ความสุขของผู้หญิงคือความสวยค่ะทุกคนแต่เราจะสวยได้ก็ต้องมีเครื่องสำอางค่ะ แน่นอนว่าการได้ซื้อเครื่องสำอางเป็นสิ่งที่หลายคนชอบและรักมาก หากให้สำรวจเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแต่ละคนต้องมีอุปกรณ์แต่งหน้าไม่ต่ำกว่า 10 ชิ้นอย่างแน่นอน ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะบางทีซื้อมาแล้วไม่เคยได้ใช้เลยแต่ขอแค่มีในคลังก็พอใจแล้วค่ะ โดยเครื่องสำอางที่ผู้เขียนชอบซื้อมากที่สุดคือ “ลิปสติก” ค่ะ

เหตุผลก็คือลิปสติกมีหลายสีมาก ๆ และเป็นเครื่องสำอางที่เราไม่ควรมีแค่แท่งเดียวค่ะ อีกทั้งการทาลิปสติกก็สามารถเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าได้ หากวันไหนที่ไม่ได้แต่งหน้าแค่ทาลิปสติกแท่งเดียวก็เอาอยู่แล้วค่ะ เพื่อน ๆ ชอบลิปสติกแบบไหนกันบ้างค่ะส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะชอบลิปทินท์ ลิปแมตต์ และลิปสติกแบรนด์เกาหลีมากเป็นพิเศษเพราะสีที่ออกแบบมามีความสวยงามค่ะ แน่นอนว่านอกจากสีแล้วความติดทนนานก็เป็นเรื่องที่ผู้เขียนใส่ใจ ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนเลยถือโอกาสมาแนะนำ “ลิปสติกที่ติดทนนาน” กันค่ะ
โดยบทความนี้เราได้อัปเดตสินค้าของปี 2023 ค่ะ เพราะมีแบรนด์ใหม่ ๆ มากมายที่มีกระแสในเรื่องของความติดทนนาน รีวิวของเราฉบับนี้จะเป็นการรีวิวสินค้าจริง ๆ ที่เราซื้อมาลองใช้เองจำนวน 3 แบรนด์ค่ะ ไม่ได้รับสปอนเซอร์แต่อย่างใด

ลิปสติกติดทนนาน ยี่ห้อไหนดี?
![]() Maybelline Super Stay Matte Ink ลิปสติก | ![]() Kathy Amrez Lip Duo Matte & Shine ลิปสติก | ![]() 4U2 Est. Harder ลิปสติก | ![]() NYX Professional Makeup Soft Matte Lip Cream ลิปสติก |
เคล็ดลับในการทำให้ลิปสติกติดทนนานมากกว่าเดิม

การทาลิปสติกให้ติดทนนานนั้นมักจะขึ้นกับสภาพของริมฝีปากของเราค่ะ หากเรามีปากแห้งหรือลอกมาก ๆ เราก็ไม่สามารถทาลิปสติกให้เรียบเนียนและติดทนได้ ดังนั้นทางเราอยากแนะนำให้สครับริมฝีปากก่อนการทาลิปสติก จากนั้นให้รองพื้นปากด้วยการทาลิปไพรเมอร์หรือคอนซีลเลอร์ ถัดมาแนะนำให้ใช้ดินสอเขียนขอบปาก (ลิปไลเนอร์) เขียนลงไปก่อนด้วยค่ะเพราะจะทำให้ลิปสติกติดทนนานมากขึ้น
หลังจากทาลิปไลเนอร์แล้วให้ทาลิปสติกได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความแน่นความติดทนแบบคูณสองก็ต้องใช้แป้งฝุ่นทาทับลงไปหลังจากทาลิปสติกเสร็จก็ได้ค่ะเพราะขั้นตอนนี้ลิปสติกจะติดทนได้นานกว่าเดิมหลายเท่าเลยค่ะ
Maybelline Super Stay Matte Ink ลิปสติก

ราคา 209 บาท*
Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นลิปสติกที่ยืนหนึ่งในเรื่องของความติดทนนานค่ะและเราก็ขอยกให้ลิปจากแบรนด์นี้เป็นที่หนึ่งในรายการของเรา เพราะยอมรับว่าแบรนด์นี้มีสินค้าคุณภาพดีในราคาประหยัดแถมยังได้รับความนิยมมาก ๆ ในไทย สำหรับลิปสติกตัวนี้เป็นลิควิดลิปสติกที่มีฟินิชลุคแบบแมตต์ มาพร้อมสูตรบางเบา ไม่หนักปาก หัวแปรงเรียวมากช่วยให้ทาได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าลิปสติกจะเลอะขอบปาก

เนื้อของลิปสติกเป็นสีสดเกลี่ยง่าย ไม่ว่าพื้นริมฝีปากจะเป็นสีอะไรก็สามารถทาได้เลยโดยสีไม่เพี้ยนค่ะ จุดที่หลายคนซื้อลิปสติกแบรนด์นี้ซ้ำ ๆ คือเม็ดสีของเขาแน่นมากเว่อร์ ซึ่งทางแบรนด์ก็เคลมมาด้วยนะคะว่าลิปสติกจะติดทนนานตลอด 16 ชั่วโมง ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาลิปสติกที่ราคาไม่แพงและติดทนนาน Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
สีที่ผู้เขียนอยากแนะนำมาก ๆ คือสี Enchanter และ Seductress ค่ะ สำหรับสี Enchanter เป็นสีที่ผู้เขียนทาในรูปเลยค่ะ ขับผิวทาแล้วดูแซ่บมาก
Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นลิปสติกที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ ค่ะเพราะเป็นหนึ่งในลิปสติกราคาประหยัดแต่ติดทนนานสุด ๆ จากการทดลองของผู้เขียนเองพบว่าหลังจากทาลิปสติกของทางแบรนด์ไปตลอดทั้งวันแบบไม่ได้ทาซ้ำสีก็ยังคงติดทนนานอยู่ แต่ริมฝีปากอาจจะมีความแห้งบ้างเล็กน้อยซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับลิปสติกเนื้อแมตต์ค่ะ ลิปสติกไม่ติดแก้วน้ำและไม่ติดแมสก์เลยค่ะ แต่หากทานของมัน ๆ มาอาจจะต้องเติมหน่อยเพราะสีของลิปอาจจะจางลงบ้างค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกมีให้เลือกหลากหลายเฉดสี เม็ดสีแน่นและเข้มข้น
- มาพร้อมกับสูตรกันน้ำ ติดทนนานและไม่ติดแมสก์
- กลบสีปากได้มิดชิด ใช้เวลาไม่นานในการรอลิปเซตตัว
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกให้ความรู้สึกหนักและเหนียวเล็กน้อยหลังการใช้ แนะนำให้รอลิปเซตตัวก่อน
ปริมาณ | 5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิควิดลิปสติก |
เฉดสีที่มี | 42 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 16 ชม. |
Kathy Amrez Lip Duo Matte & Shine ลิปสติก

