Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » สุขภาพและความงาม » สุขภาพทั่วไป » อาหารเสริม » วิตามิน/สมุนไพรที่ช่วยรับมืออาการปวดประจำเดือน มีอะไรบ้าง

วิตามิน/สมุนไพรที่ช่วยรับมืออาการปวดประจำเดือน มีอะไรบ้าง

Mine Melody โดย Mine Melody
March 8, 2023
ใน อาหารเสริม
รีวิว อาหารเสริมแก้ปวดประจำเดือน ยี่ห้อไหนดีที่สุด
Share on FacebookShare on Twitter

อาการปวดประจำเดือนของสาว ๆ อาจมีระดับความรุนแรงที่ต่างกันไป ตั้งแต่รู้สึกปวดทื่อ ๆ หน่วง ๆ ที่ท้องน้อยไปจนถึงอาการปวดรุนแรงที่ลามไปถึงกลางหลัง มิหนําซ้ำสาว ๆ บางคนก็มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย แม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วอาการปวดประจำเดือนจะเป็นในช่วง 1-2 วันแรกของรอบเดือน แต่ก็ทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการทำงานและยังสร้างความลำบากในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน

ผู้หญิงนอนประคบถุงน้ำร้อน ถุงน้ำร้อน ผู้หญิงนอนหลับ ผู้หญิงนอนปวดท้อง
ถุงน้ำร้อนหรือกระเป๋าน้ำร้อน ช่วยบรรเทาอาการปวดด้วยใช้ความร้อนประคบ

หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาอาการปวดท้องเมนส์โดยที่ไม่ต้องการทานยาแก้ปวดประจำเดือนหรือยาคุมกำเนิดให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ตามมา เราขอแนะนำ “อาหารเสริมที่ช่วยรับมือกับอาการปวดประจำเดือน” ไม่ว่าวันนั้นของเดือนจะมีอาการปวดหรือไม่ คุณก็สามารถทานอาหารเสริมประเภทนี้ได้ตลอดในทุก ๆ วัน เพราะอาหารเสริมแก้ปวดประจำเดือนไม่ได้ช่วยแค่บรรเทาอาการปวดท้องเมนส์เท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพโดยร่วมและยังดูแลสุขภาพด้านความงามควบคู่ไปด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาดูกันค่ะว่าจะมียี่ห้อไหนโดนใจคุณบ้าง ?

ปวดประจำเดือนแบบไหนที่ผิดปกติและควรไปพบแพทย์

ก่อนอื่นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องแยกประเภทอาการปวดประจำเดือนของตัวให้ออกก่อน เพราะในบางครั้งอาหารเสริมแก้ปวดประจำเดือนก็ไม่อาจแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดหากร่างกายของคุณมีความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและรังไข่

การปวดประจำเดือนระดับปฐมภูมิ – ปกติ พบได้ในสาววัยรุ่น

ปวดประจำเดือนระดับปฐมภูมิ พบได้ในผู้หญิงอายุ 15-25 ปี
ปวดประจำเดือนทั่วไปพบได้ในผู้หญิง 15-25 ปี
อาการปวดประจำเดือนระดับปฐมภูมิเป็นอาการปวดที่สาว ๆ ส่วนใหญ่มักเป็นกันทุกคน โดยเฉพาะกับหญิงสาววัยรุ่นที่มีอายุ 15-25 ปี อาการปวดประเภทนี้ไม่ค่อยเป็นที่น่ากังวลมากนักเนื่องจากมันไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกหรือระบบสืบพันธุ์ของคุณ และมักพบได้ในช่วง 6 เดือนแรกที่คุณเริ่มมีประจำเดือน เมื่อพ้นช่วง 6 เดือนอันตรายไปแล้วบางคนก็อาจจะมีอาการปวดท้องเมนส์หลังจากนี้โผล่มาบ้างเป็นครั้งคราวจนถึงอายุ 20 ต้น ๆ และมันจะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น

โดยอาการปวดจะรู้สึกเหมือนเป็นตะคริวที่หน้าท้องส่วนล่างและอาจจะปวดลามที่หลังหรือลงไปที่ขาก็ได้ รวมถึงอาจรู้สึกไม่สบาย, อ่อนเพลีย, คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องร่วง, ปวดหัว หรืออาการวิงเวียนศีรษะร่วมด้วยค่ะ

