บ้าน ถือเป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์ค่ะ ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบและการตกแต่งบ้านกันเป็นพิเศษ นั่นก็เพราะเรามีเวลาอยู่ในบ้านแทบจะทั้งวัน เว้นเพียงตอนออกไปทำงานเท่านั้น หลายคนจึงอยากสร้างบ้านให้เป็นสไตล์ที่ชอบ แต่โครงสร้างบ้านแต่ละหลังก็มีข้อจำกัดในการตกแต่งที่ต่างกัน อาจจะด้วยตัววัสดุเดิมของบ้าน, แปลนบ้าน หรือในเรื่องของงบประมาณต่าง ๆ ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ
เมื่อพูดถึงการตกแต่งบ้าน เชื่อว่านอกจากห้องนั่งเล่นและห้องครัวแล้ว ก็มีห้องนอนนี่แหละค่ะที่ผู้คนค่อนข้างจะให้ความสำคัญ เพราะในแต่ละวันเราใช้เวลาไปกับการนอนกว่า 6 – 8 ชั่วโมง ซึ่งหากเรามีห้องนอนที่สวย เตียงนอนนุ่ม ๆ การตกแต่งที่โดนใจ ก็จะยิ่งทำให้บรรยากาศน่านอนมากขึ้นไปอีกระดับ
ในครั้งที่แล้วเราได้แนะนำบทความ ไอเดียแต่งห้องนอนสไตล์เจ้าหญิงวินเทจ และ ไอเดียแต่งห้องนอนสไตล์โมเดิร์น กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าแต่ละสไตล์ก็จะมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวมาก ๆ และในวันนี้เราจะมาแนะนำอีกหนึ่งสไตล์ที่เชื่อว่าเป็นสไตล์โปรดของหลาย ๆ คน ด้วยวัสดุที่มีสเน่ห์ เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายแต่ดุดัน จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย “ไอเดียแต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ (Loft)” นั่นเองค่ะ
ทำความรู้จักกับการแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ (Loft)
ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้นของสไตล์ลอฟท์ เรียกได้ว่าต้องย้อนไปถึงปี 40’s เลยค่ะ ตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงปี ค.ศ.1939 – 1945 ในช่วงนั้นเศรษฐกิจโลกตกต่ำเป็นอย่างมาก โรงงานอุตสหกรรมก็ได้ถูกปิดตัวลงไปหลายแห่ง รวมไปถึงอาคารและโกดังหลาย ๆ ที่ได้ถูกทิ้งร้างเอาไว้ บวกกับราคาที่อยู่อาศัยในยุคนั้นมีราคาที่สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนในยุคนั้นจึงได้ดัดแปลงนำเอาโรงงานร้างเหล่านี้มาทำเป็นที่อยู่อาศัย เพราะโครงสร้างเดิมของตัวอาคารยังใช้งานได้ดีอยู่ ทำให้ประหยัดงบประมาณมาณในการตกแต่งได้มาก และด้วยจุดเด่นของตัวโรงงานเหล่านี้นี่เองค่ะ ที่ทำให้สไตล์ลอฟท์ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