ราคา 290 บาท*
Kathy Amrez Lip Duo Matte & Shine ลิปสติกที่มาแรงมากในขณะนี้ และแบรนด์ลิปสติกของคุณกระแต รูปแบบของลิปสติกมีวิธีการใช้งานเหมือนกับ Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color ค่ะคือด้านหนึ่งจะเป็นสีลิปอีกด้านหนึ่งจะเป็นกลอสเพื่อใช้ทาทับสีและเพื่อล็อกไม่ให้สีลิปสติกหลุด ขอชมก่อนเลยว่าทางแบรนด์ออกแบบแพ็กเกจมาดีมาก ๆ กะทัดรัดพกพาง่ายและดูหรูหราเลยทีเดียวค่ะ

สีลิปสติกมีให้เลือกทั้งหมด 10 เฉดสีค่ะโดยแต่ละสีได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองแฟชั่นทั่วโลก สีที่ผู้เขียนเลือกซื้อมารีวิวคือ 05 นิวยอร์ก (New York) เพราะเป็นสีที่ผู้เขียนมองว่าสวยละมุนและเหมาะกับผู้เขียนมากที่สุด
เนื้อลิปทาได้ง่ายนะคะด้านสีลิปจะมีฟินิชลุคแบบแมตต์ค่ะ แต่เมื่อทากลอสแล้วจะให้ความโกลว์ขึ้นมาทันทีและทำให้ริมฝีปากดูฉ่ำไม่แห้ง เม็ดสีของลิปสติกคือดีเลยค่ะเพราะชัดมากกลบสีปากเดิมได้อย่างหมดจดและไม่ทำให้ตกร่องด้วย
ผู้เขียนขอบอกเลยว่า Kathy Amrez Lip Duo Matte & Shine เป็นหนึ่งในลิปสติกที่ทุกคนต้องมีค่ะ นอกจากราคายังไม่แพงแล้วคุณภาพของลิปยังดีมาก ๆ ด้วย แต่ต้องทำตามขั้นตอนการทาที่ทางแบรนด์บอกนะคะเพราะหากไม่ทำตามขั้นตอนที่ทางแบรนด์บอกประสิทธิภาพของความติดทนนานจะน้อยลงค่ะ (ผู้เขียนลองแล้ว) ผู้เขียนค่อนข้างชอบตรงที่เมื่อทาแล้วมันจะทำให้ริมฝีปากเราสวยและดูสุขภาพดีขึ้นมาก บอกเลยว่า 9/10 ค่ะ ขอหักคะแนนเรื่องแปรงทากลอสนิดหนึ่งค่ะเพราะเล็กไปหน่อยและดูแลยาก
ข้อดี
- ลิปสติกติดทนนาน ไม่ติดแก้วและไม่ติดแมสก์
- ให้ความฉ่ำวาวกับริมฝีปากทาแล้วริมฝีปากดูสวยฉ่ำ
- ลิปสติกมาในรูปแบบแท่งขนาดเล็ก พกพาง่ายและราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
- แปรงทากลอสเล็กไปหน่อยทำให้ต้องจุ่มกลอสหลายครั้งกว่าจะทั่วทั้งปาก
ปริมาณ | 2.8 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 10 เฉดสี |
ฟินิชลุค | กลอส |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 48 ชม. (ไม่ล้างไม่หลุด) |
4U2 Est. Harder ลิปสติก

ราคา 199 บาท*
4U2 Est. Harder ลิควิดลิปสติก มีราคาประหยัดรองจาก Maybelline Super Stay Matte Ink เลยค่ะ โดยลิปสติกตัวนี้ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความติดทนนานเหมือนกัน หลังจากทาแล้วไม่ว่าจะดื่มน้ำหรือทานขนมก็ไม่เลอะที่แก้วและไม่เลอะที่ช้อนอย่างแน่นอน ตัวลิปสติกเป็นเนื้อแมตต์ที่แห้งเร็วมากแต่ไม่หนักปาก แปรงของลิปสติกมีปลายเรียว สามารถช่วยร่างขอบปากหรือเติมสีให้เต็มได้โดยไม่ทำให้ริมฝีปากตกร่อง เม็ดสีแน่นมากกลบสีปากได้อย่างมิดชิด ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมยังเกลี่ยง่ายมากด้วยค่ะ