การปวดประจำเดือนระดับทุติยภูมิ – ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์

หากอายุ 25 ปีขึ้นไป มีอาการปวดท้องและมีความผิดปกติของประจำเดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ
หากทานยาแก้ปวดแล้วไม่หาย ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ
อาการปวดประเภทนี้มักเริ่มในช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไปและมักมาพร้อมกับประจำเดือนที่ไหลมากจนผิดปกติหรืออาจเป็นประจำเดือนมาไม่ปกติก็ได้ค่ะ การปวดประจำเดือนแบบทุติยภูมิอาจเกิดจากปัญหาบางอย่างในรังไข่หรือมดลูก เช่น เป็นเนื้องอก, การติดเชื้อ, เป็นซีสต์ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ นอกจากนี้มันอาจเกี่ยวข้องกับอาการตกขาวที่ผิดปกติ, ภาวะตั้งครรภ์ยาก หรืออาจเป็นการปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็ได้

หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าข่ายการปวดประจำเดือนระดับทุติยภูมิหรือไม่? ให้คุณลองทานยาแก้ปวด หากยังไม่หาย อาการไม่ดีขึ้นเลย หรือระดับความปวดแต่ละเดือนเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แนะนำให้คุณไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการปวดและจะได้รักษาได้ทันท่วงทีนะคะ

อะไรที่ทำให้ปวดท้องเมนส์แบบบีบ ๆ หน่วง ๆ

Prostaglandins เป็นสารที่ร่างกายหลั่งในเยื่อบุโพรงมดลูกที่มากกว่าปกติ 3 เท่า จึงทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเกิดการบีบตัว
Prostaglandins เป็นสารที่หลั่งในเยื่อบุโพรงมดลูกที่มากกว่าปกติ 3 เท่า จึงทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเกิดการบีบตัว

อาการปวดประจำเดือนที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่เราทุก ๆ เดือนนั้น เกิดจากการที่ร่างกายผลิตสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งมันจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 3 เท่าในระหว่างมีประจำเดือน โดยสารตัวนี้มีชื่อว่า Prostaglandins (โพรสตาแกลนดิน) มันเป็นสารที่ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเกิดการบีบตัว จึงเป็นที่มาของความรู้สึกปวดท้องแบบเกร็ง ๆ หน่วง ๆ คล้ายเป็นกับตะคริว ทั้งยังทำให้เกิดความไวต่อความเจ็บปวดตรงบริเวณมดลูกอีกด้วย โดยสาว ๆ บางคนอาจมีอาการปวดก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน หรืออาจจะปวดขณะที่มีประจำเดือนในช่วง 2-3 วันแรกค่ะ

วิธีเลือกอาหารเสริมที่ช่วยรับมืออาการปวดประจำเดือน

1. วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยอาการปวดท้องเมนส์

1.1 แมกนีเซียม (1,2)

magnesium แมกนีเซียม
สามารถรับแมกนีเซียมได้จาก เทมเป้, ถั่วแระญี่ปุ่น, อัลมอนด์, แซลมอน, ผักใบเขียว

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้เราดึงพลังงานจากอาหารมาสร้างเป็นโปรตีนใหม่ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และช่วยให้กล้ามเนื้อรวมถึงเส้นประสาทของเราแข็งแรงอีกด้วย นอกจากนี้แมนนีเซียมยังมีประโยชน์สำหรับการฟื้นตัวหลังออกกำลังกายเพราะช่วยลดอาการตะคริวของกล้ามเนื้อได้ และในทำนองเดียวกัน อาการเจ็บปวดแบบตะคริวที่ช่องท้องขณะมีประจำเดือนนั้นเจ้าแมกนีเซียมก็สามารถลดความรุนแรงลงได้เหมือนกันค่ะ ทั้งยังลดการผลิตสาร Prostaglandins ที่ทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย

1.2 วิตามินบีรวม (3-9)

วิตามิน B1 ช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อในมดลูก
วิตามิน B1 ช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อในมดลูก

