฝีปาก โดยปกติลิปสติกยี่ห้อใหม่ๆ มักจะมีสารเพิ่มความชุ่มชื้นบางรูปแบบ เช่น วิตามินอีหรือว่านหางจระเข้ เพื่อให้สารเหล่านี้เข้าไปมีส่วนช่วยในการดูแลริมฝีปากค่ะ
- ลิปสติกช่วยเพิ่มความมั่นใจ เรื่องนี้มีการพิสูจน์แล้วค่ะว่าคนเราจะมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อทาลิปสติก แน่นอนว่าผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะเพราะมองว่าการทาลิปสติกจะทำให้หน้าดูสวยขึ้นถึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าก็ตาม แต่ผู้เขียนเองไม่ชอบทาลิปสติกที่ติดทนมากนักเพราะล้างออกได้ยาก เลยเลือกซื้อลิปสติกเนื้อบาล์มแทนเพราะมองว่าทาง่ายและเม็ดสีก็ให้ความเป็นธรรมชาติได้ดีด้วย
- ลิปสติกช่วยดูแลปัญหาสุขภาพอื่นๆ ริมฝีปากมีองค์ประกอบที่แตกต่างจากผิวหนังส่วนอื่นๆ ของเรามาก ริมฝีปากเป็นส่วนที่ขาดเมลานินซึ่งเป็นสารที่ปกป้องเราจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย และด้วยเหตุนี้การทาลิปสติกที่ป้องกันแสงแดดจึงช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งผิวหนังได้อย่างมาก อย่างไรก็ตามมีเพียงลิปสติกเนื้อแมตต์ สีทึบที่มีค่า SPF สูงกว่า 15 เท่านั้นที่จะเห็นผลในเรื่องนี้
เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปสติก
1. เลือกลิปสติกตามฟินิชลุค
|
ลิปสติกเนื้อมันวาวลิปสติกเนื้อมันวาวเป็นลิปสติกที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเพราะว่าความฉ่ำวาวของมันสามารถทำให้ริมฝีปากดูสวยและมีความเป็นธรรมชาติ เนื้อสัมผัสของลิปสติกจะมีความลื่นมากจึงทาง่ายเหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มลองทาลิปสติก จุดเด่นคือลิปสติกแบบนี้สามารถมอบความชุ่มชื้นที่เพียงพอให้กับริมฝีปาก จึงเหมาะสำหรับคนปากแห้งแต่ข้อเสียก็มีคือสีจะจางออกได้อย่างรวดเร็วและไม่ติดทนนาน หากคุณเลือกซื้อลิปสติกเนื้อมันวาว อย่าลืมเลือกลิปสติกที่ไม่มันวาวมากเกินไป เพราะหากลิปสติกมีความมันมากเกินไปจะทำให้รู้สึกหนักปาก หากคุณเลือกลิปสติกที่มีความแวววาวแบบพอเหมาะตัวลิปสติกไม่เพียงแต่จะช่วยปกปิดริ้วรอยบนริมฝีปากเท่านั้นแต่ยังทำให้ริมฝีปากของคุณดูสวยงามขึ้นอีกด้วย |
|
ลิปสติกเนื้อแมตต์ลิปสติกเนื้อแมตต์เป็นลิปสติกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงโควิดที่ผ่านมาเพราะหลายๆ คนต้องการลิปแมตต์ที่ติดทนแต่ไม่ติดแมสก์ ลักษณะของลิปสติกเนื้อแมตต์คือจะไม่ทิ้งความแวววาวไว้บนริมฝีปากเลย ลิปสติกเนื้อแมตต์ประเภทนี้จะติด ทนกว่าลิปสติกเนื้อแวววาว ลิปสติกเนื้อแมตต์มีข้อดีที่เห็นได้ชัดเลยคือเป็นลิปสติกที่ไม่ค่อยจะถ่ายโอนเท่าไหร่นัก เมื่อเราดื่มน้ำ ทานข้าวก็จะไม่ติดหลอดติดช้อน แต่หากทานอาหารมันๆ แน่นอนว่าลิปแมตต์ก็เอาไม่อยู่ค่ะ |
นอกจากนี้ลิปสติกเนื้อแมตต์ยังแบ่งออกเป็นลิปสติกแบบย่อยอีกหลากหลายแบบดังนี้ค่ะ
- ลิปสติกแมตต์เนื้อนุ่ม ลิปสติกแมตต์เนื้อนุ่มหรือเนื้อแป้งเป็นลิปสติกที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนกว่าลิปสติกแบบแมตต์ทั่วไป เพราะลิปสติกประเภทนี้จะเกลี่ยง่าย สามารถเบลอขอบปากและริมฝีปากด้วยดี อีกทั้งเนื้อยังไม่แมตต์เกินไปมีความมันเล็กน้อยทำให้ปากดูสวยขึ้น
- ลิปสติกแมตต์เนื้อซาติน ลิปสติกแมตต์เนื้อซาตินมีลักษณะมันวาวคล้ายกับลิปสติกแบบมันวาว ความแตกต่างคือผลลัพธ์แบบมันวาวของลิปสติกแมตต์เนื้อซาตินจะดูหรูหรากว่าลิปสติกแบบมันวาว ดังนั้นลิปสติกแบบนี้จึงมักได้รับความนิยมและหลายคนชอบทาตอนที่ต้องออกงานเพราะทำให้ริมฝีปากดูสวยและมีความหรูหรา
- ลิปสติกกึ่งแมตต์ ลิปสติกกึ่งแมตต์จะทำให้ริมฝีปากดูเข้ารูปและเน้นริมฝีปากให้ดูสวย ถึงแม้จะเป็นแบบกึ่งแมตต์แต่ให้ความใกล้เคียงกับลิปแมตต์มากที่สุดแต่เป็นความแมตต์ที่สบายกว่า ไม่แห้งแต่ก็ไม่มีความมันเพิ่มเข้ามาเหมือนกับลิปแมตต์เนื้อซาตินค่ะ
แน่นอนว่าการเลือกซื้อลิปสติกเนื้อแมตต์เป็นทางเลือกที่ดีค่ะเพราะติดทนจริงๆ แต่การขาดความมันวาวของลิปสติกจะไปลดความชื้นของริมฝีปากได้ เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าริมฝีปากจะแห้งขึ้นเมื่อใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ ดังนั้นอย่าลืมทาลิปบาล์มก่อนทาลิปสติกเนื้อแมตต์เสมอ แต่ตอนทาลิปบาล์มอย่าทาลิปบาล์มมากเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกเนื้อแมตต์หลุดออกเร็วค่ะ
2. เลือกสีลิปตามอันเดอร์โทนผิว