หากถามว่าการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์แบบแท้ ๆ ต้องเป็นแบบไหน ก็ต้องบอกเลยว่าใครที่เสพย์งานลอฟท์มาเยอะก็จะรู้ว่าสไตล์นี้จะเน้นความดิบ เปลือย ภายในห้องจะโชว์โครงสร้างของวัสดุต่าง ๆ ใช้ผนังให้น้อย พยายามไม่ให้ภายในห้องมีกำแพงกั้นหรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือทำให้ห้องดูโปร่งที่สุดนั่นเองค่ะ นอกจากนี้อีกสิ่งที่สำคัญคือเพดานห้องต้องสูง การตกแต่งจะเป็นแบบหยาบ งานอิฐ งานปูน สร้างพื้นที่รับแสงเยอะ ๆ ให้แสงสามารถเข้าได้ทั่วถึง และควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวอย่างการแขวนเพดานหรือติดผนัง เน้นใช้งานได้จริง โดยเฉพาะวัสดุที่ทำจากเหล็กและไม้ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับสไตล์ลอฟท์ได้ดีทีเดียว
1. เปลี่ยนผนังธรรมดาให้ดูเท่ด้วยวอลเปเปอร์ลายอิฐ
 | วอลเปเปอร์ลายอิฐ สามมิติ มีกาวในตัว กันน้ำได้ |   |
 | สติ๊กเกอร์ติดผนังลายอิฐ มีกาวในตัว ขนาด 45 ซม. x 10 ม. | |
 | สติ๊กเกอร์ลายอิฐ มีให้เลือก 19 ลาย ขนาด 45 ซม. x 10 ม. | |
ถ้าพูดถึงผนังห้องสไตล์ลอฟท์ ‘ผนังอิฐ’ ดูท่าจะตอบโจทย์มากที่สุดแล้วค่ะ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จะให้หาซื้อบ้านที่เป็นผนังอิฐนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แถมการดูแลรักษาก็ค่อนข้างยุ่งยากกว่าปกติ วันนี้เราจะมาแก้ปัญหาโดยการใช้วอลเปเปอร์ลายอิฐแปะทับลงบนผนังโลด รับรองว่าผนังที่ได้ออกมาดูดิบ เก่า และสวยงามไม่แพ้อิฐแบบปกติเลย ซึ่งวอลเปเปอร์ติดผนังนั้น ก็จะมีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา แบบสามมิติ และแบบมีกาวในตัว ก็สามารถเลือกได้ตามงบประมาณและความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ
2. ใช้สีปูนขัดมันเพิ่มความดิบให้กับฝาผนัง
 | PoonLoft ปูนขัดมันสำเร็จรูป สีเทาอ่อน แถมแว๊กซ์เคลือบ ตรา ปูนลอฟท์ | |
 | TOA Loft ปูนฉาบขัดมันสำเร็จรูป ตรา ทีโอเอ ลอฟท์ | |
 | iLoft MIXED สีปูนขัดมันผสมเสร็จ พร้อมใช้งาน สี ลอฟท์ No.3 Dark | |
หากใครที่คิดว่าวอลเปเปอร์ลายอิฐยังไม่ตอบโจทย์ หรือจะกลัวว่าเวลาแกะออกมาจะทิ้งคราบกาวบนผนัง ลองเปลี่ยนมาใช้สีปูนขัดมันดูค่ะ เพราะผนังปูนเปลือยหรือปูนขัดมันก็บ่งบอกความเป็นลอฟท์ได้ดีเช่นกัน ถึงแม้จะดูดิบไม่เท่ากับอิฐแต่ก็มีกลิ่นอายของโมเดิร์นผสมลงไป เรียกได้ว่าสวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ และแน่นอนว่าการจะหาผนังปูนเปลือยแท้ ๆ เป็นเรื่องที่ยากมาก สมัยนี้เลยมีสิ่งที่เรียกว่า ‘สีปูนขัดมัน’ เพียงแค่ใช้เกรียงจุ่มสี จากนั้นปาดลงบนผนังเป็นรูปกากบาท ทำซ้ำไปจนทั่วผนัง เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผนังปูนเปลือยที่ดูสมจริงมาก ๆ แล้วล่ะค่ะ
3. ใช้ชั้นลอยสไตล์ลอฟท์ เพื่อจัดระเบียบของในห้อง
 | ชั้นวางของขาเหล็ก 1 ชั้น ผลิตจากไม้สนแท้ กันปลวกและเชื้อรา มีให้เลือก 6 สี | |
 | ชั้นลอยติดผนัง 2 ชั้น สไตล์ลอฟท์ งานเหล็กแท้ + ไม้พาราประสาน | |
 | ชั้นวางของติดผนัง 1 ชั้น ผลิตจากไม้สนแท้และท่อกัลวาไนซ์ มีให้เลือก 5 สี | |
 | ชั้นวางของติดผนัง 2 ชั้น ผลิตจากไม้สนแท้และท่อกัลวาไนซ์ มีให้เลือก 4 สี | |