ลิปสติกจากโฟร์ยูทูมีหลายสีมากนะคะและเป็นสีที่เหมาะกับสาวไทยอย่างเราด้วย หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ไทยนะคะ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจึงตอบโจทย์คนไทยได้ดีเลยค่ะ แอบกระซิบเลยว่า 4U2 Est. Harder จัดโปรบ่อยมากค่ะทั้งในออนไลน์และหน้าบูธของแบรนด์เลย หากใครอยากซื้อลิปสติกจาก 4U2 รุ่นอื่นสามารถไปดูได้ที่บทความลิปสติก 4U2 ได้นะคะเพราะเราได้แนะนำไปแล้วค่ะ
4U2 Est. Harder เป็นลิปสติกอีกแท่งที่ดีงามมาก ๆ เพราะติดทนได้ดีในระดับหนึ่งเลยค่ะ แต่ขอบอกก่อนว่าหากทานของมันลิปจะหลุดออกมานิดหน่อยนะคะต้องทาซ้ำเท่านั้น แต่ลิปแท่งเล็กพกพาง่ายดังนั้นจะไม่มีปัญหาในการทาซ้ำอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนสำหรับคนที่ปากแห้งต้องทาลิปบาล์มหรือบำรุงริมฝีปากก่อนเท่านั้นนะคะเพราะหากไม่บำรุงเลยลิปสติกอาจจะแห้งและตกร่องได้ ใครที่เร่งรีบแล้วอยากได้ลิปแมตต์ที่เซตตัวเร็วต้องลองซื้อมาใช้ค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ ทาง่าย ติดทนยาวนานแต่ไม่ติดแมสก์
- กันน้ำได้ดีเมื่อสัมผัสกับน้ำลิปไม่เลอะไม่ไหลและยังคงอยู่
- หัวแปรงทาปากได้ง่ายและผ่านการออกแบบมาอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- คนที่มีริมฝีปากแห้งต้องทาลิปบาล์มเพื่อบำรุงก่อนป้องกันลิปสติกตกร่อง
ปริมาณ | 2 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิควิดลิปสติก |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | ไม่ระบุ |
NYX Professional Makeup Soft Matte Lip Cream ลิปสติก

ราคา 259 บาท*
NYX Professional Makeup Soft Matte Lip Cream ลิปเนื้อแมตต์ที่ได้รับความนิยมมาตลอดเลยค่ะ หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการเครื่องสำอางอยู่บ้างคงจะรู้ดีว่าลิปจาก NYX เคยเป็นกระแสอยู่พักหนึ่งเลยค่ะ จุดเด่นของลิปสติกคือมีเนื้อลิปเป็นเนื้อครีมที่เนียนเรียบมาก ๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งสุด ๆ ไปเลยค่ะ เพราะตัวลิปสามารถกลบริมฝีปากปากที่แห้งกร้านได้ดี หลังจากทาแล้วริมฝีปากจะเรียบเรียนและไม่ทำให้เป็นร่องปากด้วย
ตัวลิปสติกเป็นลิควิดลิปสติกนะคะมาพร้อมแปรงทำให้เกลี่ยริมฝีปากได้ง่ายกว่าเดิม ในเรื่องของความติดทนลิปสติกติดทนนานมาก ๆ สีสวยชัดเจน สีแต่ละโทนสีจะทำให้คุณดูเป็นผู้หญิงสุภาพปากดี อีกทั้งยังให้ความรู้สึกนุ่มละมุนแถมยังใช้ได้กับทุกโอกาสด้วย ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่าติดทนนาน 8 ชั่วโมง ดังนั้นลิปจากทางแบรนด์เป็นหนึ่งในลิปสติกที่ติดทนนานค่ะ
ส่วนตัวของผู้เขียนที่เคยใช้แล้วมองว่าความติดทนนานของ NYX สู้ Maybelline Super Stay Matte ไม่ได้ แต่ก็ให้ความสบายริมฝีปากมากกว่าค่ะ
NYX Professional Makeup Soft Matte Lip Cream เป็นหนึ่งในลิปสติกคุณภาพดีที่ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศค่ะ เนื้อของลิปเป็นเนื้อครีมที่เม็ดสีแน่นให้สีสวยตลอดวันจริง ๆ ค่ะ หลังจากลิปเซตตัวแล้วจะกลายเป็นเนื้อแมตต์ค่ะแต่หากใครที่ปากแห้งมากต้องบำรุงก่อนนะคะหากไม่บำรุงอาจจะเป็นขุยได้
ส่วนตัวแล้วผู้เขียนอยากแนะนำให้ใช้ลิปคู่กับลิปไพรเมอร์ของทางแบรนด์เพราะจะทำให้ริมฝีปากสวยขึ้นและลิปสติกก็ติดทนขึ้นด้วย
ข้อดี
- ลิปสติกติดทนนานหลายชั่วโมง แพ็กเกจขนาดเล็กพกพาได้ง่าย
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าลิปสติกเนื้อแมตต์ส่วนใหญ่
- เมื่อลิปสติกแห้งแล้วจะไม่ถ่ายโอนและติดแน่นกับริมฝีปากเลย
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้เวลาสักพักกว่าลิปสติกจะเซตตัว
ปริมาณ | 8 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิควิดลิปสติก |
เฉดสีที่มี | 34 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 8 ชม. |
Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color ลิปสติก