- อันเดอร์โทนอุ่น อันเดอร์โทนอุ่นเป็นผิวที่มีเส้นเลือดสีเขียวสามารถสังเกตได้ที่บริเวณข้อมือ จุดเด่นของผิวที่มีอันเดอร์โทนอุ่นคือผิวจะไม่เกิดรอยแดงเมื่อโดนแสงแดด หากคุณมีผิวแบบอันเดอร์โทนอุ่นให้ลองใช้ลิปสติกสีโทนร้อน เช่น สีส้ม สีแดงอิฐ สีแดงเข้มและสีม่วง
- อันเดอร์โทนเย็น อันเดอร์โทนเย็นจะมีเส้นเลือดสีน้ำเงินหรือสีม่วงค่ะ หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแดงและแสบร้อนได้ง่ายเมื่อโดนแสงแดดคุณอาจจะมีอันเดอร์โทนเย็น สำหรับผิวที่มีอันเดอร์โทน เย็นให้เลือกลิปสติกที่มีสีสว่าง เช่น สีแดง สีชมพู สีกุหลาบและสีแดงอมตุ่น นอกจากนี้คนที่ผิวอันเดอร์โทนเย็นก็สามารถใช้ลิปสติกสีนู้ดโทนน้ำตาลได้ด้วย แต่หากคุณต้องการลุคที่สดใสลิปสติกสีคอรัล หรือสีส้มก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี
- อันเดอร์โทนกลาง อันเดอร์โทนกลางจะมีเส้นเลือดสีเขียวอมฟ้า เป็นลักษณะอันเดอร์โทนที่ผสมผสานกันระหว่างอันเดอร์โทนเย็นและอันเดอร์โทนอุ่น คนที่มีอันเดอร์โทนกลางจะดูดีเมื่อได้ใช้ลิปสติกสีนู้ด ชมพูและเบอร์รี อีกทั้งคุณสามารถเลือกสีลิปสติกที่หลากหลายตามความต้องการของคุณได้อย่างอิสระมากขึ้น
หากคุณชอบทดลองแต่งหน้าคุณสามารถเลือกสีลิปสติกที่เหมาะกับความชอบของคุณได้ ถึงกระนั้นการเลือกสีลิปสติกตามสีอันเดอร์โทนก็ยังเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ดีค่ะ แต่เราอยากแนะนำเลยค่ะว่าหากคุณมีปากซีดไม่ควรทาลิปสติกที่อ่อนเพราะจะทำให้ปากดูซีดกว่าเดิม คนที่มีปากซีดควรจะเลือกลิปสติกสีสดใสเสมอ ส่วนคนที่มีริมฝีปากคล้ำหรือดำลิปสติกที่มีสีจัดจ้าน เช่น สีแดงเบอร์กันดีและสีแดงเข้มจะเหมาะกับคุณมาก เพราะสามารถปกปิดริมฝีปากที่ดำคล้ำได้
3. อย่าลืมเลือกลิปสติกที่มีมอยส์เจอไรเซอร์

บางคนมีริมฝีปากที่มักจะแห้งและลอกง่าย เพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นสิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับสารให้ความชุ่มชื้นในลิปสติก เราอยากแนะนำให้เลือกลิปสติกที่มีมอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ เช่น เชียบัตเตอร์ น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันมะกอก ขี้ผึ้งหรือสควาเลนก็ได้เพราะส่วนผสมเหล่านี้เป็นส่วนผสมที่สามารถเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้ดี แต่ก็ต้องระวังเช่นเดียวกันค่ะเพราะส่วนผสมเหล่านี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคนจึงทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หากคุณรู้สึกไม่สบายปากหรือมีอาการคันเมื่อทาลิปสติกให้หยุดใช้ทันที อีกอย่างหนึ่งที่ต้องจำไว้คือแม้ว่าผู้ผลิตลิปสติกหลายรายจะเคลมมาว่าผลิตภัณฑ์ของตัวเองมีมอยส์เจอไรเซอร์แต่ทุกครั้งที่ใช้ลิปสติกควรทาลิปบาล์มแบบบางๆ ก่อนเสมอเพื่อป้องกันริมฝีปากขาดความชุ่มชื้นค่ะ
* หมายเหตุ : สินค้าที่เรานำมารีวิวเราไม่ได้รับสปอนเซอร์ใดๆ การเรียงลำดับสินค้าด้านล่างเป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น
Maybelline Super Stay Matte Ink ลิปสติก

ราคา 219 บาท*
Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นลิปสติกที่เราขอยกให้เป็นอันดับหนึ่งค่ะ เพราะได้รับความนิยมมาก ตั้งแต่วางขายมายอดขายก็ยังปังอยู่ตลอด อีกทั้งลิปสติกก็ยังมีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่ายมากด้วย ลิปสติก Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นลิปสติกที่ขึ้นชื่อในเรื่องความติดทนนานทางแบรนด์เคลมมาว่าติดทนนานถึง 16 ชม. มาพร้อมคุณสมบัติ “Kiss proof” จูบไม่หลุดและไม่ติดแมสก์ค่ะ