การทานอาหารเสริมพวกวิตามินบีรวมจะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ไทอามีน (วิตามิน B1) ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้จริง (3-6) วิตามิน B1 มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการบีบตัวของกล้ามเนื้อ ดังนั้นการทานวิตามิน B1 จึงช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อในมดลูกได้ จากการศึกษาผู้หญิง 556 ราย ที่มีอาการปวดประจำเดือนระดับปานกลางถึงรุนแรงมาก พบว่าการทานวิตามิน B1 ปริมาณ 100 มิลลิกรัมทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ถึง 87% ของจำนวนผู้ที่เข้าทดลอง และยังมีรายงานระบุต่ออีกว่าการทานวิตามิน B1 นั้นช่วยลดความเจ็บปวดได้ไม่ต่างจากการทานยาไอบูโพรเฟนแต่มีภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่ามาก อีกทั้งวิตามิน B1 ยังช่วยลดอาการ PMS (อาการก่อนมีประจำเดือน) ได้ด้วย หมายความว่าวิตามิน B1 ส่งผลให้สุขภาพร่างกาย อารมณ์ และจิตใจดีขึ้นก่อนที่สาว ๆ จะมีรอบเดือนนั่นเองค่ะ (3-6)

วิตามิน B12 ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันการเป็นโรคโลหิตจาง
วิตามิน B12 ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันการเป็นโรคโลหิตจาง

นอกจากนี้ยังมีวิตามิน B อีกหลายชนิดที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายของคุณในช่วงที่มีประจำเดือน อาทิเช่น วิตามิน B12 มีหน้าที่ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงในระหว่างที่คุณสูญเสียเลือดจำนวนมาก ดังนั้นมันจึงป้องกันการเป็นโรคโลหิตจาง (6,9) หรือจะเป็นวิตามิน B6 ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการ PMS ก่อนมีประจำเดือน รวมถึงลดการปวดประจำเดือนได้ด้วย โดยเฉพาะเมื่อคุณทานวิตามิน B6 ควบคู่กับแมกนีเซียมยิ่งช่วยบรรเทาอาการได้ดีที่สุด (6-8)

1.3 โอเมก้า 3 (10,11)

น้ำมันปลาช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ดีกว่าการทานไอบูโพรเฟน
น้ำมันปลา บรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ได้ดีกว่าไอบูโพรเฟน

โอเมก้า 3 โดยเฉพาะจากน้ำมันปลาหรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ จะช่วยยับยั้งสาร Prostaglandins ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ จากการศึกษาผู้หญิงที่ทานโอเมก้า 3 เป็นประจำจะมีอาการปวดประจำเดือนน้อยกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ทานโอเมก้า 3 นอกจากนี้หากทานทั้งน้ำมันปลาและวิตามิน B12 คู่กันจะช่วยลดอาการปวดได้ดีกว่าด้วยนะคะ อีกทั้งมีการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าน้ำมันปลาอาจมีประสิทธิภาพช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ดีกว่าการทานไอบูโพรเฟน ยิ่งไปกว่านั้นโอเมก้า 3 ยังช่วยลดภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และอาการท้องอืดที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดประจำเดือนอีกด้วย

1.4 วิตามินดี (12-14)

วิตามิน D ช่วยลดปริมาณ Prostaglandins ที่ร่างกายผลิตขึ้น
วิตามิน D ช่วยลดปริมาณ Prostaglandins ที่ร่างกายผลิตขึ้น

ปกติวิตามิน D ก็มีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมอยู่แล้วค่ะ เพราะมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม อีกทั้งจากงานวิจัยก็พบว่าการทานวิตามิน D ในปริมาณมากพออาจช่วยลดอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงได้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าวิตามิน D จะช่วยลดปริมาณ Prostaglandins ที่ร่างกายผลิตขึ้นดังนั้นจึงสามารถลดอาการปวดและลดการอักเสบได้นั่นเองค่ะ

1.5 วิตามินอี (14,15)

วิตามินอี ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
วิตามินอี ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้

วิตามิน E มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องการทำงานของภูมิคุ้มกัน ปกป้องตับและเซลล์อื่น ๆ จากการทำลายของอนุมูลอิสระ อีกทั้งวิตามิน E ยังช่วยเพิ่มการผลิตเอ็นไซม์ 2 ชนิดที่ยับยั้งการเผาผลาญกรดอาราคิโดนิก ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อมีการไหลเวียนของเลือดที่มากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อเยื่อบุโพรงมดลูก โดยในการศึกษาหนึ่งได้มีการทดลองให้ผู้หญิงทานวิตามิน E ในปริมาณ 400 IU เป็นเวลา 5 วัน พบว่ามันช่วยลดอาการปวดท้องเมนส์ได้จริง