ราคา 1,500 บาท*
Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color เป็นลิควิดลิปสติกที่ดีที่สุดของแบรนด์ชาแนลเลยค่ะ เพราะความอิ่มตัวของสีลิปสติกทำให้สีที่ติดทนนาน ทางแบรนด์เคลมมาว่าลิปจะติดทนนานถึง 8 ชม. ตัวลิปสติกมีให้เลือกหลายเฉดสีซึ่งแต่ละสีก็มีสีสันที่สดใส สามารถปกปิดความบกพร่องของริมฝีปากได้เต็มที่ ความโดดเด่นของลิปสติกนี้คือสามารถใช้ได้ 2 ด้านหนึ่งจะเป็นลิปสติกแบบน้ำ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นลิปสติกเนื้อกลอส
แต่ถึงแม้เนื้อลิปสติกโดยรวมจะเป็นเนื้อแบบกลอสที่มีความแวววาวแต่ความแน่นของสีคือยืนหนึ่งมาก เมื่อทาแล้วจะสบายริมฝีปากและตัวลิปสติกก็ให้ความชุ่มชื่นกับริมฝีปากไปในตัว เนื้อสัมผัสของลิปสติกแห้งเร็วมากค่ะแต่ก็ไม่ได้ทำให้ริมฝีปากแห้งแต่อย่างใด ดังนั้นลิปสติกนี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความติดทนนานแต่ไม่อยากได้ริมฝีปากที่แมตต์และแห้งค่ะ
Chanel Le Rouge Duo Ultra Tenue Ultrawear Liquid lip Color ลิปสติกที่ฮิตตลอดกาลเลยค่ะ การใช้งานของลิปสติกจะมีความเหมือนกับ Kathy Amrez Lip Duo Matte & Shine เลยค่ะเพราะมี 2 ด้านเหมือนกัน ผู้เขียนชอบทั้งสองแบรนด์เลยค่ะแต่ชอบของชาแนลมากกว่าเพราะมีสีให้เลือกเยอะกว่า แต่ในการทาห้ามเม้มปากเด็ดขาดนะคะเพราะจะหนึบปากมาก แนะนำให้รอลิปแห้งก่อนประมาณ 1 นาทีหลังจากนั้นให้ทากลอสทับและรอกลอสแห้ง หลังจากทุกอย่างแห้งแล้วก็เม้มปากได้เลยค่ะ สำหรับเรื่องความติดทนนานคือติดทนจริง ๆ แต่ราคาแอบจี๊ดหัวใจนิดหนึ่งค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกตอบโจทย์คนที่ต้องการลิปสติกติดทนนาน ไม่หลุดลอกตลอดทั้งวัน
- แม้จะติดทนนานแต่ลุคที่ได้มีความฉ่ำวาวเหมือนทากลอสแต่เป็นกลอสที่ไม่หลุดออก
- เฉดสีมีความสวยงาม แพ็กเกจสวยและพกพาได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- เมื่อทาแล้วปากจะรู้สึกแห้งแต่ลุคข้างนอกสวยฉ่ำอยู่
- ต้องใช้กลอสอีกด้านที่มาคู่กันเท่านั้นใช้กลอสของแบรนด์อื่นไม่ได้
ปริมาณ | 4.5 และ 3.5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิควิดลิปสติก |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ฟินิชลุค | กลอส (ติดทน) |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 8 ชม. |
MAC Powder Kiss Lipstick ลิปสติก

ราคา 1,050 บาท*
MAC Powder Kiss Lipstick ลิปสติกสีปัง ๆ ที่ทุกคนต้องมีไว้ครอบครองสักแท่งค่ะ ตัวลิปเนื้อแมตต์มีพิกเมนต์แน่นสีจัดจ้านเข้มข้น ลิปจะให้เนื้อสีชัดและไม่มีความแวววาวแต่ก็ยังให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง สำหรับลิปจากแมคเป็นลิปสติกที่ขายดีมาก ๆ นะคะและเป็นหนึ่งในลิปสติกระดับไฮเอนด์ที่มีคุณภาพดีค่ะ ลิปสติกมีเฉดสีให้เลือกถึง 32 เฉดสีแต่ละเฉดสีมีความสวยงามสามารถเลือกสีได้ตามความต้องการเลยค่ะ รูปแบบแท่งของลิปสติกทำให้พกพาได้ง่ายมากค่ะเหมาะสำหรับใช้เป็นลิปสติกสำหรับในทุก ๆ วัน

ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบลิปสติกแบบแท่งของแมคมากกว่าแบรนด์อื่นค่ะ เพราะสีสวยและทาแล้วริมฝีปากละมุนขึ้นมากจริง ๆ ราคาของลิปสติกก็ไม่ได้แรงมากและบางเทศกาลก็มีโปรโมชันด้วย สำหรับสีลิปสติกที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือสี Marrakesh ค่ะ เป็นสีแดงออกส้มอิฐ สีนี้ทาแล้วหน้าจะดูไบร์ทขึ้นกว่าเดิมมาก เม็ดสีแน่นสุด ๆ ในการทาจะทาแบบแตะ ๆให้ทั่วริมฝีปากหรือจะทาเต็มปากก็เริ่ดมาก ตัวสีสามารถใช้เป็นลิปสติกสำหรับ Everyday Look ได้เลยค่ะเป็นสีที่ทุกคนควรมี
MAC Powder Kiss Lipstick เป็นลิปสติกที่คนอยากปากสวยต้องใช้ค่ะเพราะสีคือดีมากเลยและเป็นหนึ่งในลิปสติกแบบแท่งที่ติดทนนาน ทางแบรนด์เคลมมาว่าตัวลิปสติกจะติดทนนาน 8 ชม. แต่หากเราทานอาหารและดื่มน้ำบ่อย ๆ แน่นอนว่าติดไม่ถึงตามคำเคลมแน่ ๆ ค่ะ แต่ด้วยความที่ลิปสติกมาในรูปแบบแท่งพกพาง่ายจึงทำให้เราสามารถเติมลิปสติกได้บ่อย ๆ ตามที่ต้องการค่ะ ผู้เขียนมองว่า MAC Powder Kiss Lipstick เป็นลิปสติกไฮเอนด์แบรนด์แรกที่ทุกคนจะต้องมีค่ะ ดังนั้นกดซื้อตอนนี้เลยห้ามตกเทรนด์เด็ดขาด
ข้อดี
- ลิปสติกมาในรูปแบบแท่งสามารถทาได้ง่ายมาก
- ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากได้ดี เม็ดสีชัดทาแล้วไม่ตกร่อง
- ลิปสติกติดทนนานพอสมควรและไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- หากทานอาหารมัน ๆ จะทำให้ความติดทนนานของลิปสติกน้อยลง
ปริมาณ | 3 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 21 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 8 ชม. |
BeautyLab Airy Dou Velvet Lip ลิปสติก

