ไม่มีอะไรที่จะทำให้คนเลี้ยงสุนัขเจ็บปวดได้เท่ากับ สุนัขของพวกเขาต้องทุกข์ทรมานจากปัญหาของโรคผิวหนัง มันอาจจะทำให้ผิวหนังอักเสบรวมไปถึงขนหลุดร่วง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจถึงขั้นแพร่กระจายไปยังอวัยวะภายในสุนัขของคุณ จนทำให้เกิดการติดเชื้อราในระบบได้
เพราะสุนัขไม่สามารถสื่อสารบอกเราเป็นคำพูดได้ว่าพวกเขาต้องการอะไร ดังนั้นกว่าที่คุณจะรู้ว่าสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังก็อาจจะสายเกินแก้ไปแล้วก็ได้ค่ะ
เพราะโรคผิวหนังไม่ใช่โรคที่จะกินยารักษาแล้วจะหายได้ทันที แม้ว่าคุณนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ที่เก่งที่สุดเพียงใด แต่สิ่งที่สัตวแพทย์สามารถช่วยได้ก็คือการสั่งยาทา (ในบางโรคอาจจะมียากิน) และแชมพูสำหรับรักษาอาการต่าง ๆ มาให้เท่านั้น มันจะดีกว่าไหมถ้าคุณรู้ว่าแชมพูยาสำหรับสุนัขตัวไหนช่วยรักษาโรคผิวหนังอะไรได้บ้าง เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวและป้องกันได้อย่างทันท่วงทีเมื่อสุนัขของคุณมีปัญหาโรคผิวหนัง
แชมพูสำหรับสุนัข และ แชมพูยาสำหรับสุนัข ต่างกันอย่างไร
แชมพูสำหรับสุนัข
แชมพูสำหรับสุนัขนั้นเป็นแชมทั่วไปที่ใช้ในการรักษาความสะอาดโดยรวมของสุนัข บางยี่ห้ออาจจะมีสูตรสำหรับดูแลสุขภาพของเส้นขนเพื่อที่จะให้ขนนุ่มน่าสัมผัส หรืออาจจะเป็นสูตรแชมพูสำหรับกำจัดเห็บหมัดผสมอยู่ด้วย และบางครั้งก็จะมีสูตรแชมพูสำหรับกำจัดเห็บหมัดโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นสูตรที่ไม่ควรใช้อาบบ่อยเกินไป
แชมพูยาสำหรับสุนัข
แชมพูยาสำหรับสุนัขนั้นจะเป็นแชมพูที่มีสารตั้งสารเหมือน ๆ กับแชมพูสำหรับสุนัขทั่วไป คือเน้นในเรื่องความสะอาดรวมถึงให้ความชุ่มชื้นแก่ขนและผิวหนัง เพื่อทำให้ขนสุนัขเงางาม แต่แชมพูยาสำหรับสุนัขจะมีส่วนผสมบางอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อใช้สำหรับรักษาโรคผิวหนังตามสภาพปัญหาของแต่ละโรค
เหตุผลที่สุนัขอาจจะต้องใช้แชมพูยา
แน่นอนค่ะว่าการอาบน้ำเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรที่สำคัญสำหรับการดูแลสุนัขของคุณ เพราะมันจะช่วยควบคุมในเรื่องของกลิ่นได้ดี อีกทั้งการอาบน้ำจะช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากผัวหนังของสุนัขรวมถึงสิ่งสกปรก, ฝุ่นละออง และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่สะสมบนผิวหนังสุนัขของคุณอีกด้วย ซึ่งหากคุณละเลยการอาบน้ำนาน ๆ เข้า ก็อาจจะส่งผลให้สุนัขของคุณเป็นโรคผิวหนังได้
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าสุนัขควรใช้แชมพูยาเมื่อไหร่? สำหรับแชมพูยานั้นมีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดูแลทุกสภาพผิวหนังของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นโรคผิวหนังจากการติดเชื้อแบคทีเรีย, โรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อยีสต์ (เชื้อรา), โรคภูมิแพ้ผิวหนัง, อาการผิวแห้งและคัน และการกำจัดหมัดเห็บ เป็นต้น
แม้ว่าโรคผิวหนังในสุนัขนั้นจะต้องได้รับการรักษาโดยสัตว์แพทย์ สำหรับการยืนยันในเรื่องการวินิจฉัยของโรค เพื่อให้สามารถรักษาได้ตรงจุด แต่หนึ่งในตัวเลือกการรักษาการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ สำหรับสุนัขในอันดับต้น ๆ คือแชมพูยาค่ะ ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่า หากคุณมีความรู้พื้นฐานสำหรับแชมพูยาที่ใช้กับสุนัขของคุณ เพื่อที่จะได้รักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ
7 สิ่งที่ควรมองหาในแชมพูยาที่ดีที่สุดสำหรับสุนัข
ก่อนที่จะใช้แชมพูยากับสุนัข คุณต้องแน่ใจว่าเสียก่อนว่ามันเป็นแชมพูยาที่เหมาะสมและสุนัขของคุณ โดยสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการสังเกตุผัวหนังของสุนัขว่าพวกเขามีอาการอย่างไร หากสุนัขของคุณมีอาการคัน, ผิวหนังแห้งและระคายเคือง รวมถึงมีการอักเสบตามผิวหนังและมีขนร่วง คุณต้องนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อที่ได้วินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงสำหรับปัญหาผิวหนังของสุนัข และจะได้แนะนำแนวทางการรักษาเหล่านี้ไปใช้ ซึ่งอาจรวมถึงแนวทางการเลือกใช้แชมพูยาสำหรับสุนัขด้วยค่ะ
การเลือกแชมพูยาสำหรับสุนัขเป็นสิ่งที่ควรทำโดยคำแนะนำของสัตวแพทย์ นอกเหนือจากการวินิจฉัยปัญหาผิวหนังของสุนัขแล้ว สัตว์แพทย์ของคุณยังแนะนำส่วนผสมที่เฉพาะเจาะจงในการใช้แชมพูยาบางประเภทที่คุณควรมองหา แต่อย่างไรก็ตามคุณอาจต้องใช้เวลาืเพื่อให้สารเหล่านั้นออกฤทธิ์สำหรับการรักษาอาการติดเชื้อด้วยนะคะ
1. มองหาคำว่า Hypoallergenic
Hypoallergenic ไม่ว่าคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามที่เขียนไว้ว่า Hypoallergenic มันหมายถึงเป็นสินค้าที่ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรืออาจจะแพ้น้อยกว่าสินค้าประเภทอื่น ๆ มันเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่ายนั้นเองค่ะ เพราะ Hypoallergenic คือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ แต่สำหรับสุขันนั้น เป็นสัตว์ที่สามารถแพ้สิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ดังนั้นจึงไม่มีการรับประกันใด ๆ ว่ามันไม่แพ้เลย แต่อย่างไรก็ตามหากสุนัขของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง สิ่งที่คุณควรมองหาในแชมพูอย่างแรกก็คือต้องผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ก่อนจริงไหมคะ? เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังที่แย่ลงกว่าเดิม เพราะการได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงในขณะที่ผิวหนังของพวกเขาอ่อนแอ อาจเป็นอันตรายต่อสุนัขได้
2. ดูส่วนประกอบที่ใช้ในแชมพู
ส่วนประกอบที่ใช้นั้นช่วยให้คุณสามารถรักษาสภาพผิวหนังของสุนัขได้อย่างเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น หากสุนัขของคุณมีอาการผิวหนังติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย คุณควรจะใช้แชมพูที่ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง โดยสารออกฤทธิ์ทั่วไปที่ฆ่ายีสต์หรือเชื้อรา ได้แก่ คีโตโคนาโซล (ketoconazole), ฟลูโคนาโซล (fluconazole) และไมโคนาโซล ไนเตรต (miconazole nitrate) เป็นต้น (1,2,3)
หรือ คลอร์เฮกซิดีน (chlorhexidine) ใช้รักษาโรคกลาก ฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียได้ดี, เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ เหมาะสำหรับรักษาโรคขี้เรื้อน, กรดซาลิไซลิก (salicylic acid) มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ และปรับค่า pH ให้สมดุล ลดอาการคันรวมถึงอาการอักเสบ เป็นต้น (4,5,6)