2. สมุนไพรที่ช่วยลดอาการปวดท้องเมนส์

ขิงมีประสิทธิภาพเท่ากับไอบูโพรเฟน
ขิงมีประสิทธิภาพเท่ากับไอบูโพรเฟน
  • ขิง : สามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้โดยการลดการอักเสบและลดการผลิต Prostaglandins ที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด จริง ๆ แล้วมีการศึกษาชิ้นหนึ่งได้ทดลองใช้ ขิง, วิตามิน E และ D พร้อมกัน พบว่าขิงสามารถช่วยลดความเจ็บปวดจากประจำเดือนได้ดีที่สุด และยังมีประสิทธิภาพเท่ากับไอบูโพรเฟนด้วยนะคะ (14)
  • เมล็ดยี่หร่า : มีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของอาการปวดท้องประจำเดือนได้ แต่ด้วยมีรสชาติที่ไม่พึงประสงค์จึงทำให้มันไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ หากมาในรูปแบบอาหารเสริมก็จะช่วยให้ทานง่ายมากยิ่งขึ้น (16)
  • สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ (พิโนจินอล) : พิโนจินอลอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย และจากการศึกษาพบว่าสารพิโนจินอลสามารถลดความเจ็บปวดต้องช่วงท้องแทนการใช้ยาแก้ปวดท้องเมนส์ได้อย่างมีนัยสำคัญด้วยนะคะ (17)
  • น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส : มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของโรคก่อนมีประจำเดือน (PMS) ทำให้สาว ๆ หงุดหงิดน้อยลง ลดอาการท้องอืด ช่วยในเรื่องภาวะซึมเศร้า ทั้งยังเป็นประโยชน์ในการต้านการอักเสบ (20)
  • ขมิ้นชัน : ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและป้องกันการบีบตัวของมดลูก ทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดน้อยลงได้ (21)

ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและป้องกันการบีบตัวของมดลูก
ช่วยป้องกันการบีบตัวของมดลูก

นอกจากนี้ก็ยังมีการศึกษาอีกมากมายเกี่ยวกับสมุนไพรจีนที่สามารถแก้ปวดประจำเดือนได้ อาทิเช่น ซัวกีจื้อ (ผลพุดซ้อน), ตังกุย, ไฉหู, ดอกโบตั๋นขาว, หมู่ตันผี หรือดอกคำฝอยเป็นต้น

3. รูปแบบของอาหารเสริมมีผลต่อการดูดซึม

รูปแบบของอาหารเสริมมีผลต่อการดูดซึม ซึ่งซอฟท์เจลจะดูดซึมได้ดีที่สุด
รูปแบบของอาหารเสริมมีผลต่อการดูดซึม ซึ่งซอฟท์เจลจะดูดซึมได้ดีที่สุด

ปกติแล้วรูปแบบของอาหารเสริมหลัก ๆ จะมีด้วยกัน 3 แบบคือ แบบยาเม็ด, แบบแคปซูล และแบบแคปซูลนิ่ม (ซอฟท์เจล) ซึ่งหากคุณเน้นการดูดซึมเป็นหลักเราขอแนะนำอาหารแบบซอฟท์เจลค่ะ เพราะมันจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดีที่สุด รองลงมาก็จะเป็นแบบแคปซูลทั่วไป และสุดท้ายก็คือแบบยาเม็ด แต่ทั้งนี้หากคุณต้องการอาหารเสริมที่เก็บได้นานและมีราคาไม่แพง เราขอแนะนำเป็นแบบยาเม็ดที่จะเก็บได้ยาวนานกว่าและมีราคาถูกที่สุด รองลงมาก็จะเป็นแบบแคปซูลและแบบซอฟท์เจลตามลำดับค่ะ

เราใช้เกณฑ์ในการเลือกสินค้าโดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมไปถึงยอดขายและรีวิวของผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนซื้อแนะนำในอ่านฉลากส่วนประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร

* เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน *

วิตามิน

Bewel Salmon Fish Oil - บีเวล น้ำมันปลาแซลมอน ผสมวิตามิน E
Bewel Salmon Fish Oil - บีเวล น้ำมันปลาแซลมอน ผสมวิตามิน E
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
VISTRA Magnesium Complex PLUS - วิสทร้า แมกนีเซียม ผสมวิตามิน B1, B6, B12
VISTRA Magnesium Complex PLUS - วิสทร้า แมกนีเซียม ผสมวิตามิน B1, B6, B12
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
Mega WeCare Evening Primrose Oil
Mega WeCare Evening Primrose Oil
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