ราคา 299 บาท*
BeautyLab Airy Dou Velvet Lip ลิปสติกออกใหม่จากแบรนด์หมอพงษ์ (Dr. Pong) ค่ะ ในจุดนี้จะขอบอกคุณหมอว่าคุณหมอจะผลิตทุกอย่างไม่ได้ค่ะ เพราะทรัพย์ผู้เขียนจะละลายหมดแล้ว ทุกอย่างของทางแบรนด์คือปังมาก ๆ เลย สำหรับลิปของทางแบรนด์เป็นลิปเนื้อเวลเวทที่ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์แต่ไม่แห้งค่ะ มีทั้งหมด 10 เฉดสีแต่ละเฉดสีเป็นสีแนว MLBB ค่ะเน้นความเป็นธรรมชาติ เมื่อทาแล้วปากจะสวยฉ่ำมงอย่างแน่นอนค่ะ
ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่าลิปของเขาติดทนนานมากแต่ไม่ได้ทำให้ริมฝีปากแห้งและไม่ตกร่องปากด้วยค่ะ ผู้เขียนชอบการออกแบบนะคะเพราะเป็นการออกแบบที่ดูเรียบ ๆ แต่น่าใช้งานมาก ๆ สำหรับเรื่องความบางเบาตัวลิปสติกบางเบาจริง ๆ ค่ะ เมื่อทาแล้วไม่หนักปาก ใครที่อยากลองลิปราคาไม่แพง ติดทนและสบายปากแนะนำเลยค่ะ
BeautyLab Airy Dou Velvet Lip เป็นลิควิดลิปสติกที่ผู้เขียนอยากลองมากค่ะ เดี๋ยวหากซื้อมาแล้วจะมารีวิวให้ดูชัด ๆ กันอีกทีค่ะ จากรีวิวมากมายในทวิตเตอร์พบว่าลิปจากทางแบรนด์ได้รีวิวเชิงบวกเยอะมาก ๆ บอกว่าลิปทาง่ายและติดทนจริง ๆ จากเช้าจรดเย็นเลยค่ะ สำหรับใครที่อยากลองลิปจากแบรนด์หมอพงษ์ห้ามพลาดนะคะ
ข้อดี
- ลิปสติกเนื้อเวลเวททาแล้วบางเบาสบายปากมาก
- เฉดสีมีความธรรมชาติเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบลิปสติกสีจัดจ้าน
- กลบสีปากเดิมได้ดี ฟินิชลุคแบบแมตต์แต่ไม่แห้ง
ข้อควรพิจารณา
- สำหรับคนที่ปากแห้งมาก ๆ แนะนำให้บำรุงก่อน
- หากทานอาหารมัน ๆ หรือดื่มน้ำอาจจะเติมลิปบ้าง
ปริมาณ | 2 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 10 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | ไม่ระบุ |
Yves Saint Laurent Tatouage Couture Liquid Lipstick ลิปสติก

ราคา 1,440 บาท*
Yves Saint Laurent Tatouage Couture Liquid Lipstick ลิปสติกอีกหนึ่งแบรนด์ที่ติดทนนาน รูปแบบของลิปสติกเป็นลิควิดลิปสติกที่ทาได้ง่ายมากค่ะ เม็ดสีแน่นกลบสีปากได้ดีและให้ความแมตต์ตลอดวัน จุดเด่นพิเศษคือความแมตต์ของลิปสติกให้ความรู้สึกสบายริมฝีปากมากเหมือนกับเราไม่ได้ทาลิปสติกเลย อีกทั้งยังมาในแพ็กเกจที่สวยงามพร้อมโลโก้ YSL อันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์และยังมีแอปพลิเคเตอร์รูประฆังที่ทำให้เราสามารถทาลิปได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
ผู้เขียนมองว่า Yves Saint Laurent Tatouage เป็นตัวเลือกลิปสติกที่ดีหากคุณชอบลิปสติกติดทนนานและมาพร้อมบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ผู้เขียนชอบตรงที่ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูงและสีสวยมาก แน่นอนว่าด้วยคุณภาพและความติดทนนานผู้เขียนไม่แปลกใจเลยค่ะที่ลิปจากทางแบรนด์จะขายดีมาก ๆ และได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ
Yves Saint Laurent Tatouage Couture Liquid Lipstick เป็นลิปสติกที่ผู้เขียนยังไม่เคยใช้ค่ะแต่อ่านรีวิวมาเยอะมาก จากรีวิวมากมายพบว่าตัวลิปสติกจะใช้เวลาในการเซตตัวประมาณ 4-5 นาที หลังจากเซตตัวแล้วลิปสติกจะติดทนนานค่ะ ขอบอกเลยว่าลิปสติกจากทางแบรนด์เป็นอีกหนึ่งลิปที่ทาง่ายและไม่หนักปากเลยค่ะ ประสิทธิภาพของลิปพอ ๆ กับ Dior Rouge Dior Forever Liquid เลยค่ะ แพ็กเกจก็คล้ายกันมาก ดังนั้นหากชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นได้เลยค่ะ
ข้อดี
- เฉดสีของลิปสติกมีความสวยงามเหมาะกับทุกโทนสีผิว
- เนื้อแมตต์แต่สบายริมฝีปากมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบลิปสติกหนักปาก
- แพ็กเกจมีความหรูหราเหมาะสำหรับคนที่ชอบลิปสติกแบรนด์ไฮเอนด์
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 6 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 22 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 8 ชม. |
Fenty Beauty Stunna Lip Paint Longwear Fluid ลิปสติก

