ต่อให้ชีวิตของเราจะวุ่นวายแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเรียน หรือ การทำงาน เรียกว่าใน 24 ชั่วโมง มนุษย์อย่างพวกเราก็ใช้เวลาไปแล้วกว่า 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำในการเรียน/ทำงาน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยคือเรื่องของการนอนหลับพักผ่อน เพราะกลไกธรรมชาติตรงนี้ติดตัวกับเรามาตั้งแต่เกิด หากเราไม่ได้นอนหลับ ร่างกายก็จะค่อย ๆ ทรุดลงไปจนอาจทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้

อย่างไรก็ดีการนอนหลับก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพักผ่อนเต็มที่เสมอไป เพราะปัจจัยในเรื่องของเครื่องนอนเองก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หมอน, ผ้าห่ม, หมอนข้าง, เบาะสำหรับนอน, เตียงนอน และอีกอย่างซึ่งจะขาดไม่ได้โดยเด็ดขาดคือ ‘ที่นอน’ หรือ ‘ท็อปเปอร์’ โดยอย่างที่เราทราบกันดีว่าที่นอนจะคอยซัพพอร์ตร่างกายของเราให้นอนสบายและป้องกันปัญหาปวดเมื่อยในอนาคต ทั้งนี้ก็อย่าลืมครับว่าที่นอนในแต่ละแบรนด์นั้นมีคุณภาพไม่เท่านั้น แต่หนึ่งในแบรนด์ที่คนทั่วโลกยอมรับ และคนไทยอย่างเรา ๆ ก็รู้จักกันดีคงจะไม่พ้น ‘ที่นอน Lotus’ ดังนั้นวันนี้ผมเลยอยากมานำเสนอสินค้าและรุ่นที่นอนของทางแบรนด์มาฝากกันครับ
ที่นอน Lotus รุ่นไหนเหมาะกับคุณ?
- ที่นอน lotus รุ่น woodfield: Lotus ที่นอนสปริงเสริมโฟม (สเปคสมดุลลงตัว) รุ่น Woodfield
- ที่นอน lotus รุ่น premium: Lotus ที่นอนสปริงเสริมโฟม รุ่น Premium
- ที่นอน lotus รุ่น intel i: Lotus ที่นอนยางพาราไฮบริด นำเข้าจากประเทศเบลเยี่ยม รุ่น Intel
- ที่นอน lotus รุ่น charto : Lotus ที่นอน (สเปคสมดุลลงตัว) รุ่น Charto
- ที่นอน lotus รุ่น angelus: Lotus ที่นอนลดอาการปวดหลัง ลดอาการปวดเมื่อย รุ่น Angelus
ประวัติชุดเครื่องนอน Lotus
Lotus เป็นบริษัทที่ผลิตชุดเครื่องนอนมานานกว่า 42 ปี (เริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532) โดยจุดเริ่มต้นของ Lotus คือบริษัทซึ่งทำงานกันเป็นครอบครัว แต่ด้วยทางแบรนด์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ชุดเครื่องนอนมีเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ ๆ ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องของความเบาสบายในการพักผ่อน
ไม่นานนักทางแบรนด์ก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น มีการส่งออกไปขายในต่างประเทศ เรียกได้นานครอบคลุมทั้งแทบเอเชีย และในทุกวันนี้ Lotus ก็ถือเป็นหนึ่งในชุดเครื่องที่ทั้งชาวไทย และชาวโลกหันมาใช้กันเป็นจำนวนมาก เพราะความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าและราคาที่สมเหตุสมผล
ที่นอน Lotus มีทั้งหมดกี่ประเภท
หลายคนอาจคุ้นชินกับที่นอนเมมโมรี่โฟมและที่นอนสปริง แต่จริง ๆ แล้วในท้องตลาดตอนนี้มีให้เลือกมากกว่า 2 ตัวเลือก นอกจากนี้ความหนา, คุณสมบัติ และราคาก็จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนตัดสินใจง่ายขึ้น เรามาดูกันดีกว่าครับว่าที่นอนแต่ละชนิดมีจุดเด่นอะไรบ้าง
- ที่นอนเมมโมรี่โฟม รองรับและซัพพอร์ตร่างกายได้ครบทุกส่วน ทั้งยังลดแรงกดทับได้เป็นอย่างดี ให้ฟิลลิ่งเหมือนกับนอนอยู่บนเปล
- ที่นอนยางพารา ให้ความรู้สึกเหมือนกับเมมโมรี่โฟมในเรื่องของการซัพพอร์ต แต่ที่นอนจะมีความออแกนิกมากกว่าเมมโมรี่โฟม เนื่องจากมันผลิตมาจากยางของต้นไม้
- ที่นอนสปริง ที่นอนจะมีความหนาแน่น และด้วยความที่มันเป็นสปริงจึงทำให้ที่นอนมีความเด้งในระดับนึง
- ที่นอนไฮบริด เป็นการผสมผสานข้อดีระหว่างเมมโมรี่โฟม, ยางพารา และสปริง แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างจะแพง ในบางแบรนด์อาจแตะหลักหมื่นเลยทีเดียว
วิธีการเลือกที่นอนให้ตอบโจทย์กับการนอนของตัวเอง
1. ท่าทางการนอนหลับ
ท่าทางการนอนเป็นอะไรที่ต้องให้ความใส่ใจ เพราะแต่ละคนมีท่าทางการนอนหลับไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญมากคือไขสันหลังของเราจะต้องตั้งตรงและอยู่ในจุดที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด

- ท่านอนคว่ำ จำเป็นต้องเลือกเตียงที่เฟิร์มแน่นและไม่มีการยุบตัว
- ท่านอนตะแคง ที่นอนจะต้องมีความนุ่ม และไม่มีแรงกดทับบริเวณไหล่, เอว และเข่าของเรา
- ท่านอนหงาย และ คนที่เปลี่ยนท่าบ่อย ๆ ความแน่นของที่นอนควรอยู่ในระดับปานกลาง ไม่แน่นหรือนุ่มมากจนเกินไป
2. น้ำหนัก และ รูปร่าง
หลายคนอาจมองข้ามในเรื่องนี้ไปครับ แต่จริง ๆ มันเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเลือกที่นอนเลยครับ โดยหากคุณมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ที่นอนก็ควรจะต้องแน่นในระดับนึงเพื่อซัพพอร์ตน้ำหนักได้ดี แต่สำหรับใครที่น้ำหนักเบาก็อาจจะเลือกที่นอนนิ่ม ๆ มาใช้งานเพื่อความสบายตัวในระหว่างการนอน
3. ปัญหาปวดหลัง
สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องปวดหลัง ไม่ว่าจะเป็นส่วนล่างหรือส่วนบน ผมแนะนำให้เลือกที่นอนรุ่นที่ออกแบบมาซัพพอร์ตหรือลดการกดทับโดยเฉพาะ อย่างเช่น เมมโมรี่โฟม หรือ ไฮบริด เพราะทั้งสองประเภทนี้จะรองรับร่างกายได้ในทุกส่วน แต่โดยปกติแล้วที่นอน Lotus จะมีเทคโนโลยีอย่าง Stressfree และ ECCP คอยซัพพอร์ตอยู่แล้วครับ

4. อุณหภูมิ
หากใครเป็นคนขี้ร้อนหรือชอบเหงื่อออกในช่วงเวลากลางคืน การเลือกที่นอนก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน โดยเมมโมรี่โฟมอาจทำให้ร้อนสักเล็กน้อย ดังนั้นคุณอาจจะต้องเลือกเตียงที่ระบายอากาศได้ดี อย่างเช่น เจล หรือเทคโนโลยี Auto Air Circulation® ซึ่งใช้วัสดุในการช่วยให้ที่นอนเกิดอากาศไหลเวียน
5. มีการรับประกัน
ด้วยราคาของที่นอน Lotus ค่อนข้างสูงในบ้างรุ่น ผมเลยอยากแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีการรับประกัน อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป เพราะเมื่อมีปัญหาเราจะได้เคลมสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อใหม่ อีกทั้งจริง ๆ แล้วอายุการใช้งานของที่นอนก็จะอยู่ในช่วง 8 – 10 ปี ดังนั้นเพื่อความมั่นใจในการใช้งานเราก็ควรเลือกประกันที่มีอายุนานสักเล็กน้อยครับ
Lotus ที่นอน (สเปคแน่นสบาย) รุ่น Evan