สมุนไพร

ขมิ้นชันแคปซูล อ้วยอันโอสถ
ขมิ้นชันแคปซูล อ้วยอันโอสถ
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
HandyHerb - แฮนดี้เฮิร์บ ตังกุยสกัด
HandyHerb - แฮนดี้เฮิร์บ ตังกุยสกัด
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
Gingen น้ำขิงจินเจน ขิงผงสำเร็จรูป
Gingen น้ำขิงจินเจน ขิงผงสำเร็จรูป
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

อาหารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน 

1. ทานอาหารเช้าที่อุดมด้วยโปรตีนและไขมันดี

ทานโยเกิร์ตใส่เมล็ดเจีย กราโนล่า และผลไม้สด
ทานโยเกิร์ตใส่เมล็ดเจีย กราโนล่า และผลไม้สด
  • ทานเครื่องดื่มสมูทตี้ ที่ทำด้วยผงโปรตีนจากพืช 1 ช้อน และผักใบเขียวต่าง ๆ
  • ทานข้าวโอ๊ตกับถั่ว หรือเมล็ดธัญพืช 1 กำมือ
  • ทานสลัดผักกับไข่ลว ที่กราดด้วยน้ำมันมะกอก
  • ทานโยเกิร์ตใส่เมล็ดเจีย กราโนล่า และผลไม้สด
  • ทานขนมปังปิ้ง ที่เสิร์ฟพร้อมกับอะโวคาโดสไลซ์ ออนท็อปด้วยแซลมอนรมควัน

2. เพิ่มอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบ

ขิง สมุนไพรรสเผ็ดร้อน กระตุ้นให้เลือดไหลเวียน และลดอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณมดลูก
ขิงมีรสเผ็ดร้อน กระตุ้นให้เลือดไหลเวียน ลดอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณมดลูก
  • ขิง : คุณอาจจะทานเป็นชาขิง, น้ำขิง หรือทานอาหารคาวเป็นไก่ผัดขิงก็ได้ค่ะ เพราะขิงที่มีรสเผ็ดร้อนจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี ยิ่งทานแบบน้ำขิงร้อน ๆ ยิ่งช่วยลดอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณมดลูกได้มากกว่าเดิม (14)
  • ขมิ้น : การทานขมิ้นจะช่วยให้กล้ามเนื้อในมดลูกคลายตัว แนะนำให้ทานพวกอาหารอินเดียที่มีเครื่องเทศเยอะ ๆ หรือจะเป็นอาหารไทยอย่างไก่ต้มขมิ้นหรือไก่กอและก็ได้ค่ะ นอกจากนี้คุณอาจจะทานเป็นอาหารเสริมขมิ้นชันสกัดก็ได้เช่นกันค่ะ
  • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์: การทานน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 1 ช้อนโต๊ะในขณะที่ท้องว่างจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร บรรเทาอาการปวดท้อง และบรรเทาอาการท้องอืดหรืออาการเสียดท้องได้ ให้คุณลองเปลี่ยนจากน้ำสลัดครีมมาเป็นน้ำสลัดน้ำมันมะกอกแทน แต่การทานน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์เพียว ๆ จะต้องเลือกชนิด Extra Virgin Olive Oil หรือ Virgin Olive Oil เท่านั้นนะคะ
  • กรดไขมันโอเมก้า 3 : ในโอเมก้า 3 มีฤทธิ์ต้านการอักเสบแบบธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ แนะนำให้ทานอาหารพวกปลาแซลมอน, ปลาเทราท์, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่า, หอยนางรม, หอยแมลงภู่ หรือปลาทูก็ได้ค่ะ (10,11)