3. ส่วนผสมจากธรรมชาติ
เมื่อสุนัขของคุณมีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเลือกแชมพูสำหรับสุนัขที่จะไม่ทำให้ผิวหนังของพวกเขาระคายเคืองไปกว่าเดิม การเลือกแชมพูยาที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปราศจากสารเคมี, สารปรุงแต่งที่รุนแรง, แอลกอฮอล์, และพาราเบน จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
4. pH-Balanced หรือ ค่า pH ที่สมดุล
ผิวหนังของสุนัขจะมีค่า pH ที่แตกต่างจากของมนุษย์ ดังนั้นจึงควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความสมดุลของค่า pH อย่างเหมาะสมสำหรับผิวของพวกเขา เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังของสุนัขมีสภาพผิวที่แย่ลงกว่าเดิม
5. แชมพูที่มี มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ความชุ่มชื้น หรือเป็นครีมนวดในตัว
มอยส์เจอร์ไรเซอร์นั้นเหมาะสำหรับผิวหนังที่แห้งคัน ซึ่งเป็นอาการพื้นฐานของปัญหาผิวหลายอย่าง ดังนั้นคุณจะต้องมองหาแชมพูที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ซึ่งจะต้องเป็นสารที่เป็นธรรมชาติ อย่าง ว่านหางจระเข้, เชียร์บัตเตอร์, น้ำมันมะพร้าว และข้าวโอ๊ต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
หรืออาจจะเป็นแชมพูแบบ 2 in 1 นั้นก็คือเป็นแชมพูที่เป็นครีมนวดในตัว เพื่อช่วยปรับสภาพของขนและยังให้ความชุ่มชื้นไปในตัวอีกด้วย
หมายเหตุ: แม้ว่าเชื้อราอย่างยีสต์มีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายในสภาพที่ชื้น และจะต้องทำให้ผิวหนังและขนของสุนัขแห้งเสมอ แต่เรื่องความชุ่นชื้นก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังควบคู่ไปด้วย ดังนั้นจะต้องเลือกสารที่ทำจากสารสกัดธรรมชาติ เพื่อให้อ่อนโยนต่อผิวหนังสุนัขมากที่สุด
6. มีสารทำความเย็น
ปัญหาผิวหนังของสุนัขบางครั้งก็มีอาการผิวหนังแดงและอักเสบ ซึ่งมันทำให้สุนัขของคุณรู้สึกไม่สบายตัวได้ สารทำความเย็นอย่างว่านหางจระเข้สามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ พร้อมทั้งให้ความชุ่มชื้นไปในตัวอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการเร่งกระบวกการรักษาที่ดี
7. สารกำจัดกลิ่น
แน่นอนค่ะว่าปัญหาผิวหนังของสุนัขในบางครั้งก็อาจจะมีการปล่อยกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา การมองหาแชมพูที่สามารถกำจัดกลิ่นได้ด้วย จะช่วยให้สุนัขของคุณมีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดเวลา แต่ควรเลือกสารที่สกัดจากธรรมชาติ เพื่อไม่ทำให้ผิวหนังของพวกเขาระคายเคืองไปกว่าเดิม
แม้ว่าแชมพูยาต่าง ๆ จะถูกออกแบบมาเพื่อเหตุผลที่ต่างกันตามแต่สภาพของปัญหาผิวแต่ละโรค หากสุนัขของคุณมีเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง คุณจะต้องใช้แชมพูสำหรับยารักษาโรคของสุนัข ถ้าพวกเขาได้รับการวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อยีสต์หรือเชื้อรา คุณจะต้องมียาแชมพูสุนัขสำหรับต้านการติดเชื้อยีสต์ ดังนั้นไม่ว่าสุนัขของคุณจะเป็นโรคผิวหนังอะไร คุณควรปรึกษาแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับส่วนผสมที่เฉพาะเจาะจงที่ควรมองหาก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อสินค้า
Breener (บรีนเนอร์) แชมพูสุนัขรักษาโรคผิวหนัง