ราคา 3,390 บาท*
Lotus รุ่น Evan เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ค่อนข้างเหมาะกับคนน้ำหนักเยอะ เนื่องจากมันค่อนข้างกระจายน้ำหนักได้ดี มีสปริงคุณภาพอย่าง SUPER BONNEL® คอยซัพพอร์ตอยู่ ในขณะเดียวกันโครงสร้างด้านในจะมีอยู่กว่า 7 ชั้น ไม่ว่าจะเป็น แผ่น ECCP ที่เป็นผ้าฝ้ายอัดแน่น ซึ่งมีหน้าที่ในการเพิ่มความนุ่มนวลเมื่อพลิกตัวหรือขณะนอนอยู่บนเตียง อีกทั้งยังมีใย Conjugate Hollo Fill I Fibre ที่เสริมรูระบายอากาศกว่า 5 เซลล์ เมื่อนอนไปแล้วจะรู้สึกเย็นสบาย ตื่นมาผ่อนคลายไร้อาการปวดหลังอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- เส้นใยเสริมรูระบายกว่า 5 เซลล์ ทำให้ระบายอากาศได้ดี
- รองรับน้ำหนักของคนนอนได้ดีเยี่ยม
- โครงสร้าง 7 ชั้น ช่วยให้นอนสบายดีขึ้น
ขนาด | 3.5 ฟุต / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 8 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนไฮบริด |
รับประกัน | 10 ปี |
Lotus ที่นอนสปริงเสริมโฟม รุ่น Premium

ราคา 3,590 บาท*
Lotus รุ่น Premium มีคุณสมบัติคล้าย ๆ กับ ‘Lotus รุ่น Precise’ เพียงแต่มันจะมีการเสริมที่นอนเพิ่มเติมด้วยการใส่ Pillow Top ไว้ด้านบน รวมไปถึงเตียงยังมีระบบ Hybrid Spring และโฟม High Density โดยความแน่นของเตียงจะแน่นในระดับปานกลาง ให้ฟิลลิ่งเหมือนกับนอนบนที่นอนยางพารา รวมไปถึงผิวสัมผัสจะเป็นแบบ Convoluted เมื่อนอนลงไปแล้วมันจะคลายจุดตึงเครียดบริเวณแผ่นหลัง รับรองได้ว่าถ้าเอนตัวลงไปแล้วคุณจะหลับปุ๋ยภายในเวลาไม่ถึงนาทีเลยละครับ เพราะมันสบายมากจริง ๆ
จุดเด่น
- ผิวสัมผัสดี ทำให้รู้สึกนอนสบาย
- มีการเสริมโฟม ช่วยลดการกดทับบริเวณหลัง
- มีการเสริม Pillow Top ช่วยซัพพอร์ตร่างกาย
ขนาด | 3.5 นิ้ว / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 9 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนสปริงเสริมโฟม |
รับประกัน | 10 ปี |
Lotus ที่นอนลดอาการปวดหลัง ลดอาการปวดเมื่อย รุ่น Angelus