3. งด/ลดอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบ

งดอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารขยะ อาหารฟาสต์ฟู้ด และอาหารที่มีน้ำตาลสูง
งดอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารขยะ และอาหารที่มีน้ำตาลสูง
  • งดอาหารแปรรูป, อาหารรสเค็ม, อาหารทอด, อาหารขยะ (Junk Food), อาหารที่มีไขมันทรานส์อย่างน้ำมันพืชหรือมาการีน
  • ลดการบริโภคเนื้อแดง และหันไปเน้นโปรตีนจากพืชมากกว่าโปรตีนจากสัตว์
  • ลดการดื่มคาเฟอีนอย่างกาแฟ และเปลี่ยนไปดื่มชาเขียว ชาคาโมมายล์ หรือชาสมุนไพรแทนดีกว่าค่ะ
  • เปลี่ยนจากข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอร์รี่
  • ลดน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ รวมถึงขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารอื่น ๆ ที่มีรสหวานเกินไป

วิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

ถุงน้ำร้อนหรือกระเป๋าน้ำร้อน
ถุงน้ำร้อนหรือกระเป๋าน้ำร้อน

1. ประคบด้วยถุงน้ำร้อน

ในบางครั้งการนอนบนเตียงนิ่ง ๆ พร้อมกับถุงประคบร้อนก็สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและยังเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวได้ กระเป๋าน้ำร้อนถือเป็นไอเทมที่สาว ๆ หลายคนขาดไม่ได้ในช่วงที่มีประจำเดือนจริง ๆ ค่ะ

2. ใช้น้ำมันละหุ่ง

ทาน้ำมันละหุ่งลงบนหน้าท้องที่คุณรู้สึกว่าเจ็บปวด จากนั้นก็นวดวนอย่างเบามือเล็กน้อย ปล่อยทิ้งไว้ 30-45 นาที ตัวน้ำมันจะซึมผ่านลงไปในผิวหนัง ช่วยลดการอักเสบ ลดอาการบวม และบรรเทาอาการปวดได้ แนะนำให้ทาเมื่อรู้สึกปวดท้องเกร็ง ๆ บีบ ๆ หรือหากอยากเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นคุณอาจจะแรปหน้าท้องด้วยพลาสติกด้วยก็ได้ค่ะ หากคุณไม่มีน้ำมันละหุ่งอาจใช้เป็นน้ำหอมระเหยอื่น ๆ อย่าง น้ำมันลาเวนเดอร์, น้ำมันสะระแหน่, น้ำมันดอกกุหลาบ หรือน้ำมันเม็ดยี่หร่าแทนได้ค่ะ (18)

3. การฝังเข็ม/กดจุด

ศาสตร์แพทย์ของจีนเป็นที่ขึ้นชื่อเลื่องลือไปทั่วโลกเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยหลั่งเอ็นดอร์ฟินออกมาทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย ซึ่งการฝังเข็มรักษาอาการปวดประจำเดือนก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยแพทย์จะใช้เข็มเล็ก ๆ ปักลงไปตามจุดรับสัญญาณประสาท เช่นตรงแขน ขา หรือท้องน้อย เพื่อบรรเทาอาการปวดไม่ให้รุนแรงกว่าเดิม แนะนำให้ฝังเข็มทุกสัปดาห์ประมาณนาน 6 สัปดาห์ และจากนั้นจึงค่อยลดการรักษาเหลือเดือนละ 1-2 ครั้ง  (19)


References :

เช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคม
  1. Magnesium in the gynecological practice: a literature review
  2. [Magnesium–a new therapeutic alternative in primary dysmenorrhea]
  3. The Effect of Micronutrients on Pain Management of Primary Dysmenorrhea: a Systematic Review and Meta‐Analysis
  4. Curative treatment of primary (spasmodic) dysmenorrhoea
  5. The Effects of Vitamin B1 on Ameliorating the Premenstrual Syndrome Symptoms
  6. Dietary B vitamin intake and incident premenstrual syndrome
  7. Evaluating the effect of magnesium and magnesium plus vitamin B6 supplement on the severity of premenstrual syndrome
  8. Pyridoxine (vitamin B6) and the premenstrual syndrome: a randomized crossover trial
  9. Vitamin B12 deficiency anemia
  10. Comparison of the effect of fish oil and ibuprofen on treatment of severe pain in primary dysmenorrhea
  11. Effect of omega-3 fatty acids on intensity of primary dysmenorrhea
  12. Vitamin D supplementation for primary dysmenorrhea: a double-blind, randomized, placebo-controlled trial
  13. Role of vitamin D and calcium in the relief of primary dysmenorrhea: a systematic review
  14. Comparison of the effect of vitamin E, vitamin D and ginger on the severity of primary dysmenorrhea: a single-blind clinical trial
  15. Evaluation of the effect of vitamin E on pelvic pain reduction in women suffering from primary dysmenorrhea
  16. Oral fennel (Foeniculum vulgare) drop effect on primary dysmenorrhea: Effectiveness of herbal drug
  17. French maritime pine bark extract significantly lowers the requirement for analgesic medication in dysmenorrhea: a multicenter, randomized, double-blind, placebo-controlled study
  18. Aromatherapy for Managing Pain in Primary Dysmenorrhea: A Systematic Review of Randomized Placebo-Controlled Trials
  19. The efficacy and safety of acupuncture in women with primary dysmenorrhea
  20. Evening Primrose (Oenothera biennis) Oil in Management of Female Ailments
  21. Randomized, double-blind, placebo-controlled clinical trial studying the effects of Turmeric in combination with mefenamic acid in patients with primary dysmenorrhoea
Previous Post