ราคา 1,150 บาท*
Fenty Beauty Stunna Lip Paint Longwear Fluid ลิปสติกแบรนด์ดังของคุณแม่ริแอนนา (Rihanna) ค่ะ สูตรนี้เป็นสูตร Longwear ให้สีติดทนและมีคุณภาพเยี่ยมค่ะ เนื้อลิปมีความบางเบา แห้งเร็วและทางแบรนด์เคลมมาว่าติดทนนาน 12 ชั่วโมง แต่คนที่ใช้จริงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลิปสติกติดทนนานกว่านั้นมาก ไม่ว่าจะกิน ดื่ม พูดคุยหรือสวมแมสก์ก็ไม่หลุดเลยค่ะ
ลิปสติกมีเม็ดสีแน่น ปาดเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะให้สีสันสดใสกับริมฝีปาก ตัวแปรงทาลิปจะแตกต่างจากแบรนด์อื่นค่ะและหลายคนอาจจะไม่เห็นมาก่อน รูปทรงของแปรงจะมีความหยักแต่เมื่อใช้แล้วจะทำให้ทาง่ายขึ้นมาก สีของลิปมีให้เลือกเยอะนะคะ แต่สีที่ขายดีที่สุดคือสีแดงค่ะ บอกเลยว่าสีแซ่บมากเป็นสีที่ต้องมีเท่านั้นค่ะ
Fenty Beauty Stunna Lip Paint Longwear Fluid เป็นลิปสติกอีกหนึ่งแบรนด์ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ เรื่องความแน่นของสียืนหนึ่งมาก ๆ ความติดทนก็ว่าไม่ได้ค่ะ แต่น่าเสียดายที่ลิปสติกแบรนด์แม่รีแอนนาไม่ค่อยมีขายในเว็บ Shopee และ Lazada แต่เราก็สามารถหาซื้อตามบูทของ Fenty Beauty ได้ค่ะ ใครที่ชอบลิปสติกติดทนนานห้ามพลาดนะคะเพราะแบรนด์นี้ก็ปังอยู่ค่ะ
ข้อดี
- เนื้อลิปสติกมีความบางเบาแต่ปกปิดริมฝีปากได้ดีมาก
- ลิปสติกมีการออกแบบที่สวยงามมากและมีแปรงทาลิปที่ไม่เหมือนใคร
- ลิปสติกไม่ตกร่องและไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งหลังทา
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกใช้เวลาเซตตัวค่อนข้างนาน
ปริมาณ | 4 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 10 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 12 ชม. |
Kylie Cosmetics Matte Lip Kit ลิปสติก

ราคา 1,250 บาท*
มีผลิตภัณฑ์ของ Fenty Beauty แล้ว จะไม่มี Kylie Cosmetics ก็คงไม่ได้ค่ะ เพราะแบรนด์นี้ก็เป็นแบรนด์ดังเหมือนกัน เจ้าของแบรนด์คือไคลีย์ เจนเนอร์ สำหรับ Kylie Cosmetics Matte Lip Kit เป็นเซตลิปสติกแบบ 2 ชิ้นที่ประกอบด้วยลิปสติกเนื้อแมตต์และดินสอเขียนขอบปาก เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือก 25 สี ในการใช้งานต้องใช้งานร่วมกันค่ะเพื่อความปัง โดยทางแบรนด์แนะนำมาว่าให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากก่อนแล้วค่อยทาลิปสติกอีกแท่งหนึ่งค่ะ
เนื้อลิปสติกทาง่ายมากนะคะลื่นไหลและเรียบเนียนไปกับริมฝีปากเลย ส่วนดินสอเขียนขอบปากก็มีเนื้อครีมมี่ไม่บาดปาก หลังจากทาก็ไม่ได้ทำให้ริมฝีปากแห้งเลย ริมฝีปากของเราจะรู้สึกนุ่มดุจกำมะหยี่เลยค่ะ สำหรับเรื่องความติดทนนานติดทนนานจริง ๆ ค่ะ แต่หากทานอาหารมัน ๆ ก็อาจจะหลุดออกไปบ้าง สำหรับใครที่ชอบลิปสติกที่มาในเซต 2 ชิ้นและโดดเด่นในเรื่องสีนู้ดแนะนำ Kylie Cosmetics Matte Lip Kits
Kylie Cosmetics Matte Lip Kit เป็นลิปสติกที่ควรค่าแก่การซื้อค่ะเพราะมี 2 ชิ้น ผู้เขียนชอบดินสอเขียนขอบปากเป็นพิเศษเพราะออกแบบมาดีและทาได้ง่าย หากถามว่าลิปสติกจากไคลีย์เหมาะกับใครผู้เขียนบอกเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบลิปสติกสีนู้ดค่ะ เพราะสีนู้ดของทางแบรนด์สวยจริง ๆ และโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นค่ะ
ข้อดี
- ลิปมี 2 แบบในหนึ่งเซตเนื้อลิปนุ่มและเกลี่ยได้ง่ายมาก
- ติดทนได้นานหลายชั่วโมงและให้ความคุ้มค่าได้ดี
- ลิปสติกทาง่ายและแห้งเร็วมาก ๆ เลยทีเดียว
ข้อควรพิจารณา
- หากทานอาหารมัน ๆ ลิปสติกจะหลุดเร็วกว่าเดิม
ปริมาณ | 3.5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด + ดินสอ |
เฉดสีที่มี | 25 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | ไม่ระบุ |
Nars Powermatte Lip Pigment ลิปสติก