ราคา 3,690 บาท*
Lotus รุ่น Angelus มาพร้อมกับสปริงอย่าง LOTUS Superior Posture Coil® โดยสปริงชนิดนี้จะมีทั้งหมด 6 Turn ช่วยปรับสรีระร่างกายและกระดูกสันหลังในระหว่างนอนให้อยู่ในจุดที่เป็นธรรมชาติ ส่วนโฟม HD Comfort และแผ่นคอตตอน ECCP จะคอยซัพพอร์ตในเรื่องของการรองรับน้ำหนัก หากใครเป็นคนท้วมหรือมีน้ำหนักเยอะ ๆ ก็หายห่วงไปได้เลยครับ ส่วนผ้าหุ้มคอตตอนนิท แจ็คการ์ด ก็จะมีสารยับยั้งไรฝุ่นแบบถาวร ซึ่งตรงนี้สำคัญมากต่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ดังนั้นรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งคนมีน้ำหนักเยอะ, คนที่ต้องการลดปวดจากการนอนผิดท่า รวมไปถึงคนที่มีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัว
จุดเด่น
- รองรับน้ำหนักดี เหมาะมากสำหรับคนน้ำหนักเยอะ
- มีผ้าหุ้มคอตตอนนิท แจ็คการ์ด ป้องกันไรฝุ่นได้ดี
- ช่วยปรับสรีระร่างกายให้ถูกจุดในขณะนอน
ขนาด | 3.5 ฟุต / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 10 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนสปริง |
รับประกัน | 5 ปี |
Lotus ที่นอนสปริงอัจฉริยะ รุ่น Precise

ราคา 3,890 บาท*
Lotus รุ่น Precise เป็นการผสมผสานกันระหว่างสปริงซึ่งเป็นเทคโนโลยีพิเศษอย่าง ‘SUPER BONNEL® Series: 5 Turns’ และ แผ่น Stressfree ที่จะช่วยปรับความสมดุลในการรองรับน้ำหนัก ลดการกดทับและช่วยให้เลือดไหลเวียนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ที่นอนเองก็มีสารเคลือบ Sanicare®, Aloe-Vera® และ Allergy Protection เพื่อป้องกันไรฝุ่นและให้ความชุ่มชื้นกับผิวของเรา ไม่เพียงเท่านั้นที่นอนยังมีนวัฒกรรมอย่าง Auto Air Circulation® ที่ช่วยระบายอากาศ เหมาะมากสำหรับคนขี้ร้อนในช่วงเวลากลางคืน
จุดเด่น
- ปรับความสมดุลให้กับร่างกายได้ดี
- มีสารเคลือบซึ่งปลอดภัย และป้องกันไรฝุ่น
- ระบายอากาศดีมาก
ขนาด | 3.5 นิ้ว / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 9 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนสปริง |
รับประกัน | 10 ปี |
Lotus ที่นอน (สเปคสมดุลลงตัว) รุ่น Charto

ราคา 4,990 บาท*
Lotus รุ่น Charto จะอยู่ในระดับ Good Balance หรืออยู่ในจุดที่สมดุลทั้งความนุ่มและแน่น ทั้งนี้จุดเด่นของที่นอนคือการซัพพอร์ตรวมไปถึงปรับกระดูกสันหลังให้ถูกสุขลักษณะ เป็นเหมือนการป้องกันปัญหาเรื้อรังไปด้วยในตัว นอกจากนี้ที่นอนยังมาพร้อมกับผ้าหุ้มเกรดพรีเมียมอย่าง Jacquard Ticking ซึ่งจะทำให้รู้สบายมากกว่าเดิม และที่นอนเองก็จะเป็นแบบ Features 2 sides คือคุณสามารถกลับด้านไปมาเพื่อใช้นอนได้ทั้ง 2 ด้าน ส่วนเทคโนโลยีอย่าง LOTUS Superior Posture Coil®, Stressfree และ ECCP ก็จะมีเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ครับ
จุดเด่น
- ที่นอนสามารถใช้ได้ทั้งสองด้าน
- เสริมผ้าหุ้มด้วย Jacquard Ticking ช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้น
- ความหนาแน่นของที่นอนกำลังพอดี สร้างความสมดุลในระหว่างการนอนบนที่นอน
- ปรับกระดูกสันหลังให้ถูกสุขลักษณะ
ขนาด | 3.5 ฟุต / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 12 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนสปริง |
รับประกัน | 8 ปี |
Lotus ที่นอนยางพารา (สเปคแน่น-นุ่มสบาย) รุ่น Spring Free