อย่างที่บอกไปค่ะว่างานลอฟท์ คือการโชว์ตัวโครงสร้างออกมาให้ได้มากที่สุด ดังนั้นควรเลือกใช้ชั้นลอยสำหรับวางของต่าง ๆ แทนการใส่ในตู้เก็บของ โดยชั้นลอยที่เลือกใช้ควรทำมาจากเหล็กหรือแผ่นไม้ เพื่อให้ดูสมกับความเป็นลอฟท์มากขึ้นนั่นเองค่ะ ถ้าจะให้ดูดิบไปมากกว่านั้น การเลือกใช้โครงที่ทำมาจากท่อเหล็กอย่างนิปเปิ้ล (Nipple) ก็จะยิ่งทำให้ห้องนอนของเราดูเก๋ และมีสไตล์มากขึ้นไปอีกระดับ
4. วางเตียงเหล็กหรือเตียงไม้เพื่อเพิ่มความเป็นลอฟท์
 | เตียงเบสิคลอฟท์ ผลิตจากเหล็ก ฐานไม้ มีให้เลือกขนาด 3.5, 5 และ 6 ฟุต | |
 | เตียงเหล็ก + ไม้ สไตล์ลอฟท์ มีให้เลือกขนาด 5 และ 6 ฟุต | |
 | เตียงเหล็ก 2 ชั้น พร้อมโต๊ะทำงาน มี 3 สีให้เลือก | |
ใครที่ชอบเตียงแบบมีบุนวมนุ่ม ๆ หรือทำจากหนังหุ้มสวย ๆ ต้องล้มเลิกความคิดไปก่อนค่ะถ้าหากคุณอยากจะแต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ เพราะเตียงที่เหมาะกับสไตล์นี้คือเตียงที่ทำมาจากเหล็กและไม้ เพราะจะให้ความรู้สึกของความดิบ ได้เห็นเนื้อแท้ของเตียง บ่งบอกความเป็นลอฟท์ได้ดี หัวเตียงและปลายเตียงควรเป็นเหลี่ยมชัดเจน ไม่โค้งมน เพราะความโค้งจะให้ความรู้สึกที่ดูนุ่มนวลเกินไปค่ะ และบ้านไหนที่มีเนื้อที่ในห้องนอนน้อย ก็สามารถเลือกเตียง 2 ชั้น ที่มีชั้นล่างเป็นโต๊ะทำงาน แบบนี้ก็จะมีพื้นที่ใช้ชอยที่มากขึ้นเท่าตัวเลยค่ะ
5. ใช้แสงโทนอุ่นด้วยโคมไฟที่เน้นโชว์โครงสร้าง
 | โคมไฟเหล็กแขวน สีดำ สไตล์ลอฟท์ สายไฟยาว 1 ม. | |
 | โคมไฟฝาชี สไตล์ลอฟท์ ผลิตจากอลูมิเนียม สายไฟยาว 90 ซม. | |
 | โคมไฟกงล้อติดผนัง สไตล์ลอฟท์ ย้อนยุค ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 ซม. | |
หากใครเคยไปนั่งร้านคาเฟ่สไตล์ลอฟท์ จะเห็นได้ว่าทางร้านมักใช้โคมไฟโทนสีส้ม หรือสี Warm White นั่นก็เพราะไฟโทนส้มจะให้ความรู้สึกสบายตา มีกลิ่นอายของความเป็นยุคเก่า แถมไฟโทนสีนี้ยังเหมาะที่จะมาใช้กับห้องนอนอีกด้วยนะคะ และแน่นอนว่าโคมไฟที่เข้ากับการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ก็จะเป็นโคมไฟที่เน้นการโชว์โครงสร้างต่าง ๆ ผลิตจากเหล็กหรือไม้ หรือเป็นงานห้อยแขวนลงมาก็ดูเก๋ไปอีกแบบ เพียงแค่คุณเลือกโคมไฟเหมาะ ๆ สักตัว รับรองว่าห้องของคุณจะดูคูลขึ้นมากเลยทีเดียว
6. ใช้โครงเหล็กแขวนผ้าแทนตู้เสื้อผ้า
 | ราวแขวนผ้า DIY ผลิตจากท่อกัลวาไนซ์ มีให้เลือก 5 ขนาด | |
 | ราวแขวนผ้า + ชั้นวางของ 2in1 ติดผนัง สไตล์ลอฟท์ ท็อปไม้อัด OSB โครงเหล็กแท้ 100% | |
 | ราวแขวนผ้า สไตล์ลอฟท์ เลือกขนาดความยาวและสีได้ | |
 | ราวแขวนผ้า พร้อมล้อเลื่อน ผลิตจากท่อกัลวาไนซ์ มีให้เลือก 5 สี | |