ราคา 1,300 บาท*
Nars Power Matte Lip Pigment เป็นลิควิดลิปสติกที่ทาได้ง่ายมากเลยค่ะ ในการทาแค่ปาดและเกลี่ยให้ทั่วถึงทั่วริมฝีปากก็ได้แล้วค่ะ ลิปสติกจะใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเซตตัวค่ะ เมื่อแห้งแล้วริมฝีปากจะเนียนนุ่ม มีความสวยงามและตัวลิปสติกก็ติดทนนานด้วยค่ะ ลิปสติกมีทั้งหมด 20 เฉดสีค่ะ เฉดสีแต่ละสีก็สวยงามมาก ๆ เลยค่ะสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ
ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบแพ็กเกจค่ะเพราะมันดูหรูหรามาก ๆ แปรงทาลิปมีความเรียวยาวทำให้ทาลิปสติกได้ง่ายขึ้นมาก ๆ เลยค่ะและสามารถเข้าถึงบริเวณมุมริมฝีปากได้ง่ายเลยค่ะ เฉดสีของลิปสติกมีความสดและกลบสีปากได้ดีเลยค่ะ ส่วนในเรื่องความติดทนนานติดทนจริง ๆ ค่ะ เป็นหนึ่งในลิปสติกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Nars เลยค่ะ
Nars Power Matte Lip Pigment เป็นลิปแมตต์ที่บางเบาและติดทนนานค่ะ ขอบอกเลยว่าลิปได้รับความนิยมพอ ๆ กับ Dior Rouge Dior Forever Liquid เลยค่ะ เนื้อลิปสติกมีความเรียบเนียนกลบสีปากมิดค่ะ ลิปสติกค่อนข้างเซตตัวเร็วนะคะทำให้เราได้ริมฝีปากที่สวยแต่ไม่แห้ง แต่หากทานอาหารมัน ๆ ต้องทาเพิ่มนะคะเพราะสีลิปจะหลุดได้ ลิปมีกลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ ทาแล้วสบายปากค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ทาได้ง่าย ริมฝีปากเรียบเนียนและไม่แห้งหลังใช้
- เฉดสีของลิปสติกสดชัด คนที่มีริมฝีปากคล้ำก็ใช้งานได้
- ลิปสติกติดทนนานเหมาะสำหรับคนที่ชอบลิปสติกเนื้อแมตต์แต่ทาแล้วสบายปาก
ข้อควรพิจารณา
- หากทานอาหารมัน ๆ ลิปสติกจะหลุดเร็วกว่าเดิม
ปริมาณ | 5.5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 20 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | ไม่ระบุ |
Dior Rouge Dior Forever Liquid ลิปสติก

ราคา 1,530 บาท*
Dior Rouge Dior Forever Liquid เป็นลิควิดลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ทาง่ายและปราศจากพาราเบนค่ะ แพ็กเกจของลิปสติกมีความหรูหรามากค่ะ เนื้อลิปสติกมีความนุ่มเมื่อทาแล้วลิปจะไม่ตกร่องบนริมฝีปากแน่นอนค่ะ ทาง Dior เคลมมาว่าลิปสติกจะติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง แน่นอนว่าติดทนจริงแต่ระยะเวลาในความติดทนอาจแตกต่างกันไปตามวิธีการใช้และการใช้ชีวิตค่ะ สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของดิออร์ต้องห้ามพลาดเพราะลิปดีมาก ๆ
ลิปสติกมาพร้อมสีสันสดใส เนื้อแมตต์พิเศษ เมื่อทาแล้วสามารถกลบสีปากได้ดีและไม่ทำให้ริมฝีปากซีดจางค่ะ ความพิเศษคือลิปสติกจะไม่ติดแมสก์หรือติดแก้วแน่นอน อีกทั้งยังให้ความสบายบนริมฝีปากด้วย เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือก 10 เฉดสีนะคะสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ ในเรื่องของราคาก็เป็นลิปสติกที่มีราคาสูงสมกับเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ค่ะ
Dior Rouge Dior Forever Liquid เป็นลิปสติกเนื้อแมตต์ที่บางเบามาก ๆ มาพร้อมแปรงทาลิปที่ได้ง่ายค่ะเข้าถึงมุมของริมฝีปากได้ดี แต่หลังจากการทาต้องรอให้ลิปสติกเซตตัวอย่างน้อย 15 นาทีค่ะ หลังจากนั้นลิปจะติดแน่นมาก ๆ จูบไม่หลุดเลยค่ะ แต่หลังจากทานข้าวแล้วที่ตรงกลางของปากอาจจะจางลงเล็กน้อยแต่ก็สามารถทาซ้ำได้
ข้อดี
- แปรงทาลิปสติกผ่านการออกแบบมาอย่างดีทาได้ง่ายมาก
- ติดทนนาน ไม่ติดแมสก์และไม่ติดแก้ว
- ปราศจากสารเคมีอันตรายและสารระคายเคือง คนแพ้ง่ายสามารถทาได้
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 6 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 10 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
ความติดทนนาน (คำเคลม) | 12 ชม. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปสติกให้เข้ากับสีผิวของตัวเอง
1. ทำความรู้จักกับสีผิวของตัวเองผ่านอันเดอร์โทน
หากต้องการเช็กสีผิวหรืออันเดอร์โทนสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ วิธีการก็คือดูเส้นเลือดที่ข้อมือ โดยเราต้องเช็กว่าสีของเส้นเลือดของเราเป็นสีไหน โดยปกติแล้วเส้นเลือดหลัก ๆ ของมนุษย์เราจะมีอยู่ 3 สีคือสีม่วง สีน้ำเงินและสีเขียวค่ะ แน่นอนว่าสีของเส้นเลือดจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าสีผิวของเราอยู่ฝนโทนไหน ด้านล่างนี้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอันเดอร์โทนที่เราควรรู้ค่ะ