จากคำเคลมที่ทางแบรนด์ให้มาบอกเลยว่าจริงค่ะ วันนั้นผู้เขียนลองทดสอบทั้งที่แขนและที่ปากแต่บังเอิญไม่มีคลีนซิ่งออยล์ค่ะทุกคนมีแต่ไมเซล่า บอกเลยว่าไมเซล่าที่ดีที่สุดแล้วยังล้างไม่ออก ต้องรอให้เลือกงานก่อนถึงจะล้างทำความสะอาดได้ค่ะ เรื่องติดทนยืนหนึ่งในลิปสติกราคาถูกจริงๆ แต่ถ้าเทียบกับ Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color เรื่องติดทนชาแนลติดทนกว่าค่ะเพราะเป็นลิปสติกแบบท็อปโค้ท
Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นลิปสติกสำหรับคนที่ชอบลิปสติกที่ขึ้นชื่อในเรื่องความติดทนนานและราคาประหยัดค่ะ เรื่องความติดทนนานยอมรับเลยว่าเมย์เบลลีนทำได้ดีค่ะ เนื้อลิปสติกทาไม่ได้ยากเมื่อทาแล้วจะให้ความแมตต์แก่ริมฝีปากได้ ทาแล้วจะไม่ถ่ายโอนลงที่แก้ว หลอดหรือช้อนอย่างแน่นอน แต่ต้องพูดเลยว่าลิปสติกจะทำให้ปากแห้งและตกร่องได้ง่ายโดยเฉพาะคนที่ปากแห้งอยู่แล้ว ส่วนคนที่ไม่ได้ปากแห้งก็ควรที่จะทาลิปบาล์มบำรุงทุกครั้งเพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นและไม่แห้งเมื่อทาลิปสติกค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกมีให้เลือกหลากหลายเฉดสี เม็ดสีแน่นและเข้มข้น
- มาพร้อมกับสูตรกันน้ำ ติดทนนานและไม่ติดแมสก์
- กลบสีปากได้มิดชิด ใช้เวลาไม่นานในการรอลิปเซตตัว
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกให้ความรู้สึกหนักและเหนียวเล็กน้อยหลังการใช้ แนะนำให้รอลิปเซตตัวก่อน
ปริมาณ | 5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 42 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไม่ระบุ |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
L'oreal Paris Makeup Rouge Signature Matte Ink Liquid ลิปสติก

ราคา 279 บาท*
L'oreal Paris Makeup Rouge Signature Matte Ink Liquid เป็นลิปสติกที่บรรจุในหลอดพลาสติกที่หรูหรามากค่ะ ตอนที่ผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่ๆ ขอบอกเลยว่าประทับใจแพคเกจมากและอยากซื้อมาใช้ค่ะ เนื้อลิปสติกให้ความรู้สึกบางเบา ไม่รู้สึกเหมือนกำลังทาลิปเลยเพราะให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ แต่ถึงแม้จะแมตต์แต่ก็ไม่ได้แห้งตึงนะคะเป็นแมตต์ที่เรารับได้เพราะสีสวยโดนใจมากๆ หากพูดถึงเนื้อสัมผัสผู้เขียนมองว่าบางเบากว่า Maybelline Super Stay Matte Ink และทาได้ง่ายกว่าค่ะ

แปรงทาลิปสติกเป็นแปรงที่มีความเรียวยาวปลายแหลมและมีเอกลักษณ์ช่วยให้การทาลิปสติกมีความแม่นยำมากขึ้นและให้ความยืดหยุ่นสูง ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ทาลิปสติกปลายแหลมเรียวยาวของแปรงจะไปถึงมุมริมฝีปากและช่วยให้ทาได้ง่ายกว่าเดิม สำหรับความติดทนนานติดทนพอประมาณค่ะหากทานข้าวลิปสติกก็หลุดค่ะต้องเติมระหว่างวัน แต่เรื่องสีคือสวยมากต้องห้ามพลาดเลยค่ะ เป็นลิปสติกแบบ Drugstore ที่เราต้องมีค่ะ
หากใครชอบลิปสติกแบบแมตต์แต่ไม่แห้ง L'oreal Paris Makeup Rouge Signature Matte Ink Liquid ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ เพราะทาแล้วไม่เกาะปากจนแห้งสนิท ส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่าลิปสติกเป็นลูกผสมระหว่างลิควิดลิปสติกกับลิปสเตนค่ะเพราะมีความสม่ำเสมอเหมือนน้ำ มีความทึบกว่าลิปสเตนแต่ไม่ทึบเท่าลิควิดลิปสติก สูตรมีความบางมากและทาได้ง่าย เมื่อเทียบกับ Maybelline Super Stay Matte Ink ความติดทนสู้ไม่ได้ค่ะ แต่ความสบายริมฝีปากลอรีอัลสู้ได้อย่างแน่นอน
ข้อดี
- เนื้อสัมผัสของลิปสติกมีความบางเบา ทาง่ายและไม่หนักปาก
- แปรงออกแบบมาให้ทาได้ง่ายกว่าเดิมและทำให้เราวาดรูปปากได้ง่าย
- เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือกมากมายสามารถกลบสีปากเดิมได้ดี
ข้อควรพิจารณา
- ต้องรอให้ลิปเซตตัวก่อนที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งการเซตตัวต้องใช้เวลานานเล็กน้อย
ปริมาณ | 7 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 31 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไม่ระบุ |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
4U2 Est.Harder ลิปสติก

ราคา 100 บาท*
4U2 Est.Harder เป็นลิปสติกที่ต้องอยู่ในรายการรีวิวของเราอย่างแน่นอนค่ะเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีและราคาไม่แพง อีกทั้งยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมาในฐานะลิปแมตต์ไม่ติดแมสก์แต่มีราคาเพียง 100 บาท ผู้เขียนเองเป็นแฟนคลับลิปสติกแบรนด์ 4U2 อยู่แล้ว ดังนั้นขอการันตีเลยว่าไม่ติดแมสก์จริงและติดทนจริงแต่หากทานอาหารมันๆ แน่นอนว่าลิปสติกต้องมีหลุดอยู่บ้างค่ะ แต่ด้วยในราคาเท่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากจริงๆ

เนื้อลิปสติกของทางแบรนด์ทาง่ายและเซตตัวได้เร็วมากสามารถแมตต์ได้เร็วในเวลาไม่ถึง 1 นาทีจึงเหมาะสำหรับคนที่เร่งรีบและไม่ต้องการรลิปสติกเซตตัวนาน ลิปสติกมี 16 เฉดสีให้เลือกซึ่งแต่ละสีก็เป็นเฉดสีใหม่ๆ ที่สวยงามและเหมาะสำหรับทุกสีผิว ลิปสติกมีประสิทธิภาพในการกันน้ำได้ดี แพคเกจของลิปสติกก็ออกแบบมาให้มีความเพรียวบางและพกพาได้ง่ายมากเลยทีเดียว
4U2 Est.Harder เป็นลิปสติกที่ต้องมีในคลังหากคุณชอบซื้อลิปสติกค่ะ เพราะนอกจากราคาประหยัดแล้วยังไม่ติดแมสก์และกันน้ำด้วยค่ะ ในเรื่องของการติดทนนานผู้เขียนมองว่าติดทนนานได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ หากให้เปรียบเทียบกับลิปสติกที่ราคาไม่ต่างกันมากอย่าง Maybelline Super Stay Matte Ink ความติดทนนานของ 4U2 Est.Harder เทียบกับ Maybelline Super Stay Matte Ink ไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ แต่หากพูดถึงเรื่องทาง่ายและเกลี่ยง่าย 4U2 Est.Harder ทาได้ง่ายกว่ามากและเกลี่ยได้ง่ายด้วยค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ ทาง่าย ติดทนยาวนานแต่ไม่ติดแมสก์
- กันน้ำได้ดีเมื่อสัมผัสกับน้ำลิปไม่เลอะไม่ไหลและยังคงอยู่
- หัวแปรงทาปากได้ง่ายและผ่านการออกแบบมาอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- คนที่มีริมฝีปากแห้งต้องทาลิปบาล์มเพื่อบำรุงก่อนป้องกันลิปสติกตกร่อง
ปริมาณ | 2 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไม่ระบุ |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution ลิปสติก

ราคา 1,350 บาท*
Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution เป็นลิปสติกที่โด่งดังมาจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง Nevertheless ค่ะ พูดได้เลยว่าหลังจากออกอากาศตอนนี้ยูนาบีทาลิปแท่งนี้ออกไป ลิปสติกสี Pillow Talk Medium ก็ขาดตลาดกันเลยทีเดียวค่ะแต่ขอสารภาพเลยว่าผู้เขียนชอบสีมากเป็นลิปสีชมพูเบอร์รีที่ดูสวยฉ่ำมากจริงๆ นอกจากสี Pillow Talk Medium แล้ว เฉดสี Catwalking (สีน้ำตาลพีช) ก็เป็นสีที่น่าสนใจมากเช่นเดียวกัน จุดที่ต้องชื่นชมทางแบรนด์เลยก็คือนอกจากลิปสติกจะสีสวยแล้วทางแบรนด์ยังออกแบบแพคเกจมาอย่างดีดูหรูหราและง่ายต่อการพกพาด้วย
จากข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้มา Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution เป็นลิปสติกที่ออกแบบมาให้เฉดสีดูเป็นธรรมชาติ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีผิวขาว ผิวเหลืองหรือผิวแทนก็สามารถใช้สีลิปสติกของทางแบรนด์ได้ อีกทั้งทางแบรนด์ยังเคลมมาว่าลิปสติกของเขามีสารสกัดจากกล้วยไม้ ที่มีส่วนช่วยในการปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก ด้วยนวัตกรรมเม็ดสีเรืองแสง 3 มิติเมื่อทาลิปแล้วจะทำให้ปากดูเอิบอิ่มแล้วสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมคุณสมบัติติดทนนานไม่แพ้ลิปสติกแบบลิควิด
หากถามความคิดเห็นของผู้เขียน Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution เป็นลิปสติกที่ต้องมีและควรค่าแก่การซื้อแน่นอนค่ะ จุดที่น่าประทับใจที่สุดคือลิปสติกมีเม็ดสีแน่นมาก ถึงแม้จะเป็นสีโทนนู้ดแต่สามารถใช้ได้กับทุกสีผิวเลย เนื้อลิปเป็นเนื้อแมตต์ไม่แห้งสนิทเหมือนลิควิดลิปสติก หากเปรียบเทียบกับ Maybelline Super Stay Matte Ink ลิปสติกของ Charlotte Tilbury ทาได้ง่ายกว่ามากค่ะ อีกทั้งยังเป็นลิปสติกที่ติดทนนานด้วยถึงแม้จะไม่ได้ติดทนนานเหมือนกับ Super Stay Matte แต่ลิปสติกยังอยู่ตลอดการดื่มและการทานอาหาร ส่วนที่หลุดออกไปของลิปสติกจะมีบริเวณตรงกลางของริมฝีปากเท่านั้นค่ะ ถือว่าคุณสมบัติดีและเหมาะสมกับราคาจริงๆ
ข้อดี
- มีส่วนผสมบำรุงริมฝีปากจากธรรมชาติหลากหลายชนิดป้องกันไม่ให้ริมฝีปากแห้ง
- ลิปเป็นแบบแท่งแต่แท่งของลิปสติกเป็นหัวเหลี่ยมทำให้ทาลิปสติกได้ง่ายกว่าเดิม
- ทาแล้วสบายริมฝีปาก ไม่รู้สึกแห้ง แตกหรือเหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงแต่คุณภาพก็เหมาะสมกับราคา
ปริมาณ | 3.5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 8 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | สารสกัดจากกล้วยไม้และคำแสด (Lipstick tree) |
ฟินิชลุค | แมตต์เนื้อซาติน |
Maybelline Super Stay Vinyl Ink Lip ลิปสติก

ราคา 239 บาท*
Maybelline Super Stay Vinyl Ink Lip เป็นลิปสติกรุ่นออกใหม่ล่าสุดจากแบรนด์เมย์เบลลีนเลยค่ะ ขอโม้ก่อนเลยว่าเมื่อวางขายปุ๊บตัวผู้เขียนก็ขับรถไปซื้อปั๊บเลยค่ะเพราะอดใจรอไม่ไหวที่จะใช้งาน แน่นอนว่าเมื่อใช้แล้วแบรนด์เมย์เบลลีนไม่ได้ทำให้ผู้เขียนผิดหวังสักนิดเพราะลิปสีสวยฉ่ำมงลงมาก ทาแล้วปากสวยแต่ลิปกันน้ำนะคะ หลายคนอาจจะงงว่าลิปฉ่ำแล้วกันน้ำได้ยังไง อันนี้ผู้เขียนก็ไม่ทราบค่ะทางแบรนด์เขาก็ทำมาได้แล้ว