รีวิว พัดลมไร้ใบพัด ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

Next Post

แผ่นตรวจไข่ตก ใช้งานยังไง?

Mine Melody

Mine Melody

สวัสดีค่ะทุกคนนน ผู้เขียนขออนุญาตใช้นามแฝงว่า " Mine Melody" นะคะ แม้ว่าชื่อนี้จะไม่ใช่ชื่อจริง ๆ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน :)

ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ดังนั้นพวกความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือด้าน IT ต่าง ๆ จะเป็นสิ่งที่ผู้เขียนถนัดมาก และก็ชอบอธิบายให้เป็นภาษาที่เข้าง่ายด้วยค่ะ อีกทั้งยังชอบแนะนำความรู้ใหม่ ๆ หรืออะไรก็ตามที่กำลังอยู่ในเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็น สกินแคร์, เครื่องสำอาง, แฟชั่น, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตลอดจนข่าวบันเทิงหรือแม้แต่ข่าวสารที่เกี่ยวรัฐบาล ผู้เขียนก็ชอบเขียนเหมือนกันค่ะ ซึ่งเนื้อหาในทุก ๆ บทความนั้น ขอให้เพื่อน ๆ มั่นใจได้เลยว่ามีการอ้างอิงจาก ข้อมูล งานวิจัย และเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถืออย่างแน่นอนจ้า!!

ขอให้เพื่อน ๆ สนุกไปกับการอ่านบทความจากนักเขียนที่ชื่อว่า " Mine Melody" นะคะ หากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัย หรืออยากแชร์ไอเดียใด ๆ ร่วมกับนักเขียน สามารถติดต่อผ่าน E-mail เว็บไซต์ของเราได้เลยค่ะ <3

Next Post
รีวิว แผ่นตรวจไข่ตก แบบไหนดีที่สุด

แผ่นตรวจไข่ตก ใช้งานยังไง?

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

รีวิว น้ำมันตับปลา ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2021
สุขภาพทั่วไป

รีวิว น้ำมันตับปลา ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

October 1, 2022
รีวิว สมุนไพรดีท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
ควบคุมน้ำหนัก

รีวิว สมุนไพรดีท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

March 8, 2023
อาหารเสริมแคลเซียม
อาหารเสริม

อาหารเสริมแคลเซียม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

March 3, 2023
รีวิว โปรตีนบาร์ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
สุขภาพทั่วไป

รีวิว โปรตีนบาร์ ยี่ห้อไหนดี อร่อยที่สุด ปี 2023

March 26, 2023
รีวิว แคลเซียมสำหรับผู้สูงอายุ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
อาหารเสริม

แคลเซียมสำหรับผู้สูงอายุ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

March 8, 2023
รีวิว อาหารเสริมโปรไบโอติกส์ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
อาหารเสริม

อาหารเสริมโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ปรับสมดุลลำไส้

March 3, 2023

Recent Posts

  • สมาร์ทวอทช์ Smartwatches ระดับพรีเมียม ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023
  • 8 อายไลเนอร์สีขาว ยี่ห้อไหนดี เขียนง่าย ติดทน ปี 2023
  • 10 แท็บเล็ต ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยม สเปคแรง ปี 2023
  • สมุดเฟรนชิพ แบบไหนดี ทั้งแบบเท่ ๆ และน่ารัก ดีไซน์สวย
  • รีวิว มือถือพับได้ รุ่นไหนดี ปี 2023 Samsung, OPPO, HUAWEI

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ

© 2022 Best Review Asia