ราคา 150 บาท*
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 240 ml |
สำหรับ | สุนัข + แมว |
การอาบ | 2-3 ครั้ง/อาทิตย์ |
Bestiderm แชมพูยารักษาโรคผิวหนังจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์

ราคา 165 บาท*
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 250 ml |
สำหรับ | สุนัข + แมว |
การอาบ | 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ |
Haidar แชมพู รักษาโรคผิวหนัง ที่เกิดจากเชื้อรา, ยีสต์, แบคทีเรีย

ราคา 189 บาท*
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 500 ml |
สำหรับ | สุนัข + แมว |
การอาบ | 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ |
Dermasebb แชมพูรักษาโรคผิวหนัง ที่เกิดจาก เชื้อรา ยีส แบคทีเรีย สำหรับสัตว์เลี้ยง

ราคา 225 บาท*
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 200 ml |
สำหรับ | สุนัข + แมว |
การอาบ | 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ |
Veterinary Formula แชมพูสัตวแพทย์ สูตร Oatmeal & Tea Tree ยับยั้งแบคทีเรีย เชื้อรา

ราคา 330 บาท*
การติดเชื้อยีสต์ในสุนัขที่เกิดจากเชื้อรา Malassezia pachydermatis ยีสต์นี้พบได้ตามธรรมชาติในผิวหนังของสุนัขส่วนใหญ่ แต่หากมีมากเกินไปอาจจะก่อปัญหาให้ผิวหนังอักเสบได้ การติดเชื้อยีสต์ในสุนัขสามารถทำให้เกิดอาการคันและแดงของผิวหนัง รวมถึงมีกลิ่นเหม็นอับ และรอยแดงจากการเชื้อ
แชมพูสูตรนี้ผสม benzethonium chloride เพื่อกำจัดแบคทีเรียและใช้ ketoconazole เพื่อบรรเทาอาการติดเชื้อรา มันช่วยทำความสะอาดและขจัดกลิ่น ทั้งยังให้ความชุ่มชื่นกับผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์สารสกัดจากว่านหางจระเข้และน้ำมันมะพร้าว และสารทำความเย็น จึงช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคือง นอกจากนี้ยังปราศจากพาราเบน, สารเคมีที่รุนแรง และมีค่า pH เป็นกลาง ถือว่าเป็นแชมพูที่ช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็ว
ตัวนี้เป็นที่นิยมมาก ๆ ในต่างประเทศ โดยหลาย ๆ เว็บไซต์ต่างให้นิยามของสินค้าตัวนี้ว่าเป็นแชมพูที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาโรคผิวหนังที่ติดเชื้อยีสต์ แต่มันอาจจะรุนแรงเกินไปสำหรับสุนัขขนาดเล็กหรือสุนัขที่มีผิวหนังบอบบางมาก
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 473 ml |
สำหรับ | สุนัข |
การอาบ | 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ |
Dermcare Aloveen Shampoo แชมพูสุนัข-แมว สูตร Oatmeal บำรุงขนและผิวหนัง

ราคา 350 บาท*
ข้อควรพิจารณา
- ไม่สามารถรักษาหรือฆ่าเชื้อโรครา/เชื้อแบคทีเรียได้ ใช้เพียงบำรุงให้ผิวหนังชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 250 ml |
สำหรับ | สุนัข + แมว |
การอาบ | 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ |
Dermcare PYOHEX Medicated Shampoo เดิร์มแคร์ ไพโอเฮ็กซ์ เมดิเคดเต็ด

ราคา 520 บาท*
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 250 ml |
สำหรับ | สุนัข |
การอาบ | 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ |
Dermcare Malaseb เดิร์มแคร์ มาลาเซ็บ เมดิเคดเต็ด รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อราและยีสต์

ราคา 524 บาท*
แชมพูยาสำหรับรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา(ยีสต์) หรือเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดความมันบนผิวหนัง สามารถใช้ได้ทั้งสุนัขและแมว โดยเน้นรักษาโรคเซ็บเดิร์ม (โรคผิวหนังอักเสบ) ซึ่งมักจะเกิดจากเชื้อสแตปฟิโลคอคคัสออเรียส (Staphylococcus intermedius) และ Malassezia (Pityrosporum) ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบตามธรรมชาติบนผิวหนังของมนุษย์และสัตว์
และยังสามารถรักษาการติดเชื้อราในกลุ่ม โรคกลาก (Dermatophytosis) ที่เกิดจากเชื้อ Microsporum canis/gypseum และ Trichophyton mentagrophytes ในสัตว์โดยจะเข้าไปฆ่าสปอร์ของเชื้อเหล่านี้ ขอบอกว่าตัวนี้มีใช้ดีมาก ๆ จนถึงขั้นมีขนาด 1 ลิตรออกมาวางจำหน่ายด้วยนะคะ
ออร์แกนิค | |
---|---|
ปริมาณ | 500 ml |
สำหรับ | สุนัข + แมว |
การอาบ | 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว แชมพูยารักษาโรคผิวหนัง สำหรับสุนัข ที่ได้ผลจริง ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
Bestiderm แชมพูยารักษาโรคผิวหนังจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ |
| |||
Haidar แชมพู รักษาโรคผิวหนัง ที่เกิดจากเชื้อรา, ยีสต์, แบคทีเรีย |
| |||
Dermasebb แชมพูรักษาโรคผิวหนัง ที่เกิดจาก เชื้อรา ยีส แบคทีเรีย สำหรับสัตว์เลี้ยง |
| |||
Veterinary Formula แชมพูสัตวแพทย์ สูตร Oatmeal & Tea Tree ยับยั้งแบคทีเรีย เชื้อรา |
| |||
Dermcare Aloveen Shampoo แชมพูสุนัข-แมว สูตร Oatmeal บำรุงขนและผิวหนัง |
| |||
Dermcare PYOHEX Medicated Shampoo เดิร์มแคร์ ไพโอเฮ็กซ์ เมดิเคดเต็ด |
| |||
Dermcare Malaseb เดิร์มแคร์ มาลาเซ็บ เมดิเคดเต็ด รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อราและยีสต์ |
|