สำหรับคำเคลมที่ทางแบรนด์ให้มาคือลิปสติกติดทนนาน 16 ชม. ตอนเห็นเนื้อลิปสติกก็ลังเลนิดหนึ่งค่ะว่าเนื้อแบบนี้จะติดทนจริงไหม แต่ปรากฏออกมาว่าติดทนจริงค่ะแต่อาจจะไม่ถึง 16 ชม. เพราะเมื่อเราดื่มน้ำทานข้าวสีลิปก็อาจจะหลุดออกไปบ้างจะต้องเติมในระหว่างวันค่ะ แต่ในฐานะที่ลิปสติกมี 12 เฉดสีให้เลือกและแต่ละสีเม็ดสีแน่นแล้วก็สวยมากเราสามารถให้อภัยในเรื่องความไม่ติดทนเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทานข้าวได้ค่ะ
Maybelline Super Stay Vinyl Ink Lip เป็นลิปสติกที่เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบลิปแมตต์เพราะเนื้อลิปสติกเป็นแบบแวววาว ทาแล้วปากสวยไม่แห้งและไม่ตกร่องด้วย อีกทั้งยังตอบโจทย์คนที่มีริมฝีปากแห้งเพราะเมื่อทาแล้วไม่ไปเน้นความแห้งของริมฝีปากเลย แต่หากใครที่ชอบความติดทน Maybelline Super Stay Vinyl Ink Lip อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ค่ะ เพราะจากการทดสอบของเราเมื่อเทียบกับลิปตัวดังจากเมย์เบลลีนเหมือนกันอย่าง Maybelline Super Stay Matte Ink ตัว Vinyl Ink ติดทนน้อยกว่ามาก แต่ใครที่เน้นปากสวย ฉ่ำเป็นธรรมชาติและกลัวการตกร่อง Vinyl Ink ดีกว่าค่ะ
ข้อดี
- กันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เม็ดสีแน่นกลบสีปากเดิมได้ดี
- ลิปสติกเนื้อบางเบาทาได้ง่ายและไม่หนักปากหลังจากการทา
- เนื้อลิปมีความแวววาวและไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งเมื่อใช้
ข้อควรพิจารณา
- ต้องเขย่าก่อนการใช้งาน เมื่อทาแล้วจะต้องใช้เวลา 2 - 3 นาทีเพื่อให้ลิปสติกแห้งและเป็นการทำให้ลิปสติกติดทนนานมากขึ้น
ปริมาณ | 4.2 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไม่ระบุ |
ฟินิชลุค | แวววาว |
Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color ลิปสติก

ราคา 1,650 บาท*
Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color เป็นอีกหนึ่งลิปสติกที่ขึ้นชื่อเรื่องความติดทนนาน ทางเราได้สำรวจจากรีวิวของผู้ซื้อส่วนใหญ่จึงได้คำตอบมาว่า Chanel Le Rouge Duo ติดทนนานกว่า Maybelline Super Stay Matte Ink หลายเท่าตัวเลยค่ะ ขนาดเมย์เบลลีนทางเรายังล้างไม่ค่อยออก มีชาแนลติดทนออกมาอีกเราจะต้องใช้ที่ล้างเครื่องสำอางจากแบรนด์ไหนดีล่ะคะเนี่ย ความพิเศษของลิปสติกจาก Chanel คือลิปมี 2 ด้านค่ะ ด้านหนึ่งจะเป็นลิควิดลิปสติกแบบติดทนนาน ส่วนอีกด้านเป็นกลอสใสที่ทำหน้าที่เคลือบปากเพื่อให้ลิปสติกติดทนนานตลอดวัน
เมื่อทารวมกันปากจะดูสวยฉ่ำ โกลว์แต่ไม่ลอกและติดทนนานสุดๆ เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือก 16 สีเป็นสีที่ดูสวยและเข้ากับทุกๆ สีผิว เมื่อทาลิปสติกแล้วลิปจะไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบ กินข้าวไม่ติดช้อน ดื่มน้ำไม่ติดหลอด อีกทั้งไม่ต้องเติมลิประหว่างวันด้วย ความรู้สึกของผู้เขียนมองว่าการทาลิป Chanel Le Rouge Duo ทำให้เราลืมไปเลยว่าตอนนี้ทาลิปอยู่
Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color เป็อีกหนึ่งลิปสติกที่จำเป็นต้องมีหากคุณชอบความติดทนนานสุดๆ ตลอดวันค่ะ แต่ในการทาต้องใช้ความระมัดระวังนิดนึง ตอนที่ทาลิปด้านที่มีสีจะต้องไม่เม้มปากค่ะเพราะหากเม้มจะหนึบปากมาก ต้องรอให้ลิปแห้งก่อนประมาณ 1 นาทีหลังจากนั้นให้ทากลอสทับและรอกลอสแห้ง เมื่อแห้งแล้วจะทำอะไรก็ตามใจเลยค่ะเพราะลิปล็อกไว้แล้วไม่เขยื้อน แต่ข้อเสียไม่ใช่ว่าจะไม่มีค่ะทุกคนข้อเสียของลิปสติกในรูปแบบนี้คือภายนอกลิปดูฉ่ำแต่ภายในนั้นแห้งมากค่ะ อีกทั้งยังทำความสะอาดออกได้ยาก ความเป็น Chanel ก็คือ Chanel เพราะใช้ร่วมกับกลอสแบรนด์อื่นไม่ได้ต้องใช้ควบคู่กันไปเท่านั้น
ข้อดี
- ลิปสติกตอบโจทย์คนที่ต้องการลิปสติกติดทนนาน ไม่หลุดลอกตลอดทั้งวัน
- แม้จะติดทนนานแต่ลุคที่ได้มีความฉ่ำวาวเหมือนทากลอสแต่เป็นกลอสที่ไม่หลุดออก
- เฉดสีมีความสวยงาม แพคเกจสวยและพกพาได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- เมื่อทาแล้วปากจะรู้สึกแห้งแต่ลุคข้างนอกสวยฉ่ำอยู่
- ต้องใช้กลอสอีกด้านที่มาคู่กันเท่านั้นใช้กลอสของแบรนด์อื่นไม่ได้
ปริมาณ | 4.5 และ 3.5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | น้ำมันและขี้ผึ้ง |
ฟินิชลุค | แวววาว (แต่ติดทน) |
MAC Powder Kiss Lipstick ลิปสติก