ราคา 7,790 บาท*
Lotus รุ่น Spring Free ผลิตมาจากยางพาราชนิดพิเศษจากเบลเยี่ยม แต่ที่เด่นไปกว่านั้นคือการเสริมด้วยโครงสร้างสปริง ดังนั้นจุดเด่นคงหนีไม่พ้นในเรื่องความแน่นของที่นอน ช่วยในเรื่องของการกระจายตัวและไหลเวียนโลหิตได้สะดวกยิ่งขึ้น หากใครมีอาการเหน็บชาอยู่บ่อย ๆ หลังจากตื่นนอน ลองใช้รุ่นนี้แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีนวัฒกรรมอย่าง Opened-Cell ทำให้รู้สึกเย็นสบาย ทั้งยังมีการปรับสรีรศาสตร์ให้อยู่ในจุดที่ถูกต้อง รวมไปถึงการเคลือบสาร Sanicare ซึ่งสกัดมาจากพืชทางธรรมชาติ สามารถป้องกันแบคทีเรียและไรฝุ่นได้ยาวนานหลายปี แต่ยังไม่ได้จบเพียงเท่านี้ครับ เพราะชั้นบนของที่นอนมาพร้อมกับผ้าหุ้ม Cotton Knit ที่ช่วยลดอาการระคายเคืองและอ่อนโยนต่อผิว
จุดเด่น
- เคลือบสาร Sanicare ป้องกันไรฝุ่นได้
- มีผ้าหุ้ม Cotton Knit ทำให้สบายผิว
- ช่วยกระจายน้ำหนัก ลดการกดทับได้ดี
ขนาด | 3.5 ฟุต / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 7 นิ้ว / 8.5 นิ้ว / 9.5 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนยางพารา |
รับประกัน | 10 ปี |
Lotus ที่นอนยางพาราไฮบริด นำเข้าจากประเทศเบลเยี่ยม รุ่น Intel

ราคา 8,790 บาท*
Lotus รุ่น Intel ใช้ยางพาราธรรมชาติและเพิ่มเติมเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘ไมโครลาเท็กซ์’ ลงไป ซึ่งด้วยโมเลกุลที่ค่อนข้างเล็กละเอียดจึงปรับสมดุลทุกอย่างได้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันมันยังมาพร้อมกับแผ่นพิเศษอย่าง ‘Stress Foam’ และใย Conjugate Hollo Fill Fibre 200 gsm คอยสร้างระบบป้องกันการกดทับ ไม่ว่าคุณจะชอบนอนท่าไหน หรือพลิกตัวบ่อยเท่าไหร่ ที่นอนก็สามารถรองรับซัพพอร์ตได้ทั้งหมด ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ผมอยากแนะนำให้ลองใช้กัน
จุดเด่น
- ป้องกันการกดทับได้ดี
- ไมโครลาเท็กซ์เป็นผิวละเอียด ปรับสมดุลได้อย่างลงตัว
- ซัพพอร์ตร่างกายดี
ขนาด | 3.5 ฟุต / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 9 นิ้ว / 10.5 นิ้ว / 11.5 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนยางพาราไฮบริด |
รับประกัน | 10 ปี |
Lotus ที่นอนสปริงเสริมโฟม (สเปคสมดุลลงตัว) รุ่น Woodfield