ใครที่อยากได้ห้องนอนที่ดูดิบ และมีความเป็นลอฟท์ขึ้นมาอีกระดับ แนะนำว่าให้เลือกใช้เป็นโครงเหล็กแขวนผ้าแทนการใช้ตู้เสื้อผ้าแบบธรรมดาทั่วไปค่ะ เพราะการใช้ราวเหล็กจะทำให้เห็นตัววัสดุชัดเจน อีกทั้งยังทำให้ห้องนอนดูโล่งและโปร่งมากขึ้น เพราะความโปร่งนี้คือหัวใจหลักของลอฟท์เลยล่ะค่ะ ซึ่งการเลือกโครงเหล็กนั้นจะเลือกแบบที่เป็นเหล็กเดี่ยว ๆ เลยก็ได้ หรือใครที่อยากได้ความคุ้าค่า ก็สามารถเลือกแบบที่มีชั้นวางของและราวแขวนในตัวก็ได้เช่นกันค่ะ
7. ตกแต่งผนังห้องด้วยนาฬิกาติดผนังสไตล์ลอฟท์
 | นาฬิกาแขวนผนัง สไตล์ลอฟท์ วัสดุทำจากเหล็ก มี 3 สีให้เลือก | |
 | นาฬิกาแขวนผนัง ฟันเฟืองเหล็ก ขนาด 50 x 50 ซม. ใช้ถ่าน AA 1 ก้อน | |
 | นาฬิกาแขวนผนัง สไตล์ลอฟท์ น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ขนาด 50 x 50 ซม. | |
หากผนังห้องนอนของใครที่ยังดูโล่ง ๆ ลองหานาฬิกาเรือนขนาดพอเหมาะไปแขวนดูสิคะ บอกเลยว่าจะทำให้ผนังห้องของคุณดูโดดเด่นขึ้นมามากทีเดียว ยิ่งใช้วัสดุที่ทำมาจากเหล็กหรือไม้ก็ยิ่งทำให้โชว์ความเป็นลอฟท์มากขึ้น หรือใครที่อยากได้โทนยุโรปตะวันตก กลิ่นอายเก่า ๆ ลองเลือกแบบที่เป็นเลขโรมันแทนเลขอารบิกดูค่ะ รับรองว่าเก๋มาก ๆ
8. เพิ่มลูกเล่นด้วยการแขวนรูปภาพโทนสีขาว – ดำ
 | โปสเตอร์ภาพแคนวาส พิมพ์ลาย สำหรับประดับผนัง ไม่มีกรอบ | |
 | โปสเตอร์ภาพวาดผ้าใบ สีขาวดำ แนวตั้ง ไม่มีกรอบ | |
 | กรอบรูปสีขาว พร้อมภาพสีขาวดำ มีให้เลือก 4 ขนาด | |
การเพิ่มกรอบรูปหรือโปสเตอร์ในห้องนอนจะทำให้ห้องดูมีมีติขึ้นค่ะ ทั้งนี้ควรเลือกใช้ภาพวาดหรือภาพถ่ายโทนสีขาวดำ หรือโทนหม่น ๆ เพราะจะทำให้คุมโทนและเข้ากันได้ดีกับสีของผนัง อาจจะติดไว้ตรงบริเวณหัวเตียงก็ได้ เพื่อทำให้เตียงนอนของเราดูเด่นขึ้น ทั้งนี้การเลือกขนาดของรูปก็สำคัญค่ะ ไม่ควรเลือกรูปที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่จนเกินไป ควรหาขนาดที่บาลานซ์กับขนาดของเฟอร์นิเจอร์ของเราจะดีที่สุดค่ะ
9. ใช้ชั้นวางหนังสือเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย
 | ชั้นวางหนังสือ วางของตกแต่งห้อง มีให้เลือก 3 สี | |
 | HOMUSAN ชั้นวางของเหล็ก 5 ชั้น รับน้ำหนักได้มาก | |
 | WareHouse Shelf ชั้นวางของเหล็ก ชั้นเก็บของ มี 26 ขนาดให้เลือก | |
แน่นอนว่าห้องสไตล์ลอฟท์จะมาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอยที่น้อย เนื่องจากต้องการให้ห้องดูโปร่งและโล่งมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นการเก็บของต่าง ๆ ก็ยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็นใช่ไหมล่ะคะ วิธีง่าย ๆ ก็คือลองหาชั้นวางหนังสือที่ทำจากเหล็กโปร่ง ๆ สักชิ้นมาตั้งในห้อง เพราะชั้นวางแบบโครงเล็กจะทำให้ห้องดูไม่ทึบ ไม่อึดอัด แถมยังวางของได้เยอะ นอกจากจะใช้วางหนังสือแล้ว ยังเอาไว้ตั้งโชว์ของต่าง ๆ ได้อีกด้วยค่ะ
10. ยิ่งสร้างเพดานให้สูง ยิ่งเพิ่มความเป็นลอฟท์