ราคา 945 บาท*
หากให้พูดถึงแบรนด์ลิปสติก MAC ถือว่าเป็นตัวแม่แห่งวงการนี้ค่ะ เพราะลิปของทางแบรนด์ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่า MAC Powder Kiss Lipstick เป็นอีกหนึ่งลิปสติกที่หลายคนเลือกใช้ จากข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้มาลิปสติกรุ่นนี้เป็นเนื้อแมตต์ที่ทำออกมาดีกว่ารุ่นก่อน เพราะเป็นลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ไม่ทำให้ปากดูแห้งหรือรู้สึกแห้ง เมื่อทาแล้วมีความบางเบา ไม่หนักปากและไม่ได้รู้สึกไม่สบายปากเลย
ถึงแม้จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มสบายแต่คุณภาพของลิปสติกก็ไม่ได้ลดลงเลยค่ะ เพราะลิปสติกให้การปกปิดริมฝีปากที่เรียบเนียนและเม็ดสีแน่นมากสามารถกลบสีเดิมของปากได้อย่างง่ายดาย เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือกมากมายถึง 21 สี สีที่ขายดีที่สุดคือ MULL IT OVER (314) สีนี้เป็นสีที่ลิซ่า แบล็กพิงค์ใช้ด้วยค่ะ ผู้เขียนชอบมาสีคือดีมาก สวยมาก ทาได้ทุกลุคและเป็นสีที่ควรมีติดกระเป๋าเครื่องสำอางเอาไว้ ในเรื่องบรรจุภัณฑ์ของลิปสติกก็ยังคงเป็นเหมือนกับลิปสติกของ MAC ทั่วไป กลิ่นลิปสติกมีความคล้ายแป้งเป็นกลิ่นที่ไม่ฉุนค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบลิปสติกของ MAC มากอยู่แล้วค่ะโดยเฉพาะตอนมีโปร อิอิ แน่นอนว่าสูตร Powder Kiss ก็เป็นสูตรที่น่าดึงดูดใจดีเหมือนกันค่ะ เนื้อลิปสติกทาง่ายสามารถเบลอริมฝีปากได้ดีและมีเฉดสีที่ค่อนข้างสวยงาม อีกจุดหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากคือเนื้อบางเบามากไม่แห้งเลย หากถามว่าลิปติดทนไหมตัวลิปติดทนปานกลางค่ะ ต้องเติมระหว่างวันหากเปรียบเทียบกับลิปสติกแบบแท่งเหมือนกันอย่าง Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution ลิปสติกของ Charlotte Tilbury ติดทนนานกว่าค่ะ ส่วนเรื่องความเบาสบายผู้เขียนมองว่าพอๆ กันเลยค่ะ เพราะเนื้อลิปมีความต่างจึงยากที่จะตัดสินใจ
ข้อดี
- ลิปสติกเป็นแบบซอฟต์โฟกัส ช่วยเบลอร่องปากและขอบปากได้ดี
- เนื้อลิปไม่แห้ง มีความบางเบาเมื่อทาแล้วไม่หนักปาก
- เนื้อแมตต์ติดทนได้นาน 2-3 ชั่วโมงหากไม่กินหรือดื่มน้ำเลย
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกไม่ได้ป้องกันการถ่ายโอนยังคงติดช้อนและติดหลอด
ปริมาณ | 3 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 21 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไดเมทิโคน |
ฟินิชลุค | แมตต์เนื้อแป้ง |
Dior Addict Hydrating Shine Lipstick ลิปสติก

ราคา 1,700 บาท*
Dior Addict Lipsticks เป็นลิปสติกที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่อยู่ตลอดเวลาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่ะ โดยรุ่นที่ผู้เขียนชอบมากคือ Dior Addict Stellar Shine แต่ตอนนี้เหมือนจะหาซื้อได้ยากแล้ว ในเว็บไซต์ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีค่ะ แต่ทางแบรนด์ Dior ก็เปิดตัว Dior Addict Refillable Shine Lipstick ออกมาค่ะ ลิปสติกมาในตลับสีดำและสีเงินสุดคลาสสิกที่มีโลโก้ Dior นูนขึ้นมา ถือเป็นลิปสติกที่ดูหรูหราเป็นอย่างมากค่ะ
จากข้อมูลของทางแบรนด์ลิปสติก Dior Addict Shine มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติถึง 90% ส่วนผสมหลักๆ เลยก็คือขี้ผึ้งและน้ำมันพลัมทำให้ทาได้ง่ายมากและให้ความแวววาวได้ดี ข้อดีที่เห็นได้ชัดเลยคือลิปสติกไม่ตกร่อง นุ่มลื่นและเรียบเนียนไปกับริมฝีปากเลยค่ะ คนที่มีริมฝีปากแห้งสามารถใช้งานได้อย่างสบายเลยค่ะเพราะไม่ทำให้ปากแห้งและช่วยเติมความชุ่มชื่น คุณสมบัติเริ่ดปังขนาดนี้ถ้าไม่ติดกับราคาแพงอยากจะซื้อมาใช้สัก 4 - 5 แท่งให้หนำใจค่ะ
Dior Addict Refillable Shine Lipstick เป็นลิปสติกที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบลิปไฮเอนด์ค่ะและตอบโจทย์คนที่มีปากแห้งได้ดีมาก เพราะด้วยสารบำรุงที่มีอยู่มากมายทำให้ลิปสติกสามารถบำรุงริมฝีปากไปพร้อมๆ กับการกลบสีปากได้ เม็ดสีของลิปแน่นมากค่ะปกปิดความหมองคล้ำของริมฝีปากได้อย่างง่ายดาย แต่ข้อเสียเลยคือไม่ติดทนนั่นเป็นเพราะว่ามันไม่ใช่ลิปแมตต์ค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับ Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution เรื่องความติดทนนานเทียบไม่ได้เลยค่ะ แต่เนื้อสัมผัสของลิป Dior จะเหนือกว่าในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้น
ข้อดี
- ลิปสติกมีสารสกัดมากมายเพื่อช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นและไม่แห้ง
- เนื้อลิปสติกมีความนุ่มลื่นมาก เม็ดสีแน่นชัดและทาได้ง่าย
- แพคเกจของลิปสติกมีความสวยหรูและพกพาได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกไม่ติดทนนาน ยังคงติดแก้วน้ำและช้อน
ปริมาณ | 3.2 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 35 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ขี้ผึ้งและน้ำมันพลัม |
ฟินิชลุค | แวววาว |
Kiko Milano Unlimited Double Touch ลิปสติก