ราคา 13,090 บาท*
รุ่น Woodfield ถือว่าเป็นรุ่นท็อป ๆ ของทางแบรนด์เลยก็ว่าได้ครับ เพราะทุกส่วนของที่นอนจะปรับสมดุลได้อย่างลงตัว อย่างแรกเลยคือสปริงของเตียงจะเป็น LOTUS SUPER BONNEL® Series: 6 Turns เหมือนกับ ‘Lotus รุ่น Precise’ ซึ่งรองรับน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม แต่ที่แตกต่างคือรุ่นนี้จะมีการเสริมขอบ Lotus Hygiene Guard® บริเวณสปริง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและช่วยทำให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นกว่าเดิม หมดปัญหาในเรื่องของไรฝุ่น ในขณะเดียวกันที่นอนยังมีใย Conjugate Hollo Fill II Fibre และโฟม Stressfree ที่ลดแรงกดทับในระหว่างนอน รวมไปถึงการไหลเวียนของเราก็จะดีขึ้น เป็นการเสริมสร้างสุขภาพและทำให้การพักผ่อนดียิ่งขึ้น รับรองว่าคุ้มค่าต่อเงินที่จ่ายอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- ระบายอากาศดีเยี่ยม ทำให้นอนแล้วรู้สึกเย็น
- ลดแรงกดทับในขณะนอน
- รองรับน้ำหนักดีเยี่ยม
- เส้นใยและผ้าช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี
ขนาด | 3.5 ฟุต / 5 ฟุต / 6 ฟุต |
---|---|
ความหนา | 12 นิ้ว |
ประเภท | ที่นอนสปริงเสริมโฟม |
รับประกัน | 10 ปี |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ที่นอน Lotus รุ่นไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
Lotus ที่นอนยางพาราไฮบริด นำเข้าจากประเทศเบลเยี่ยม รุ่น Intel |
| |||
|
วิธีการทำความสะอาดที่นอนอย่างถูกต้อง
1. จัดการฝุ่นออกจากที่นอน
อุปกรณ์ที่ช่วยจัดการฝุ่นบนที่นอนให้กับเราได้มากที่สุดคือการใช้ ‘เครื่องดูดฝุ่น’ ครับ เพียงแค่คุณเปิดเครื่องและถูลงไปบนผิวที่นอนอย่างน้อย 2 ครั้งต่อเดือน ก็สามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ให้กับเรารวมไปถึงคนในครอบครัวได้ ทั้งนี้การทำความสะอาดก็จำเป็นต้องถูตามซอกเล็ก ๆ หรือรอยแยกบนที่นอน เพราะจุดเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นเลยก็ว่าได้ครับ หากทำความสะอาดแบบลวก ๆ หรือไม่ใส่ใจรายละเอียดในส่วนนี้ มันอาจทำให้มีปัญหาต่อสุขภาพของเราโดยตรงในอนาคต

2. ทำความสะอาดด้วยความร้อน
สิ่งสกปรกบนที่นอนของเราอาจไม่ได้มีเพียงแค่ฝุ่นละอองขนาดเล็กเท่านั้นครับ แต่มันอาจมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘ไรฝุ่น’ เกิดขึ้นได้ หากเกิดความชื้นและสะสมสิ่งสกปรกเอาไว้โดยไม่ได้จัดการ ทั้งนี้การใช้เครื่องดูดฝุ่นอาจไม่ตอบโจทย์ในการกำจัดไรฝุ่นสักเท่าไหร่ครับ แต่สิ่งที่สามารถช่วยเราได้คือ ‘เครื่องดูดไรฝุ่น’ เนื่องจากตัวเครื่องจะมีพลังดูดคล้ายกับเครื่องดูดฝุ่น ในขณะเดียวกันมันยังมีความร้อนและรังสี UV ความยาวคลื่นประมาณ 253.7 นาโนเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพในการฆ่าตัวไรฝุ่นได้แบบราบคาบ
3. ทำความสะอาดคราบสกปรก
ผมเชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบนำขนมหรืออาหารขึ้นไปกินบนที่นอน เพื่อจะได้นอนกินขนมดูซีรีส์ชิล ๆ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าโอกาสเกิดคราบสกปรกบนที่นอนก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้หากเกิดความสกปรกบนเตียง ผมแนะนำให้คุณทำความสะอาดด้วย ‘สเปรย์กำจัดคราบสกปรก’ โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวบนที่นอนได้รับความเสียหาย และกำจัดคราบฝั่งแน่นแบบหมดจด