การตกแต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ที่สำคัญอีกอย่างก็คือต้องสร้างเพดานให้สูงโปร่ง เช่นเดียวกับห้องในโรงงานอุตสาหกรรม หากเปิดคานให้เห็นโครงสร้างภายในอย่างการเดินสายไฟ ท่อเหล็ก หรือเสาต่าง ๆ ก็จะยิ่งดีมาก ๆ แถมการเปิดเพดานแบบนี้ยังทำให้แขวนโคมไฟ หรืออุปกรณ์แต่งห้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ยังก็ก็ลองเอาไปปรับให้ให้เหมาะกับห้องนอนของตัวเองกันดูนะคะ
ข้อดี – ข้อควรพิจารณาของการแต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ (Loft)
ข้อดีของการแต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ (Loft)
- สไตล์การตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ มีสเน่ห์ แน่นอนว่าการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์เป็นอะไรที่ฉีกกฎการแต่งห้องแบบทั่วไปอย่างสไตล์โมเดิร์นหรือสไตล์มินิมอล เพราะถึงแม้ว่าลอฟท์จะเน้นความเรียบง่าย แต่ก็ดูมีสเน่ห์บนความดิบ ๆ ด้วยการสร้างที่เผยให้เห็นโครงสร้างด้านในต่าง ๆ ทำให้การตกแต่งแบบนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รับรองว่าถูกใจหลาย ๆ คนแน่ ๆ ค่ะ
- บรรยากาศโปร่ง โล่งสบาย เนื่องจากการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ จะเน้นการสร้างเพดานให้สูง ด้วยเหตุนี้ทำให้ห้องดูปลอดโปร่ง กว้างขวาง สบายตามาก ๆ ค่ะ
- ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ง่าย จุดเด่นของการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ คือเราจะใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โคมไฟแขวนผนัง, นาฬิกาแขวนผนัง หรือราวตากผ้าแขวนผนัง จะเห็นได้ว่าหลาย ๆ อย่างจะถูกรวบไปไว้บริเวณผนังห้อง ทำให้ตัวห้องเปิดโล่ง จึงสามารถย้ายพื้นที่ใช้สอยได้ตามแต่สะดวก ไม่ต้องคอยหามุมหาเหลี่ยมเหมือนห้องสไตล์อื่น ๆ ค่ะ
- ประหยัดไฟ เน้นรับแสงจากธรรมชาติ อย่างที่บอกไปค่ะว่าการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์จะเน้นการสร้างเพดานที่สูง และเน้นหน้าต่างที่กว้างและยาว ทำให้แสงจากภายนอกสามารถเข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องเปิดไฟในช่วงตอนกลางวันเลยค่ะ
ข้อควรพิจารณาของการแต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ (Loft)
- พื้นที่เก็บของค่อนข้างน้อย เนื่องจากห้องสไตล์ลอฟท์จะเน้นห้องที่โล่ง และใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว ถึงแม้พื้นที่ใช้สอยจะมีเยอะ แต่พวกตู้เก็บของหรือลิ้นชักต่าง ๆ มีน้อย อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีของจุกจิกเยอะค่ะ
- ปัญหาเรื่องเสียง และเนื่องจากความโปร่งและโล่งของห้องนี่แหละค่ะ ทำให้ห้องสไตล์ลอฟท์จะมีเสียงที่ก้องมากกว่าปกติ เนื่องจากไม่ค่อยมีผนังเพื่อซับเสียงต่าง ๆ ทำให้เวลาพูดคุยกันจะได้ยินเสียงที่ดังและก้องขึ้นนั่นเองค่ะ