ราคา 649 บาท*
Kiko Milano Unlimited Double Touch เป็นลิปสติกลิควิดสองขั้นตอนคล้ายกับ Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color ด้านหนึ่งของลิปสติกเป็นสีลิปสติกธรรมดา ส่วนอีกด้านเป็นแบบกลอสค่ะ ขั้นตอนการทาให้ทาด้านที่เป็นสีก่อนตามด้วยการทากลอสเพื่อให้ลิปสติกติดทนนานมากขึ้น ขอออกตัวก่อนเลยว่าเห็นรีวิวลิปสติกจาก Kiko Milano เยอะมากในแอปพลิเคชันต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้ลองซื้อมาใช้เพราะส่วนตัวแล้วไม่ได้เน้นใช้ลิปสติกที่ติดทนนานมากนัก แต่คราวนี้ต้องสอยมาใช้บ้างซะแล้วค่ะ
ลิปสติกจาก Kiko Milano มีให้เลือกมากมายหลายเฉดสีเลยทีเดียว ดังนั้นการเลือกซื้ออาจจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ส่วนในเรื่องความติดทนนานไม่ทำให้เราผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะเพราะจากรีวิวหลากหลายทั้งในและต่างประเทศการันตีเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า Kiko Milano ติดทนนานกว่า Chanel Le Rouge Duo ไปอีก ตอนนี้ผู้เขียนนึกภาพไม่ออกเลยว่าความติดทนของมันจะไปถึงขั้นไหน แต่ก็ตอบโจทย์จริงๆ สำหรับคนที่ไม่ต้องการเติมลิปสติกบ่อยๆ รวมไปถึงคนที่ไม่ต้องการให้ลิปสติกติดแมสก์
Kiko Milano Unlimited Double Touch เป็นลิปสติกที่ควรซื้อหากคุณชอบลิปสติกที่ติดทนมากเป็นพิเศษแต่ถ้าคุณไม่ชอบลิปสติกที่ล้างออกได้ยากให้มองข้ามไปเลยค่ะเพราะล้างยากมากไม่ใช้คลีนซิ่งออยล์ก็ไม่ออกค่ะ แต่หากคุณจะถามผู้เขียนว่าระหว่างซื้อ Chanel Le Rouge Duo และ Kiko Milano อันไหนคุ้มกว่ากัน ผู้เขียนขอบอกเลยว่าลิปสติกทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันอยู่มากแต่ถ้าต้องการความคุ้มค่าการเลือก Kiko Milano เป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุดเพราะราคาถูกกว่าถึง 2 เท่าเลย แต่ในเรื่องสีลิปสติก Kiko Milano สู้ Chanel Le Rouge Duo ไม่ได้ค่ะเพราะสีของชาแนลดูหรูหราลูกคุณหนูกว่า อีกทั้งสารสกัดบำรุงริมฝีปากของชาแนลยังมีความชัดเจนกว่า Kiko Milano ด้วย ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกแบบที่ชอบได้ค่ะ แต่ถ้างบเยอะซื้อสองอันไปเลยเพราะเรามันปังอยู่แล้ว
ข้อดี
- ติดทนนานมากพิเศษ ทานข้าวไม่หลุดและไม่ติดแมสก์ตลอดวัน
- เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือกมากมายตอบโจทย์ทุกโทนสีผิว
- ลิปสติกมีคุณภาพสูงให้ความโกลว์และดูมีสุขภาพดีแก่ริมฝีปาก
ข้อควรพิจารณา
- ต้องทาลิปสติกสองด้านควบคู่กันไปเพราะด้านสีจะเหนียวมากหากไม่ทากลอสทับ
- ลิปสติกฝั่งที่เป็นสีแห้งช้ามากต้องใจเย็น ๆ ระหว่างทา
ปริมาณ | 6 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 24 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไดเมทิโคน |
ฟินิชลุค | แวววาว (แต่ติดทน) |
Muzigae Mansion Object Liquid ลิปสติก