- หากเส้นเลือดเป็นสีน้ำเงินหรือเขียว = ผิวโทนธรรมชาติหรือโทนกลาง
- หากเส้นเลือดเป็นสีเขียวเข้ม = ผิวโทนเหลือง
- หากเส้นเลือดมีสีม่วงหรือสีน้ำเงิน = ผิวโทนชมพู
แต่หากยังไม่แน่ใจในเรื่องของสีเส้นเลือกให้ลองใช้เคล็ดลับอีกแบบหนึ่งคือสวมต่างหูเงินหรือสร้อยคอเงินแล้วมองเข้าไปในกระจกค่ะ จากนั้นค่อยสลับเป็นเครื่องประดับสีทอง โดยทางเราอยากให้สังเกตและมองดูว่าคุณใส่สีไหนดูดีกว่ากัน ? โดยปกติผิวโทนผิวเย็นจะดูเปล่งประกายเมื่อใส่เครื่องประดับสีเงิน ในขณะที่เครื่องประดับทองคำมักจะเหมาะกับผิวโทนเหลืองและโทนกลางค่ะ หากรู้อันเดอร์โทนของผิวแล้วเราก็จะสามารถเลือกสีลิปสติกได้ง่ายขึ้นและลิปสติกที่เราใช้จะเข้ากับผิวของเราได้ดีขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ
- สีลิปสติกที่เหมาะสำหรับผิวโทนอุ่นหรือโทนกลาง : สีเบจ, สีน้ำตาล, สีทอง, สีน้ำผึ้ง, สีบรอนซ์, สีมอคค่า, สีพีช, สีส้ม, สีน้ำตาลแดง, สีแดงตุ่น, สีน้ำตาลอ่อน, สีทองแดงและสีแอปริคอท
- สีลิปสติกที่เหมาะสำหรับผิวโทนเย็น : สีชมพู, สีกุหลาบ, สีบานเย็น, สีม่วง, สีลาเวนเดอร์, สีองุ่น, สีเชอร์รี, สีแดงไวน์, สีเบอร์รี, สีพลัมและสีแครนเบอร์รี

2. เลือกสีลิปสติกที่เข้ากันได้ดีกับสีผิวของตัวเอง
หากการเลือกลิปสติกที่เข้ากับอันเดอร์โทนเป็นเรื่องที่ยากเกินไปก็สามารถดูสีผิวของตัวเองและเลือกสีลิปให้เข้าสีผิวที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่าได้ค่ะ แน่นอนว่าการเลือกโทนสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิวจะช่วยให้ใบหน้าของเราดูโดดเด่นขึ้นได้แม้ไม่ได้แต่งหน้า แต่หากเลือกสีผิดนั้นชีวิตเปลี่ยนแน่นอนค่ะสาว ๆ ดังนั้นวันนี้เราก็มีสีลิปสติกที่เหมาะกับสีผิวมาแนะนำกันค่ะ ซึ่งเป็นเกณฑ์การเลือกสีลิปสติกที่ง่ายกว่าการเช็กอันเดอร์โทน
- ผิวคล้ำ : สีลิปสติกที่เหมาะกับสาว ๆ ผิวคล้ำที่คือเฉดสีน้ำตาลและเฉดสีแดงเพราะการทาสีลิปสติกแบบนี้จะช่วยให้คุณดูกระจ่างใสขึ้น
- ผิวสองสี : ผิวสองสีคือผิวของสาวไทยอย่างแท้จริงค่ะ สาวผิวสีนี้โชคดีหน่อยเพราะสามารถเลือกสีลิปสติกได้หลายเฉด อาจจะเป็นสีส้มพีชหรือแม้แต่สีแดงสดก็สามารถทาได้ค่ะ ทางเราอยากแนะนำสีแดงที่สุดเพราะทาแล้วรอดแน่นอนและยังช่วยให้คนทาดูสะดุดตาอีกด้วย
- ผิวขาวเหลือง : สีลิปสติกที่เหมาะกับสาว ๆ สีผิวแบบนี้คือสีส้มหรือสีชมพูน้ำตาล แต่ไม่ควรใช้สีชมพูนมโดยเด็ดขาดเพราะหน้าคุณจะยิ่งซีดมากและอาจจะโป๊ะได้ถ้าทาไปงาน ดังนั้นห้ามซื้อเลยนะคะสาว ๆ
- ผิวขาว : สำหรับคนที่มีผิวขาวลิปสติกสีชมพูนมดูจะเหมาะกับสาวผิวขาวมาก หรือหากคุณกลัวว่าจะดูเป็นสาวหวานเกินไปก็ลองผมสีเองก็ได้ค่ะให้มันดูแปลกใหม่และเปลี่ยนลุคของคุณ
คำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้ลิปสติก เพื่อให้ทาลิปสติกได้ง่ายมากขึ้น

- ริมฝีปากแห้ง หากคุณมีริมฝีปากที่แห้งมากคุณจะต้องหลีกเลี่ยงลิปสติกที่มีนื้อแมตต์ เพราะลิปสติกเนื้อแมตต์จะทำให้ริมฝีปากยิ่งแห้งค่ะ
- ลิปสติกแบบครีม ลิปสติกครีมมีไว้สำหรับทาแบบ Everyday Look และเหมาะกับทุกโทนสีผิวค่ะ
- ลิปสติกเนื้อซาตินและเนื้อกลอส การเลือกลิปสติกแบบซาตินหรือกลอสจะช่วยเพิ่มความแวววาวให้ริมฝีปากได้ดี แน่นอนว่าลิปสติกแบบมันวาวจะปกปิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบนริมฝีปากทำให้ริมฝีปากดูเอิบอิ่มมากยิ่งขึ้น
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ ลิปสติกแบบเนื้อแมตต์ได้รับความนิยมมากในขณะนี้และมักจะติดทนนานค่ะ ข้อควรระมัดระวังการใช้ลิปสติกแบบแมตต์คือถ้าคุณมีริมฝีปากแห้งอย่าลืมให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากก่อนเสมอเพราะลิปอาจจะตกร่องได้ค่ะ