7 สัญญาณของการติดเชื้อยีสต์ หรือเชื้อราในสุนัข
ยีสต์เป็นชนิดของเชื้อราชนิดหนึ่ง และมันก็เป็นเรื่องปกติมาก ๆ หากคุณจะพบยีสต์ในสุนัขที่มีสุขภาพดี ยีสต์มักจะพบได้ในหูและบริเวณเยื่อบุ ยีสต์จะกลายเป็นปัญหาทันที เมื่อมันเริ่มแพร่พันธุ์ในอัตราที่รวดเร็วเกินควบคุม จนทำให้สุนัขของคุณมียีสต์มากเกินไปและแพร่กระจายไปยังบริเวณส่วนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว อาทิเช่นผิวหนังของสุนัข เมื่อมาถึงจุดนี้สภาพผิวหนังของสุนัขอาจจะถึงขั้นเลวร้ายหรือที่เรียกว่า “โรคผิวหนังอักเสบจากยีสต์” นั่นเองค่ะ
การติดเชื้อยีสต์ในสุนัข อาจไม่ได้ฟังดูเป็นปัญหาร้ายแรง แต่มักเป็นสัญญาณระยะแรกของปัญหาสุขภาพโดยรวม สาเหตุที่พบบ่อยของการติดเชื้อยีสต์ในสุนัข ได้แก่ โรคภูมิแพ้, ความไม่สมดุลของฮอร์โมน, ปรสิตภายนอก, การใช้สเตียรอยด์หรือยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานเกินไป, มะเร็ง และยาต้านภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
นี่คือสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดของการติดเชื้อยีสต์ในสุนัข :
- อาการคันมาก (โดยเฉพาะมักจะเป็นบริเวณหูก่อน)
- ผิวระคายเคืองจนเป็นสีแดง (โดยเฉพาะมักจะเป็นบริเวณหูก่อน)
- ผิวหนังและหูมีอาการอักเสบ
- ผิวหนังมีแผลหรือรอยโรค
- ผิวหนังมีสภาพมันเยิ้ม
- มีอาการขนร่วง
- มีกลิ่นเหม็นออกจากหูหรือผิวหนัง
หากสุนัขของคุณแสดงอาการใด ๆ ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น คุณอาจนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ การติดเชื้อยีสต์สามารถแพร่กระจายได้ง่าย, รวดเร็ว และอาจรุนแรง หากไม่ได้รับรักษาที่ถูกวิธี การรักษาโรคผิวหนังการติดเชื้อยีสต์ในสุนัขที่ดีที่สุด คือการจัดการกับสาเหตุของการติดเชื้อ ในขณะเดียวกันก็สามารถแก้ไขอาการได้ด้วย ในกรณีที่การติดเชื้อยีสต์ในสุนัขการแพร่กระจายสู่ผิวหนัง สามารถป้องกันและรัษาได้ด้วยแชมพูยา ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะแชมพูยาสำหรับการติดเชื้อยีสต์มักให้ประโยชน์ในการต้านเชื้อราและแบคทีเรีย
การติดเชื้อยีสต์จากภายใน มักเกิดขึ้นจากระบบทางเดินอาหารของสุนัข จากอาหารที่คุณให้มีแป้งมากเกินไป ดังนั้นการเปลี่ยนไปใช้อาหารสุนัขที่มีแป้งต่ำอาจช่วยได้ ซึ่งแหล่งที่มาของแป้งในอาหารสุนัข ได้แก่ ธัญพืช, ข้าวสาลี, ข้าวโพด และข้าวปกติ รวมทั้งถั่ว, มันฝรั่ง และมันเทศ การเปลี่ยนไปให้อาหารเม็ดที่สามารถเลือกประเภทของโภชนาการได้น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม อาทิเช่น อาหารสุนัขพันธุ์ใหญ่, อาหารสุนัขพันธุ์เล็ก และนมสำหรับสุนัขที่ขาดสารอาหาร
การรักษาการติดเชื้อยีสต์ในสุนัขของคุณ อาจต้องใช้วิธีการรักษาด้วยยาทา หรือยารับประทาน นอกเหนือจากการอาบน้ำด้วยแชมพูยาต้านเชื้อรา และดูแลสุขภาพของเส้นขนด้วยแปรงหวีขนที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังและขนที่ตายแล้วออก ดังนั้นจึงควรพูดคุยกับสัตวแพทย์ของคุณเกี่ยวกับตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขของคุณ จากนั้นลองใช้แชมพูสำหรับสุนัขที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ จากที่เรารีวิวไว้ก็ได้ค่ะ
References