ราคา 690 บาท*
Muzigae Mansion Object Liquid ลิปสติกจากเกาหลีที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ค่ะ แค่เห็นแพคเกจก็อยากซื้อมาใช้แล้วเพราะดูเก๋ สวยงามและไม่เหมือนใครมากๆ เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพมากค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาค่ะว่าลิปสติกมีใบรับรอง Vegan-Certified ดังนั้นลิปสติกจาก Muzigae Mansion จึงตอบโจทย์สำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติมากๆ เนื้อของลิปสติกเป็นเนื้อกำมะหยี่ เนื้อนุ่มและทาได้ง่าย
นอกจากการเคลมเรื่องวีแก้นแล้วเรื่องส่วนผสมทางแบรนด์ก็เคลมมาเหมือนกันค่ะ ว่าลิปสติกมีส่วนผสมของสารสกัดจากใบมะนาวไมร์เทิลและผลจากโรสฮิปเพื่อให้ความสดชื่นและบำรุงริมฝีปากทุกครั้งที่ใช้ ลิปสติกมีความโดดเด่นในเรื่องของการไม่ตกร่อง ช่วยเบลอริมฝีปากซึ่งความสามารถนี้คล้ายกับ MAC Powder Kiss Lipstick เป็นอย่างมาก แต่ Muzigae Mansion มาในรูปแบบทินท์และติดทนกว่า MAC ค่ะ ลิปสติก Muzigae Mansion ตอบโจทย์กับสายเกาหลีเพราะทาแล้วปากดูอิ่มฟูและเป็นธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งลิปสติกที่น่าสอยมาใช้มากเลยทีเดียวค่ะ
Muzigae Mansion Object Liquid เป็นลิปสติกที่ผู้เขียนจะต้องซื้อมาใช้ให้ได้อีกหนึ่งตัวค่ะ เพราะชื่นชอบและหลงใหลในแพคเกจมากๆ แต่นอกจากจะชอบแพคเกจแล้วผู้เขียนยังชอบการออกแบบเนื้อของลิปสติกด้วยเพราะทาได้ง่ายกว่าแบรนด์อื่นๆ มาก ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบทาลิปสติกแบบสายเกาอยู่แล้วเพราะมันทำให้ริมฝีปากเบลอๆ อวบอิ่มน่าทะนุถนอม เฉดสีส่วนใหญ่ของลิปสติกก็น่ารักมากเหมาะกับคนชอบลิปสติกสีสันสดใส ความพิเศษที่ผู้เขียนมองเห็นอีกหนึ่งอย่างคือโทนสีของลิปสติกจาก Muzigae Mansion ผสมผสานกันได้อย่างง่ายดาย หากซื้อมาใช้ 2 สีก็จะได้ลุคออมเบรแบบฉ่ำๆ อีกทั้งยังสามารถทาได้ทั้งปาก แก้มและเปลือกตาค่ะ
ข้อดี
- เนื้อลิปสติกเนียนนุ่ม ทาง่ายและเรียบลื่นไปกับริมฝีปากอย่างแนบเนียน
- แพคเกจของลิปสติกมีความสวยงาม แปลกตาแต่พกพาได้ง่าย
- เป็นผลิตภัณฑ์แบบ 3in1 ทาได้ทั้งริมฝีปาก แก้มและเปลือกตา
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกมีกลิ่นของพลาสติกเมื่อทาแต่จะหายไปหลังจากทาเสร็จ
ปริมาณ | 6 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | สารสกัดจากใบมะนาวไมร์เทิลและผลจากโรสฮิป |
ฟินิชลุค | กำมะหยี่ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับการทาลิปสติกให้สวยเหมือนมืออาชีพ

- อย่าลืมให้ความสำคัญกับมุมปากทั้ง 2 ข้างและกระจับของริมฝีปาก หากคุณทาลิปสติกเราอยากแนะนำให้อ้าปากเล็กน้อยแล้วทาลิปสติกที่มุมปากและกระจับปากเพื่อจัดสีของลิปสติกให้ดูสมดุล แต่ต้องวาดหรือเกลี่ยดีๆ นะคะเพราะตรงมุมปากและกระจับปากเนี่ยแหละค่ะจะเป็นตัวกำหนดความสวยของริมฝีปาก หากเราเกลี่ยลิปให้มุมปากเล็กปากก็จะดูเล็ก แต่หากเราเพิ่มให้มุมหรือกระจับปากใหญ่มากขึ้นริมฝีปากของเราก็จะดูใหญ่ขึ้น อีกทั้งเราต้องตรวจสอบด้วยว่าสีลิปสติกที่เราใช้ครอบคลุมริมฝีปากได้ทั้งหมด หากต้องการความสวยมากขึ้นแนะนำให้ไล่ระดับสีของริมฝีปากเพื่อทำให้ริมฝีปากดูเย้ายวนและมีเสน่ห์มากขึ้น แน่นอนว่าคุณสามารถใช้ดินสอเขียนขอบปากก่อนเพื่อจัดกรอบริมฝีปากให้สวยงามกว่าเดิม โดยเฉพาะบริเวณกระจับและมุมริมฝีปาก เมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากได้สัดส่วนแล้วให้ทาลิปสติกให้ทั่วริมฝีปากเลยค่ะ
- แนะนำให้ใช้แปรงทาปากหรือแปรงอายแชโดว์ร่วมกับลิปสติกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หากคุณอยากให้ริมฝีปากดูสวยขึ้นแนะนำให้ลองทาลิปสติกด้วยแปรงทาปาก หากคุณไม่มีแปรงทาปากคุณสามารถใช้แปรงทาอายแชโดว์แทนได้ แน่นอนว่าแปรงอายแชโดว์ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติได้เช่นกัน เดี๋ยวนี้การเกลี่ยลิปด้วยแปรงทาลิปได้รับความนิยมมากค่ะเพราะจะทำให้ริมฝีปากดูฟุ้งสวยและเป็นธรรมชาติ แต่จากมุมมองของผู้เขียนไม่แนะนำให้ใช้แปรงทาปากกับลิปลิควิดที่แห้งเร็วเพราะมันอาจจะจับตัวเป็นก้อนได้นั่นเองค่ะ
เปรียบเทียบ รีวิว 10 ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 เฉดสีสวย ยอดขายดี
![]() Maybelline Super Stay Matte Ink ลิปสติก | ![]() L'oreal Paris Makeup Rouge Signature Matte Ink Liquid ลิปสติก | ![]() Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution ลิปสติก | ![]() Maybelline Super Stay Vinyl Ink Lip ลิปสติก | ![]() Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color ลิปสติก | ![]() MAC Powder Kiss Lipstick ลิปสติก | ![]() Dior Addict Hydrating Shine Lipstick ลิปสติก | ![]() Kiko Milano Unlimited Double Touch ลิปสติก | ![]() Muzigae Mansion Object Liquid ลิปสติก | ![]() 4U2 Est.Harder ลิปสติก |
฿219.00* | ฿279.00* | ฿1350.00* | ฿239.00* | ฿1650.00* | ฿945.00* | ฿1700.00* | ฿649.00* | ฿690.00* | ฿100.00* |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า